วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

เปิดให้จองแล้วหนังสือคู่มือหุ้นไทยไตรมาส2/56 เขียนโดยณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ โทรสั่งจองตอนนี้ รับโปรโมชั่นพิเศษเกินคุ้มค่าถึง3รายการ

เปิดให้สั่งจองแล้วหนังสือคู่มือหุ้นเด่นไตรมาส2/2556
หนังสือเล่มนี้ไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป อยากรวยต้องโทรจองค่ัะ

ส่วนนี่คือผลงานที่โดดเด่นชนะตลาดอย่างงดงามของหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยไตรมาส2/2555 หรือเมื่อไตรมาส2ปีกลาย ส่วนไตรมาส2ปีนี้ จะมีผลงานดีสุดยอดแบบนี้หรือไม่ คุณๆต้องพิสูจน์เอง

*โปรโมชั่นสุดพิเศษ-สมัครสมาชิกทั้งประเภท สแตนดาร์ด และสมาชิกในระดับVIPวันนี้ รับทันที 3 ต่อ

1.รับหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยไตรมาส2 ฟรี จากปกติมูลค่า2500฿
2.รับข้อมูลหุ้นเด่นผ่านSMSหรืออีเมล์ และรับคำปรึกษาการลงทุนอย่างใกล้ชิดกับอาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ สำหรับสมาชิกในระดัีบVIP
3.เข้างานอบรมจัดพอร์ตรวยหุ้นเด่นไตรมาส2/56 ในวันที่21เมษายน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.087-7174979 หรือทางอีเมล์tontan2008@gmail.com










วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

มุมอินไซด์ (29มีนาคม):VTEวันนี้XRจะไดลูทลงมา อย่าตกใจ


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

ภูมิหลัง:ผมได้แนะนำซื้อหุ้นตัวนี้ไว้ เพราะเห็นว่าเป็นกิจการที่มีอัตราขยายตัวดี ปีที่แล้วกำไรเพิ่ม100% มีgrowthที่ดีมาก ราคาหุ้นขึ้นจากเขตที่เราซื้อแถว9บาทไปเขต12บาทแล้วตกลงมา เมื่อวานปิดแถว9บาท แต่เนื่องจากเป็นการเพิ่มทุนในสัดส่วน2หุ้นเดิมต่อ1หุ้นใหม่ ราคาเพิ่มทุน3.50บาท/หุ้น

ดังนั้นในวันนี้ราคาหุ้นก็จะเกิดไดลูชั่นเอ็ฟเฟ็คต์นะครับ เปิดมาจะไม่ใช่ราคาแถว9บาท แต่จะเปิดมาแถว7.15บาท ก็เลยกลัวว่า จะพากันตกใจกันว่า มูลค่าหายไปไหนตั้ง2บาท ยิ่งไปเทียบทุนเก่าแถว9-10.50บาท ก็จะหายไประหว่าง2ถึง3.50บาท/หุ้น

ทั้งนี้ก็เป็นไปตามกฎที่ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เมื่อจำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้น และราคาหุ้นใหม่ที่ใช้สิทธิเพิ่มทุน3.50บาท/หุ้นก็ต้องธรรมดาที่ราคาจะไดลูทลงมา

ความเห็น:ก่อนหน้านี้ผมแนะนำไว้2ทางคือ

1.หากไม่อยากใช้สิทธิเพิ่มทุนก็ควรขายออกเพื่อเอาทุน หรือขายขาดทุนเพื่อเปลี่ยนตัวลงทุน
2.แต่หากจะเอาสิทธิก็ต้องเตรียมเงินไว้ และต้องเข้าใจว่าจะเกิดไดลูทของราคาลงมาครับ และสำหรับท่านที่ถือมาถึงวันนี้ก็ต้องต์บังคับ ท่านต้องจ่ายเพิ่มทุนถึงจะไม่เสียเปรียบนะครับ

รายละเอียดการเพิ่มทุน key pointคือขายให้รายใหญ่5.5บาท:เขาขาย2ประเภทครับ

1.ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 86 ล้านหุ้น ซึ่งก็คือคนที่ถือหุ้นมาจนถึงวันนี้ อัตราส่วน2หุ้นเดิม ได้สิทธิซื้อหุ้นใหม่1หุ้น ราคาจองซื้อ3.50บาท จองและชำระช่วงวันที่17-23เมษายน(อย่าเที่ยวสงกรานต์เพลินจนลืม)

2.ขายให้กับบุคคลแบบเฉพาะเจาะจง หรือprivate placementแก่ Worldly Wealth International Limited (WWI) 58 ล้านหุ้น ในราคา5.55บาท/หุ้น

ความเห็นและข้อสังเกต:

1.สำหรับพวกเราที่ไม่ได้ขายก่อนXRและจำเป็นต้องเอาสิทธินั้น น่าจะมีต้นทุนเฉลี่ยแพงสุดแถว8.50(หลังไดลูทแล้ว เพราะพาซื้อจากเขต6.50ไปแถวๆ8.50หากเป็นราคาหลังไดลูท)ตอนนี้ขาดทุนทางบัญชีราว1.50บาท/หุ้น
2.สำหรับรายใหญ่ที่เข้าซื้อแบบPPนั้นจะมีต้นทุน5.50บาทต่อหุ้น
3.ในทางเทคนิคจะมีแนวรับuptrendเขต6.94ลงมาแถว6.65-6.50+/- ไม่น่าลึกเกินนั้น และจากนั้นจะแกว่งตัวฟื้นขึ้นไปในแนวต้านใหญ่เขต8.50+/-ซึ่งเป็นราคาต้นทุนใหม่ของพวกเรา กรอบแนวต้านบนเป็นแถว10บาท+/-

สรุป-หากเห็นวันนี้เปิดมาแถว7บาทก็อย่าตกใจนะครับสำหรับท่านที่ถือมาจนถึงวันนี้ มันเจอไดลูทครับ และท่านที่ถือมาถึงวันนี้ก็จำเป็นต้องจองและจ่ายเพิ่มทุนด้วยครับ เพราะไม่เช่นนั้นจะเสียเปรียบ อย่างไรก็ดีผมคิดว่าอาจลงมาแค่แถว7.15-6.95บาท+/-แล้วจะฟื้น แต่หากมีแถมๆก็6.65-6.50บาทแล้วฟื้นกลับไปเขต8.50หรือ10บาทในระยะต่อไปครับ หากท่านจ่ายเงินเพิ่มทุนแล้วก็ถือไปรอขายเขต10บาทก็จะกำไรครับ

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

อัพเดตหุ้นไทยภาคบ่าย26มีนาคม:โอกาสที่SETจะผ่าน1550และไม่ใช่แค่ฟื้นตัวรีบาวนด์ขึ้นกับปัจจัยใดบ้าง?


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


แนวโน้ม-SETฟื้นตัวขึ้นผ่านแนวต้าน1ใน3fibonacci เขต1510-1516 ขึ้นทดสอบด่านสองบริเวณ1533 จะไปด่านถัดไปเขต2ใน3บริเวณ1550-1555 ประเด็นคือจะผ่านหรือไม่

ก.หากไม่ผ่านก็ไปได้แค่เขต1550-1555แล้วลง
ข.หากผ่านก็จะreveeseขึ้นไปเลย ไม่ใช่แค่technical rebound คืิอกลับไป1600หรือnew highเขต1625-1660ต่อไป

อะไรจะพอเป็นปัจจัยหนุน


1.คาดว่าแรงหนุนของนักลงทุนสถาบันในประเทศ น่าจะหนุน SET ฟื้นตัวทดสอบ 1550 จุดเป็นอย่างน้อย หรือตีทะลุด่านนี้ขึ้นไป หลังกองทุนทริกเกอร์ FUND กองใหม่ราว 1 หมื่นล้านบาท จะทยอยซื้อหุ้นปลายสัปดาห์นี้ราว 5 พันล้านบาท และอีก 5 พันล้านบาทในสัปดาห์หน้า

หุ้นพยุงดัชนีรอบถัดไปหลัง 
ICT คาดว่าจะเป็นหุ้นแบงก์ใหญ่อย่าง BBL, KBANK,SCB  และวัสดุก่อสร้างอย่าง SCC อาจพ่วงด้วยพลังงาน เคมีตัวใหญ่หลังราคาน้ำมันเริ่มฟื้นมาเขต95$ เช่น PTT PTTGC

2.การทำwindow dressing หรือทำราคาปิดในสิ้นไตรมาส1/2556 ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นหุ้นในSET50

อะไรเป็นปัจจัยฉุดตลาด?

1.
จับตาว่าแรงขายในตลาดโซนT.I.Pหมดหรือยัง ล่าสุดมีการฟื้นตัวขึ้นของตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ กับอินโดนีเซีย ก็อาจหยุดขายหุ้นไทย

2.ข่าวลือต่างๆที่รบกวนตลาด รวมทั้งการจัดการค่าเงินบาทแข็ง หากเป็นมาตรการทางการเงิน คือกนง.ประชุมปกติ3เมษายนนี้ แล้วลดดอกเบี้ยก็ดีไป แต่หากมีมาตรการการคลังออกมา(ซึ่งรัฐบาลปฏิเสธมาตลอด)ก็จะเป็นปัจจัยกดดันตลาด

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

อัพเดตตลาดหุ้น25มีนาคม หลังร่วงหนักจะรีบาวนด์ทางเทคนิค1500-1515หากผ่านก็ขึ้นไปเลย หากไม่รอดเสี่ยงลงอีกยก



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp
ที่ผ่านมา)


คาดการณ์SETวันนี้หรือต้นสัปดาห์จะฟื้นตัวไป1500-1515หลังข่าวลือเคลียร์ ข่าวดีเริ่มมาหนุน แต่ขวัญคนเสียไปมาก จะสกัดการฟื้นตัว

1.ข่าวลือเคลียร์

*นายกฯไม่ออก ไม่เปลี่ยนตัว
*รัฐบาลไม่ออกมาตรการคลังคุมบาทแข็ง คาดให้ธปท.ลดดอกในการประชุม3เม.ย.
*สุขภาพพลานามัยผู้ใหญ่แข็งแรงดี ไม่เป็นไปตามข่าวลืออัปมงคล

2.ข่าวดีเริ่มมา

*ไซปรัสรับแผนฟื้นฟู ส่งผลหุ้นโลกฟื้น ดาวโจนส์ หุ้นเอเชียบวก
*หุ้นโซนT.I.P.ที่ลงแรง โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ฟื้นแล้ว สะท้อนฝรั่งอาจหยุดขายหุ้นไทยด้วย

3.ในทางเทคนิค

*การร่วงpanic sellลงมาเที่ยวนี้เป็นการปรับฐานรอบใหญ่ของระลอกคลื่นที่4 มีเป้าหมายตกดังนี้

-กรณีดีสุดคือลงไปcvompleteแล้วที่1465เมื่อวันศุกร์ แต่ต้องเห็นการฟื้นขึ้นผ่านด่าน1500-1515ช่วงต้นสัปดาห์จึงจะยืนยัน
-กรณีแย่ หากฟื้นไปไม่เกิน1500-1515แล้วลงจะหลุด1465ลงไปนิวโลว์ของรองเป้าหมาย1430และ1400+/-แล้วจะลงพอ
-จากนั้นไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ระยะเป็นเดือนหรือหลายเดือนจากนี้จะขึ้นทำนิวไฮเกิน1600ไปตั้งแต่1800ถึงเขต1900จุดแล้วก็เป็นพีครอบใหญ่
-คาดว่าตลาดในช่วงนี้หรือเป็นเ้ดือนจากนี้หากเป็นคลื่น4จะแกว่งในกรอบ1400-1500(หรือกรอบ1450-1550จุด)แบบไซด์เวย์เพื่อสร้างฐานรอบใหม่ก่อนขึ้นไปคลื่น5(ดูรูปประกอบที่แนบมา)

4.กลยุทธ์

*ระยะสั้่นหากเด้งฟื้นไปไม่ไกลกว่า1500-1515ทำท่าโดนขาย ควรนำหุ้นที่กำไรหรือใกล้ทุนขายเพื่อเอาเงินสดไว้สู้ กรณีที่ลงนิวโลว์ไปเขต1430-1400จุด
*ระยะกลาง หากไม่หลุด1400-1430แสดงว่าลงจบ ท่านที่ต้องการถือหุ้นลุ้นไปนิวไฮเกิน1600แต่หลายเดือนจากนี้ก็ถือได้
*หุ้นรายตัวที่เ้รามีอยู่ ดูว่าลงลึกเกินพื้นฐานไปหลายตัว หากยังไม่ได้ขายก็อาจดีกว่าที่จะถือครับ(จะอัพเดตเพิ่มเติมอีกซักครู่)

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

คัมภีร์หุ้นไทย(22มีนาคม2556):อัพเดตสถานการณ์ ลงมาsuper over sold ผู้จัดการตลาดหุ้นก้นร้อนแถลงข่าวด่วน สัปดาห์หน้ามีโอกาสreboundไปเขต1500-1518 ท่านที่อยากขาย ให้รอขายตอนเด้ง




โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

IQ>   *"จรัมพร"ตั้งโต๊ะแถลงภาวะตลาดหุ้นหลังร่วง-ผันผวนหนัก 16.30 น.วันนี้

          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 56)--เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ในเวลาประมาณ 16.30 น.วันนี้นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลท.จะมีแถลงข่าวสรุปเกี่ยวกับภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังจากที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างหนักและแกว่งตัวผันผวนจากความกังวลปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่โบรกเกอร์คาดว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการบังคับขาย(force sell)ในบัญชีมาร์จิ้น ประกอบกับ มีกระแสข่าวลือด้านลบซ้ำเติมไปด้วย
         
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

จรัมพร มองพื้นฐานหุ้นยังไม่เปลี่ยน แม้ตลาดตก เชื่อเป็นจังหวะซื้อหุ้นถูกของนักลงทุนระยะยาว 

ต่อมานายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงแต่เชื่อว่าโดยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงมองว่าการลดลงของดัชนีฯในช่วงนี้เป็นโอกาสของนักลงทุนระยะยาวที่กำลังมองหาหุ้นเพื่อถือลงทุนระยะยาว นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่สนใจจะซื้อกองทุน LTF 
ในจังหวะดังกล่าว

' คิดว่านักลงทุนไม่ควรตกใจ หรือแตกตื่นกับเรื่องตลาดหุ้นที่ลดลง เพราะลดลงมาแค่ประมาณ 6% นับจากที่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,600 จุด แต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วหุ้นไทยขึ้นมาตลอดเกือบ 50% ก็เลยถึงจังหวะที่จะต้องขายทำกำไร นอกจากนี้สถานการณ์ที่ตลาดหุ้นปรับลดลงมาติดกันหลายวันก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดเพราะเมื่อปี 2554 ที่มีข่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆออกมหุ้นก็เคยปรับลดลงมาถึงระดับนี้ได้เช่นกัน' นายจรัมพร กล่าว




ประเมินSET ลงมาsuperoversold ในweekหน้าอาจฟื้นไป1500-1515ให้รอขายตอนนั้น สำหรับท่านที่ไม่ได้ขายตอนที่หลุดด่าน1518ลงมา

ประเมินทางแย่ของรอบนี้อาจเป็น1435-1410(แต่นั่นจะเกิดตอนหลังreboundย่อยๆขึ้นไปเขต1500-1515แล้ว)

กรณีดีที่สุดในการrreboundสัปดาห์หน้าคือ หากเกิดชนะ1500-1515จะไปได้เขต1540-1550+/-(แต่ตอนนี้ยังไม่อยากหวัง)

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

เคลียร์แล้วมติครม.เศรษฐกิจชัดไม่ออกมาตรการพิเศษคุมค่าบาทแข็งตามที่ผวา ลุ้นสร้างฐานเหนือ1532เด้งกลับไป1555/1575


SETร่วงแพนิคเซล2วัน ถึงเขตด่านรับอีกด่าน1532เมื่อเคลียร์แล้วก็น่าฟื้นกลับไป1555,1575แล้วค่อยตามไปอัพเดตอีกที

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


*"กิตติรัตน์"เผยครม.เศรษฐกิจเห็นพ้องไม่จำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษดูแลบาท

          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มี.ค. 56)--นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)เห็นพ้องว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการพิเศษมาแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่า และไม่ต้องการให้ใช้มาตรการที่ผิดธรรมชาติเหมือนในอดีต เพราะจะส่งผลเสียในระยะยาว โดยเห็นว่าควรจะปล่อยให้เงินบาทเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดไปก่อน แล้วคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากแข็งขึ้นมากกว่านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือกันอีกครั้ง
--อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/ศศิธร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ความเห็นของผม:หุ้นร่วงมา2วันนี้ โดยเฉพาะเช้านี้เพราะกังวลเรื่องว่าครม.ศก.อาจออกมาตรการพิเศษคุมค่าเงินบาทแข็ง เมื่อข่าวออกมาชัดเจนเป็นทางการหลังผลการประชุมแล้ว จะทำให้ตลาดฟื้นตัวได้ดีในภาคบ่าย20มีนาคม 2556

คัมภีร์หุ้นและกลยุทธ์ลงทุนหุ้นใหญ่ในSET50 (20มีนาคม2556):Panic sell แต่ทางการปฏิเสธแล้วไม่มีมาตรการพิเศษคุมค่าบาทแข็ง จับตาด่านแนวรับuptrend1554หากยืนได้จะฟื้นไปเป้าหมาย1625

 Topics:รมว.คลังปฏิเสธจะไม่ใช้มาตรการคลังสกัดบาทแข็ง แต่จี้ธปท.ให้ใช้มาตรการทางการเงิน ด้วยการลดดอกเบี้ย แต่คนในตลาดยังpanic sellต่อช่วงเช้านี้

technic:ทางเทคนิคราคาร่วงลงมากรอบเส้นuptrendบริเวณ1550-1554จุด




โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

·  ดาวโจนส์ฟื้นบวก3จุด หลังตกแรงวันก่อนวิตกไซปรัส
·  ฮ่องกงเช้านี้ฟื้นบวกเกิน100จุด
·  เมื่อวานต่างชาติขายสุทธื900ล้านบาทเศษ
·  รมว.คลังจะเข้าหารือครม.ศก.วันนี้หารือบาทแข็ง ย้ำไม่มีมาตรการพิเศษออกมา แต่จี้ให้ธปท.ลดดอกเบี้ย
·  ค่าเงินบาทแข็งต่อเนื่อง29.16บาท/ดอลลาร์
·  เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นร่วงpanic sellตามตลาดหุ้นรวมที่วิตกทางการว่าอาจมีมาตรการคุมเงินทุนไหลเข้าจนค่าบาทแข็งมาก ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้คุณกิตติรัตน์ รมต.คลังเผยว่าจะหารือครม.ศก.วันนี้ และย้ำไม่มีมาตรการพิเศษคุมบาทแข็ง จี้ธปท.ลดดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ
ความเห็น:หากเป็นไปตามนี้แสดงว่าไม่น่ามีมาตรการพิเศษอย่างที่วิตก คงไปจี้ให่้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยครับ ก็น่าจะทำให้ตลาดฟื้นแบบทรงตัีวหลังจากpanic sellแรงเมื่อวานนี้ โดยมีแนวรับเขต1554จากนั้นจะฟื้นไปแนวต้านใหญ่ด้านบน 1620+/- โดยมีแนวต้านย่อย 1575 ถัดไป1585 ถัดไป1595-1605 ยกเว้นลงต่ำกว่า1550ก็จึงจะเสี่ยงเป็นขาลง หรือsideway downได้


วันนี้ตลาดหุ้นบ้านเราpanic sellต่ออีกวัน ผมให้ฐานไว้แถว1527-1530ครับ หากไม่แย่เกินนี้ก็มีโอกาสเด้งกลับไป1555หรือ1575 ราคาหุ้นลงมาถึงฐานใหญ่แต่ละตัว ก็อาจรอไปขายตอนเด้งรีบาวนด์ขึ้นไป1555-1575ครับ (รายละเอียดอ่านในคัมภีร์หุ้น) คราวนี้มาupdateหุ้นรายตัวกันครับ ว่าแต่ละตัวมีฐานราคาเขตไหน(ท่านที่เป็นสมาชิกให้อ่านในอีเมล์ที่ส่งเฉพาะท่านสมาชิก)


แนวโน้มและกลยุทธ์ของSET-หากเห็นไม่ลึกกว่า1550-1554ก็จะฟื้นขึ้นไปทดสอบด่านต่างๆ แต่วันนี้คงทรงๆตัวก่อน เป้าหมายใหญ่เขต1625+/- หากยืนเหนือเขต1554ได้ แนะนำถือหุ้น หรือซื้อหุ้นที่panic sellลงมาแล้วไม่หลุดแนวรับฐาน(ดูกระทิงทองส่องหุ้นเมื่อวานนี้)

แนวโน้มหุ้นใหญ่ในSET50-เมื่อวานขึ้นไปเป้าหมาย1048-1050แล้วร่วงpanic sellตามตลาดหุ้นรวมที่วิตกทางการว่าอาจมีมาตรการคุมเงินทุนไหลเข้าจนค่าบาทแข็งมาก ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้คุณกิตติรัตน์ รมต.คลังเผยว่าจะหารือครม.ศก.วันนี้ และย้ำไม่มีมาตรการพิเศษคุมบาทแข็ง จี้ธปท.ลดดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติ
ความเห็น:หากเป็นไปตามนี้แสดงว่าไม่น่ามีมาตรการพิเศษอย่างที่วิตก คงไปจี้ให่้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยครับ ก็น่าจะทำให้ตลาดฟื้นแบบทรงตัีวหลังจากpanic sellแรงเมื่อวานนี้ โดยมีแนวรับเขต1030แนวรับทางโครงสร้างเขค1021-1025แนวต้านแรก1035-1037ถัดไป1042ถัดไป1048-1050 โดยมีเป้าหมายใหญ่1060-1065 ยกเว้นลงต่ำกว่า1020ก็อาจตกต่อไปเขต1010-1000,1005ได้

กลยุทธ์รายวัน –เปิดlongเขต1030แต่หากยืนไม่ได้ก็รอ1021-1025แล้วไปปิดlongเขต1035-1037หรืออาจไม่เกิน1040

กลยุทธ์รายสัปดาห์ – เปิดlongเขต1021-1025หรือ1030+/-แล้วถือ คาดว่าจะทรงๆพักตัวซัก1-2วันแล้วขึ้นไปทดสอบด่าน1050และรอขายทำกำไรเป้าหมายใหญ่1065 เว้นแต่เห็นลงต่ำกว่าเขต1020ในวันนี้ค่อยเปิดshort มีเป้าตก1010ไปแถว1000จุด



วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

คัมภีร์หุ้นและกลยุทธ์ลงทุนหุ้นใหญ่ในSET50 (13มีนาคม2556):อัพเดตหุ้นเด่นที่ตอนนี้ร่วงลงมาแย่กว่าตลาดยกแผง ควรทำอย่างไรดี?



ทำอย่างไรในเมื่อผลงานเราแย่กว่าตลาด..ก็ไม่ทุกครั้งเสมอไปที่ณัฐวุฒิจะชนะ นั่นมันจะพาฝันไปหน่อย...


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

·   ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าทางการจีนอาจจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงิน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
·  ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากผลการประมูลพันธบัตรของสเปน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษหดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนม.ค.
·  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น หลังจากตัวเลขจ้างงานปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่าความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.พ.
·  หุ้นฮ่องกงเปิด-70จุดแล้วฟื้นขึ้นแดนบวก
·  ต่างชาติยังซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อ1316ล้านบาท
·  ค่าเงินบาทแข็งค่ามาระดับ29.65-29.54สะท้อนว่าเงินยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
·  SETตกปรับฐานเพื่อพักฐาน คาดว่าอาจลงมาแค่เขต1570หรือ1565แล้วฟื้น แนวต้าน1583-1587ในวันนี้ แต่หลังจบพักฐานยังจะไปต่อด่าน1600 และเป้าหมายใหญ่1625-1660จุด

·  ข้อที่แย่คือราคาหุ้นที่แนะนำหลายตัวในรอบนี้อ่อนแอกว่าตลาด โดยเฉพาะหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆที่เคยแข็งกว่าตลาดพลอยลงตามไปด้วย สะท้อนถึงภาวะunderperformanceในคำแนะนำการลงทุนของผมในช่วงนี้ แต่ระดับราคาหุ้นนั้นได้ลงมาที่เขตฐานรับใหญ่แทบทุกตัวแล้ว ผมจะอัพเดตแบบย่อๆดังนี้


ก.หุ้นกลุ่มที่แนะนำซื้อถือรายปี

*IVL ฐานรับใหญ่23บาท+/- แนะนำรอดูท่าทีหากยืนได้มั่นคงก็ถือยาวเป็นปี หรือเป็นโอกาสซื้อเพิ่ม แต่หากทำท่ามีนิวโลว์ เช่น เห็นลงไปลึกกว่าเขต22บาท แนะนำให้ขายหยุดขาดทุนและเปลี่ยนตัว
*STAฐานรับรอบนี้16บาท ลุ้นผ่านต้าน17+/-แล้วขึ้นรอบใหม่ แต่ราคายางในตลาดAFETดูแย่ในช่วงนี้
*BANPU เจ้าของจะเริ่มซื้อคืนในวันที่15นี้ ราคาลงมาหลังจากพักตัวมาในระยะหนึ่ง ฐานใหม่อาจเป็น380-375บาท ไม่มีคำไหนที่จะบอกได้มากกว่าคำว่าให้อดทนสำหรับคนติดสูงครับ เรื่องร้ายๆกำลังจะผ่านไป
*THRE อาจเจอเรื่องแย่อีกเรื่องคือทางเทเวศประกันภัยบอกว่าจะส่งเรื่องการเคลมประกันตึกCTWสมัยประท้วงปี2553ให้บริษัทรับประกันภัยต่อทั้งในและต่างประเทศพิจารณา หลังแพ้คดี ศาลสั่งว่าไม่ใช่ก่อการร้าย แต่เป็นการจลาจล อาจพักฐานลงมาเขต5.35-5.10บาทได้อีกยก รอจังหวะขึ้นไปเขต6บาทเมื่อไหร่ก็ค่อยขายครับ
*AAV ขึ้นมาขานรับข่าวทางบวกเรื่องAEC และผลดำเนินงานดีมากไปมากพอ แนะนำขายไปเขต7.50และหาทุนไปซื้อตัวใหม่ครับ (เช่นเดียวกับBTSที่ทะลุเป้า8.80 SIRIที่ทะลุเป้า5บาท TISCOที่ทะลุเป้า55-57 ผลตอบแทนในระดับตั้งแต่100ไปถึง400%ผมว่าขายทำกำไรไปหาหุ้นที่อยู่แถวๆฐานดีกว่าครับ)

*PTTGCหลังXDแล้วลงแรง ทะลุแนวรับ72.50ลงมา หากไม่รีบฟื้นเหนือ72.50ก็น่าเป็นห่วงว่าอาจลงต่อไป70หรือกระทั่ง65+/-ได้ครับ หากพอมีกำไรก็ขายลดพอร์ตลงบ้าง หากเข้าเนื้อก็รอให้ลงจบ ระยะกลางก็ยังดีอยู่

ข.กลุ่มที่แนะนำให้เทรดในรอบล่าสุดนี้

*TCAP แนวรับ45-44 แนวต้านเป้าหมายรอบนี้50 แนะนำถือ
*THAI ขึ้นXD0.50บาทวันนี้คงไดลูทลงมาไม่ลึกกว่า24.50-25บาท
*KSL พักฐานเหนือเขต14.40+/-

ค.กลุ่มที่แนะนำเก็งกำไร
*PAE ลงมา2วันติดต่อกัน คาดว่าจะทรงตัวในวันนี้ พื้นฐานจะเปลี่ยนไปในทางบวกตามที่เคยกล่าวไว้ แต่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นกลัวโดนcash balanceอีกรอบ หากลงอีกวันนี้ก็ไม่น่าขายแล้วครับ น่าสร้างฐานเขตแนวรับ3.20+/- ต้าน3.32+/- ถัดไป3.50+/-

*NIPPON ฐานแนวรับเขต7.50หากยืนได้น่าถือต่อไปจนกว่าขึ้นXD XR22เมษายน

*SLC ถอยลงมา ข้อดีคือคงไม่เสี่ยงโดนcash balanceอีกยก ฐานเขต1.64-1.60บาท
*VTE ถือไปรอขายก่อนXRวันที่28มีนาคมครับ


ง.หุ้นอื่นๆ
*IRPC ยังร่วงต่อเนื่อง คงมาหาฐานเขต4.00+/-ครับ รอฟื้นไป4.50-4.70ในรอบของมันเมื่อไหร่ค่อยขาย
*ESSOฐานเขต10บาท หากลงไปไม่ลึกกว่านี้จะถือก็น่าถือครับ หากไม่แย่ไปกว่าเขตlowเก่า9.70
*TOP คงลงมาเขต65-67แล้วหยุดไหลและฟื้นครับ
*ROJNA ฐานเขต12.50หากยืนได้รอบหน่ามีโอกาสไป16บาท
*KCEมีฐานเขต15.50-15.00 หากยังไม่ได้ขายก็รอเที่ยวหน้าไปเขต18บาทครับ



จ.หุ้นอื่นๆที่มีการพูดกันตามห้องค้า

1.กลุ่มที่เคยเทรดUMIเข้ามาเทรดMLINK SOLAR พูดกันว่าตัวแรกมีเป้าหมายทางเทคนิค5บาท(อิงว่าเป็นกลุ่มอดีตนายกฯทักษิณ จะได้งานภาครัฐ) ตัวหลัง15บาท(อิงเรื่องกลัวไฟฟ้าดับ พลังงานสำรองเลยมาแรง)

2.TGPROผ่านต้านสามเหลี่่ยม มีtargetทางเทคนิค1.50-1.60

ส่วนหลังที่เป็นหุ้นอื่นๆนี้เล่าให้ฟังนะครับ ไม่ได้ recommend อะไรให้่ซื้อหรือขาย เผื่อท่านใดจะสนใจหุ้นแนวๆนี้อยู่จะได้ไปหาปัจจัยพื้นฐาน หรือจังหวะซื้อขายประกอบกันต่อไป และผมก็ไม่อยากหาภาระตัวหุ้นใหม่ๆมาติดตามเฝ้าให้กับท่านด้วย เอาเป็นว่าเล่าให้ฟังเฉยๆครับ




แนวโน้มของหุ้นใหญ่ในSET50-อยู่ในทิศทางขาขึ้น ไปใกล้แนวต้านเป้าหมายแรก1035จึงพบแรงขายทำกำไรสลับลงมา มีกรอบแนวรับเขต1029,1025จุด กรอบแนวต้านวันนี้1035-1037 คาดว่าจะแกว่งตัวพักฐานอยู่ในกรอบนี้ในวันนี้ ช่วงต่อไปค่อยลุ้นผ่านเขต1035เพื่อไปต่อด่าน1042ถัดไป1047-1050เป้าหมายใหญ่1065 ทั้งนี้ขึ้นกับSETตัวแม่ด้วย หากผ่านด่านแนวต้านจิตวิทยาเขต1600เพื่อไปด่าน1625-1660จึงจะเห็นการขึ้นไปเป้าหมายดังกล่าวของSET50

กลยุทธ์รายวัน-อิงทางซื้อเปิดlongเขตแนวรับ1029หรือ1025 แล้วไปปิดสถานะทำกำไรเขตแนวต้าน1035,1037จุด

กลยุทธ์รายสัปดาห์-หากอ่อนลงยืนเหนือเขต1025หรืออย่างแย่1020ก็เปิดlongหรือถือสถานะlongเพื่อลุ้นการผ่านด่าน1035เพื่อไปทดสอบเป้าหมายต่างๆคือ1042,1050และเป้าหมายใหญ่1065 ทั้งนี้ขึ้นกับSETตัวแม่ด้วย หากผ่านด่านแนวต้านจิตวิทยาเขต1600เพื่อไปด่าน1625-1660จึงจะเห็นการขึ้นไปเป้าหมายดังกล่าวของSET50


วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:PAEข่าวร้ายปัจจัยเสี่ยงโดนCash balanceเพราะขาดทุน ข่าวดีปัจจัยพื้นฐานเปลีั่่ยนจะเป็นหุ้นturnaroundที่โดดเด่นด้วยเส้นสายปึ้กทางการเมืองรับเหมางานภาครัฐ ฟื้นกลับมาทำกำไร

รายการรู้ก่อนรวยกว่า ผ่าPAEอดีตแย่ แต่โฉมอนาคตเปลี่ยนภายใต้บังเหียนของหลานนายกฯยิ่งลักษ์+ทักษิณ


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

ราคาหุ้นPAE เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มีนาคมแกว่งแรงผันผวน ด้วยความโลภ VS ความกลัว ช่วงเช้าคนมองดีหลังหลุดCash balanceวันแรกทะยานขึ้นไป3.64บาท หรือบวกราว10% แต่ตกบ่าย หลังจากมีการพูดกันต่อๆกันไปว่า โบรกเกอร์ว่าคงโดนCash balanceอีกรอบ ราคาก็ร่วงลงแดนลบ และปิดทำการไปที่ 3.34 บาท ลงจากวันก่อน 0.02บาท แต่หากนับจากราคาสูงสุดของวัน ลงมาซะ 0.20บาททีเดียว

*โบรกเห็นเทรดแค่ครึ่งวันฟันธงติดCash balanceอีกแน่ ไม่ต้่องรอตลาดประกาศในวันศุกร์

การร่วงลงมาดังกล่าว เกิดจากมีคนกังวลว่าเทรดหุ้นPAEที่เพิ่งพ้นโทษแบนcash balanceมาวันแรกในวันนี้ แล้วเดี๋ยวจะติดCash balanceอีก โดยโบรกเกอร์บางรายให้ข่าวว่า เฉพาะปริมาณการซื้อขายในครึ่งวันแรกในวันจันทร์ที่ 11 ก็คาดการณ์ว่าPAEคงเข้าข่ายต้องติดCash balanceอีกที่ผมงงๆก็คือ พ้นโทษแบนวันแรกมาแค่ครึ่งวัน โบรกเกอร์ก็ออกมาฟันธงซะแล้วว่าจะโดนอีกรอบ ปกติผมเห็นโบรกเกอร์มักจะออกข่าวคาดการณ์ว่าหุ้นตัวไหนจะติดCash balanceก็ต้องซักเย็นๆวันพฤหัสฯนะครับ และตลาดฯไปประกาศเป็นทางการในเย็นวันศุกร์ นี่โบรกเกอร์มาขยันออกข่าวตั้งแต่ครึ่งวันแรกที่พ้นโทษแบน...

ความจริงแล้วตลาดฯจะประกาศหุ้นที่ติดcash balanceเย็นวันศุกร์ที่15มีนาคมนะครับ ผมจึงได้แนะนำว่าหากท่านกลัวว่าPAEจะโดนCash balanceอีกยกก็ให้ไปรอขายขายเช้า15มีค.ครับ ตอนนั้นน่าไปแนวต้านเขต4.10 ดีๆก็อาจเป็น4.50+/-

ดังนั้นท่านก็ไม่จำเป็นต้องมาขายซะตอนนี้หรอกครับ ตลาดประกาศเย็นวันศุกร์ ท่านไปขายเช้าวันศุกร์15ก็ยังพอทันสำหรับคนที่นิยมเล่นเก็งกำไรระยะสั้น 


ช่วงนี้มีแนวรับเขต3.32,3.20-3.24บาท แนวต้าน3.50-3.64บาท แนวต้านด้านบน4.00-4.10บาท

แต่ท่านที่เล่นเก็งกำไรระยะสั้่นไม่เป็น ก็อย่าเล่น หรือไปรอเจอCash balanceอีกรอบก็ค่้อยเข้าตอนมันตกลงมานะครับ โดยอิงเรื่องการturn around
************
ระยะสั้นปัจจัยเสี่ยงโดนCash balanceจากการขาดทุน ระยะกลางปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก จะฟื้นมามีกำไร จากการได้ทุนใหม่ และเส้นสายสัมพันธ์ทางการเมืองที่แข็งแกร่ง จะได้งานรับเหมาภาครัฐ

หุ้นPAE-เหมาะสำหรับท่านสมาชิกที่สนใจเทรดหุ้นเก็งกำไร หรือหุ้นturnaroundที่เคยเน่าๆแต่จะฟื้นตัวขึ้นได้ดี เนื่องจากมีเงินทุนใหม่เข้ามา และมีสายสัมพันธ์ทางการเมืองที่เป็นฐานแกร่งหนุนให้ได้งานรับเหมาภาครัฐ

ประเด็นstock picks:PAEหลังพ้นโทษแบนเทรดเงินสด ให้เทรดมาร์จิ้นได้เริ่มวันนี้ หุ้นturnaroundที่น่าจับตามอง


ประเด็นสำคัญ:
*ขาดทุนสุทธิ-332ล้านบาทในปี2555
*ได้เงินทุนใหม่จากกองทุนสิงคโปร์ 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์
*เซ็นสัญญางานขุดเจาะน้ำมันและแก๊สจากPTTEP
*คาดการณ์จะพลิกฟื้นมากำไรในปี2556
*ผ่านแนวต้านรูปแบบสามเหลี่ยมเขต3.20จะทดสอบด่านพีคเก่า3.50หากผ่านรอบนี้จะไปเป้าหมายแรก4บาท เป้าหมายใหญ่4.90ถึงราวๆ6บาท
*ปัจจัยเสี่ยง หากเล่นแรงเกินไปอาจโดนลงโทษแบนให้เทรดเงินสดอีกรอบได้

มุมมองทางเทคนิค:ช่วงนี้มีแนวรับเขต3.32,3.20-3.24บาท แนวต้าน3.50-3.64บาท แนวต้านด้านบน4.00-4.10บาท ระยะกลาง 5 บาท


ประเด็นที่น่าสนใจ

1.พ้นโทษแบนCash balanceให้เทรดเฉพาะเงินสด ตั้งแต่วันจันทร์หน้า 11 มีนาคม
2.เป็นกิจการที่มีผลดำเนินงานขาดทุนในปี2555โดยขาดทุน-332ล้านบาท เทียบปีก่อนกำไร38ล้านบาท
3.บริษัทเพิ่งเพิ่มทุนแบบเจาะจง โดยขายให้กับ AO Fund(Advance Opportunities Fund ) 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ บริษัทฯจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับการขยายงานในอนาคต ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของ PAE เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
4.PAEมีนายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ บุตรชายนางเยาวเรศ ชินวัตร (หลานทักษิณ ชินวัตร และหลานนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)เป็นกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่
5.PAEเพิ่งชนะประมูลจากปตท.สผ.สำรวจน้ำมันและก๊าซที่แหล่งลานกระบือมูลค่างาน908ล้านบาท และมีโอกาสได้งานเครือปตท.อีกหลายงาน

ข้อพิจารณา:เป็นหุ้นที่เคยเน่า แต่หลังจากกลุ่มหลานชายของคุณทักษิณเข้ามาถือหุ้นใหญ่ และได้ทุนใหม่จากสิงคโปร์เข้ามา20ล้านเหรียญสิงคโปร์ และด้วยสัมพันธ์ที่ดีในแวดวงการเมือง(สังเกตจากเริ่มได้งานรับเหมาของปตท.สผ.)น่าจะทำให้PAEเป็นกิจการที่จะฟื้นตัวได้ดีในระยะต่อไป น่าล้างขาดทุนได้ และพลิกเปลี่ยนมากำไร กลายเป็นหุ้นเทิร์นอะราวนด์ที่โดดเด่น

ปัจจัยเสี่ยง-อย่างไรก็ดีเนื่องจากขาดทุนอยู่ หากราคาเหวี่ยงแรงมากไป ก็เสี่ยงจะติดโทษแบนให้เทรดCash balance หรือซื้อขายด้วยเงินสดอยู่


คำแนะนำ 1.เล่นเก็งกำไร ซื้อที่เขต3.32-3.20 หรือรอfollow buyหากผ่านด่าน3.50หากเล่นสั้น และเกรงความเสี่ยงเรื่องติดโทษแบนก็ไปขายในราววันศุกร์ที่15มีนาคมนี้

หรือ 2.ติดตามดูพัฒนาการด้านพื้นฐาน หากเปลี่ยนแปลงไปทางบวกอย่างมีนัยสำคัญก็อาจถือเก็งกำไรในระยะกลาง ติดโทษแบนเมื่อไหร่ก็หาจังหวะเข้าช้อนซื้อและถือซักปี

หรือ3.หากท่านไม่ชอบหุ้นแนวๆนี้ต้องการหุ้นดีๆพื้นฐานแกร่ง ราคาค่อยเป็นค่อยไป ถืิอยาวๆก็กำไรดี หรือturnaroundแบบไม่เสียวติดcash balanceก็ไปเทรดตัวอื่นครับ เพราะแต่ละท่านก็ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน

**********

PAE  What's next? แล้วยังไงต่อ?

Trendใหญ่-แท้งหลังจากbreakout3.50ขึ้นไปแล้วเจอข่าวติดcashจากนั้นหลุดuptrendเขต3บาท+/-และร่วงหลุด1ใน3fibonacci retracement(เขต2.54-2.68บาท)ลงมาฐานlowเก่าเมื่อ23มกราคมตอนติดcashรอบก่อนคือ2.10บาท และดูมีแรงซื้อสู้

ช่วงนี้ก็จะมีฐาน2.10 ยกเว้นไม่มีแรงสู้เลยจึงจะไหลลงไปเขต2ใน3fibonacci numberคือ1.84หรือเส้น200วัน1.90บาท แนวต้านdowntrend2.60-2.70หากผ่านจะเป็นสัญญาณบวกขึ้นต่อไปเขตต้าน3.00+/- ถัดไป3.66 เป้าหมายระยะกลาง5บาท+/-

ความเห็น:ดูเขต
2.10ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติ หากไม่หลุดลงก็อาจเห็นการฟื้นตัวแล้วแกว่งไซด์เวย์ในกรอบดังกล่าว หากผ่านเขต2.60-2.70ก็น่าถือหากติดไว้ หรือซื้อเพิ่มแก้พอร์ต เว้นแต่หลุด2.10จึงควรคาดการณ์ในทางร้ายว่าจะลงไปเขต1.80+/-ครับ

นอกนั้นก็ติดตามเรื่องfundamental ซึ่งผมยังมีข้อมูลตามเดิมว่าหุ้นตัวนี้จะturnaroundโดดเด่น หากมีเวลาให้มันถึงสิ้นปี ผมคิดว่าจะมีผลตอบแทนที่งดงาม
 ***********

เรื่องที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน:


ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:การลงทุนในตลาดเป็นเรื่องอ่อนไหว เพราะเป็นเรื่องเงินชาวบ้าน สื่อที่จะลงข่าวควรใช้ความรอบคอบให้มาก กรณีศึกษาNIPPONเป็นตัวอย่างอันดี



วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

ศาสตร์นพลักษณ์ คนสำราญ งานสำเร็จ ลงทุนสมหวัง





งานอบรมและเวิร์คช็อป ศาสตร์นพลักษณ์ วันที่30-31มีนาคมนี้ที่บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น สอบถามสำรองที่นั่งที่คุณกรรณิกา 084-6026658 สมัครเข้าอบรมก่อน10มีนาคมในราคาพิเศษเพียง4,400บาท(หลัง10มีนาคม ราคาเต็ม5,000บาท)

ความรู้นพลักษณ์สามารถช่วยนักลงทุนได้

1.ค้นหาสไตล์ในการลงทุนที่เหมาะสมกับบุคลิกของตน ทำให้หลังจากลงทุนแล้ว "ยังกินได้ นอนหลับ"
2.รู้จุดแข็งของตนที่เหนือกว่าผู้อื่นมาใช้ในประกอบการลงทุน
3.ปิดจุดอ่อนของตนที่อาจส่งผลให้การลงทุนขาดประสิทธิภาพ สไตล์การลงทุนของคนแต่ละลักษณ์อย่างย่อ
คน1 ลงทุนตามตำรา/หลักการ เป๊ะๆ ไม่ค่อยพลิกแพลง
คน2 ชอบหุ้นเด็ด หุ้นกระซิบแบบVIP
คน3 เน้นความสำเร็จแบบรวดเร็ว ชอบหุ้นอินเทรนด์
คน4 ชอบลงทุนไม่เหมือนใคร ตามรสนิยมและอารมณ์ของตน
คน5 หาข้อมูลเพียบก่อนจะตัดสินใจลงทุน
คน6 มองแง่ร้ายไว้ก่อน เช็คแล้วเช็คอีกก่อนตัดสินใ
คน7 ใช้หลายศาสตร์ผสมปนเป มองโลกในแง่ดี
คน8 ใช้สัญชาติญาณ ตัดสินใจเด็ดขาด
คน9 ลงทุนตามเพื่อน ไปไหนไปด้วย

สถานที่อบรมบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด รามคำแหง165(ซอยมิสทีน) ผมอำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่อบรม ไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้่จัดค่าอบรมได้ถูกมากๆครับ

วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:KCEเป็นกรณีศึกษาที่ดีว่า"รักแล้วรอหน่อย"บ่มนานๆผลตอบแทนหอมหวานเกินความคุ้มค่า

หุ้นเด่นชุดRecovery stocksที่ผมแนะนำซื้อไว้ช่วงเดือนมกราคม และเมษายน2555 ตอนนี้ขึ้นมาให้ผลตอบแทนสวยมากมาก(คำเตือน:ผลงานคำแนะนำการลงทุนในอดีต ไม่อาจเป็นหลักประกันคำแนะนำการลงทุนในอนาคต การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนพึงใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจลงทุน)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


พอดีมีคนเขียนเรื่องKCEขึ้นมาแรง โบรกเกอร์พากันเชียร์ว่ามีข่าวดีจะได้เงินประกันน้ำท่วมมาอีก2,000ล้านบาท ผมเลยเล่าให้เป็นกำลังใจคนติดดอยBANPU IVL STAหน่อยครับ

นี่ก็เป็นcase studyตัวหนึ่งครับที่เคยพาซื้อตอน5บาทกว่าๆแล้วอืดอยู่นานมากๆ โบรกเกอร์ก็แนะนำขาย ให้เป้าหมาย3-4บาท ดีสุดที่ผมจำได้คือ5.20บาท แต่เรื่องร้ายๆแบบนี้เกิดขึ้นแค่หนเดียว ในที่สุดมันก็ขึ้นมาแบบที่ผมเรียกว่าCreative destruction(คือพังลงไป เวลาฟื้นรอบใหม่จะขึ้นทำนิวไฮ) แต่กว่าจะเห็นราคาตรงนี้คือผ่านไปราวๆ10เดือนนับจากวันที่พาสมาชิกเข้าซื้อครับ

ดังนั้นหากหุ้นบางตัวที่มันอืดมากๆแบบESSO STA IVLจะขึ้นไปดีๆในอีกราว1ปีข้างหน้า ด้วยสูตรเดียวกัน หรือกึ่งๆคล้ายกัน(พวกหลังนี้เป็นCyclical stock ไม่ใช่recovery stockแบบKCE)ผมก็ว่าคุ้มค่าที่จะรอ

ครั้งหนึ่งผมเคยเปิดเพลง"รักแล้วรอหน่อย"ให้กับหุ้นKCEนะครับ บางท่านอาจจะพอจำได้

หุ้นเด่นที่ผมยังแนะนำให้สมาชิกถือไว้รอขายทำกำไร สำหรับท่านที่ยังไม่ขาย และถือมารอเป้าหมายใหญ่ (คำเตือน:ผลงานคำแนะนำการลงทุนในอดีต ไม่อาจเป็นหลักประกันคำแนะนำการลงทุนในอนาคต การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนพึงใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจลงทุน)
หุ้นเด่นชุดChina playที่ผมแนะนำให้ลงทุนเมื่อช่วงเกือบ 3 เดือนมานี้ ราคาหุ้นไม่ขึ้นกับตลาด หลายท่านก็บอกเบื่อและน่าผิดหวัง ซึ่งผมก็ว่าน่าผิดหวังหากท่านต้องการผลตอบแทนที่รวดเร็ว แต่หากท่านจะรอรอบของมันได้ซักปี ผมว่าน่าจะมีรางวัลผลตอบแทนที่คุ้มค่ารอคอยท่านอยู่

รายการรู้ก่อนรวยกว่าวันนี้ทางTNN24 ผมได้เจาะหุ้นกลุ่มChina playเด่นBANPU IVL STAที่แย่กว่าตลาดมานาน หลังจีนตั้งสีเจี้ยนผิงเป็นผู้นำจีนใหม่ในวันนี้และอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในระยะต่อไปจะกลับมาเป็นผลดีต่อธุรกิจถ่านหิน ยางพารา เคมี โภคภัณฑ์ แนะนำซื้อราคาลงมาเขตbottom lineแล้ว ถือระยะยาว1ปีจะให้ผลตอบแทนคุ้มค่า 

เปิดรับเมมเบอร์ที่ได้รับบริการในระดับVIPกับอาจารย์ณัฐวุฒิ โทร087-7174979 เพื่อลุ้นโอกาสรู้ก่อนรวยกว่าวันนี้

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:การลงทุนในตลาดเป็นเรื่องอ่อนไหว เพราะเป็นเรื่องเงินชาวบ้าน สื่อที่จะลงข่าวควรใช้ความรอบคอบให้มาก กรณีศึกษาNIPPONเป็นตัวอย่างอันดี



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp



*ความเข้าใจคลาดเคลื่อนกรณีนสพ.ข่าวหุ้นลงข่าวว่าNIPPONขาดทุนบักโกรก ทำให้คนตกใจเทขาย

ผมอ่านๆที่เพื่อนๆนักลงทุนถามเรื่องNIPPONแล้วพบว่า น่าจะกล่าวถึงอยู่หน่อย คือที่ผมแปลกใจนั้นก็คือมีความเข้าใจของคนจำนวนมากเรื่องที่"หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น"ลงข่าวว่าNIPPONขาดทุนบักโกรก ที่มีกำไรก็เป็นกำไรปลอมๆจากการบันทึกเงินก้อนโตจากการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ-ลูกหนี้-อดีตกรรมการ 191.39 ล้านบาท หากหักรายได้อื่นออกไป จะขาดทุนทันที 27.34 ล้านบาท ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนควรจะรู้ว่า ธุรกิจของ NIPPON ไม่ได้ทำเงินเป็นจำนวนมหาศาลอย่างที่ตัวเลขบนงบการเงินปรากฏให้เห็น

ผมขออธิบายให้ฟังพอสังเขป(ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่อะไรของผมซักนิด แต่บางท่านเขียนถามมา เหมือนว่าผมเป็นจำเลย ไปพูดแนะนำทางรายการทีวี แล้วคนก็ซื้อและติดหุ้นNIPPONอะไรประมาณนั้น..)

1.ให้เข้าใจก่อนว่า NIPPONนี่มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือคุณสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ซึ่งแกเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ทันหุ้นอยู่ด้วย ส่วนหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวว่าNIPPONขาดทุนบักโกรกนี่เป็นหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น(ซึ่งเป็นคู่แข่งของนสพ.ทันหุ้น หากว่ากันตรงๆ) และนสพ.ข่าวหุ้นก็ไม่ได้อ้างแหล่้งข่าวที่มีหลักมีฐานเช่นนาย หรือนางอะไร ตำแหน่งไหน สังกัดโบรกเกอร์ฺไหน อ้างแค่้ว่า"นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง"เป็นคนให้ข่าว

(เรื่องนี้ผมเคยเล่าให้ฟังปีที่แล้วว่าผมเคยเป็นบรรณาธิการนสพ.ข่าวหุ้นก่อนฟองสบู่้แตกปี2540และผมมีส่วนอย่างมากทีเดียวที่ทำให้นสพ.ฉบับนี้ไม่ปิดตัว และอยู่รอดมามีอิทธิพลในวงการนสพ.หุ้นในวันนี้ เพราะผมเสนอว่าเราจะไม่ปิดข่าวหุ้น และผมจะหาเงินมาช่วยทำ แม้ผมต้องเป็นหนี้เป็นสินก็จะหามาทำ..ดังนั้นผมย่อมไม่มีอคิอะไรกับข่าวหุ้นที่ผมรักมาก 

เป็นแต่ผมบ่นหน่อยว่า พักหลังๆนี้คุณภาพไม่ค่อยไหว นึกอยากเขียนข่าวยังไงก็ได้ ไม่ต้องอ้างอิงแหล่งข่าวให้เป็นเรื่องราวน่าเชื่อถือได้ อย่างปีกลายก็เขียนพาดหัวว่าTHREจะเจ้ง จะเพิ่มทุนรอบ2 ทำเอาหุ้นTHREร่วงเกือบฟลอร์ ผมต้องเหนื่อยมาอธิบายแทบตา่ย ซึ่งต่อมาใครก็รู้ว่าข่าวนี้ไม่จริง แต่นสพ.ก็ไม่เคยแก้ข่า่ว...มาคราวนี้ผมก็ต้องมาเหนื่อยอธิบายอะไรนี่อีก)

2.นสพ.ข่าวหุ้นลงว่าNIPPONขาดทุนบักโกรกหากไม่ได้เงินใช้หนี้มาจากกรรมการ โดยอิงเรื่องงบQ3 ซึ่งมาวันนี้NIPPONเขาได้แจ้งงบสิ้่นปี2555มาพอดี และปรากฎเป็นหลักเป็นฐานในเวบไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯว่าเขามีกำไร191.27ล้านบาท กำไรต่อหุ้น1.25บาท/หุ้น

กำไรสุทธิ ในปี 2555 คือ 191.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วยเดียวกันในปี 2554 ซึ่งมี ผลกำไรสุทธิ อยู่ที่ 19.71 ล้านบาท
ดังนั้นบริษัทฯ มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 171.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น
ร้อยละ 870.28 โดยบริษัทมีกำไรต่อหุ้นสำหรับปี 2555 อยู่ที่ 1.25 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2554 อยู่ 1.09 บาท
หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 671.78 


เหตุของกำไรที่เขาชี้แจงต่อตลาดฯคือ

1.รายได้รวมของปี 2555 เท่ากับ 528.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 เท่ากับ 271.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 105.79 โดยรายได้มาจากการขายในปี 2555 เท่ากับ 293.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปี 2554 เท่ากับ 54.26 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.66% เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายของบริษัทย่อย(ไทยเฟล็กซ์ฯ) ซึ่งมีรายได้ที่รับรู้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2555 

(แปลเป็นไทยคือในช่วงต่อไปนี้NIPPONจะรับรู้รายได้จากไทยเฟล็กซ์แพ็คไปตลอด โดยเพิ่งรับรู้กำไรส่วนนี้ในไตรมาส3และ4/2555 และต่อไปก็จะรับรู้กำไรส่วนนี้โดยตลอด ไม่ใช่รับรู้วูบวาบกำไรทางบัญชีหนเดียวจบ แต่รายได้ตรงนี้เข้ายาว ทำให้พื้นฐานของNIPPONเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญมากๆ)

2.รายได้อื่นๆ จำนวน 234.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 จำนวน 217.27 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1,261.45 เกิดจากการย้อนกลับรายการเงินกู้ยืมของอดีตกรรมการคนเก่าที่นำเงินออกไปจำนวน 191.4 ล้านบาท มาเป็นรายได้อื่นๆ ในรอบปีบัญชี 2555

(ส่วนนี้คือที่ข่าวหุ้นลงว่าเป็นกำไรปลอมๆ หากไม่มีส่วนนี้จะขาดทุน"บักโกรก"นั่นแหละ ความจริงคือ"ผิด"เพราะถึงไม่มีส่วนนนี้NIPPONก็กำไรจากข้อ1อยู่แล้ว และเป็นกำไรของจริงที่จะอยู่ในงบของNIPPONไปอีกยาว)

3.กำไรส่วนที่เหลือเกิดจากการนำเงินสดที่มีอยู่ไปหาผลประโยชน์ตอบแทนโดยการลงทุนในหลักทรัพย์ และการซื้อหน่วยลงทุนจากสถาบันการเงิน

ที่มา:http://www.set.or.th/set/newsdetails.do;jsessionid=A224C82AB07A829396B101299B209AA7.itnpi07?headline=%AA%D5%E9%E1%A8%A7%BC%C5%A1%D2%C3%B4%D3%E0%B9%D4%B9%A7%D2%B9%E0%BB%C5%D5%E8%C2%B9%E1%BB%C5%A7%E0%A1%D4%B9%A1%C7%E8%D2%C3%E9%CD%C2%C5%D0+20&time=1361889600000&source=NIPPON&symbol=NIPPON&pdf=dat%2Fnews%2F201302%2F13010270.pdf++++++++++++++++++&filename=dat%2Fnews%2F201302%2F13010270.t13++++++++++++++++++&type=H&language=th&country=TH

ทีนี้ที่ผมบอกว่าผมแปลกใจก็คือ ตั้งแต่เช้าก่อนเปิดตลา่ดลูกค้าก็โทรมาหาผมว่าข่าวหุ้นลงข่าวแบบนี้(NIPPONขาดทุนบักโกรก กำไรก็ปลอมๆ ผมก็ขำว่ามันเป็นไปได้ไงที่เขากำไรปลอมๆ เพราะถึงจะอ้า่งเรื่องกรรมการใช้หนี้ แต่ของจริงคือรับรู้จากรายได้ของบริษัทลูกคือไทยเฟล็กซ์นั้นมันของจริงและจะได้อีกยาวเลย แถมเขา่สามารถปันผลได้0.14บาท/หุ้น หากขาดทุนบักโกรกมันจะจ่ายปันผลได้ไง...ลูกค้าก็พูดว่า"ไม่รู้หละ หนังสือพิมพ์ลงยังงี้"(แปลว่าหากไม่จริง นสพ.คงไม่ลง 

ผมก็ขี้เกียจไปเถียงว่า งานนี้มันมีอะไรแปลกๆอยู่ เช่นว่า นสพ.ข่าวหุ้นก็อ้างแค่แหล่งข่าวนักวิเคราะห์รายหนึ่ง(ซึ่งเป็นอันรู้กันในวงการนักข่าวว่า 1.ไอ้เจ้าแหล่งข่า่วนี้มีตัวตนจริงๆ หรือ2.โมเมเขียนกันขึ้นดื้อๆนี่แหละ

และผมก็ไม่อยบากบอกว่า พี่ครับเจ้านสพ.ข่าวหุ้นนี่เขาเป็นคู่แข่งกับทันหุ้นที่เสี่ยป๊อบ นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย เป็นเจ้าของอยู่นะครับ ตาเสี่ยป๊อบนี่ดันมาเป็นเจ้าของNIPPONอยู่ด้วย)

ทีันี้มาตอนค่ำๆหุ้นตกไป12%ก็มีคนมาเขียนถามผมเรื่องนี้อีก บางรายนี่ว่าถึงขั้นว่า นายณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ไปเชียร์ออกทีวีTNN24 พวกเราทุกคนก็ซื้อเลยซวย เห็นมั้ยข่าวหุ้นเค๊าลงว่ายังงี้ บลาบลาบลา)

ครับที่ผมแปลกใจข้อต่อไปคือ ทำไมไม่อ้างว่าตกใจเรื่องเพิ่มทุนกันก็ไม่ทราบ(อาจมีข้อเถียงว่าพักหลังๆพอมีข่าวเพิ่มทุน แจกวอร์แรนต์ หรือทำนองนี้หุ้นวิ่งขึ้นแบบKMC และหุ้นเครือNATIONอย่างพวกNMG NINE NBC ก็ได้ ซึ่งผมจะอธิบายข้างหน้า)

 เพื่อที่จะบอกว่าผมไม่ได้มีอคติกับนสพ.ข่าวหุ้นผมขอเล่าอีกนิดนึงว่า ก่อนฟองสบู่แตกปี2540นั้นผมทำงานนสพ.อยู่ ตอนท้ายๆเราไปไม่รอดหละครับ แต่เรามีนสพ.21บับในเครือคือไทยไฟแนนเชียลรายวัน กับข่าวหุ้นรายวัน(ซึ่งโดยส่วนตัวผมผูกพันกับไทยไฟแนนเชียลมากกว่าข่าวหุ้น) เจ้านายที่เป็นผู้อำนวยการก็มาปรึกษาผมว่าจะปิดข่า่วหุ้นเพื่อรักษาไทยไฟแนนเชียลไว้ ผมบอกว่าผมไม่เห็นด้วย เพราะไทยไฟแนนเชียลนั้นเป็นนสพ.แนวธุรกิืจเราอยู่ตำแหน่งที่5(ต่อจากผู้จัดการ กรุงเทพธุรกิจ วัฏจักร สื่อธุรกิจ) 

ผมว่าเอาข่าวหุ้นไว้ดีกว่า เพราะเวลานั้นเราเป็นแค่ฉบับเดียวในวงการหุ้น ต้นทุนก็ถูกกว่า ขายก็ราคาแพงกว่า...นายผมก็รับปากว่าจะเอาไว้ แต่ไม่รู้จะไปยังไงกันต่อ ผมก็บอกว่านายครับเงินเดือน5หมื่นผมไม่เิอา เหลือ2พันพอเป็นค่ารถ กับผมจะไปกู้ยืมให้ในนามผม เมียผมเป็นคนค้ำประกัน(ผ่านไป15ปีเต็มๆ เจ้านายผมเพิ่งชำระหนี้ก้อนนี้ให้ผมจบ ตามสัญญาสุภาพบุรุษ) แต่ตอนปลายปี2540ผมก็ไปไม่รอดเพราะบ้า่นช่องรถราโดนยึด อนาคตลำบาก เลยหลั่งน้ำตายอมแพ้ไปขอเจ้านายลาออกมาตั้งบริษัทต้นธารฯนี่แหละครับ เจ้านายผมก็ดีใจหายช่วยจนตั้งบริษัทสำเร็จ และอยู่มายาว15จะ16ปีในตอนนี้

ที่ผมเล่ามาดูเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ แต่ผมอยากบอกว่าที่เขียนมาข้างต้นนี่ไม่ใช่เพราะผมมีอคติกับนสพ.ข่าวหุ้น ผมก็ยังรักของผมอยู่ตามเดิม แต่อะไรที่มันผิดก็คงขอบอกว่าผิด ในฐานะมิตรที่ดีต่อกันเท่านั้นเองครับ

*การเพิ่มทุน การออกวอร์แรนต์ และผลสืบเนื่อง


เรื่องNIPPON(ตอน2):เรื่องการเพิ่มทุนและออกวอร์แรนต์

1.บริษัทแจ้งว่ามีมติเพิ่มทุน183ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน1หุ้นเดิมได้1หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 1 บาท ขึ้นXR26เม.ย.จองและจ่าย15-21พค.2556
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do;jsessionid=A224C82AB07A829396B101299B209AA7.itnpi07?headline=%E1%BA%BA%C3%D2%C2%A7%D2%B9%A1%D2%C3%E0%BE%D4%E8%C1%B7%D8%B9+NIPPON+%28%E1%A1%E9%E4%A2%29&time=1361959608000&source=NIPPON&symbol=NIPPON&pdf=dat%2Fmds_news%2Fnews%2F0404NWS270220131706480571T.pdf&filename=dat%2Fmds_news%2Fnews%2F0404NWS270220131706480571T.txt&type=R&language=th&country=TH

2.บริษัทแจ้งว่าจะออกวอร์แรนต์ 183ล้านหน่วย หน่วยละ 0 บาท ให้แก่ผู้ใช้สิทธิืซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามข้อ1(ก็คือให้แถมฟรีนั่นแหละครับ) โดยมีราคาใช้สิทธิแปลงเป็นตัวแม่ที่ราคา1บาท อายุ3ปี
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do;jsessionid=A224C82AB07A829396B101299B209AA7.itnpi07?headline=%C3%D2%C2%C5%D0%E0%CD%D5%C2%B4%CA%D3%A4%D1%AD%A2%CD%A7%E3%BA%CA%D3%A4%D1%AD%E1%CA%B4%A7%CA%D4%B7%B8%D4%B7%D5%E8%A8%D0%AB%D7%E9%CD%CB%D8%E9%B9%CA%D2%C1%D1%AD%A2%CD%A7+NIPPON+%28%E1%A1%E9%E4%A2%29&time=1361959637000&source=NIPPON&symbol=NIPPON&pdf=dat%2Fmds_news%2Fnews%2F0404NWS270220131707230042T.pdf&filename=dat%2Fmds_news%2Fnews%2F0404NWS270220131707230042T.txt&type=R&language=th&country=TH
ความเห็นของผม

1.โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ก็คงเกิดไดลูชั่นเอฟเฟ็กต์ต่อราคาหุ้น หลังขึ้นXRไปแล้ว(XR26เมษา คืออีก2เดือนนับจากนี้)...แต่ระยะเฉพาะหน้าก็คงต้องบอกว่าสัดส่วนเพิ่มทุนแุถมวอร์แรนต์ตรงนี้มันจูงใจให้คนเอาสิทธิครับ เพราะจ่ายเงินเพิ่มไม่มาก และัราคาในกระดานก็สูงกว่าราคาเพิ่มทุนมาก และหากเจ้าของอยากจะให้คนมาใช้สิทธิเพิ่มทุน ก็มักมีการขยับราคาขึ้นไปสูงๆก่อนจะXR(ก็ไม่แน่อาจได้เห็นราคาขยับไปก่อน26เมษายน อันนี้ก็เป็นลูกสูตรหละัครับที่เคยเห็นๆมา)

2.การที่หุ้นตัวใดตัวหนึ่งมีการออกวอร์แรนต์ก็แปลว่าหนังยาวครับ ว่ากันเป็นซีรีส์ ตีแม่สลับลูกอะไรแบบนั้น(หมายถึงที่เคยเห็นๆกันมา)