วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(10ม.ค.): ไม่ผ่านด่านdouble top1055 เจอขาย แถมปัจจัยลบดอลลาร์แข็ง บาทอ่อน ฝรั่งขาย หุ้นTIPร่วง ความต่างของไทยกับอินโดนีเซียในมุมฝรั่ง


สั่งก่อนรวยกว่า-คู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ9111รวยหุ้นปีกระต่าย รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม )

**********
คัมภีร์หุ้นไทย(10ม.ค.): ไม่ผ่านด่านdouble top1055 เจอขาย แถมปัจจัยลบดอลลาร๋แข็ง บาทอ่อน ฝรั่งขาย หุ้นTIPร่วง ความต่างของหุ้นไทยกับอินโดนีเซียในมุมมองของฝรั่งหัวแดง จับตาจะลงปรับฐานหรือหมดรอบแล้วลง
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

1.SETไม่ผ่านด่านdouble top1055 เจอขาย แถมปัจจัยลบดอลลาร๋แข็ง บาทอ่อน ฝรั่งขาย หุ้นTIPร่วง ความต่างของหุ้นไทยกับอินโดนีเซียในมุมมองของฝรั่งหัวแดง จับตาจะลงปรับฐานหรือหมดรอบแล้วลง

-สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ดัชนีSETขึ้นไปเขต1055จุด ซึ่งเป็นพีคเก่าแล้วตีไม่ผ่าน จากนั้นตก เมื่อวันศุกร์ลงแรงมาปิดเขตlowของวัน1036จุด โดยทั่วไปหากเป็นการตกปรับฐานจากโครงสร้างเชิงลบ double topจะลงมา 3 วัน ซึ่งวันจันทร์(10ม.ค.)เป็นวันสุดท้ายของการลง โดยมีฐานเขต1025-1030จุดโดยประมาณ หากลงแค่เขตนี้ แล้วเริ่มยืนทรงตัว ก็แปลว่าน่าจะลงจบ แล้วค่อยฟื้นตัวในวันต่อไป

-ปัจจัยลบคือการที่ฝรั่งขายแรงเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นมาเขต81จุด(ภาพรวมๆน่าจะแข็งค่าต่อเนื่อง เพราะค่าเงินยูโรร่วง เพราะเศรษฐกิจยุโรปอ่อนแอ) ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนลงมาเขต30.37บาท(มีโอกาสอ่อนไปแตะ31บาท/ดอลลาร์)

ตามสถิติแล้วหากฝรั่งขาย ค่าบาทอ่อนลง ดอลลาร์แข็งขึ้น จะเป็นปัจจัยลบกดดันให้หุ้นตก เพราะแปลว่าต่างชาติขายหุ้น และอาจนำกำไรออกไป

-ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นTIPลงแรง โดยเฉพาะIndonesia Philippines ก็เป็นปัจจัยกดดันให้Thailandลงด้วย เพราะเป็นเม็ดเงินก้อนเดียวกันที่เข้ามาซื้อหุ้น เวลาขายก็ขายพร้อมกัน

อย่างไรก็ตามอินโดนีเซียลงใกล้แนวรับเขต3500จุด ก็อาจหยุดลงในวันนี้

*ข้อพิจารณาคือปีที่แล้วตลาดหุ้นTIPขึ้นแรง ติดTOP THREEของโลก เพราะเงินเข้า หากเจอขายก็มักเป็นไปในทางเดียวกันครับ

อย่างไรก็ตามมีข้อละเอียดที่ต่างกันอยู่คือ ปี2553ที่ผ่านมาหุ้นอินโดนีเซียติดแชมป์โลกในการขึ้นคือราว50% รวม2ปีขึ้นมา200กว่า% ของไทยปีที่แล้วขึ้น40% รวม2ปีขึ้นมาราว150%

ที่อินโดนีเซียขึ้นเยอะสุดเพราะดอกเบี้ยสูงมาก ก่อนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี2551ดอกเบี้ยอินโดฯอยู่9%กว่า ปีกลายแม้ลดดอกเบี้ยลงก็ยังสูงถึง6% แต่เมืองไทยก่อนวิกฤตอยู่ที่3.75% มาตอนนี้แม้จะขึ้นดอกเบี้ยมาก็อยู่แค่2%

ปีที่แล้วเงินฝรั่งไหลเข้าไปกินส่วนต่างดอกเบี้ยในอินโดฯและพลอยไล่ราคาหุ้นขึ้นแรง มาปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ยก็ยากเพราะสูงตั้ง6% เลยเป็นเหตุให้ไม่มีแรงจูงใจ ราคาหุ้นก็ชักแพง ฝรั่งพากันออกบทวิจัยให้ขายหุ้นอินโดฯ แต่เมืองไทยปีนี้ยังจะขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อไป หุ้นก็ไม่แพง คือค่าP/Eอยู่ราว13เท่า ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของหุ้นเอเชียที่ 15 เท่า ฝรั่งยังออกบทวิจัยให้ซื้อและถือหุ้นไว้อยู่ ยังมองจะไปต่ออีกราวๆ20%(เป้าหมายก็ราว1200จุด+/-) นี่เป็นความต่างกันของเมืองไทยกับอินโดฯ ผมเลยคิดว่าหากฝรั่งทิ้งหุ้นอินโดฯ เราก็มีเรื่องบรรเทาอยู่ คือมีเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นค้ำเอาไว้ ไม่ให้เขาทิ้งหุ้ยนไทยครับ(รายละเอียดอ่านในคู่มือตลาดหุ้นไทยปี54ที่ผมทำแจกจ่ายท่านสมาชิกไปก่อนหน้านี้)



2. เป้าหมายการตกปรับฐานเท่าไหร่ และเท่าไหร่จึงจะตกใจว่าหมดรอบแล้วลง


สถานการณ์และทิศทางแนวโน้ม-สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ดัชนีSETขึ้นไปเขต1055จุด ซึ่งเป็นพีคเก่าแล้วตีไม่ผ่าน จากนั้นตก เมื่อวันศุกร์ลงแรงมาปิดเขตlowของวัน1036จุด โดยทั่วไปหากเป็นการตกปรับฐานจากโครงสร้างเชิงลบ double topจะลงมา 3 วัน ซึ่งวันจันทร์(10ม.ค.)เป็นวันสุดท้ายของการลง โดยมีฐานเขต1025-1030จุดโดยประมาณ หากลงแค่เขตนี้ แล้วเริ่มยืนทรงตัว ก็แปลว่าน่าจะลงจบ แล้วค่อยฟื้นตัวในวันต่อไป

สรุปว่าในทางเทคนิคนั้น การขึ้นชนเขตพีคเก่า 1055จุดแล้วลงนั้น จะก่อรูปแบบราคาในเชิงลบคือรูปแบบสองหัว(Double top) เป้าหมายการตกในรูปแบบนี้ก็แรงครับ แต่เนื่องจากตกแรงมา2วันแล้วคือพฤหัสฯ กับศุกร์ก่อน ดังนั้นตามสูตรควรลงจบในวันนี้

เมื่อวัดเป้าหมายการตก หากเป็นการตกปรับฐานก็ควรลงมาไม่เกินเขต1ใน3ของfibonnaci retracement(คือหากวัดจากฐานของรอบนี้978จุด ยอด1056จุด) บริเวณ1ใน3นั้นตัวเลขเป๊ะๆเลยคือบริเวณ1025-1030 หากวันนี้ตกไม่ลึกกว่า1025แล้วหยุดลง และทำท่าปิดเหนือ1025หรือ1030 หรือให้ดีมาปิดแถวๆ1036-1040ได้ แสดงว่าลงจบ หรือเอาแค่ลงสุดแถว1020ปิดซักเกิน1030ได้ ก็แสดงว่าตกจบ แล้วจะไปเริ่มฟื้นบวกตั้งแต่วันอัวคาร(11มค.)เป็นต้นไป


Note:ในทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นหากSETตกลงมาโดยไม่ทำจุดต่ำใหม่(ไม่เกิดnew low)แปลว่าเป็นการตกปรับฐาน(corrective)เพื่อจะขึ้นต่อมีnew highครับ ฐานlowเก่าของตลาดหุ้นอยู่ที่เขต1018จุดโดยประมาณ ดังนั้นการลงมารอบนี้ก็ต้องลุ้นว่าหากไม่มีลงลึกกว่า1018แปลว่านี่เป็นการตกปรับฐาน ท่านควรคาดการณ์ว่าจากนั้นจะฟื้นตัว แล้วขึ้นและควรมีnew higไปเกิน1055 ซึ่งก็คือเป้าหมาย1130ที่ผมเคยคาดการณ์ไว้

เว้นเสียแต่ว่าSETลงมารอบนี้ทำท่าว่าลงไปเลยป้าย1018จุด(หรือให้แน่ๆหลุด1000จุด)อันนี้แสดงว่า ไม่ใช่การลงปรับฐานในแนวโน้มขาขึ้นเพื่อไปทำnew highนะครับ แต่จะเป็นขาลงยาวไปเลย

ดังนั้นหากท่านถามว่าแบบไหนจึงจะน่ากลัวว่าตลาดจะเปลี่ยนเป็นขาลง ก็คือเฝ้าระวังว่าอย่าลงหลุดเขต1018ลงไปก็แล้วกัน หากหลุดด่านนี้น่ากลัวจะต้องขายตัดขาดทุนครับ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง

แต่ผมก็ยังคิดว่าน่าจะเป็นการตกปรับฐานเพื่อขึ้นนิวไฮมากกว่าครับ

2.SET50 แนวโน้มหลังพักฐานจบยังลุ้นนิวไฮไปเขต750-790จุด

แนวโน้ม—หลังปีใหม่ขึ้นมาใกล้เขตพีคเก่า735แล้วลง เกิดรูปแบบdouble top เมื่อวันศุกร์ลงมาปิดที่717จุด ช่วงนี้มีแนวรับเขต714 ถัดไป708จุด

จับตาหากลงไม่หลุดลึกกว่าเขต707 แสดงว่าเป็นการตกปรับฐาน ก็น่าพักฐานจบเขตนี้ และมีโอกาสผ่านขึ้นไปพีคเดิม735 จากนั้นในอาจrallyขึ้นไปเขต750-755 หรือ770 กรณีดีที่สุดไม่เกิน790จุด

กลยุทธ์-เน้นการเล่นทางซื้อ โดยเข้าซื้อที่เขตแนวรับ707-710หรือ714 แล้วถือรอไปขายทำกำไรที่แนวต้านเป้าหมาย ยกเว้นลงไปหลุดต่ำกว่าเขต705ลงไปควรขายstop lossเพื่อลดความเสี่ยง และหันไปเล่นขาลง แต่ผมยังคาดว่าน่าจะเป็นการลงปรับฐานเพื่อขึ้น มากกว่าเป็นการหมดรอบขาขึ้นเพื่อเป็นขาลงใหญ่


*******



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888



I.กลับไปดูคู่มือตลาดหุ้นปี 2553 การคาดการณ์กับผลงานที่ออกมาจริง


*ในคู่มือตลาดหุ้นปี 2553 นั้น ผมมองว่า จะเป็นปีที่”ต้นร้ายปลายดี” คือช่วงต้นปีน่าจะตก แต่แย่สุดก็จะไม่ลึกกว่าเขต 500 จุด (ความจริงดัชนีSETแย่ที่สุดของปี2553อยู่ที่ 679 จุด) และจะขึ้นไปตอนปลายปีดีที่สุดอาจเป็น 975 จุด (ความจริงปรากฎว่าดีกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้ โดยSETผ่าน1,000ขึ้นไปที่1,055จุด )

*ผมได้คาดการณ์ว่า แต่ปี2554 จะ rally หรือวิ่งครั้งใหญ่เป็นกระทิงของจริงอาจไปถึง 1,200 จุดในราวเดือนกันยายน 2554

*หุ้นเด่นในปี 2553 ผมได้แนะนำซื้อ SVI ในหมวดชิ้นส่วนฯ(ตอนนั้นราคาราวๆ2บาท ปีนี้ขึ้นมาสูงสุดที่3.86บาท ดีกว่าที่ผมคาดไว้แถว3.20บาท) และBCP(ตอนนั้นอยู่แถวๆ14บาท ขึ้นมาสูงสุด18.60บาท แต่ถือว่าขึ้นน้อยกว่าท่าคาดไว้แถว20บาท)
*นอกจากนั้นผมได้แนะนำให้หาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯตัวอื่น หรือหมวด อาหาร-การเกษตร เป็นหลัก (ซึ่งตลอดปี2553ก็ยังเป็นปีที่กลุ่มอาหาร และการเกษตรขึ้นได้ดีกว่าตลาดรวมมาก ตัวอย่างที่เด่นชัดคือSTA CPF หรือหุ้นเด่นอีกตัวที่แนะนำลงทุนคือKCEเขต4บาท ขึ้นมาปีนี้สูงสุด10.60บาท)

II.บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************
(คู่มือตลาดหุ้นไทยปี2554:กระทิงใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูมตอนต่อไป เป็นนคู่มือตลาดหุ้นประจำปีที่ผมทำติดต่อกันมาเป็นปีที่13ได้ชื่อว่าอาจเป็นคู่มือตลาดหุ้นที่ดีที่สุดและอาจจะแพงที่สุด คือเล่มละ1,050บาท จัดทำจำกัดเพียง100เล่ม สั่งซื้อ หรือฟรีเมื่อสมัครสมาชิก หรือต่ออายุสมาชิก หรือเข้าอบรมรวยหุ้นปีใหม่54 เพื่อรับคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ฟรี โทร 02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 )


******

เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2553/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 20 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง) 02-9275800 โทรมือถือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น