วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563

ไหวมั้ยครับอีก1เดือน-สถิติแม่นๆ แม่นจนน่ากลัว ก่อนวิกฤตไวรัสถล่มโลก และคำพยากรณ์การสิ้นสุดวิกฤต

By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต12888

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น

(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)
30 กันยายน 2563

Facebook : http://fb.com/tontancorp

Youtube : https://goo.gl/J9u1jm

1.ผมเคยเสนอไว้ในสิ้นปี2559 โดยอ้างอิงสถิติจากFranklin Templetonว่าภายหลังFEDขึ้นดอกเบี้ยผ่านไปราว3ปี ช่วงหลังปี2562เป็นต้นไป หรือ2563 ฟองสบู่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะแตก ตลาดหุ้นจะตกหนัก (ดูลิ้งค์ที่เคยนำเสนอไว้ https://www.facebook.com/natsetcall/posts/2143896102329136)

2.คำถามมีต่อมาว่าเมื่อฟองสบู่แตกตลาดหุ้นตกหนักแล้วมันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ก่อนจะกลับคืนมาสู่ภาวะปกติ ? ดร.มาร์ค โมเบียส เอกกูรูสายชาวสวน(Contrarian)บอกว่า ตลาดหุ้นโลกมีสถิติว่ามักตกลงไป49% และกินเวลา15เดือน จึงจะสิ้นสุดวิกฤต...สำหรับตลาดหุ้นไทยมีสถิติว่าจะตกหนักลงมาราว46% และกินเวลา9เดือน ก่อนสิ้นสุดวิกฤต (ดูลิ้งค์สถิติ https://www.markmobius.com/news-events/this-time-its-different-bear-markets-and-what-we-can-learn-from-history)


หากพิจารณาจากสถิติจะพบว่าก่อนวิกฤตCOVID-19ถล่มโลก ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ1,800จุด ตอนตกหนักที่สุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลงมารวม46% ตามสถิติ

และหากนับจากจุดเริ่มวิกฤตคือเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ตลาดหุ้นไทยจะสิ้นสุดวิกฤตเที่ยวนี้ในเดือนตุลาคมนี้ คือประมาณ9เดือนหลังวิกฤต...Believe It Or Not!
...
มีไว้ไม่ตกรถ!-ติดต่อรับ 10หุ้นเด่นคู่มือตลาดหุ้นรอบPost Election Rally&Post Political Crisis สอบถามข้อมูล Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563

รับมือม็อบปลดแอก19กันยา และความผิดพลาดในตลาดSideway downที่มักเกิดขึ้นบ่อย(คร่อมรอบ ผิดรอบ ติดหุ้น ขายหมู ติดดอย)และแนวทางแก้ไข

 
By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต12888

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น

(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)

15 กันยายน 2563

1.ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแบบSideway down หรือซึมตัวลง จึงทำฐานก้นเตี้ยลงต่อเนื่อง ตอบสนองข่าวเชิงลบได้ไว แต่มักเพิกเฉยต่อข่าวทางบวก ดังนั้นเราจะได้เห็น

-ตลาดหุ้นไทยลงสวนทางตลาดหุ้นโลกเมื่อวานนี้

*โมเดลม็อบการเมืองในอดีตมีผลต่อตลาดหุ้นแบ่งเป็น3ช่วง

-ช่วงแรก ก่อนม็อบตลาดตกก่อนม็อบมา หรือซึมลง เพราะกังวลเกิดวิกฤตรุนแรง

-ช่วงสอง ระหว่างม็อบชุมนุม ตลาดซึมๆรอดูคืบหน้าการชุมนุม

-ช่วงสาม จบม็อบ ไม่ว่าจบแบบไหน ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะ หุ้นขึ้นแรง หลังเกิดความชัดเจน

คลิกชมรายละเอียด..



*การชุมนุมทางการเมืองที่เคยมีผลต่อตลาดหุ้นไทยครั้งสำคัญ เคยเกิดมา5ครั้งแล้วคือ


1.6ตุลาคม2519

2.พฤษภาทมิฬ2535

3.พันธมิตร2549

4.เสื้อแดง2553

5.กปปส.2557

และล่าสุด6.ม็อบปลดแอก19กันยายน2563

ใน5หนที่ผ่านมาผลต่อตลาดแบ่งเป็น3ช่วงตามที่ได้อธิบายไปแล้วคือ

ช่วงแรก ตลาดตกและซึมลง กังวลเหตุร้าย(ตอนนี้ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงนี้ครับ)

ช่วงสอง ตลาดซึมรอดูสถานการณ์

ช่วงสาม ตลาดขึ้นแรง หลังเหตุการณ์ยุติลง ไม่ว่าจะยุติแบบใดก็ตาม

คลิกชมรายละเอียดครับ..

2.มุมมองทางเทคนิคและกลยุทธ์การลงทุน-ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น จะเป็นไปตามปนวโน้มคือ แบ่งเป็น

-ขาลง เช่น ตอนหุ้นตกหนักตอนเกิดวิกฤตไวรัสช่วงเดืิอนกุมภาพันธ์-มีนาคม

-ขาขึ้น เช่น ตอนฟื้นตัวหลังไวรัสคลี่คลาย เดือนมันาคม ถึงต้นเดือนมิถุนายน

-ซึมไซด์เวย์ ซึ่งเวลานี้เป็นsideway downหรือก้นเตี้ยฐานต่ำลง ยอดไฮลดลง (ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยเราอยู่ในแนวโน้มประเภทนี้ เราเลยอ่อนไหวต่อข่าวลบไว ถอยลงแบบก้นเตี้ยตลอด ยอดไฮลดลง แต่ก็ไม่ใช่ขาลงเต็มตัว เมื่อไหร่ลงแตะกรอบล่างก็มักฟื้น แต่หากไม่ผ่านกรอบบนก็ตกมาใหม่ จะเปลี่ยนแนวโน้มก็ต่อเมื่อbreakoutไปด้านใดด้านหนึ่ง)

(ดูคลิปสอนหุ้นออนไลน์ว่าด้วยแนวโน้มประเภทSideway และกลยุทธ์ที่สำคัญ/เคล็ดลับเอาชนะกับดักทางจิตวิทยาที่มักทำให้นักลงทุน หรือเทรดเดอร์ทำผิดกันเป็นประจำ เช่น ตกรถ ขายหมู ผิดรอบ คร่อมรอบ เชิญชม

https://www.youtube.com/watch?time_continue=7&v=Iy สงวนสิทธิ์สำหรับสมาชิก)

*เวลานี้ความเคลื่อนไหวในแนวโน้มSideway downของตลาดหุ้นไทยนั้นผมอธิบายว่า เป็นการฟอร์มตัวพักฐานในคลื่น4(หรืออาจจะเป็นคลื่น2ใหญ่) ก่อนจะขึ้นไปคลื่น5(หรือคลื่น3ใหญ่)

 โดยมีกรอบฐานด้านล่างราวๆ1270-1263จุด กรอบแนวต้านบนราวๆ1350จุด+/-

ก.หากBreak out downกรอบล่างราวๆ1270-1263 จุด จึงจะเปลี่ยนtrendไปเป็นขาลงสมบูรณ์แบบ คือจะตกต่อไปอย่างน้อยก็1200-1150จุด

ข.หากbreakout upผ่านกรอบแนวต้านบนบริเวณ1350+/- ก็จะเปลี่ยนtrendไปเป็นขาขึ้นไปสมฐุณ์แบบ อย่างน้อยก็1515-1560จุด

ค.หากไม่breakout up/downด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะยังแกว่งซึมตัวในแนวโน้มsideaway downที่มีกรอบคร่าวๆระหว่าง1260-1350จุด หรือแกว่งราวๆ100จุดนี้ต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน

ก.สำหรับเทรดเดอร์ที่เล่นเก็งกำไรรอบสั้น-ซื้อหรือถือหุ้นเมื่อลงมาเขตแนวรับสำคัญราวๆ1270-1260 และถือไปรอขายเมื่อขึ้นไปไม่ผ่านเขต1350+/-

ข.สำหรับนักลงทุนระยะกลาง+ยาว ติดตามข้อมูลพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ+การเมือง+สถานการณ์ไวรัสประกอบ และถือหุ้นเมื่อยืนเหนือกรอบแนวรับ รอเพิ่มพอร์ตการลงทุนเมื่อbreakout upแนวต้าน และเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้น หรือหยุดซื้อหุ้นหากbreak out down หรือลดพอร์ตลงทุนลงหากหลุดกรอบฐานแนวรับ

ค.หุ้นเด่นที่ผมแนะนำ โดยเฉพาะพวกกลุ่มการท่องเที่ยว และกลุ่มรอบวัฏจักร จริงๆไอเดียผมดั้งเดิมก็เสนอไว้ตามนั้นครับว่าโอกาสดีสุดคือเข้าช้อนซื้อตอนโรคระบาดหนักๆช่วงเดือนมีนาคม เมษา อีกทีก็ตอนงบไตรมาส2ออกน่าจะแย่สุดขีดแล้ว จากนั้นก็มีผันผวนขึ้นๆลงบ้างตามข่าวกระทบ แต่ครึ่งปีหลังกระเตื้อง ปีหน้าฟื้นมาดี ราคาก็คงrecoveryเด่นในปีหน้า แต่น่าจะไปดีมากใน2ปีหน้า ฟื้นมากำไร ราคาหุ้นก็จะขึ้นไปไกลมาก

เวลานี้ก็อยู่ในเฟสแรกๆคือเก็บหุ้น ถือหุ้น เผชิญความผันผวนไปก่อนครับ อดทนรอคอยซักปีกำไรดี

ผมก็ไม่ได้เคยหวังว่าจะกำไรเร็วๆ แตา่เผอิญว่าบางช่วงในระยะที่ผ่านมา มันขึ้นมาไว เพราะกระแสมันมาทางนั้น ราคาขึ้นไปตอบรับไว ขึ้นไปตามความคาดหวัง ขณะที่้พื้นฐานจริงๆมันเพิ่งจะผ่านจุดแย่สุดในไตรมาส2ที่งบออกมา และจะกระเตื้องขึ้นครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตามผมเคยนำเสนอว่า บางช่วงที่ตลาดฟื่้นในกรอบsideway downที่ว่านี้ หุ้นพวกนี้ก็ฟื้นไปด้วย หากท่านแน่ใจได้ว่าไอเดียการลงทุนนี้ไม่เหมาะกับท่าน(เพราะท่านต้องการเทรดไว เล่นรอบเร็ว หรือท่านเน่้นการเก็งกำไรรอบสั้นๆ ไม่ใช่มองยาวเป็นปี) ท่านก็ควรใช้จังหวะแบบที่ว่าขายออก และก็เปลี่ยนตัวครับ เพราะจา่กนี้ไปอีกเป็นปี ท่านยังมีเรื่องที่ต้องเจอภาวะผันผวนอีกมาก

..

โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุนทุกท่านครับ

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2563

แนวโน้มกลยุทธ์ตลาด911:วาทะท่านเซอร์ ตลาดกระทิงถือกำเนิดขึ้นจากภาวะที่คนในตลาดมืดมนสิ้นหวัง

By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เลขที่ใบอนุญาต12888
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น
(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)
11 กันยายน 2563
1.ตลาดหุ้นอเมริกาผันผวน เมื่อวานช่วงเช้าขึ้นต่อจากการรีบาวนด์วันก่อน ตกบ่ายลงปิดลบ หุ้นเทคโนโลยียังโดนขายต่อ พอช้วงเช้าวันนี้ฟื้นรีบาวนด์บวกราวๆ0.5-0.7% ตลาดหุ้นเอเชียบวกราวๆ0.5-1% คาดตลาดหุ้นไทยฟื้นตาม วันนี้มีเขตแนวรับ1290/1285 แนวต้าน1300/1305
ตลาดยังแกว่งซึมไซด์เวย์ต่อไปในกรอบล่าง1270 กรอบบน1360 ก็ราวๆ100จุดครับ มีแนวต้านย่อยๆ1300/1315/1330และ1360+/-
คำแนะนำ 1.หากติดหุ้นไว้อยากขาย ก็รอการฟื้นตัวไปขายกรอบบนสุด หรือด่านต่างๆครับ
2.การลงทุนในหุ้นที่ผมแนะนำไว้ พวกหุ้นturnaround/ หุ้นรอบวัฏจักร และกลุ่มที่ลงมาหนักกว่าตลาดอย่างแบงก์ อิงกับแนวโน้มของสถานการณ์ไวรัสและวัคซีนครับ สำหรับแผนการลงทุนก็แนะนำตามเดิมคือ ถือลงทุนข้ามปีไปปีหน้า และ2ปีข้างหน้า ส่วนกรณีที่อยากขาย ไม่อยากรอนานขนาดนั้น แนะนำว่าตลาดฟื้นไปรอบนี้ก็ไปขายที่แนวต้านด่านต่างๆ
อย่างไรก็ตามไอเดียของผมก็ยังเห็นตามที่เซอร์เทมเพิลตันว่าไว้"ซื้อหุ้นที่ดี ในสถานการณ์ที่เลว และอดทนรอคอยผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม" และผมเห็นด้วยกับคำกล่าวของท่านที่ว่า"ตลาดกระทิงนั้นเกิดจากภาวะที่นักลงทุนมองโลกในแง่ลบ มีความกังวลสงสัยมากขึ้น และมักมาตายเอาตอนที่นักลงทุนมองทุกอย่างดีไปหมด ดังนั้นในโมงยามแห่งความสิ้นหวัง จึงเป็นเวลาดีที่สุดที่จะซื้อหุ้น ส่วนโมงยามที่ทุกคนมองดีไปหมดนั้น เป็นเวลาดีที่สุดสำหรับการขายหุ้น"
แต่ผมเข้าใจสภาพจิตวิทยาอารมณ์ของนักลงทุนดีครับว่าก็ผันผวนไปมาขึ้นลงกับราคาหุ้น คือตอนหุ้นพวกนี้ขึ้นพวกเราก็มั่นใจในการถือและซื้อ พอราคาตกลงมาก็กัดกร่อนความเชื่อมั่น และอยากขายเอาทุน ซึ่งผมก็ยังมีไอเดียการลงทุนเหมือนเดิมที่เคยแนัะนำไว้ในตอนแรกครับ ทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากราคาหุ้นและสภาพจิตวิทยาของนักลงทุนที่ผันผวนไปตามราคา
2.ข่าวอื่นๆ
*SCCลงแรงเมื่อวานนี้หลังขึ้นXB จับตามองแนวรับฐานเก่าเขต144-150บาท หากรองรับการตกได้ก็จะฟื้นจากเขตนี้
*ผู้บริหารBAMเรียกความเชื่อมั่นของนักวิเคราะห์สำเร็จในที่ประชุมนักวิเคราะห์ คาดครึ่งปีหลังกำไรโต และจะปันผล1บาท ทำให้นักวิเคราะห์ปรับเป้าเป็นราวๆ28บาท
*GULFจะให้จองซื้อหุ้น14-18กันยายนนี้ จับตาดูว่าราคาจะปรับขึ้นจูงใจคนควักเพิ่มทุนหรือไม่
โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุน
ในภาพอาจจะมี 1 คน, ภาพระยะใกล้, ข้อความพูดว่า "Bull markets are born on pessimism, grown on skepticism, mature on optimism and die on euphoria. The time of maximum pessimism is the best time to buy, and the time of maximum optimism is the best time to sell. John Templeton AZQUOTES"
0
จำนวนคนที่เข้าถึง
0
จำนวนการมีส่วนร่วม
ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
แชร์