FEDลดอัตราดอกเบี้ยกับผลต่อตลาดหุ้นไทย มองข้ามช็อตไปหลังSell on factลุ้นรัฐบาลอนุทินQuick Win1500จุด
By ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ใบอนุญาตเลขที่ 012888 บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น ( ก่อตั้ง พศ.2540 อยู่ภายใต้การกำกับ ของ กลต. กระทรวงการคลัง ) 18 กันยายน 2568
1.การที่FEDลดอกเบี้ยหนนี้ 0.25% และให้เป้าหมายลดอีก2ครั้ง ครั้งละ0.25%ในปีนี้ และอีก0.25%ในปีหน้า เป็นไปตามตลาดคาดการณ์ เลยทำให้เกิดการSell on fact กล่าวคือจากที่เคยเก็งกำไรล่วงหน้าไล่ราคาทองคำขึ้นไป ก็เกิดการขายทำกำไรเมื่อข่าวจริงปรากฎ และมีการช้อนซื้อเงินดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์กลับมา
แต่การที่หุ้นสหรัฐฯยงไปต่อ รวมทั้งดัชนีล่วงหน้าสหรัฐบวกต่อ เนื่องจากตลาดมองว่าการที่FEDไม่ลดดอกเบี้ยแรงถึง0.5%นั้นสะท้อนว่าผ่อนคลายความวิตกว่าเศรษฐกิจจะเกิดRecession
2.ตามสถิติแล้ว ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นเอเชียมีความสัมพันธ์ไปในทางบวกในช่วงFEDดอกเบี้ยขาลง ที่ชัดเจนมากคือรอบดอกเบี้ยFEDขาลงหลังวิกฤตHAMBURGER CRISIS ปี2008 ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเป็นขาขึ้น จากจุดต่ำสุด380จุดในปี2008 ขึ้นไปสูงสุดเขต1650จุด และรอบดอกเบี้ยขาลงช่วงวิกฤตCOVID ดัชนีหุ้นไทยขึ้นจากเขต969จุด ขึ้นไปสูงสุดที่เขต1718จุด
ก็คงต้องติดตามว่าFEDดอกเบี้ยขาลงเที่ยวนี้ ตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลบวกเหมือนเที่ยวที่ผ่านมาหรือไม่ อย่างไร
3.พื้นฐานหุ้นไทยที่น่าสนใจและอาจดึงดูดให้เงินทุนไหลเข้า(Fund inflow)คือการที่การเมืองเริ่มมีความหวังขึ้น รัฐบาลใหม่จะเร่งQuick winโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมูลค่าหุ้นไทยยังต่ำมาก โดยมีสถิติเชิงเปรียบเทียบคือ -เวลานี้ดัชนีหุ้นไทย(SET)ซื้อขายเพียง1.24เท่า หากปเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกเวลานี้ซื้อขายที่3.13เท่า และตลาดหุ้นEmertging 1.99เท่า ขณะที่แม้P/Eหุ้นไทยในเวลานี้ซื้อขายที่17เท่า แต่Forward P/Eในสิ้นปีนี้ไปอีก3ปีข้างหน้ายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยบหุ้นโลก และเอเชีย-Emerging นี่ก็อาจเป็นจุดดึงดูดสำหรับเงินทุนไหลเข้า แต่ด้วยปัจจัยลบคือเสถียรภาพทางการเมืองที่ขาดความแน่นอน อัตราเติบโตเศรษฐกิจไทยต่ำ ปัญหาธรรมาภิบาลในตลาด จะคอยกดดันเป็นระยะ ดังนั้นผมจึงให้มูลค่าของตลาดหุ้นไทยเทียบระดับค่าP/BV1.5เท่า (คือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกครึ่งหนึ่ง และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นEmergingที่อยู่ระดับ2เท่า) มูลค่าเหมาะสม1.5เท่า ยกเว้นปัจจัยลบจะทุเลาลงก็อาจปรับขึ้นไปที่ระดับP/BV 1.7 เท่า ณ ระดับดัชนีราว1,600จุด ซึ่งก็ถือว่าามีUpsideอยู่พอสมควร 4.แนวโน้มทางเทคนิคของบตลาดหุ้นไทย
-ในบทความวันที่9เมษายนตอนดัชนีหุ้นร่วงลงไปเขต1055จุด ผมได้กล่าวว่าราคามูลค่าหุ้นไทยได้สะทม้อนข่าวลบสงครามการค้าไปมากพอแล้ว และมูลค่าก็ต่ำเกินไป จึงไม่ควรขายหุ้นทิ้ง ( ดู https://www.facebook.com/tontancorp/posts/pfbid02zNHHxp1cj8Zj2hnd3V1errJcaiHhJdzrKLPuVQ88harw3GtTZ5PDDQCypchggMSLl) -ต่อมาตอนเกิดสงครามอิสราเอลVSอิหร่าน่ที่ตลาดวิตกว่าจะเกิดสงครามโลก ผมได้ชี้ว่าตลาดหุ้นไทยก็ได้สะท้อนความวิตกไปมากพอ เมื่อไม่หลุดฐานสำคัฐเขตราวๆ1050จุด จะได้เห็นดัชนีหุ้นดีดกลับรอบใหญ่ในรูปแบบW-SHAPED RECOVERY มีเป้าหมายปลายทางสำคัญราวๆ1500จุด+/- (ดูบทความ วันที่25มิถุนายน https://www.facebook.com/tontancorp/posts/pfbid02YNxq4MX7XhnLbGarhrAuaoBfxbUA9ff8oPnBz6p8FyrzrR3NnqAjK4Pmw7SrBiuMl?viewas=100000686899395 ) -อัพเดตตอนนี้ ดัชนีหุ้นไทยขึ้นผ่านเขตแนวต้าน1280จุด ตอนนี้มาทดสอบแนวต้านด่านหนึ่งราวๆ1307จุด จึงคาดการณ์ว่าในระยะเดือนSETยังน่าจะปรับตัวขึ้นไปเป้่หมายถัดไปราวๆ1333-1355จุด หรือดีที่สุดเขต1385จุด อย่างไรก็ตามอาจเจอSell on factช่วงFEDลดดอกเบี้ยออกมา แต่ก็อาจจะมีฐานรับราวๆ1300ไม่เกิน1280จุด+/- และจากนั้นก็จะขึ้นตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไปครับ -ส่วนระยะ4เดือนรัฐบาลอนุทินไปถึงราวปีใหม่2026นั้น น่าจะขึ้นไปเขตราวๆ1500จุด ดีที่สุดราวๆ1600จุด เทียบเท่าP/BVระหว่าง1.5-1.7เท่า ดังนั้นInvestment themeในการเทรดรอบนี้ก็คือ การฟื้นตัวขึ้นหลังวิกฤตต่างๆคลายตัวลง อาจจะได้อานิสงส์จากการที่FEDลดดอกเบี้ย แม้หุ้นไทยยังไม่น่าดึงดูดใจมาก แต่อาจดึงดูดใจFund flowในแง่ที่ว่าราคาหุ้นถูกกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นโลกมากเกินกว่าครึ่งในเวลานี้ 5.หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง *หุ้นไฟแนนซ์ ลีสซิ่งที่จะมีต้นทุนทางการเงินต่ำลง และกำไรดีขึ้น *หุ้นกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ บ้านคอนโดที่จะได้ประโยชน์กำลัง.ืท้อลูกค้าฟื้นตัว *หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทมี่เป็นลูกหนี้รายใหญ่ อย่างพวกพลังงาน น้ำมัน ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมพื้นฐานต่างๆ *หุ้นที่จะได้ผลกระทบทางลบคือ แบงก์ที่จะมีNIMลดลง รวมทั้งกลุ่มประกันที่จะได้ผลตอบแทนจากเงินฝากน้อยลง (แต่อาจไปชดเชยจากตลสดบอนด์ และตลาดหุ้นแทน) โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุนทุกท่านครับ
............ Exclusive Webinar 8หุ้นเด่นควิกWin100% ยุครัฐบาลอนุทิน4+4เดือน ลุ้นหุ้นไทยไป1500 3 หุ้นเล็กดีรสโต 3 หุ้นเทิร์นอะราวด์สุด 2 หุ้นรับผลบวกสุดยุคอนุทิน 19 ตุลาคมนี้ Exclusive Webinar สำหรับสมาชิก สมัครตอนนี้รับหุ้นเด่นชุดแรก4ตัว 29 กันยายนนี้ @https://goo.gl/ybfAvJ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก