วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คัมภีร์หุ้นไทย(23พฤษภาคม2557):รัฐประหารกับผลต่อตลาดหุ้น และกลยุทธ์รับมือ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส




โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

บทสรุปที่สำคัญ:เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสด้วย Creative Destruction Theory

-คาดว่าช่วงแรกคือวันศุกร์ที่23พ.ค. จะเกิด
Panic sellลงมา กรณีแย่สุด1350+/- กรณีกลางๆ1370-1380+/-

-ช่วงที่ 2 แกว่งตัวซึมๆSideWay กินเวลา1สัปดาห์ ตลอดสัปดาห์หน้า(26-30พ.ค.)

-ช่วงที่ 3 ขึ้นทำนิวไฮ และวิ่งrally หลังเกิดรัฐประหาร 1 หรือ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นตอนที่จัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือจัดระเบียบใหม่เรียบร้อยแล้ว น่าจะอยู่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

กลยุทธ์:1.กรณีขายไม่ทันเพราะเกิดPanic sell ควรจะรอไปขายช่วงที่ 2 หรือช่วงที่ 3(ช่วงที่3ดีที่สุด)
2.กรณีจะซื้อ เริ่มซื้อบางส่วนในวันที่23พ.ค.นี้ แต่หากให้ดีกว่า ให้รอจนสัปดาห์ ช่วงที่มีการฟอร์มตัวสร้างฐานที่ชัดเจนแล้ว
....................

1.ตลาดหุ้นไทยกับการรัฐประหาร:ตกแบบPanic 1 ถึง2วันแล้วฟื้นตัวทำนิวไฮกว่าตอนก่อนเกิดรัฐประหาร:Creative Destruction

*สถิติของตลาดหุ้นไทยในการเกิดรัฐประหาร 2 ครั้งที่ผ่านมา

-รัฐประหาร รสช. 23 กุมภาพันธ์ 2534 ในวันต่อมาเมื่อเกิดรัฐประหารได้ตกลงมา7.25% แต่วันต่อมาฟื้นกลับ5.71% และใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่(New High)สูงกว่าตอนก่อนเกิดการรัฐประหาร

-รัฐประหาร คมช. 19 กันยายน 2557 ในวันต่อมาเมื่อเกิดรัฐประหารแล้วได้ตกลงมา1.42% วันต่อมาตกอีก1.57% จากนั้นใช้เวลา2สัปดาห์ขึ้นไปทำนิวไฮกว่าก่อนตอนเกิดรัฐประหาร


*รัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534




ตลาดหุ้นไทยตอนเกิดรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534


ตลาดหุ้นไทยตอนเกิดรัฐประหาร 19กันยา49

*ข้อสังเกตด้วย Creative Destruction Theory จะพบว่าตลาดมีความเคลื่อนไหวแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ

-ช่วงแรก เกิดPanic sellลงมา 1 ถึง 2 วัน
-ช่วงที่ 2 แกว่งตัวซึมๆSideWay กินเวลา1หรือ2สัปดาห์
-ช่วงที่ 3 ขึ้นทำนิวไฮ และวิ่งrally หลังเกิดรัฐประหาร 1 หรือ 2 สัปดาห์



2.ตลาดหุ้นไทยกับรัฐประหาร22พฤษภาคม 2557

ค่าเงินบาทในวันเกิดรัฐประหาร-ในคืนวันเกิดรัฐประหาร ค่าเงินบาทอ่อนลงมาเขต32.58บาท/ดอลลาร์ โดยมีแนวรับเขต32.65บาท/ดอลลาร์ ข้อพิจารณาคือ หากไม่อ่อนมากไปกว่า32.65บาท/ดอลลาร์ ต่างชาติก็อาจขายไม่มาก แต่หากอ่อนเกินนี้ต่างชาติมีแนวโน้มจะขายมาก

*เป้าหมายตกของSET



ชาร์ตรายสัปดาห์


ชาร์ตรายวัน

*กรณีตกน้อยที่สุด(The Best case scenario)-จะตกมาแค่เพียง 1398 จุด
*กรณีตกกลางๆ (Base case scenario)-จะตกมาเขต1380+/- ไปถึงlowเก่า 1370-1375จุด
*กรณีตกหนัก (Worse case scenario)-จะตกมาเขต1360-1350จุด
*กรณีแย่กว่าคาด( The worst case scenario)-จะตกหลุดเขต1350ลงไป แต่เมื่อคำนวณจากฐาน1205จุด และพีค1426.50แล้วก็จะตกไปไม่เกินเขต1340

กลยุทธ์ 1.เมื่อพิจารณาจากสถิติในอดีตจะพบว่าเมื่อเกิดรัฐประหาร ดัชนีSETจะตกระยะสั้นเพียง1หรือ2วัน แล้วค่อยสร้างฐานขึ้นไปทำนิวไฮภายใน1หรือ2สัปดาห์ ดังนั้นเที่ยวนี้ก็อาจตกเพียง1วัน หรือไม่เกิน2วัน แล้วฟื้นขึ้นไปทำนิวไฮเกิน1427ที่ทำไว้ ดังนั้นจึงไม่ควรPanic sellขายตาม

2.เฝ้าดูว่าSETจะลงมาแบบPanic sellขนาดไหน โดยประเมินว่าควรเป็นกรณีกลางๆ คือตั้งแต่1370ไปถึง1385จุด หรือแย่สุดก็คือเขต1340-1350จุด

3.ติดตามสถานการณ์ว่าคณะรัฐประหารได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เบ็ดเสร็จหรือไม่ รวมทั้งการแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ (แต่หากมีการต่อต้าน หรือควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ จึงจะทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อ เป็นผลลบต่อตลาด)

กล่าวโดยสรุป

-คาดว่าช่วงแรกคือวันศุกร์ที่23พ.ค. จะเกิด
Panic sellลงมา กรณีแย่สุด1350+/- กรณีกลางๆ1370-1380+/-

-ช่วงที่ 2 แกว่งตัวซึมๆSideWay กินเวลา1สัปดาห์ ตลอดสัปดาห์หน้า(26-30พ.ค.)

-ช่วงที่ 3 ขึ้นทำนิวไฮ และวิ่งrally หลังเกิดรัฐประหาร 1 หรือ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นตอนที่จัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือจัดระเบียบใหม่เรียบร้อยแล้ว น่าจะอยู่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป





เกี่ยวกับผู้เขียน

............
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์


-ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ที่ปรึกษาการลงทุนรับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.
-ที่ปรึกษาการลงทุนให้คำแนะนำการลงทุนผ่านสื่อของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
-ผู้ดำเนินรายการและผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการลงทุนทางสถานีโทรทัศน์TNN24

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กฎอัยการศึกกับตลาดเงินตลาดหุ้น



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

*กฎอัยการศึกกับตลาดเงินตลาดหุ้น

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึก(หรือการทำรัฐประหารยึดอำนาจ) ตลาดจะpanicลงมาสั้นๆ เพราะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศ แต่จะฟื้นขึ้น หรือมีโอกาสขึ้นแบบrally เนื่องจากถือว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยุติลง และยุติความคลุมเครือไม่แน่นอนลง แต่กรณีนี้ต้องติดตามทางออกต่อไปว่าจะไปทางไหน

4.1 ให้จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ผ่านช่องทางวุฒิสภา (ตามที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเสนอ)
4.2 ให้จัดการเลือกตั้ง (ตามที่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเสนอ)
4.3 ช่องทางอื่นๆ หรือไม่ทำอะไรเลย แค่ออกกฎอัยการศึกมาเพื่อระงับเหตุไม่ให้ผู้ชุมนุม2ฝ่ายปะทะกันเท่านั้น

ข้อพิจารณา-ดูกรอบความเคลื่อนไหวของตลาด เพื่อประกอบการตัดสินใจดังต่อไปนี้(โดยอิงกับค่าเงินบาท/ตลาดหุ้น ดัชนีSET และหุ้นใหญ่ในSET50)



1.กฎอัยการศึก และผลต่อตลาด

*กองทัพประกาศกฎอัยการศึก และมีคำสั่งหลักๆคือ
1.ให้ม็อบ2ฝ่ายอยู่ในที่ตั้งไม่เคลื่อนย้ายมาปะทะกัน
2.ให้โทรทัศน์ที่มีผลในการกระตุ้นการชุมนุม2ฝ่ายระงับการออกอากาศ
3.ผลต่อตลาดเช้านี้

-ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนลง32.62บาท แล้วแข็งค่าขึ้นมาเขต32.46บาท
-ดัชนีSETเกิดpanic sellลงมาเขต1387จุด แล้วฟื้นมาเขต1400จุด

2.ผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดหุ้น
ค่าเงินบาท-อ่อนลง โดยมีแนวรับใหญ่เขต32.66-32.70บาท/ดอลลาร์
ข้อพิจารณา-หากอ่อนลงไปไม่มากกว่าเขตแนวรับ ก็แสดงว่าจะไม่แย่นัก คือฝรั่งจะไม่ได้ขายชนิดหนักหนา เป็นpanic sellช่วงสั้นๆ


ดัชนีSET-เปิดมาเช้านี้ก็panic sellลงมาเขตแนวรับ1387จุด ก่อนฟื้นมาเขต1400จุด โดยเครื่องมือmodify stochasticsยังคงป็นสัญญาณซื้อ ค่า%kอยู่เหนือ%d

ข้อพิจารณา

1.หากทำฐานเหนือ1387หรือ1380จะฟื้นขึ้นไปเขต1410 และแนวต้านพีคเก่า1427 และไปลุ้นผ่าน1427เพื่อขึ้นไปเป้าหมายต่อไป1450 ดีสุด1480

2.หากหลุดด่าน1387-1380 จะตกไปเขต1375-1370 หรือ1350

แต่เนื่องจากมีค่าสัญญาณซื้อในเครื่องมือmodify stochastics จึงคาดว่าจะขึ้นมากกว่าลง




หุ้นใหญ่ในSET50-ตกลงมายืนเหนือ940แล้วฟื้นขึ้นมาเขต948จุด
ข้อพิจารณา

1.ฐานแนวรับเขต940 ถัดไป935-930 แนวต้าน950ถัดไป956 และพีคเก่าเขต968

2.หากผ่าน968จะขึ้นไปเป้าหมายเขต985จุด
3.แต่หากหลุด930จะตกไปเขต915+/-

แต่เนื่องจากมีค่าสัญญาณซื้อในเครื่องมือmodify stochastics จึงคาดว่าจะขึ้นมากกว่าลง

4.ผลทางจิตวิทยาต่อตลาด

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึก(หรือการทำรัฐประหารยึดอำนาจ) ตลาดจะpanicลงมาสั้นๆ แต่จะฟื้นขึ้น หรือมีโอกาสขึ้นแบบrally เนื่องจากถือว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยุติลง และยุติความคลุมเครือไม่แน่นอนลง แต่กรณีนี้ต้องติดตามทางออกต่อไปว่าจะไปทางไหน

4.1 ให้จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ผ่านช่องทางวุฒิสภา (ตามที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเสนอ)

4.2 ให้จัดการเลือกตั้ง (ตามที่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเสนอ)
4.3 ช่องทางอื่นๆ หรือไม่ทำอะไรเลย แค่ออกกฎอัยการศึกมาเพื่อระงับเหตุไม่ให้ผู้ชุมนุม2ฝ่ายปะทะกันเท่านั้น



เกี่ยวกับผู้เขียน

............
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์


-ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ที่ปรึกษาการลงทุนรับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.
-ที่ปรึกษาการลงทุนให้คำแนะนำการลงทุนผ่านสื่อของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
-ผู้ดำเนินรายการและผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการลงทุนทางสถานีโทรทัศน์TNN24

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

3จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนละไม้คนละมือ ดีกว่าส่ายหน้าด้วยความสิ้นหวัง


สัมภาษณ์เสธ.โบ-พลตรีอรรฐพร Victory without war (อยู่ช่วง2ในเทป ราวๆนาทีที่15เป็นต้นไปครับ)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


............


เสธ.โบ-พลตรีอรรฐพร โบสุวรรณ ไม่เลือกไต่เต้าขึ้นสู่ยอดพีรามิดกองทัพบก แต่อาสาลงไปปักหลักที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้มานานกว่า10ปีแล้ว ด้วยความมุ่งมั่นจะทำให้พระราชปณิธานในหลวง .."เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"ปรากฎเป็นจริง

แน่นอนว่าเป็นภารกิจที่เสี่ยงอันตรายทุกฝีก้าว

หลายโครงการกลายเป็นแบบอย่างที่เป็นประกายความหวังว่ามีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ อาทิโครงการหมู่บ้านแม่หม้าย โครงการพัฒนาด้านอาชีพต่างๆ รวมทั้งโครงการด้านการศึกษา

ล่าสุดเขาและคณะทำงานฯได้เข้าไปสนับสนุนโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส "จุดไข่แดง"ของ3จชต. ชื่อโรงเรียนเจริญศึกษา โยบายสำคัญ คือให้เด็กนักเรียนทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างผสมผสาน ระหว่างนักเรียนพุทธ และมุสลิมโดยไม่มีการแปลกแยกและแบ่งแยก (ดูรายละเอียดตามลิ้งค์http://asmp5csr.blogspot.com/2014/05/blog-post_5.html)

โรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งสิ้นจำนวน 1,033 คน ต้องการขยายการศึกษาเป็นถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมีความจำเป็นต้องจัดซื้อที่ดินเพิ่ม จำนวน 1 ไร่ 3 งาน ร าคา 3.1 ล้านบาท

ซึ่งคณะทำงานโครงการพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ได้จัดหาให้แล้ว เป็นจำนวนเงิน 1,129,005 บาท ยังขาดเงินอีกจำนวน 1,970,995 บาท

เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่คณะผู้บริหาร, ครู, บุคลากร และเด็กนักเรียนของ
โรงเรียนมูลนิธิโรงเรียนเจริญศึกษา ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีในความรักสามัคคีในพื้นที่
จังหวัดชายแดนภาคใต้

เสธ.โบเป็นเพื่อนนักศึกษากับผมในหลักสูตรการจัดการความมั่นคงระดับสูง ของสมาคม วปอ. รุ่นที่5 ผมจึงรับประกันได้ว่านี่เป็นโครงการที่เกิดจา่กความมุ่งมั่นทุ่มเทตามแนวทาง"เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" และดีกว่าพวกเราฟังข่าว3จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ได้แต่ส่ายหน้าหมดหวัง

นี่เป็นโอกาสดีที่จะหยิบยื่นคนละไม้คนละมือ เป็นส่วนเล็กๆแต่เป็นส่วนสำคัญของรูปธรรมความร่วมมือร่วมใจของคนไทยเราครับ

สนับสนุนกิจกรรมโดยโอนผ่านบัญชีของผมชื่อบัญชี นายณัฏฐ์ รุ่งวงษ์ กสิกรไทย สาขาเทสโก้โลตัส สุขาภิบาล 3 เลขที่บัญชี 993-2-12824-9 ผมจะได้รวบรวมและนำส่งโครงการนี้ต่อไปครับ

ท่านที่ร่วมทำบุญแล้ว กรุณาแจ้งอีเมล์มาที่ nattawutroongwong@gmail.com  ผมจะได้จัดของสมนาคุณเป็นข้อมูลหุ้นเด่นให้ตามธรรมเนียมครับ


เกี่ยวกับผู้เขียน

............
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์


-ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ที่ปรึกษาการลงทุนรับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.
-ที่ปรึกษาการลงทุนให้คำแนะนำการลงทุนผ่านสื่อของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
-ผู้ดำเนินรายการและผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการลงทุนทางสถานีโทรทัศน์TNN24

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คัมภีร์หุ้นไทย(8พฤษภาคม2557):คาดทำฐานใหม่ที่ยกสูงขึ้นกว่าlowเก่าเขต1378เพื่อไปลุ้นผ่านด่าน1427จุด ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เว้นแต่พังฐานlowเก่าลงไปจะเปลี่ยนเป็นขาลง


รายการรู้ก่อนรวยกว่ารอบเย็น7พฤษภาคม-ผลคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญต่อตลาดหุ้น/หุ้นADVANCยังอ่อนไหวต่อการเมือง เหตุชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ชินคอร์ปยังทำคนเข้าใจว่าเป็นของตระกูลชินวัตร

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


วิเคราะหางเทคนิค ลงมารอบนี้ทำฐานยกสูงขึ้นกว่าฐานรอบก่อน(รอบก่อนมีlow1378จุด ลงเมื่อวานมีlow1388)

วันนี้มีข้อต่อเขต1400-1404หากผ่านก็จะฟื้นขึ้นไป1408ถัดไป1410-1413 เพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้านด่านสำคัญ1427 โดยยังคาดการณ์ว่าจะผ่าน เนื่องจากอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น(ซึ่งทำฐานยกสูงขึ้นำจุดสูงใหม่มาต่อเนื่อง)

แต่หากไม่ผ่านด่าน1400+/- แล้วลงมาก็จะลงไปทำฐานเขต1388-1385จุด เพื่อฟอร์มตัวในกรอบ1385-1427ก่อน เว้นแต่จะลงไปแล้วพังฐานlowเก่า1378 แบบนั้นแสดงว่าตลาดทำพีคไปแล้วที่เขต1427แล้วจะเปลี่ยนทางลงไป1300+/-

ปัจจัยบวก เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองผ่านไปแล้วเมื่อศาลรธน.ตัดสินให้ยิ่งลักษณ์พ้นตำแหน่ง น่าจะมีทางหลักในการเลอกตั้ง20ก.ค. แม้ว่าการชี้คดีจำนำข้าวของปปช.วันนี้ หากผลออกมาว่ารัฐบาลทำผิด ก็ไม่มีผลอะไรแล้ว เนื่องจาก(อดีต)นายกฯยิ่งลักษณ์เพ้นตำแหน่งไปแล้ว

ปัจจัยลบ ต่างชาติกลับมาขายสุทธิมาก,ปปช.ชี้คดีจำนำข้าว,การชุมนุมการเมืองใหญ่2ฝ่าย9-10พ.ค. และทำให้เกิดความกังวลเรื่องการเผชิญหน้าแบบม็อบชนม็อบ(แต่สถานที่ชุมนุมห่างกันมาก ฝ่ายกปปส.อยู่สนามหลวง แต่นปช.อยู่แถวพุทธมณฑล โอกาสจะเกิดการปะทะกันจึงมีน้อยมาก)

ปัจจัยติดตาม ประเด็นการเมือง

คำแนะนำ 1.ถือ หรือซื้อหากSETทำฐานยกสูงกว่าlowเก่าเขต1378 เช่น ทำฐานเขต1385หรือ1388 หรือfollow buyหากผ่านเขต1400-1404จุด

2.กรณีที่น่าขายลดความเสี่ยงก็คือหากเห็นSETพังฐานlowเก่า1378ลงไป เพราะเสี่ยงตกไปเขต1300+/-


เกี่ยวกับผู้เขียน

............
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์


-ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ที่ปรึกษาการลงทุนรับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.
-ที่ปรึกษาการลงทุนให้คำแนะนำการลงทุนผ่านสื่อของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
-ผู้ดำเนินรายการและผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการลงทุนทางสถานีโทรทัศน์TNN24

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คัมภีร์หุ้นไทยประจำเดือนพฤษภาคม2557:Sell in May and Go Away แต่ข่าวดีคือเป้าหมายSellอยู่เขต1480ถึง1500จุด/หุ้นที่น่าเทรดดิ้งก็ยังคงเป็นหุ้นยอดนิยม หรือหุ้นใหญ่ในSET50



รายการรู้ก่อนรวยกว่ารอบเย็น1พฤษภาคม-ตลาดหุ้นเดือนพฤษภากับปรากฏการณ์Sell in May/ข่าวดีจากประกันสังคมรับวันMayDayมีจ่ายบำเหน็จบำนาญผู้ประกันตน เริ่มปีนี้/ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(วว.)เผยผลงานวิจัยเพื่อพัฒนาและเชิงพาณิชย์แก่ธุรกิจขนาดใหญ่และSMEs— ที่ Tnn 24 Truevisions@Tipco

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

1.ปรากฎการณ์SELL IN MAY AND GO AWAY และเป้าหมายการขายรอบนี้

ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายเดือนของตลาดหุ้นไทย บ่งชี้ว่าระยะเป็นเดือนหรือหลายเดือนจากนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้นขนาดใหญ่ที่ได้ลุ้นทำHistorical high

*ตลาดหุ้นไทยหลายปีที่ผ่านมา มักขึ้นมาจบรอบ หรืออย่างน้อยก็ตกพักยกในเดือนพฤษภาคม มูลเหตุมาจากตลาดวายในฤดูกาลจ่ายปันผล(มักตลาดวายราวๆกลางเดือนพฤษภาคม) ประกอบกับการประกาศผลดำเนินงานของบมจ.งวดไตรมาส1ที่ออกมาราวกลางเดือนพฤษภาคมก็มักกำไรไม่สวย หรือกำไรตก อันเป็นธรรมชาติของงวดนี้

*ผู้ลงทุนที่ได้เงินปันผล หรือกำไรแล้วมักขายออกมา และออกจากตลาดหุ้น แล้วนำเงินไปพักในตลาดอื่น เช่น ตลาดเงิน หรือตลาดตราสารหนี้แทน เลยเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า SELL IN MAY AND GO AWAY

*เดือนพฤษภาคมปีนี้จะซ้ำรอยหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยประเด็นอื่นๆที่น่าสนใจในเดือนนี้ก็คือ สถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งฝ่ายต่อต้านรัฐบาลโหมหนักอีกรอบ แต่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลที่ยังสดชื่น เพราะไม่ได้กรำศึกจนเหนื่อยล้าในสนามนาน6เดือนเท่าฝ่ายต่อต้าน ก็เคลื่อนม็อบออกมาประชัน แต่ไฟต์บังคับการเลือกตั้ง ดูเหมือนกกต.จะกำหนดไว้ในวันที่ 20 ก.ค. ก็อาจเป็นทั้งปัจจัยกดดัน และปัจจัยหนุนต่อทิศทางตลาด

*ผมยังให้น้ำหนักว่าจะเกิดSELL IN MAY AND GO AWAYในเดือนนี้ ประเด็นปัญหามีเพียงว่า จุดไหนที่น่าขายแล้วพักยกมากกว่า

*ในชาร์ตรายเดือน(ชาร์ตที่1)ชี้ว่าตลาดระยะกลางถึงยาว(คือเป็นเดือนๆ หรือหลายเดือนนับจากเวลานี้)อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หากพูดแบบ
purely technicalแล้ว มีเป้าหมายจะขึ้นไปทำนิวไฮตั้งแต่1670จุดไปยันได้ลุ้นทำHistorical highเขต1800จุด...แต่นั่นยังนานเกินไป สำหรับบรรดาเทรดเดอร์ ที่เทรดเก็งกำไรเป็นรอบ

ดังนั้นเราจะมาโฟกัสให้แคบเข้าว่า หากเกิดปรากฎการณ์ SELL IN MAY AND GO AWAYในเดือนนี้ และต้องเทรดแข่งกับเวลา ที่คาดว่าควรจะพีคและตกในราวๆกลางเดือนนี้ ควรไปตั้งเป้าขายที่เท่าไหร่ดี?

2.เป้าหมายขานยทำกำไรในเดือนSELL IN MAY AND GO AWAYอยู่ที่เท่าไหร่? น่าจะได้ลุ้นราวๆ1480-1500จุด



ชาร์ตที่2:ชาร์ตรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นการโฟกัสแคบเข้ามา จะพบว่ามีกรอบแนวรับUptrendเขต1400+/-(1393-1405จุด) กรอบแนวต้านDowntrendเขต1427จุด ผมคาดการณ์พยากรณ์ดังนี้

*คาดว่าน่าจะพักฐานพอเพียงเขต1400+/- (คืออาจจบปรับฐานไปแล้วเขต1405เมื่อปลายเดือนเมษายน) หรือหากจะมีลงตอนต้นเดือนพฤษภาคมก็ควรไม่ลงเกิน1393หรือ1405

*จากนั้นคาดว่าจะขึ้นไปผ่านแนวต้านด่านสำคัญเขต1427จุด แล้วขึ้นไปเป้าหมายใหญ่เขต 1480ถึง1500จุดในเดือนพฤษภาคม อาจเป็นราวกลางเดือนพฤษภาคมนี้

คำแนะนำ

1.หากมีหุ้นที่ติดไว้ หรือถือไว้ ก็ลุ้นยืนเหนือ1400+/- และลุ้นผ่านด่าน1427+/- เพื่อไปขายทำกำไร หรือขายทำทุนที่เป้าหมาย1480ถึง1500+/-

2.หากพอร์ตว่าง หรือเงินสดเหลือ ก็เข้าซื้อเมื่อยืนเหนือ1400+/- และลุ้นผ่านด่าน1427+/- เพื่อไปขายทำกำไร หรือขายทำทุนที่เป้าหมาย1480ถึง1500+/-

.........



เกี่ยวกับผู้เขียน

............
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์


-ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ที่ปรึกษาการลงทุนรับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.
-ที่ปรึกษาการลงทุนให้คำแนะนำการลงทุนผ่านสื่อของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
-ผู้ดำเนินรายการและผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการลงทุนทางสถานีโทรทัศน์TNN24