วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เป้าตกหุ้นไทย1100+/- ความเสี่ยงไม่เท่าไหร่แล้ว หุ้นใหญ่ยังเป็นเป้าหมายลง จากนั้นจะฟื้นไข้ตามหุ้นโลก ส่วนหุ้นเด่นที่แนะนำไว้ลงถึงฐานหมดให้ถือ หรือรอจังหวะซื้อเพิ่ม


SETรอบนี้หาดวัดจากพีค1247วัดจากฐาน843จะมีเป้าหมายตกเขต1ใน3บริเวณ1,100+/-13จุด คือตั้งแต่1,113ไปถึง1,093จุด ขณะที่เครื่องมือบ่งชี้ว่าเข้าเขตsuper oversoldที่พร้อมจะเกิดการฟื้นตัวเมื่อลงถึงเป้าหมาย


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 http://www.tontancorp.com/






เมื่อวานนี้(22พฤษภาคม...บทความนี้เผยแพร่กับสมาชิกของเราเมื่อวันที่23พฤษภาคม เผยแพร่ในเว็บไซต์นี้ในวันที่24 พฤษภาคม)หุ้นไทยฟื้นตัวตามหุ้นโลก แต่ขึ้นไปไม่พ้นด่านสำคัญ1150ตามมาด้วยการร่วงลงมาปิด new low ที่เขต1131 จุด


I.ตรวจชีพจรหุ้นโลกที่สำคัญ ปรากฏว่าลงถึงเป้าหมายแล้วฟื้น แต่ขาแรกอาจจะไม่แข็งแกร่ง มีแดงสลับ จะเป็นผลให้หุ้นไทยลงต่อซะให้จบๆไปในช่วงนี้


-เมื่อวานนี้(22พค.)ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวบวกแรง และตลาดหุ้นอเมริกาตอนแรกก็ขึ้นแรงต่อเนื่องจากวันก่อน หลังหยุดการไหลลงยาว12วันทำการต่อเนื่องได้สำเร็จในวันก่อนหน้านี้






-โดยในช่วงแรกตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ


เพิ่มขึ้น 3.4% สู่ระดับ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับเป็นการส่งสัญญาณ ฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ส่วนราคาบ้านเฉลี่ยในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะ 177,400 ดอลลาร์ ซึ่งปรับขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2554 ขณะที่สต็อกบ้านเพิ่มขึ้นแตะ 2.54 ล้านยูนิต






อย่างไรก็ตามตลาดมีข่าวร้ายหลังจากนายลูคัส ปาปาเดมอส อดีตนายกรัฐมนตรีกรีซ


ออกมาเปิดเผยว่า กรีซกำลังพิจารณาเรื่องการออกจากกลุ่มยูโรโซน พร้อมกับเตือนว่าการอ่อนค่าลงของสกุลเงินยูโรอาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจกรีซและประเทศอื่นๆในยูโรโซน ขณะเดียวกันองค์การความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เตือนว่า 17 ประเทศในยูโรโซนเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง ส่งผลให้ท้ายสุดแล้วดาวโจนส์ลงปิดลบไปเล็กน้อย-1.67จุด ปิดที่12502จุด




-ส่วนหุ้นฮ่องกงช่วงเปิดทำการวันนี้ลงแดนลบเขต18735 -300จุด ซึ่งเป็นผลทางลบทางจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้




ชาร์ตที่1:เป็นการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์เที่ยวล่าสุดนี้ที่รับข่าวลบกรีซ-วิกฤตยูโรโซน ลงมาเขต1ใน3ของFibonacci retracementซึ่งก็คือเป็นเป้าหมายหลักในรอบนี้




ชาร์ตที่2:โดยปกติเมื่อลงมาเขต1ใน3แล้วมักสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการตกปรับฐานของตลาด เมื่อฟื้นก็จะกลับไปอย่างน้อยเขต1ใน3 ตามนี้คือราว12700+/- ถัดไปเขต2ใน3บริเวณ13000+/- หรือกลับไปเขต13350+/-(อย่างไรก็ตามมีเป้าหมายแรกเขต12700+/-ชี้ขาด หากไม่ผ่านก็แสดงว่าแค่รีบาวนด์แล้วตก แต่หากทำท่าผ่านได้ก็จะขึ้นจริงหละครับ)


แม้ช่วงนี้อาจยังเห็นลง แต่หากยืนเหนือเขต1ใน3บริเวณ12375-12230จุด ก็จะได้เห็นการฟื้นตัวของดาวโจนส์ต่อไป




ชาร์ตที่3:ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง-ตกแรงกว่าดาวโจนส์ และตกแรงกว่ายุโรปที่เป็นตัวต้นเหตุ(ตอนปีกลายเกิดวิกฤตในยูโรโซนก็ลงแบบนี้คือลงแบบOver reactกว่าที่อื่น) โดยรอบปีกลายตกลงมาเขต2ใน3 ส่วนเที่ยวล่าสุดนี้ลงมาเกินเขต50%retracement เกือบๆจะถึงเขต2ใน3




คาดว่าจะเกิดการฟื้นตัวของฮ่องกง ด่านแรกๆ19140จุด เป้าหมายแรกเขต1ใน3บริเวณ19800+/- แนวต้านใหญ่กรอบบน21500+/-




แต่วันนี้เปิดมาตกหลุดเขต18965 ก็คาดว่าจะไม่แย่กว่าเขต2ใน3คือบริเวณ18000-18300




วันนี้(23พค.)หุ้นฮ่องกงช่วงเปิดทำการลงแดนลบเขต18735 (-300จุด) ซึ่งเป็นผลทางลบทางจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ แต่ก็จะมีความเสี่ยงของขาลงจำกัด คือเต็มที่ก็จะลงมาราว700จุด หรืออาจจะเพียงราว400จุดแล้วก็จะเกิดการฟื้นตัวในรอบนี้
II.หุ้นไทยลงน้อยกว่าหุ้นโลก ปัญหาคือเราเพิ่งหลุดด่าน1150ลงมาจะฟื้นตามหุ้นโลก หรือจะลงสวนทาง? คำตอบน่าจะชัดขึ้นว่าน่าลงมาจบๆเขต1ใน3แล้วค่อยฟื้นตัวได้ ก็คือลงอีกราว20-40จุดแล้วฟื้นรอบใหญ่



ชาร์ตที่1:ดัชนีSETของตลาดหุ้นไทย-จะพบว่าที่ผ่านมาแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นโลก คือหากเทียบกับดาวโจนส์ที่ลงมาเขต1ใน3 หรือฮ่องกงที่ลงเกินเขต50%retracement แต่หุ้นไทยเที่ยวล่าสุดนี้ลงมายังไม่ถึงเขต1ใน3(เขต1ใน3=1113หรือ1093 หรือพูดง่ายๆว่าเขต1100จุด)




โดยที่ผ่านมาหุ้นไทยมายืนเหนือเขตlowเก่าเขต1150ได้ เพิ่งจะหลุดลงเมื่อวานก่อนนี้ เมื่อวานแม้มีรีบาวนด์แต่ไปไม่เกิน1150แล้วลงมาปิดที่จะดต่ำใหม่ new lowของรอบนี้แถว1131จุด


ปัญหาที่ต้องพิจารณามีอยู่คือ




1.หุ้นไทยอาจสวนทางหุ้นโลก โดยลงไปเป้าหมาย1100+/-ต่อไป เพราะหลุดด่าน1150ลงมาทำให้เสียสถานะของตลาดขาขึ้นไปแล้ว


2.ฟื้นตัวตามหุ้นโลกสลับเป็นจังหวะ เพราะลงมาในเขตsuper over sold จึงอาจมีreboundสลับได้(แต่จากนั้นก็จะลงไปให้จบๆเขต1100+/- หรืออีกราวๆ30จุด)




III.Set50 ดูเขตรอยต่อ800+/-เป็นเกณฑ์ว่าช่วงนี้จะขายหุ้นใหญ่ต่อไป หรือกลับมาอยู่ข้างช้อนซื้อเพื่อเล่นรีบาวนด์? เป้าตกรอบนี้760-775จุด




ชาร์ตที่1:เมื่อวานนี้Set50 มีรีบาวนด์แต่ไปได้เพียงเขต795ไม่เกิน797-800 ซึ่งเราได้แนะนำให้เปิดสถานะShort หรือถือครองshort ต่อไปหากเห็นหน้าตาอาการแบบนี้ เพราะจะลงต่อไป






เป้าหมายลงอยู่บริเวณ775-760จุด (เทียบกับSETคือแถว1113-1093จุด)






อย่างไรก็ตามเข้าเขตsuper oversoldเมื่อราคาร่วงทะลุbolinger band bottomลงมา ดังนั้นการลงมาเขตตั้งแต่775-770ก็อาจเกิดการรีบาวน์ฟื้นไปเขต800+/-ได้ตลอด หรือลงให้สุดๆบริเวณ760-765ก็จะรีบาวนด์ หรือกลับตัวขึ้น




กลยุทธ์สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ในSet50




1.ผลตอบแทนขาลงอาจมีตั้งแต่7จุด(หากลงไปแค่775) หรือ10จุด(หากลงไป770) ดีที่สุดคือ15-20จุด(หากลงไปเขต760-765) ดังนั้นควรรอปิดสถานะShortทำกำไรที่เขตเป้าหมายต่างๆ แล้วรอดูท่าที




2.รอดูว่าอาจทำจุดต่ำสุดที่เขตใดเขตหนึ่งตั้งแต่775-760(โดยให้อิงSETที่เขต1100+/- หรือดูดาวโจนส์และฮ่องกงประกอบตามที่กล่าวไปแล้ว) เพื่อหาโอกาสกลับมาเล่นทางLongเพื่อเล่นรีบาวนด์ หรือกระทั่งการกลับเป็นทางขึ้ยนรอบใหญ่(แต่อย่าเพิ่งทำเลย ให้รอสัญญาณจะแจ้งให้ทราบต่อไป)




IV. ไม่ต้องกังวลเททิ้งหุ้นแนะนำKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRIหรอกครับ เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวม หุ้นที่ท่านควรกังวลคือพวกหุ้น”ตลาด”หรือพวกที่เล่นไปทางเดียวกับตลาดมากกว่า




ผมคิดไว้ก่อนนี้แล้วครับว่าน่าจะเจอเหตุการณ์ตลาดแบบนี้ จึงได้คัดเลือกหุ้นชุดนี้ให้สมาชิกลงทุน(เพื่อหลบตลาดพีคและเปป็นทางลงแรงๆ) ดังนั้นขอย้ำ ไม่ต้องกังวลเททิ้งหุ้นแนะนำKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRIหรอกครับ เพราะมันไม่ได้อยู่ทางเดียวกับตลาดรวม หุ้นที่ท่านควรกังวลคือพวกหุ้นตลาดหรือพวกที่เล่นไปทางเดียวกับตลาดมากกว่า



ที่ผมเจอคำถามตอนนี้คือ ต้องCut lossหรือยัง เพราะSETหลุดฐาน1150ลงไป




ผมว่าหุ้นที่ผมแนะนำเป็นหุ้นเด่นไตรมาส 2 อย่างหุ้นKCE ROJNA THRE BTS BLA SIRI ก็จะไม่เป็นไปในทางเดียวกับตลาดหรอกครับ เพราะเหตุผลดังนี้




1.หุ้นพวกนี้ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ในSET 50 จึงไม่เป็นไปในทางเดียวกับดัชนีSET(จะพบว่ารอบล่าสุดผมแทบไม่แนะนำหุ้นขนาดใหญ่ในSET50เลย เพราะผมเห็นว่าอาจเข้าคลื่นสุดท้ายของตลาดรวมแล้วจะตก พวกตัวใหญ่จะเจอขายหนัก หรือมีโอกาสทำเงินน้อย ผมจึงแนะนำหุ้นขนาดเล็ก หรือขนาดกลางที่เพิ่งฟื้นจากราคาฐานล่าง เพราะเพิ่งโงหัวฟื้นไข้จากเจอน้ำท่วมหนักมา หากตลาดเปลี่ยนทางลง มันก็จะไม่โดนกระทบมาก หรือแทบไม่มีผลกระทบจากSETลง)




2.Themeหลักที่ผมแนะนำหุ้นพวกนึ้คือมันเป็นหุ้นที่เพิ่งฟื้นไข้จากเรื่องน้ำท่วมใหญ่ปีกลาย ราคามันเพิ่งผ่านพ้นจุดต่ำสุด และเริ่มขยับขึ้นเท่านั้น (เพราะเพิ่งโงหัวฟื้นไข้จากเจอน้ำท่วมหนักมา หากตลาดเปลี่ยนทางลง มันก็จะไม่โดนกระทบมาก หรือแทบไม่มีผลกระทบจากSETลง)






3.หากเทียบกับหุ้นชั้นนำในตลาด หรือพวกSET50นั้นราคาเขาไปอยู่คลื่นสุดท้ายของขาขึ้น(คลื่น5)แต่หุ้นชุดนี้ที่ผมแนะนำเพิ่งขึ้นคลื่นแรก หรือคลื่น31เท่านั้น หากตลาดรวมหรือSETจะตกเป็นขาลง มันก็จะไม่ลงแบบไหลยาวกับเขา(เพราะตอนขึ้นมันก็ไม่ได้ขึ้นไปมากเหมือนเขา เพราะเพิ่งฟื้นไข้น้ำท่วม)




4.ดังนั้นหากตลาดรวมSETจะตก หากจะหลุดด่าน1150ลงเป็นขาลง มันก็คงลงกับเขาบ้าง แต่ไม่ใช่ลงยาวอย่างนั้น ผมก็เลยเห็นว่าท่านไม่จำเป็นต้องกังวลแล้วไปเทขายแบบทิ้งขว้างนะครับ โดยไปดูฐานรับแต่ละตัวดัวดังนี้




*BLAฐานรับใหญ่43.50-42.50 น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะโผล่ขึ้นคลื่น1ปรับลงคลื่น2






*BTSฐานรับใหญ่0.74-0.76เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะฟอร์มตัวในคลื่น4






*KCEฐานรับใหญ่5.00-5.35เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายครับ เพิ่งจะโผล่ขึ้นคลื่น1






*ROJNAฐานรับใหญ่7.50-8บาท เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขายทิ้ง เพิ่งโผล่ขึ้นคลื่น 3เองครับ มันไม่ไหลตามตลาดหรอก






*THREฐานรับใหญ่3.50-3.40เขตนี้น่าซื้อมากกว่า หากอยากขายรอรอบหน้า4.50ครับ เพิ่งปรับลงคลื่น2






*SIRIฐานรับใหญ่2.00+/-บาท เขตนี้น่าซื้อมากกว่าขาย หากหลุด1.90ค่อยน่าห่วง






*TISCO ตัวนี้ถึงฐานใหญ่34น่าฟื้นกลับไป38หรือระยะกลาง42ได้ หากยืนเหนือ34ได้อย่าขายทิ้งเลยครับ






แต่หากท่านมีหุ้นตัวใหญ่ หรือหุ้นในSET50 หุ้นพวกนี้จะไปทางเดียวกับตลาด อยู่คลื่นเดียวกับตลาด





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น