อบรม 4 เรื่องควบวันเดียวจบ สำหรับคนมีเ้วลาน้อย 31 กค.นี้-จัดพอร์ตคัดยอดหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยรอบใหญ่ รุ่นที่ 3
กิจกรรมอบรมสัปดาห์นี้ วันอาทิตย์ 31 ก.ค. เวลา08.30-17.30 น.ครับ ประกอบด้วยเรื่อง
1.แนะนำวิธีการจัดพอร์ตลงทุนแบบมืออาชีพ ทำไงไม่ซื้อหุ้นเปรอะไปหมด ทำไงความเสี่ยงต่ำกำไรงามตามแบบมืออาชีพกองทุน หรือฝรั่งเขาทำ
2.พร้อมกับสอนวิธีคัดหุ้นทีเด็ดและคำนวณหามูลค่าเป้าหมายหุ้นด้วยตนเองทางพื้นฐาน ด้วยวิธีP/E เรียนลัดเข้าใจง่าย นำไปใช้งานได้จรริง
3.เรียนวิธีวัดเป้าหมายซื้อหรือขายด้วยกราฟ อ่านแนวโน้มเป็นดูเทร็นด์ขาด วัดเป้าหมายด้วยสูตรมหัศจรรย์แม่นยำเพะๆ และเครื่องมือจับผิดเจ้ามือ รู้ทันว่าลากไปเชือดหรือทุบหุ้นเอาของ และหาจังหวะซื้อขายได้แม่นยำ ไม่ตกรถ ไม่ขายหมู ไม่ติดหุ้น
4.บรรยายฟันธงแนะนำหุ้นเด่น4ตัวในสายตาของผมซื้อตอนนี้รวยตอนตุลาคมหรือมกราคมค่อยขายทำกำไรคำใหญ่ๆ
เป็นหลักสูตรผสม 4 เรื่องวันเดียวจบ หลักสูตรนี้เหมาะกับทั้งมือใหม่หัดเล่น มือเก่าหัดรวย มือกลางเก่ากลางใหม่ที่เป็นมวยวัด ไม่มีหลักไม่รู้วิธีที่ถูกต้องพิเศษแจ้งรับสมาชิกรับหุ้นเด่นแม่นยำฉับไวก่อนใครวันนี้ ได้สิทธิ์เข้าเรียนฟรี โทรสอบถามหรือสำรองที่นั่ง โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
บทความนี้จะล่าช้ากว่าที่ส่งให้สมาชิกอ่าน และไม่มีแนะนำหุ้นเด่น สำหรับหุ้นเด่นรายตัว แนะนำท่านสมาชิกอ่านที่www.tintancorp.comครับ
***หมายเหตุ:บทความนี้จะลงช้าไป 1 วัน สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
I.ปัญหาเศรษฐกิจอเมริกาจะมีผลให้เงินไหลเข้ามากกว่าผลทางลบ? แต่ระยะสั้นจะเป็นปัจจัยกดดันให้หุ้นไทยลงตาม
ประเด็นข้อขัดแย้งเรื่องขยายเพดานเงินกู้ของอเมริกาเรื่องขยายเพดานหนี้ที่ยังไม่มีวี่แววได้ข้อยุติ ก่อนวันชี้ขาด 2ส.ค.นี้ อาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้หรือปรับลดระดับความน่าเชื่อถือด้านหนี้สินของสหรัฐฯส่งผลให้หุ้นดาวโจนส์ลงมา 3 วันติดต่อกัน
เมื่อคืนนี้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 198 (-1.59 เปอร์เซ็นต์)
ชาร์ตที่1:ดาวโจนส์ลงมาปิดเขต12302 อาจเสี่ยงลงมาเขต12100-12200จุดได้ในระยะนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้หุ้นทั่วโลก รวมทั้งหุ้นไทยลงตาม จนกว่าจะชัดเจนในวันที่ 2 ส.ค. (รู้ผลตามเวลาเมืองไทยคือคืนวันอังคารหน้า)
ชาร์ตที่2:อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงหลุดแนวรับเขต74.43 ลงไปที่73.58จุด ล่าสุด74.10 คาดว่ามีความเสี่ยงจะอ่อนลงไปเขตแนวรับใหญ่72.40จุด
เหตุที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงก็เพราะเศรษฐกิจอเมริกาแย่และข้อขัดแย้งเรื่องงบประมาณล่าสุด
โดยทั่วไปค่าเงินดอลลาร์มีความสัมพันธ์กับหุ้นไทยดังนี้
1.หากค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น เพราะมีข่าวเศรษฐกิจดี นักลงทุนต่างชาติมักขายหุ้นไทยออกเพื่อถอนกำไรกลับอเมริกา หรือไปช้อนซื้อเงินดอลลาร์=หุ้นไทยมักจะตก
2.หากค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง เพราะมีข่าวเศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี นักลงทุนต่างชาติมักเข้าซื้อหุ้นไทย โดยมีเงินไหลมาจากอเมริกา หรือขายดอลลาร์ออกแล้วมาซื้อหุ้นไทย=หุ้นไทยมักจะขึ้น
สรุปความเห็น-ดังนั้นในเวลานี้เป็นไปตามข้อ 2ครับ หุ้นไทยเราอาจได้ผลกระทบระยะสั้นๆจากดาวโจนส์ลง แต่เราจะได้ผลบวกจากการที่ต่างชาติขายดอลลาร์ออกมาซื้อหุ้น ตลาดหุ้นไทยจึงจะได้รับผลบวกมากกว่าในระยะต่อไป
ชาร์ตที่3:เป็นชาร์ตยอดซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ซึ่งแปลความหมายออกมาแล้วน่าจะยังซื้อสุทธิต่อไปอีกราวๆ20,000ล้านบาท
II.ขึ้นทดสอบด่านแนวต้าน1130-1135 แต่เข้าเขตoverheat น่าถอยลงฐานใหม่1113 ก่อนจะขึ้นในรอบต่อไป1150-1228
เมื่อวันศุกร์ก่อนสามารถพิชิตด่านพีคเดิม1113ได้สำเร็จแล้วครับ ก็จะยืนยันการขึ้นรอบใหม่ที่เป็นรอบใหญ่ โดยมีเป้าหมายแรกแถว1150-1228จุด ส่วนเป้าหมายใหญ่ยังเป็น1260-1290ในเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตามเนื่องจากค่าสัญญาณทางเทคนิคบ่งบอกว่าเข้าเขตoverheat หรือร้อนแรงเกินเหตุ ก็จึงเกิดการตกปรับฐานหลังจากวิ่งขึ้นไปใกล้เป้าหมายที่ประเมินไว้แถวเขต1130-1135 และน่าจะฟอร์มตัวซักระยะ ก่อนจะขึ้นต่อไปในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น
ชาร์ตที่3:ภาพของดัชนีSETรายเดือนที่เป็นภาพใหญ่ของแนวโน้มระยะกลาง ฟอร์มตัวเป็นรูปหัวและบ่าหงาย(Head & Shoulders Bottom)ที่มีแนวต้านเขต1ใน3บริเวณ1132จุดโดยประมาณ
เมื่อวานนี้ขึ้นไปสูงสุด1131.40ใกล้กับแนวต้านเป้าหมายที่ประเมินไว้ ก็มีความเสี่ยงว่า เป็นไปได้ที่จะอ่อนลงมาเขต1113-1106จุด
ข้อพิจารณาสำคัญคือหากตีแตก ด่านนี้1132ได้ ก็จะขึ้นไปในระยะเป็นเดือนหรือหลายเดือน โดยมีเป้าหมายขึ้นต่อไปเขต1200 ถัดไป1261-1287และเป้าหมายใหญ่1470จุด
อย่างไรก็ตามผมเคยฟันธงไว้ว่าการขึ้นไปเขต1260-1290จุดนั้นน่าจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวก็น่าจะเป็นวันที่7ตุลาคมนี้ ไม่ใช่วันสองวันนี้แน่
ชาร์ตที่4:เป็นภาพแนวโน้มระยะสั้นมากของชาร์ตรายวัน ซึ่งจะพบว่า เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยได้เข้าสู่เขตOverheat(ในชาร์ตรายวัน%K=95% โดยสถิติแล้วหากไปเกิน95%ก็อาจเจอขายทำกำไรพักตัวซักยก แล้วค่อยขึ้นต่อไป)
วันนี้-มีกรอบแนวรับแรกเขต1125 ถัดไป1220+/- เขตฐานรับใหม่1113+/-(หรือยอดพีคเดิม จะเป็นฐานใหญ่ที่แกร่ง) กรณีแย่สุดอาจล้ำลงมาเขต1105จุด
แนวต้านเขต1132-1135+/- ซึ่งหากวิ่งขึ้นไปแรงชนเขตนี้ ก็จะเข้าเขตOverheat โดยให้ดูว่า%Kในdaily chartหากมาเขตเกิน95%ก็น่าต้องเจอขายทำกำไร เพื่อปรับลดภาวะoverheat แต่หากเจอขายลงมาก็จะมีฐานใหม่แถว1113จุด(กรณีเก่ง ก็ลงแค่1120+/- กรณีแย่สุด1105)
การปรับฐานนี้อาจเกิดได้ 2 แบบ คือ
-เป็นการขายลงปรับฐานสลับขึ้นและฐานอาจเป็นแค่1120-1113
-เป็นการขายปรับลดภาวะOverheatแบบจริงจังหน่อย มีฐาน1113หรือล้ำลงมาก็เป็นเหนือ1100-1105จุด
กลยุทธ์และข้อพิจารณาก็คือ
มีคำถามว่าข่าวเรื่องหนี้USAจะเป็นเหตุให้หุ้นตกไหม? คำตอบที่ผมตอบไว้2-3วันก่อนคือ ไม่ใช่ แต่เพราะทางเทคนิคนั้นชี้ว่าเพราะหุ้นขึ้นไปเขตเป้าหมาย1130-1135และอยู่ในภาวะOverheatแล้วมันก็จะตก ข่าวเรื่องหนี้USAจะเป็นเพียงคำอธิบายตามมาภายหลังว่า อ้อมันตกเพราะยังงี้
สรุปแล้วในความเห็นของผมแล้ว ข่าวดีไม่ได้ทำให้หุ้นขึ้น ข่าวร้ายไม่ได้ทำให้หุ้นตก แต่เพราะมันขึ้นไปแล้วคนจึงหาข่าวมาอธิบายว่าอ้อมันขึ้นเพราะยังงี้ และเพราะหุ้นตกแล้ว ถึงมีคำอธิบายมาภายหลังว่า อ๋อมันตกเพราะข่าวนี้ข่าวนั้น
1.สำหรับท่านที่เล่นเก็งกำไรระยะสั้น อาจขายที่เขต1130-1135จุด แล้วรอรับกลับช่วงปรับฐานลงมาเขต1113+/- (หรืออาจแค่1120 หรือแย่สุด1105ก็ให้ดูตลาดจริงประกอบ)
2.ท่านที่เล่นรอบcycleระยะกลาง ก็ต้องเข้าใจว่าตลาดขึ้นมาก็ต้องมีลงสลับปรับฐานกันมั่งเป็นปกติหละนะครับ จะให้ขึ้นลูกเดียว มันก็ไม่ใช่ธรรมชาติตลาดหุ้น ก็คือหากเห็นขึ้นมา1130-1135หากเห็นเจอขายก็ถือซะว่า”เป็นเช่นนั้นเอง”แล้วก็เฝ้ามองว่าหากถอยย่อลงแล้วไม่ลึกเกิน1113 หรือแย่สุด1105ก็แสดงว่าทำฐานยกสูง อีกซักพัก คืออาจ2-3วัน
กรณีนี้ก็ถือครับ เพราะลงเพื่อจะขึ้น น่าไปรอขายป้ายหน้า1150-1228จุด ช่วงนี้ก็ทนต่อความผันผวนให้ได้หน่อยครับ
3.ท่านที่เล่นรอบcycleใหญ่ หรือรอบelection rally-honeymoon periodตามที่เคยแนะนำไว้ ก็หากเห็นพิชิตด่านพีคเก่า1113ได้ และหรือยืนเหนือฐานใหม่นี้ได้ ก็ให้ถือครับ แม้ว่าไปชนเขต1135อาจตกปรับฐานก็จะเป็นเพียงการลดover heatเท่านั้น ลงมาก็มีฐาน1113หรือแย่ๆก็1105
เพราะเมื่อหุ้นพักฐานลดความร้อนแรงจบก็จะไป1150-1228 หรือไกลๆ1260-1285ในวันที่7ตุลาคม ปล่อยให้กำไรเดินหน้า(let profit run)เพราะตลาดเป็นทางขาขึ้น มันจะผันผวนบ้างก็อย่าไปสนใจ เพราะถึงตกลงมามั่งก็ทำฐานสูงขึ้น เวลาขึ้นแต่ละยกแต่ละเที่ยวมันก็จะทำนิวไฮให้พอร์ตของท่านเขียวขึ้นตลอด
หากนึกอะไรไม่ออกก็นึกถึงตอนติดหุ้นกันครับ ในเวลาตลาดขาลงยังปลอบใจตัวเองได้ว่า”ไม่เป็นไรถือยาว เงินเย็น” นี่กำไรทำไมจะทนถือไม่ได้ ส่วนหากกลัวว่ามันจะเปลี่ยนทางเป็นลง
สำหรับหุ้นเด่นรอบนี้ยังแนะนำถือPTTEP BBL KBANK LANNA ESSOหากจะซื้อตัวใหม่ก็ให้เล็งที่TMB TISCO BTS LOXLEY CK(รายละเอียดดูในกระทิงทองส่องหุ้นครับ)
สำหรับกรณีCKเอาไว้ลุ้นจะได้งานmega projectรัฐบาลใหม่ครับ พวกรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่หากราคาขึ้นผ่านแนวต้านเขต8บาทน่าไปไกล เป้าหมายรอบใหญ่นี้11.40-13บาท
III.3SET50 น่าเจอขายลดOverheatแนวรับแรก785หากยืนได้ก็ฟื้น แต่หากหลุดเสี่ยงลงไป773-776
ดัชนีSET50- แนวโน้มภาพไหญ่เมื่อพิชิตแนวต้านเขตพีคเก่า790ได้ ในระยะต่อไป และไปลุ้นผ่านด่านพีคเก่า790ได้ลุ้นทำนิวไฮรอบใหม่ขึ้นไปเป้าแรก797-810และลุ้นไปเขต820-825 ดีสุดอาจเป็น850จุด
อย่างไรก็ตามเมื่อขึ้นมาด่านแรก797แล้วเข้าเขตOverheatเมื่อวานก่อนนี้%Kร้อนแรงเกิน95%ขึ้นไปก็จึงเจอขายปรับลดoverheat ตามคาดครับ
คาดว่าอาจตกปรับฐานลงมาเขตแนวรับuptrend785จุด หากยืนได้ก็ฟื้น เว้นแต่หลุดก็จะลงไปเขต775+/-(773-776)แล้วค่อยขึ้นใหม่ไปผ่านด่าน797เพื่อไป807,820จุด
1.คนเล่นสั้นหากขายขณะเหวี่ยงตัวขึ้นไปเขตแนวต้าน797ตามแนะนำวานนี้ เพื่อลดภาวะOverheat แล้วอาจรอดูท่าทีว่าจะตกปรับฐานจบภายใน1-2วันนี้ อาจรอรับกลับหากยืนเหนือเขต785ได้ แต่หากหลุดให้เล่นทางลง เพราะเสี่ยงลงไปเขต772-776จุด ค่อยซื้อ
2.คนเล่นรอบใหญ่หากยอมรับความผันผวนได้ก็ถือลุ้นต่อไป เพราะSET50เป็นไปในทางเดียวกับSET คือหากปรับลงมาวันสองวันนี้ก็เพราะลดoverheatก่อน หากสร้างฐานเหนือ772-775 หรือ785ได้สำเร็จก็จะเหวี่ยงไปต่อ น่าจะไปรอขาย820+/-