วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สอนลูกหลานนักเรียนนักศึกษาให้เริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วันนี้ เป็นเศรษฐีและมีชีวิตที่พอเพียงในวันหน้า ไม่เป็นสว.อนาถาในอนาคต

ในภาพอาจจะมี 2 คน, รวมถึง ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และชุดสูท
รศ.ดร.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ เชิญผมมาบรรยายให้คณาจารย์และนักศึกษาฟังเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อหวังจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวจังหวัดชัยภูมิchangeไปเชื่อมโยงระดับglobal อันเป็นวิสัยทัศน์ยาวไกลของนักบริหารระดับสูง
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ก่อตั้งพ.ศ.2540)
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจากอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ รศ.ดร.ศิริวัฒน์ โพธิเวชกุล และคณบดี คณะบริหารธุรกิจ ผศ.ดร.สำเริง ไกยวงศ์ ให้ไปบรรยายเรื่อง"เริ่มต้นลงทุนวันนี้ เป็นเศรษฐีในวันหน้า" ให้กับคณาจารย์และนักศึกษากว่า 500 คนฟัง ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัย ในโอกาสงานสถาปนาครบรอบ 18 ปีของมหาวิทยาลัย 
การพูดเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นให้นักศึกษาฟังนี่เป็นเรื่องยากนะครับ เพราะเขานึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว และยิ่งบอกว่าจะเป็นเศรษฐีร่ำรวยเงินทองด้วย ยิ่งไกลห่างไปกันใหญ่ เพราะนักศึกษาเขานึกว่า เรื่องการลงทุนหรือเล่นหุ้นนั้น เป็นเรื่องของคนรวย ประสบการณ์นักศึกษาส่วนมากก็เคยแต่แทงหวย ไม่เคยเล่นหุ้น และคิดว่าหุ้นกับหวยก็คงจะคือๆกัน เพียงแต่ว่า"คนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น"ในภาพอาจจะมี 2 คน, รวมถึง ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และชุดสูท
ผมก็เลยได้เล่าอย่างฟังแบบเข้าใจง่ายๆว่า เมื่อพวกเธอเรียนจบไปแล้ว อย่าว่าแต่จะร่ำรวยมั่งมีเลย ลำพังแค่อยากไปใช้ชีวิตแบบพอเพียง อันเป็นอุดมคติเป้าหมายของคนไทย ก็ยังเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม
เพราะหากเอามาตรวัดเป็นตัวเงินแล้ว ความพอเพียงนี่ก็น่าจะหมายถึงว่าแต่ละคนควรมีเงินหลังเกษียณราวๆ 7.5 ล้านบาทขึ้นไป (สำหรับค่าใช้จ่ายแบบสมถะพอเพียงราว3หมื่นบาทต่อเดือน ตกปีละ 380,000 บาท และเป็นเงินราว 7.5 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 20ปี หลังเกษียณอายุ )

หรืออยู่เขียมกินเขียม เดือนหมื่นห้า ตลอด20ปีหลังเกษียณก็ต้องมีเงินในบัญชีเกือบ4ล้านบาท
หากให้สุขสบายควรมี 12 ล้านบาทขึ้นไป (สำหรับใช้จ่ายสบายๆเดือนละ5หมื่นบาท ตกปีละ 6 แสนบาท ตลอดหลังเกษียณ 20ปี)ในภาพอาจจะมี 5 คน, ผู้คนกำลังนั่ง และสถานที่ในร่ม

ในภาพอาจจะมี 1 คน
แต่เรื่องมันเศร้าก็คือว่า มีคนไทยที่มีเงินในบัญชีระดับนี้เพียงไม่เกิน2% อีก98%นั้นยัง.! แล้วจะไปใช้ชีวิตที่พอเพียงได้อย่างไร..?!ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ
วิธีที่จะไปถึงวิถีพอเพียง หรือมั่งคั่งคือคือ
1.เก็บหอมรอมริบ 
2.เอาเงินเก็บออมมาลงทุนทำการค้า ซึ่งการลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์เป็นวิธีหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนสูง กำไรดี ทำให้เงินในบัญชีงอกเงย แต่ขอให้ลงทุนในหุ้นชั้นดี ถือยาวซัก 5ปีขึ้นไป หรือเกิน 10ปีก็ยิ่งดี โดยให้มีวินัยการลงทุน ด้วยการหักเงินจากรายได้ไปลงทุนแบบประจำสม่ำเสมอ แบบ DCA (Dollar Cost Average) จะลงทุนผ่านกองทุนรวมก็ได้ หรือเปิดบัญชีลงทุนเองก็ได้
ถ้าจะลงทุนผ่านกองทุนรวม ผมเอาตัวแบบ หรือโมเดลของบลจ.MFC ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ มาให้ดูจากกรณีศึกษาจริงของเขาที่ใข้วิธีDCAเฉลี่ยปีละ100,000บาท รวมเป็นระยะเวลา 10 ปี ในหุ้นบลูชิพ หรือหุ้นชั้นดี และใช้เวลาลงทุนให้ยาวขึ้นหน่อย แทนที่จะเก็บออมอย่างเดียว ต้องใช้เวลาถึง10ปี ถึงจะคว้าเงินล้าน แต่การลงทุนผ่านหุ้นที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี10.43%(บางปีขึ้น บางปีลง แต่เฉลี่ยแล้วบวกปีละ10.43%) ในเวลา10ปีก็ทวีคูณกำไรงอกเงยเป็น 2 ล้านบาท ดีกว่าเก็บออมเฉยๆตั้งเท่าตัว
และแม้จะหยุดเติมเงินลงทุนแล้ว ปล่อยให้กำไรเดินหน้า เงินก็จะงอกเงยเป็น 7 ล้านบาทเศษในปีที่24 และงอกเงยเป็น 12ล้านบาทในปีที่29 ตอนนั้นพวกเธอก็เลือกเอาว่าจะเกษียณอายุแบบพอเพียงที่ 7ล้านเศษ หรือเกษียณอายุแบบมั่งคั่ง เอา 12 ล้านบาทเศษไปใช้
ผมถามน้องๆนักศึกษาว่ามีใครแทงหวยมั่งยกมือขึ้น ปรากฏว่าเพียบ บางคนเฉลี่ยงวดละไม่ต่ำกว่า5,000บาท เดือนนึงมี2งวด ก็ตกเดือนละหมื่น...!
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป


ในภาพอาจจะมี 23 คน, รวมถึง Pumpuy Rattanaporn, Dararat Vichitsopapan, Siriwat Potivejkul, Nareerat Phukdeesiriwong, Krittameth Pok Nitiwatthana, Anchalee Chaisri และ Rittichai Phanak, คนที่ยิ้ม, สถานที่ในร่ม

ผมเลยบอกว่า งั้นก็ให้แทงหวยกันต่อไปเหอะ (ฮา!) แต่ว่าแทงเหลือเดือน 5,000 พอ ส่วนอีก 5,000 เอามาลงหุ้น หรือใครเรียนจบมีรายได้ซักเดือนละ 20,000 ก็กันมาเลยซัก 20% ก็ราวๆ 5,000 นั่นแหละ เอามาลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ปีหนึ่งก็ลงทุนราว 5-6 หมื่นบาทต่อปี ตามสูตรที่ว่านี้ราว 9ถึง10ปี ก็มีเงินล้านแล้ว หากคิดจากผลตอบแทนเฉลี่ยในตลาดหุ้นไทยราวๆ 10-12% ต่อปี และใช้เวลาอีกราว 30ปี ก็จะไปถึงเป้าความพอเพียง คือเงินลงทุนงอกเงยเป็นราวๆ 7-8ล้านบาท ถ้ายาวถึง 35ปี ก็จะงอกเงยเป็นราวๆ 12ล้านบาท...
ตอนนี้น้องๆนักศึกษาอายุ 20ถึง22ปี สมมุติจบไปทำงานเริ่มตั้งหลักได้ซักอายุ25 เริ่มลงทุนในตลาดหุ้น อีก30 ปีคืออายุ 55 ก็พอเพียง แต่หากต่อไปอีกถึง 35 ปี ก็60 ปี เกษียณพอดี กลายเป็นคนรวยตอนแก่
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และผู้คนกำลังยืน


แต่หากไม่เริ่มซะแต่ตอนนี้ ไม่ต้องให้หมอลักษณ์มาฟันธง ไม่ต้องให้หมอกริชมาคอนเฟิร์ม ก็เชื่อได้ว่าจะกลายเป็นคนยากจนอนาถา ชัวร์...

และหากยังทุ่มแทงหวยต่อไป ก็คงเหมือนหนังสือพิมพ์ลงข่าวเจ้าของร้านอาหารเมืองอุดรธานี ทุ่มซื้อล็อตเตอรี่มา5ปี หมดเงินไป2ล้าน ถ้าเอาเงิน2ล้านมาลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทน10.43% ตอนนี้เงินก็งอกเงยขึ้นมาเป็นเงินประมาณ4ล้านบาทแล้ว...แม้ไม่ถูกรางวัลที่1 แต่ก็งอกเงยขึ้นมาเยอะ จะไปหวังถูกรางวัลที่1แบบหนังสือพิมพ์ลงข่าวนั้นมันยาก เพราะมีโอกาสแค่เพียง0.0001%เท่านั้น

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ
สำหรับวิธีการลงทุนก็แสนง่าย แค่เดินไปปากซอย เจอแบงก์ไหนก็แวะเลย ไปหน้าเคาน์เตอร์แบงก์แจ้งว่าจะซื้อกองทุนหุ้นบลูชิพเพื่อลงทุนยาว ให้หักผ่านบัญชีเดือนละ 5พันบาท

หรือหากชอบลงทุนเองก็ไปตามห้างใหญ่ๆ ที่ไหนมีโบรกเกอร์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ ก็ไปเปิดบัญชีฟรี ไม่เสียตังค์ แต่ให้เขาหักผ่านบัญชีทุกเดือน เดือนละ 5พันบาท เหมือนกัน อาจจะคัดหุ้นใน SET50 มาซัก5ตัว ลงไปตัวละพันก็ได้ ใช้ระยะเวลาพอๆกับลงทุนในกองทุนรวมก็จะกลายเป็นรวยก่อนแก่ หรือแก่แล้วรวย ซึ่งผมได้สอนหลักการจัดพอร์ตการลงทุนสูตร5+1หุ้นเด่นให้ไปประกอบการพิจารรณาลงทุนแบบมืออาชีพ

หลังจากผมบรรยายจบ น้องๆนักศึกษาได้ให้ความสนใจอย่างกระตือรือร้น หลายคนบอกว่าจะเริ่มการลงทุนเลยทันที ได้แรงบันดาลใจอย่างมาก จากแต่ก่อนที่แทบไม่เคยสนใจ เพราะคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องของคนรวย 
ในภาพอาจจะมี ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์, กำลังยิ้ม, กำลังยืน และสถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์, กำลังยิ้ม, กำลังยืน, ต้นไม้ และสถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 2 คน, รวมถึง ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และสถานที่กลางแจ้ง


 à¹ƒà¸™à¸ à¸²à¸žà¸­à¸²à¸ˆà¸ˆà¸°à¸¡à¸µ ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์, กำลังยิ้ม, สถานที่กลางแจ้ง
ในภาพอาจจะมี 2 คน, รวมถึง ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และข้อความ
ผศ.ดร.สำเริง ไกยวงศ์ คณบดี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มอบของขวัญที่ระลึกหลังจบการบรรยาย
..
ขอขอบคุณคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย และคณาจารย์มหาวิทยาลัย ราชภัฎชัยภูมิ ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการออมการลงทุน และเชิญผมไปถ่ายทอดวิทยาทาน จุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษา และคณาจารย์ได้เริ่มก้าวแรกในการลงทุนอย่างมั่นใจ และถูกวิธีในคราวนี้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย และมีเศรษฐกิจพอเพียงกันถ้วนหน้า ทำให้ประเทศชาติสังคมส่วนรวมของเรามีความสุขความเจริญอย่างยั่งยืนสืบต่อไป
สถาบันการศึกษาใดอยากเชิญให้ผมไปบรรยายเป็นวิทยาทานให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาแบบนี้ ผมยินดีและเต็มใจครับ ประเทศของเราจะเต็มไปด้วยคนที่มีเศรษฐกิจพอเพียง และมั่งคั่งร่ำรวย ไม่ต้องมานั่งรอบัตรคนจนบัตรคนแก่เดือนละ 600 กันต่อไป สาธุ!
..
ชมคลิปการบรรยายตามลิ้งค์นี้ 
https://www.facebook.com/annarviya.phutcharinya.7/videos/151191696056905/
https://www.facebook.com/annarviya.phutcharinya.7/videos/151210726055002/


..
ติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุนกับผมได้เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : http://fb.com/tontancorp
Line@ : https://goo.gl/ybfAvJ
Youtube : https://goo.gl/J9u1jm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น