วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความจริงเรื่องข่าวหนังสือพิมพ์ลงว่า ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ตกงานนาน1ปีฐานให้ข้อมูลมั่ว จริงๆมันเป็นอย่างนี้ครับผมขอเล่าหน่อย


ข่าวเมื่อปี 2549 ที่ผมไม่เคยชี้แจงมาก่อนเลย คือข่าวว่า"ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ตกงานนาน1ปีฐานให้ข้อมูลมั่ว" ตามที่ปรากฎนี้


     ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์’ ตกงานนาน1ปี ฐานให้ข้อมูลมั่ว กรุงเทพฯ-11 ก.พ.--โพสต์ทูเดย์

             โพสต์ทูเดย์ — ก.ล.ต. เชือด “ณัฏฐ์  รุ่งวงษ์” แล้ว สั่งภาคทัณฑ์การปฏิบัติงาน เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน 1 ปี ข้อหาให้ คำแนะนำมั่ว
             รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้ภาคทัณฑ์การปฏิบัติงานเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของนายณัฏฐ์ รุ่งวงษ์ เป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549 เนื่องจากกระทำผิด มาตรฐานการปฏิบัติงานการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์
             ทั้งนี้ นายณัฏฐ์ ได้ให้คำแนะนำผ่านทางเว็บไซต์แห่งหนึ่งในลักษณะใช้ข่าวลือหรือ ข้อมูลที่เป็นข่าวที่ปราศจากหลักฐานการ ยืนยันมาประกอบการให้คำแนะนำ เช่น ข่าวที่ระบุว่ามีผู้ลงทุนรายใหญ่เข้ามาซื้อหุ้นตัวนี้ มีกองทุนต่างชาติไล่ซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก หรือข่าวที่อ้างแหล่งที่มาจากผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลสูง เป็นต้น
             การกระทำดังกล่าวของนายณัฏฐ์ ถือว่าให้คำแนะนำโดยไม่มีเอกสารสนับสนุนที่ใช้อ้างอิงได้ และเผยแพร่หรือบอกต่อข่าวลือ หรือให้ข้อมูลที่อาจมีผลกระทบต่อราคาหุ้นที่ยังไม่ได้รับการยืนยันความถูกต้องจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ และกระทำผิดมาตรฐานการปฏิบัติงานที่กำหนดตามประกาศ ก.ล.ต.
             สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบการทำงานของนายณัฏฐ์ หรือเดิมชื่อนายณัฐวุฒิ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่นมานานแล้ว เพราะเป็นแหล่งกระพือข่าวลือ และชี้นำราคาหุ้นมาหลายครั้งเนื่องจากมีช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลหลากหลาย ทั้งการส่งข้อมูลผ่านเพจเจอร์ให้แก่สมาชิกระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แถมยังให้ข้อมูลผ่านเว็บไซต์และจัดสัมมนาบ่อยครั้ง รวมถึงการออกทีวีหลายช่องด้วย--จบ-


    SETCALL จะมีอยู่อีกป่าวครับ


เวลาผ่านมาพอสมควร ผมควรจะได้อธิบายให้ได้รับทราบกันดังนี้

1.ผมไม่ได้ตกงานนาน 1 ปีตามที่หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ลงข่าวแต่อย่างใด เพราะกลต.ทำโทษผมเพียงแต่การ"ภาคทัณฑ์"(แปลเป็นไทยว่าภายในกำหนดเวลา1ปีนับแต่ถูกภาคทัณฑ์ ห้ามกระทำผิืดแบบนี้อีก) ในความเป็นจริงตอนนั้นผมก็ยังทำหน้าที่เป็นประธานบริษัทหลักทรัพย์ฯต้นธารฯเป็นปกติ ไปออกรายการโทรทัศน์ปกติ(เวลานั้นนอกจากทางช่องTNN24ก็มีช่อง11และช่องTTV1ด้วย และเป็นผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นทางข่าวภาคเที่ยงวิทยุแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ด้วย) และให้บริการแนะนำการลงทุนแก่ลูกค้าเป็นปกติ

การทำหน้าที่เป็นปกติของผมนี้ลูกค้าก็ทราบ นักข่าวหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ก็รับทราบดี แต่ก็ไม่เคยมีการแก้ไขข่าวใดๆให้ผมเลย ผมเองก็ไม่อยากชี้แจงไปทางหนังสือพิมพ์ว่า"คุณลงข่าวผิด" เหตุเพราะผมเป็นคนหนังสือพิมพ์มาก่อน อยู่ในวิชาชีพนี้มาเป็น 10 ปี

ผมมีข้อสรุปกับตัวเองว่า หากคุณไม่อยากมีัเรื่องมีราวอะไรให้มันยาว อย่าพยายามไปชี้แจงข่าวกับหนังสือพิมพ์ เพราะมันไม่จบ เดี๋ยวก็ได้ลากไปเรื่องใหม่ หากโดนหนังสือพิมพ์หมั่นไส้...

จะให้ผมไปฟ้องร้องเอาความว่าทำความเสียหายให้กับผม ผมก็ถือคติืว่า"กินขี้หมา ดีกว่าค้าความ"ก็เลยปล่อยๆไป

2.ผมไม่ได้ให้ข้อมูลมั่วตามที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวแต่อย่างใด เอาเป็นว่าข้อมูลที่ผมนำเสนอนั้นก็ตรวจสอบได้ (ก็มาจากเว็บของทางราชการนั้่นแหละ ) หรือที่ผมบอกว่าหุ้นตัวไหนจะจ่ายปันผลสูงก็เพราะผมไปทำCompany visitมา ทีนี้กลต.ท่านจะเอา่หลักฐาน ผมจะไปบอกผู้บริหารบริษัทแสดงหลักฐานก็ยุ่งยากเขาอีก เอาเป็นว่าผมก็รับแต่โดยดีว่า ครับผมผิดไปแล้ว

กลต.ท่านก็ว่าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก หากทำก็อาจโทษหนักเช่นพักใบอนุญาต ยึดใบอนุญาตประกอบธุรกิจ หรืออะไรอื่นๆอีกมาก ตอนนี้เนื่องจากว่าเป็นการทำผิดหนแรก ไม่เคยทำผิดมาก่อน ก็จะทำเรื่องภาคทัณฑ์ก็แล้วกันซัก 1 ปี หากทำผิดอีกภายในกำหนดเวลา 1 ปี จะโดนโทษหนักขึ้นไปกว่านี้

นับแต่นั้นมาผมก็ลาขาดกับการนำเสนอข่าวทำนองนี้ หรือทราบมาแล้วบอกต่อ เพราะผมทำงานอยู่ภายใต้การกำกับของกลต.ท่าน ผมก็ทำงานแบบที่พวกท่านเห็นกันในวันนี้แหละครับ หากมีใครเอาข่าวต่างๆมาถาม ผมก็จะบอกว่า"ผมไม่ทราบ หากตรวจสอบไม่ได้ ระวังผมจะซวยไปด้วยหน่อย เห็นใจผมด้วย"

เ้รื่องข่าวว่าผมตกงาน 1 ปีฐานให้ข้อมูลมั่วก็เป็นจริงทุกประการตามนี้แหละครับท่านสารวัตร เอาผมไปฆ่าให้ตาย ผมก็จะบอกว่า เรื่องจริงเป็นดังผมว่ามานี้ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น