ทำไงไม่เจ๊งพลิกวิกฤตรวยหุ้น-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54 วันอาทิตย์ 30 มกราคมนี้เต็มแล้วครับ เปิดรอบใหม่วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ "หุ้นตกทำไงไม่เจ๊งหุ้น พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวย"เนื้อหาเหมาะกับมือใหม่ที่หัดรวย มือเก่าที่ยังสะเปะสะปะไม่รู้หลักวิธี ส่วนการอบรมเรียนกราฟขั้นเทพ เหมาะกับท่านที่นิยมเก็งกำไรนะยะสั้น,เก็งกำไรTFEXและทองคำล่วงหน้า กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ มีวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติม 02-9275800...รูปที่มาลงไม่เกี่ยวกับหุ้นครับ เป็นรูปคนเขียนเตรียมออกรายการทางโทรทัศน์TRUE VISION เลยมีผู้ประกาศสาวขอแจม ลำบากครับเกิดมาหน้าตาดี(หมายถึงผู้ประกาศข่าวสาวนะ) แหะๆ
**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******
1.เหตุที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก และเป้าหมายการฟื้นตัว มีตั้งแต่980ไปจนถึง1020จุด น่ารอขายเอาทุน อาจได้ลุ้นเขต1020
เมื่อวานต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกวัน เป็นวันที่สาม ขณะที่กองทุนกลับมาซื้อมาก ซึ่งอาจช่วยยืนยันความคิดที่ว่า รอบที่ผ่านมารายที่ขายหนักคือกองทุนเทมาเส็กสิงคโปร์ เพื่อหาเงินราว510ล้านบาทไปจ่ายค่าปรับอินโดนีเซีย ส่วนฝรั่งหัวแดงยังมีมุมมองทางบวกต่อตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ดีเนื่องจากชาร์ตทางเทคนิคมีแนวโน้มไปในทางลบ จึงควรคาดว่าการฟื้นขึ้นไปรอบนี้อาจไม่มีนิวไฮเกินไฮก่อนคือ1035จุด อาจไปได้แค่ราวๆ1015-1020จุด จึงควรใช้กลยุทธ์”ถือไว้รอขายเอาทุน”สำหรับท่านที่ติดหุ้นไว้ หรือซื้อเล่นรีบาวนด์ไปไม่เกินเขต1020จุด อาจจะขึ้นไปถึงราวสัปดาห์หน้า
1.1ฝ่ายวิจัยโบรกต่างประเทศ CS ยังให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทยสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย - Maintain Overweight -โดยชี้ว่าที่ SET Index ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ 4% และ YTD -7% ใกล้เคียงกับ ฟิลิปินส์ที่ -7% YTD ขณะที่อินโด -10% YTD อย่างไรก็ตาม CS เชื่อว่าตลาดเข้าใจผิดและเหมารวมไทยเข้ากับประเทศในกลุ่ม TIP และอินเดีย ที่มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
ทั้งๆที่ไทยมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ที่ 3.7% (ขณะที่อินเดีย 7.5% อินโด 7% และ ฟิลิปืนส์ 5.3%) นอกจากนั้น ไทยในฐานะผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ ทั้ง ข้าว, ยาง, มันสำปะหลัง และ น้ำตาล ควรจะเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาอาหาร
ขณะที่ในมุมมองด้าน valuation ไทยก็ซื้อขาย PE ต่ำกว่าเพื่อน โดยซื้อขาย PE ที่ 11.7 เท่า (อินเดีย 15.3 เท่า, ฟิลลิปินส์ 14.5 เท่า และ อินเดีย 12.8 เท่า), งบการเงินที่ออกมาดี โดยมีถึง 4 ธนาคารที่ประกาศงบ 4Q ออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าการปรับตัวลงแรง เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เน้นที่กลุ่ม บ้านที่ดิน, ธนาคาร และ ท่องเที่ยว หุ้น Top pick คือ AP, LPN, SCB, KBANK, THAI และ TOP
ความเห็น:สรุปคือมีการขายแบบเหมารวมหุ้นไทยกับอินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ และอินเดียแหละครับ โดยไม่ต้องแยกแยะเรื่องพื้นฐาน เพราะถือว่าขึ้นมาพร้อมกัน ก็คงตกด้วยกัน อย่างไรก็ต่อไปในช่วงต่อไปคงมีการเริ่มแยกแยะ
เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันที่สอง อาจทำให้sentimentของตลาดดีขึ้นในวันนี้(26ม.ค.)น่าเปิดทางให้ตลาดฟื้นไข้ได้
1.2เทมาเส็กขายหาเงินจ่ายค่าปรับ-สัปดาห์ก่อนศาลอินโดนีเซียตัดสินให้ Temasek กองทุนสิงคโปร์มีความผิดฐานละเมิดกม.การผูกขาด Antitrust Law จากการถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัทมือถือในอินโดนีเซียซึ่งเท่ากับเป็นการผูกขาดคือ PT Telkomsel (ผู้ให้บริการมือถือใหญ่สุดในอินโดนีเซีย) กับ PT Indosat
ทั้งนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่าค่าปรับที่ temasek อาจต้องจ่ายมีจำนวน 150 พันล้านรูเปี๊ยะ หรือ US$17 ล้านเหรียญ (510 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลต่อการขายเงินลงทุนในพอร์ตของ Temasek ทั้งนี้ ล่าสุด Temasek เพิ่งรายงานการขายหุ้น Fortescue Metral Group Ltd 129 ล้านหุ้นผ่าน morgan Stanley และคาดว่าอาจมีการขายหุ้นที่ถือในไทยด้วยในช่วงที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะวานนี้
ความเห็น:หากเทมาเส็กจะขายหุ้นเหล่านี้ไปจ่ายค่าปรับ ผมว่าก็น่าจะพอแล้วนะครับ เพราะต้องการเงิน510ล้านบาท เมื่อวันจันทร์หรืออังคารก็จบแล้ว ขณะที่หากฝรั่งหัวแดงยังมองมุมบวกต่อหุ้นไทยอยู่ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวไปเกินด่านแรก980+/- โดยอาจได้ลุ้นเขต1020จุดในรอบนี้
1.3นักลงทุนขายSTOP LOSSและโดนฟอร์ซเซล-ใครดูทางเทคนิคอยู่อาจขายตอนหลุด980จุดเมื่อวานก่อน อย่างเราก็แนะนำว่าอาจเป็นจุดstop lossนอกนั้นน่าจะเจอซ้ำด้วยการบังคับขายของคนที่เทรดด้วยมาร์จิ้นและหาเงินเติมไม่ทันก็เลยร่วงแรง
1.4 ฝ่ายวิจัยบล.ฟาร์อีสต์เผย ต้นทุนเฉลี่ยของฝรั่ง =964 จุด คิดตั้งแต่เริ่มซื้อจริงจัง ก.ย. 2010 ถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ที่ฝรั่งเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยจริงจังคือหลังจากมาบตาพุดชัดเจน ต้นทุนเฉลี่ยตั้งแต่นั้นจนปัจจุบัน = 964 จุด เทียบกับ index ปัจจุบัน แทบไม่เหลือกำไรแล้ว เหลือเพียงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 4.4%
ดังนั้น จึงมอง downside ที่ต่ำกว่า965จุด ยกเว้นถ้ามองบาทอ่อนได้อีก ก็อาจขายขาดทุนได้อีกหน่อย
ต้นทุนเฉลี่ยของต่างชาติ = 964 จุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2010 + กำไรจาก fx 4.4%
2.แล้วเอาไงดี? คำตอบคือน่าถือรอขายช่วงฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่980ดีสุดอาจได้ลุ้นไปไม่เกิน1020ในสัปดาห์หน้า
ชาร์ตที่1
2.1ตลาดอาจเปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว อย่างดีที่สุดคือแกว่งsidewayกรอบ950-1050จุด
-หากพิจารณาจากการร่วงลงมาจากจุดสูงสุด1056จุด ลงมาที่950จุดเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ข้อพิจารณาในทางเทคนิคสำหรับทิศทางแนวโน้มตลาดจะเป็น 2 สถานดังนี้
ก.เข้าเกณฑ์ว่าระยะกลางจะเปลี่ยนทิศทางแนวโน้มเป็นขาลง-เนื่องจากทำจุดสูงลดลง(ในภาพชาร์ตที่ 1 คือจุดสูงแรก หรือH1=1056จุด ส่วนจุดสูงต่อมา หรือH2=1035จุด) ขณะที่เกิดจุดต่ำใหม่ หรือมีนิวฃโลว์(ในภาพคือจุดต่ำแรก หรือL1=1007จุด ต่อมาเกิดจุดต่ำใหม่เมื่อวานนี้ หรือL2=950จุด)
แนวโน้มดังกล่าวนี้ ก็อาจเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิคขึ้นไป แต่จะไม่ทำจุดสูงใหม่เกิน1035จุดที่เคยเป็นจุดสูง หรือไฮในรอบก่อน โดยจุดสูงของการฟื้นตัวรอบนี้มีโอกาสเป็นดังนี้(ดูชาร์ตที่2ประกอบ)
ชาร์ตที่2 SETทดสอบด่านแรก985+/-โดยเกิดสัญญาณซื้อในเครื่องมือmodified stochastics เป็นไปได้ว่าอาจผ่านขึ้นไปด่านที่สองแถวๆ1000เลยก็ได้ หรือหากลงพักฐานก็อาจไม่แย่กว่า975+/-แล้วฟื้นไปปิดแถว985+/-เพื่อขึ้นต่อ เว้นแต่ลงปิดต่ำกว่าเขต975+/-จะเป็นสัญญาณทางลบ
*เป็นไปได้มากก็คือเขต985-990จุด(เป็นการฟื้นตัวขึ้นไปเขต1ใน3ของตัวเลขอนุกรมFibonacci retracement โดยวัดจากจุดต่ำสุด950ที่ร่วงลงมาต้นสัปดาห์นี้ กับจุดสูงสุด1056ที่เป็นพีครอบล่าสุดนี้)
ซึ่งเมื่อวานนี้SETขึ้นมาที่987จุด ก็อาจเป็นไปได้สองทาง
ก.ผ่านด่าน985-990แล้วขึ้นต่อไปเลย
ข.ชนด่าน985+/-แล้วลงพักฐานเขต975+/-(973-976)ก่อน แล้วค่อยฟอร์มตัวขึ้นไปผ่าน985-990เพื่อไปต่อ
*เป็นไปได้มากรองลงมาคือบริเวณ50%fibonacci retracementคือเขต1000-10005จุด(กรณีนี้คือหากช่วงนี้ไม่พักฐานลึกกว่า975+/-แล้วสามารถขึ้นไปผ่านด่านแรกบริเวณ985+/-สำเร็จ ก็จะขึ้นไปด่านสอง1000-1005จุด)
*เป็นไปได้ และไม่น่าตัดความเป็นไปได้-คือบริเวณ2ใน3ของFibonacci retracement บริเวณ1015-1020จุด และเป็นบริเวณbolingerband average รวมทั้งเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่าหากเป็นการฟื้นตัวก็จะไม่มียอดสูง เท่ากับหรือสูงกว่าไฮรอบก่อน(H2=1035 ดังนั้นการขึ้นไปทำH3=1015,1020จึงมีความเป็นไปได้ และไม่ควรจะตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้งไป)
*สรุป*-แปลเป็นไทยก็คือ หากรอบนี้ทำจุดต่ำ950จุดเมื่อวานก่อนนี้ แสดงว่าตลาดจะฟื้นตัว โดยมีโอกาสน่าขึ้นไปแน่ๆด่านแรกก็คือแถว985+/- จากนั้นลุ้นหน่อย หากวันนี้สามารถผ่านด่านนี้ได้ หรือมาปิดเขตนี้ได้ หรือพักฐานไม่ลึกกว่า975+/- แล้วขึ้นมาปิดเขต985+/-ได้ ก็จะขึ้นไปแตะ1000จุด และกรณีดีที่สุดอาจมีลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด อาจกินเวลาฟื้นตัวราว 1 สัปดาห์นับจากนี้
(ยกเว้นว่าวันนี้ลงไปปิดลึกกว่าเขต975-970ก็แสดงว่ารีบาวนด์ได้แค่แถวๆ985+/-แล้วก็จะลงต่อ)
2.2ความเป็นไปได้ของการฟื้นตัวและแกว่งในกรอบไซด์เวย์ หรือเป็นขาขึ้น กับความเสี่ยงของการร่วงเป็นขาลงแล้วลงยาว อะไรมากกว่ากัน?
ชาร์ตที่3
ในชาร์ตที่ 3 หากเรานำทฤษฎีคลื่นElliot waveมาวินิจจัยก็จะได้ความว่า ตลาดที่ร่วงลงจากยอด1056จุดนี้ ลงขาที่1มีจุดต่ำที่1007จุด จากนั้นฟื้นขึ้นไปขาที่2=1035 จากนั้นร่วงลงขาที่3=950จุด(เมื่อวานนี้) แสดงว่าตอนนี้น่าจะฟื้นขึ้นเป็นขาที่ 4=980-985หรือ1000-1005หรือดีที่สุด1015-1020จุด (ให้น้ำหนักกับบริเวณ1015-1020มากกว่าว่าจะเป็นH4จากนั้นก็จะร่วงลงสู่ขาที่5ซึ่งเป็นคลื่นขาลงสุดท้าย=925หรือแถมป้ายไปแถว900จุด)
ชาร์ตที่4:เป็นแนวโน้มรายสัปดาห์ จะมีกรอบแนวต้านdowntrend lineสำคัญหากมองข้ามช็อตไปสัปดาห์หน้าบริเวณ1015-1020จุด กรอบรับล่างบริเวณ925จุด
ข้อพิจารณาคือหากSETฟื้นจากจุดต่ำสุดบริเวณ950เมื่อวานนี้ขึ้นไป แล้วไปผ่านแนวต้านdowntrendเขต1020+/-ได้ ก็อาจกลับมามีหวังว่าตลาดจะไม่เป็นขาลง จะกลับไปได้ลุ้นแกว่งกรอบไซด์เวย์ระหว่าง950-1055จุด หรือกระทั่งเป็นขาขึ้น ไปทำnew high
ในทิศทางตรงกันข้ามหากขึ้นไปแล้วอาจจะเริ่มตกตั้งแต่980-985 หรือดีที่สุดไม่ผ่าน1015-1020ในระยะเป็นสัปดาห์นับจากนี้แล้วลง และลงหลุด925จุด อาจเกิดการตกยาวและลงยาวในรอบใหม่นี้ลงไปแถวๆ850จุด หรืออีกนับ100จุดจากปัจจุบัน
*****สรุปของสรุป-หากติดหุ้นเอาไว้ ก็แนะนำว่า น่าถือไว้รอขายเอาทุนคืนครับ ด่านแรกลุ้นเขต985+/- หากทำท่าผ่าน วอลุมหนุน ข่าวดีมา จะได้ลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด จังหวะนั้นดูอีกยก หากไม่ผ่านแน่ๆ จะแนะนำขายหุ้นเอาทุนคืน หรือขายให้ขาดทุนเสียหายน้อยที่สุดครับ ส่วนท่านที่พอร์ตว่างก็แนะนำซื้อหุ้นเด่นเล่นรอบที่เราแนะนำไว้ คือ PTT SCB ADVANC LANNA TMB BTS และไปรอขายเขต1020+/-
3.SET50 เป้าหมายการฟื้นตัวอิงกับSET
แนวโน้ม—ราคาร่วงลงมา655จุด เข้าเขตsuper oversold ก็น่าจะฟื้นตัวตามSET เมื่อวานขึ้นมาใกล้ด่านแรกคือ680จุด พิจารณาดังนี้ครับ
*หากSETขึ้นไปแค่985-990จุด ตัวSET50ก็จะขึ้นไปเขต680-685จุด
*หากSETผ่าน680-685ขึ้นไปเขต1000-1005ตัวSET50จะขึ้นไปเขต695-700จุด
*หากSETขึ้นผ่าน1000+/-ไปเขต1020-1025ตัวSET50จะขึ้นไปเขต705-710จุด
ดูแล้วก็คือจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวขึ้นไปคลื่นที่ 4ของขานี้ มีตั้งแต่680-685ดีสุดอาจเป็น705-710จุด
วันนี้มีกรอบแนวรับเขต670-665จุดโดยประมาณ แนวต้าน680-685จุด
กลยุทธ์-ท่านที่ติดไว้อาจรอไปขายที่เป้าหมายการฟื้นตัว โดยผมจะแนะนำให้ว่าน่าจะได้เท่าไหร่ หรืออีกวิธีหากติดสูงมาก อาจซื้อเฉลี่ยต้นทุน เพื่อไปขายออกเอาทุนคืน ให้เสียหายน้อยที่สุด หรืออาจไม่เสียหายเลย หากขึ้นไปเขต705-710จุด
ที่ผมไม่มีชาร์ตให้ดูเพราะยังเอามาลงไม่เป็น แต่หากอยากดูก็ลงทุนสมัครสมาชิกหน่อยครับ แล้วมีให้ดู หากดูไม่รู้เรื่องอีกก็มาเรียนครับ รู้แล้วรวย ถือว่าจ่ายค่าครูหนเดียว เอาไปทำมาหากินในตลาดหุ้นได้ตลอดชาติครับ**********
-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ฟรี ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย 30 มกราคม 2554นี้ รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )
บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554
คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888
***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY
-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ
-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555
-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล
**********************
เกี่ยวกับผู้เขียน
-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)
*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800
*********
อบรมเล่นหุ้นอย่างไรไม่ให้เจ๊ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยปีใหม่2554
-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 40 รุ่นมาแล้ว
-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ