วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(7-8พย.54):อัพเดตปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด(หุ้นโลก,น้ำท่วม,ค่าเงิน,การซื้อขายของฝรั่ง,น้ำมัน)และทิศทางแนวโน้มสำคัญ ท่านไม่ต้องประหลาดใจหากเกิดเรื่องตามคาดการณ์นี้

ท่านต้องการข้อมูลที่เร็วทันการตัดสินใจ และเจาะลึกหุ้นเด่นรายตัวไหม?...

เนื่องจากบทความที่ผมนำมาลงให้อ่านในblogนี้

จะลงช้าไป 1 วัน หรือลงให้อ่านหลังสมาชิกของเรา และไม่มีคำแนะนำการลงทุนหุ้นเด่นรายตัว

ขอแนะนำพบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ด้วยการสมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และที่สำคัญฟันธงหุ้นเด่นรายตัว ราคาซื้อ-เป้าหมายขายทำกำไร ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/

หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร

สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

พิเศษสุดเ้มื่อสมัครสมาชิกแล้ว แลกรับสิทธิเข้าฝึกอบรมการเป็นนักลงทุนมืออาชีพกับโปรแกรมต่างๆดังต่อไปนี้(เจอกันหลังพ้นวิกฤตน้ำท่วม)

-หลักสูตรมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย สอนแมงเม่าให้เป็นเซียน
-หลักสูตรจัดการบริหารพอร์ตแบบมืออาชีพ ไม่เป็นมวยวัด
-หลักสูตรกราฟเทคนิคสำหรับมือใหม่และผู้เริ่มต้น
-หลักสูตรกราฟเทคนิคขั้่นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน
-หลักสูตรเก็งกำไรTFEXและสินค้าโภคภัณฑ์ อัตราแลกเปลี่ยนด้วยกราฟระดับนาที


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***หมายเหตุ:บทความนี้จะลงช้าไป 1 วัน หรือลงให้อ่านหลังสมาชิกของเรา และไม่มีคำแนะนำการลงทุนหุ้นเด่นรายตัว สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่นรายตัว ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

ช่วงสัปดาห์นี้ผมจะขออัพเดตสถานการณ์ตลาดหุ้น และแนวโน้มแบบย่อๆพอสังเขปนะครับ รวมทั้งปัจจัยผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบ(ตลาดหุ้นอเมริกา,วิกฤตหนี้ยุโรป,ราคาน้ำมัน,ค่าเงินบาทและทิศทางการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย และวิกฤตน้ำท่วม)


I.แกว่งตัวระหว่างแนวต้านแนวรับ940,948 กับ970,975หากทะลุด้านใดด้านหนึ่งจะชี่ขาดขึ่นหรือลงในช่วงต่อไป


ชาร์ตที่1 ชาร์ตรายสัปดาห์ของSET:รอบที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเราได้รับผลกระทบวิกฤตหนี้ในยุโรป เลยร่วงแรงลงมาเขต 843 หรือเขต1ใน3ของโครงสร้างใหญ่(วัดจากพีค1148เมื่อต้นเดือนสิงหาคม กับฐาน380เมื่อเดือนพฤศจิกายน2551)แล้วฟื้น แต่นับว่าลงมาน้อยหากเทียบกับตลาดยุโรป หรือฮ่องกง ดังนั้นหุ้นไทยจึงไม่เหมือนฮ่องกงดังที่มักเข้าใจผิดกัน เพราะหากเหมือนฮ่องกงนั้น หุ้นไทยต้องตกไปเขต635-675จุดไปแล้ว(ให้อ่านบทความใน2สัปดาห์ก่อน)

ตอนนี้ต้องลุ้นว่าขึ้นมาจะผ่านแนวต้านDowntrend ซึ่งสัปดาห์นี้(7-11พย.)อยู่เขต970-975จุด หรือไม่

ซึ่งช่วงสัปดาห์ก่อนไม่ผ่านต้านดาวน์เทร็นด์เขต985จึงโดนขายตกปรับฐานลงมาเขต945ในวันพฤหัสฯก่อน แต่หากสัปดาห์นี้ผ่านดาวน์เทร็นด์ก็จะคอนเฟิร์มจบขาลงเบ็ดเสร็จ(bottom out)


ชาร์ตที่2ชาร์ตรายวันของSET: ข้อดีคือว่าการปรับฐานลงมาเขต902จุดในเที่ยวล่าสุดนี้ เป็นการทำฐานยกสูงขึ้น(ทำhigher low)หากเทียบกับโลว์ก่อนที่843 และเมื่อขึ้นมาล่าสุดนี้มาเขต985 สูงกว่าไฮยอดก่อนที่973(ทำhigher high)

ตามทฤษฎีDOW หรือDOW THEORYนี่ก็คือสัญญาณการกลับตัว(reversal pattern)ที่สำคัญมากๆแสดงว่าจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากขาลงไปเป็นขาขึ้น หรือแกว่งตัวขึ้น

ตามทฤษฎีนี้ก็ต้องคาดการณ์ว่าการตกปรับฐานลงมาเที่ยวล่าสุดในช่วงนี้จะยกฐานสูงขึ่นกว่าlowที่แล้วคือ 902 อาจเป็นตั้งแต่เขต945จุดในสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกันเมื่อลงมาจบที่บริเวณดังกล่าว ก็ต้องลุ้นขึ้นปผ่านแนวต้านDowntrend~970-975 และเมื่อจะขึ้นรอบใหม่ก็จะมีนิวไฮสูงกว่าไฮก่อนคือ985 อาจเป็นเขต995-1000หรือกระทั่ง1030-1045จุด

แต่เดี๋ยวก่อน! เรามาดูก่อนว่าตลาดรอบนี้จะมีเป้าหมายตกปรับฐานลงมาเท่าไหร่ก่อน

ที่แน่ๆคือSETได้ขึ่นไปทดสอบแนวต้านdowntrend Lineใหญ่เขต985แล้วเมื่อวันศุกร์31ต.ค.คือชนด่านDowntrend~985พอไม่ผ่านก็ถอย(วันจันทที่7พ.ย.=969จุด)

ก.ในทางดี หากภายในวันนี้(7-8พ.ย.)ผ่านด่าน970 หรืออย่างช้าภายในวันศุกร์(11พ.ย.)SETผ่านแนวต้านDowtrendที่ว่านี้เขต960-970+/- ก็มีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเป็นขาขึ้นไปด่านต่างๆในระยะต่อไปดังนี้

-ด่านแรกไฮเก่า985เพื่อขึ้นไปด่านถัดไป995-1000
-ด่านที่สองบริเวณ1030-1045
-ด่านสามคือพีคเก่า1148
-ด่านสี่คือขึ้นไปนิวไฮที่1250+/-(เวลานี้ฟังดูเหลือเชื่อ แต่หากอิงทฤษฎีทำลายเชิงสร้างสรรค์ก็คือหลังวิกฤตจบแล้วหุ้นจะขึ้นทำนิวไฮตลอดนะครับ)

ถามว่าเมื่อไหร่ ให้กลับไปอ่านบทความที่ผมเขียนไว้2-3สัปดาห์ก่อน(ก่อนจะกลัวเรื่องน้ำท่วมกัน)คือราวๆปีใหม่หรือตรุษจีนปีหน้าครับ

ข.ในทางที่จะเกิดการตกปรับฐาน

จากชาร์ตที่2SETรายวันรอบล่าสุด:หากยังไม่ผ่านแนวต้านDowntrendก็แสดงว่ายังไม่เปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้น ต้องตกปรับฐานลงมาก่อน โดยเป้าหมายการตกปรับฐานเป็นดังนี้

-กรณีดีที่สุด ลงแค่960 แล้วขึ้นผ่านด่าน970เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ่น
-กรณีกลางๆเขตโลว์สัปดาห์ก่อนคือ 945+/- คือตั้งแต่943-948จุด จากนั่นก็จะไปทดสอบแนวต้านDowntrend~970-975แล้วเป็นทางขาขึ้นเหมือนที่กล่าวในข้อก.

-กรณีแย่ๆ(Worse case) จะตกลงมาเขต1ใน3ของโครงสร้าง เมื่อวัดจากพีคล่าสุดเขต985.70 และBottom 943.69=938-931จุด(บริเวณ38.20%-33.33%fibonacci retracement)

-กรณีแย่ที่สุด(The Worst case)คือหลุดลึกกว่าเขต1ใน3คือหลุดลงลึกกว่าเขต930+/-จะตกไปเขต915หรือ897-890(ซึ่งก็คือทำนิวโลว์ลึกกว่าโลว์เก่า902 แสดงว่าเสี่ยงเป็นขาลงไปลึกๆเช่นเขต843-850หรือกว่านั่นได้

ในชั้นนี้ผมคิดว่าด่านUptrend945+/- หรือ960+/-น่าเป็นกรณีที่น่าเอาอยู่ โดยให้จับตาดูว่าภายในวันศุกร์11พ.ย.จะผ่าน
ด่าน970-975ขึ่นไปหรือไม่ หากผ่านก็จะเป็นไปตามสมมุติฐานนี้

กลยุทธ์-1.ท่านก็ต้องดูว่าในช่วงนี้ไปซักสัปดาห์ หากSETปรับฐานลงจะลงเท่าไหร่ หากทำฐานยกสูงขึ้นกว่าlowสัปดาห์ก่อนนคือ945+/-แสดงว่าตลาดแกร่งมาก จะมีโอกาสไปผ่านด่านใหญ่Downtrend970-975 และเปลี่ยนทางเป็นขาขึ้นยาวเลย กรณีนี้ท่านที่มีหุ้นในมือก็ต้องถือ หากจะซื้อเพิ่มผมว่าเอาให้ดีไปรอตอนมีนผ่านDowntrendขึ้นไปแล่วfollowก็ดีกว่า เว้นแต่ท่านจะaggressiveก็ดูว่าหากยืนเหนือด่าน945-960ก็ซื้อเลย

2.กรณีด่านแรกไม่อยู่ก็ดูด่านกรณีฐานคือ930-938และทำแบบข้อ1
3.กรณีเสี่ยงคือหากลงหลุดเขต930ไปจะดูแย่ ควรอิงเล่นขาลงมากกว่า
4.ส่วนท่านที่เล่นเป็นรอบสั้น เข้าออกตามด่านต่างๆผมจะอัพเดตให้เป็นระยะๆ อย่างเช่นช่วงที่ผ่านมานี้ก็แนะนำให้ดูด่านแนวต้านDowntrendว่าจะผ่านไหม (เขต970-975) หากไม่ผ่านก็ขาย รออ่อนลงยืนเหนือโลว์เก่า945+/-ซื้อคืน แล้วลุ้นว่าช่วงนี้ผ่าน970-975หรือไม่ หากไม่ผ่านก็ขาย แต่หากผ่านก็ต้องถือไปรอขายด่านถัดไปเขต995-1000จุด


(หุ้นเด่นรายตัวขอให้ท่านสมาชิกอ่านในคอลัมน์บทความกระทิงทองส่องหุ้นที่ผมเขียนไว้ในtontancorp.com)



ชาร์ตที่4SET50 หากคำนวณจากฐานรอบล่าสุด 571 และพีครอบก่อนที่806 จะมีเป้าหมายขึ้นดังนี้

-ด่านแรกเขต1ใน3=650-660ซึ่งผ่านมาแล้ว โดยเมื่อวันพฤหัสก่อน(3พ.ย.)ลงมาที่655จุด ซึ่งเป็นแนวรับuptrend
-เมื่อยืนด่านนี้ได้ จะขึ่นทดสอบแนวต้านDowntrend=680
-หากผ่านด่าน680 จะไปพีคเก่า689
-ด่านสำคัญถัดไป716-727(ต้องลุ้นSETผ่านด่านร970แล้วไป995-1000หรือ1030-1045ด้วย)

*เป้าหมายการตกปรับฐานหลักๆคือเขต1ใน3คือ660-650จุด(38.20%-33.33%Fibonacci retracement)คาดว่ายืนได้แล้วจะฟื้นตัว

ดังนั้นสัปดาห์นี้สำหรับคนเทรดดิ้งระยะสั้นอาจต้องอิงในกรอบที่1ที่กล่าวไปข้างต้นคือหากขึ้นไปเขต689ไม่ผ่านก็ขาย อ่อนลงเขต660-650ช้อนซื้อคืน แต่หากทำท่าผ่านด่าน689ก็ต้องเล่นอิงขาขึ่นไปเป้าถัดไป716-727จุด

ตอนนี้โดยเมื่อยืนเหนือเขต660-650ได้ก็จะวกขึ่นไปทดสอบแนวต้านแรกเขต680ถัดไปคือพีคเก่า689ถัดไป716-727จุด

II.อัพเดตปัจจัยที่มีผลกระทบต่อหุ้นไทย(ราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท และการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ และตลาดหุ้นต่างประเทศที่สำคัญ)ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนเดทิศทางหุ้นไทย



ชาร์ตที่5ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าWTIในตลาดโลก:ที่ผ่านมาตอนที่SETตกแรงลงไปเขต843 หุ้นน้ำมันเครือPTTและเคมีตกหนักมากทั้งPTT PTTEP TOP PTTGC ESSO IRPC ก็เนื่องจากว่าหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ จะผันผวนตามการขึ่นลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก(ผมจึงย้ำกับนักลงทุนที่ชอบถามผมว่า”ซื้อPTTและหุ่นในเครือถือยาวๆไปเลยได้ไหม?ว่า”ไม่ได้” เพราะมีนขึ่นลงผันผวนกับราคาน้ำมัน หากจะเล่นหุ้นพวกนี้ต้องหาจังหวะซื้อให้เป็น หาจังหวัขายให้ถูก เพราะหากซื้อผิดทาง ขายผิดเวลานี่ถึงเจ๊งเลยนะครับ)

ที่ผ่านมาผมฟันธงว่าน้ำมันดิบโลกจะลงไปเขต75-77$แล้วจะลงจบเพราะเป็นแนวรับด่านสุดท้ายเขต2ใน3 ดังนั้นเวลานั้นผมจึงแนะนำว่าหากใครติดหุ่นพวกนี้ไว้อย่าขาย และน่าซื้อเฉลี่ย หรือช้อนซื้อเก็งกำไร

เหตุก็เพราะว่าน้ำมันโลกจะตกจบแถวนั่นแล้วจะฟื้น ด่านแรก83$หากผ่านจะไปด่านสอง
เขต96$ส่วนระยะต่อไปเขต110-115$

ดังนั้นท่านจะพบว่าหุ้นพวกนี้ก็ฟื้นขึ่นตามราคาน้ำมันดังที่ผมเคยฟันธงไว้ ปัญหาเวลานี้คือใกล้ต่านด่าน96.5$ก็อาจเป็นได้ที่จะพักฐานหน่อย หุ้นพวกนี้ก็อาจพักยกการขึ่นไปด้วย เว้นแต่ตีทะลุด่านนี้วิ่งอ้าวขึ่นไป110-115$อันนั่นก็จะ”ยาวเลยพี่”(แต่ผมคิดว่าน่าต้องพักตัวเขตนี้ก่อนมากกว่านะครับ)

ล่าสุดนี้ราคาน้ำมันดิบWTIมาใกล้95$


ชาร์ตที่6ค่าเงินบาท:ปัจจัยสำคัญที่ผมเคยคาดและเขียนไว้ว่าจะหนุนหุ้นไทยฟื้นอันแรกคือฝรั่งจะหยุดขายหุ้นและจะกลับมาซื้อหุ้นใหม่ โดยให้ดูที่ค่าเงินบาทเป็นหลัก

ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นมีความสัมพันธ์กันดังนี้


*หากค่าเงินบาทแข็ง แปลว่าเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาซื้อหุ้น ดังนั้นหุ้นขึ่น
*หากค่าเงินบาทอ่อน แปลว่าเงินทุนต่างประเทศไหลออกจากการขายหุ่น ดังนั่นหุ้นตก


ที่ผ่านมาตอนค่าบาทอ่อนลงไปทำรูปแบบDouble top31.26บาท/ดอลลาร์ และใกล้แนวต้านใหญ่ผมจึงให้สังเกตไว้ว่าต่อไปอาจเห็นค่าเงินบาทอ่อนลงมาเขต30.63บาท เราจะได้เห็นฝรั่งกลับมาซื้อหุ้น(ตอนนั้นก็มีบางท่านถามว่ามันไม่มีเหตุอะไรให้ฝรั่งกลับมาซื้อหุ้น ตอนนี้ท่านคงเจอเหตุแล้วคือความกังวลเรื่องหนี้ยุโรปคลายตัว แต่เงินทุนฝรั่งก็ไหลออกมาซื้อหุ้นเอเชียดีกว่า) ล่าสุดค่าเงินบาทแข็งมาเขต30.45 แล้วอ่อนลงไปที่30.90 ไม่ผ่านแนวรับใหญ่31บาท/ดอลลาร์

เท่าที่ดูจากชาร์ตผมว่าอาจแข็งต่อไปเขต30.20-30.35ได้ แปลว่าฝรั่งยังจะซื้อหุ้นไทยต่อไปครับ


ชาร์ตที่7เป็นยอดซื้อขายสุทธิของฝรั่งในตลาดหุ้นไทย:ที่ผ่านมาผมชี้ว่าขายลงมาทำรูปแบบdouble bottomแล้วจะกลับมาซื้อ ตอนนี้ซื้อสุทธิจนผ่านด่านแรกแล้ว มาทดสอบแนวต้านด่านสอง จึงมีการขายสุทธิออกมาในช่วง2-3วันทำการนี้ แต่เมื่อขายพักฐานพอแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าจะซื้อต่ออีกมากพอสมควร อาจราวๆ15,000ล้านบาทโดยประมาณ ซึ่งตะเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นขึ่นต่อไป



ชาร์ตที่8:หุ้นเยอรมัน ซึ่งเป็นตัวแทนของตลาดหุ้นยุโรปที่เจอวิกฤตกรีซ ที่ผ่านมาผมเคยนำมาให้ดูว่าตกลงไปเขต2ใน3คือราวๆ4900แล้วฟื้น และน่าเข้าสู่ช่วงที่3ตามทฤษฎีทำลายเชิงสร้างสรรค์(Creative Destruction Theory)แล้ว แปลเป็นไทยคือทำbottom outแล้ว และระยะต่อไปเราจะได้เห็นหุ้นยุโรปเป็นขาขึ้น


ชาร์ตที่9ตลาดหุ้นฮ่องกง:ซึ่งร่วงลงรอบที่แล้วตามวิกฤตหนี้ยุโรป โดยลงมาพอๆกับตลาดหุ้นยุโรปคือเขตด่านสุดท้าย เขต2ใน3ของโครงสร้าง=16140โดยประมาณ จากนั้นฟื้นมาทดสอบเขต1ใน3=20000+/-ซึ่งก็คือดัชนีฮั่งเส็งในช่วงเวลานี้

ที่ผ่านมาผมชี้ให้เห็นว่าเป็นความเข้าใจกันผิดๆในหมู่นักลงทุนชาวไทยที่ว่าหุ้นไทยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับฮ่องกง เพราะหากเราเหมือนฮ่องกง ในรอบนี้แล้วหุ้นไทยต้องตกไปด่านสุดท้ายคือแถว635-675ไปแล้ว ไม่ใช่ลงมาแค่843ซึ่งเป็นเป้าหมายตกด่านแรกคือ1ใน3เท่านั้น

ผมจึงเห็นว่าหุ้นไทยนั้นคล้ายๆกับดาวโจนส์ หรือกลุ่มTIPมากกว่า อย่างไรก็ตามในรอบล่าสุดนี้หุ้นไทยเราไม่ดีเท่าดาวโจนส์หรือTIPเพราะเรามาเจอปัญหาน้ำท่วมใหญ่


ชาร์ตที่10ดาวโจนส์:ซึ่งตกมาเขต1ใน3คือราวๆ10400แล้วฟื้น และฟื้นได้ดีกว่าหุ้นไทยที่เจอปัญหาภายในเรื่องน้ำท่วม


ชาร์ตที่11:ตลาดหุ้นโซนTIP-Thailand Indonesia Philippines เวลานักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนในตลาดหุ้นย่านเอเชีย เขาจะนับเราเป็น1ใน3ประเทศนี้ ซึ่งจะพบว่าตอนเกิดวิกฤตหนี้ยุโรปเมื่อเดือนก่อนหรือ2เดือนก่อนนี้ตกลงมาพร้อมๆกันในอัตราใกล้เคียงกัน โดยหุ้นไทยลงมาเยอะท่าสุด(ชาร์ตล่างสุด) และพอตอนฟื้นก็ปรากฎว่าหุ้นไทยอยู่ตามหลังเพื่อนเช่นกัน นั่นก็เนื่องมาจากเราเจอภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่

ชาร์ตที่12:ส่วนผลเรื่องน้ำท่วมนั้นให้กลับไปอ่านทฤษฎีทำลายเชิงสร้างสรรค์(Creative Destruction Theory)ที่ผมนำมาอธิบายไว้ยาวๆเรื่องน้ำท่วมในช่วง1-2สัปดาห์ที่ผ่านมา กล่าวโดยสรุปคือผมเห็นว่าอยู่ในช่วงปลายระยะที่2คือซึมรอข่าวชัดเจน และหากชัดเจนว่าท่วมหรือไม่ท่วมกรุงเทพฯ ท่วมมากหรือน้อยแล้วก็จะเข้าสู่ระยะที่3คือrallyขึ้น เพราะเกิดความชัดเจนแล้ว

หากเห็นSETผ่านแนวต้านDowntrend~970-975เมื่อไหร่ ผมว่าจะได้เห็นการrallyขึ้นในระยะที่3

และอย่าได้ประหลาดใจกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นหละครับ หากมันเป็นไปตามคาดการณ์นี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น