วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(17มี.ค.): ฟันธงทางเทคนิคเชื่อถือได้แค่ไหน คำตอบคือรอบล่าสุดผมแนะนำให้ขายทำกำไรสำหรับคนเล่นรอบสั้นเมื่อวันที่ 9 ก่อนเกิดพิบัติภัยญี่ปุ่น


วางแผงแล้วจ้า-หนังสือคู่มือหุ้น2554ปีกระต่ายทอง วางแผงที่SE-EDแล้วครับ วันนี้เดินตามแผงวางแล้วชัวร์ๆหาซื้อได้ หรือมางานอบรมสอนมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย+สอนมือเก่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้น รุ่นที่ 44 วันอาทิตย์ 20 มีนาคมนี้ อภินันทนาการฟรีสำหรับท่านที่มางานครับ แต่ตอนนี้รับได้ไม่เกิน10ท่าน โทรจองที่นั่ง 02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้ส อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **


I.หุ้นไทยถึงแนวรับ หุ้นโลกทั้งอเมริกา ญี่ปุ่นหยุดแพนิก แต่ซึมๆ ไทยได้อานิสงส์ทางบวกมากกว่าผลลบ

-เมื่อวานก่อนหุ้นไทยร่วงลงไปเขตแนวรับที่ประเมินไว้996จุดแล้วไม่หลุด จึงคาดว่าหากวันนี้ยืนเหนือดังกล่าวนี้ได้ ก็มีโอกาสจะฟื้นไข้ โดยมีแนวต้านแรก1010-1016 ดีๆอาจขึ้นไป1020จุด แนวรับ1000จุด+/-(1000-996จุด)

-การแพร่กระจายของกัมมันตรังสีรั่วไหลของญี่ปุ่น มีแนวโน้มควบคุมไม่ได้และอาจกลายเป็นวิกฤติ ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรอบใหม่ ทำให้หุ้นญี่ปุ่นลงในวันนี้ แต่ไม่แพนิกแรงแล้ว ลบราว-2% โดยยังทำการเปิดทำการปกติ แม้ว่านักลงทุนต่างชาติส่วนหนึ่งอยากให้หยุดทำการจนกว่าเหตุการณ์จะกลับมาปกติก็ตาม

–โบรกเกอร์ต่างชาติคาดญี่ปุ่นเสียหายระหว่าง10-16ล้านล้านเยน หรือ 1-3% ของจีดีพี และเศรษฐกิจจะเติบโตติดลบในครึ่งแรกของปี11 ส่วนไทยประเมินว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบเล็กน้อย คือจีดีพีติดลบ-0.1%

–ค่าเงินเยนทำสถิติแข็งค่าสุดเทียบดอลล์วานนี้(76.41) ส่งผลรมว.คลังจี-7เรียกประชุมคืนนี คาดเข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือญี่ปุ่น

–สถานะการณ์รุนแรงในบาห์เรน และรายงานปริมาณน้ำมันสำรองเบนซินรายสัปดาห์ที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นวานนี้

–สภาฯอาจเลื่อนลงวันมติไม่ไว้วางใจเป็น 22 มีค.จากเดิม 19 มีค.ส่วนเอแบคโพลล์ พบว่าความนิยม ศรัทธากับตำแหน่งนายกฯให้นายอภิสิทธิ์ 54% มิ่งขวัญ 30.9% แต่วันนี้จะร้อนแรงขึ้นจากการอภิปรายเรื่องการปราบปรามผู้ประท้วงเมื่อปีกลาย(แต่คงไม่มีผลอะไรต่อตลาดหุ้น ซึ่งจะอิงปัจจัยหุ้นเอเชียเป็นหลัก)


-คาดสหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นบวก จึงคาดว่าการลงมารอบนี้ของดาวโจนส์ไม่น่าลึกกว่าsupport lineบริเวณ11400+/-(11330-11465จุด) แล้วฟื้นตัว ล่าสุดดาวโจนส์ลงมาที่11555จุด จึงถือว่ามีความเสี่ยงของขาลงน้อยมากแล้ว

-การวิตกต่อปัญหาสุขภาพ คาดว่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มอาหารส่งออกอิงจากผู้คนแห่ซื้อยาเม็ดไอโอดีนเพื่อป้องกันมะเร็งจากกัมมันตรังสี

II.หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกและผลลบ

1. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางบวก คือกลุ่มที่คาดว่ามีผลกระทบเชิงบวกจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น:

-โรงกลั่น PTTAR(TP43) TOP(TP87) IRPC ESSO

-ถ่านหิน BANPU LANNA

-อาหาร CPF GFPT(คาดยอดขายปีนี้โต10%มาริ์จิ้นเท่าเดิม15%) TUF

-บูรณะซ่อมแซม MCS SCC SCCC TTCL(อาจได้งานซ่อมแซมในญี่ปุ่น) SMT(คาดกำไรปี54โต35%)

2.กลุ่มที่ได้รับผลลบคือกลุ่ม กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่งทางเรือ ยานยนต์(กระบวนการผลิตอาจล่าช้า)THAI AOT CENTEL MINT TTA PSL RCL(ญี่ปุ่นปิดท่าเรือ) STA(ญี่ปุ่นผิดรับซื้อยางพารา ส่งผลราคายางร่วงแรง) STANLY SAT

3. Oil Sensitive: คาดราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากการปิดโรงกลั่นในญี่ปุ่น4แห่ง เป็นผลลบต่อPTTEP เป็นผลดีต่อ TASCO ITD

สรุป-โดยเมื่อพิจารณาผลดีผลเสียแล้ว ก็ยังเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า เนื่องจากหุ้นตัวใหญ่ได้ผลบวกมากกว่า ส่วนหุ้นที่ได้ผลลบนั้นเป็นหุ้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาร์เก็ตแค็ปใหญ่เท่ากลุ่มที่ได้ผลบวก

III.แนวโน้มหุ้นไทยใน2มิติ โดยเรายังให้น้ำหนักว่ารับeffectจากญี่ปุ่นช่วงสั้น แล้วฟื้นขึ้น




ภาพแนวโน้มมองเป็น2มิติดังนี้

*กรณีที่1-เป็นเหมือนที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ปรับลดความร้อนแรงลงทางเทคนิค ผสมกับลงจากการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่น

หากยืนเหนือด่าน1000+/-(995-1000) หรือไม่ทำจุดต่ำลึกกว่าโลว์เก่า977(เช่นทำจุดต่ำแถวๆ996-980)ก็พร้อมขึ้นในระยะต่อไป

ด่านแนวต้านแรก1010-1016 แนวต้านdowntrend~1020-1025 หากผ่านก็จะไปพีคเก่า1056และคาดว่าจะขึ้นไปพีคเขต1100-1032ราวต้นเดือนเมษายน

ซึ่งวานก่อนนี้ยืนเหนือแนวรับ996จุดได้ คาดว่าวันนี้หากยืนเหนือแนวรับ996-1000จุดได้ ก็มีโอกาสเด้งขึ้นไปด่านแรก1010-1016 ถัดไปเขต1022-1025จุด หากลงมาวันนี้ยืนเขตแนวรับ1000+/-(996-1000จุด) ก็เป็นไปตามกรณีที่1

*กรณีที่2-หากมองว่าตลาดสัปดาห์ก่อนไปชนด่าน1025มีนัยยะสำคัญ คือเป็นเส้นกดหัว(Downtrendline) แล้วจะกดดันให้ตลาดแกว่งตัวลง(sideway down) เช่นวานก่อนนี้ขึ้นไปใกล้เขต1022-1025แล้วร่วงลง หากวันนี้หลุดเขต996 ลงไป ก็อาจลงไปต่อด่าน977-982หรือถัดไปlowเก่า975 หรือลงนิวโลว์925จุด (ซึ่งกรณีที่2นี้เป็นภาพเชิงลบ ต่างจากกรณีที่1)

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

2.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด หากลงมารอบนี้ทำฐานสูงขึ้น เช่นมีlowแค่แถว996 คือlowวานก่อนนี้ หรือหากลงวันนี้ไม่ทำจุดต่ำกว่า996ก็แสดงว่าทำฐานสูงขึ้น

หรือแม้แต่วันนี้ทำlowลึกกว่า996แล้วลงไปlowแถว980แต่ไม่ย้อนลงไปลึกกว่าlowเก่า977ก็ยังมองว่า ทำฐานยกสูงขึ้น

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่าน1025+/- และคาดการณ์ว่าจะผ่านขึ้นไปพีคเดิมในเป้าหมายถัดไป 1056 จากนั่นก็ควรคาดการณ์ว่าจะไปทำนิวไฮจริงจัง ที่มีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

1.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว20วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นอย่างน้อยก็อีกครึ่งเดือนนับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ7วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี

-MODIFIED STOCHASTICS เป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในสัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

ล่าสุดเมื่อวาน%Kอยู่ที่70% ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ เพราะยังต่ำกว่า%D อยู่ที่77% อย่างไรก็ดีสัญญาณตัวนี้เป็นสัญญาณระยะสั้นมาก หากSETลงมาเขต 1000+/-(996-1000)แล้วไม่หลุดต่ำกว่านี้ หรือฟื้นขึ้นไปปิดซักเขต1010-1020ได้ในช่วงนี้ เครื่องมือตัวนี้ก็อาจกลับมาเป็นบวก คือ%kตัดผ่าน%dขึ้นไปอีกครั้ง

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ แต่ระยะสั้นเป็นการปรับลดoverboughtลงมา (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) หากยืนเหนือด่าน1000+/-ได้(996-1000) หรือทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ977จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) โดยอาจเข้าซื้อกลุ่มที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด)

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำในสัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อ ยกเว้นเห็นหลุดต่ำกว่าเขต995จุดลงไป ค่อยขายเอาทุนคืน ไปรอช้อนซื้ออาจเป็นเขต977-980จุด แต่หากยืนได้ก็เป็นจุดซื้อเพิ่ม โดยอิงหุ้นที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น



IV.SET50 ฐานรับอยู่หนใด? และเป้าหมายฟื้นไข้


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญุ่690+/-( 688-692จุด) หากวันนี้ยืนได้อีกวันก็น่าจะหยุดลง และฟื้นตัวขึ้นไป แนวต้านแรก700-706 ถัดไป 709-713 แนวต้านdowntrendหรือแนวต้านหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

อย่างไรก็ตามหากหลุดเขต688-692จะเสี่ยงลงไปเขต677-672จุด

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อสัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-692 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แต่หากหลุดให้ไปรอช้อนที่ฐานใหญ่หรือ670-675 และขึ้นแนวต้าน706-713ขายทำกำไร

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราว24มีนาคม หรือ4เมษายน อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690(แต่หากหลุด688ลงไปต้องไปรอด่านฐานใหญ่670-677จุด)


****

" สอนมือใหม่ เล่นหุ้นให้รวย+สอนมือเก่าพลิกทุกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้น "รุ่นที่ 44

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
-หาจังหวะซื้อขายแม่นยำด้วยกราฟเบื้องต้นอย่างง่าย
-สอนพลิกทุกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นได้อย่างไร(ผลกระทบจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ภัยพิบัติต่างๆ การจลาจล ประท้วง ปฏิวัติรัฐประหาร ยุบสภา ลาออก สงครามที่มีผลต่อตลาด และพลิกเป็นโอกาสรวยหุ้น)

เหมาะกับ

*มือใหม่หัดเล่นหุ้น มือกลางเก่ากลางใหม่ที่ไม่รู้หลักการที่ถูกต้อง
* ผู้ที่อยากรวยด้วยหุ้น
* ผู้ต้องการหารายได้เพิ่ม
* วัยเยาวชนจนถึงวัยเกษียณ
* นักลงทุนที่ต้องการความสำเร็จ
*ปิดเทอมนี้พาลูกมาเรียนเล่นหุ้นให้เป็นก่อนใคร

สอนโดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ วันอาทิตย์ที่ 20มีค54
จองที่นั่ง โทร.02-927-5800 โทรมือถือ087-7174939/ 087-7178979



********

หนังสือออกใหม่คู่มือหุ้นไทยปีกระต่ายทอง2554 วางแผงแล้วตั้งแต่ 15มีนาคมนี้เป็นต้นไป ที่ร้านหนังสือSE-EDโดยณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ อ่านก่อนรวยกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น