วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(9มิ.ย.):Bear Market strategy แผนบันได 3ขั้นพลิกวิกฤตเลือกตั้งอย่างไรไม่ให้เสียหายขาดทุนหนัก และแก้พอร์ตให้กลับมามีกำไร หรือพลิกวิกตทำกำ


เปิดจองที่นั่งแล้ว อบรมเชิงปฏิบัติการฟันธงหุ้นด้วยกราฟสำหรับมือใหม่รุ่นแรก 12 มิ.ย. รู้งี้..รวย ไม่รู้ซวย หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับมือใหม่...หัดฟันธงหุ้น,tfex,ทองคำด้วยกราฟ เริ่มจากปูพื้นฐานไปจนใช้งานได้ เรียนให้รู้ดูให้เป็นเล่นแล้วรวย ไม่รู้ซวยติดหุ้น ขายหมูทั้งชาติ

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2554 สอบถามจองที่นั่ง(เหลือ 5 ที่นั่งเท่านั้นในรอบนี้) โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **พิเศษสุด!สมัครสมาชิกช่วงนี้แล้ว จะได้สิทธิ์เข้าอบรมหุ้นกับอ.ณัฐวุฒิฟรีตลอดอายุสมาชิก


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
สำหรับหุ้นเด่นรายตัว แนะนำท่านสมาชิกอ่านที่www.tintancorp.comครับ

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

**พิเศษสุด!สมัครสมาชิกช่วงนี้แล้ว จะได้สิทธิ์เข้าอบรมหุ้นกับอ.ณัฐวุฒิฟรีตลอดอายุสมาชิก**


1.ฝรั่งเทหนักกังวลเพื่อไทยชนะแล้วการเมืองไม่นิ่ง กับบันได3ขั้นตลาดวิกฤต

เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติเทขายหนักสุทธิ6,311ล้านบาท ทำให้ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ขายสุทธิไปแล้ว13,900ล้านบาท ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยร่วงลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกในเวลานี้

มีรายงานว่าโบรกเกอร์ฝรั่งที่มีชื่อเสียงคือโกลแมนซาคส์ และเครดิตสวิสได้ปรับคำแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทย เพราะกังวลสถานการณ์การเมืองอาจปั่นป่วน หลังจากคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยทำท่าว่าจะชนะการเลือกตั้ง

ทั้งนี้บล.เครดิตสวิส (CS) ได้ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจาก Overweight(สูงกว่าเกณฑ์)ลงสู่ Market weight(พอกับตลาดหุ้นอื่น) เนื่องจากความเสี่ยงจากผลการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามา

CS แนะนำลดการลงทุนหุ้นกลุ่ม ธนาคาร, อสังหาฯ, ท่องเที่ยว ในไทย และหันไปถือหุ้นกลุ่ม สาธารณูปโภค, SCC , CPALL , ปิโตรเคมี และพลังงานแทน เนื่องจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีความอ่อนไหวต่อประเด็นทางการเมืองน้อยกว่า

CS รายงานจากผลการสำรวจในช่วงเดือนที่ผ่านมา ความนิยมในพรรคเพื่อไทย มีมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ คาดผลการเลือกตั้งมีความเป็นไปได้ 3 รูปแบบคือ

1)เพื่อไทยชนะ และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
2)เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แต่ปชป.สามารถรวบรวมเสียงพรรคร่วม และจัดตั้งรัฐบาลแทน
3)ปชป. ชนะการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาล

CS มี ความเห็นว่าเหตุการณ์ทางการเมืองได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและ ตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมาก คาดความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของ GDP ลดลง 1-2%YoY

CS มีความเห็นว่านโยบายการบริหารเศรษฐกิจของ 2 พรรคใหญ่ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าหากเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และเป็นรัฐบาล ตลาดหุ้นจะตอบสนองในเชิงลบ

CS มีความเห็นว่าถ้าหากประชาธิปัตย์ชนะ BBL จะ ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่สูง ส่งเสริมการขยายตัวของยอดสินเชื่อ และมีความเห็นว่าการลงทุนใน IVL ค่อนข้างปลอดภัย เนื่องจากมีโรงงานผลิตอยู่ทั่วโลก และเป็นผู้ผลิต PET ที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ความเห็น:ก็เป็นการขายปรับพอร์ตของต่างชาติเพราะเขาวิตกการเมืองนะครับ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้โบรกเกอร์ฝรั่งอีกรายคือเครดิตลียองเนส์(CLSA)ให้ความเห็นว่า น่าจะเกิดElection Rallyหลังเลือกตั้ง คล้ายตอนเลือกตั้งปี2535และปี2544คือหุ้นขึ้นต่อเนื่อง 2ปี ขึ้นไปกว่า 3เท่าตัว แต่CLSAได้ตั้งความหวังว่า หากปชป.ได้จัดตั้งรัฐบาลจะเป็นผลดีกว่า

ชาร์ตที่1:ผมคิดว่าตลาดหุ้นช่วงนี้จะเข้ารูปแบบตลาดหุ้นยามวิกฤตที่จะแบ่งเป็น3ช่วง เหมือนกับเจอวิกฤตอื่นๆนะครับ คือ

ช่วงที่1(panic sell):เป็นช่วงที่นักลงทุนวิตกกังวลในทางลบต่อเหตุการณ์ที่คลุมเครือไม่ชัดเจน และประเมินในทางร้ายก็จะเทขายลดความเสี่ยง และมีแรงขายpanic sellด้วยความขวัญเสียตามมาจึงลงแรง

ช่วงที่ 2(wait&see):เป็นช่วงใกล้เลือกตั้งไปถึงวันเลือกตั้ง แรงขายก็หมดหรือเบาบางลงมาก แต่ฝ่ายซื้อก็ไม่ซื้อแบบฮึกเหิมอยากรอดูผลชัดเจนก่อน ก็จะทำให้ตลาดหุ้นซึม มูลค่าการซื้อขายจะหดตัวลงมาก แกว่งแคบๆขึ้นก็ไม่ไหล ลงก็ไม่ลึก จะเป็นช่วงที่คนติดหุ้นไว้สูงเหนื่อยหน่ายใจและอาจตัดขายขาดทุน

ช่วงที่3(ขึ่นและทำnew high):โดยทั่วไปก็คือหลังจบเหตุการณ์หรือเคลียร์แล้ว คราวนี้ก็คือพอเลือกตั้งเสร็จ ไม่ว่าออกหัวหรือก้อย เพื่อไทยหรือปชป.จะมา ตลาดหุ้นขึ่นทึกกรณี เพราะถือว่าเกิดความัดเจนแล้ว(ถามว่าแล้วหากเพื่อไทยชนะแล้วตั้งรัฐบาลได้หรือวุ่นวาย หุ้นตกไหม คำตอบคือไม่ตก เพราะว่าตลาดลงมาซึมซับข่าวร้ายไปหมดแล้วในช่วงที่1)
เหตุการณ์ทำนองนี้ก็คล้ายๆกับข่าวร้ายอื่นๆคือประท้วง,จลาจล,สงครามฯลฯครับ คือช่วงแรกpanic sellเพราะกังวลประเมินทางลบ จากนั้นช่วงที่2ก็ซึมกระทือรอข่าว และพอข่าวชัดเจนไม่ว่าออกหัวออกก้อยก็จะชึ้นหมด และไม่ได้ขึ้นเปล่าๆแต่จะขึ้นทำnew highด้วยครับ ผมว่าเหตุการณ์ล่าสุดก็จะเป็นไปตามpatternนี้แหละครับ
สรุป-ตอนนี้น่าจะอยู่ปลายๆช่วงที่1ครับ เป้าหมายpanic sellก็แถวๆ1000จุดต้นๆ แย่กว่านี้ก็ไม่เกิน980จุด จากนั้นคงเริ่มเข้าช่วงสองคือซึมไปถึงวีนเลือกตั้ง หรือที่ผมเคยวัดTime Zoneเอาไว้คือไม่24มิถุนายน ก็8กรกฎาคม แล้วเข้าสู่ช่วงที่3ครับ
หากจะช้อนซื้อก็รอช่วงที่2ตอนมันซึมๆอาจจะรอไปถึง24มิ.ย.หรือเลือกตั้งก็ได้ หรือใครอยากเอาชัวร์ก็รอเลือกตั้งเสร็จค่อยตามน้ำว่ามันจะเป็นอย่างทาผมมองไว้ไหมก็ได้ หรือใครติดหุ้นหากอยากขายก็ไปรอช่วงที่3โน่นเลยก็ได้ครับ

1.สรุปแนวโน้มตลาด เป้าตกอาจเป็น1000+/-หรือแย่สุด 980+/-

ชาร์ตที่2:เป็นภาพของโครงสร้างตลาดรอบล่าสุดนี้ วัดจากพีค1113ในวันที่21เม.ย. และbottom937เมื่อ11ก.พ. เมื่อวานก่อนนี้SET ได้ลงมาหลุดเขตแนวรับเขต1ใน3ของโครงสร้างนี้ (หากตัวเลขกลมๆคือ1046จุด) แล้วตามมาด้วยการร่วงแรง

แนวโน้มจากนี้ก็มีอยู่ 2แบบครับ

1.แบบดี ตกมาแค้เขต2ใน3 fibonacci retracement เขต1005-995แล้วฟื้นขึ้นไปตั้งแต่น้อยสุด1025 กลางๆ1050ดีสุดไม่เกิน1070-1075แล้วลง

2.แบบแย่ลงหลุด2ใน3เขต995-1005แล้วลงต่อในคลื่นcเหมือนที่เคยประเมินไว้เดิม

ชาร์ตที่3นี้ก็คือหากลงมาแล้วหลุดdowntrend channel supportเขต1020จุด+/-ลงไปก็จะทิ้งดิ่งลงไปสู่คลื่นcแบบที่เคยประเมินไว้ เป้าหมายลงไปอาจเป็นเขต2ใน3ของโครงสร้างนี้คือเขต995-1005จุด แต่ไม่น่าลึกไปกว่าเขต980+/-(ซึ่งเป็นฐานของคลื่นที่2ของรอบที่ผ่านมานี้ ตามหลักการว่าคลื่นCจะไม่ย้อนลึกกว่าคลื่น2)

SET50ควรเทรดอย่างไร?


ส่วนSET50 แนวโน้มแบบเดียวกับSETคือ

1.แนวโน้มทางแย่น้อย ลงมาแค่700+/- หรือ2ใน3 เขต689-696แล้วฟื้นขึ้นไปด่านแรก730 กลางๆ744ไม่เกิน760แล้วตก หรือซึม

2.ลงมาแล้วหลุดเขต1ใน3เขต696-690 แล้วลงขาcแต่ไม่ลึกกว่า665

สำหรับวันนี้มีแนวรับ700ถัดไป696-689ต้าน714ถัดไป724


1.หากติดสูงและไม่ได้ขาย ก็อาจดูว่ายืนเหนือเขต700+/-หรืออย่างแย่696-689ได้ไหม หากยืนได้ก็รอฟื้นไปขายเขต714หรือ 724หรือ730-740กรณีดีสุดไม่เกิน760

2.หากติดสูง อยากแก้ไขพอร์ต ก็รอดูหากยืนเหนือเขต700-690ได้อาจช้อนซื้อ แล้วไปรอขายออกที่แนวต้านต่างๆ อาจเป็น714-724หรือ730-740ไม่เกิน760

3.แต่หากลงหลุดเขตลึกๆกว่า690ก็ยังเล่นตามน้ำขาลง เพราะจะร่วงต่อไปในคลื่นc เป้าหมายลงจะไม่ลึกกว่า665

***********
เปิดจองที่นั่งแล้ว อบรมเชิงปฏิบัติการฟันธงหุ้นด้วยกราฟสำหรับมือใหม่รุ่นแรก 12 มิ.ย. รู้งี้..รวย ไม่รู้ซวย



(หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับมือใหม่...หัดฟันธงหุ้น,tfex,ทองคำด้วยกราฟ เริ่มจากปูพื้นฐานไปจนใช้งานได้ เรียนให้รู้ดูให้เป็นเล่นแล้วรวย ไม่รู้ซวยติดหุ้น ขายหมูทั้งชาติ)

กำหนดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร อ่านขาดตลาดหุ้นอย่างแม่นยำ ด้วยกราฟเทคนิคขั้นพื้นฐาน สำหรับมือใหม่ ตอน รู้งี้…รวยแล้ว

อาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2554 เวลา 08.30-17.30น.

08.30-09.00 น. ลงทะเบียนเรียน

09.00-10.30 น. รู้จักเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเรื่องแนวโน้ม ( แนวโน้มขาขึ้น , แนวโน้มขาลง, แนวโน้มซึมตัว )
เพื่อรู้หัวใจหลักของการวิเคราะห์ทางเทคนิค จะได้รู้ว่าหุ้นกำลังจะขึ้นหรือจะตก หรือ
ทรงๆ พร้อมกับกลยุทธ์ลงทุน หรือเก็งกำไรที่สอดคล้องกับแนวโน้ม รู้แล้วทำรวย รู้แล้วฝืนซวย
-รู้จักฝึกปฏิบัติการใช้เส้นแนวโน้ม (trend line) เพื่อหาแนวโน้มของหุ้น

10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง

10.45-12.30 น. รู้จักเครื่องมือเทคนิคอย่างง่ายที่ให้ผลแม่นยำในการลงทุน
-parabolic เครื่องมือที่บอกสัญญาณเข้าซื้อหุ้น , ให้ถือครองหุ้น และให้ขายทำกำไร
หรือขายเอาทุน เหมาะกับผู้ลงทุนหรือเก็งกำไรรอบประมาณ 1 เดือน
-modify stochastics เครื่องมือที่บอกสัญญาณซื้อ-ขาย, ระยะเวลาถือครอง
ไม่เกิน1เดือน และเป็นเครื่องมือเตือนว่าแมงเม่ากำลังบินเข้ากองไฟ (over heat) หรือกำลังตกหนักจนใกล้ลงจบ หากดูไม่เป็นจะทำให้ขายหมู (oversold)
-macd เครื่องมือใช้ประกอบการซื้อขายหุ้นสำหรับท่านที่ชอบลงทุนระยะกลางหรือลงทุนยาวๆกำไรสุดคุ้ม
-RSI เครื่องมือจับผิดเจ้ามือหุ้น เพื่อดูว่าเวลาหุ้นขึ้นหรือตกนั้น ขึ้นจริงๆหรือเจ้ามือกำลังลากขึ้นไปเชือด หรือตอนตกเป็นการทุบหุ้นเพื่อเอาของ
-bolinger band เครื่องมือดูกรอบการแกว่งตัวของหุ้น ขึ้นไปเท่าไหร่เรียกว่า
ร้อนแรงเกินไป ลงมาขนาดไหนเรียกว่าตกหนักเกินเหตุ พร้อมสัญญาณซื้อ-ขายที่แม่นยำ
-DI+/- เครื่องมือที่บอกถึงการประลองกำลังของฝ่ายซื้อกับฝ่ายขายว่าใครเก่งกว่ากัน เราจะได้ตามถูกทาง

12.30-13.15 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง

13.15-14.30 น. เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ที่บอกถึงแนวโน้มขาขึ้น, แนวโน้มขาลง,การเปลี่ยนแนวโน้ม ประกอบไปด้วยเส้นค่าเฉลี่ย3วัน,5วัน,10,25,75,200วัน

-ลักษณะของการเกิดGolden cross หรือสัญญาณขาขึ้น และจุดที่น่าเข้าซื้อหุ้น และควรถือครองหุ้นไปนานเท่าไหร่
-ลักษณะของการเกิดDead cross หรือสัญญาณขาลง และจุดที่น่าขายหุ้น และควรพักการลงทุนซื้อขายนานเท่าไหร่
-ฝึกปฏิบัติการการใช้เส้นค่าเฉลี่ยนเคลื่อนที่กับตลาดหุ้น, หุ้นรายตัวที่ท่านลงทุนไว้ หรือสนใจจะเข้าลงทุน

14.30-14.50 น. พักรับประทานอาหารว่าง

14.50-16.00 น. รู้จักกราฟแท่งเทียน (Candle stick) ที่บอกสัญญาณว่าหุ้นจะขึ้นหรือตกอย่างแม่นยำ
16.00-17.00 น. การใช้ตัวเลขอนุกรมมหัศจรรย์ Fibonacci number เพื่อหาจุดซื้อ, จุดขาย,
แนวรับ (ราคาที่น่าซื้อ) แนวต้าน (ราคาที่น่าขายทกำไร) อย่างแม่นยำราวกับจับวาง โดยลงมือปฏิบัติจริงเบื้องต้น

17.00-17.30 น. นำความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาตลอดวัน นำมาบูรณาการ หรือผสมกันเป็นสูตรคัมภีร์ เทคนิครวยหุ้นด้วยตัวคุณเอง และแนะนำโปรแกรมกราฟเพื่อนำไปใช้งานได้จริงในภาคปฏิบัติ

บริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร ด้วยการฝึกอบรมให้นำไปใช้งานได้จริง ตัดสินใจเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าเสียหายเสียดายที่ไม่ได้เรียนก่อนลงทุนจริงจัง

ยินดีเปิดเผยเคล็ดลับวิชา โดย : อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินรายการเพื่อนนักลงทุน TNN24

สถานที่ : ห้องฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ถนนรามคำแหง 160 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม.ฯ10240 โทร.02-927-5800

วัน/เวลา : วันอาทิตย์ที่12มิถุนายน 2554เวลา 08.30-18.00 น.

โปรแกรมที่ใช้ฝึกอบรม : โปรแกรมกราฟAPEX-IRS และ efinancethai หากท่านมีโปรแกรมอยู่แล้วก็Updateมาด้วย หากไม่มีหรือไม่เคยใช้ ที่ห้องฝึกอบรม เตรียมไว้ให้แล้วดูเพิ่มเติม

งานนี้มีค่าครูอยู่ท่านละ3500ครับ ถูกที่สุดเท่าที่สอนๆกันอยูในเวลานี้ แต่ถูกนี่ไม่ได้แปลว่าไม่ดีนะครับ จัดเต็มครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น