วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิกฤตการเมืองกดดัน จะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการลงทุนอย่างไร ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ?



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

เป็นบทความที่ผมเคยเสนอมาแล้ว ผมว่าน่าจะนำมาประยุกต์ใช้กับวิกฤตการณ์การเมืองเที่ยวนี้ได้ เลยนำเสนอให้พิจารณากันอีกทีครับ

บทความพิเศษ:บรรยากาศทางการเมืองแบบประชาธิปไตย (ไทยๆ) กับการตัดสินใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ว่าด่วยทฤษฎีทำลายเชิงสร้างสรรค์ การพลิกวิกฤตเป็นโอกาสทองของการลงทุน โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

บทความนี้เขียนเพื่อแสดงปาฐกถาในการประชุมวิชาการบัณฑิตศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 1 ของสมาคมรัฐศาสตร์ แห่งหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2555 ณ โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี การนำเสนอเผยแพร่ในโอกาสนี้ เป็นฉบับคัดย่อ ปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์การเมือง ณ เวลานี้



ตลาดหุ้นไทยกับวิกฤตการณ์การเมืองเที่ยวนี้ที่แบ่งเป็น3ช่วง

- ระยะแรก (เฟส1) ก่อนจะเกิดวิกฤตการณ์แตกหัก(สงครามระหว่างรัฐ/สงครามกลางเมือง/จลาจล/ปฏิวัติรัฐประหาร/อภิปรายซักฟอกรัฐบาล/พิบัติภัยต่างๆตามธรรมชาติ หรือโรคระบาด/การสูญเสียผู้นำฯลฯ เที่ยวล่าสุดนี้คือก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผู้นำม็อบประกาศจะโค่นล้มรัฐบาลให้สำเร็จ) ระหว่างที่ฮึ่มฮั่มใส่กันไปมานั้น ตลาดหุ้นมักจะตกกันแบบโลกาวินาศ เพราะความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจว่าจะบานปลายไปเป็นวิกฤตการณ์ใหญ่ กลัวจะเกิดทุพภิกขภัยสารพัด ทำให้คนในตลาดหุ้นเทขายหนีตายกันจ้าละหวั่น...ความกลัวทำให้หุ้นตก

- ระยะที่สอง (เฟส2) ในช่วงระหว่างเตรียมพร้อมไพร่พลเสบียงกรัง และออกข่าวจะเปิดเกมถล่มกัน ให้บรรลัยกันไปข้าง ตลาดหุ้นมักจะซึมกระทือ คนเลิกเล่นหุ้นกันไปส่วนใหญ่ กรอบความเคลื่อนไหวมักจะแคบๆ เพราะคนทำใจได้แล้วว่าเลี่ยงภาวะสงครามไม่ได้แน่ แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงเข้ามาเล่นในตลาดความทรมานคือการรอคอย(ผมคิดว่าจะเกิดในสัปดาห์หน้า หลังม็อบใหญ่24พ.ย.ไปจนถึง30พ.ย.)

- ระยะที่สาม (เฟส3) นับตั้งแต่ช่วงเปิดใส่กัน ที่ผมมักเรียกว่ากระสุนนัดแรกในสงครามหรือ เสียงปืนแตกนัดแรก หรือระเบิดตูมแรก ไปจนกว่าจะยุติสงคราม หรือคาดเดาได้ว่าสงครามครั้งนั้นจะมีผลลงเอยไปในทิศทางใด ก็แปลกที่ว่า ตลาดหุ้นช่วงนี้มักจะดีดตัวขึ้นแล้วก็วิ่งยาว ( rally) และไม่ช้าไม่นานมักจะขึ้นไปสร้างสถิติทำจุดสูงสุดใหม่ (new high)กันทุกครั้งไปเสียด้วยเที่ยวนี้คือวันที่30พ.ย.จะล้มรัฐบาลสำเร็จหรือไม่สำเร็จ

ไม่ว่าบทสรุปจะจบอย่างไร ใครแพ้-ชนะไม่เกี่ยว ขอให้จบ ไม่คลุมเครือต่อไป หุ้นจะขึ้น และขึ้นไปนิวไฮเกินยอดเก่า1480จุดที่ทำเอาไว้

ผมเลยเรียกปรากฏการณ์วิกฤตการณ์ต่างๆที่มีต่อตลาดหุ้นว่าเข้าข่าย
ทฤษฎีสร้างสรรค์ในเชิงทำลาย เข้าทำนองว่าเมื่อมีการทำลายล้างสิ่งหนึ่งลงไป ก็จะเกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตามมา

อย่างสมัยโบราณ เมื่ออาณาจักรกรีก-อียิปต์โบราณถูกทำลายลง หรือเสื่อมลง จึงเกิดอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่กว่าขึ้นทดแทน และเมื่อโรมถูกทำลายล้างลง จึงเข้าสู่ยุคกลางที่มีมหาอำนาจอังฤษเป็นแดนพระอาทิตย์ไม่ตกดิน เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเกิดมหาอำนาจใหม่คือจักรวรรดิอมเริกามาแทนที่ ดังนี้เป็นต้น

ทฤษฎีสร้างสรรค์ในเชิงทำลาย (destruction creative theory)ที่ว่า สงคราม/วินาศกรรม/วิกฤตการณ์ในระดับโลกทุกครั้ง จึงเป็นโอกาสทองทุกครั้งสำหรับนักลงทุนผู้มีพฤติกรรม contrariant หรือนักลงทุนผู้ชาญฉลาดที่หาจังหวะจับทางสวนกระแสคนส่วนใหญ่ในตลาด

การอินไปกับปรากฎการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ ทำให้คุณตกเป็นเหยื่อของวิกฤตการณ์ แต่การพลิกไปมองอีกด้านว่า วิกฤตการณ์ล้วนเป็นปกติที่อยู่คู่กับตลาด จบเรื่องนี้ก็มีเรื่องใหม่มาให้ได้เผชิญ จะทำให้คุณพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างแท้จริง

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เป้าหมายตก และความเสี่ยงที่จำกัดของขาลงเที่ยวล่าสุดนี้ จุดชี้ขาด1380อยู่หรือไป..

รูปภาพ : รายการรู้ก่อนรวยกว่า21พย-ตลาดหลังศาลรธน ตัดสินคดีที่มาสว.ชี้ขาดเขต1380ยืนได้หรือไม่? จับตาหุ้นโภคภัณฑ์Banpu Ivl Iprc Staหลังจีนประกาศปฏิรูปศก. ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดลง

รายการรู้ก่อนรวยกว่า21พย-ตลาดหลังศาลรธน ตัดสินคดีที่มาสว.ชี้ขาดเขต1380ยืนได้หรือไม่? จับตาหุ้นโภคภัณฑ์Banpu Ivl Iprc Staหลังจีนประกาศปฏิรูปศก. ผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดลง
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp



หลังหลุดฐานเก่า1380 what's next?

Best case 1375
base case 1360-1365
worse case 1320

สมมุติฐาน
1.แรงกดดันทางการเมืองยังหนักไปถึงสิ้่นเดือนนี้
2.แรงซื้อของLTF/ TRIGGER FUND เป็นการซื้อแบบถอยรับมากกว่าบุก

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คัมภีร์หุ้นไทยและกลยุทธ์ลงทุนหุ้นใหญ่ในSET50( 19 พฤศจิกายน2556): ปฏิทินการเมืองและตลาดหุ้น 10 วันอันตราย

รูปภาพ : รายการรู้ก่อนรวยกว่า-หุ้นเด่นThreดีturnaroundราคาถูกเป้าปีหน้า7-8฿/ทองคำและกลยุทธ์

รายการรู้ก่อนรวยกว่า-กลยุทธ์กา่รลงทุนหุ้นเด่นช่วงวิกฤตการเมืองจากนี้ถึงสิ้นเดือน และหุ้นเด่นThreดีturnaroundราคาถูกเป้าปีหน้า7-8฿/ทองคำและกลยุทธ์ลงทุน

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

ปัจจัยรบกวนการเมืองยังกดดันถึงสิ้นเดือน แต่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนได้ผลบวกจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ(IVL STA BANPU PTTGC IRPC TOP)/SETแกว่งกรอบ1420-1410ต้าน1435-1440แต่มีโอกาสขึ้นจากสัญญาณซื้อระยะสั้น
วิเคราะห์ทางเทคนิค 

แม้มีแรงกดดดันจากปัจจัยรบกวนทางการเมือง แต่มีสัญญาณซื้อในเครื่องมือระยะสั้นคือModify stichastics วันนี้มีกรอบแนวรับ1420,1415แนวต้าน1430,1435-1440จุด คาดว่าจะแกว่งในกรอบนี้ แต่ภาพใหญ่มีแนวโน้มผ่านเขต1440ในรอบนี้เพื่อขึ้นไปกรอบบนเขต1480+/-หลังเกิดbuy signal

ยกเว้นหลุดด่าน1420ลงเด็ดขาดจะลงมาเขต1400-1410

ปัจจัยบวก ตลาดหุ้นต่างประเทศขึ้นต่อเนื่อง ดาวโจนส์ทำall time high,ตลาดหุ้นฮ่องกงบวกแรงเมื่อวาน หลังจีนออกแถลงจะปฎิรูปเศรษฐกิจ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมลงมา

ปัจจัยลบ ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองยังกดดันต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนนี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม ปฏิทินการเมือง 1.ม็อบเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลออกมาชุมนุมวันนี้ อาจเสี่ยงเผชิญหน้ากับม็อบต้านรัฐบาล 2.พรุ่งนี้ศาลรธน.ตัดสินคดีที่มาสว. 3.ปลายสัปดาห์อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 4.24พ.ย.ม็อบฝ่ายค้านประกาศระดมม็อบล้านคนไล่รัฐบาล 5.ปลายเดือนปปช.ชี้มูลคดีจำนำข้าว 6.เข้าเดือนธค.จึงจะคลี่คลาย เพราะเป็นช่วงเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โอกาสของการซื้อTHREเก็บเข้าพอร์ตช่้วงข่าวร้ายท้ายสุด ก่อนฟื้นTurnaroundไปเป้าหมาย7-8บาทในปีหน้า

รูปภาพ : รายการรู้ก่อนรวยกว่า-หุ้นเด่นThreดีturnaroundราคาถูกเป้าปีหน้า7-8฿/ทองคำและกลยุทธ์

รายการรู้ก่อนรวยกว่า-กลยุทธ์กา่รลงทุนหุ้นเด่นช่วงวิกฤตการเมืองจากนี้ถึงสิ้นเดือน และหุ้นเด่นThreดีturnaroundราคาถูกเป้าปีหน้า7-8฿/ทองคำและกลยุทธ์ลงทุน

..........

THRE: เอเซีย พลัส แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 6.05 บาท/หุ้น


ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) - ซื้อ

ราคา : 3.82 บาท
Fair Value : 6.05 บาท
มูลค่าตลาด : 13,418 ล้านบาท
เคลียร์สำรองเบี้ยฯ เบ็ดเสร็จ เบาตัวแล้วใน 4Q56 .พร้อมสร้างการเติบโตในปี 2557

แม้ขาดทุน 3Q56 สูงกว่าคาด สำรองเบ็ดเสร็จเพื่อให้ผู้สอบบัญชีกลับมารับรองงบฯ
THRE ประกาศขาดทุนสุทธิใน 3Q56 ถึง 3.22 พันล้านบาท สำหรับงบการเงินรวม และเพียง 1.47 พันล้านบาท สำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการ (ผลแตกต่างเกิดจากรายการกำไรจากเงินลงทุนกว่า 2.38 พันล้านบาท ที่เกิดจากการขายหุ้น THREL เพื่อทำ IPO ในช่วงที่ผ่านมา) แย่กว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดมากเนื่องจากบริษัทฯ ได้ตัดสินใจตั้งสำรองเบี้ยประกันภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปลายปี 2554 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ กว่า 4.40 พันล้านบาทในงวดนี้ (ฝ่ายวิจัยคาด 3 พันล้านบาท) 


เนื่องจากการที่ THRE ได้ทบทวนการบันทึกสำรองค่าสินไหมฯ โดยได้ว่าจ้างผู้สำรวจภัย อิสระ พร้อมทั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรายใหม่เพื่อสอบทานการประเมินค่าสินไหมทดแทนของผู้สำรวจอิสระ โดยได้รับความเห็นชอบจากคปภ. และผู้สอบบัญชีรายเดิม โดยที่มาของเงินทุนจากการตั้งสำรองที่สูงขึ้นนั้นมาจากกำไรจากเงินลงทุนที่ได้จากการนำ THREL เข้าจดทะเบียนใน SET กว่า 2.38 พันล้านบาท (สุทธิจากภาษีฯ) ดังกล่าวจึงช่วยลดผลกระทบต่อผลการดำเนินงานใน 3Q56 

โดยภายหลังการดำเนินการดังกล่าว ทำให้ผู้สอบบัญชีปัจจุบันกลับมาให้การรับรองงบการเงินของ THRE แต่เป็นแบบมีเงื่อนไข ซึ่งฝ่ายวิจัยได้รับการยืนยันจาก THRE ว่าผู้สอบบัญชียังคงจะยังไม่ให้ความเห็นจนกว่าความเสียหายจากน้ำท่วมได้จ่ายไปจนเกือบหมดแล้วซึ่งต้องใช้เวลา ไม่สามารถกำหนดได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยที่จะต้องจ่ายให้กับลูกค้าผู้เอาประกันจนหมดก่อน จึงจะมาเรียกร้องจาก THRE โดยที่บริษัทฯ ได้ให้ความเชื่อมั่นว่าสำรองฯ ที่ตั้งเพิ่มครั้งนี้ใกล้กับความเสียหายที่แท้จริงแล้ว 

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจหลักใน 3Q56 ยังเดินหน้าเติบโตต่อเนื่อง โดยเบี้ยประกันภัยต่อรับรวมยังเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 9.3% qoq แต่ยังลดลง 4.3% yoy โดยการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับรวมยังมาจากกลุ่มธุรกิจ Non conventional (64% ของเบี้ยรับสุทธิรวม) ซึ่งประกอบด้วย การประกันชีวิต และกลุ่มเบ็ดเตล้ด 

แต่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ ของค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยต่อดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ขาดทุนจากธุรกิจรับประกันภัยต่อถึง 4.19 พันล้านบาทในงวดนี้ แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรจากการดำเนินงาน 267 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวด 2Q56 ด้านธุรกิจการลงทุน เนื่องจากการลดลงของรายได้จากการลงทุนในงวดนี้กว่า 52.6% qoq และ 11.5% yoy ซึ่งเป็นการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ตามพอร์ตลงทุนที่ลดลงเนื่องจากการจ่ายชำระค่าเคลมน้ำท่วมออกไป บวกกับกำไรจากการซื้อขายเงินลงทุนก็ปรับตัวลดลงด้วย ส่งผลให้ ROI เหลือเพียง 3.50% จาก 6.47% ในงวดที่ผ่านมา

ลดประมาณการปี 2556-57...4Q56 กลับเป็นกำไร และเติบโตเป็นปกติได้ในปี 2557


ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการผลการดำเนินงานปี 2556-57 ของ THRE ดังแสดงสรุปในตาราง เพื่อสะท้อนการตั้งสำรองค่าสินไหมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ ดังกล่าวข้างต้น และแม้จะปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2557 ลง แต่ยังเห็นการกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยฯ จากปี 2556 และถือเป็นกำไรปกติของ THRE ที่จะต่อเนื่องได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ผลักดันด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกำไรจากการรับประกันภัยต่อในกลุ่ม Non conventional ทั้งในส่วนของประกันชีวิต (ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่ถืออยู่ 50% ใน THREL) ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพและประกันเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ซึ่งจะเป็นไปในแนวทางที่ THRE จะเป็นผู้พัฒนาผลิตภํณฑ์ด้านการประกันภัยแบบใหม่ๆ เพื่อนำเสนอไปยังบริษัทประกันภัยที่เป็นคู่ค้าร่วมกัน (อยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 ราย ซึ่งใกล้จะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้) ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภค ซึ่งรูปแบบจะเป็นการแบ่งผลกำไรขาดทุนกัน นอกจากนี้ รายได้จากการลงทุนที่ยังมีบทบาทหนุนการเติบโตตราบเท่าที่บริษัทฯ ยังจ่ายค่าสินไหมทดแทนไม่ครบถ้วน สำหรับฐานเงินกองทุนของ THRE ตามเกณฑ์ RBC ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเกณฑ์ที่ 125% สูงกว่าเกณฑ์ คปภ. ที่อยู่ระหว่างผ่อนผันคือ 100% โดยที่บริษัทฯ ยืนยันว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด

หมดประเด็นกดดันแล้ว แนะทยอยสะสมเพื่อรับการ turnaround ของธุรกิจ
ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำซื้อ THRE ภายใต้ Fair value ปี 2557 ที่ 6.05 บาท อิงวิธี Sum of the parts ประกอบด้วย THRE 3.35 บาท (Appraisal value) และ THREL 2.70 บาท แม้ระยะสั้นอาจเห็นการปรับฐานราคาเนื่องจากแรงกดดันจากผลการดำเนินงาน 3Q56 แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะทำให้หมดประเด็นความกังวลต่องบการเงินในงวดถัดๆ ไปนับจากนี้ จึงถือเป็นโอกาสให้เข้าสะสม รับการ turnaround ระยะยาว

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คัมภีร์หุ้นไทยและกลยุทธ์ลงทุนหุ้นใหญ่ในSET50( 7 พฤศจิกายน2556):รัฐบาลถอยสุดซอยพรบ.นิรโทษ เกิดBuy Signal แล้ว ตลาดจะกลับไปเขต1480-1485อีกรอบ


โหนกระแสกำลังฮิต-นักลงทุนในโลกโซเชียล เน็ตเวิร์คำพากันโหนกระแสฮิตคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมไปกับกระแสสังคมเวลานี้

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp
เกิดBuy Signalในodify stochasticsได้เกิดสัญญาณซื้อ(%K=37,%d=33)จะหนุนSETขึ้นไปทดสอบแนวต้านNecklineบริเวณ1480-1485ในรอบนี้


วิเคราะห์ทางเทคนิค ฟื้นตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านDowntrendเขต1435 โดยที่ค่าสัญญาณmodify stochasticsได้เกิดสัญญาณซื้อ(%K=37,%d=33)จะหนุนSETขึ้นไปทดสอบแนวต้านNecklineบริเวณ1480-1485ในรอบนี้(แนวต้านแรก1440ถัดไป1455 แนวรับ1430,1423)จับตามองว่าเมื่อผ่านด่าน1435และเกิดbuy signalก็น่าอิงทางขึ้น จึงแนะนำให้ถือครองหุ้น หรือกลับมาfollow buyแล้วไปลุ้นว่ารอบใหม่นี้จะชนะด่าน1480-1485หรือไม่

ขณะที่มีแนวรับเขต1428-1423จุดรองรับการพักฐานก่อนขึ้นต่อในวันนี้

ปัจจัยบวก พรรคเพื่อไทยประกาศถอยสุดซอยหากวุฒิสภาตีตกพรบ.นิรโทษกรรมกลับมาจะปล่อยให้ตกไป และให้ยกเลิกกฎหมายนิรโทษกรรมทุกฉบับ,ดาวโจนส์ขึ้นทำall time high

ปัจจัยลบ กลุ่มชุมนุมต้านพรบ.นิรโทษกรรมยังไม่หยุด โดยอ้างว่าไม่เชื่อใจพรรคเพื่อไทย ขณะที่ช่วงสายวันนี้ม็อบอุรุพงษ์มีการเคลื่อนไหวไปใกล้ทำเนียบรัฐบาล(กลุ่มนี้ประกาศยกระดับไล่รัฐบาล ส่วนใหญ่มีแกนนำเป็นพันธมิตรเก่า เช่น นายสุริยะใส,นายสมเกียรติ เป็นต้น),ฮ่องกงเปิดลบวันนี้


ปัจจัยที่ต้องติดตาม พรรคเพื่อไทยจะให้คนของตัวเองถอนร่างพรบ.นิรโทษกรรมทุกฉบับ ท่าทีม็อบประชาธิปัตย์จะยอมถอยหรือว่ายกระดับขับไล่รัฐบาลตามม็อบอุรุพงษ์

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คัมภีร์หุ้นไทยและกลยุทธ์ลงทุนหุ้นใหญ่ในSET50(5 พฤศจิกายน 2556): ทิศทางตลาดหลังยิ่งลักษณ์แถลงให้วุฒิสภาชี้ขาดพรบ.นิรโทษกรรม และมุมมองของกองทุน


รายการรู้ก่อนรวยกว่า 5พ.ย.
-ปัจจัยการเมืองร้อนระอุ กดดันตลาดหุ้น หลบภัยลงกองทุนกับCEOบลจ.ธนชาต

-ตลาดหุ้นผันผวน ควรใช้กลยุทธ์รับมืออย่างไร พร้อมหุ้นเด่นจากคุณฉุย SUPER EVER


-ทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบ รอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ กับMTSแม่ทองสุก

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


วิเคราะห์ทางเทคนิค ยังถูกกดันจากสัญญาณขายในModify stochastics และตกปรับฐานลงมาในรูปแบบราคาHead&Shouldersที่กำลังลงมาฟอร์มเขตบ่าขวา บริเวณตั้งแต่1385ลงมาถึงเขต1370-1355จุดโดยประมาณ ในขณะที่เริ่มเข้าเขตSuperOversold โดยค่าKลงมาเขต20% หากเข้ามาเขต10%หรือต่ำกว่าก็ถือว่าลงมามาก ดังนั้นจึงคาดว่าน่าอยู่ปลายๆการปรับตัวลงเที่ยวนี้ ตั้งแต่1385-1355 ซึ่งก็แสดงว่ามีความเสี่ยงขาลงจำกัด(Downside risk)ขณะที่มีกรอบแนวต้านเขต1400-1407หากผ่านด่านนี้ก็จะกลับไปเขต1440ถึง1480จุดได้ต่อไป จึงแนะนำรอซื้อเมื่อเกิดสัญญาณกลับตัวชัดเจน แต่ไม่ควรขายเนื่องจากความเสี่ยงขาลงจำกัด

ปัจจัยบวก คาดว่าFOMCยังคงQEทำให้เงินยังไหลเข้า,การเก็งกำไรงบการเงินไตรมาส3ที่กำลังจะออก,มีเงินใหม่LTFเข้ามาช่วงปลายปีรอช้อนซื้อตอนหุ้นตก

ปัจจัยลบ ความเสี่ยงทางการเมืองเรื่องนิรโทษกรรม และการต่อต้าน กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล และยังมีแรงกดดันไปถึง11พ.ย.เป็นอย่างน้อย

ปัจจัยที่ต้องติดตาม การชุมนุมต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรม หลังจากนายกฯยิ่งลักษณ์ออกมาแถลงข่าวช่วงเที่ยงวันนี้ว่า ขอให้วุฒิสภาตัดสินเรื่องพรบ.นิรโทษกรรมได้อย่างเต็มที่ จะเดินต่อหรือคว่ำพรบ.นิรโทษกรรม รัฐบาลพร้อมยอมรับ
มุมมองกองทุนฯ
 (จากเอกสารที่มีการพูดคุยกับผู้บริหารกองทุนบางราย)   ขึ้นยังให้ขายอยู่ครับ เชื่อว่าวันที่ 11/11/2013 คาดวุฒิสมาชิกจะรับร่าง (หุ้นจะร่วงแรงให้ซื้อหุ้นครับ)
หลังจากนั้นคาดว่าจะมีตัดในส่วนของ คุณทุกษิณ คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ ออก ตลาดน่าจะรับรู้ไปในทาง
ที่ดีขึ้นครับ แต่ไม่ทราบม็อบจะสลายหรือไม่ไม่ทราบแล้วครับ การเมืองคาดเดายากจริง ๆ ครับ แต่เรื่องการลงทุนน่าจะดีขึ้นครับ (ยกเว้นยกเลิกไม่รับร่างเลยอันนี้ถือว่าดีที่สุดเลยครับ)

กลุ่ม40ส.ว.เผยรวมเกิน80เสียงคว่ำนิรโทษ

น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี เชื่ออว่าส.ว.สามารถที่จะคว่ำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ทราบว่า มีส.ว.เลือกตั้งประมาณ 20 คนแล้ว โดยไม่นับรวมกับส.ว.เลือกตั้งอีก 6 คนที่อยู่กับกลุ่ม 40 ส.ว.จะลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ดังนั้นทำให้ ขณะนี้มีส.ว.ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเกิน 80 คนแล้ว (แหล่งข่าว:กรุงเทพธุรกิจออนไลน์)

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คัมภีร์หุ้นไทยและกลยุทธ์ลงทุนหุ้นใหญ่ในSET50( 4 พฤศจิกายน2556):ปัจจัยเสี่ยงการเมืองกดดัน จับตายืนเหนือ1400หรือจะหลุดลงไปกรอบล่าง1370จุด?



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

วิเคราะห์ทางเทคนิค ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันสัญญาณขายในmodify stochastics แต่ก็เริ่มจะเข้าเขตOver soldเพราะค่า%Kลงมาราว20%หากลงมาเขต10%หรือต่ำกว่าก็อาจจะลงจบแล้วฟื้น โดยมีกรอบแนวรับเขต1418หากหลุดจะตกไปเขต1400-1405จุด ซึ่งมีข้อพิจารณาคือหากยืนได้ก็อาจลงมาสร้างฐานเหนือเขตนี้ก่อนการฟื้นตัวไปเขต1440-1450 แต่หากหลุดก็จะตกไปกรอบล่าง1370-1380จุด

ปัจจัยบวก คาดFEDคงQEไว้ เงินทุนไม่ไหลออกและไหลเข้า และใกล้ฤดูกาลประกาศงบไตรมาส3ซึ่งตลาดจะหันไปอิงข่าวนี้มากขึ้น

ปัจจัยลบ ปัจจัยเสี่ยงการเมืองเรื่องพรบ.นิรโทษกรรมที่ต้องรอเข้าวุฒิสภา,การถูกยื่นศาลรธน.,การชุมนุมต่อต้าน


ปัจจัยที่ต้องติดตาม การชุมนุมดาวกระจายต่อต้านของพรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลวันนี้จะมีคนร่วมมากหรือไม่ จะมีเหตุรุนแรงหรือไม่ และกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลถึงขั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือไม่