วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(21มี.ค.):ถล่มกัดดาฟี่ หนุนหุ้นลุ้นผ่านด่านเส้นกดหัว1020-1025เพื่อrallyขึ้นไปพีค1130ในต้นเดือนหน้า


คู่มือหุ้น 2554-หนังสือคู่มือหุ้น2554ปีกระต่ายทอง วางแผงที่SE-EDแล้วครับ หรือมางานอบรม"เรียนกราฟขั้นเทพ" รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์ 27 มีนาคมนี้ อภินันทนาการฟรี พร้อมลายเซ็นผู้เขียนครับ แต่ตอนนี้รับได้ไม่เกิน15 ท่าน โทรจองที่นั่ง 02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้ส อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **


I.สงครามลิเบียกับผลกระทบต่อตลาดหุ้น

ผมเคยกล่าวอยู่ตลอดว่า ตลาดหุ้นกับข่าวร้ายข่าวลบนั้นเป็นของคู่กัน พอจบเรื่องนี้ก็มีเรื่องนั้น หมดเรื่องเก่าก็มีเรื่องใหม่

ดูอย่างไม่กี่วันก่อนมมีเรื่องแผ่นดินไหว สึนามิญี่ปุ่น นึกว่าจบ มามีปัญหากัมมันตรังสีนิวเคลียร์ พอทำท่าคลี่คลาย ชาติพันธมิตรนำโดยอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษพากันโจมตีลิเบียอีก

แต่หนนี้จะไม่เกิดpanic sell เพราะว่าอเมริกากับพรรคพวกฮึ่มฮั่มทำท่าอยากหาเหตุโจมตีกัดดาฟี่มานานเต็มแก่ พอโจมตีก็เลยทำให้หุ้นขึ้น(หากย้อนไปดูตอนสงครามอ่าวฯครั้งแรก และครั้งที่2จะแบ่งเป็น3ระยะ คือตอนแรกกลัวเกิดสงคราม หุ้นตกหนักpanic ช่วงสองซึมๆรอดูความชัดเจน ส่วนช่วงที่สามพอเปิดฉากรบ หุ้นก็ขึ้นเลย…หากเทียบกับตอนโจมตีลิเบียเวลานี้ก็คือ เปิดฉากรบ หุ้นก็จะขึ้นเลย คืออยู่ขั้นที่3)

*ข่าวสงครามก็จะทำให้น้ำมันขึ้น หุ้นเครือPTTจะได้อานิสงส์ครับ

II.ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากญี่ปุ่น

1. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางบวก คือกลุ่มที่คาดว่ามีผลกระทบเชิงบวกจากเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น:

-โรงกลั่น PTTAR(TP43) TOP(TP87) IRPC ESSO

-ถ่านหิน BANPU LANNA

-อาหาร CPF GFPT(คาดยอดขายปีนี้โต10%มาริ์จิ้นเท่าเดิม15%) TUF

-บูรณะซ่อมแซม MCS SCC SCCC TTCL(อาจได้งานซ่อมแซมในญี่ปุ่น) SMT(คาดกำไรปี54โต35%)

-นิคมอุตสาหกรรม AMATA HEMRAJ

2.กลุ่มที่ได้รับผลลบคือกลุ่ม กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่งทางเรือ ยานยนต์(กระบวนการผลิตอาจล่าช้า)THAI AOT CENTEL MINT TTA PSL RCL(ญี่ปุ่นปิดท่าเรือ) STA(ญี่ปุ่นผิดรับซื้อยางพารา ส่งผลราคายางร่วงแรง) STANLY SAT

3. Oil Sensitive: คาดราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากการปิดโรงกลั่นในญี่ปุ่น4แห่ง เป็นผลลบต่อPTTEP เป็นผลดีต่อ TASCO ITD

สรุป-โดยเมื่อพิจารณาผลดีผลเสียแล้ว ก็ยังเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่า เนื่องจากหุ้นตัวใหญ่ได้ผลบวกมากกว่า ส่วนหุ้นที่ได้ผลลบนั้นเป็นหุ้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาร์เก็ตแค็ปใหญ่เท่ากลุ่มที่ได้ผลบวก

III.แนวโน้มหุ้นไทยลุ้นผ่านด่านำหลัก~1020ในสัปดาห์นี้เพื่อrallyไปพีคในเดือนเมษายนแถว1130




ภาพแนวโน้มมองเป็น2มิติดังนี้

*กรณีที่1-เป็นเหมือนที่เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้ คือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ปรับลดความร้อนแรงลงทางเทคนิค ผสมกับลงจากการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในญี่ปุ่น

หากยืนเหนือด่าน1000+/-(996-1000) หรือไม่ทำจุดต่ำลึกกว่าโลว์เก่า977(เช่นทำจุดต่ำแถวๆ996-980)ก็พร้อมขึ้นในระยะต่อไป

ด่านแนวต้านแรก1010-1016 แนวต้านdowntrend~1020-1025 สัปดาห์นี้หากผ่าน1010ก็จะไปทดสอบด่าน1020-1025ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ และลุ้นผ่านด่านนี้ก็จะขึ้นไปพีคเก่า1056และคาดว่าจะขึ้นไปพีคเขต1100-1032ราวต้นเดือนเมษายน

ซึ่งสัปดาห์ก่อนนี้ยืนเหนือแนวรับ996จุดได้ เมื่อวานก่อนฐานยกสูงขึ้นมาเป็นแถว998จุด คาดว่าวันนี้หากยืนเหนือแนวรับ996-1000จุดได้ ก็มีโอกาสเด้งขึ้นไปด่านแรก1010-1016 หากผ่านก็จะไปด่านถัดไปเขต1022-1025จุด หากลงมาวันนี้ยืนเขตแนวรับ1000+/-(996-1000จุด) ก็เป็นไปตามกรณีที่1

*กรณีที่2-หากมองว่า มีนัยยะสำคัญตรงเส้นกดหัว(Downtrend line) แล้วจะกดดันให้ตลาดแกว่งตัวลง(sideway down) ก็จับตาดูในสัปดาห์นี้ หากขึ้นไปทดสอบด่าน1020+/-แล้วพบแรงขายลงมาหนัก ก็อาจลงไปหลุดเขต996 ลงไป ก็อาจลงไปต่อด่าน977-982หรือถัดไปlowเก่า975 หรือลงนิวโลว์925จุด (ซึ่งกรณีที่2นี้เป็นภาพเชิงลบ ต่างจากกรณีที่1)

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆด้านindicatorsถือว่าเป็นปัจจัยหนุนมากกว่าปัจจัยลบ ดังนี้

3.1ในทางโครงสร้าง SETทำจุดสูงใหม่(new high)ขึ้นมา โดยล่าสุดขึ้นมาเขต1025จุด เทียบกับไฮเดิม995จุด และทำฐานสูงขึ้น เดิมทำไว้937จุดเมื่อ11กุมภาพันธ์ รอบล่าสุดมีฐานจุดlowบริเวณ977จุด หากลงมารอบนี้ทำฐานสูงขึ้น เช่นมีlowแค่แถว996 คือlowวานก่อนนี้ หรือหากลงวันนี้ไม่ทำจุดต่ำกว่า996-998ก็แสดงว่าทำฐานสูงขึ้น

หรือแม้แต่วันนี้ทำlowลึกกว่า996แล้วลงไปlowแถว980แต่ไม่ย้อนลงไปลึกกว่าlowเก่า977ก็ยังมองว่า ทำฐานยกสูงขึ้น

ถือเป็นพื้นฐานทางเทคนิค(basic technical)ว่า นี่เป็นโครงสร้างของขาขึ้น(uptrend) ดังนั้นก็ควรทำนายว่ามีโอกาสขึ้นไปทำนิวไฮต่อเนื่อง มากกว่าจะเป็นขาลง

โดยเป้าหมายนิวไฮต่อไปคือทดสอบด่าน1025+/- และคาดการณ์ว่าจะผ่านขึ้นไปพีคเดิมในเป้าหมายถัดไป 1056 จากนั่นก็ควรคาดการณ์ว่าจะไปทำนิวไฮจริงจัง ที่มีเป้าหมายต่อไปบริเวณ1100-1132จุด

1.2เครื่องมือทางเทคนิคที่เป็นindicatorsหลายตัวบ่งบอกทางบวก เช่น

-RSIทำbullish divergenceดังที่ได้ชี้ให้ดูในช่วงที่ผ่านมาว่าSETลงไปทำจุดต่ำใหม่ที่937แต่RSIไม่ลงนิวโลว์ แต่ยกสูงขึ้น เป็นเครื่องชี้วัดว่าSETจะลงจบ และเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น

-PARABOLICซึ่งเป็นสัญญาณราว1เดือนเกิดสัญญาณซื้อมาแล้ว22วันทำการ แสดงว่ายังมีroomให้ขึ้นอย่างน้อยก็อีก10-15วัน นับจากนี้

-MACDซึ่งเป็นสัญญาณรอบใหญ่ เพิ่งเกิดgolden crossหรือการตัดผ่านเส้นศูนย์ขึ้นมาเมื่อ9วันก่อนนี้ ปกติสัญญาณตัวนี้บ่งบอกว่าหากเกิดgolden crossก็จะขึ้นไปยาวอย่างน้อยเป็นเดือน บางทีก็3เดือน 6 เดือน กระทั่งเป็นปี

-MODIFIED STOCHASTICS เป็นเพียงเครื่องมือตัวเดียวที่เป็นลบ ซึ่งผมได้แจ้งท่านสมาชิกในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน เมื่อ วันที่ 9 มีนาคม ซึ่งวันนั้น SETขึ้นไปพีคเขต 1025จุด โดยวันนั้น%K ขึ้นไปราว95% เข้าเกณฑ์over heat และได้แนะนำให้ขายทำรอบสำหรับคนเล่นรอบสั้น ( เป็นการเตือนให้ขายก่อนเกิดเหตุที่ญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่11ถึง2วันด้วยซ้ำ-อันนี้คงตอบคำถามคาใจที่ว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อถือได้หรือไม่ได้?) เมื่อขึ้นไปใกล้เขตแนวต้าน1028+/-จุดก็เกิดการตกพักฐาน เพื่อลดความร้อนแรงตามคาด

ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ %Kอยู่ที่ 57% ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ เพราะยังต่ำกว่า%D อยู่ที่ 67 % อย่างไรก็ดีสัญญาณตัวนี้เป็นสัญญาณระยะสั้นมาก หากSETลงมาเขต 1000+/-(996-1000)แล้วไม่หลุดต่ำกว่านี้ หรือฟื้นขึ้นไปปิดซักเขต1020-1025 ได้ในช่วงนี้ เครื่องมือตัวนี้ก็อาจกลับมาเป็นบวก คือ%kตัดผ่าน%dขึ้นไปอีกครั้ง

สรุปแล้ว ยังมอง SET เป็นขาขึ้นครับ แต่ระยะสั้นที่ผ่านมาเป็นการปรับลดoverboughtลงมา (พูดอิงข่าวญี่ปุ่นหน่อยก็คือว่า เป็นการลงมารับผลกระทบระยะสั้นจากกรณณีญี่ปุ่น) หากยืนเหนือด่าน1000+/-ได้(996-1000) หรือทำฐานสูงกว่าlowก่อนคือ977จุดได้ ก็พร้อมฟื้นขึ้น ตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

กลยุทธ์

1.ผู้ลงทุนระยะยาว ถือไปจนถึงเดือนกันยายน มีโอกาสขึ้นไป1260หรือ1500จุด รอขายทำกำไรรอบใหญ่ น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด) หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้ โดยอาจเข้าซื้อกลุ่มที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น

2.ผู้เล่นรอบใหญ่ รอขายทำกำไรในราวต้นเดือนเมษายน หรือกลางเมษายนบริเวณ1132จุด น่าช้อนซื้อหากSETลงมาเขต1000+/-(996-1000จุด)หรือลงมาแล้วไม่มีนิวโลว์ต่ำกว่าที่ทำไว้รอบก่อนแถว977จุด(เช่นอาจเป็น980-996จุด) หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010-1020ได้ในช่วงนี้

3.ผู้เล่นเก็งกำไรรอบสั้น หากขายทำกำไรเมื่อขึ้นไปเขต1025+/-จุดตามแนะนำใน2สัปดาห์ก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อปรับฐานลงมาเขต1010+/-จุดตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ก็ให้ถือต่อ ยกเว้นเห็นหลุดต่ำกว่าเขต995จุดลงไป ค่อยขายเอาทุนคืน ไปรอช้อนซื้ออาจเป็นเขต977-980จุด แต่หากยืนได้ก็เป็นจุดซื้อเพิ่ม โดยอิงหุ้นที่ได้ผลบวกจากกรณีญี่ปุ่น หรือเข้าซื้อแบบfollowเมื่อผ่านด่าน1010ได้ในช่วงนี้



IV.SET50 เป้าหมายฟื้นไข้


กรอบแนวโน้มเคลื่อนไหววันนี้-สัปดาห์ก่อนขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแรก718 เนื่องจากmodified stochastics เมื่อ2วันก่อนนี้ขึ้นมา95%แล้ว เข้าเขตover heat เราจึงแนะนำคนเล่นเก็งกำไรขายออกแล้วรอช้อนซื้อคืน

วันนี้มีแนวรับใหญ่700 +/-( 699-703 จุด) หากวันนี้ยืนได้อีกวันก็น่าจะหยุดลง และฟื้นตัวขึ้นไป แนวต้านแรก706 จุด ถัดไป 713-718 แนวต้านdowntrend หรือแนวต้านหลักรอบนี้ เป้าหมายฟื้นตัว730-735จุด

อย่างไรก็ตามหากหลุดเขต700 จะลงไปเขต 688-692 หรือถัดไปเขต 677-672 จุด

กลยุทธ์

1.คนเล่นรอบสั้น หากขายในช่วงเกิดover heatคือ%Kขึ้นไปราว 95% และขึ้นไปเขต 718 จุด เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนตามคำแนะนำ เมื่ออ่อนลง 688-694 หากยืนได้ก็เข้าช้อนซื้อ แล้วถือทดสอบแนวต้านต่างๆโดยลุ้นให้ผานด่าน718หรือไม่ในสัปดาห์นี้ หากผ่านถือไปทดสอบด่าน730-735ต่อไป แต่หากไม่ผ่านด่าน718 ก็น่าขายทำกำไร แล้วรอรับกลับเขต700-705

2.คนเล่นรอบใหญ่ หากยอมรับความผันผวนได้กือไปรอขายราวๆ 4เมษายน หรือช้าหน่อยหลังสงกรานต์ อาจเป็นเขต735หรือ750-760จุด หรือช้อนซื้อเขต700 หรือ690(แต่หากหลุด688ลงไปต้องไปรอด่านฐานใหญ่670-677จุด)

*****************


อบรมเข้มเรียนกราฟขั้นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน รุ่นที่ 12 วันอาทิตย์27มีนาคม

เหมาะกับนักลงทุนและนักเก็งกำไรที่ต้องการหาจังหวะ/เวลาเข้าซื้อขายถูกต้องแม่นยำ ทำกำไรได้มากกว่าใครๆที่ไม่ได้เรียนหลักสูตรนี้ ลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ลาทีติดหุ้น-ขายหมู ไม่รู้จังหวะเข้าออกให้รวยคำใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.2554 เวลา 09.30 ถึง 17.30 น.

ที่ห้องประชุมทางปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัดโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น และอาจารย์ช.โชติวงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทIRS เจ้าของโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นAPEX-IRS

08.30-09.00 น. ลงทะเบียน09.00-10.00 น. ทบทวนการวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้น (แนวโน้ม และเครื่องมืออย่างง่าย)

10.00-10.30 น. ทฤษฎี Elliot wave คลื่นมหัศจรรย์ กำหนดจังหวะการลงทุนอย่าง แม่นยำ ทำให้ท่านรู้ว่าตอนนี้ตลาดอยู่ช่วงไหนของขาขึ้น หรือขาลง อยู่ตีนดอย กลางดอย ปลายดอย หรือยอดดอย หาจังหวะทำกำไรได้ทั้งรอบใหญ่และทำกำไรระยะสั้น

10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง

10.45-12.00 น. ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการนับคลื่นและทดลองลงทุนด้วย Elliot wave + Fibonacci + indicators + trend รวมเทคนิคขั้นเทพ ด้วยการใช้หลักทฤษฎีคลื่นฟันธงแนวโน้มให้แม่นยำ แล้ววัดเป้าหมายการขึ้นลง และระยะเวลาในการลงทุนได้ในระดับเซียน ลดความเสียหาย เพิ่มพูนกำไรให้อีกหลายช่วง หากเทียบกับคนที่ไม่รู้ศาสตร์นี้

12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารเที่ยง
13.00-14.30 น. วิเคราะห์รูปแบบราคาประเภทต่างๆที่มีผลต่อการต่อเนื่องของแนวโน้ม,การเปลี่ยนแนวโน้ม,จุดเปลี่ยนสำคัญ

-ทำอย่างไรแค่คุณมองปร๊าดเดียวก็รู้แล้วว่าทิศทางราคาหุ้น TFEX ทองคำ น้ำมันกำลังจะขึ้นรอบใหญ่ หรือตกหนักสาหัส หรือมันยังจะขึ้นลงต่อไปหรือไม่ ลบความผิดพลาดเรื่องการลงทุนแต่ดูทางไม่ขาด อ่านเกมไม่ทะลุ รู่เรื่องนี้ทวีความรวย

14.30-14.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง

14.45-16.30 น. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของราคาสินค้าประเภทต่างๆ คือ ทองคำ,น้ำมัน, หุ้น, Futures และ ค่าเงิน (เช่น หากหุ้นลง ทองขึ้น, เงินแข็งทองตก,เงินเข้าหุ้นขึ้น,ดอลลาร์ร่วงหุ้นขึ้น ดอลลาร์แข็งหุ้นทรุดฯลฯ)

16.30-17.00 น. ผสมผสานความรู้ที่เรียนมาเชิงปฏิบัติการ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ลงทุน ที่แม่นตรง ตลอดการเรียนเน้นลงมือฝึกปฏิบัติ สอนด้วยภาษาง่ายๆไม่ต้องปีนบันไดฟังให้ยุ่งยาก

*พิเศษ เพิ่มเติมการคำนวณหามูลค่าหุ้นที่เหมาะสมอย่างง่ายด้วยตัวท่านเอง และวิธีการคัดหาหุ้นทีเด็ด กำไร 2 เด้ง หลีกหนีหุ้นเน่าในหลักสูตรนี้*

*ค่าอบรมเพียงท่านละ3,500บาท (ถูกที่สุด แต่อาจจะดีที่สุดในประเทศไทย)

เรียนเชิงปฏิบัติการ ที่ห้องอบรมบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่นจำกัด รามคำแหง 160

*โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 32 ท่าน 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)


********

หนังสือออกใหม่คู่มือหุ้นไทยปีกระต่ายทอง2554 วางแผงแล้วตั้งแต่ 15มีนาคมนี้เป็นต้นไป ที่ร้านหนังสือSE-EDโดยณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ อ่านก่อนรวยกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น