วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เรียนกราฟเทคนิค ง่ายนิดเดียว:ตอนที่ 1 ขาขึ้น ทำอย่างไรไม่ให้ขาขึ้นมาก่ายที่หน้าผาก


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด


หากเรารู้ว่าตลาดหุ้น หรือราคาหุ้นของเราจะไปทางไหนก็คงจะดีทีเดียว เราจะได้ทำตัวถูก ไม่มั่วๆซั่วๆออกอาการแมงเม่า หรือมวยวัด

มีคนกล่าวว่า หุ้นจะขึ้นหรือตกไม่มีใึครรู้หรอก มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้


อาจารย์ดาว(ชาร์ลส์ ดาว-Charles H. Dow)บอกว่า เอะอะก็จะโยนไปให้แต่พระผู้เป็นเจ้า อย่ากระนั้นเลย มนุษย์คอหยักๆน่าจะืำทำนายทายทักได้

ว่าแล้วก็เขียนไปลงWall street Jounal หนังสือพิมพ์ประจำวงการหุ้น ซึ่งมีอาจารย์โจนส์(Earl Jones)เป็นบรรณาธิการคัดสรรอยู่


ในเวลาต่อมาตลาดหุ้นอเมริกาให้เกียรติทั้งสองท่าน โดยการนำนามสกุลทั้งสองไปตั้งชื่อดัชนีอุตสาหกรรม DOW JONESนั่นไงครับ


อาจารย์DOWบอกว่า ความจริงแล้วตลาดหุ้นนั้นสามารถพยากรณ์ได้ เพราะแม้ว่าจะผันผวนขึ้นๆลงๆ แต่เป็นความผันผวนที่มีระเบียบแบบแผน

ระเบียบแบบแผนที่้ว่านี้อาจารย์ดาวเรียกว่าเป็น"แนวโน้ม"(trend)ซึ่้งแบ่งเป็น

-แนวโน้มขาขึ้น(uptrend)
-แนวโน้มขาลง(downtrend)
-แนวโน้มทรงๆ(sideway trend)


พูดแบบกำปั้นทุบดินคือตลาดหุ้นก็แค่นี้แหละ หากไม่ขึ้นก็ลง หากไม่ขึ้นไม่ลงก็ทรงๆ

ในบทเรียนที่1ของ กราฟเทคนิค-ง่ายนิดเดียว:ตอนที่1ขาขึ้นนี้ มีเรื่องที่เราพึงต้องทราบอยู่ 3 เรื่อง

เรื่องแรก หน้าตาแบบไหนที่เรียกว่าขาขึ้น(uptrend)

เรื่องที่สอง แล้วจะรู้ได้ไงว่าเริ่มเป็นขาขึ้น หรือสิ้นสุดขาขึ้นไปถึงยอดดอย

เรื่องที่สาม หากเป็นขาขึ้นเราต้องลงทุน หรือซื้อขาย(trade)ยังไงถึงจะได้เงิน รวย ไม่ขายหมู...


เรื่องแรกก่อน หน้าตาของขาขึ้นก็เป็๋นแบบชาร์ตที่นำมาให้ดูนี้ ดูแล้วอย่าไปงง เอาให้ง่ายเข้าไว้ ขาขึ้นมีหน้าตาสำคัญคือ

ข้อหนึ่ง เวลาขึ้นแต่ละเที่ยวแต่ละยกจะทำจุดสูงใหม่(new high)เสมอ ดังภาพนี้ผมกำกับด้วยตัวH เห็นนะครับว่า มันทำจุดสูงใหม่อย่างต่อเนื่อง

ข้อที่สอง เวลาตกลงมาจะทำฐานยกสูงขึ้นกว่าจุดต่ำรอบก่อนเสมอ ผมแทนด้วยตัวLเห็นไหมครับ

ดังนั้นอย่างล่าสุดนี้ หากเราจะพยากรณ์ว่าตลาดหุ้นยังเป็นขาขึ้นไหม ก็ดูเทียบกับฐานหรือLก่อน ทำไว้1129.40 หากลงมาเที่ยวนี้ไม่ทำจุดต่ำลึกกว่าเขต1129.40 แสดงว่าทำฐานยกสูงขึ้น หรือเรียกกันว่า"ตกปรับฐาน" จากนั้นขึ้นรอบใหม่ก็ต้องพยากรณ์ว่าจะทำHหรือทำจุดสูงใหม่ขึ้นไปเกินกว่าHเดิมที่ทำไว้1148

เรื่องที่ 2 ตลาดเริ่มเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่? โดยทั่วไปเกิดขึ้นภายหลังจากขาลงจบสิ้นลงแล้ว(bottom out)หรือจบแนวโน้มประเภททรงๆตัวแล้ว(จะกล่าวถึงในตอนหน้า) ข้อสังเกตสำคัญคือ เริ่มทำจุดสูงใหม่ขึ้น และทำฐานยกสูงขึ้นในเที่ยวแรก นั่นแหละเริ่มเป็นขาขึ้นแล้ว

อย่างในชาร์ตนี้ตอนที่เริ่มทำจุดต่ำยกสูงขึ้นมาเขต900จุด(สูงกว่าฐานเดิม843จุด)และทำจุดสูงใหม่มาแถว975เทียบกับจุดสูงเดิม950นั่นแหละคือเริ่มขาขึ้น

แล้วจะจบขาขึ้นถึงยอดดอยเมื่อไหร่ คำตอบคือไม่ต้องไปสนใจว่าเมื่อไหร่ ตราบเท่าที่เวลาขึ้นยังทำจุดสูงใหม่ ลงมาทำฐานยกสูงขึ้น หรือปรับฐานสูงขึ้นท่านว่าเป็นขาขึ้น จะจบขาขึ้นก็เมื่อครบ 2 องค์ประกอบนี้

ข้อแรก ลงมาแล้วทำจุดต่ำใหม่กว่าฐานเก่า(เช่นเวลานี้ลงมาแล้วลงไปลึกกว่าlowเก่าเขต1129.40)

ข้อสอง ขึ้นไปแล้วไม่มีจุดสูงใหม่ เช่น จุดสูงเที่ยวล่าสุด1148 หากทำท่าขึ้นอีกรอบไม่มีทำยอดสูงกว่า1148แสดงว่าหมดขาขึ้นแล้ว หากไหลลงมาทำนิวโลว์ลึกกว่าฐานก่อน1129ก็เป็นอันว่าเอวังมีด้วยประการฉะนี้

แล้วไม่ต้องถามว่าจะลงไปเท่าไหร่ อย่าไปคิดว่าเวลาลงแล้วนิดหน่อย ก็เขาบอกเป็นขาลงไง ก็ลงไปเรื่อยๆทำนิวโลว์ลงเป็นทาง เวลา่เด้งขึ้นนิดเดียว(เดี๋ยวจะว่าในตอนหน้า ขอพรุ่งนี้นะ ของดีมีน้อยใช้สอยอย่างประหยัด)

เรื่องสุดท้าย ต้องทำอย่างไรหากอยู่ในทิศทางขาขึ้น

กลยุทธ์ที่ 1 ให้ซื้อ

กลยุทธ์ที่ 2 ให้ซื้อ

กลยุทธ์ที่ 3 ให้ซื้อ

กลยุทธ์ที่ 4 ให้กล้าถือทนๆกันหน่อย

กลยุทธ์สุดท้าย ให้ขายล้างพอร์ต


ขยายความพอสังเขป..

กลยุทธ์ที่ 1:ซื้อสะสม หากคุณเห็นตลาด หรือราคาหุ้นที่เล็งไว้เปลี่ยนแนวโน้มเริ่มเป็นขาขึ้น(เริ่มทำฐานหรือจุดLow)ยกสูงขึ้นให้ซื้อสะสม หรือซื้อเก็บซักส่วน อาจจะ20-30%ในสัดส่วนที่อยากซื้อทั้งหมด

กลยุทธ์ที่ 2 ซื้อตามน้ำ(follow buy) หากคุณเห็นเริ่มทำจุดสูงใหม่เป็นครั้งแรก ให้แน่ใจได้แล้วว่า ขาขึ้นหรือแนวโน้มที่สดใสกำลังมาให้ซื้อจนเต็มพอร์ต อาจจะ70-80%ที่เหลือไว้

กลยุทธ์ฺที่3 เสี่ยงมากได้มากในขาขึ้น หากคุณดูกราฟแม่น อ่นเทร็นด์ขาด อยากเพิ่มกำลังซื้อให้ตัวเองอาจขอให้โบรกเกอร์ออกมาร์จิ้นมาซื้อในช่วงทิศทางขาขึ้น

กลยุทธ์ที่ 4: ถือทน ไม่ใช่ทนถือ ข้อนี้สำคัญ หากคุณเห็นเป็นขาขึ้นแน่ๆคือเฝ้าดูว่าเวลาขึ้นแต่ละเที่ยวมีจุดสูงใหม่ ตกลงมาทำฐานยกสูงขึ้น ให้คุณกล้าที่จะถือต่อเนื่องต่อไป ฝรั่งเรียกว่าให้let profit run

ผมเรียกว่ากลยุทธ์ถือทนครับ เพราะราคาหุ้นจะขึ้นไปเรื่อยๆ ตกปรับฐานมาบ้างช่างหัวมัน เพราะขึ้นรอบหน้าก็สูงกว่าเก่า กำไรงอกงามออกดดอกออกผลกว่าเดิม อันนี้จะต่างกันกับ"ทนถือ"เพราะติดหุ้น พวกคุณๆก็ยังกัดฟันอมเลือดอมหนองยอมถือกันได้เลย

กลยุทธ์สุดท้่าย อย่าลืมขายเมื่อจบขาขึ้น ดูอย่างไร ก็ดูว่าหากขึ้นไปไม่ทำจุดสูงใหม่แล้ว ไหลลงเริ่มทำนิวโลว์ ขายให้หมด ขายล้างไส้ล้างพอร์ต ไม่ต้องประนีประนอมรอมชอม

ขายเสร็จอย่าซ่า อย่าคัน อย่ายุึกยิก แล้วเฝ้าดู ตราบเท่าที่ลงแล้วนิวโลว์ต่อเนื่อง เด้งขึ้นไม่มาถึงยอดเดิม คุณแน่ใจได้เลยว่าคุณทำถูกแล้ว

*************
กิจกรรมฝึกอบรมครั้งหน้า อบรมจัดพอร์ตหุ้นเด่นเล่นให้รวยด้วยคู่มือหุ้นเด่นไตรมาส2:25 มีนาคม 2555

ประกอบไปด้วย

*ผมจะจัดทำคู่มือหุ้นเด่นเล่นให้รวยชุดใหม่ไตรมาส2แทนชุดเดิมที่ขึ้นไปเยอะแล้วให้ 1 เล่ม
*สอนวิธีจัดพอร์ตและบริหารพอร์ตแบบมืออาชีพ เลิกเป็นมวยวัดและแมงเม่า
*สอนวิธีคัดหุ้นเด่นด้วยปัจจัยพื้นฐาน สไตล์วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีหุ้นโลก
*สอนวิธีคำนวณหามูลค่าหุ้นด้วยวิธีเรียนลัดง่ายๆไม่ยุ่งยาก ใครก็ทำได้
*สอนวิธีหาจังหวะเข้าออกซื้อขายหุ้นให้แม่นยำจับวางประดุจเทพ

งานมีวันอาทิตย์ 25 มีนาคม สอนที่ห้องฝึกอบรมบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ค่าเรียน 4,500 บาท มาหลายท่านมีส่วนลด จ่ายก่อนวันงานมีส่วนลด สอบถามที่ 02-9275800



ฝ่ายการตลาดของบริษัทฯฝากมาขายของครับ ท่านใดอยากให้ผมรับใช้อย่างใกล้ชิดก็เชิญครับ

สำหรับเพื่อนใหม่ขอแนะนำบริษัทย่อๆ

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทให้คำปรึกษาการลงทุน มาตั้งแต่พ.ศ.2540 ได้รับอนุมัติจัดตั้งโดยกระทรวงการคลัง อยู่ใต้การกำกับกลต.

ธุรกิจที่ให้บริการ

1.ให้คำปรึกษาการลงทุนทั่วไป(ให้คำแนะนำหุ้น แล้วไปลงทุนเอง)
2.ให้คำปรึกษาแบบเฉพาะเจาะจง(ช่วยให้คำปรึกษาจัดการบริหารพอร์ตการลงทุน)
3.บริการให้คำแนะนำผ่านสื่อต่างๆ โดยได้รับอนุึญาตจากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
4.จัดการฝึกอบรมการลงทุนแบบมืออาชีพแก่นักลงทุน(การจัดพอร์ต การคัดหุ้นเด่นทางปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์เทคนิค และอื่นๆ)

บริษัืทของผมcoverเงินลงทุนอยู่เท่าไหร่? คำตอบคือหลายหมื่นล้านบาท เพราะลูกค้าของผมที่พอร์ตระดับหมื่นล้านบาทมีอยู่ 2 ราย(อันนี้หมายถึงลูกค้าที่รับคำแนะนำและจ้างผมเป็นที่ปรึกษา ไม่รวมคนดูทีวี ติดตามทางfbอะไรนะครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น