คัมภีร์หุ้นไทย(31มี.ค.):สำคัญควรอ่านให้ละเอียด SETจะผ่าน1056หรือไม่ เพราะเหตุใด ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน จะพีคที่เท่าไหร่ วันที่เท่าไหร่ และต้องทำอย่างไร?

หลักสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ที่นี่ที่เดียว- " สูตรลัด...มือใหม่เล่นหุ้นให้รวย รุ่นที่ 45"

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
*สูตรนี้มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดี่ยว*

สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน(ตอนนี้เหลือเพียง5ที่นั่ง) 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

*********

ตอนนี้หุ้นขึ้นมาใกล้เขตพีคเก่าคือ 1056 มีปัญหาที่ต้องอ่านให้ขาดดังนี้ครับ

-จะตีด่านpeakเก่า1056แตกหรือไม่?
-ตอนนี้เราอยู่ในแนวโน้มขึ้น ปัญหาว่าอยู่ตรงไหนของขาขึ้น?
-หากขึ้นรอบนี้ไปเท่าไหร่ และจะจบเมื่อไหร่?

1.อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แล้วอยู่ตรงไหนของขาขึ้น?


ชาร์ตที่1:เป็นภาพของSETรอบใหญ่ที่ใช้ทฤษฎีคลื่นElliot waveมาวินิจฉัย ก็จะพบว่าตอนนี้SETกำลังอยู่ในคลื่นที่ 3 หรืออยู่ตรงกลางทางของขาขึ้นรอบนี้

(จากทฤษฎีคลี่นที่มีกฎว่า ในขาขึ้นประกอบไปด้วย5คลื่นสำคัญ

*คลื่นที่1ผมนับจากจบจบคลื่นCบริเวณ380จุดในปลายปี2551 แล้วขึ้นมาจบแถว758จุดในเดือนตุลาคม 2552

*คลื่นที่2เป็นการตกปรับฐานลงมาเขต660จุดในช่วงเดือนตุลาคม2552-มีนาคม2553

*คลื่นที่ 3จากเดือนเมษายนถึงปัจจุบัน ยังไม่จบคลื่น คาดว่าอาจจบในราววันที่ 7 หรือ 21 เมษายน อาจเป็นเขต1130จุด(กรณีดีเกินคาดมากๆคือ1175จุด) -สรุปคือตอนนี้เราอยู่ตรงนี้*


*คลื่นที่ 4 ที่จะเกิดในอนาคตหลังจบคลื่นที่ 3 คือการตกปรับฐานขนาดใหญ่

*คลื่นที่ 5 ซึ่งจะเป็นการขึ้นอีกรอบใหญ่ ซึ่งผมประในไว้ก่อนหน้านั้นว่าน่าจะขึ้นไปพีคในเดือนกันยายน อาจเป็นเขต1260จุด หรือมกราคมปีหน้าเขต1400จุด+/-


ชาร์ตที่2:เป็นภาพที่ตัดให้มาดูเฉพาะคลื่นที่ 3 ซึ่งเราอยู่ในปัจจุบันนี้-โดยอิงทฤษฎีElliot wave ก็จะพบว่าเรากำลังอยู่ในคลื่นสุดท้ายคือ คลื่นที่ 5 ของคลื่นที่ 3ขนาดใหญ่ โดยพิจารณาดังนี้

*คลื่นที่1ย่อยของคลื่น3ใหญ่-ขึ้นจากเขต660จุดในเดือนมกราคม 2553มาจบแถว820จุดในเดือนเมษายน2553

*คลื่นที่2ย่อยของคลื่น3ใหญ่-ปรับลงจาก820จุดในเดือนเมษายน2553ลงมาเขต715จุดในเดือนพฤษภาคม2553

*คลื่นที่3ย่อยของคลื่น3ใหญ่-ขึ้นจากเขต715จุดหลังเหตุการณ์19พฤษภาคม2553มาพีคที่1056จุดในวันที่6มกราคม 2554

*คลื่นที่4ย่อยของคลื่น3ใหญ่-ตกจากวันที่6มกราคม2554 ลงมาต่ำสุดที่937ในวันที่11กุมภาพันธ์ 2554
*คลื่นที่5ย่อยของคลื่น3ใหญ่-เริ่มขึ้นจากหลังทำจุดต่ำสุดที่937จุดขึ้นมาถึงปัจจุบัน และคาดว่าน่าจะมีจุดสูงใหม่(new high)เกินด่าน1056 โดยประเมินไว้ว่าน่าจะเป็นเขต1132จุด และคาดว่าอาจขึ้นมาพีคขานี้ราววันที่ 7 หรืออาจเป็น 21 เมษายน 2554ที่จะถึงนี้ จากนั้นเกิดการตกปรับฐานขนาดใหญ่ในคลื่น4ใหญ่ต่อไป

สรุป-เรากำลังอยู่ในคลื่นที่5ซึ่งเป็นคลื่นสุดท้าย หรือขาสุดท้ายในการขึ้นรอบนี้ ที่เป็นคลื่น 3ใหญ่คร้บ โดยธรรมชาติของคลื่นที่ 5 นั้นมีลักษณะจำเพาะดังนี้

*หุ้นจะขึ้นแรง และขึ้นเร็ว ขึ้นไว หากผ่านยอดพีคเก่าของคลื่นที่ 3 หรือพูดง่ายๆหากช่วงนี้ผ่านด่านพีคเก่า1056ได้ จะเหวี่ยงrallyขึ้นไวมาก จึงยังต้องคาดว่าหากผ่านด่าน1056ก็อาจวิ่งขึ้นรวดเดียวไปจบในวันที่ 7 เมษายน หรืออย่างช้า21เมษายน เป้าหมายอาจเป็น1105หรือ1132จุด (กรณีดีเกินคาดมากๆคือ1175จุด)

*หุ้นที่ขึ้นในขานี้จะเป็นหุ้นที่มีค่าbetaหรืออัตราแรงเหวี่ยงที่สูงกว่าSETโดยเฉลี่ย เช่น พวก DEREVATIVE WARRANTหรือพวกWARRANT หรือหุ้นที่มีhigh betaสูงกว่าตลาด(พวกที่วิ่งดีกว่าSET) จะเป็นพระเอก

*จิตวิทยาของผู้ลงทุนจะเต็มไปด้วยพวกมองโลกแง่ดี(optimism) และหลายครั้งเข้าข่ายโลภมาก(greed)กล้าทุ่มทุนเข้าลุยซื้อหุ้นชนิดลืมตัวกลัวตาย เนื่องจากราคาหุ้นจะวิ่งแรงเร็วเปลี่ยนใจให้คนในตลาดไม่กลัวไฟ ไม่สนใจปัจจัยพื้นฐานใดๆ ราคาหุ้นมักจะสูงกว่าพื้นฐาน แต่คนก็ไม่ใส่ใจ และมักจะไปติดหุ้นในที่สูง

II.ปัญหาต่อไปมีว่าจะผ่านด่าน1056ที่เป็นพีคเก่าได้หรือไม่?


ชาร์ตที่3:เป็นชาร์ตรายวันของSET ซึ่งก็มีทั้งประเด็นทางลบ และทางบวกที่ต้องพิจารณา

2.1ประเด็นทางบวก

-เป็นเรื่องของWAVEตามที่กล่าวมายืดยาวในข้อ1ครับ คือตอนนี้เราอยู่ในคลื่นที่ 5ย่อยของคลื่น3ใหญ่ ดังนั้นก็ต้องคาดว่า มีโอกาสมากที่จะตีด่าน1056ที่เป็นพีคเก่าแตกแล้ววิ่งขึ้นขาสุดท้ายของรอบนี้

-โครงสร้างราคา(price pattern)เป็นรูปแบบหัวและบ่าหงาย(head&shoulders bottom)ที่กำลังมาทดสอบแนวต้านneck lineบริเวณ1056ซึ่งหากผ่านก็จะวิ่งขึ้นแรง มีเป้าหมายตั้งแต่1100หรือ1130หรือกระทั่ง1175จุด

-โครงสร้างราคาที่เป็นbasic technicalเป็นบวกคือ ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1050จุด เทียบกับไฮเดิม1025จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบต่อมามีฐานจุดlowบริเวณ977จุด ต่อมาทำฐานยกสูงขึ้นมาเป็นเขต 998 และล่าสุดทำฐานมาเขต1030 ก็ย่อมคาดหมายว่าเมื่อขึ้นก็ควรมีnew highเกิน1056

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ 16 วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี แสดงว่าอแนวโน้มระยะกลางถึงยาวดีมาก

-ไม่เกิดBearish divergenceกล่าวคือวานนี้SETขึ้นมาเขต1050จุด ปรากฎว่าRSIขึ้นมานิวไฮแถว69% เทียบกับตอนพีคเก่า1056 ตอนนั้นRSIอยู่แถว65% ก็สะท้อนว่าความแข็งแกร่งหรือเสถียรภาพของขาขึ้นรอบนี้เสถียรพอสมควร ไม่ใช่การขึ้น”หลอกๆ”

2.2ประเด็นในทางลบ

-ในทางPrice pattern แม้จะมองว่าเป็นการขึ้นมาทดสอบแนวต้านneck lineหากผ่านได้จะไปได้ไกลมากก็ตาม ในทางกลับกันบริเวณนี้เคยทำจุดสูงสุดเป็นพีคไว้แล้ว2หน หนแรกในเดือนพฤศจิกายน2553 และหนต่อมาคือในเดือนมกราคม2554 ก่อรูปแบบราคาเป็นแบบtriple topในปัจจุบัน พูดง่ายๆว่าหากตีด่าน1056ไมม่แตกในช่วงสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า ก็เสี่ยงจะตกหนักเช่นกัน

โดยเฉพาะหากชนเขต1056แล้วลงและหลุดuptrendขนาดย่อมบริเวณ1045+/-ก็เสี่ยงลงไปอย่างน้อย1010หรือ1000 หรือกระทั่ง950+/-

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว31วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นก็ไม่เกินอีก5-10 วันทำการ นับจากนี้ (ดังนั้นก็อาจเป็นไปได้มากกว่าว่าSETอาจพีครอบนี้ในราววันที่ 7 เมษายน หรือในสัปดาห์หน้า หรือกระทั่งเขตพีคเก่า1056ก็ได้)


-MODIFIED STOCHASTICS ล่าสุด %K อยู่แถว 95% โดยสถิติ หาก%Kขึ้นมาราวๆ95% ก็แสดงว่ามีroomให้ขึ้นในรอบนี้อีกไม่มาก เพราะเริ่มเข้าโซนoverboughtแล้ว ดังนั้นการขึ้นไปเขตพีคเก่า1056+/- ก็ถือว่ามีนัยสำคัญที่อาจเกิดการขายทำกำไรอีกยกก็ได้

ยกเว้นมีการขายปรับฐานสลับการขึ้น เป็นการลดoverheatไปในตัว เช่ยวันนี้ชนด่าน1056แล้วเกิดแรงขายลงมาไม่ลึกกว่า 1045-1050จุด เป็นการลดความร้อนแรงลงมา แล้วค่อยฟื้นตัวขึ้น แล้วค่อยไปผ่านด่าน1056 ไม่ใช่วิ่งขึ้นรวดเดียว ก็อาจทำให้ขึ้นผ่านด่าน1056เพื่อไปเป้าหมาย1100-1130ได้ต่อไป



*กลยุทธ์สำคัญ

1.ผู้ลงทุนระยะยาว จับตามองว่าในสัปดาห์นี้หากSETผ่านด่าน1056 ควรถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ ในเดือน9 หรือหากชนด่าน1056ไม่ผ่านแล้วลงไม่หลุด 1045ก็น่าถือต่อ (ยกเว้นต่ำกว่านี้ก็อาจขาย แล้วไปรอเข้าช้อนซื้อใหม่ ซึ่งจะแจ้งต่อไป)

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ จับตามองว่าในสัปดาห์นี้หากSETผ่านด่าน1056 ควรถือไปจนถึงวันที่ 7 หรือ 21 เมษายน ไปรอขายเขตตั้งแต่1105 หรือ1130 หรือกระทั่ง1175จุด (แต่หากหากชนด่าน1056ไม่ผ่านแล้วลงไม่หลุด 1045ก็น่าถือต่อ (ยกเว้นต่ำกว่านี้ก็อาจขาย แล้วไปรอเข้าช้อนซื้อใหม่ ซึ่งจะแจ้งต่อไป)


3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น จับตาในสัปดาห์นี้หากSETผ่านด่าน1056 ควรถือไปจนถึงวันที่ 7 หรือ 21 เมษายน ไปรอขายเขตตั้งแต่1105 หรือ1130 หรือกระทั่ง1175จุด (แต่หากหากชนด่าน1056ไม่ผ่านแล้วลงไม่หลุด 1045ก็น่าถือต่อ (ยกเว้นต่ำกว่านี้ก็อาจขาย แล้วไปรอเข้าช้อนซื้อใหม่ ซึ่งจะแจ้งต่อไป)

กรณีSETผ่านด่าน1056และอยากเก็งกำไรในขาสุดท้าย คลื่นที่ 5 ของคลื่น 3 ย่อยแนะนำให้เล่นเก็งกำไรหุ้นที่มีhigh beta เช่นพวก DIRIVATIVE WARRANTหรือWARRANT แต่เป็นการเก็งกำไรสั้นมากๆ คือพอผ่าน1056แน่ๆก็follow buyแล้วไปรอขายตอนSETขึ้นไป1105หรือ1130หรือเต็มที่1175ในราว7หรือ21 เมษายน

III.ทำไมจึงประเมินว่ารอบนี้อาจพีคในวันที่7หรือ21เมษายน2554?


ชาร์ตที่4:ผมคิดจากTime zone หรือการวิเคราะห์ทางเทคนิคในด้านมิติเวลาครับ บนสมมุติฐานดังนี้

-หากเราประเมินในมิติด้านราคาด้วยFibonacci retracementได้แม่นยำ เราก็นำตัวเลขอนุกรมไฟโบนาชชี่ หรือตัวเลขมหัศจรรย์มาคำนวณหามิติด้านเวลาเช่นกัน

-รอบล่าสุดนี้ผมคำนวณจากวันพีคของปลายคลื่นที่1ใหญ่ของปี2552เชื่อมกับพีครอบล่าสุด1056จุดเมื่อ1มกราคม เมื่อคำนวณแล้วจะมีวันสำคัญในช่วงข้างหน้านี้คือ 7 เมษายน ถัดไป 21เมษายน ถัดไป24พฤษภาคม ถัดไป 24 มิถุนายน 8กรกฎาคม และ 7 ตุลาคม

ซึ่งผมคิดว่าบริเวณ1ใน3ของตัวเลขอนุกรมFibonacci ที่จะตกอยู่ในช่วงวันที่7หรือ21เมษายนน่าจะมีนัยสำคัญทางสถิติมากกว่า

-ประกอบกับการคาดการณ์ว่านี่เป็นการวิ่งขึ้นคลื่นสุดท้ายของคลื่น3ใหญ่ ที่มีเอกลักษณ์แรง เร็ว ไว ก็จึงให้นัยสำคัญทางสถิติไว้ที่เขต1ใน3มากที่สุด เขต1ใน3ที่ว่านี้อยู่ในราว7 หรือไม่ก็21เมษายน

ถามว่าแม่นหรือไม่ ?ในหนก่อนที่ผมฟันธงว่าSETจะพีคในราววันที่10-15ตุลาคม 2552นั้นแม่นมากครับ ท่านสมาชิกของเราจะจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ดี

การคำนวณมิติด้านเวลานี้ไม่ใช่มั่วเอานะครับ แต่มีตรรกะ(logic)รองรับอย่างที่ผมได้อธิบายไปแล้ว หากท่านใดสนใจจริงจังเรื่องนี้ให้มาเรียน ผมนานๆจะเปิดสอนให้ที งวดหน้าวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนครับ


IV.SET50 ให้อิงSETเป็นหลักครับ


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-ให้อิงดัชนีSETเป็นหลักดังนี้

-หากSETชนเขต1056 ตัวSET50ก็น่าจะมาเขตพีคเก่า1035+/-
-หากSETผ่าน1056ได้วิ่งขึ้นไป1105,1130,1175 ตัวSET50จะขึ้นไป765,770,790-795หรือ825จุด
-แต่หากSETชนด่าน1056ไม่ผ่านตัวSET50ก็จะตกลงมาเขต720-725

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขึ้นมาทดสอบด่าน730-735 และหากเห็น modified stochasticsเริ่มเข้าเขตover boughtเมื่อ%Kขึ้นไปเขต95% ก็น่าขายทำกำไรซักยก และรอช้อนซื้อคืนเขต720-725(ยกเว้นSETผ่าน1056ก็ถือต่อ หรือเน้นการfollow buyเพราะจะrallyขึ้นไป765-770)

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราวๆ 7เมษายน หรือช้าหน่อยหลังสงกรานต์ 21เมษายนจับตาดูว่าจะผ่านด่าน735หรือไม่ หากผ่านจะไปด่านถัดไปคือ 750-770 จุด (ทั้งนี้ต้องเห็นยืนเหนือ720-725มั่นคงในระยะสัปดาห์จึงจะน่าถือหุ้น)





********
หลักสูตรนี้ที่นี่ที่เดียว อบรมเข้ม สอนมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 45 วันอาทิตย์ 3 เมษายน

" สูตรลัด...มือใหม่เล่นหุ้นให้รวย รุ่นที่ 45"

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
*สูตรนี้มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดี่ยว*

เหมาะสมกับ
- ผู้ที่อยากรวยด้วยหุ้น ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อน อยากเริ่มหัดเล่นให้เป็นและถูกวิธีแบบศิษย์มีครู
- ผู้ต้องการหารายได้เพิ่ม
- นักลงทุนที่ต้องการกำไรงาม
-นักลงทุนมือเก่าหรือกลางเก่ากลางใหม่ที่ต้องการแก้ไขความผิดพลาด เพราะไม่รู้วิธีการลงทุน+เก็งกำไรที่ถูกต้อง

สอนโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ วันอาทิตย์ที่ 3 เมย.54

สอบถามรายละเอียด บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร 02-9275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

ขั้นตอนการสมัคร แฟกซ์หลักฐานการชำระเงิน มาที่หมายเลข : 02-927-5880
หรือ E-Mail:tontan2008@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชำระเงินผ่านธนาคารในนามบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ประเภท ออมทรัพย์
1. ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 056-0-25774-3
2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 136-2-18236-6

" บริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร "

คัมภีร์หุ้นไทย(30มี.ค.):จุดชี้ขาดผ่านด่านพีคเก่า1056ได้หรือไม่ ขณะที่เข้าเขตOver heatแล้ว หากขึ้นสลับเจอขายลดความร้อนแรง ยังคาดนิวไฮ1130ราว7หรือ21เม.ย

หลักสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ที่นี่ที่เดียว- " สูตรลัด...มือใหม่เล่นหุ้นให้รวย รุ่นที่ 45"

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
*สูตรนี้มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดี่ยว*

สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน(ตอนนี้เหลือเพียง5ที่นั่ง) 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

*********

I.ข่าวและปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นวันนี้

1.1TRUEประกาศเพิ่มทุนช็อกตลาด-TRUEประกาศเพิ่มทุน1.95บาท/หุ้น ในอัตราส่วน1หุ้นเดิม:0.865หุ้นใหม่ เป็นที่น่าสังเกตว่ามีแรงขายออกมาหนักตั้งแต่วันศุกร์(25มี.ค.)จึงเป็นไปได้ว่ามีแรงขายออกมาก่อนจากพวกรู้ข่าววงใน(insider trading)

ฝ่ายวิจัยบล.ฟาร์อีสต์รายงานว่า การประกาศเพิ่มทุน 1.32 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับปรุงฐานะการเงิน และรองรับการขยายงาน
- โดยออกหุ้นใหม่ 6.73 พันล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1 : 0.865 หุ้นละ 1.95 บาท
- คาด D/E จะลดลง เป็น 3.89 เท่า จากเดิม 6.1 เท่า - คาดมี Dilution effect 46.4%
- จากราคาปิดวันก่อนประกาศเพิ่มทุนที่ 6.10 บาท คาดราคาหุ้นหลัง XR ที่ 4.18 บาท
- คง Rating "Sell" ราคาเป้าหมายหลัง XR ระดับประมาณ 2.8-3บาท จากเดิม 3.52 บาท

ขณะที่โบรกเกอร์เครดิตสวิส ให้เป้าหมาย3.30บาท แนะนำUnderperform

ความเห็น:ในทางเทคนิคเคลื่อนไหวในรูปแบบสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีแนวรับหลัก5.95บาท เมเมื่อหลุดก็ตกลงไปอย่างน้อยเขต5.45-5.25บาท จากนั้นหากฟื้นตัวไม่เกินเขต5.80-6บาท แนะนำขายลดความเสี่ยง จึงควรหลีกเลี่ยง

1.2หุ้นที่คาดว่าอาจมีการทำWindow dressing ในงวดสิ้นไตรมาส 1/2554 โดยน่าจะมีการทำปิดในสัปดาห์นี้

ฝ่ายวิจัยบล.พัฒนสินคาดว่าหุ้นที่อาจจะมีการทำราคาปิดงวดไตรมาส1/54 (Window dressing )

กลุ่มแรก 1. อัตราผลตอบแทนแย่กว่าตลาดมาก QTD และราคาหุ้นแย่กว่าตลาด MTD ได้แก่ LH (กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน) AOT TTA RCL MINT (รับข่าวแผ่นดินไหวญี่ปุ่นไปมาก) TRUE (ข่าวการปรับโครงสร้างหนี้ และกระแสควบรวมกิจการ) SCCC (ราคาวัสดุฯอาจปรับขึ้นตามอุปสงค์ส่วนเพิ่มจากการบูรณะญี่ปุ่น)

ส่วนกลุ่มที่สองเป็นหุ้นที่รีบาวด์ขึ้นมาบ้างแล้วในเดือน มีค.แต่ยังคง Laggard QTD (ราคาต่ำกว่าราคาพื้นฐานแท้จริงมาก) ได้แก่ TCAP SAT (ความคาดหวังเชิงบวกจากยอดขายงานมอเตอร์โชว์) MAKRO BIGC CK (หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง) THAI (Japan earthquake price in) DCC TSTH (Japan reconstruction demand)

-ได้อานิสงส์จากพิบัติภัยในญี่ปุ่น กลุ่มวัสดุฯ ซีเมนต์ เหล็ก SCC MCS TSTH TMT บูรณะซ่อมแซม

-กลุ่มยานยนต์ เรือ นิคมอุตสาหกรรม ยางพารา STA SAT TTA HEMRAJ AMATA เพราะกระบวนการผลิตของญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ

-PoliticalPlay หรืออิงการเมือง:กลุ่มสื่อสาร มีเดีย รับเหมาฯ AIS DTAC MCOT STEC

-กลุ่มเช่าซื้อรถใหม่ TCAP TISCO SCB งานมอเตอร์โชว์เริ่มพรุ่งนี้

-หุ้นที่โบรกเกอร์ฝรั่งRSB(รอยัลสก๊อตช์แบงก์)เพิ่มเป้าหมายขึ้นคือ SCB มองว่าเป็นหุ้นคุณภาพดีกว่าใครในกลุ่ม แต่ราคาถูกที่สุดหากเทียบกับหุ้นแบงก์ไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยให้ราคาเป้าหกมายเป็น 150 บาท และปรับเป้าKTBขึ้นเป็น23บาท โดยมองว่าขีดความสามารถแข่งขันสูงขึ้นมาก

-น้ำท่วมภาคใต้กระทบธุรกิจท่องเที่ยว(AOT SPF MINT CENTEL) ธุรกิจกุ้ง(-TUF, CPF(neutral))กลุ่มเกษตร(ราคาขึ้น อุปทานลด) สวนปาล์ม(–LST) สวนยางพารา (+STA)

-หุ้นที่มีLaggard Play(อยู่ต่ำกว่าราคาพื้นฐานมาก): TTA SAT AH LH MAJOR BAY BANPU AMATA DTAC SCB

-กลุ่มเช่าซื้อรถใหม่ TCAP TISCO SCB จิตวิทยาบวกงานมอเตอร์โชว์

-หุ้นมีข่าว กำไรปีนี้สูงขึ้น BBL PTT BEC AOT และ CPALL(เซ็นสัญญาเช่าปตท.ต่ออีก10ปี) หุ้นแรงวานนี้ JAS HEMRAJ LH DSGT

- XD Highlight: 30 มีค. SF@0.15 บ. หุ้นใหญ่ที่มีแรงซื้อคืนก่อน XD AIS BANPU GFPT DCC


II.แนวโน้มหุ้นไทยผ่านด่าน1020 ป้ายต่อไปพีคเก่า1056 แต่เริ่มเข้าเขตover heat หากไม่ผ่านก็น่าขายทำกำไร ยกเว้นผ่านได้ยังมีลุ้น rally ไปพีคในเดือนเมษายนแถว1130 ส่วนวันนี้ต้าน1040-1045



แนวโน้ม-ยังอัพเดตทิศทางต่อเนื่อง คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว โดยเฉพาะล่าสุดหลังจากขึ้นผ่านแนวต้านdowntrend~1020 จุด ป้ายต่อไปคือจะขึ้นไปพีคเก่า 1056

โดยมีแนวต้านย่อยช่วงนี้ ด่านแรก 1045 ถัดไป 1045 ก่อนขึ้นไปด่านพีคเก่า 1056จุด แนวรับวันนี้1032-1028จุด

*หากวันนี้ขึ้นผ่านเขต1040ขึ้นไปได้ ก็น่าจะขึ้นไปเขตต้านย่อยถัดไป 1045+/- จากนั้นจะขึ้นไปทดสอบด่านพีคเก่า และค่อยไปลุ้นว่าจะผ่านพีคเก่า1056หรือไม่ หากผ่านก็จะขึ้นไปเป้าหมายที่ประเมินไว้เขตนิวไฮ 1100-1132จุด ในเดือนเมษายน (ประเมินวันพีคอยู่ในราวหากไม่เป็นวันที่7ก็อาจเป็น21เมษายน ซึ่งจะอัพเดตเรื่องมิติเวลาอีกครั้ง)

โดยเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

3.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1040จุด เทียบกับไฮเดิม1025จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด ต่อมาทำฐานยกสูงขึ้นมาเป็นเขต 998 และล่าสุดทำฐานมาเขต1030

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่านพีคเก่า 1056+/- หากผ่านจะมีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด (ประเมินวันพีคอยู่ในราวหากไม่เป็นวันที่7ก็อาจเป็น21เมษายน ซึ่งจะอัพเดตเรื่องมิติเวลาอีกครั้ง)

3.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว30วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นก็ไม่เกินอีก5-10 วันทำการ นับจากนี้ (ดังนั้นก็อาจเป็นไปได้มากกว่าว่าSETอาจพีครอบนี้ในราววันที่ 7 เมษายน หรือในสัปดาห์หน้า หรือกระทั่งเขตพีคเก่า1056ก็ได้)

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ 15 วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี แสดงว่าอแนวโน้มระยะกลางถึงยาวดีมาก

-MODIFIED STOCHASTICS ล่าสุด %K อยู่แถว 90% โดยปกติกว่าจะขึ้นไปพีคแต่ละรอบก็เมื่อ%Kขึ้นไปราวๆ95% ก็แสดงว่ามีroomให้ขึ้นในรอบนี้อีกไม่มาก เพราะเริ่มเข้าโซนoverboughtแล้ว ดังนั้นการขึ้นไปเขตพีคเก่า1055+/- ก็ถือว่ามีนัยสำคัญที่อาจเกิดการขายทำกำไรอีกยกก็ได้ ยกเว้นมีการขายปรับฐานสลับการขึ้น เป็นการลดoverheatไปในตัว ไม่ใช่วิ่งขึ้นรวดเดียว ก็อาจทำให้ขึ้นผ่านด่าน1056เพื่อไปเป้าหมาย1100-1130ได้ต่อไป

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ แต่เนื่องจากเข้าเขตover bought จึงมองไว้ 2 กรณีคือ

- อาจขึ้นไปแค่พีคเก่า1056 แล้วลง
- หรือตีผ่านด่านนี้ไปนิวไฮเขต1100-1132จุดในเดือนเมษายน ตามที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ ในเดือน9 และน่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1020ได้ในช่วงนี้ พร้อมกับเห็นวอลุมหนาตา

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1100-1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำใน2สัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อไว้รอขายเขตพีคเก่า1055จุด และหากเห็นmodified stochasticsขึ้นไปเขต95%แล้วมีแรงขายมาก


III.SET50 จับตาจะผ่านด่าน730-735ได้หรือไม่? ในขณะที่เข้าโซนover heatแล้ว


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-ช่วงนี้กำลังมาทดสอบแนวต้านสำคัญคือ แนวต้านowntrend~729 หากผ่านจะขึ้นไปทดสอบต้านพีคเก่า735จุด ขณะที่ชาร์ตแท่งเทียนรายวันเมื่อวันศุกร์เป็นเชิงลบ คือมีรูปแบบshooting star

ส่วนเครื่องมือระยะสั้นคือmodified stochasticsเริ่มเข้าเขตover boughtเมื่อ%Kมาเขต90% หากขึ้นไปเขต95%ก็พอดีอาจขึ้นมาราวๆ730-735บริเวณพีคเก่า อาจเกิดแรงขายทำกำไรซักยก

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขึ้นมาทดสอบด่าน730-735 และหากเห็น modified stochasticsเริ่มเข้าเขตover boughtเมื่อ%Kขึ้นไปเขต95% ก็น่าขายทำกำไรซักยก

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราวๆ 7เมษายน หรือช้าหน่อยหลังสงกรานต์ จับตาดูว่าจะผ่านด่าน735หรือไม่ หากผ่านจะไปด่านถัดไปคือ 750-760จุด (ทั้งนี้ต้องเห็นยืนเหนือ730มั่นคงในระยะสัปดาห์จึงจะน่าถือหุ้น)


********
หลักสูตรนี้ที่นี่ที่เดียว อบรมเข้ม สอนมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 45 วันอาทิตย์ 3 เมษายน

" สูตรลัด...มือใหม่เล่นหุ้นให้รวย รุ่นที่ 45"

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
*สูตรนี้มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดี่ยว*

เหมาะสมกับ
- ผู้ที่อยากรวยด้วยหุ้น ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อน อยากเริ่มหัดเล่นให้เป็นและถูกวิธีแบบศิษย์มีครู
- ผู้ต้องการหารายได้เพิ่ม
- นักลงทุนที่ต้องการกำไรงาม
-นักลงทุนมือเก่าหรือกลางเก่ากลางใหม่ที่ต้องการแก้ไขความผิดพลาด เพราะไม่รู้วิธีการลงทุน+เก็งกำไรที่ถูกต้อง

สอนโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ วันอาทิตย์ที่ 3 เมย.54

สอบถามรายละเอียด บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร 02-9275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

ขั้นตอนการสมัคร แฟกซ์หลักฐานการชำระเงิน มาที่หมายเลข : 02-927-5880
หรือ E-Mail:tontan2008@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชำระเงินผ่านธนาคารในนามบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ประเภท ออมทรัพย์
1. ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 056-0-25774-3
2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 136-2-18236-6

" บริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร "

TRUEเพิ่มทุน หลังXR=4.18บาท มีร่องรอยของINSIDER TRADING

หลักสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ที่นี่ที่เดียว- " สูตรลัด...มือใหม่เล่นหุ้นให้รวย รุ่นที่ 45"

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
*สูตรนี้มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดี่ยว*

สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน(ตอนนี้เหลือเพียง5ที่นั่ง) 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

*********

I.ข่าวและปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นวันนี้

1.1TRUEประกาศเพิ่มทุนช็อกตลาด-เช้าวันนี้ TRUEประกาศเพิ่มทุน1.95บาท/หุ้น ในอัตราส่วน1หุ้นเดิม:0.865หุ้นใหม่ เป็นที่น่าสังเกตว่ามีแรงขายออกมาหนักตั้งแต่วันศุกร์(25มี.ค.)จึงเป็นไปได้ว่ามีแรงขายออกมาก่อนจากพวกรู้ข่าววงใน(insider trading)

ฝ่ายวิจัยบล.ฟาร์อีสต์ระบุว่า TRUE ประกาศเพิ่มทุน 1.32 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับปรุงฐานะการเงิน และรองรับการขยายงาน

- โดยออกหุ้นใหม่ 6.73 พันล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1 : 0.865 หุ้นละ 1.95 บาท

- คาด D/E จะลดลง เป็น 3.89 เท่า จากเดิม 6.1 เท่า - คาดมี Dilution effect 46.4%

- จากราคาปิดวันก่อนที่ 6.10 บาท คาดราคาหุ้นหลัง XR ที่ 4.18 บาท

- คง Rating "Sell" ราคาเป้าหมายหลัง XR ระดับประมาณ 2.8-3บาท จากเดิม 3.52 บาท

ความเห็น:ในทางเทคนิคเคลื่อนไหวในรูปแบบสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีแนวรับหลัก5.95บาท หากหลุดด่านนี้เสี่ยงตกลงไปอย่างน้อยเขต5.45-5.25บาท หรือลึกกว่านั้น อาจลงไป3.50-4บาท จึงควรหลีกเลี่ยง

1.2หุ้นที่คาดว่าอาจมีการทำWindow dressing ในงวดสิ้นไตรมาส 1/2554 โดยน่าจะมีการทำปิดในสัปดาห์นี้

ฝ่ายวิจัยบล.พัฒนสินคาดว่าหุ้นที่อาจจะมีการทำราคาปิดงวดไตรมาส1/54 (Window dressing )

กลุ่มแรก 1. อัตราผลตอบแทนแย่กว่าตลาดมาก QTD และราคาหุ้นแย่กว่าตลาด MTD ได้แก่ LH (กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน) AOT TTA RCL MINT (รับข่าวแผ่นดินไหวญี่ปุ่นไปมาก) TRUE (ข่าวการปรับโครงสร้างหนี้ และกระแสควบรวมกิจการ) SCCC (ราคาวัสดุฯอาจปรับขึ้นตามอุปสงค์ส่วนเพิ่มจากการบูรณะญี่ปุ่น)

ส่วนกลุ่มที่สองเป็นหุ้นที่รีบาวด์ขึ้นมาบ้างแล้วในเดือน มีค.แต่ยังคง Laggard QTD (ราคาต่ำกว่าราคาพื้นฐานแท้จริงมาก) ได้แก่ TCAP SAT (ความคาดหวังเชิงบวกจากยอดขายงานมอเตอร์โชว์) MAKRO BIGC CK (หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง) THAI (Japan earthquake price in) DCC TSTH (Japan reconstruction demand)

-ได้อานิสงส์จากพิบัติภัยในญี่ปุ่น กลุ่มวัสดุฯ ซีเมนต์ เหล็ก SCC MCS TSTH TMT บูรณะซ่อมแซม

-กลุ่มยานยนต์ เรือ นิคมอุตสาหกรรม ยางพารา STA SAT TTA HEMRAJ AMATA เพราะกระบวนการผลิตของญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ

-PoliticalPlay หรืออิงการเมือง:กลุ่มสื่อสาร มีเดีย รับเหมาฯ AIS DTAC MCOT STEC

-กลุ่มเช่าซื้อรถใหม่ TCAP TISCO SCB งานมอเตอร์โชว์เริ่มพรุ่งนี้

-หุ้นที่โบรกเกอร์ฝรั่งRSB(รอยัลสก๊อตช์แบงก์)เพิ่มเป้าหมายขึ้นคือ SCB มองว่าเป็นหุ้นคุณภาพดีกว่าใครในกลุ่ม แต่ราคาถูกที่สุดหากเทียบกับหุ้นแบงก์ไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยให้ราคาเป้าหกมายเป็น 150 บาท และปรับเป้าKTBขึ้นเป็น23บาท โดยมองว่าขีดความสามารถแข่งขันสูงขึ้นมาก


********
หลักสูตรนี้ที่นี่ที่เดียว อบรมเข้ม สอนมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 45 วันอาทิตย์ 3 เมษายน

" สูตรลัด...มือใหม่เล่นหุ้นให้รวย รุ่นที่ 45"

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
*สูตรนี้มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดี่ยว*

เหมาะสมกับ
- ผู้ที่อยากรวยด้วยหุ้น ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อน อยากเริ่มหัดเล่นให้เป็นและถูกวิธีแบบศิษย์มีครู
- ผู้ต้องการหารายได้เพิ่ม
- นักลงทุนที่ต้องการกำไรงาม
-นักลงทุนมือเก่าหรือกลางเก่ากลางใหม่ที่ต้องการแก้ไขความผิดพลาด เพราะไม่รู้วิธีการลงทุน+เก็งกำไรที่ถูกต้อง

สอนโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ วันอาทิตย์ที่ 3 เมย.54

สอบถามรายละเอียด บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร 02-9275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

ขั้นตอนการสมัคร แฟกซ์หลักฐานการชำระเงิน มาที่หมายเลข : 02-927-5880
หรือ E-Mail:tontan2008@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชำระเงินผ่านธนาคารในนามบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ประเภท ออมทรัพย์
1. ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 056-0-25774-3
2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 136-2-18236-6

" บริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร "

คัมภีร์หุ้นไทย(25มี.ค.):จับตาเขตพีคเก่า1055เริ่มเข้าโซนอันตรายOver heatหากไม่ผ่านอาจขายทำกำไรซักยก แต่ยังพอลุ้นกรณีผ่านได้มีการปรับลดความร้อนแรงในตัว

หลักสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ที่นี่ที่เดียว-อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม มีสอนเฉพาะหลักสูตรนี้ที่เดียว คำนวณหาทั้งมิติด้านราคา และมิติด้านเวลา ซื้อขายราคาไหน ต้องซื้อหรือขายทำกำไรเมื่อใด ให้เข้าออกแม่นยำ ผ่านการพิสูจน์มานานเกิน 10 ปี โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน(ตอนนี้เหลือเพียง5ที่นั่ง) 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

คัมภีร์หุ้นไทย(25มี.ค.):จับตาเขตพีคเก่า1055เริ่มเข้าโซนอันตรายOver heatหากไม่ผ่านอาจขายทำกำไรซักยก แต่ยังพอลุ้นกรณีผ่านได้มีการปรับลดความร้อนแรงในตัว แล้วตีด่านนี้แตกเพื่อไปพีค1132ในเดือนหน้า ได้Window dressingหนุน

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

*********


1.ข่าวและปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นวันนี้

-ปัจจัยบวกคือ รายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง จะช่วยทำให้ความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีสูงขึ้น และการคาดว่าตลาดหุ้นอาจมีการทำราคาปิดก่อนสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing)

-ตลาดเชื่อญี่ปุ่นจะฟื้นตัว กองทุนETFญี่ปุ่นมีเงินลงทุนไหลเข้าสูงถึง 700 ล้านดอลล์ (16มีค.) สูงกว่าสถิติเดิมปี 2003 ถึง 2 เท่า

-คาดนายกฯยุบสภาในราวเดือนพฤษภาคม จัดเลือกตั้งราวกรกฎาคม ซึ่งสถิติในอดีตหุ้นมักขึ้นก่อนและหลังเลือกตั้งใหญ่ เรียกว่ามีElection Rallyยังเป็นประเด็นทางบวกรออยู่ข้างหน้า

II. หุ้นเด่น-หุ้นด้อย:หุ้นที่คาดว่าจะทำWindow dressing

1.หุ้นที่คาดว่าอาจมีการทำWindow dressing ในงวดสิ้นไตรมาส 1/2554
ฝ่ายวิจัยบล.พัฒนสินคาดว่าหุ้นที่อาจจะมีการทำราคาปิดงวดไตรมาส1/54 (Window dressing )

กลุ่มแรก 1. อัตราผลตอบแทนแย่กว่าตลาดมาก QTD และราคาหุ้นแย่กว่าตลาด MTD ได้แก่ LH (กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน) AOT TTA RCL MINT (รับข่าวแผ่นดินไหวญี่ปุ่นไปมาก) TRUE (ข่าวการปรับโครงสร้างหนี้ และกระแสควบรวมกิจการ) SCCC (ราคาวัสดุฯอาจปรับขึ้นตามอุปสงค์ส่วนเพิ่มจากการบูรณะญี่ปุ่น)

ส่วนกลุ่มที่สองเป็นหุ้นที่รีบาวด์ขึ้นมาบ้างแล้วในเดือน มีค.แต่ยังคง Laggard QTD (ราคาต่ำกว่าราคาพื้นฐานแท้จริงมาก) ได้แก่ TCAP SAT (ความคาดหวังเชิงบวกจากยอดขายงานมอเตอร์โชว์) MAKRO BIGC CK (หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง) THAI (Japan earthquake price in) DCC TSTH (Japan reconstruction demand)

-ได้อานิสงส์จากพิบัติภัยในญี่ปุ่น กลุ่มวัสดุฯ ซีเมนต์ เหล็ก SCC MCS TSTH TMT บูรณะซ่อมแซม

-กลุ่มยานยนต์ เรือ นิคมอุตสาหกรรม ยางพารา STA SAT TTA HEMRAJ AMATA เพราะกระบวนการผลิตของญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ

-PoliticalPlay หรืออิงการเมือง:กลุ่มสื่อสาร มีเดีย รับเหมาฯ AIS DTAC MCOT STEC

-กลุ่มเช่าซื้อรถใหม่ TCAP TISCO SCB งานมอเตอร์โชว์เริ่มพรุ่งนี้

-หุ้นที่โบรกเกอร์ฝรั่งRSB(รอยัลสก๊อตช์แบงก์)เพิ่มเป้าหมายขึ้นคือ SCB มองว่าเป็นหุ้นคุณภาพดีกว่าใครในกลุ่ม แต่ราคาถูกที่สุดหากเทียบกับหุ้นแบงก์ไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยให้ราคาเป้าหกมายเป็น 150 บาท และปรับเป้าKTBขึ้นเป็น23บาท โดยมองว่าขีดความสามารถแข่งขันสูงขึ้นมาก


III.แนวโน้มหุ้นไทยผ่านด่าน1020 ป้ายต่อไปพีคเก่า1056 เริ่มเข้าเขตover heat หากไม่ผ่านก็น่าขายทำกำไร ยกเว้นผ่านได้ยังมีลุ้น rally ไปพีคในเดือนเมษายนแถว1130 ส่วนวันนี้ต้าน1040-1045




แนวโน้ม-ยังอัพเดตทิศทางต่อเนื่อง คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว โดยเฉพาะล่าสุดหลังจากขึ้นผ่านแนวต้านdowntrend~1020 จุด ป้ายต่อไปคือจะขึ้นไปพีคเก่า 1056

โดยมีแนวต้านย่อยช่วงนี้ ด่านแรก1035ถัดไป 1040-1045 ก่อนขึ้นไปด่านพีคเก่า 1056จุด แนวรับวันนี้1035-1030จุด

จากนั้นค่อยไปลุ้นว่าจะผ่านพีคเก่า1056หรือไม่ หากผ่านก็จะขึ้นไปเป้าหมายที่ประเมินไว้เขตนิวไฮ 1100-1132จุด ในเดือนเมษายน

โดยเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

3.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด ต่อมาทำฐานยกสูงขึ้นมาเป็นเขต 998 และทำนิวไฮเกิน 1025 เมื่อวานก่อนนี้

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่านพีคเก่า 1055+/- หากผ่านจะมีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

3.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว26วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นก็อีก5-10 วันทำการ นับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ 12 วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี แสดงว่าอแนวโน้มระยะกลางถึงยาวดีมาก

-MODIFIED STOCHASTICS ที่ผ่านมาเป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

อย่างไรก็ตามเมื่อ 22มี.ค.ที่ผ่านมากลับมาเป็นสัญญาณซื้อ เมื่อ %K ตัดขึ้นผ่าน %D ล่าสุดอยู่แถว 90% โดยปกติกว่าจะขึ้นไปพีคแต่ละรอบก็เมื่อ%Kขึ้นไปราวๆ95% ก็แสดงว่ามีroomให้ขึ้นในรอบนี้อีกไม่มาก เพราะเริ่มเข้าโซนoverboughtแล้ว ดังนั้นการขึ้นไปเขตพีคเก่า1055+/- ก็ถือว่ามีนัยสำคัญที่อาจเกิดการขายทำกำไรอีกยกก็ได้

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ และภาพระยะสั้นที่ผ่านมาเป็นการปรับลดoverboughtลงมาจนสมบูรณ์แล้ว (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) และล่าสุดเมื่อขึ้นผ่านเหนือด่าน1020+/-ได้ และทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ998 จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

โดยมองไว้ 2 กรณีคือ อาจขึ้นไปแค่พีคเก่า1056 หรือตีผ่านด่านนี้ไปนิวไฮเขต1100-1132จุดในเดือนเมษายน ตามที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ ในเดือน9 และน่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1020ได้ในช่วงนี้ พร้อมกับเห็นวอลุมหนาตา

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1100-1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำใน2สัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อไว้รอขายเขตพีคเก่า1055จุด และหากเห็นmodified stochasticsขึ้นไปเขต95%แล้วมีแรวขายมาก


IV.SET50 เป้าหมายฟื้นตัว จับตาจะผ่านด่าน730-735ได้หรือไม่? ในขณะที่เข้าโซนover heatแล้ว


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-2สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญ่ 720-724 แนวต้าน728-730 ถัดไป 735 โดยมีแนวต้านowntrendหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

อย่างไรก็ตามเครื่องมือระยะสั้นคือmodified stochasticsเริ่มเข้าเขตover boughtเมื่อ%Kมาเขต90% หากขึ้นไปเขต95%ก็พอดีอาจขึ้นมาราวๆ730-735บริเวณพีคเก่า อาจเกิดแรงขายทำกำไรซักยก

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-694 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แล้วถือทดสอบแนวต้านต่างๆโดยลุ้นให้ผานด่าน718หรือไม่ในสัปดาห์นี้ หากผ่านถือไปทดสอบด่าน730-735 ซึ่งหากเห็น modified stochasticsเริ่มเข้าเขตover boughtเมื่อ%Kขึ้นไปเขต95% ก็น่าขายทำกำไรซักยก

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราวๆ 4เมษายน หรือช้าหน่อยหลังสงกรานต์ อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690 (ทั้งนี้ต้องเห็นยืนเหนือ730มั่นคงในระยะสัปดาห์จึงจะน่าถือหุ้น)



********
หลักสูตรนี้ที่นี่ที่เดียว อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม

เหมาะกับนักลงทุนและนักเก็งกำไรที่ต้องการหาจังหวะ/เวลาเข้าซื้อขายถูกต้องแม่นยำ ทำกำไรได้มากกว่าใครๆที่ไม่ได้เรียนหลักสูตรนี้ ลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ลาทีติดหุ้น-ขายหมู ไม่รู้จังหวะเข้าออกให้รวยคำใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.2554 เวลา 09.30 ถึง 17.30 น.

ที่ห้องประชุมทางปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัดโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น และอาจารย์ช.โชติวงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทIRS เจ้าของโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นAPEX-IRS
กำหนดการอบรมเรียนวิเคราะห์ทางเทคนิค หุ้น ทองคำ น้ำมัน TFEX และเอกลักษณ์เรื่องTime Zoneสอนที่นี่ที่เดียว
(ขั้นสูง-ADVANC) รุ่นที่12
08.30-09.00 น. ลงทะเบียน
09.00-10.00 น. ทบทวนการวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้น
10.00-10.30 น. ทฤษฎี Elliot wave คลื่นมหัศจรรย์ กำหนดจังหวะการลงทุนอย่างแม่นยำเบื้องต้น
10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.45-12.00 น.
ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการนับคลื่นและทดลองลงทุนด้วย
Elliot wave + Fibonacci + indicators + trend
12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
13.00-14.30 น.
วิเคราะห์รูปแบบราคาประเภทต่างๆที่มีผลต่อการต่อเนื่องของแนวโน้ม,
การเปลี่ยนแนวโน้ม,จุดเปลี่ยนสำคัญ เช่น รูปแบบ
double top
double bottom, triple top
, triple bottom,
head&shoulders,
สามเหลี่ยม triangle, ธง flag, รูปลิ่ม,
GAP,ISOLATE ISLAND
14.30-14.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
14.45-16.30 น. -ฝึกปฏิบัติการเรื่องTime Zoneสอนที่นี่ที่เดียว เมื่อใดควรซื้อ เมื่อใดควรถือ การคำนวณหาจุดพีคและจุดbottomในเรื่องเวลา เหมาะกับท่านที่สนใจว่าซื้อหุ้นแล้วควรถือนานเท่าใด กี่วัน กี่สัปดาห์ กี่เดือน กี่ปี มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดียว ผ่านการพิสูจน์มานานกว่า 10ปีว่าแม่นยำ
-วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของราคาสินค้าประเภทต่างๆ คือ ทองคำ, น้ำมัน, หุ้น, Futures และ ค่าเงิน (เช่น หากหุ้นลง ทองขึ้น, เงินแข็งทองตก, เงินเข้าหุ้นขึ้นฯลฯ)
16.30-17.00 น.
ผสมผสานความรู้ที่เรียนมาเชิงปฏิบัติการ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ลงทุนที่แม่นตรง

สอบถามรายละเอียด บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร 02-9275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

ขั้นตอนการสมัคร แฟกซ์หลักฐานการชำระเงิน มาที่หมายเลข : 02-927-5880
หรือ E-Mail:tontan2008@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชำระเงินผ่านธนาคารในนามบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ประเภท ออมทรัพย์
1. ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 056-0-25774-3
2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 136-2-18236-6

" บริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร "

คัมภีร์หุ้นไทย(24มี.ค.):ป้ายหน้า1056ยังคาดมีนิวไฮ1132ในเดือนเมษาฯ ถือไว้กินคำใหญ่

หลักสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ที่นี่ที่เดียว-อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม มีสอนเฉพาะหลักสูตรนี้ที่เดียว คำนวณหาทั้งมิติด้านราคา และมิติด้านเวลา ซื้อขายราคาไหน ต้องซื้อหรือขายทำกำไรเมื่อใด ให้เข้าออกแม่นยำ ผ่านการพิสูจน์มานานเกิน 10 ปี โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน(ตอนนี้เหลือเพียง5ที่นั่ง) 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

*********

I.ข่าวและปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นวันนี้

1.1 ปัจจัยลบ

–ค่าเงินยูโรอ่อนค่า จากวิตกปัญหาการชำระหนี้ของแบงก์ในไอร์แลนด์และโปรตุเกส อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หลังจากวานนี้สภาไม่อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดของนายกฯ และมีความเสี่ยงเข้าโปรแกรมรายต่อไป

–สหรัฐฯ ประกาศเป็นชาติแรกที่ห้ามนำเข้านม ผักโขม จากเขตนิวเคลียร์ญี่ปุ่น ขณะที่เกาหลีใต้เตรียมแบนเร็วๆนี้

-รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงความเสียหายจากแผ่นดินไหวสูงถึงUS$3.08แสนล้าน

-TRIS Rating คาดธุรกิจอสังหาฯในปี 2554 ยังคงเผชิญความเสี่ยงกับภาวะล้นตลาดต่อไป

1.2ปัจจัยบวก

-ตลาดเชื่อญี่ปุ่นจะฟื้นตัว กองทุนETFญี่ปุ่นมีเงินลงทุนไหลเข้าสูงถึง 700 ล้านดอลล์ (16มีค.) สูงกว่าสถิติเดิมปี 2003 ถึง 2 เท่า

-คาดนายกฯยุบสภาในราวเดือนพฤษภาคม จัดเลือกตั้งราวกรกฎาคม ซึ่งสถิติในอดีตหุ้นมักขึ้นก่อนและหลังเลือกตั้งใหญ่ เรียกว่ามีElection Rallyยังเป็นประเด็นทางบวกรออยู่ข้างหน้า

II. หุ้นเด่น-หุ้นด้อย:

-ได้อานิสงส์จากพิบัติภัยในญี่ปุ่น กลุ่มวัสดุฯ ซีเมนต์ เหล็ก SCC MCS TSTH TMT บูรณะซ่อมแซม

-กลุ่มยานยนต์ เรือ นิคมอุตสาหกรรม ยางพารา STA SAT TTA HEMRAJ AMATA เพราะกระบวนการผลิตของญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ

-PoliticalPlay หรืออิงการเมือง:กลุ่มสื่อสาร มีเดีย รับเหมาฯ AIS DTAC MCOT STEC

-กลุ่มเช่าซื้อรถใหม่ TCAP TISCO SCB งานมอเตอร์โชว์เริ่มพรุ่งนี้

-หุ้นที่โบรกเกอร์ฝรั่งRSB(รอยัลสก๊อตช์แบงก์)เพิ่มเป้าหมายขึ้นคือ SCB มองว่าเป็นหุ้นคุณภาพดีกว่าใครในกลุ่ม แต่ราคาถูกที่สุดหากเทียบกับหุ้นแบงก์ไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยให้ราคาเป้าหกมายเป็น 150 บาท และปรับเป้าKTBขึ้นเป็น23บาท โดยมองว่าขีดความสามารถแข่งขันสูงขึ้นมาก

-หุ้นฤดูปันผล โดยจะขึ้นXD เด่นๆดังนี้ :24 มีค. NTVA@7.3 PERM@0.04 ROJNA@0.40 SPORT@0.06 TCP@0.6 WG@4.5 ส่วนหุ้นที่อาจมีแรงซื้อคืนหุ้นก่อนXD: AIS BIGC DCC GFPT SCC BANPU BECL


III.แนวโน้มหุ้นไทยผ่านด่าน1020 ป้ายต่อไปพีคเก่า1056 และยังมีลุ้น rally ไปพีคในเดือนเมษายนแถว1130




แนวโน้ม-ยังอัพเดตทิศทางต่อเนื่อง คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว โดยเฉพาะล่าสุดหลังจากขึ้นผ่านแนวต้านdowntrend~1020 จุด ป้ายต่อไปคือจะขึ้นไปพีคเก่า 1056

โดยมีแนวต้านย่อยช่วงนี้ ด่านแรก1035ถัดไป 1040-1045 ก่อนขึ้นไปด่านพีคเก่า 1056จุด

จากนั้นค่อยไปลุ้นว่าจะผ่านพีคเก่า1056หรือไม่ หากผ่านก็จะขึ้นไปเป้าหมายที่ประเมินไว้เขตนิวไฮ 1100-1132จุด ในเดือนเมษายน

โดยเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

3.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด ต่อมาทำฐานยกสูงขึ้นมาเป็นเขต 998 และทำนิวไฮเกิน 1025 เมื่อวานนี้

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่านพีคเก่า 1055+/- หากผ่านจะมีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

3.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว25วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นอย่างน้อยก็อีก5-10 วันทำการ นับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ 11 วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี

-MODIFIED STOCHASTICS ที่ผ่านมาเป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

อย่างไรก็ตามเมื่อ 22มี.ค.ที่ผ่านมากลับมาเป็นสัญญาณซื้อ เมื่อ %K ตัดขึ้นผ่าน %D ล่าสุดอยู่แถว 82% โดยปกติกว่าจะขึ้นไปพีคแต่ละรอบก็เมื่อ%Kขึ้นไปราวๆ95% ก็แสดงว่ามีroomให้ขึ้นในรอบนี้มากพอสมควร ก็อย่างน้อยน่าจะไปพีคเก่า1055+/-ได้

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ และภาพระยะสั้นที่ผ่านมาเป็นการปรับลดoverboughtลงมาจนสมบูรณ์แล้ว (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) และล่าสุดเมื่อขึ้นผ่านเหนือด่าน1020+/-ได้ และทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ998 จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

โดยมองไว้ 2 กรณีคือ อาจขึ้นไปแค่พีคเก่า1056 หรือตีผ่านด่านนี้ไปนิวไฮเขต1100-1132จุดในเดือนเมษายน ตามที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1020ได้ในช่วงนี้ พร้อมกับเห็นวอลุมหนาตา

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1100-1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำใน2สัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อ ยกเว้นช่วงสัปดากห์นี้ทำท่าว่าไม่ไปเกินด่าน1020-1025 หรือเจอแรงขายหนักๆที่เขตนี้


IV.SET50 เป้าหมายฟื้นตัว จับตาจะผ่านด่าน730-735ได้หรือไม่?


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-2สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญ่ 715-718 แนวต้าน727-730 โดยมีแนวต้านowntrendหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-694 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แล้วถือทดสอบแนวต้านต่างๆโดยลุ้นให้ผานด่าน718หรือไม่ในสัปดาห์นี้ หากผ่านถือไปทดสอบด่าน730-735ต่อไป แต่หากไม่ผ่านด่าน718 ก็น่าขายทำกำไร แล้วรอรับกลับเขต700-705

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราวๆ 4เมษายน หรือช้าหน่อยหลังสงกรานต์ อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690



********
หลักสูตรนี้ที่นี่ที่เดียว อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม

เหมาะกับนักลงทุนและนักเก็งกำไรที่ต้องการหาจังหวะ/เวลาเข้าซื้อขายถูกต้องแม่นยำ ทำกำไรได้มากกว่าใครๆที่ไม่ได้เรียนหลักสูตรนี้ ลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ลาทีติดหุ้น-ขายหมู ไม่รู้จังหวะเข้าออกให้รวยคำใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.2554 เวลา 09.30 ถึง 17.30 น.

ที่ห้องประชุมทางปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัดโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น และอาจารย์ช.โชติวงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทIRS เจ้าของโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นAPEX-IRS
กำหนดการอบรมเรียนวิเคราะห์ทางเทคนิค หุ้น ทองคำ น้ำมัน TFEX และเอกลักษณ์เรื่องTime Zoneสอนที่นี่ที่เดียว
(ขั้นสูง-ADVANC) รุ่นที่12
08.30-09.00 น. ลงทะเบียน
09.00-10.00 น. ทบทวนการวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้น
10.00-10.30 น. ทฤษฎี Elliot wave คลื่นมหัศจรรย์ กำหนดจังหวะการลงทุนอย่างแม่นยำเบื้องต้น
10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.45-12.00 น.
ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการนับคลื่นและทดลองลงทุนด้วย
Elliot wave + Fibonacci + indicators + trend
12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
13.00-14.30 น.
วิเคราะห์รูปแบบราคาประเภทต่างๆที่มีผลต่อการต่อเนื่องของแนวโน้ม,
การเปลี่ยนแนวโน้ม,จุดเปลี่ยนสำคัญ เช่น รูปแบบ
double top
double bottom, triple top
, triple bottom,
head&shoulders,
สามเหลี่ยม triangle, ธง flag, รูปลิ่ม,
GAP,ISOLATE ISLAND
14.30-14.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
14.45-16.30 น. -ฝึกปฏิบัติการเรื่องTime Zoneสอนที่นี่ที่เดียว เมื่อใดควรซื้อ เมื่อใดควรถือ การคำนวณหาจุดพีคและจุดbottomในเรื่องเวลา เหมาะกับท่านที่สนใจว่าซื้อหุ้นแล้วควรถือนานเท่าใด กี่วัน กี่สัปดาห์ กี่เดือน กี่ปี มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดียว ผ่านการพิสูจน์มานานกว่า 10ปีว่าแม่นยำ
-วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของราคาสินค้าประเภทต่างๆ คือ ทองคำ, น้ำมัน, หุ้น, Futures และ ค่าเงิน (เช่น หากหุ้นลง ทองขึ้น, เงินแข็งทองตก, เงินเข้าหุ้นขึ้นฯลฯ)
16.30-17.00 น.
ผสมผสานความรู้ที่เรียนมาเชิงปฏิบัติการ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ลงทุนที่แม่นตรง

สอบถามรายละเอียด บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร 02-9275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

ขั้นตอนการสมัคร แฟกซ์หลักฐานการชำระเงิน มาที่หมายเลข : 02-927-5880
หรือ E-Mail:tontan2008@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชำระเงินผ่านธนาคารในนามบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ประเภท ออมทรัพย์
1. ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 056-0-25774-3
2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 136-2-18236-6

" บริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร "

คัมภีร์หุ้นไทย(22มี.ค.): ลุ้นผ่าน1020ตอนนี้เกิดสัญญาณซื้อที่น่าวิ่งไปพีคเก่า1055หรือลุ้นrallyไปนิวไฮ1130ในเดือนหน้าแล้ว

หลักสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ที่นี่ที่เดียว-อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม มีสอนเฉพาะหลักสูตรนี้ที่เดียว คำนวณหาทั้งมิติด้านราคา และมิติด้านเวลา ซื้อขายราคาไหน ต้องซื้อหรือขายทำกำไรเมื่อใด ให้เข้าออกแม่นยำ ผ่านการพิสูจน์มานานเกิน 10 ปี โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้ส อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

I.สงครามลิเบียกับผลกระทบต่อตลาดหุ้น

ผมเคยกล่าวอยู่ตลอดว่า ตลาดหุ้นกับข่าวร้ายข่าวลบนั้นเป็นของคู่กัน พอจบเรื่องนี้ก็มีเรื่องนั้น หมดเรื่องเก่าก็มีเรื่องใหม่

ดูอย่างไม่กี่วันก่อนมมีเรื่องแผ่นดินไหว สึนามิญี่ปุ่น นึกว่าจบ มามีปัญหากัมมันตรังสีนิวเคลียร์ พอทำท่าคลี่คลาย ชาติพันธมิตรนำโดยอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษพากันโจมตีลิเบียอีก

แต่หนนี้จะไม่เกิดpanic sell เพราะว่าอเมริกากับพรรคพวกฮึ่มฮั่มทำท่าอยากหาเหตุโจมตีกัดดาฟี่มานานเต็มแก่ พอโจมตีก็เลยทำให้หุ้นขึ้น(หากย้อนไปดูตอนสงครามอ่าวฯครั้งแรก และครั้งที่2จะแบ่งเป็น3ระยะ คือตอนแรกกลัวเกิดสงคราม หุ้นตกหนักpanic ช่วงสองซึมๆรอดูความชัดเจน ส่วนช่วงที่สามพอเปิดฉากรบ หุ้นก็ขึ้นเลย…หากเทียบกับตอนโจมตีลิเบียเวลานี้ก็คือ เปิดฉากรบ หุ้นก็จะขึ้นเลย คืออยู่ขั้นที่3)

*ข่าวสงครามก็จะทำให้น้ำมันขึ้น กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบ PTTEP BANPU ในทางตรงกันข้ามเป็นผลลบต่อ THAI TASCO)

อย่างไรก็ดีหากการโจมตีปิดฉากเร็วก็จะกลับมาเป็นผลลบต่อราคาน้ำมันเช่นกัน

II.ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากญี่ปุ่น

1. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางบวก คือกลุ่มที่คาดว่ามีผลกระทบเชิงบวกจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น:

-โรงกลั่น PTTAR(TP43) TOP(TP87) IRPC ESSO

-ถ่านหิน BANPU LANNA

-อาหาร CPF GFPT(คาดยอดขายปีนี้โต10%มาริ์จิ้นเท่าเดิม15%) TUF

-บูรณะซ่อมแซม MCS SCC SCCC TTCL(อาจได้งานซ่อมแซมในญี่ปุ่น) SMT(คาดกำไรปี54โต35%)

-นิคมอุตสาหกรรม AMATA HEMRAJ

2.กลุ่มที่ได้รับผลลบคือกลุ่ม กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่งทางเรือ ยานยนต์(กระบวนการผลิตอาจล่าช้า)THAI AOT CENTEL MINT TTA PSL RCL(ญี่ปุ่นปิดท่าเรือ) STA(ญี่ปุ่นผิดรับซื้อยางพารา ส่งผลราคายางร่วงแรง) STANLY SAT

สรุป-โดยเมื่อพิจารณาผลดีผลเสียแล้ว ก็ยังเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า เนื่องจากหุ้นตัวใหญ่ได้ผลบวกมากกว่า ส่วนหุ้นที่ได้ผลลบนั้นเป็นหุ้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาร์เก็ตแค็ปใหญ่เท่ากลุ่มที่ได้ผลบวก

III.แนวโน้มหุ้นไทยลุ้นผ่านด่านหลัก~1020ในสัปดาห์นี้เพื่อrallyไปพีคในเดือนเมษายนแถว1130




ภาพแนวโน้มมองเป็น2มิติดังนี้

*กรณีที่1-เป็นเหมือนที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาปรับลดความร้อนแรงลงทางเทคนิค ผสมกับลงจากการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่น

หากยืนเหนือด่าน1000+/-(996-1000) หรือไม่ทำจุดต่ำลึกกว่าโลว์เก่า977(เช่นทำจุดต่ำแถวๆ996-980)ก็พร้อมขึ้นในระยะต่อไป

ช่วงนี้มีด่านแนวต้านdowntrend~1020-1025 สัปดาห์นี้หากผ่านด่าน1020-1025ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ และลุ้นผ่านด่านนี้ก็จะขึ้นไปพีคเก่า1056และคาดว่าจะขึ้นไปพีคเขต1100-1032ราวต้นเดือนเมษายน

ซึ่งสัปดาห์ก่อนนี้ยืนเหนือแนวรับ996จุดได้ แล้วทำฐานยกสูง จึงคาดว่ามมีโอกาสจะผ่านด่าน1022-1025จุด

*กรณีที่2-หากมองว่า มีนัยยะสำคัญตรงเส้นกดหัว(Downtrend line) แล้วจะกดดันให้ตลาดแกว่งตัวลง(sideway down) ก็จับตาดูในสัปดาห์นี้ หากขึ้นไปทดสอบด่าน1020+/-แล้วพบแรงขายลงมาหนัก ก็อาจลงไปหลุดเขต996 ลงไป ก็อาจลงไปต่อด่าน977-982หรือถัดไปlowเก่า975 หรือลงนิวโลว์925จุด (ซึ่งกรณีที่2นี้เป็นภาพเชิงลบ ต่างจากกรณีที่1)

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

3.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด หากลงมารอบนี้ทำฐานสูงขึ้น เช่นมีlowแค่แถว996 คือlowวานก่อนนี้ หรือหากลงวันนี้ไม่ทำจุดต่ำกว่า996-998ก็แสดงว่าทำฐานสูงขึ้น

หรือแม้แต่วันนี้ทำlowลึกกว่า996แล้วลงไปlowแถว980แต่ไม่ย้อนลงไปลึกกว่าlowเก่า977ก็ยังมองว่า ทำฐานยกสูงขึ้น

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่าน1025+/- และคาดการณ์ว่าจะผ่านขึ้นไปพีคเดิมในเป้าหมายถัดไป 1056 จากนั่นก็ควรคาดการณ์ว่าจะไปทำนิวไฮจริงจัง ที่มีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

3.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว23วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นอย่างน้อยก็อีก10-15วัน นับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ9วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี

-MODIFIED STOCHASTICS ที่ผ่านมาเป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

อย่างไรก็ตามภาคเช้าววันนี้(22มี.ค.) %K ขึ้นมาอยู่ที่ 74% ได้เริ่มเกิดสัญญาณซื้อ(buy signal) เพราะขึ้นผ่าน%D ซึ่งอยู่ที่ 69 % โดยปกติกว่าจะขึ้นไปพีคแต่ละรอบก็เมื่อ%Kขึ้นไปราวๆ95% ก็แสดงว่ามีroomให้ขึ้นในรอบนี้มากพอสมควร ก็อย่างน้อยน่าจะไปพีคเก่า1055+/-ได้

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ และภาพระยะสั้นที่ผ่านมาเป็นการปรับลดoverboughtลงมาพอสมควรแล้ว (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) หากยืนเหนือด่าน1020+/-ได้ หรือทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ998 จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1020ได้ในช่วงนี้ พร้อมกับเห็นวอลุมหนาตา โดยอาจเข้าซื้อกลุ่มที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1100-1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำใน2สัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อ ยกเว้นช่วงสัปดากห์นี้ทำท่าว่าไม่ไปเกินด่าน1020-1025 หรือเจอแรงขายหนักๆที่เขตนี้


IV.SET50 เป้าหมายฟื้นไข้


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-2สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญ่710-713 แนวต้านสำคัญวันนี้ 718 หากผ่านก็จะไปต่อ หรือแนวต้านหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

อย่างไรก็ตามหากหลุดเขต700 จะลงไปเขต 688-692 หรือถัดไปเขต 677-672 จุด

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-694 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แล้วถือทดสอบแนวต้านต่างๆโดยลุ้นให้ผานด่าน718หรือไม่ในสัปดาห์นี้ หากผ่านถือไปทดสอบด่าน730-735ต่อไป แต่หากไม่ผ่านด่าน718 ก็น่าขายทำกำไร แล้วรอรับกลับเขต700-705

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราวๆ 4เมษายน หรือช้าหน่อยหลังสงกรานต์ อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690(แต่หากหลุด688ลงไปต้องไปรอด่านฐานใหญ่670-677จุด)

*********

หลักสูตรนี้ที่นี่ที่เดียว อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม

เหมาะกับนักลงทุนและนักเก็งกำไรที่ต้องการหาจังหวะ/เวลาเข้าซื้อขายถูกต้องแม่นยำ ทำกำไรได้มากกว่าใครๆที่ไม่ได้เรียนหลักสูตรนี้ ลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ลาทีติดหุ้น-ขายหมู ไม่รู้จังหวะเข้าออกให้รวยคำใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.2554 เวลา 09.30 ถึง 17.30 น.

ที่ห้องประชุมทางปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัดโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น และอาจารย์ช.โชติวงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทIRS เจ้าของโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นAPEX-IRS
กำหนดการอบรมเรียนวิเคราะห์ทางเทคนิค หุ้น ทองคำ น้ำมัน TFEX และเอกลักษณ์เรื่องTime Zoneสอนที่นี่ที่เดียว
(ขั้นสูง-ADVANC) รุ่นที่12
08.30-09.00 น. ลงทะเบียน
09.00-10.00 น. ทบทวนการวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้น
10.00-10.30 น. ทฤษฎี Elliot wave คลื่นมหัศจรรย์ กำหนดจังหวะการลงทุนอย่างแม่นยำเบื้องต้น
10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.45-12.00 น.
ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการนับคลื่นและทดลองลงทุนด้วย
Elliot wave + Fibonacci + indicators + trend
12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
13.00-14.30 น.
วิเคราะห์รูปแบบราคาประเภทต่างๆที่มีผลต่อการต่อเนื่องของแนวโน้ม,
การเปลี่ยนแนวโน้ม,จุดเปลี่ยนสำคัญ เช่น รูปแบบ
double top
double bottom, triple top
, triple bottom,
head&shoulders,
สามเหลี่ยม triangle, ธง flag, รูปลิ่ม,
GAP,ISOLATE ISLAND
14.30-14.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
14.45-16.30 น. -ฝึกปฏิบัติการเรื่องTime Zoneสอนที่นี่ที่เดียว เมื่อใดควรซื้อ เมื่อใดควรถือ การคำนวณหาจุดพีคและจุดbottomในเรื่องเวลา เหมาะกับท่านที่สนใจว่าซื้อหุ้นแล้วควรถือนานเท่าใด กี่วัน กี่สัปดาห์ กี่เดือน กี่ปี มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดียว ผ่านการพิสูจน์มานานกว่า 10ปีว่าแม่นยำ
-วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของราคาสินค้าประเภทต่างๆ คือ ทองคำ, น้ำมัน, หุ้น, Futures และ ค่าเงิน (เช่น หากหุ้นลง ทองขึ้น, เงินแข็งทองตก, เงินเข้าหุ้นขึ้นฯลฯ)
16.30-17.00 น.
ผสมผสานความรู้ที่เรียนมาเชิงปฏิบัติการ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ลงทุนที่แม่นตรง

สอบถามรายละเอียด บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร 02-9275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

ขั้นตอนการสมัคร แฟกซ์หลักฐานการชำระเงิน มาที่หมายเลข : 02-927-5880
หรือ E-Mail:tontan2008@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชำระเงินผ่านธนาคารในนามบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ประเภท ออมทรัพย์
1. ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 056-0-25774-3
2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 136-2-18236-6

" บริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร "

คัมภีร์หุ้นไทย(21มี.ค.):ถล่มกัดดาฟี่ หนุนหุ้นลุ้นผ่านด่านเส้นกดหัว1020-1025เพื่อrallyขึ้นไปพีค1130ในต้นเดือนหน้า

คู่มือหุ้น 2554-หนังสือคู่มือหุ้น2554ปีกระต่ายทอง วางแผงที่SE-EDแล้วครับ หรือมางานอบรม"เรียนกราฟขั้นเทพ" รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์ 27 มีนาคมนี้ อภินันทนาการฟรี พร้อมลายเซ็นผู้เขียนครับ แต่ตอนนี้รับได้ไม่เกิน15 ท่าน โทรจองที่นั่ง 02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้ส อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

I.สงครามลิเบียกับผลกระทบต่อตลาดหุ้น

ผมเคยกล่าวอยู่ตลอดว่า ตลาดหุ้นกับข่าวร้ายข่าวลบนั้นเป็นของคู่กัน พอจบเรื่องนี้ก็มีเรื่องนั้น หมดเรื่องเก่าก็มีเรื่องใหม่

ดูอย่างไม่กี่วันก่อนมมีเรื่องแผ่นดินไหว สึนามิญี่ปุ่น นึกว่าจบ มามีปัญหากัมมันตรังสีนิวเคลียร์ พอทำท่าคลี่คลาย ชาติพันธมิตรนำโดยอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษพากันโจมตีลิเบียอีก

แต่หนนี้จะไม่เกิดpanic sell เพราะว่าอเมริกากับพรรคพวกฮึ่มฮั่มทำท่าอยากหาเหตุโจมตีกัดดาฟี่มานานเต็มแก่ พอโจมตีก็เลยทำให้หุ้นขึ้น(หากย้อนไปดูตอนสงครามอ่าวฯครั้งแรก และครั้งที่2จะแบ่งเป็น3ระยะ คือตอนแรกกลัวเกิดสงคราม หุ้นตกหนักpanic ช่วงสองซึมๆรอดูความชัดเจน ส่วนช่วงที่สามพอเปิดฉากรบ หุ้นก็ขึ้นเลย…หากเทียบกับตอนโจมตีลิเบียเวลานี้ก็คือ เปิดฉากรบ หุ้นก็จะขึ้นเลย คืออยู่ขั้นที่3)

*ข่าวสงครามก็จะทำให้น้ำมันขึ้น หุ้นเครือPTTจะได้อานิสงส์ครับ

II.ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากญี่ปุ่น

1. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางบวก คือกลุ่มที่คาดว่ามีผลกระทบเชิงบวกจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น:

-โรงกลั่น PTTAR(TP43) TOP(TP87) IRPC ESSO

-ถ่านหิน BANPU LANNA

-อาหาร CPF GFPT(คาดยอดขายปีนี้โต10%มาริ์จิ้นเท่าเดิม15%) TUF

-บูรณะซ่อมแซม MCS SCC SCCC TTCL(อาจได้งานซ่อมแซมในญี่ปุ่น) SMT(คาดกำไรปี54โต35%)

-นิคมอุตสาหกรรม AMATA HEMRAJ

2.กลุ่มที่ได้รับผลลบคือกลุ่ม กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่งทางเรือ ยานยนต์(กระบวนการผลิตอาจล่าช้า)THAI AOT CENTEL MINT TTA PSL RCL(ญี่ปุ่นปิดท่าเรือ) STA(ญี่ปุ่นผิดรับซื้อยางพารา ส่งผลราคายางร่วงแรง) STANLY SAT

3. Oil Sensitive: คาดราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากการปิดโรงกลั่นในญี่ปุ่น4แห่ง เป็นผลลบต่อPTTEP เป็นผลดีต่อ TASCO ITD

สรุป-โดยเมื่อพิจารณาผลดีผลเสียแล้ว ก็ยังเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า เนื่องจากหุ้นตัวใหญ่ได้ผลบวกมากกว่า ส่วนหุ้นที่ได้ผลลบนั้นเป็นหุ้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาร์เก็ตแค็ปใหญ่เท่ากลุ่มที่ได้ผลบวก

III.แนวโน้มหุ้นไทยลุ้นผ่านด่านำหลัก~1020ในสัปดาห์นี้เพื่อrallyไปพีคในเดือนเมษายนแถว1130




ภาพแนวโน้มมองเป็น2มิติดังนี้

*กรณีที่1-เป็นเหมือนที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ปรับลดความร้อนแรงลงทางเทคนิค ผสมกับลงจากการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่น

หากยืนเหนือด่าน1000+/-(996-1000) หรือไม่ทำจุดต่ำลึกกว่าโลว์เก่า977(เช่นทำจุดต่ำแถวๆ996-980)ก็พร้อมขึ้นในระยะต่อไป

ด่านแนวต้านแรก1010-1016 แนวต้านdowntrend~1020-1025 สัปดาห์นี้หากผ่าน1010ก็จะไปทดสอบด่าน1020-1025ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ และลุ้นผ่านด่านนี้ก็จะขึ้นไปพีคเก่า1056และคาดว่าจะขึ้นไปพีคเขต1100-1032ราวต้นเดือนเมษายน

ซึ่งสัปดาห์ก่อนนี้ยืนเหนือแนวรับ996จุดได้ เมื่อวานก่อนฐานยกสูงขึ้นมาเป็นแถว998จุด คาดว่าวันนี้หากยืนเหนือแนวรับ996-1000จุดได้ ก็มีโอกาสเด้งขึ้นไปด่านแรก1010-1016 หากผ่านก็จะไปด่านถัดไปเขต1022-1025จุด หากลงมาวันนี้ยืนเขตแนวรับ1000+/-(996-1000จุด) ก็เป็นไปตามกรณีที่1

*กรณีที่2-หากมองว่า มีนัยยะสำคัญตรงเส้นกดหัว(Downtrend line) แล้วจะกดดันให้ตลาดแกว่งตัวลง(sideway down) ก็จับตาดูในสัปดาห์นี้ หากขึ้นไปทดสอบด่าน1020+/-แล้วพบแรงขายลงมาหนัก ก็อาจลงไปหลุดเขต996 ลงไป ก็อาจลงไปต่อด่าน977-982หรือถัดไปlowเก่า975 หรือลงนิวโลว์925จุด (ซึ่งกรณีที่2นี้เป็นภาพเชิงลบ ต่างจากกรณีที่1)

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

3.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด หากลงมารอบนี้ทำฐานสูงขึ้น เช่นมีlowแค่แถว996 คือlowวานก่อนนี้ หรือหากลงวันนี้ไม่ทำจุดต่ำกว่า996-998ก็แสดงว่าทำฐานสูงขึ้น

หรือแม้แต่วันนี้ทำlowลึกกว่า996แล้วลงไปlowแถว980แต่ไม่ย้อนลงไปลึกกว่าlowเก่า977ก็ยังมองว่า ทำฐานยกสูงขึ้น

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่าน1025+/- และคาดการณ์ว่าจะผ่านขึ้นไปพีคเดิมในเป้าหมายถัดไป 1056 จากนั่นก็ควรคาดการณ์ว่าจะไปทำนิวไฮจริงจัง ที่มีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

1.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว22วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นอย่างน้อยก็อีก10-15วัน นับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ9วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี

-MODIFIED STOCHASTICS เป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ %Kอยู่ที่ 57% ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ เพราะยังต่ำกว่า%D อยู่ที่ 67 % อย่างไรก็ดีสัญญาณตัวนี้เป็นสัญญาณระยะสั้นมาก หากSETลงมาเขต 1000+/-(996-1000)แล้วไม่หลุดต่ำกว่านี้ หรือฟื้นขึ้นไปปิดซักเขต1020-1025 ได้ในช่วงนี้ เครื่องมือตัวนี้ก็อาจกลับมาเป็นบวก คือ%kตัดผ่าน%dขึ้นไปอีกครั้ง

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ แต่ระยะสั้นที่ผ่านมาเป็นการปรับลดoverboughtลงมา (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) หากยืนเหนือด่าน1000+/-ได้(996-1000) หรือทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ977จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้ โดยอาจเข้าซื้อกลุ่มที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำใน2สัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อ ยกเว้นเห็นหลุดต่ำกว่าเขต995จุดลงไป ค่อยขายเอาทุนคืน ไปรอช้อนซื้ออาจเป็นเขต977-980จุด แต่หากยืนได้ก็เป็นจุดซื้อเพิ่ม โดยอิงหุ้นที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010ได้ในช่วงนี้



IV.SET50 เป้าหมายฟื้นไข้


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญ่700 +/-( 699-703 จุด) หากวันนี้ยืนได้อีกวันก็น่าจะหยุดลง และฟื้นตัวขึ้นไป แนวต้านแรก706 จุด ถัดไป 713-718 แนวต้านdowntrend หรือแนวต้านหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

อย่างไรก็ตามหากหลุดเขต700 จะลงไปเขต 688-692 หรือถัดไปเขต 677-672 จุด

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-694 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แล้วถือทดสอบแนวต้านต่างๆโดยลุ้นให้ผานด่าน718หรือไม่ในสัปดาห์นี้ หากผ่านถือไปทดสอบด่าน730-735ต่อไป แต่หากไม่ผ่านด่าน718 ก็น่าขายทำกำไร แล้วรอรับกลับเขต700-705

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราวๆ 4เมษายน หรือช้าหน่อยหลังสงกรานต์ อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690(แต่หากหลุด688ลงไปต้องไปรอด่านฐานใหญ่670-677จุด)

*****************


อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม

เหมาะกับนักลงทุนและนักเก็งกำไรที่ต้องการหาจังหวะ/เวลาเข้าซื้อขายถูกต้องแม่นยำ ทำกำไรได้มากกว่าใครๆที่ไม่ได้เรียนหลักสูตรนี้ ลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ลาทีติดหุ้น-ขายหมู ไม่รู้จังหวะเข้าออกให้รวยคำใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.2554 เวลา 09.30 ถึง 17.30 น.

ที่ห้องประชุมทางปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัดโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น และอาจารย์ช.โชติวงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทIRS เจ้าของโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นAPEX-IRS

08.30-09.00 น. ลงทะเบียน09.00-10.00 น. ทบทวนการวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้น (แนวโน้ม และเครื่องมืออย่างง่าย)

10.00-10.30 น. ทฤษฎี Elliot wave คลื่นมหัศจรรย์ กำหนดจังหวะการลงทุนอย่าง แม่นยำ ทำให้ท่านรู้ว่าตอนนี้ตลาดอยู่ช่วงไหนของขาขึ้น หรือขาลง อยู่ตีนดอย กลางดอย ปลายดอย หรือยอดดอย หาจังหวะทำกำไรได้ทั้งรอบใหญ่และทำกำไรระยะสั้น

10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง

10.45-12.00 น. ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการนับคลื่นและทดลองลงทุนด้วย Elliot wave + Fibonacci + indicators + trend รวมเทคนิคขั้นเทพ ด้วยการใช้หลักทฤษฎีคลื่นฟันธงแนวโน้มให้แม่นยำ แล้ววัดเป้าหมายการขึ้นลง และระยะเวลาในการลงทุนได้ในระดับเซียน ลดความเสียหาย เพิ่มพูนกำไรให้อีกหลายช่วง หากเทียบกับคนที่ไม่รู้ศาสตร์นี้

12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
13.00-14.30 น. วิเคราะห์รูปแบบราคาประเภทต่างๆที่มีผลต่อการต่อเนื่องของแนวโน้ม,การเปลี่ยนแนวโน้ม,จุดเปลี่ยนสำคัญ

-ทำอย่างไรแค่คุณมองปร๊าดเดียวก็รู้แล้วว่าทิศทางราคาหุ้น TFEX ทองคำ น้ำมันกำลังจะขึ้นรอบใหญ่ หรือตกหนักสาหัส หรือมันยังจะขึ้นลงต่อไปหรือไม่ ลบความผิดพลาดเรื่องการลงทุนแต่ดูทางไม่ขาด อ่านเกมไม่ทะลุ รู่เรื่องนี้ทวีความรวย

14.30-14.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง

14.45-16.30 น. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของราคาสินค้าประเภทต่างๆ คือ ทองคำ,น้ำมัน, หุ้น, Futures และ ค่าเงิน (เช่น หากหุ้นลง ทองขึ้น, เงินแข็งทองตก,เงินเข้าหุ้นขึ้น,ดอลลาร์ร่วงหุ้นขึ้น ดอลลาร์แข็งหุ้นทรุดฯลฯ)

16.30-17.00 น. ผสมผสานความรู้ที่เรียนมาเชิงปฏิบัติการ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ลงทุน ที่แม่นตรง ตลอดการเรียนเน้นลงมือฝึกปฏิบัติ สอนด้วยภาษาง่ายๆไม่ต้องปีนบันไดฟังให้ยุ่งยาก

*พิเศษ เพิ่มเติมการคำนวณหามูลค่าหุ้นที่เหมาะสมอย่างง่ายด้วยตัวท่านเอง และวิธีการคัดหาหุ้นทีเด็ด กำไร 2 เด้ง หลีกหนีหุ้นเน่าในหลักสูตรนี้*

*ค่าอบรมเพียงท่านละ3,500บาท (ถูกที่สุด แต่อาจจะดีที่สุดในประเทศไทย)

เรียนเชิงปฏิบัติการ ที่ห้องอบรมบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่นจำกัด รามคำแหง 160

*โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)


********

หนังสือออกใหม่คู่มือหุ้นไทยปีกระต่ายทอง2554 วางแผงแล้วตั้งแต่ 15มีนาคมนี้เป็นต้นไป ที่ร้านหนังสือSE-EDโดยณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ อ่านก่อนรวยกว่า

คัมภีร์หุ้นไทย(18มี.ค.): รับผลกระทบจากญี่ปุ่นน้อยมาก ทำฐานยกสูงขึ้น ลุ้นผ่านด่าน1010น่าไปด่านหลัก1020-1025คาดตีผ่านด่านนี้ได้ จะขึ้นรอบใหม่ไปพีคเม.ย.

คู่มือหุ้น2554-หนังสือคู่มือหุ้น2554ปีกระต่ายทอง วางแผงที่SE-EDแล้วครับ วันนี้เดินตามแผงวางแล้วชัวร์ๆหาซื้อได้ หรือมางานอบรมสอนมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย+สอนมือเก่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้น รุ่นที่ 44 วันอาทิตย์ 20 มีนาคมนี้ อภินันทนาการฟรีสำหรับท่านที่มางานครับ แต่ตอนนี้รับได้ไม่เกิน10ท่าน โทรจองที่นั่ง 02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้ส อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

I.หุ้นไทยถึงแนวรับทำฐานยกสูงขึ้น หุ้นโลกทั้งอเมริกา ญี่ปุ่นฟื้นไข้ ไทยได้อานิสงส์ทางบวกมากกว่าผลลบ

-ผลพวงจากภัยพิบัติครั้งร้ายแรงในญี่ปุ่นมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยค่อนข้างน้อยหากเทียบกับว่าหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงกว่า 20% โดยวานก่อนหุ้นไทยร่วงลงไปเขตแนวรับที่ประเมินไว้996จุดแล้วไม่หลุด ทำฐานยกสูงขึ้น(หากเทียบกับlowรอบก่อนบริเวณ977จุด)

จึงคาดว่า หากวันนี้ยืนเหนือด่านดังกล่าวนี้ได้ ก็มีโอกาสจะฟื้นไข้ โดยมีแนวต้านแรก1010-1016 ดีๆหากผ่านด่าน1010อาจจะมีโอกาสขึ้นไป1020จุด แนวรับ1000จุด+/-(1000-996จุด)

–โบรกเกอร์ต่างชาติคาดญี่ปุ่นเสียหายระหว่าง10-16ล้านล้านเยน หรือ 1-3% ของจีดีพี และเศรษฐกิจจะเติบโตติดลบในครึ่งแรกของปี11 ส่วนไทยประเมินว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบเล็กน้อย คือจีดีพีติดลบ-0.1%

–สภาฯอาจเลื่อนลงวันมติไม่ไว้วางใจเป็น 22 มีค.จากเดิม 19 มีค.ส่วนเอแบคโพลล์ พบว่าความนิยม ศรัทธากับตำแหน่งนายกฯให้นายอภิสิทธิ์ 54% มิ่งขวัญ 30.9% แต่วันนี้จะร้อนแรงขึ้นจากการอภิปรายเรื่องการปราบปรามผู้ประท้วงเมื่อปีกลาย(แต่คงไม่มีผลอะไรต่อตลาดหุ้น ซึ่งจะอิงปัจจัยหุ้นเอเชียเป็นหลัก)


-ดาวโจนส์ฟื้นตัวขึ้นตามที่ผมคาดไว้วานนี้ โดยปิดที่11774 +161จุด โดยวันก่อนนี้ผมได้คาดการณ์ว่า การลงมารอบนี้ของดาวโจนส์ไม่น่าลึกกว่าsupport lineบริเวณ11400+/-(11330-11465จุด) แล้วฟื้นตัว ล่าสุดดาวโจนส์ลงมาที่11555จุด จึงถือว่ามีความเสี่ยงของขาลงน้อยมากแล้ว พร้อมฟื้นตัว

-การวิตกต่อปัญหาสุขภาพ คาดว่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มอาหารส่งออกอิงจากผู้คนแห่ซื้อยาเม็ดไอโอดีนเพื่อป้องกันมะเร็งจากกัมมันตรังสี

II.หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกและผลลบ

1. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางบวก คือกลุ่มที่คาดว่ามีผลกระทบเชิงบวกจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น:

-โรงกลั่น PTTAR(TP43) TOP(TP87) IRPC ESSO

-ถ่านหิน BANPU LANNA

-อาหาร CPF GFPT(คาดยอดขายปีนี้โต10%มาริ์จิ้นเท่าเดิม15%) TUF

-บูรณะซ่อมแซม MCS SCC SCCC TTCL(อาจได้งานซ่อมแซมในญี่ปุ่น) SMT(คาดกำไรปี54โต35%)

2.กลุ่มที่ได้รับผลลบคือกลุ่ม กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่งทางเรือ ยานยนต์(กระบวนการผลิตอาจล่าช้า)THAI AOT CENTEL MINT TTA PSL RCL(ญี่ปุ่นปิดท่าเรือ) STA(ญี่ปุ่นผิดรับซื้อยางพารา ส่งผลราคายางร่วงแรง) STANLY SAT

3. Oil Sensitive: คาดราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากการปิดโรงกลั่นในญี่ปุ่น4แห่ง เป็นผลลบต่อPTTEP เป็นผลดีต่อ TASCO ITD

สรุป-โดยเมื่อพิจารณาผลดีผลเสียแล้ว ก็ยังเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า เนื่องจากหุ้นตัวใหญ่ได้ผลบวกมากกว่า ส่วนหุ้นที่ได้ผลลบนั้นเป็นหุ้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาร์เก็ตแค็ปใหญ่เท่ากลุ่มที่ได้ผลบวก

III.แนวโน้มหุ้นไทยใน2มิติ โดยเรายังให้น้ำหนักว่ารับeffectจากญี่ปุ่นช่วงสั้น แล้วฟื้นขึ้น ลุ้นผ่านdowntrend 1020-1025จึงจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น




ภาพแนวโน้มมองเป็น2มิติดังนี้

*กรณีที่1-เป็นเหมือนที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ปรับลดความร้อนแรงลงทางเทคนิค ผสมกับลงจากการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่น

หากยืนเหนือด่าน1000+/-(996-1000) หรือไม่ทำจุดต่ำลึกกว่าโลว์เก่า977(เช่นทำจุดต่ำแถวๆ996-980)ก็พร้อมขึ้นในระยะต่อไป

ด่านแนวต้านแรก1010-1016 แนวต้านdowntrend~1020-1025 วันนี้หากผ่าน1010ก็จะไปทดสอบด่าน1020-1025ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ และลุ้นผ่านด่านนี้ก็จะขึ้นไปพีคเก่า1056และคาดว่าจะขึ้นไปพีคเขต1100-1032ราวต้นเดือนเมษายน

ซึ่งวานก่อนนี้ยืนเหนือแนวรับ996จุดได้ เมื่อวานฐานยกสูงขึ้นมาเป็นแถว998จุด คาดว่าวันนี้หากยืนเหนือแนวรับ996-1000จุดได้ ก็มีโอกาสเด้งขึ้นไปด่านแรก1010-1016 หากผ่านก็จะไปด่านถัดไปเขต1022-1025จุด หากลงมาวันนี้ยืนเขตแนวรับ1000+/-(996-1000จุด) ก็เป็นไปตามกรณีที่1

*กรณีที่2-หากมองว่าตลาดสัปดาห์ก่อนไปชนด่าน1025มีนัยยะสำคัญ คือเป็นเส้นกดหัว(Downtrend line) แล้วจะกดดันให้ตลาดแกว่งตัวลง(sideway down) เช่นวานก่อนนี้ขึ้นไปใกล้เขต1022-1025แล้วร่วงลง หากวันนี้หลุดเขต996 ลงไป ก็อาจลงไปต่อด่าน977-982หรือถัดไปlowเก่า975 หรือลงนิวโลว์925จุด (ซึ่งกรณีที่2นี้เป็นภาพเชิงลบ ต่างจากกรณีที่1)

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

3.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด หากลงมารอบนี้ทำฐานสูงขึ้น เช่นมีlowแค่แถว996 คือlowวานก่อนนี้ หรือหากลงวันนี้ไม่ทำจุดต่ำกว่า996-998ก็แสดงว่าทำฐานสูงขึ้น

หรือแม้แต่วันนี้ทำlowลึกกว่า996แล้วลงไปlowแถว980แต่ไม่ย้อนลงไปลึกกว่าlowเก่า977ก็ยังมองว่า ทำฐานยกสูงขึ้น

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่าน1025+/- และคาดการณ์ว่าจะผ่านขึ้นไปพีคเดิมในเป้าหมายถัดไป 1056 จากนั่นก็ควรคาดการณ์ว่าจะไปทำนิวไฮจริงจัง ที่มีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

1.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว21วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นอย่างน้อยก็อีก10-15วัน นับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ8วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี

-MODIFIED STOCHASTICS เป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในสัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

ล่าสุดเมื่อวาน%Kอยู่ที่ 62% ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ เพราะยังต่ำกว่า%D อยู่ที่72% อย่างไรก็ดีสัญญาณตัวนี้เป็นสัญญาณระยะสั้นมาก หากSETลงมาเขต 1000+/-(996-1000)แล้วไม่หลุดต่ำกว่านี้ หรือฟื้นขึ้นไปปิดซักเขต1010-1020ได้ในช่วงนี้ เครื่องมือตัวนี้ก็อาจกลับมาเป็นบวก คือ%kตัดผ่าน%dขึ้นไปอีกครั้ง

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ แต่ระยะสั้นเป็นการปรับลดoverboughtลงมา (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) หากยืนเหนือด่าน1000+/-ได้(996-1000) หรือทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ977จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010ได้ในช่วงนี้ โดยอาจเข้าซื้อกลุ่มที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010ได้ในช่วงนี้

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำในสัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อ ยกเว้นเห็นหลุดต่ำกว่าเขต995จุดลงไป ค่อยขายเอาทุนคืน ไปรอช้อนซื้ออาจเป็นเขต977-980จุด แต่หากยืนได้ก็เป็นจุดซื้อเพิ่ม โดยอิงหุ้นที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010ได้ในช่วงนี้



IV.SET50 ฐานรับอยู่หนใด? และเป้าหมายฟื้นไข้


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญุ่690+/-( 688-694จุด) หากวันนี้ยืนได้อีกวันก็น่าจะหยุดลง และฟื้นตัวขึ้นไป แนวต้านแรก704 จุด ถัดไป 713 แนวต้านdowntrend หรือแนวต้านหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

อย่างไรก็ตามหากหลุดเขต688-692จะเสี่ยงลงไปเขต677-672จุด

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อสัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-694 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แต่หากหลุดให้ไปรอช้อนที่ฐานใหญ่หรือ670-675 และขึ้นแนวต้าน706-713ขายทำกำไร

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราว24มีนาคม หรือ4เมษายน อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690(แต่หากหลุด688ลงไปต้องไปรอด่านฐานใหญ่670-677จุด)

****

" สอนมือใหม่ เล่นหุ้นให้รวย+สอนมือเก่าพลิกทุกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้น "รุ่นที่ 44

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
-หาจังหวะซื้อขายแม่นยำด้วยกราฟเบื้องต้นอย่างง่าย
-สอนพลิกทุกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นได้อย่างไร(ผลกระทบจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ภัยพิบัติต่างๆ การจลาจล ประท้วง ปฏิวัติรัฐประหาร ยุบสภา ลาออก สงครามที่มีผลต่อตลาด และพลิกเป็นโอกาสรวยหุ้น)

เหมาะกับ

*มือใหม่หัดเล่นหุ้น มือกลางเก่ากลางใหม่ที่ไม่รู้หลักการที่ถูกต้อง
* ผู้ที่อยากรวยด้วยหุ้น
* ผู้ต้องการหารายได้เพิ่ม
* วัยเยาวชนจนถึงวัยเกษียณ
* นักลงทุนที่ต้องการความสำเร็จ
*ปิดเทอมนี้พาลูกมาเรียนเล่นหุ้นให้เป็นก่อนใคร

สอนโดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ วันอาทิตย์ที่ 20มีค54
จองที่นั่ง โทร.02-927-5800 โทรมือถือ087-7174939/ 087-7178979



********

หนังสือออกใหม่คู่มือหุ้นไทยปีกระต่ายทอง2554 วางแผงแล้วตั้งแต่ 15มีนาคมนี้เป็นต้นไป ที่ร้านหนังสือSE-EDโดยณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ อ่านก่อนรวยกว่า

คัมภีร์หุ้นไทย(17มี.ค.): ฟันธงทางเทคนิคเชื่อถือได้แค่ไหน คำตอบคือรอบล่าสุดผมแนะนำให้ขายทำกำไรสำหรับคนเล่นรอบสั้นเมื่อวันที่ 9 ก่อนเกิดพิบัติภัยญี่ปุ่น

วางแผงแล้วจ้า-หนังสือคู่มือหุ้น2554ปีกระต่ายทอง วางแผงที่SE-EDแล้วครับ วันนี้เดินตามแผงวางแล้วชัวร์ๆหาซื้อได้ หรือมางานอบรมสอนมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย+สอนมือเก่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้น รุ่นที่ 44 วันอาทิตย์ 20 มีนาคมนี้ อภินันทนาการฟรีสำหรับท่านที่มางานครับ แต่ตอนนี้รับได้ไม่เกิน10ท่าน โทรจองที่นั่ง 02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้ส อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **

I.หุ้นไทยถึงแนวรับ หุ้นโลกทั้งอเมริกา ญี่ปุ่นหยุดแพนิก แต่ซึมๆ ไทยได้อานิสงส์ทางบวกมากกว่าผลลบ

-เมื่อวานก่อนหุ้นไทยร่วงลงไปเขตแนวรับที่ประเมินไว้996จุดแล้วไม่หลุด จึงคาดว่าหากวันนี้ยืนเหนือดังกล่าวนี้ได้ ก็มีโอกาสจะฟื้นไข้ โดยมีแนวต้านแรก1010-1016 ดีๆอาจขึ้นไป1020จุด แนวรับ1000จุด+/-(1000-996จุด)

-การแพร่กระจายของกัมมันตรังสีรั่วไหลของญี่ปุ่น มีแนวโน้มควบคุมไม่ได้และอาจกลายเป็นวิกฤติ ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรอบใหม่ ทำให้หุ้นญี่ปุ่นลงในวันนี้ แต่ไม่แพนิกแรงแล้ว ลบราว-2% โดยยังทำการเปิดทำการปกติ แม้ว่านักลงทุนต่างชาติส่วนหนึ่งอยากให้หยุดทำการจนกว่าเหตุการณ์จะกลับมาปกติก็ตาม

–โบรกเกอร์ต่างชาติคาดญี่ปุ่นเสียหายระหว่าง10-16ล้านล้านเยน หรือ 1-3% ของจีดีพี และเศรษฐกิจจะเติบโตติดลบในครึ่งแรกของปี11 ส่วนไทยประเมินว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบเล็กน้อย คือจีดีพีติดลบ-0.1%

–ค่าเงินเยนทำสถิติแข็งค่าสุดเทียบดอลล์วานนี้(76.41) ส่งผลรมว.คลังจี-7เรียกประชุมคืนนี คาดเข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือญี่ปุ่น

–สถานะการณ์รุนแรงในบาห์เรน และรายงานปริมาณน้ำมันสำรองเบนซินรายสัปดาห์ที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นวานนี้

–สภาฯอาจเลื่อนลงวันมติไม่ไว้วางใจเป็น 22 มีค.จากเดิม 19 มีค.ส่วนเอแบคโพลล์ พบว่าความนิยม ศรัทธากับตำแหน่งนายกฯให้นายอภิสิทธิ์ 54% มิ่งขวัญ 30.9% แต่วันนี้จะร้อนแรงขึ้นจากการอภิปรายเรื่องการปราบปรามผู้ประท้วงเมื่อปีกลาย(แต่คงไม่มีผลอะไรต่อตลาดหุ้น ซึ่งจะอิงปัจจัยหุ้นเอเชียเป็นหลัก)


-คาดสหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นบวก จึงคาดว่าการลงมารอบนี้ของดาวโจนส์ไม่น่าลึกกว่าsupport lineบริเวณ11400+/-(11330-11465จุด) แล้วฟื้นตัว ล่าสุดดาวโจนส์ลงมาที่11555จุด จึงถือว่ามีความเสี่ยงของขาลงน้อยมากแล้ว

-การวิตกต่อปัญหาสุขภาพ คาดว่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มอาหารส่งออกอิงจากผู้คนแห่ซื้อยาเม็ดไอโอดีนเพื่อป้องกันมะเร็งจากกัมมันตรังสี

II.หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกและผลลบ

1. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางบวก คือกลุ่มที่คาดว่ามีผลกระทบเชิงบวกจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น:

-โรงกลั่น PTTAR(TP43) TOP(TP87) IRPC ESSO

-ถ่านหิน BANPU LANNA

-อาหาร CPF GFPT(คาดยอดขายปีนี้โต10%มาริ์จิ้นเท่าเดิม15%) TUF

-บูรณะซ่อมแซม MCS SCC SCCC TTCL(อาจได้งานซ่อมแซมในญี่ปุ่น) SMT(คาดกำไรปี54โต35%)

2.กลุ่มที่ได้รับผลลบคือกลุ่ม กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่งทางเรือ ยานยนต์(กระบวนการผลิตอาจล่าช้า)THAI AOT CENTEL MINT TTA PSL RCL(ญี่ปุ่นปิดท่าเรือ) STA(ญี่ปุ่นผิดรับซื้อยางพารา ส่งผลราคายางร่วงแรง) STANLY SAT

3. Oil Sensitive: คาดราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากการปิดโรงกลั่นในญี่ปุ่น4แห่ง เป็นผลลบต่อPTTEP เป็นผลดีต่อ TASCO ITD

สรุป-โดยเมื่อพิจารณาผลดีผลเสียแล้ว ก็ยังเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า เนื่องจากหุ้นตัวใหญ่ได้ผลบวกมากกว่า ส่วนหุ้นที่ได้ผลลบนั้นเป็นหุ้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาร์เก็ตแค็ปใหญ่เท่ากลุ่มที่ได้ผลบวก

III.แนวโน้มหุ้นไทยใน2มิติ โดยเรายังให้น้ำหนักว่ารับeffectจากญี่ปุ่นช่วงสั้น แล้วฟื้นขึ้น




ภาพแนวโน้มมองเป็น2มิติดังนี้

*กรณีที่1-เป็นเหมือนที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ปรับลดความร้อนแรงลงทางเทคนิค ผสมกับลงจากการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่น

หากยืนเหนือด่าน1000+/-(995-1000) หรือไม่ทำจุดต่ำลึกกว่าโลว์เก่า977(เช่นทำจุดต่ำแถวๆ996-980)ก็พร้อมขึ้นในระยะต่อไป

ด่านแนวต้านแรก1010-1016 แนวต้านdowntrend~1020-1025 หากผ่านก็จะไปพีคเก่า1056และคาดว่าจะขึ้นไปพีคเขต1100-1032ราวต้นเดือนเมษายน

ซึ่งวานก่อนนี้ยืนเหนือแนวรับ996จุดได้ คาดว่าวันนี้หากยืนเหนือแนวรับ996-1000จุดได้ ก็มีโอกาสเด้งขึ้นไปด่านแรก1010-1016 ถัดไปเขต1022-1025จุด หากลงมาวันนี้ยืนเขตแนวรับ1000+/-(996-1000จุด) ก็เป็นไปตามกรณีที่1

*กรณีที่2-หากมองว่าตลาดสัปดาห์ก่อนไปชนด่าน1025มีนัยยะสำคัญ คือเป็นเส้นกดหัว(Downtrendline) แล้วจะกดดันให้ตลาดแกว่งตัวลง(sideway down) เช่นวานก่อนนี้ขึ้นไปใกล้เขต1022-1025แล้วร่วงลง หากวันนี้หลุดเขต996 ลงไป ก็อาจลงไปต่อด่าน977-982หรือถัดไปlowเก่า975 หรือลงนิวโลว์925จุด (ซึ่งกรณีที่2นี้เป็นภาพเชิงลบ ต่างจากกรณีที่1)

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

2.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด หากลงมารอบนี้ทำฐานสูงขึ้น เช่นมีlowแค่แถว996 คือlowวานก่อนนี้ หรือหากลงวันนี้ไม่ทำจุดต่ำกว่า996ก็แสดงว่าทำฐานสูงขึ้น

หรือแม้แต่วันนี้ทำlowลึกกว่า996แล้วลงไปlowแถว980แต่ไม่ย้อนลงไปลึกกว่าlowเก่า977ก็ยังมองว่า ทำฐานยกสูงขึ้น

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่าน1025+/- และคาดการณ์ว่าจะผ่านขึ้นไปพีคเดิมในเป้าหมายถัดไป 1056 จากนั่นก็ควรคาดการณ์ว่าจะไปทำนิวไฮจริงจัง ที่มีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

1.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว20วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นอย่างน้อยก็อีกครึ่งเดือนนับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ7วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี

-MODIFIED STOCHASTICS เป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในสัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

ล่าสุดเมื่อวาน%Kอยู่ที่70% ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ เพราะยังต่ำกว่า%D อยู่ที่77% อย่างไรก็ดีสัญญาณตัวนี้เป็นสัญญาณระยะสั้นมาก หากSETลงมาเขต 1000+/-(996-1000)แล้วไม่หลุดต่ำกว่านี้ หรือฟื้นขึ้นไปปิดซักเขต1010-1020ได้ในช่วงนี้ เครื่องมือตัวนี้ก็อาจกลับมาเป็นบวก คือ%kตัดผ่าน%dขึ้นไปอีกครั้ง

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ แต่ระยะสั้นเป็นการปรับลดoverboughtลงมา (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) หากยืนเหนือด่าน1000+/-ได้(996-1000) หรือทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ977จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) โดยอาจเข้าซื้อกลุ่มที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด)

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำในสัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อ ยกเว้นเห็นหลุดต่ำกว่าเขต995จุดลงไป ค่อยขายเอาทุนคืน ไปรอช้อนซื้ออาจเป็นเขต977-980จุด แต่หากยืนได้ก็เป็นจุดซื้อเพิ่ม โดยอิงหุ้นที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น



IV.SET50 ฐานรับอยู่หนใด? และเป้าหมายฟื้นไข้


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญุ่690+/-( 688-692จุด) หากวันนี้ยืนได้อีกวันก็น่าจะหยุดลง และฟื้นตัวขึ้นไป แนวต้านแรก700-706 ถัดไป 709-713 แนวต้านdowntrendหรือแนวต้านหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

อย่างไรก็ตามหากหลุดเขต688-692จะเสี่ยงลงไปเขต677-672จุด

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อสัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-692 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แต่หากหลุดให้ไปรอช้อนที่ฐานใหญ่หรือ670-675 และขึ้นแนวต้าน706-713ขายทำกำไร

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราว24มีนาคม หรือ4เมษายน อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690(แต่หากหลุด688ลงไปต้องไปรอด่านฐานใหญ่670-677จุด)


****

" สอนมือใหม่ เล่นหุ้นให้รวย+สอนมือเก่าพลิกทุกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้น "รุ่นที่ 44

- สอนตั้งแต่ไม่เป็น จนเก่ง
- สอนทั้งทฤษฎี และปฏิบัติจริง
- เผยเคล็ดลับ ซื้อ ขาย อย่างไรได้กำไรงาม
- เผยสูตรลัด คัดหุ้นเด่นกำไรดี
-หาจังหวะซื้อขายแม่นยำด้วยกราฟเบื้องต้นอย่างง่าย
-สอนพลิกทุกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นได้อย่างไร(ผลกระทบจากแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ภัยพิบัติต่างๆ การจลาจล ประท้วง ปฏิวัติรัฐประหาร ยุบสภา ลาออก สงครามที่มีผลต่อตลาด และพลิกเป็นโอกาสรวยหุ้น)

เหมาะกับ

*มือใหม่หัดเล่นหุ้น มือกลางเก่ากลางใหม่ที่ไม่รู้หลักการที่ถูกต้อง
* ผู้ที่อยากรวยด้วยหุ้น
* ผู้ต้องการหารายได้เพิ่ม
* วัยเยาวชนจนถึงวัยเกษียณ
* นักลงทุนที่ต้องการความสำเร็จ
*ปิดเทอมนี้พาลูกมาเรียนเล่นหุ้นให้เป็นก่อนใคร

สอนโดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ วันอาทิตย์ที่ 20มีค54
จองที่นั่ง โทร.02-927-5800 โทรมือถือ087-7174939/ 087-7178979



********

หนังสือออกใหม่คู่มือหุ้นไทยปีกระต่ายทอง2554 วางแผงแล้วตั้งแต่ 15มีนาคมนี้เป็นต้นไป ที่ร้านหนังสือSE-EDโดยณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ อ่านก่อนรวยกว่า