วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ - ส่องตลาดหุ้นเดือนสิงหาคม 2565 ลุ้นวนลูปรอบขาขึ้นไปถึงวันที่9เดือน9

By ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
เลขที่ใบอนุญาต12888

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น
(ก่อตั้งพศ.2540อยู่ใต้การกำกับกลต.)

1 สิงหาคม 2565

ถ้าตลาดรอบนี้จะขึ้นไปถึงกลางเดือนกันยายน รอบวันที่9เดือน9 เป้าแรก1620เป้าใหญ่แถว1700 เราควรกำหนดกลยุทธ์อย่างไร? ทั้งหุ้นที่ติดไว้ และการลงทุนรอบนี้

คลิปและบทความเรื่องนี้น่าสนใจ ไม่ใช่เพราะว่ามันมีอะไรใหม่ แต่เพราะว่ามันยืนยันเรื่องเก่า

1.เรื่องเก่าก็คือว่า รอบที่ผ่านมานั้น กองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้พากันอิงข่าวร้ายพิบัติภัยทางเศรษฐกิจ (ตั้งแต่เรียกกันพื้นๆว่า Recession เศรษฐกิจถดถอย ไปยังแรงๆที่เรียกว่า เศรษฐกิจโลกจะพินาศ หายนะ รถไฟเบรกแตกกำลังวิ่งชนชานชาลา Perfect storm หรือแล้วแต่จะสรรหาคำมาโปรยหัวให้น่าตกใจ...!) ดังนั้นเฮดจ์ฟันด์จึงมีการโยกย้ายเงินทุนสำคัญๆ เพื่อฟันกำไร คือ





1.1 เทขายสินทรัพย์เสี่ยง หรือทำช็อร์ตเซลสินทรัพย์เสี่ยง อย่างหุ้นโลก ที่นำโดย หุ้นเทคโนโลยีNASDAQ ดาวโจนส์ ดัชนีS&P500 ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยก็ตกตามมาด้วย









การเทขายดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นตกหนักมาdiscountข่าวร้ายจนถึงเป้าหมายสำคัญๆกล่าวคือ ดาวโจนส์ลงมาเขตราวๆ29,700จุด หุ้นเทคNASDAQตกมาเขต10,000 S&P500ราวๆ3800จุด หุ้นขนาดใหญ่ในSET50ของตลาดหุ้นไทยราวๆ930-935จุด



1.2พวกสินทรัพย์คู่เทียบกับดอลลาร์อย่างทองคำที่ร่วงลงมาจนถึงเป้าหมายสำคัญเขต1,680$ หรือคริปโตเคอเรนซี่ อย่างBTC ETHที่ร่วงลงมาหนัก บางสกุลอย่างลูน่าก็เล่นกันถึงเจ๊งไปเลย รวมไปถึงสกุลเงินคู่เทียบอย่าง ค่าเงินเยน ยูโร ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก แต่ก็อ่อนลงมาถึงเป้าหมายสำคัญแล้ว คือยูโรก็ราวๆ1:1 และค่าบาทก็ลงมาเขตTriple bottomราวๆ36.70บาท/ดอลลาร์

2.หากเราเชื่อในเรื่องที่ว่า ราคาของตลาดหุ้นตลาดทุนตลาดเงินในวันนี้เป็นตัวสะท้อนของการกะเก็งคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจจริงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วง6เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้า และนักค้า(trader)เป็นผู้เล่นรายสำคัญ มีพวกเฮดจ์ฟันด์มีอิทธิพลในการชี้นำ ก็แสดงว่า

2.1 ระยะที่ผ่านมานี้ ราคาในตลาดได้สะท้อนข่าวร้ายข่าวหายนะข่าวเศรษฐกิจโลกพินาศไปมากพอสมควรแล้ว คือค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งขึ้นไปถึงจุดพีคแล้ว บอนด์ยีลด์ก็เช่นกัน ในขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงคือตลาดหุ้นก็ลงไปจนผ่านจุดต่ำสุด(Bottom out)ไปแล้ว รวมทั้งสินทรัพย์คู่เทียบอย่าง ทองคำก็ลงไปBottom outแล้วเช่นกัน

2.2ในเวลาล่าสุดนี้ เราเลยได้เห็นสิ่งที่ผมเคยคาดการณ์เอาไว้คือ

*พวกค่าเงินดอลลาร์เลยพีคและกำลังมีแนวโน้มอ่อนลง รวมทั้งบอนด์ยีลด์ก็พีคและกำลังมีแนวโน้มขาลง

*มีการโยกเงินจากดอลลาร์และบอนด์มาช้อนซื้อสินทรัพย์คู่เทียบ ที่เราจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องคือ ทองคำ คริปโต สกุลเงินคู่เทียบจะแข็งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเยน หยวน ยูโร ไทยบาท

*สำหรับตลาดหุ้นนั้นก็ฟื้นจากจุดBottomไปเป้าหมายสำคัญคือ ดาวโจนส์จะฟื้นไปด่านสำคัญราวๆ33,000+/- NASDAQราวๆ12800-13000จุด S&P500ราวๆ4400จุด(จากนั้นค่อยตามไปอัพเดตกันครับว่าจะผ่านด่านที่ส่านี้ได้ไหม หากได้ก็จะเป็นreversalกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ หากไม่ก็แสดงว่าเป็นแค่reoundแล้วลงรอบใหม่)

3.สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้น ผมได้อธิบายเรื่องแนวโน่มใหญ่(Major trend) กับแนวโน้มรอง(Minor trend) และแนวโน้มย่อยๆ ซึ่งขะอธิบายซ้ำแบบย่อในที่นี้คือ


3.1แนวโน้มรอง Minor trendของตลาดหุ้นไทยในรอบตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงเวลานี้สิ้นเดือนกรกฎาคม เป็นขาลง(Downtrend) หรือแกว่งตัวลงSideway down) เป็นการตกพักฐานในคลื่นที่ 4


แสดงว่าแนวโน้มใหญ่(Major trend)ของตลาดหุ้นไทยในระยะกลางยาวนั้น เป็นเพียงการตกพักฐานคลื่น4ของขาขึ้น เมื่อจบการตกพักฐานแล้วก็จะกลับไปสู่แนวโน้มขาขึ้นไปคลื่น5ต่อไป ทั้งนี้สะท้อนจาก

ดัชนีหุ้นSET50 ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของหุ้นขนาดใหญ่ในSET50 ที่เป็นที่นิยมของกองทุนไทยและกองทุนฝรั่งนั้น ที่ตกมาเที่ยวนี้ก็ยังไม่ได้เสียหายหรือเสียทรงขาขึ้นของMajor trendนะครับ มันตกมาถึงกรอบล่างราวๆเขต930-935จุด ไม่หลุดจากเขตนี้แล้วก็ฟื้นตัวกลับ ก็คงติดตามดูว่ารอบนี้จะไปได้เกินเขต1000จุดหรือไม่ หากได้ก็จะไปต่อกรอบบนราวๆ1050จุด+/-

ส่วนดัชนีSET รวมนั้น เป็นขาลง หรือSideway downในMinor trendมาตั้งแต่ต้นปี รวมถึงเวลานี้ก็7เดือน ก็แน่นอนว่าคนในตลาดย่อมsufferกับการติดหุ้น  พอร์ตแดง จิตวิทยาตลาดย่ำแย่ และกลายเป็นpessimism(หรือเป็นนักลงทุนที่มองโลกในแง่ร้าย อ่อนไหวต่อปัจจัยลบได้ไว สนองต่อข่าวร้ายได้เร็ว และไม่มีความหวังในทางบวก) ตอนนี้ดัชนีSETกำลังฟื้นตัวขึ้น มีแนวต้านเป้าหมายสำคัญด่านแรกราวๆ1595-1600จุด และแนวต้านDowntrendสำคัญราวๆ1620จุด+/-

ซึ่งหากดัชนีSETรอบนี้ขึ้นไปเกิน1595 หรือ1620จุดได้ ก็อาจได้เห็นการขึ้นไปรอบใหญ่ที่อาจจะมีเป้าหมายขึ้นไปราวๆ1650-1700จุดได้ต่อไป โดยอาจขึ้นไปถึงราวๆกลางเดือนกันยายนนี้ ส่วนจะไปได้เกินนั้นไหม ค่อยไปอัพเดตกันอีกทีข้างหน้าครับ

ซึ่งผมหวังว่าตลาดจะไม่ไปผันผวนขึ้นลงตามDELTAตัวเดียว ที่จะกลายเป็นเครื่องมือปั่นลาก หรือทุบตลาด เพื่อหวังปั่นหรือทุบตลาดตามการทำShort sell covering ของพวกกองทุนเก็งกำไรเหล่านี้

หมายเหตุ: (คลิปนี้ผมอธิบายเรื่องความแตกต่างของMajor & Minor trendเพิ่มเติมครับ https://www.youtube.com/watch?v=Q8ZqXsyqQEA)

4.แนวโน้มตลาดช่วงนี้ไปถึงกลางเดือน9 และกลยุทธ์ที่ควรทำ

*หุ้นไทยน่าจะฟื้นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก

*หุ้นใหญ่ในSET50 เกิดสัญญาณการกลับตัวรอบใหม่แล้ว จะมีเป้าหมายขึ้นไปด่านถัดไปเขต965-970 กรอบเป้าหมายหลักบริเวณ1000จุด+/-


*หุ้นไทยดัชนีSETรวม เกิดสัญญาณการกลับตัวแล้ว จะขึ้นไปตามลำดับคือ ด่านแรก1585-1595 ด่านสำคัญถัดไปแนวต้านdowntrendเขต1620+/- หากผ่านได้ก็จะวกกลับไปเขต1650/1700จุดได้ต่อไป

*คาดว่าตลาดจะวกกลับขึ้นไป กินเวลาราว1เดือน อาจจะขึ้นไปพีครอบนี้ในราวกลางเดือนกันยายนนะครับ ดังนั้นควรจะหวังการวกขึ้นไปราวๆเกือบ1700จุดได้(แต่ต้องผ่านด่านสำคัฐด่านแรกราวๆ1620จุดให้ได้ด้วย)

*ดังนั้นก็ควรใช้กลยุทธ์ดังนี้นะครับ

1.ถือหุ้นที่มี หรือติดไว้เดิมไปทดสอบเป้าหมายด่านต่างๆ ด่านแรกเขต1585-1595จุด ด่านสำคัญคือเขต1620จุด+/- และด่านถัดไปราวๆ1700จุด คาดว่าจะใช้ระยะเวลาราวถึงกลางเดือนกันยายน...หากจะขายหุ้นก็ไปรอขายตามเป้าหมายดังกล่าวนี้

2.หากติดหุ้นไว้สูงในรอบก่อนๆและอยากซื้อหุ้นแก้ไขพอร์ตก็แนะนำให้ทำในกรอบเป้าหมาย และกรอบเวลาดังกล่าวนี้ได้ครับ

3.หากจะซื้อหุ้นรอบนี้ ก็ดูหุ้นแนะนำนะครับ (จะอัพเดตตารางสำหรับมสมาชิกในวันนี้ครับ)

โชคดีมีกำไรปลอดภัยในการลงทุนทุกท่านครับ

...

ติดตามเราช่องทางอื่นๆได้ที่

Facebook : http://fb.com/tontancorp

Youtube : https://goo.gl/J9u1jm

สอบถามข้อมูล

Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น