วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562

วิกฤตมา โอกาสเกิด (เกิดจะรวยหุ้นก็คราวนี้)


วิกฤตกับตลาดหุ้น และลูกสูตร
1.ถ้าหนักสุดในอดีตมา(The great depression 1929 /Black Monday 1987 /Tomyumkoong crisis 1997 /Hmaburger crisis) เป็นเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยครับ หรือ Global economic recession ซึ่งผมหยิบที่CITIเอามาวสัดตอนนี้ยังไม่เข้าเกณฑ์น่าอันตราย คือเข้าเกณฑ์2.5ใน15ตัว หรือท่านใดมีหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปี2562ให้ลองอ่านดูตรงนั้นไม่มีคำอธิบายรูปภาพ
2.พวกCrisisที่มาปัจจุบันทันด่วนไม่ตั้งเนื้อตั้งตัว อย่าง911 แผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม พิบัติภัยต่างๆที่ไม่เตือนกันล่วงหน้า ลอบสังหารผู้นำหุ้นจะตกpanic sellระยะหนึ่ง จากนั้นจะrecoverมาที่ราคาพื้นฐาน หรือหากแกร่งมาก็ขึ้นไปnew high
3.พวกวิกฤตแบบได้เตรียมตัวเตรียมใจรอ อย่างสงครามการค้า ผู้นำป่วยดูแล้วคงไม่รอด การเตรียมการจะก่อสงครามระหว่างประเทศ ความยืดเยื้อของวิกฤตการเมืองม็อบ จลาจล หรือเลือกตั้งไทยหนล่าสุด ตลาดก็จะแบ่งเป็น3ระยะตามที่ผมนำเสนอเรื่อง Creative destructionครับ
http://thailworld.blogspot.com/2016/02/creative-destruction-model.html
เวลามีวิกฤตหุ้นที่กระทบหนักสุดคือ
1.พวกที่มีผลโดยตรงจากวิกฤตนั้น
2.พวกที่เคลื่อนไหวตามตลาด ส่วนใหญ่คือหุ้นใหญ่ในSET50 SET100
3.พวกที่มีผลน้อยคือพวกที่เรียกว่าDefensive stock คือพวกที่ไม่เกี่ยวอะไรกับวิกฤต จะมีวิกฤตหรือไม่มี ก็ยังทำรายได้ปกติ มีกำไรปกติ ปันผลได้ตามปกติ ที่ผิดปกติคือราคาดันลงตามตลาด ก็จะเป็นโอกาสให้พวกVIมาช้อนซื้อในช่วงที่มีราคาส่วนลดมากๆ หุ้นพวกนี้ในตลบาดหุ้นไทยก็มักเป็นพวกInfrastructureที่ทำสัญญาผูกขาด หรือกึ่งผูกขาดกับรัฐบาล เช่น สนามบิน น้ำมันเครื่องบิน ทางด่วน รถไฟฟ่าใต้ดืน ลอยฟ้า น้ำประปา ไฟฟ้า ถนนหนทาง หรือหน่วยลงทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน เวลามีวิกฤตหุ้นพวกนี้มักขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเห็นเป็นsafe haven ก็จะขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงมาไว้ในกิจการที่ปลอดภัย กห็เลยมักขึ้นดีเวลามีวิกฤตครับ
ตอนนี้ผมเลยจัดหุ้นเด่น8เซียน พิมพ์นิยมไว้ให้ เน้นเป็นหุ้นประเภทที่3ที่ว่ามาครับ บางตัวมีสิทธิ์ขึ้นระดับเท่าตัวเลย และมีสตอรี่โดดเด่นมาก
ตัวนี้เป็นโมเดลเดียวกับที่ผมเคยพาลูกค้าและสมาชิกเทรดประสบความสำเร็จมาแล้วในกรณี EGCO เมื่อปี 2559 ครับ คือ
1.เป็นกิจการที่กฟผ.ถือหุ้นใหญ่เหมือนกัน มีผู้บริหารมาจากกฟผ. และวัฒนธรรมองค์กรแบบเดียวกันคือ conservative ทำให้ EGCO เป็นหุ้น defensive คนลงทุนก็หวังปันผลปีละ 4-5%
2.แต่ EGCO มาเปลี่ยนเมื่อปี2559 ประกาศจะเติบโต เป็นบริษัทกำไรระดับหมื่นล้านต่อมาทำสำเร็จ-ผมพาเข้าซื้อตอนต้นปี2559 ที่ราคา 150-160 บาท ผ่านมา 3ปีตอนนี้ 300 บาท ขึ้นมาเท่าตัว
3.ส่วนหุ้นเด่นตัวนี้ เพิ่งประกาศเปลี่ยนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะขยายขนาดสินทรัพย์จาก 1แสนล้านเป็น 2แสนล้านใน 5ปี ผมหวังว่า อนาคต 3-5ปี ข้างหน้า ราคาจะทยานไกลตามรอย EGCO ครับ
คราวก่อน EGCO คราวนี้ผมหมายมั่นปั้นมือกับตัวนี้...ตัวไหนก็ทักมาครับในภาพอาจจะมี ข้อความ
สอบถาม สมัครเมมเบอร์เพื่อรับรายละเอียดคลิก Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ

1 ความคิดเห็น: