วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อย่าขวัญผวากับBlack Mondayไปเลย เหตุการณ์ดาวโจนส์ตกเมื่อวันศุกร์19ตุลาคมมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่วิตกกันหรอกครับ


อดีตหลอนวอลล์สตรีท-พาดหัวข่าวของWallStreetJournalในเหตุการณ์Black Mondayเมื่อ25ปีก่อน หุ้นตกวันเดียว508จุด หรือ23%(ซึ่งหากเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบัีน หากหุ้นตก23%จะเท่ากับตก3,000จุดภายในวันเดียว!...แต่เมื่อวันศุกร์19ตุลาคมปีนี้ดาวโจนส์ลงมา205จุด ดูเหมือนตกแรงจริงอะไรจริง แต่คิดเป็นเพียง1.52%เท่านั้น)



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8316111 http://www.facebook.com/tontancorp
เขียนเรื่องนี้เสร็จ โพสต์ให้อ่านกันแล้วผมก็ไปออกรอบลดพุงซะหน่อยครับ หลังๆนี้อ้วนจริงอะไรจริง


เมื่อวันศุกร์ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา มีความหมายสำหรับวงการตลาดหุ้นโลกมาก เพราะเป็นวาระครบรอบ25ปีเหตุการณ์Black Monday ภาพฝังใจในอดีตได้หวนกลับมาหลอนชาวหุ้นกันอีกรอบ

เหตุกา่รณ์ที่เรียกว่าBlack Monday หรือจันทร์ทมิฬเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 1987 (พ.ศ.2530)เมื่อเกิดการร่วงลงหนักของดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นอเมริกาในชั่ววันเดียวลบไป508จุด หรือคิดเป็นร้อยละก็กว่า23% หรือเกือบ1ใน4ของดัชนีหุ้นเวลานั้น ที่ร่วงจากเขต2300จุดมาเขต1,700จุด

สื่ออเมริกันทุกสำนักมักมีรายงานเหตุการณ์ทำนองนี้เป็นประเพณีเมื่อวาระหวนมาครบรอบ แต่ปีนี้เอิืกเกริกหน่อยเพราะเป็นวาระกึ่งศตวรรษBlack Monday การโหมรายงานข่าวทั้งวี่ทั้งวัีนทั้งทา่งทีวี เคเบิล อินเตอร์เน็ตและสารพัดสื่อ พร้อมกับขู่เป็นนัยๆเตือนไว้กรายๆว่า"ระวังไว้เหอะประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย"...พอมีรายงานผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างไมโครซอฟต์ออกมา ไม่ค่อยสมหวังกันเท่าไร เลยได้เป็นตัวจุดชนวนให้มีการเทขายหุ้นออกมา

ความต่างระหว่างBlack Mondayเมื่อ25ปีก่อน กับเหตุการณ์ที่สื่ออเมริกันพยายามขานว่าเป็นBlack Fridayเมื่อวันศุกร์19ตุลาคมล่าสุดนี้ที่สำคัญก็คือว่า เมื่อ25ปีก่อนนั้่น หุ้นตกวันเดียว-508จุด หรือ-23% แต่้หากเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบัีนที่ดาวโจนสฺ์อยู่เหนือ13,000จุดนั้น หากให้หุ้นตก-23%เทียบเท่ากับBlack Mondayแล้ว จะเท่ากับตก-3,000จุดภายในวันเดียว!...

แต่เมื่อวันศุกร์19ตุลาคมปีนี้ดาวโจนส์ลงมา-205จุด ดูเหมือนว่าตกเยอะก็จริง แต่คิดเป็นการตกแค่เพียง-1.52%เท่านั้น

ครับฐาน25ปีก่อนดัชนี2,300ตกมา508จุดเลยสาหัสมากเพราะร่วงวันเดียวซะ1ใน4ส่วน แต่ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้่ลงมาดูเหมือนน้องๆฺฺBlack Monday ได้อารมณ์ทำนองนั้น แต่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็จิ๊บๆ-1.52% เพราะฐานตอนนี้คือ13,000จุดครับ....คนละเรื่อง อย่างเทียบกันไม่ได้

แต่ก็ถือว่าสื่อมวลชนอเมริกัน ได้ปลุกบรรยากาศหลอนๆชาววอลล์สตรีทได้อีกวาระหนึ่ง ว่างั้น

ทิศทางดาวโจนส์-ตกปรับฐานมากกว่าจะร่วงวินาศครับ
ชาร์ตดัชนีดาวโจนส์ล่าสุด เป็นการตกปรับฐานลงมาหลังจากขึ้นไปสร้างจุดต้านในรูปแบบ2ยอด(Double top)เขต13660จุด พอไม่ผ่านก็ตามมาด้วยการตกอย่างที่เห็น โดยจะมีฐานแนวรับทั้งที่เคยเป็นเขตพีคเก่า(previous high) ทั้งเส้นแนวรับUptrend line)ก็ราวๆใกล้กับจุดที่่เทลงมาเมื่อวันศุกร์19ตุลาคมที่่ผ่านมาแหละครับคือราวๆ13,000ต้นๆมาแถว13,250จุด+/- ขณะที่เครื่องมือBolinger Bandชี้ว่าราคาหุ้นดาวโจนส์ลงมาเขตOverSoldหรือตกมากเกินไปแล้ว เพราะราคาลงมาแตะBandด้านล่างแล้ว ดังนั้นหากไม่ผิดไปจากที่ผมคาดการณ์ ในสัปดาห์หน้าเราจะได้เห็นดาวโจนส์ฟื้นขึ้น อาจกลับไปเขต13650อีกที และก็คงไปวิ่งขึ้นแรงๆหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 6 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ 

ล่าสุดตลาดหุ้นฮ่้องกง(ที่ไทยมักอ่อนไหวตาม)เปิดมาเช้าวันจันทร์-111จุด หรือ-0.52%แล้วค่อยกระเตื้องขึ้น ในเวลา08.30น.เหลือติดลบเพียง-48จุดเท่านั้นครับ


ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยวันจันทร์ที่จะถึงนี้และสัปดาห์หน้าจะเป็นยังไง สำหรับท่านสมาชิกที่บอกรับข้อมูล การฟันธงและคำแนะนำการลงทุนแบบExclusiveจากผมก็รออ่านก่อนเปิดตลาดเช้าวันจันทร์กันครับ

----------------
แนะนำอ่านเรื่องเกี่ยวข้อง:ท่านที่สั่งซื้อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยไตรมาส4/255ไป ควรอ่านในบทแรกที่ผมเขียนถึงตลาดหุ้นอเมริกามีสถิติว่ามักตกก่อนวันเลือกตั้งซักหน่อย แต่หลังเลือกตั้งจะRallyขึ้นไปเกือบ20%ในช่วงHoneymoon period (เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารที่ผมคัดมาจากตลาดหุ้นไทยไตรมาส4/2555)

เลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา 6 พฤศจิกายน ผลต่อตลาดหุ้นทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง ต้องกำหนดกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น