วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ไม่อยากตกเป็นเหยื่อ อย่าหลงเชื่อหุ้นปั่น
ไม่อยากตกเป็นเหยื่อ อย่าหลงเชื่อหุ้นปั่น
เทร็นด์ช่วงนี้"หุ้นปั่น"กำลังมา
หนนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกครับ ปรากฎการณ์นี้มักเกิดขึ้นแบบช่วงเวลานี้
คือ ตลาดหุ้นขึ้นไปมากแล้วก็ตก หุ้นบลูชิป หุ้นตัวใหญ่ตกโดนฝรั่งขาย แต่แมงเม่ายังติดลมบน หลังจากขายหุ้นตัวใหญ่ไปแล้วก็มีเงินมีกำไรเหลือในกระเป๋ามากๆ ก็คันอยากซื้อหุ้น
ก็จะเป็นโอกาสให้รายใหญ่ปั่นราคาหุ้นที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐาน หรือหุ้นเน่าๆขึ้นมาให้คนแห่ตาม ปกติก็จะไล่กันวิ่งชนเพดาน และขึ้นมาแบบไม่มีข่าวอะไรหนุน ตอนแรกเรามองๆดูมัน มันก็ขึ้นเอาๆเราไม่กล้า กว่าจะกล้าเคาะซื้อ เพราะไม่อยากตกรถ ก็ติดดอยครับ และบางทีติดไว้4-5ปี เจ้ามือมันค่อยนึกได้มาไล่ราคาขึ้นให้เราลงจากดอย
คุณสมบัติหุ้นปั่นที่มักเจอร่วมๆกันคือ
1.มักเป็นหุ้นขนาดเล็ก มาร์เก็ตแค็ประดับร้อยหรือพันล้านบาท เจ้ามือคุมเกมง่าย
2.ปัจจัยพื้นฐานไม่ดี เช่นROE ROAติดลบ ไม่มีกำไร หรือผลดำเนินงานขาดทุน
3.ราคาแพงมากเมื่อดูจากP/E P/BV
4.ไม่มีข่าวคราวหรืออะไรที่มีนัยสำคัญต่อกิจการทางบวก แต่มีการปล่อยข่าวลือประเภทว่าเจ้าของจะซื้อคืนออกจากกระดาน หรือข่าวประเภทจะควบรวมกิจการ หรืออะไรทำนองนี้
วิํธีเล่นกับหุ้นปั่น
1.หากจะเล่นขำๆก็เล่นไปมีร้อยเล่นซัก10และให้แน่ใจว่าอยู่ต้นมือ หรือกลางทาง แต่หากเมื่อไหร่มันเล่นมันลากจนปรากฎเป็นข่าวไปทั่ว ราคาชักตื้อๆแสดงว่าเจ้ามือมันเลี้ยงขายแล้ว ก็ให้หนีให้ทัน
หรือ2.หากอินทรีย์ไม่แก่กล้าก็อย่าไปยุ่งด้วยก็ดี เพราะหลงไปเพลินมา หมดตัวมามากแล้วครับ
ปล.นี่เขียนจากประสบการณ์หายนะส่วนตัวด้วยส่วนหนึ่งนะครับ
วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
คัมภีร์หุ้นไทย (29พฤษภาคม-1มิถุนายน2555):เป้าฟื้นตัว1150-1200จุด หรือหากเข้าสูตรทำลายเชิงสร้างสรรค์(Creative destruction) ก็อาจเห็นการทรงๆไปถึง17มิถุนายน หลังจากนั้นค่อยวิ่งขึ้นมีนิวไฮเกิน1250จุด...อัพเดตหุ้นเด่นรายตัว พร้อมเป้าหมายการฟื้นตัว
โดย
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น
โทร.029275800 www.tontancorp.com
บทสรุปที่สำคัญ-รอบล่าสุดนี้
หุ้นไทยร่วงลงมาเขตเป้าหมายที่ประเมินไว้เขต1100+/- ขณะที่SET 50 ลงมาที่เขตเป้าหมาย760+/- ได้คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวมาเขต1150-1200สำหรับSET และเขต800ไม่เกิน835สำหรับSET50 โดยวันนี้ได้นำกฎ”ทำลายเชิงสร้างสรรค์” (Creative
destruction)มาอธิบายตลาดหุ้นไทยรอบล่าสุดนี้เพิ่มเติม
I.ตรวจชีพจรหุ้นโลกที่สำคัญ ปรากฏว่าลงถึงเป้าหมายแล้วน่าฟื้น
หุ้นไทยร่วงถึงเป้าหมาย1100+/-แล้วจะฟื้นรอบนี้ไป1150-1160จุด อธิบายด้วยกฎ”ทำลายเชิงสร้างสรรค์” (Creative destruction)
ดังที่เราได้พยากรณ์ไปก่อนหน้านี้ว่าแม้เจอวิกฤตการณ์กรีซและยูโรโซนหนักหน่วง
แต่หุ้นโลกก็ตกลงมาเป้าหมายหมดแล้ว อาทิเช่น DAX
เยอรมันเขต6200จุด ดาวโจนส์ อเมริกาเขต12200+/- และฮั่งเส็ง ฮ่องกงเขต18000ต้นๆ+/-
แล้วก็จะฟื้นตัวแรงๆซักยก
หรืออาจจะไปเข้าสูตร”ทำลายเชิงสร้างสรรค์” (Creative
destruction)
ตามที่เคยอธิบายเรื่องวิกฤตต่างๆมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นเป็น 3 ช่วง
ดังนี้
ชาร์ตที่1:แบบจำลองกฎทำลายเชิงสร้างสรรค์ต่อตลาดหุ้นไทยรอบล่าสุด
โดยตามกฎนี้ตลาดหุ้นจะมีผลกระทบจากวิกฤตการณ์ต่างๆเป็น3ช่วงคือ
1ร่วงแรง 2ซึมตัว และ3จบข่าวร้ายวิ่งขึ้นทำนิวไฮ
*ระยะที่1ตกแบบPanic sellลงมาตามหุ้นโลกจากความกังวลเรื่องกรีซจะออกจากยูโรโซน
*ระยะที่2 คือนับแต่ตอนปลายสัปดาห์ก่อนไปถึงวันที่ 17
มิถุนายนวันเลือกตั้งกรีซ ตลาดจะซึมตัวอยู่ระหว่างกรอบล่าง1100
กรอบบนอาจไม้เกิน1150 หรือดีสุดไม่เกิน1200จุด
*ระยะที่3หลังเลือกตั้งกรีซ ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ
มีผลให้กรีซอยู่หรือออกจากยูโรโซน ตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นไทยก็ขึ้นทำnew
highเกิน1247ทุกกรณี เนื่องจากผ่านพ้นช่วงที่อึมครึมที่สุดไปแล้ว
และวิกฤตการณ์ได้มีทางออกที่ชัดเจนแล้ว
หากเป็นไปตามกฎนี้
เราก็ไม่ควรเห็นตลาดหุ้นไทยขึ้นไปเกินกว่า1150-1160
หรือดีสุดไม่เกิน1190-1200ก่อนวันเลือกตั้งกรีซ
และจะไม่ได้เห็นการร่วงหนักลงไปลึกกว่าเขต1100เช่นกัน
ดังนั้นช่วงนี้หุ้นไทยที่ได้ตกมาเขต1ใน3คือราวๆ1100จุดแล้วก็จะฟื้นตัวตาม
โดยมีเป้าหมายฟื้นไปรอบนี้เขต1150-1160จุดโดยประมาณ(อ่านบทความเมื่อ3วันก่อนนี้)
ชาร์ตที่2:ดัชนีหุ้นไทย(SET INDEX) หลังจากร่วงลงไปเขตเป้าหมายที่ประเมิน1100+/-ก็ฟื้นตัวตามคาดการณ์
เมื่อวานปิดที่1139.93 โดยจะไปเป้าหมายต่อไป1150-1158
กรณีดีที่สุดอาจไปไม่เกินเขต1190-1200จุด แล้วตกปรับฐาน(ภายในกรอบซึมตัวไปจนถึง17มิถุนายน)
อย่างไรก็ตามล่าสุดเกิดสัญญาณซื้อ(Buy signal)เป็นครั้งแรกในmodify
stochasticsนับจากร่วงลงมาหนักในรอบนี้ จะเป็นตัวหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย
III. ไม่ต้องกังวลเททิ้งหุ้นแนะนำKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRIหรอกครับ
เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวม อยู่คนละคลื่นครับ
เหตุผลจริงๆที่ซ่อนอยู่ว่าทำไมรอบล่าสุดผมได้แนะนำให้ซื้อลงทุนหุ้นแนะนำKCE
ROJNA THRE BTS BLA SIRI (หากเทียบกับรอบก่อนๆที่ผมแนะนำลงทุนหุ้นใหญ่อย่างADVANC
INTUCH SCB BBL PTT)ก็เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวมนั่นแหละครับ
ผมคิดไว้ก่อนนี้แล้วครับว่าน่าจะเจอเหตุการณ์ตลาดแบบนี้ จึงได้คัดเลือกหุ้นชุดนี้ให้สมาชิกลงทุน(เพื่อหลบตลาดพีคและเป็นทางลงแรงๆ)
ดังนั้นขอย้ำ ไม่ต้องกังวลเททิ้งหุ้นแนะนำKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRIหรอกครับ เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวม
ผมว่าหุ้นที่ผมแนะนำเป็นหุ้นเด่นไตรมาส 2 อย่างหุ้นKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRI ก็จะไม่เป็นไปในทางเดียวกับตลาดหรอกครับ
เพราะเหตุผลดังนี้
1.หุ้นพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ในSET 50 จึงไม่เป็นไปในทางเดียวกับดัชนีSET(จะพบว่ารอบล่าสุดผมแทบไม่แนะนำหุ้นขนาดใหญ่ในSET50เลย เพราะผมเห็นว่าอาจเข้าคลื่นสุดท้ายของตลาดรวมแล้วจะตก
พวกตัวใหญ่จะเจอขายหนัก หรือมีโอกาสทำเงินน้อย ผมจึงแนะนำหุ้นขนาดเล็ก
หรือขนาดกลางที่เพิ่งฟื้นจากราคาฐานล่าง
เพราะเพิ่งโงหัวฟื้นไข้จากเจอน้ำท่วมหนักมา หากตลาดเปลี่ยนทางลง
มันก็จะไม่โดนกระทบมาก หรือแทบไม่มีผลกระทบจากSETลง)
2.Themeหลักที่ผมแนะนำหุ้นพวกนึ้คือมันเป็นหุ้นที่เพิ่งฟื้นไข้จากเรื่องน้ำท่วมใหญ่ปีกลาย
ราคามันเพิ่งผ่านพ้นจุดต่ำสุด และเริ่มขยับขึ้นเท่านั้น (เพราะเพิ่งโงหัวฟื้นไข้จากเจอน้ำท่วมหนักมา หากตลาดเปลี่ยนทางลง
มันก็จะไม่โดนกระทบมาก หรือแทบไม่มีผลกระทบจากSETลง)
3.หากเทียบกับหุ้นชั้นนำในตลาด หรือพวกSET50นั้นราคาเขาไปอยู่คลื่นสุดท้ายของขาขึ้น(คลื่น5)แต่หุ้นชุดนี้ที่ผมแนะนำเพิ่งขึ้นคลื่นแรก หรือคลื่น31เท่านั้น หากตลาดรวมหรือSETจะตกเป็นขาลง
มันก็จะไม่ลงแบบไหลยาวกับเขา(เพราะตอนขึ้นมันก็ไม่ได้ขึ้นไปมากเหมือนเขา
เพราะเพิ่งฟื้นไข้น้ำท่วม)
4.ดังนั้นหากตลาดรวมSETจะตก หากจะหลุดด่าน1150ลงเป็นขาลงไป1100+/- มันก็คงลงกับเขาบ้าง แต่ไม่ใช่ลงยาวอย่างนั้น แต่หากตลาดฟื้นมันก็จะฟื้นด้วย
ผมก็เลยเห็นว่าท่านไม่จำเป็นต้องกังวลแล้วไปเทขายแบบทิ้งขว้างนะครับ
โดยไปดูฐานรับแต่ละตัวดัวดังนี้(สมัครสมาชิกเพื่ิออัพเดตข้อมูลหุ้นเด่นรายตัวที่www.tontancorp.com โทร.02-9275800)
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เป้าตกหุ้นไทย1100+/- ความเสี่ยงไม่เท่าไหร่แล้ว หุ้นใหญ่ยังเป็นเป้าหมายลง จากนั้นจะฟื้นไข้ตามหุ้นโลก ส่วนหุ้นเด่นที่แนะนำไว้ลงถึงฐานหมดให้ถือ หรือรอจังหวะซื้อเพิ่ม
SETรอบนี้หาดวัดจากพีค1247วัดจากฐาน843จะมีเป้าหมายตกเขต1ใน3บริเวณ1,100+/-13จุด คือตั้งแต่1,113ไปถึง1,093จุด ขณะที่เครื่องมือบ่งชี้ว่าเข้าเขตsuper oversoldที่พร้อมจะเกิดการฟื้นตัวเมื่อลงถึงเป้าหมาย
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 http://www.tontancorp.com/
เมื่อวานนี้(22พฤษภาคม...บทความนี้เผยแพร่กับสมาชิกของเราเมื่อวันที่23พฤษภาคม เผยแพร่ในเว็บไซต์นี้ในวันที่24 พฤษภาคม)หุ้นไทยฟื้นตัวตามหุ้นโลก แต่ขึ้นไปไม่พ้นด่านสำคัญ1150ตามมาด้วยการร่วงลงมาปิด new low ที่เขต1131 จุด
I.ตรวจชีพจรหุ้นโลกที่สำคัญ ปรากฏว่าลงถึงเป้าหมายแล้วฟื้น แต่ขาแรกอาจจะไม่แข็งแกร่ง มีแดงสลับ จะเป็นผลให้หุ้นไทยลงต่อซะให้จบๆไปในช่วงนี้
-เมื่อวานนี้(22พค.)ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวบวกแรง และตลาดหุ้นอเมริกาตอนแรกก็ขึ้นแรงต่อเนื่องจากวันก่อน หลังหยุดการไหลลงยาว12วันทำการต่อเนื่องได้สำเร็จในวันก่อนหน้านี้
-โดยในช่วงแรกตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ
เพิ่มขึ้น 3.4% สู่ระดับ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับเป็นการส่งสัญญาณ ฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ส่วนราคาบ้านเฉลี่ยในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะ 177,400 ดอลลาร์ ซึ่งปรับขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2554 ขณะที่สต็อกบ้านเพิ่มขึ้นแตะ 2.54 ล้านยูนิต
อย่างไรก็ตามตลาดมีข่าวร้ายหลังจากนายลูคัส ปาปาเดมอส อดีตนายกรัฐมนตรีกรีซ
ออกมาเปิดเผยว่า กรีซกำลังพิจารณาเรื่องการออกจากกลุ่มยูโรโซน พร้อมกับเตือนว่าการอ่อนค่าลงของสกุลเงินยูโรอาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจกรีซและประเทศอื่นๆในยูโรโซน ขณะเดียวกันองค์การความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เตือนว่า 17 ประเทศในยูโรโซนเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง ส่งผลให้ท้ายสุดแล้วดาวโจนส์ลงปิดลบไปเล็กน้อย-1.67จุด ปิดที่12502จุด
-ส่วนหุ้นฮ่องกงช่วงเปิดทำการวันนี้ลงแดนลบเขต18735 -300จุด ซึ่งเป็นผลทางลบทางจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้
ชาร์ตที่1:เป็นการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์เที่ยวล่าสุดนี้ที่รับข่าวลบกรีซ-วิกฤตยูโรโซน ลงมาเขต1ใน3ของFibonacci retracementซึ่งก็คือเป็นเป้าหมายหลักในรอบนี้
ชาร์ตที่2:โดยปกติเมื่อลงมาเขต1ใน3แล้วมักสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการตกปรับฐานของตลาด เมื่อฟื้นก็จะกลับไปอย่างน้อยเขต1ใน3 ตามนี้คือราว12700+/- ถัดไปเขต2ใน3บริเวณ13000+/- หรือกลับไปเขต13350+/-(อย่างไรก็ตามมีเป้าหมายแรกเขต12700+/-ชี้ขาด หากไม่ผ่านก็แสดงว่าแค่รีบาวนด์แล้วตก แต่หากทำท่าผ่านได้ก็จะขึ้นจริงหละครับ)
แม้ช่วงนี้อาจยังเห็นลง แต่หากยืนเหนือเขต1ใน3บริเวณ12375-12230จุด ก็จะได้เห็นการฟื้นตัวของดาวโจนส์ต่อไป
ชาร์ตที่3:ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง-ตกแรงกว่าดาวโจนส์ และตกแรงกว่ายุโรปที่เป็นตัวต้นเหตุ(ตอนปีกลายเกิดวิกฤตในยูโรโซนก็ลงแบบนี้คือลงแบบOver reactกว่าที่อื่น) โดยรอบปีกลายตกลงมาเขต2ใน3 ส่วนเที่ยวล่าสุดนี้ลงมาเกินเขต50%retracement เกือบๆจะถึงเขต2ใน3
คาดว่าจะเกิดการฟื้นตัวของฮ่องกง ด่านแรกๆ19140จุด เป้าหมายแรกเขต1ใน3บริเวณ19800+/- แนวต้านใหญ่กรอบบน21500+/-
แต่วันนี้เปิดมาตกหลุดเขต18965 ก็คาดว่าจะไม่แย่กว่าเขต2ใน3คือบริเวณ18000-18300
วันนี้(23พค.)หุ้นฮ่องกงช่วงเปิดทำการลงแดนลบเขต18735 (-300จุด) ซึ่งเป็นผลทางลบทางจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ แต่ก็จะมีความเสี่ยงของขาลงจำกัด คือเต็มที่ก็จะลงมาราว700จุด หรืออาจจะเพียงราว400จุดแล้วก็จะเกิดการฟื้นตัวในรอบนี้
II.หุ้นไทยลงน้อยกว่าหุ้นโลก ปัญหาคือเราเพิ่งหลุดด่าน1150ลงมาจะฟื้นตามหุ้นโลก หรือจะลงสวนทาง? คำตอบน่าจะชัดขึ้นว่าน่าลงมาจบๆเขต1ใน3แล้วค่อยฟื้นตัวได้ ก็คือลงอีกราว20-40จุดแล้วฟื้นรอบใหญ่
ชาร์ตที่1:ดัชนีSETของตลาดหุ้นไทย-จะพบว่าที่ผ่านมาแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นโลก คือหากเทียบกับดาวโจนส์ที่ลงมาเขต1ใน3 หรือฮ่องกงที่ลงเกินเขต50%retracement แต่หุ้นไทยเที่ยวล่าสุดนี้ลงมายังไม่ถึงเขต1ใน3(เขต1ใน3=1113หรือ1093 หรือพูดง่ายๆว่าเขต1100จุด)
โดยที่ผ่านมาหุ้นไทยมายืนเหนือเขตlowเก่าเขต1150ได้ เพิ่งจะหลุดลงเมื่อวานก่อนนี้ เมื่อวานแม้มีรีบาวนด์แต่ไปไม่เกิน1150แล้วลงมาปิดที่จะดต่ำใหม่ new lowของรอบนี้แถว1131จุด
ปัญหาที่ต้องพิจารณามีอยู่คือ
1.หุ้นไทยอาจสวนทางหุ้นโลก โดยลงไปเป้าหมาย1100+/-ต่อไป เพราะหลุดด่าน1150ลงมาทำให้เสียสถานะของตลาดขาขึ้นไปแล้ว
2.ฟื้นตัวตามหุ้นโลกสลับเป็นจังหวะ เพราะลงมาในเขตsuper over sold จึงอาจมีreboundสลับได้(แต่จากนั้นก็จะลงไปให้จบๆเขต1100+/- หรืออีกราวๆ30จุด)
III.Set50 ดูเขตรอยต่อ800+/-เป็นเกณฑ์ว่าช่วงนี้จะขายหุ้นใหญ่ต่อไป หรือกลับมาอยู่ข้างช้อนซื้อเพื่อเล่นรีบาวนด์? เป้าตกรอบนี้760-775จุด
ชาร์ตที่1:เมื่อวานนี้Set50 มีรีบาวนด์แต่ไปได้เพียงเขต795ไม่เกิน797-800 ซึ่งเราได้แนะนำให้เปิดสถานะShort หรือถือครองshort ต่อไปหากเห็นหน้าตาอาการแบบนี้ เพราะจะลงต่อไป
เป้าหมายลงอยู่บริเวณ775-760จุด (เทียบกับSETคือแถว1113-1093จุด)
อย่างไรก็ตามเข้าเขตsuper oversoldเมื่อราคาร่วงทะลุbolinger band bottomลงมา ดังนั้นการลงมาเขตตั้งแต่775-770ก็อาจเกิดการรีบาวน์ฟื้นไปเขต800+/-ได้ตลอด หรือลงให้สุดๆบริเวณ760-765ก็จะรีบาวนด์ หรือกลับตัวขึ้น
กลยุทธ์สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ในSet50
1.ผลตอบแทนขาลงอาจมีตั้งแต่7จุด(หากลงไปแค่775) หรือ10จุด(หากลงไป770) ดีที่สุดคือ15-20จุด(หากลงไปเขต760-765) ดังนั้นควรรอปิดสถานะShortทำกำไรที่เขตเป้าหมายต่างๆ แล้วรอดูท่าที
2.รอดูว่าอาจทำจุดต่ำสุดที่เขตใดเขตหนึ่งตั้งแต่775-760(โดยให้อิงSETที่เขต1100+/- หรือดูดาวโจนส์และฮ่องกงประกอบตามที่กล่าวไปแล้ว) เพื่อหาโอกาสกลับมาเล่นทางLongเพื่อเล่นรีบาวนด์ หรือกระทั่งการกลับเป็นทางขึ้ยนรอบใหญ่(แต่อย่าเพิ่งทำเลย ให้รอสัญญาณจะแจ้งให้ทราบต่อไป)
IV. ไม่ต้องกังวลเททิ้งหุ้นแนะนำKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRIหรอกครับ เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวม หุ้นที่ท่านควรกังวลคือพวกหุ้น”ตลาด”หรือพวกที่เล่นไปทางเดียวกับตลาดมากกว่า
ผมคิดไว้ก่อนนี้แล้วครับว่าน่าจะเจอเหตุการณ์ตลาดแบบนี้ จึงได้คัดเลือกหุ้นชุดนี้ให้สมาชิกลงทุน(เพื่อหลบตลาดพีคและเปป็นทางลงแรงๆ) ดังนั้นขอย้ำ ไม่ต้องกังวลเททิ้งหุ้นแนะนำKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRIหรอกครับ เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวม หุ้นที่ท่านควรกังวลคือพวกหุ้น”ตลาด”หรือพวกที่เล่นไปทางเดียวกับตลาดมากกว่า
ที่ผมเจอคำถามตอนนี้คือ ต้องCut lossหรือยัง เพราะSETหลุดฐาน1150ลงไป
ผมว่าหุ้นที่ผมแนะนำเป็นหุ้นเด่นไตรมาส 2 อย่างหุ้นKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRI ก็จะไม่เป็นไปในทางเดียวกับตลาดหรอกครับ เพราะเหตุผลดังนี้
1.หุ้นพวกนี้ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ในSET 50 จึงไม่เป็นไปในทางเดียวกับดัชนีSET(จะพบว่ารอบล่าสุดผมแทบไม่แนะนำหุ้นขนาดใหญ่ในSET50เลย เพราะผมเห็นว่าอาจเข้าคลื่นสุดท้ายของตลาดรวมแล้วจะตก พวกตัวใหญ่จะเจอขายหนัก หรือมีโอกาสทำเงินน้อย ผมจึงแนะนำหุ้นขนาดเล็ก หรือขนาดกลางที่เพิ่งฟื้นจากราคาฐานล่าง เพราะเพิ่งโงหัวฟื้นไข้จากเจอน้ำท่วมหนักมา หากตลาดเปลี่ยนทางลง มันก็จะไม่โดนกระทบมาก หรือแทบไม่มีผลกระทบจากSETลง)
2.Themeหลักที่ผมแนะนำหุ้นพวกนึ้คือมันเป็นหุ้นที่เพิ่งฟื้นไข้จากเรื่องน้ำท่วมใหญ่ปีกลาย ราคามันเพิ่งผ่านพ้นจุดต่ำสุด และเริ่มขยับขึ้นเท่านั้น (เพราะเพิ่งโงหัวฟื้นไข้จากเจอน้ำท่วมหนักมา หากตลาดเปลี่ยนทางลง มันก็จะไม่โดนกระทบมาก หรือแทบไม่มีผลกระทบจากSETลง)
3.หากเทียบกับหุ้นชั้นนำในตลาด หรือพวกSET50นั้นราคาเขาไปอยู่คลื่นสุดท้ายของขาขึ้น(คลื่น5)แต่หุ้นชุดนี้ที่ผมแนะนำเพิ่งขึ้นคลื่นแรก หรือคลื่น31เท่านั้น หากตลาดรวมหรือSETจะตกเป็นขาลง มันก็จะไม่ลงแบบไหลยาวกับเขา(เพราะตอนขึ้นมันก็ไม่ได้ขึ้นไปมากเหมือนเขา เพราะเพิ่งฟื้นไข้น้ำท่วม)
4.ดังนั้นหากตลาดรวมSETจะตก หากจะหลุดด่าน1150ลงเป็นขาลง มันก็คงลงกับเขาบ้าง แต่ไม่ใช่ลงยาวอย่างนั้น ผมก็เลยเห็นว่าท่านไม่จำเป็นต้องกังวลแล้วไปเทขายแบบทิ้งขว้างนะครับ โดยไปดูฐานรับแต่ละตัวดัวดังนี้
*BLAฐานรับใหญ่43.50-42.50 น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะโผล่ขึ้นคลื่น1ปรับลงคลื่น2
*BTSฐานรับใหญ่0.74-0.76เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะฟอร์มตัวในคลื่น4
*KCEฐานรับใหญ่5.00-5.35เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะโผล่ขึ้นคลื่น1
*ROJNAฐานรับใหญ่7.50-8บาท เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายทิ้ง เพิ่งโผล่ขึ้นคลื่น 3เองครับ มันไม่ไหลตามตลาดหรอก
*THREฐานรับใหญ่3.50-3.40เขตนี้น่าซื้อมากกว่า หากอยากขายรอรอบหน้า4.50ครับ เพิ่งปรับลงคลื่น2
*SIRIฐานรับใหญ่2.00+/-บาท เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขาย หากหลุด1.90ค่อยน่าห่วง
*TISCO ตัวนี้ถึงฐานใหญ่34น่าฟื้นกลับไป38หรือระยะกลาง42ได้ หากยืนเหนือ34ได้อย่าขายทิ้งเลยครับ
แต่หากท่านมีหุ้นตัวใหญ่ หรือหุ้นในSET50 หุ้นพวกนี้จะไปทางเดียวกับตลาด อยู่คลื่นเดียวกับตลาด
วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
มุมอินไซด์ (21-25พฤษภาคม2555):ไม่ต้องกังวลเททิ้งหุ้นแนะนำKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRIหรอกครับ เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวม หุ้นที่ท่านควรกังวลคือพวกหุ้น”ตลาด”หรือพวกที่เล่นไปทางเดียวกับตลาดมากกว่า
โดย
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น
โทร.029275800 www.tontancorp.com
ที่ผมเจอคำถามตอนนี้คือ ต้องCut lossหรือยัง หากว่าแบบConservativeคือ”ยังครับ”ผมยังคิดว่าตลาดปรับฐานลงมา ตราบเท่าที่ยังไม่มีการพังฐานที่lowเก่าเขต1150 +/-ลงไป
หรือแม้จะพังฐาน1150ลงไป
ผมว่าหุ้นที่ผมแนะนำเป็นหุ้นเด่นไตรมาส 2 อย่างหุ้นKCE
ROJNA THRE BTS BLA SIRI ก็จะไม่เป็นไปในทางเดียวกับตลาดหรอกครับ
เพราะเหตุผลดังนี้
1.หุ้นพวกนี้ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ในSET
50 จึงไม่เป็นไปในทางเดียวกับดัชนีSET
2.Themeหลักที่ผมแนะนำหุ้นพวกนึ้คือมันเป็นหุ้นที่เพิ่งฟื้นไข้จากเรื่องน้ำท่วมใหญ่ปีกลาย
ราคามันเพิ่งผ่านพ้นจุดต่ำสุด และเริ่มขยับขึ้นเท่านั้น
3.หากเทียบกับหุ้นชั้นนำในตลาด
หรือพวกSET50นั้นราคาเขาไปอยู่คลื่นสุดท้ายของขาขึ้น(คลื่น5)แต่หุ้นชุดนี้ที่ผมแนะนำเพิ่งขึ้นคลื่นแรก หรือคลื่น31เท่านั้น หากตลาดรวมหรือSETจะตกเป็นขาลง
มันก็จะไม่ลงแบบไหลยาวกับเขา(เพราะตอนขึ้นมันก็ไม่ได้ขึ้นไปมากเหมือนเขา
เพราะเพิ่งฟื้นไข้น้ำท่วม)
4.ดังนั้นหากตลาดรวมSETจะตก หากจะหลุดด่าน1150ลงเป็นขาลง
มันก็คงลงกับเขาบ้าง แต่ไม่ใช่ลงยาวอย่างนั้น
ผมก็เลยเห็นว่าท่านไม่จำเป็นต้องกังวลแล้วไปเทขายแบบทิ้งขว้างนะครับ
โดยไปดูฐานรับแต่ละตัวดัวดังนี้
*BLAฐานรับใหญ่43.50 น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะโผล่ขึ้นคลื่น1ปรับลงคลื่น2
*BTSฐานรับใหญ่0.74-0.76เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะฟอร์มตัวในคลื่น4
*KCEฐานรับใหญ่5.00-5.35เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะโผล่ขึ้นคลื่น1
*ROJNAฐานรับใหญ่7.50+/-เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายทิ้ง เพิ่งโผล่ขึ้นคลื่น 3เองครับ
มันไม่ไหลตามตลาดหรอก
*THREฐานรับใหญ่3.50-3.40เขตนี้น่าซื้อมากกว่า
หากอยากขายรอรอบหน้า4.50ครับ เพิ่งปรับลงคลื่น2
*SIRIฐานรับใหญ่2.00-1.90บาท
เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขาย หากหลุด1.90ค่อยน่าห่วง
*TISCO ตัวนี้ถึงฐานใหญ่34.50น่าฟื้นกลับไป38หรือระยะกลาง42ได้
หากยืนเหนือ34.50อย่าขายทิ้งเลยครับ
แต่หากท่านมีหุ้นตัวใหญ่ หรือหุ้นในSET50 หุ้นพวกนี้จะไปทางเดียวกับต ลาด อยู่คลื่นเดียวกับตลาด กรณีแบบนี้ควรหาจังหวะขายเอ าทุน หรืออย่าไปซื้อช่วงที่หลุด1 150ลงมาครับ
วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
มองข้ามช็อตไปสัปดาห์หน้า(21-25พฤษภาคม2555)กับณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
มองไปสัปดาห์หน้า ประเด็นที่น่าสนใจ
*กรีซยังเป็นจุดใหญ่ของความกังวล
*เยอรมัน+ฝรั่งเศส+เมกาจะโน้มน้าวกรีซกลับสู่เกมอย่างไร ต้องจัดโปรโมชั่นสารพัดอะไรมั่ง
*DJIAเป้าลง เขต1ใน3fibonacci retracementจะอยู่ราว12230 หรือ12375จุด(หากเทียบจากดัชนีราคาปิดเมื่อคืน12442ก็มีความเสี่ยงขาลงอีกไม่มากก่อนการฟื้นตัว)
*DAXเป้าลงเขตนี้1ใน3คือราวๆ6200-6300
*HSKI่ด่าน18000-18300น่าฟื้นหรือยัง
*SETเขต1150+/-จะเป็นฐานที่แข็งแกร่งก่อนฟื้นหรือจะโดนพังฐานลงไป
*SET50เขต800+/-จะเป็นฐานใหญ่หรือจะโดนพังฐานลงไป
วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
คัมภีร์หุ้นไทย (15-18พฤษภาคม2555):ฐานที่มั่นสุดท้ายของตลาดรอบนี้1150
คัมภีร์หุ้นไทย (15-18พฤษภาคม2555):ฐานที่มั่นสุดท้ายของตลาดรอบนี้1150 หากมีฐานยกสูงขึ้นเป็นเขต1160+/-/SET50ฐานที่มั่นสุดท้าย800
หากทำฐานยกสูงมาเป็นเขต805+/- ก็ยังเหลือลุ้นทางบวก และยังน่าถือหุ้นในพอร์ต
ในทางตรงกันข้ามหากฐานที่มั่นนี้แตกก็จะเข้าสู่ขาลงขนาดใหญ่
ให้ใช้นโยบายตัดขายเพื่อรักษาทุนไว้
โดย
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น
โทร.029275800 www.tontancorp.com
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าเด้งขึ้นไปได้เพียงเป้าหมายแรกที่เราประเมินไว้เขต
1202 จุด ในช่วงภาคบ่ายเกิดPanic sellลงมาหลุดเขต1159จุด
ปิดทำการแถว1165จุด
1.ความอึมครึมของกรีซที่ส่อว่าอาจเลือกตั้งใหม่ กดดันหุ้นโลกร่วง
ทั้งเรื่องJP MORGANขาดทุนจากเงินลงทุนก็กดดันให้หุ้นโลกร่วง
โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่เขต12,695จุด ขณะที่เข้าเขตOver
sold ก็อาจเป็นไปได้ทั้ง2ทางคือฟื้นตัวจากเขตนี้
กลับไปในกรอบแนวต้านsidewayบริเวณ13300
หรือแหลุดลงเด็ดขาดแล้วก็ร่วงยาว
2.แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ถึงฐานที่มั่นสุดท้ายตามทฤษฎีDOWบริเวณ1160+/-อยู่หรือไป? ชี้อนาคตระยะต่อไป
แนวโน้ม-ร่วงลงมาจนกระทั่งถึงด่านฐานที่มั่นสุดท้ายบริเวณ1159จุด
ก่อนจะปิดที่1,165จุดเมื่อวานนี้
หากพิจารณาจากทฤษฎีDOW(DOW THEORY)ก็จะพิจารณาได้ว่า
ดัชนีSETอาจจะกำลังทำฐานที่ยกสูงขึ้น กล่าวคือจากlowรอบล่าสุด1,151จุด และlowก่อนหน้านั้น1,144จุด
การร่วงลงมาเที่ยวนี้ก็อาจทำlowยกสูงขึ้นมาเป็น1,159จุด
หรือทำจุดต่ำเมื่อวานนี้
ข้อพิจารณาสำคัญคือ
2.1หากช่วงนี้ไม่ทรุดตัวลงไปลึกกว่าเขต1159 หรือไม่มีnew lowลึกกว่าฐานก่อนเขต1151จุด
ก็จะมีเขตนี้เป็นฐานก่อนจะปรับตัวขึ้นต่อไป โดยมีแนวต้านเขต1200+/-
โดยหากผ่านได้ก็จะกลับขึ้นไปเขต1,250จุด
*กลยุทธ์-หากไม่ร่วงลงไปมีnew lowเกิน1150จุด
หรือยิ่งมีฐานใหม่เขต1158-1160จุด ก็น่าถือหุ้นที่ติดไว้ และจับตามองการฟื้นตัว
หากไปไม่เกิน1200-1215จุด เอาไว้เป็นจุดขายเพื่อรักษาทุน
2.2ในทางตรงกันข้ามหากหลุดฐานที่มั่นสำคัญด่านนี้ก็จะเข้าสู่ขาลงที่สมบูรณ์แบบ
หรือเข้าสู่ช่วงตลาดหมี(Bear market)ที่มีเป้าหมายตกลงไปเขต1,100+/-(1113-1093จุด)เป็นอย่างน้อย
*กลยุทธ์-กรณีเห็นหลุดลงลึกกว่า1,150จุดเด็ดขาด
แนะนำให้ขายหุ้นเพื่อตัดขาดทุน และพักการลงทุน
เพราะเสี่ยงร่วงลงยาวไปเขต1,000+/-เป็นอย่างน้อย
สำหรับหุ้นใหญ่ในSET 50 และหุ้นเด่นรายตัวขอให้ท่านสมาชิกติดตามในเว็บไซต์สำหรับท่านสมาชิกที่ www.tontancorp.com หรือทางอีเมล์ที่ส่งให้ท่านสมาชิกครับ
หมายเหตุ:กล่าวถึงหุ้นเด่นไตรมาส2ที่ ผมแนะนำไว้หน่อยนะครับ ก็คือROJNA KCE THRE TISCOและเพิ่มSIRI BLA BTSเข้ามา หากหุ้นพวกนี้จะตกมาหนัก ผมว่าก็เป็นเครื่องสะืท้อนถ ึงความเชื่อมั่นเข้าขั้นติด ลบสำหรับผมมากกว่าจะเป็นการ ขาดความเชื่อมั่นต่อพื้นฐาน ของหุ้นนะครับ นี่ผมกล่าวอย่างตรงไปตรงมาท ี่สุดแล้ว
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยที่ ว่าคุณๆซื้อหุ้นเพราะเชื่อ" นักวิเคราะห์"แบบผม ผมอยากให้กลับไปสู่ปัจจัยพื ้นฐานของมัีนที่ผมเขียนไว้ม ากกว่า นั่นหละคือสิ่งที่คุณควรเชื ่อมั่น หรือไม่เชื่อมั่นมากกว่าครั บ
หมายเหตุ:กล่าวถึงหุ้นเด่นไตรมาส2ที่
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่
วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
มุมอินไซด์ (10-11พฤษภาคม2555):อัพเดตค่าเงินดอลลาร์ ค่าบาท การซื้อขายของฝรั่งต่อหุ้นไทย/ประเมินดาวโจนส์ ฮั่งเส็งอาจหยุดไหล พาหุ้นไทยหยุดตก/ขอเตือนท่านที่คิดทิ้งหุ้นไปช้อนทองอาจโดนเจ็บ2เด้ง/จุดชี้ขาดตลาดหากไม่หลุดUptrend line1185-1190ยังลุ้นต่อ แต่หากร่วงก็ให้เป็นจุดSTOP LOSS
มุมอินไซด์ (10-11พฤษภาคม2555):อัพเดตค่าเงินดอลลาร์ ค่าบาท
การซื้อขายของฝรั่งต่อหุ้นไทย/ประเมินดาวโจนส์
ฮั่งเส็งอาจหยุดไหล พาหุ้นไทยหยุดตก/ขอเตือนท่านที่คิดทิ้งหุ้นไปช้อนทองอาจโดนเจ็บ2เด้ง/จุดชี้ขาดตลาดหากไม่หลุดUptrend
line1185-1190ยังลุ้นต่อ แต่หากร่วงก็ให้เป็นจุดSTOP LOSS
โดย
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น
โทร.029275800 www.tontancorp.com
1.ยังไม่พบสัญญาณหันมาขายล้างพอิร์ตของฝรั่ง แต่การขายปรับพอร์ตระดับ1-5พันล้านอาจเกิดขึ้นได้ โดยดูทิศทางค่าเงินดอลลาร์กับค่าบาทประกอบ
ชาร์ตที่1:เป็นFund
flow chart
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เมื่อนักลงทุนต่างชาติเป็นฝ่ายขายสุทธิจะมีอิทธิพลให้ตลาดหุ้นไทยตก
ล่าสุดวานนี้ขายสุทธิออกมา2พันล้านบาทเศษ จะทำให้ตลาดตก หรือเปลี่ยนTRENDเป็นขาลงหรือไม่?
ในช่าร์ตนี้จะพบว่าการขายลงมานั้นยังไม่เกิดSELL SIGNALแต่อย่างใด จึงต้องคาดว่าเป็นการขายปรับพอร์ต
โดยหากจะมีการขายปรับพอร์ตต่อก็อาจขายสุทธิออกมาในช่วงใกล้ๆนี้ราว1,000-4,000ล้านบาทเศษ แต่ภายหลังการขายปรับพอร์ตแล้วยังคาดว่ามีโอกาสกลับมาเล่นทางซื้อ
ราวๆ25,000ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในระยะนี้ก็จะเป็นผลลบทางจิตวิทยาของตลาดได้ต่อไป
ชาร์ตที่2:ดัชนีค่าเงินดอลลาร์
ได้แข็งค่าขึ้นหลังเกิดวิกฤตล่าสุดในยุโรป ที่ช็อกจากผลเลือกตั้งในฝรั่งเศส
และกรีซ
อย่างไรก็ตามจะมีแนวต้านเขต80.40-80.65 ข้อพิจารณาคือ
หากแข็งค่าเกินเขตแนวต้านก็จะแข็งต่อเนื่อง
หากไม่ผ่านอาจอ่อนลง79.65(และหากอ่อนลงกว่า79.65ก็จะเป็นทางอ่อนตัวลง)
โดยหากค่าเงินบาทแข็งขึ้น
จะเป็นผลเสียต่อตลาดหุ้น จะส่งผลให้หุ้นและSET50ตก ตรงกันข้ามหากไม่ผ่านแนวต้านแล้วลง
จะกลับมาเป็นผลบวก
ชาร์ตที่3:ค่าเงินบาท-อ่อนลงเกินด่าน31.06ไปที่31.14มา2วัน ไม่ผ่านก็อาจแข็งขึ้นไป31.06
หากแข็งขึ้นเกิน31.06จะแข็งต่อไป30.85ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น แต่หากยืนเหนือ31.06หรืออ่อนลงเกิน31.14จะอ่อนลงต่อไปเขต31.20หรือ31.25-31.35จะเป็นผลลบต่อตลาด
2.ตลาดหุ้นดาวโจนส์และฮ่องกงลงมาเขตเป้าหมาย
น่าหยุดร่วงและหุ้นไทยบอาจฟื้นไข้ตามในระยะใกล้ๆนี้
ชาร์ตที่1:ดัชนีดาวโจนส์
แกว่งไซด์เวย์ในกรอบใหญ่ระหว่าง12700-13300
โดยล่าสุดเมื่อคืนนี้ลงมาลึกสุดที่12748
ก็ลงมาใกล้แนวรับหลักแล้ว หากไม่หลุดเขตนี้ก็มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นกลับไปเขต13300อีกรอบ ซึ่งตลาดหุ้นไทยมักแกว่งตัวไปในทางเดียวกับดาวโจนส์
อย่างไรก็ตามหากหลุดด่าน12700ลงไปก็จะเกิดการดิ่งลงที่รุนแรงได้
ก็เอาไว้เป็นจุดประกอบการตัดสินใจครับ
ชาร์ตที่2:ตลาดหุ้นฮ่องกง
แกว่งในแนวโน้มSIDEWAY DOWNระหว่างกรอบล่าง19900-20000กับด้านบน21400-21500
ล่าสุดลงมาใกล้เขตแนวรับล่างแล้วก็คาดว่าน่าจะลงจบ
ซึ่งหุ้นไทยมักอิงตลาดหุ้นฮ่องกงในระหว่างวัน ก็อาจได้กลับมารับsentimentทางบวกเมื่อลงมาด่านนี้แล้วหยุดลงและฟื้นตัวขึ้น
3.การขายหุ้นมาช้อนทองคำอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง หลังจากหลุดแนวรับใหญ่
ชาร์ตทองคำโลก:ล่าสุดหลุดแนวรับuptrendขนาดใหญ่บริเวณ1620$ลงมา
หากไม่เห็นการรีบฟื้นไปเหนือเขต1610-1620ในระยะ1สัปดาห์ ก็อาจเสี่ยงตกลงไปเขตlowเก่าคือ1500$เป็นอย่างน้อย
ดังนั้นท่านที่คิดจะขายหุ้นออกไปช้อนซื้อทองคำ
จึงไม่น่าทำ เพราะจะกลายเป็นหนีเสือปะจรเข้ได้นะครับ
ชาร์ตที่1:ดัชนีSEตกลงมามีSupport lineสำคัญเขต1184-1190จุด แต่ให้ดีในสัปดาห์นี้ควรปิดเหนือเขต1190-1200จึงจะเป็นการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ
ในทางตรงกันข้ามหากหลุดลงลึกกว่าเขตแนวรับ1184-1190ลงไปเด็ดขาดก็อาจเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาบลง
ดังนั้นการจะถือหุ้นหรือขายเอาทุนก็จึงขึ้นกับว่าในวันนี้หรือสัปดาห์นี้ยืนเหนือด่านแนวรับUptrendได้หรือไม่
ชาร์ตที่2:SET 50 มีแนวรับUptrendใหญ่บริเวณ825-830 หากยืนได้ก็มีโอกาสฟื้นกลับไปต้าน850-857ในระยะสัปดาห์
การตัดสินใจว่าจะถือต่อ
หรือขายหยุดขาดทุนก็ขึ้นกับว่าในสัปดาห์นี้ยืนเหนือเขต825-830ได้หรือไม่เป็นหลักครับ
วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิกVIPมีอาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ให้คำปรึกษาแนะันำการลงทุนอย่างใกล้ชิด โทรสอบถาม
สอบถามสมัครสมาชิก และสมาชิกVIPสำหรับท่านนักลงทุนที่มีวงเงินลงทุนขั้นต่ำ10ล้านบาท(ให้คำแนะนำการลงทุนอย่างใกล้ชิดโดยอาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์) โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
ขออภัยในความไม่สะดวก สำหรับท่านที่ยังไม่ได้รับหนังสือที่สั่งจองไว้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ผมสั่งทางร้านเขาพิมพ์ซ่อมให้และจะส่งไปให้ท่านใหม่ครับ(หมดไำปเป็นหมื่นเหมือนกัน แต่ช่างมันเหอะ ผมจะได้รู้สึกสบายใจขึ้นว่ายังไงหนังสือต้องถึงมือท่านแน่ๆ)
การณ์นี้ก็เลยทำเผื่อๆไว้ หากท่านใดพลาด สั่งจองรอบก่อนไม่ทัน และอยากได้จริงๆ น่าจะพอมีให้สำหรับท่านแล้วครับ
โทร.ทวงหนังสือกรณียังไม่ได้หนังสือ(นานผิดสังเกต)
หรือโทรสั่งสำหรับท่านที่พลาด 02-9275800 มือถือ โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 (ราคารวมค่าจัดส่ง 1,100บาท)
*************
รู้จักณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ และธุรกิจให้คำปรึกษาการลงทุนในตลาดหุ้น เผื่อท่านใดอยากใช้ผม(ให้เลือกผม)
แนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเคยเข้าblogนี้
ทำไมต้องต้นธาร?-มีหลายท่านถามว่าทำไมบริษัทผมชื่อเหมือนรีสอร์ต?
ผมมีความเชื่อว่า ต้องมีใครกล้าที่จะเป็นคนแรกๆในการอุทิศตนทุ่มเทอย่างสุดจิตสุดใจเพื่อสังคมส่วนรวม โดยไม่ต้องรอคนอื่นๆ
เปรียบได้ดั่งมวลน้ำมหาศาลในมหาสมุทรที่ยังชีวิตแก่สรรพสิ่งในโลกจะปรากฎขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีหยดน้ำหยดแรกเป็นเสมือนต้นน้ำ ต้นธาร และกลายเป็นสายน้ำเล็กๆ ไหลรวมเป็นแม่น้ำใหญ่ รวมกันกลายเป็นมหาสมุทรที่ยังประโยชน์แก่โลกและสรรพสิ่ง
ต้นธารยังเป็นชื่อลูกชายโทนของผมด้วย
ติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด 235/24-25 ถนนรามคำแหง 160(ราษฎร์พัฒนา)เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240 โทรศัพท์ 02-9275800 เว็บไซต์www.tontancorp.com หรือ http://thailworld.blogspot.com/
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ?
หลังฟองสบู่แตกในปี2540 หรือ15ปีก่อน ตลาดหุ้นแทบล่มสลาย ธุรกิจพังพินาศ ผมจำต้องออกจากอาชีพคนหนังสือพิมพ์ซึ่งผมรักมาก เป็นหนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวเรื่องเศรษฐกิจและตลาดหุ้น(หนังสือข่าวหุ้นรายวัน และจัดรายการวิทยุเรื่องหุ้นที่คลื่น99Mhzในเลานั้น)
ขณะที่โบรกเกอร์กำลังล้มละลาย ผมได้จัดตั้งบริษัทต้นธารขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2540 เพื่อให้คำปรึกษาเยียวยาเป็นเพื่อนของนักลงทุนที่บาดเจ็บปางตายในเวลานั้น
ต่อมากระทรวงการคลังอนุมัติให้จัดตั้งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ประเภทที่ปรึกษาการลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ 2546 อยู่ภายใต้การกำกับของกลต.
กลต.ให้ทำธุรกิจให้คำปรึกษาการลงทุนในตลาดหุ้น2ประเภทคือ
1.ให้คำปรึกษาทั่วไปแก่นักลงทุน คือผมคิดอะไรได้ก็เขียน พูดออกทางสื่อต่างๆ(รวมทั้งfbที่ท่านเห็นตอนนี้) และบอกรับสมาชิกก็จะลึกลงไปกว่า คือแนะนำหุ้นรายตัว แนะนำราคาซื้อ ราคาขาย เวลาซื้อ เวลาถือ เวลาขาย และการจัดการความเสี่ยงหากผิดทาง
2.ให้คำปรึกษาแบบเฉพาะเจาะจง คือให้คำแนะนำการจัดการบริหารการลงทุนแบบตัวต่อตัว(เป็นVIPว่างั้น)ทำทุกอย่าง ยกเว้นสั่งซื้อสั่งขายให้ บัญชีและเงินทุนอยู่ในมือของลูกค้า ทางผมห้ามแตะ เพราะผิดกฎหมาย พูดง่ายๆเป็นกุนซือพี่เลี้ยงใกล้ชิด
3.อันนี้ผมคิดของผมขึ้นมาเองคือการเทรนนักลงทุนให้รู้เรื่องมีพื้นฐาน หรือเก่งที่จะมีวิชาไปสู้กับตลาดอย่างมืออาชีพ เลิกเป็นแมงเม่าเป็นมวยวัด โดยสอนหลักสูตรต่างๆแบบง่ายๆไม่ต้องปีนกระไดเรียน
ครับ ขออนุญาตแนะนำให้รู้จักว่า ต้นธารคือใครนะครับ ว่าไปก็อยากไปทำรีสอร์ตเหมือนกันนะนี่ กับชื่อนี้
ย่ิอๆเกี่ยวกับผม
วันเกิด 24 สิงหาคม
บ้านเกิด จ.ขอนแก่น
ที่อยู่ปัจจุบัน ถนนรามคำแหง กรุงเทพฯ
ตำแหน่งปัจจุบัน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด กระทรวงการคลังอนุมัติจัดตั้งเมื่อปี2546 อยู่ภายใต้การกำกับของกลต. ให้คำปรึกษาการลงทุนแก่นักลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทั้งเป็นการทั่วไป และให้คำปรึกษาในการจัดการบริหารพอร์ตลงทุนอย่างมืออาชีพ และใต้การกำกับของกลต.
-และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน ทางTNN24 จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
*ประวัติการศึกษา
มัธยมศึกษา-โรงเรียนสาธิต คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปริญญาตรี-ศิลปศาสตบัณฑิต คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปริญญาโท-การบริหารจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต (Master of Public & Private Management-MPPM) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(NIDA)
หลังปริญญาโท-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง หลักสูตรการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า (ปปร.รุ่นที่10)
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน สถาบันพระปกเกล้า (ปรม.รุ่นที่3)
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง หลักสูตรการบริหารงานเศรษฐกิจสาธารณะ สถาบันพระปกเกล้า (ปศส.รุ่นที่10)
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารหลักสูตรให้คำแนะนำการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ประวัติการทำงาน
-นักกิจกรรมนักศึกษาที่เน้นการสนับสนุนศักยภาพชาวนาให้รวมตัวกันรักษาสิทธิ และรวมพลังต่อรองกับผู้มีอำนาจ
-ผู้สื่อข่าวงานพัฒนาภาคประชาชน คณะกรรมการส่งเสริมและเผยแพร่งานพัฒนา(NGOs)
-ผู้สื่อข่าวหนังสือการเมืองรายสัปดาห์ข่าวพิเศษ
-ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจรายสัปดาห์คู่แข่ง
-หัวหน้ากองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันไทยไฟแนนเชียล
-บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นรายวัน
-ผู้ดำเนินรายการรู้ทันหุ้นทางช่อง11(ปี2546-2550)
-ผู้ดำเนินรายการและผู้เชี่ยวชาญรายการเพื่อนนักลงทุน สถานีโทรทัศน์TNN24(UBC7)จากปี2543-ปัจจุบัน
-ผู้เชี่ยวชาญช่วงเศรษฐกิจน่ารู้ข่าวภาคเที่ยงและภาคค่ำ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
-ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด อนุมัติจัดตั้งเป็นสถาบันการเงินประเภทที่ปรึกษาการลงทุนจากกระทรวงการคลัง จากปี2546ถึงปัจจุบัน
-ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ อาจารย์พิเศษบรรยายให้กับโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า,ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย,การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯลฯ
-ผู้เชี่ยวชาญจัดฝึกอบรมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้กับผู้ลงทุนและผู้สนใจจะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มามากกว่า 300 รุ่น มีผู้ผ่านการฝึกอบเป็นนักลงทุนที่มีคุณภาพมากกว่า10,000คนทั่วประเทศ
-ผู้เขียนหนังสือBEST SELLERหลายเล่ม เช่น ทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน (พิมพ์10ครั้ง ยอดพิมพ์มากกว่า30,000เล่ม),กลยุทธ์เสี่ยสอง เจงกี๊สข่านปี2000 (พิมพ์5ครั้ง) ,ปล้นแบงก์BBC (พิมพ์5ครั้ง),กลโกงราเกซ สักเสนา จิ้งจอกโลกการเงิน,คู่มือหุ้นไทยปีกระต่ายทอง2553(พิมพ์3ครั้ง) ,บวชเพื่อแผ่นดิน (พิมพ์ 12 ครั้ง มากกว่า 35,000เล่ม)
ตำแหน่งอื่นๆ
-กรรมการอิสระ บริษัท MTS GOLD(ห้างทองแม่ทองสุก)
-ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร
-ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร
-ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการกิจการการเงินและการคลัง วุฒิสภา
เครื่องราชอิสริยาภรณ์และรางวัล-เบญจมาภรณ์ช้างเผือก
-ศิษย์เก่าดีเด่นของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีพ.ศ.2554
ครอบครัว-สมรสแล้วมีลูกชายโทน 1 คน
ความเห็นกับอาชีพที่ปรึกษาการลงทุนของผม-ผมอยากสอนให้ลูกค้าพึ่งพาตัวเองได้ดีที่สุด อ่านงบการเงินได้ มองปัจจัยพื้นฐานเป็น อ่านเทร็นด์ให้ขาด ลงทุนอย่างมีแผนการและถูกวิธี เลิกเป็นแมงเม่าให้เขาเชือด
ผมอยากให้นักวิเคราะห์มีบันทัดฐานครับ คือรู้จักผิดเป็นซะบ้าง เพราะอาชีพของตัวมีผลต่อความเป็นความตายความชิบหายหรือความมั่งคั่งของสาธารณชน ผิดแล้วอย่าเหยียบไว้ ให้รีบๆบอกลูกค้าว่าผิด แล้วจะแก้ไขกันยังไง อย่าไปพูดแต่ว่า"ก็กูไม่ได้เอาปืนจี้คอใครให้เชื่อตามที่กูวิเคราะห์ซักหน่อย" แบบนั้นมักง่ายไป ไม่มีaccountability
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)