วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(28-31ตุลาคม2554):จากฟันธงรอบล่าสุดหุ้นจะตกจบเขต850+/- มาถึงวิกฤตน้ำท่วม”เอาอยู่”ด้วยCreative DestDestructionและคำตอบสำคัญจะขึ้นเท่าไหร่ เมื่อไหร่ และเอาไงดี?

ท่านต้องการข้อมูลที่เร็วทันการตัดสินใจ และเจาะลึกหุ้นเด่นรายตัวไหม?...


เนื่องจากบทความที่ผมนำมาลงให้อ่านในblogนี้

จะลงช้าไป 1 วัน หรือลงให้อ่านหลังสมาชิกของเรา และไม่มีคำแนะนำการลงทุนหุ้นเด่นรายตัว

ขอแนะนำพบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ด้วยการสมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และที่สำคัญฟันธงหุ้นเด่นรายตัว ราคาซื้อ-เป้าหมายขายทำกำไร ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/

หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร

สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

พิเศษสุดเ้มื่อสมัครสมาชิกแล้ว แลกรับสิทธิเข้าฝึกอบรมการเป็นนักลงทุนมืออาชีพกับโปรแกรมต่างๆดังต่อไปนี้(เจอกันหลังพ้นวิกฤตน้ำท่วม)

-หลักสูตรมือใหม่เล่นหุ้นให้รวย สอนแมงเม่าให้เป็นเซียน
-หลักสูตรจัดการบริหารพอร์ตแบบมืออาชีพ ไม่เป็นมวยวัด
-หลักสูตรกราฟเทคนิคสำหรับมือใหม่และผู้เริ่มต้น
-หลักสูตรกราฟเทคนิคขั้่นเทพ สอนคนให้เป็นเซียน
-หลักสูตรเก็งกำไรTFEXและสินค้าโภคภัณฑ์ อัตราแลกเปลี่ยนด้วยกราฟระดับนาที


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

***หมายเหตุ:บทความนี้จะลงช้าไป 1 วัน หรือลงให้อ่านหลังสมาชิกของเรา และไม่มีคำแนะนำการลงทุนหุ้นเด่นรายตัว สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่นรายตัว ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

ข้อสรุปสำคัญ-วันนี้ผมขอฉายภาพใหญ่เป็นการทบทวนบทวิเคราะห์สำคัญๆที่ผมทำไว้ในรอบล่าสุดนี้หน่อย และถือโอกาสอัพเดต ทั้งนี้ไม่ได้ต้องการจะคุยโม้ว่าผมแม่นหรือ”ว่าแล้วไม่เชื่อ”อะไรนะครับ แต่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อท่านสมาชิกจะได้อัพเดตสถานการณ์และบริหารจัดการพอร์ตลงทึนได้ถูกต้องแม่นยำ เพื่อลดความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไรดังปณิธานของผม


I.ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นล่าสุด วิกฤตยุโรป,หุ้นดาวโจนส์นำขึ้นรอบใหม่,เงินเข้า,น้ำมันพุ่ง ด้วยชาร์ตที่Updateล่าสุด

ความจริงปัจจัยต่างๆเหล่านี้ผมเขียนมาให้อ่านตอนที่ตลาดหุ้นเราร่วงลงไปเขต 850 จุดนะครับว่า มันเต็มที่แล้วและกำลังจะถึงจุดกลับตัว(Turning point)มาเป็นทางบวก เลยขอทวนให้ดูอีกหน่อย

1.1วิกฤตหนี้ยุโรปและตลาดหุ้นโลก และการกลับตัวของแนวโน้มหุ้นโลกล่าสุด

-ตอนที่ตลาดหุ้นยุโรปทรุดหนัก ฉุดหุ้นทั่วโลกลงตาม หุ้นไทยลงไปลึกสุด843จุด ราคาหุ้นในพอร์ตของแต่ละท่านร่วงโลกาวินาศ(หากไม่ยอมตัดขาดทุนตามที่เคยแนะนำรอบก่อนว่าหากSETหลุด1010จุดลงไป จะลงไปราวๆ850จุด+/- คงจะจำกันได้)ผมได้นำบทวิเคราะห์โมเดลการทำลายเชิงสร้างสรรค์( Creative destruction market)มาอธิบาย และชี้ว่าหุ้นไทยไม่ได้ลงหนักเท่ากับยุโรป หรือฮ่องกง แต่เราลงมาพอๆกับดาวโจนส์ หรือตลาดหุ้นTIP-Thailand, Indonesia, Philippines(ตอนนั้นบางท่านยังถามผมว่าเขียนปลอบใจหรือเปล่า ตอนนี้คงมีคำตอบว่าไม่ใช่ ผมเขียนแลเวิเคราะห์ตามเนื้อผ้าจริงๆครับ)

ชาร์ตที่1:ดัชนีDAXตลาดหุ้นเยอรมัน ซึ่งผมเคยชี้ว่าตกลงไปเขตแนวรับด่านสุดท้ายหรือเขต2ใน3หากวัดจากพีค7600และฐาน3588จุด)=4926จุด ผลคือลงมาจริงๆ=4973จุด แล้วก็เริ่มฟื้นขึ้นล่าสุดเมื่อคืนนี้มาปิดที่6337จุด

ตอนนั้นผมประเมินว่าลงแค่เขต2ใน3=4926จะจบ เพราะเกิดสัญญาณBullish divergenceในเครื่องมือRSI


ชาร์ตที่2:และเมื่อนำโมเดลการทำลายเชิงสร้างสรรค์( Creative destruction market)มาอธิบายวิกฤตการณ์หนี้ยุโรป ผมคิดว่าจบช่วงที่1คือpanic sellด้วยความกังวลในทางร้ายๆไปแล้ว กำลังเข้าสู่ช่วง2คือซึมตัวออกด้านข้างเพื่อรอข่าวชัดเจนเรื่องEUจะโอบอุ้ม และพอชัดเจนแล้วก็จะเข้าสู่ช่วงที่3คือขึ้น และตามสถิตืก็ต้องมีนิวไฮ ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าเป็นไปตามโมเดลนี้ไหมนะครับ

ชาร์ตที่3:ดาวโจนส์ ซึ่งผมได้ให้ข้อสังเกตว่าไม่ตกหนักลงไปถึงด่านสุดท้ายเหมือนหุ้นยุโรป เพราะเป็นเพียงการตกตามยุโรป โดยลงมาเขต1ใน3=14060จุด ผลคือลงมาจริงๆ10404จุดแล้วเกิดBullish divergenceแล้วเข้าช่วงที่2ตามโมเดลการทำลายเชิงสร้างสรรค์( Creative destruction market) และตอนนี้เข้าช่วงที่3แล้ว ตามสถิติก็ต้องไปทำนิวไฮเกินเขต13000ที่เคยทำไว้(แต่ไม่ใช่วันสองวันนะครับต้องเป็นเดือนหรืออีกหลายเดือน)

ชาร์ตที่4หุ้นไทย:ในเวลานั้นคนตระหนกกันมาก พูดกันว่าจะลงไป500-600จุดแล้วก็ขวัญเสียกันมาก ผมเลยเทียบให้ดูว่าไม่ใช่หรอกครับ หากหุ้นไทยเราจะตกไปเขตสุดท้าย2ใน3เหมือนหุ้นยุโรปหรือฮ่องกง ตอนนั้นSETก็ต้องร่วงลงไปที่636หรือ675จุดไปแล้ว

แต่เพราะว่าของไทยเราจะตกแบบดาวโจนส์คือลงมาด่านแรกเขต1ใน3=850จุด+/-แล้วจะฟื้นมากกว่า ผลคือของจริงร่วงลงมาลึกสุดที่843แล้วฟื้น แต่ของเราแย่ตรงที่มาเจอวิกฤตน้ำท่วมซ้ำเข้าไปอีก(ซึ่งผมก็ได้นำโมเดลทำลายเชิงสร้างสรรคฺมาอธิบายเช่นกัน) อย่างไรก็ดีหากในสัปดาห์นี้ดัชนีSETเราขึ้นผ่านแนวต้านDowntrendเขต970จุดได้ ก็จะยืนยันคอนเฟิร์มครับว่าที่เป็นขาลงตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้นถือว่าbottom outไปแล้ว ต่อไปก็จะเป็นแนวโน้มขึ้น คือเข้าช่วงที่3เหมือนตลาดหุ้นอื่นๆในโลกเขา

1.2ปัจจัยหนุนหุ้นไทยคือเงินไหลเข้าและน้ำมันแพง หนุนหุ้นใหญ่ในกลุ่มน้ำมัน เคมี

ชาร์ตที่5ค่าเงินบาท:ปัจจัยสำคัญที่ผมเคยคาดและเขียนไว้ว่าจะหนุนหุ้นไทยฟื้นอันแรกคือฝรั่งจะหยุดขายหุ้นและจะกลับมาซื้อหุ้นใหม่ โดยให้ดูที่ค่าเงินบาทเป็นหลัก

ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นมีความสัมพันธ์กันดังนี้

*หากค่าเงินบาทแข็ง แปลว่าเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาซื้อหุ้น ดังนั้นหุ้นขึ่น
*หากค่าเงินบาทอ่อน แปลว่าเงินทุนต่างประเทศไหลออกจากการขายหุ่น ดังนั่นหุ้นตก


ที่ผ่านมาตอนค่าบาทอ่อนลงไปทำรูปแบบDouble top31.26บาท/ดอลลาร์ และใกล้แนวต้านใหญ่ผมจึงให้สังเกตไว้ว่าต่อไปอาจเห็นค่าเงินบาทอ่อนลงมาเขต30.63บาท เราจะได้เห็นฝรั่งกลับมาซื้อหุ้น(ตอนนั้นก็มีบางท่านถามว่ามันไม่มีเหตุอะไรให้ฝรั่งกลับมาซื้อหุ้น ตอนนี้ท่านคงเจอเหตุแล้วคือความกังวลเรื่องหนี้ยุโรปคลายตัว แต่เงินทุนฝรั่งก็ไหลออกมาซื้อหุ้นเอเชียดีกว่า) ล่าสุดค่าเงินบาทแข็งมาเขต30.50

เท่าที่ดูจากชาร์ตผมว่าอาจแข็งต่อไปเขต30.20+/-ได้ แปลว่าฝรั่งยังจะซื้อหุ้นไทยต่อไปครับ


ชาร์ตที่6เป็นยอดซื้อขายสุทธิของฝรั่งในตลาดหุ้นไทย:ที่ผ่านมาผมชี้ว่าขายลงมาทำรูปแบบdouble bottomแล้วจะกลับมาซื้อ ตอนนี้ซื้อสุทธิจนผ่านด่านแรกแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าจะซื้อต่ออีกมากพอสมควร อาจราวๆ15,000ล้านบาทโดยประมาณ

ชาร์ตที่7ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าWTIในตลาดโลก:ที่ผ่านมาตอนที่SETตกแรงลงไปเขต843 หุ้นน้ำมันเครือPTTและเคมีตกหนักมากทั้งPTT PTTEP TOP PTTGC ESSO IRPC ก็เนื่องจากว่าหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ จะผันผวนตามการขึ่นลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก(ผมจึงย้ำกับนักลงทุนที่ชอบถามผมว่า”ซื้อPTTและหุ่นในเครือถือยาวๆไปเลยได้ไหม?ว่า”ไม่ได้” เพราะมีนขึ่นลงผันผวนกับราคาน้ำมัน หากจะเล่นหุ้นพวกนี้ต้องหาจังหวะซื้อให้เป็น หาจังหวัขายให้ถูก เพราะหากซื้อผิดทาง ขายผิดเวลานี่ถึงเจ๊งเลยนะครับ)

ที่ผ่านมาผมฟันธงว่าน้ำมันดิบโลกจะลงไปเขต75-77$แล้วจะลงจบเพราะเป็นแนวรับด่านสุดท้ายเขต2ใ3 ดังนั่นเวลานั้นผมจึงแนะนำว่าหากใครติดหุ่นพวกนี้ไว้อย่าขาย และน่าซื้อเฉลี่ย หรือช้อนซื้อเก็งกำไร

เหตุก็เพราะว่าน้ำมันโลกจะตกจบแถวนั่นแล้วจะฟื้น ด่านแรก83$หากผ่านจะไปด่านสอง
เขต96$ส่วนระยะต่อไปเขต110-115$

ดังนั้นท่านจะพบว่าหุ้นพวกนี้ก็ฟื้นขึ่นตามราคาน้ำมันดังที่ผมเคยฟันธงไว้ ปัญหาเวลานี้คือใกล้ต่านด่าน96.5$ก็อาจเป็นได้ที่จะพักฐานหน่อย หุ้นพวกนี้ก็อาจพักยกการขึ่นไปด้วย เว้นแต่ตีทะลุด่านนี้วิ่งอ้าวขึ่นไป110-115$อันนั่นก็จะ”ยาวเลยพี่”(แต่ผมคิดว่าน่าต้องพักตัวเขตนี้ก่อนมากกว่านะครับ)

II.วิตกวิกฤตน้ำท่วมกรุงกับผลกระทบต่อตลาดหุ้น 3 ระยะ และกลุ่มที่มีผลกระทบได้เสีย?


อันนี้ผมขอนำบทความที่เขียนไว้ให้อ่านนะครับ

*บทวิเคราะห์โมเดลการทำลายเชิงสร้างสรรค์( Creative destruction market) ต่อตลาดหุ้นในวิกฤตน้ำท่วม

-ผ่านระยะที่1 ความเครียดความกังวลและความวิตกเรื่องน้ำจะท่วมกรุงเทพฯเข้าระยะที่2? ท่ามกลางความไม่ชัดเจนว่าจะท่วมหรือไม่ท่วม ท่วมน้อยหรือมาก ท่วมนานหรือสั้นในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้คนกรุงเทพฯเกิดPanicไปทั่ว สังเกตจากการแห่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภถคกักตุน จนขาดตลาด การนำรถยนต์หนีน้ำขึ้นไปจอดบนทางยกระดับ ทางด่วน หรือสะพานต่างๆ เรื่องนี้ก็สะท้อนมาที่ตลาดหุ้นเช่นกัน

-แต่ล่าสุดรัฐบาลได้ยอมรับแล้วว่าคงท่วมกรุงเทพฯแน่ บางโซนอาจท่วม1-1.5เมตร ขณะที่จะป้องกันสถานที่สำคัญ และย่านใจกลางธุรกิจให้พ้นจากน้ำท่วม รวมทั้งเปิดทำการตลาดหุ้นละธนาคารตามปกติ ขณะที่ได้หยุดราชการ27-31ต.ค.ที่คาดว่าจะเป็นช่วงน้ำเข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ

ชาร์ตที่9:Creative destruction marketที่ผมนำมาให้ดูบ่อยๆว่าเวลาเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นออกเป็น 3 ช่วง

*ช่วงแรกPanic sellหรือตกตื่นขาย เพราะเครียด กังวล คาดการณ์ในทางร้ายว่าจะส่งผลเสียหายมาก แต่ยังไม่เคลียร์…ผมคิดว่าตลาดหุ้นกับน้ำท่วมได้ผ่านช่วงนี้มาในช่วงสัปดาห์ก่อนนี้แล้ว

*ช่วงที่2หลังหายpanicแล้วก็จะซึมรอเหตุการณ์ที่ชัดเจนว่าจะเป็นแบบใดแน่ ระหว่างนั้นคนก็จะเริ่มแยกแยะว่าใครได้ใครเสียจากวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยซื้อขายกัน ทำให้ตลาดซึม วอลุมบางหดตัว คนจะเบื่อๆตลาด คนที่สิ้นหวังก็อยากขาย …ผมคิดว่าตลาดหุ้นไทยอยู่ในระยะนี้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้มาจนเวลานี้

*ช่วงที่3เกิดเหตุการณ์ชัดเจนแล้ว เช่น ท่วมแน่ๆแล้ว หรือไม่ท่วมแน่ๆ ไม่ว่าอย่างไรตลาดหุ้นก็จะขึ้น เพราะได้ซึมซับเอาปัจจัยลบไว้ในช่วงที่1ไปหมดแล้ว…ผมคิดว่าตลาดหุ้นไทยอาจเริ่มเข้าสู่ช่วงระยะนี้เมื่อรัฐบาลประกาศเตือนภัยชัดเจนและสั่งหยุดราชการ27-31ต.ค. คนพอมองเห็นชัดเจนแล้วว่าการณ์จะไปทางไหน

กลยุทธ์วิกฤตน้ำท่วม-ก็ทำเหมือนทุกวิกฤตนั่นแหละครับคือ

*ในช่วงที่1ที่คนเขาวิตกกังวลเทขายด้วยความตกตื่น ท่านไม่ควรไปสวนทาง หรือไปเถียงเขา ปล่อยให้ขายซะให้พอ (ผมคิดว่าช่วงนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในสัปดาห์ก่อนตอนตกจากเขต973ลงมาที่902จุด)

*ในช่วงที่2 ซึ่งตลาดจะซึมๆรอข่าวที่ชัดเจน วอลุมจะหดหาย บรรยากาศซื้อขายน่าเบื่อ ซึมกระทือ หรือแกว่งตัวในกรอบจำกัด รอข่าวชัดเจน(ตอนนี้ที่รอกันคือตอนช่วง27-31ต.ค.น่าจะเจอท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯซะที) นี่เป็นจังหวะดีโอกาสทองที่ท่านจะได้ซื้อของถูก และอย่าไปหมดใจเบื่อขายในช่วงนี้เป็นพอ

*ในช่วงที่3เมื่อเกิดความชัดเจนหายคลุมเครือ ขนาดน้ำท่วมกรุงเทพฯจมเป็นเมืองบาดาล หุ้นมันก็จะขึ้นเพราะหายกังวลแล้ว เพราะเรื่องร้ายๆเกิดแล้วตามที่กลัวกัน ราคาก็ตกไปในช่วงแรกแล้ว หุ้นจะขึ้น หากท่านเอาชัวร์ก็รอข่าวชัดๆแล้วซื้อซะ หรือ หากซื้อไว้ในช่วง2ก็รอขาย ปกติจะทำนิวไฮ(รอบล่าสุดมียอดไฮ973 หากชัดเจนก็จะขึ้นนิวไฮในรอบหน้า อาจเป็นเขต1000+/-)

หากจะถามว่าไม่กลัวหรือว่าจะท่วมยาว ส่งผลเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล คำตอบคือคนกลัวกันและขายออกมาในช่วงที่1ไปแล้วครับ ตลาดได้ซึมซับเอาข่าวร้ายๆนั้นไปมากเพียงพอแล้ว

III.กลุ่มไหนได้หรือเสีย

เสีย-พวกนิคมอุตสาหกรรม อย่างROJNA NNCL

อาจรวมไปถึงผลเสียทางจิตวิทยาต่อกลุ่มแบงก์ที่ต้องปรับโครงสนร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลเสียหาย(สังเกตจากช่วงที่ผ่านมาแบงก์ลงหนัก แต่ผมคิดว่าหากเจอไฟต์บังคับก็คงหนีไม่พ้นแบงก์รัฐบาลอย่างKTB หรือพวก ธอส. ธกส.ครับ)

นอกจากนั้นก็เป็นพวกกลุ่มบ้านจัดสรรที่คงหาคนซื้อไม่ได้ หรือขึ้นโครงการมาก็แย่ ต้องไปพิจารณาเป็นรายตัวไป แต่รวมๆพวกบ้านจัดสรรคงอ่วมจากน้ำท่วมแน่(ลองอ่านตามลิ้งค์นี้ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1319533579&grpid=09&catid=&subcatid= เจ้าของโครงการที่จะโดนผลกระทบก็เช่น SIRI QH SPALI PS MK PF LH)

รวมถึงกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนที่ต้องเจอพิษน้ำท่วม

ดี-พวกได้อานิสงส์ในตลาดดูจะมากกว่า ทั้งกลุ่มอุปโภคบริโภคที่คนแห่ตุนอย่างห้างBIGC MAKRO ROBINS CPALLพวกอาหารอย่างCPF TF พวกวัสดุก่อสร้างและสินค้าเกี่ยวกับบ้านอย่างTASCO SCC SCCC TPIPL HMPRO GLOBAL DCC หรือพวกสื่อสารที่คนต้องดูหรือใช้มากกว่าปกติอย่างBEC MCOT ADVANC DTAC TRUE

III.เป้าตกปรับฐาน และการทรงตัวในระยะที่2ของทฤษฎีสร้างสรรค์เชิงทำลาย และการขึ้นช่วงที่3แล้วทำนิวไฮเกิน1148? เมื่อไหร่?


ชาร์ตที่10:รอบที่ผ่านมาตลาดหุ้นเราได้รับผลกระทบวิกฤตหนี้ในยุโรปเลยร่วงลงมาเขต843หรือเขต1ใน3ของโครงสร้างใหญ่(วัดจากพีค1148เมื่อต้นเดือนสิงหาคม กับฐาน380เมื่อเดือนพฤศจิกายน2551)แล้วฟื้น แต่ตอนนี้ต้องลุ้นว่าขึ้นมาจะผ่านแนวต้านDowntrend ซึ่งสัปดาห์นี้(25-28)อยู่เขต970 ส่วนสัปดาห์หน้าลดลงมาแถว955จุดหรือไม่

เพราะหากไม่ผ่านจะโดนลงไปหนักๆ แต่หากผ่านก็จะคอนเฟิร์มจบขาลงเบ็ดเสร็จ(bottom out)


ชาร์ตที่11:ชาร์ตรายวัน ข้อดีคือว่าการปรับฐานลงมาเขต902จุดในเที่ยวล่าสุดนี้เป็นการทำฐานยกสูงขึ่นหากเทียบกับโลว์ก่อนที่843 ตามทฤษฎีDOW หรือDOW THEORYนี่ก็คือสัญญาณการกลับตัว(reversal pattern)ที่สำคัญมากๆแสดงว่าจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากขาลงไปเป็นขาขึ่น หรือแกว่งตัวขึ่น อย่างน้อยจะมีนิวไฮเกืนกว่าไฮรอบล่าสุดที่ทำไว้973จุด ดังนี้

-เป้าหมายแรกจะไปทดสอบแนวต้านdowntrendใหญ่เขต985หรือปิดGapบนที่เคยเปืดไว้990
-หากผ่านเป้าแรกจะไปด่านถัดไป995-1000
-ด่านที่สามบริเวณ1030-1045
-ด่านสี่คือพีคเก่า1148
-ด่านห้าคือขึ้นไปนิวไฮที่1250+/-(เวลานี้ฟังดูเหลือเชื่อ แต่หากอิงทฤษฎีทำลายเชิงสร้างสรรค์ก็คือหลังวิกฤตจบแล้วหุ้นจะขึ้นทำนิวไฮตลอดนะครับ)


ถามว่าเมื่อไหร่ ให้กลับไปอ่านบทความที่ผมเขียนไว้2-3สัปดาห์ก่อน(ก่อนจะกลัวเรื่องน้ำท่วมกัน)คือราวๆปีใหม่หรือตรุษจีนปีหน้าครับ

กลยุทธ์-ท่านที่เล่นรอบและซื้อหุ้นไว้ตามแนะนำก็ถือทดสอบด่านต่างๆครับ(หุ้นเด่นรายตัวขอให้ท่านสมาชิกอ่านในคอลัมน์บทความกระทิงทองส่องหุ้นที่ผมเขียนไว้ในtontancorp.com) ส่วนท่านที่เล่นเป็นรอบสั่น เข้าออกตามด่านต่างๆผมจะอัพเดตให้เป็นระยะๆ อย่างเช่นวันนี้หรือช่วงนี้ก็ดูด่าน970ผ่านไหม หากผ่านก็ลุ่นต่อด่าน985-990ผ่านไหม หากไม่ผ่านก็ขาย รออ่อนลง970-955ซื้อคืน แต่หากมันผ่านท่านก็ถือต่อไป


ชาร์ตที่12:SET50 หากคำนวณจากฐานรอบล่าสุด 571 และพีครอบก่อนที่806 จะมีเป้าหมายขึ้นดังนี้

-ด่านแรกเขต1ใน3=650-660ซึ่งผ่านมาแล้ว
-ด่านสองเป็นแนวต้านDowntrend=678 เท่ากับจุดไฮเมื่อวานนี้
-ด่านสามหากผ่านด่านสองจะไป689
-หากผ่านจะไปด่าน716-727จุด
-ด่านห้าคือพีคเก่า806และหากมีนิวไฮก็จะไปเขต850


ดังนั้นสัปดาห์นี้สำหรับคนเทรดดิ้งระยะสั้นอาจต้องอิงในกรอบที่1ที่กล่าวไปข้างต้น วันนี้ก็แนวรับเขต676ต้านแรก682แต่หากผป่าน682ได้ ก็ปรับฐานขึ้นมาเป็นเขตแนวรับตรงนี้ แนวต้านเป็น689

ท่านต้องการข้อมูลที่เร็วทันการตัดสินใจ และเจาะลึกหุ้นเด่นรายตัวไหม?...:บทความนี้จะลงช้าไป 1 วัน หรือลงให้อ่านหลังสมาชิกของเรา และไม่มีคำแนะนำการลงทุนหุ้นเด่นรายตัว สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่นรายตัว ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น