วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566

คนที่อยู่ในลูปที่ผิดก็จะผิดไปตลอด

 
คนที่อยู่ในลูปที่ผิดก็จะผิดไปตลอด-จากประสบการณ์ของผมกว่า30ปีนั้นสอนผมว่า หากเราคาดการณ์พยากรณ์ตลาดผิด และทำผิด ได้ผลลัพธ์ที่ผิด เราเองก็มักจะมีแนวโน้มทิศทางที่จะผิดยาว จนกว่าจะออกจากลูปนั้นได้ไปสู่ทางที่ถูกเจอ...คราวนี้มาดูว่าผมผิดตรงไหน นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการออกจากลูปที่ผิด

1.ข้อมูลสำคัญของผมคือก่อนหน้านั้น ธนาคารกลางสหรัฐใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดได้ผลดี ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง จากระดับ9.1%ในปีก่อนลงมา3%ใกล้เป้าหมายที่ระดับ2%แล้ว นั่นทำให้ผมมีข้อสมมุติฐานว่า การยุติการขึ้นดอกเบี้ยกำลังจะตามมา และอาจได้ลุุ้นการลดดอกเบี้ยลง(ซึ่งจะมีผลให้เงินทุนไหลออกจากสหรัฐ ดอลลาร์และพันธบัตรจะอ่อนลง ไปมีผลให้สกุลเงินอื่นๆแข็งขึ้น ทองคำขาขึ้น ตลาดหุ้นโลกรวมทั้งไทยได้ผลบวก)
ข้อสมมุติฐานนี้ถูกเรื่อยมา ทุกอย่างถูกทุกข้อ ยกเว้นตลาดหุ้นไทยไม่ขึ้นเลย เพราะติดหล่มการเมืองช่วงที่ผ่านมา

2.จนกระทั่งต่อมาFEDได้หยุดขึ้นดอกเบี้ยรัวๆตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ปรากฎว่าอัตราเงินเฟ้อที่เคยลงมา3%(ใกล้เป้าหมาย2%)ได้ฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ต่อเนื่องกันยายน อันเนื่องมาจากราคาเชื้อเพลิงที่แพงขึ้น ทำให้ในการประชุมFEDล่าสุดในเดือนกันยายน แม้ว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับ5.5% แต่มีแถลงแนบท้ายชี้ว่าอาจขึ้นดอกเบยี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนสู่ระดับ5.75% และจะคงอัตราดอกเบี้ยแพงไปถึงปลายปีหน้า

3.นั่นก็เลยทำให้ค่าเงินดอลลาร์แพงขึ้น บอนด์ยีลด์ทำนิวไฮ ตลาดหุ้นอเมริกาตก ทองคำลง
ตลาดหุ้นทั่วโลกลงตาม ตลาดหุ้นไทยซึ่งUnderperformanceมาตลอดปีนี้ แม้การเมืองเปลี่ยน ได้รัฐบาลใหม่ แต่ความไม่มั่นใจในนโยบายประชานิยมหว่านแจกเงิน และรับผลลบจากหุ้นโลกที่ตกลงมา ก็พลอยลงมากับเขาอีกด้วย

4. ตลาดหุ้นไทยนั้น ในระยะกลางคือ3ปีที่ผ่านมาก็เรียกว่าไม่ได้ไปไหนมาไหน คือแกว่งซึมsidewayในกรอบระหว่างกรอบล่างราวๆ1500จุด หากหลุดลงมาก็ไม่แย่กว่าราวๆ1450จุด+/-(ตั้งแต่1468ถึง1432จุด) จากนั้นก็แกว่งขึ้นไปกรอบกลางราวๆ1600 จุด หรือกรอบบนสุด1700จุด+/-
ปัญหามีอยู่เพียงว่าในปีนี้ตลาดไปพีคกรอบบน1700จุดตั้งแต่ตอนปีใหม่ จากนั้นก็เป็นขาลงมาตลอดปี พอช่วงกลางปีมาตอนนี้ก็ซึมๆทรุดๆ เป็นบรรยากาศตลาดหมีที่คนในตลาดอยู่ในภาวะอารมณ์แบบgloomy และpessimismไปทั่วตลาด
ตลาดจะลงไปแย่กว่านี้มากๆไหม ผมคิดว่าไม่นะครับ มันก็วนอยู่ในกรอบเดิมของมันที่เป็นมาแล้ว3ปีนั่นเอง
หากจะกำหนดเป็นกลยุทธ์ก็คือ ลงมากรอบล่าง1500 หรือต่ำกว่า1500มาแถวๆ1470-1430ก็ซื้อหุ้น ขึ้นไป1600 หรือ1700ก็ขายหุ้น เพราะตลาดมันก็เล่นอยู่แค่นี้
ประเด็นก็คงอยู่ตรงที่ว่าทิศทางแนวโน้มที่ว่านี้จะดำเนินต่อเนื่องไปอีกเท่าไหร่ หรือว่าได้discountเอาปัจจัยข้อมูลข่าวสารดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว
เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้แหละครับท่านสารวัตร .....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น