วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

โบรกเกอร์พากันหันมาเชียร์ขายBANPUหลังจากข่าวแพ้คดี ผมแนะนำให้ดูด่านสุดท้าย390บาทประกอบการตัดสินใจสำหรับท่านที่ติดสูง



แค่"คลิ้ก"คุณก็สั่งซื้อคู่มือตลาดหุ้นไทยไตรมาส4/55ได้แล้ว โดยไม่ต้องยกหูโทรศัพท์ก็ยังรวยได้ที่www.facebook.com/tontancorp

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800
 โทรมือถือ/087-7174979 087-7174939 http://www.facebook.com/tontancorp


*ติดไว้ทำไงกับBANPUหลังศาลแพ่งให้แพ้คดีหงสาฯ-คำตอบคือชี้ขาดที่ด่าน390บาท

ชาร์ตที่1:เป้าตก390 ขณะที่เกิดRSI DIVERGENCEในช่วงภาคเช้าวันนีั้ หากยืนได้อาจฟื้นไป470+/-

ชาร์ตที่2:โครงสร้างใหญ่หากวัดจากพีค868บาท และฐาน140บาท กำลังลงมาเขตแนวรับสุดท้าย66.67%fibonacci retracementเขต382บาท หากไม่หลุดอาจฟื้นไป470 และเป้าหมายใหญ่เขตใกล้ๆ600ในระยะกลาง

สถานการณ์และแนวโน้ม-ศาลตัดสินให้แพ้คดีและชดใช้เกือบ3หมื่นล้านบาท ทำให้โบรกเกอร์ที่เคยเชียร์ซื้อหุ้นมาอย่างต่อเนื่องหันมาหั่นเป้าหมายราคาพื้นฐานลงไปเหลือตั้งแต่522บาทไปถึงแย่สุด363บาท(อ่านรายานที่ผมแนบมา) และแนะนำให้เหลือแค่ถือ หรือ ขาย หรือหลีกเลี่ยง มีเพียงบางเจ้าให้ซื้อช่วงอ่อนตัว

ราคาช่วงเช้าเปิดมาร่วงหนักหลุด400บาทลงไปลึกสุดที่390บาทแล้วมีแรงช้อนซื้อ โดยเมื่อพิจารณาทางเทคนิคพบว่าเขต390บาทเป็นแนวรับsupport lineที่แกว่งระหว่าง390-470บาท แนวต้านแรก420+/-

ในชาร์ตรายวันเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณRSIพบว่า เกิดbullish divergenceซึ่งเป็นสัญญาณทางบวก กล่าวคือ ราคาหุ้นลงนิวโลว์ แต่สัญญาณRSIไม่ทำนิวโลว์ด้วย ก็อาจเป็นสัญญาณการกลัวตัวขึ้นก็เป็นไปได้(ดูถึงเฉพาะปิดทำการภาคเช้า)

ขณะที่โครงสร้างระยะกลางจากชาร์ตที่2พบว่า:โครงสร้างใหญ่หากวัดจากพีค868บาท และฐาน140บาท กำลังลงมาเขตแนวรับสุดท้าย66.67%fibonacci retracementเขต382บาท หากไม่หลุดอาจฟื้นไป470 และเป้าหมายใหญ่เขตใกล้ๆ600ในระยะกลาง

อย่างไรก็ตามหากหลุดด่าน390หรือ382บาทลงไปจะเป็นแนวโน้มnegativeมากๆคือลงไปเท่าไหร่ก็ได้หละครับงานนี้ หากหลุด

คำแนะนำ-สำหรับคนที่ติดดอยเอาไว้สูง ให้ทำดังนี้ 1.จับตาดูว่ายืนเหนือ390หรือ380ได้หรือไม่ในระยะนี้ หากได้ก็ถือรอฟื้นตัวกลับไป ด่านแรก420-424 ถัดไป470หากไม่มีนิวไฮเกินนี้ก็ขาย หรือ2.หากยืนเหนือ380-390ก็อาจซื้อเฉลี่ยต้นทุนแล้วไปรอขายออกหากขึ้นไปไม่ผ่าน470(หากผ่านจึงจะได้ลุ้นไป550-600ในระยะเป็นเดือน หรือเป็นไตรมาส) และ3.หากหลุดด่าน390หรือให้ชัวร์380บาทลงไป ให้ทำใจขายcut lossแล้วหาตัวอื่นลงทุนแก้ไขพอร์ตครับ
************
(รายงานข่าวและความเห็นของโบรกเกอร์)

*BANPU เผยศาลแพ่งพิพากษาชดใช้กว่า 2.9 หมื่นลบ.คดีหงสา เตรียมยื่นอุทธรณ์

บมจ.บ้านปู(BANPU) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคดีแพ่งที่นายศิวะ งานทวี และกลุ่มของนายศิวะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท บริษัทย่อย และผู้บริหารของบริษัท เป็นจำเลย เรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 63,500 ล้านบาท โดยกล่าวอ้างว่าทำการหลอกลวงโดยเข้าร่วมทำสัญญาร่วมทุนกับนายศิวะและพวก เพื่อประสงค์จะได้ข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหิน รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่เมืองหงสา ประเทศลาว และได้ใช้สิทธิไม่สุจริตในการรายงานเท็จทำให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัปทานเหมืองถ่านหินและสัญญาก่อสร้างและดำเนินกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้าของศิวะและพวก เพื่อบริษัทจะได้เข้าทำสัญญากับรัฐบาลลาวเองนั้น
          
ในวันที่ 20 ก.ย.55 ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้บริษัท และบริษัท บ้านปูเพาเวอร์ จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นค่าข้อมูลจำนวน 4 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น และค่าขาดประโยชน์เป็นเงินรายปี ปี 2558-2570 ปีละ 860 ล้านบาท และปี 2571-2582 ปีละ 1,380 ล้านบาท 
          
อนึ่ง ด้วยความเคารพต่อศาลแพ่งบริษัทไม่เห็นด้วยต่อคำพิพากษาของศาลแพ่ง และจะใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อไป 

บริษัทขอเรียนว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าหงสาแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท หงสาเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนแยกต่างหากจากบริษัท และโครงการดังกล่าวยังคงดำเนินการก่อสร้างตามแผนงานที่กำหนดไว้

*โบรกเกอร์พากันดาวน์เกรดเชียร์ขาย หลังจากเชียร์ซื้อมาตลอด

-พัฒนสินมองกรณีแย่สุดพื้นฐานลง363บาท

 BANPU ตลาดคาดราคาหุ้นลดลง 40-50 บาท(ทุก 10 บาทที่ลดลงมีผลต่อ SET 0.3จุด ) แนะนำ ขายต่อ/เปิด Short ศาลชั้นต้นตัดสินให้ คุณศิวะ กลุ่มบริษัทงานทวี ชนะคดี BANPU กรณีหลอกลวงเพื่อได้รับสัมปทานเหมืองถ่านหินโครงการหงสา โดยBANPUต้องจ่ายเงินให้3.2หมื่นลบ. แบ่งจ่ายใน25ปีตามสัมปทานของโครงการหงสา แบ่งเป็นปีนี้4พันลบ.(ประมาณ34%ของ NP) ปี 15-27 860ลบ./ปี 28-39 1.38พันลบ.(5%ของกำไร) ส่งผลTarget Price ปรับลด (Worst Caseลด17%เป็น363บ.จาก547บ.)  

-KTZIMICOลดเป้าลงเหลือ483บาท แต่หากลงลึกกว่า400แนะนำช้อนซื้อ เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้ถ่านหินสูงขึ้นในจีน และราคาถ่านหินจะดีขึ้น

: Negative judgment on Hongsa case!  - BUY on weakness (TP of Bt483)

This unexpected court ruling will hit BANPU’s 2012 earnings and today’s share price hard. However, if the share price falls below Bt400, we recommend investors BUY on the weakness to speculate on 1) growing coal demand from back-to-normal coal inventories in China, 2) potential lower coal supplies from production cuts and 3) the potential bounce back of commodity prices after fresh capital injections by major countries. Our 12-month target price is cut by 13% to Bt483 from the change in methodology and the impact from this court ruling.  

-กิมเอ็งลดเป้าพื้นฐานเหลือ480บาท ให้เกรดแค่ถือ

กิมเอ็งรายงานว่า เมื่อBANPUแพ้คดีเราประเมินมูลค่าชดเชยดังกล่าวเป็นมูลค่าปัจจุบันทื่ 52 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ราคาเหมาะสมของเราลดลงเหลือ 480 บาท ทำให้เราปรับลดคำแนะนำเชิงปัจจัยพื้นฐานลงเป็น ถือ สอดคล้องกับมุมมองในเชิงกลยุทธ์ที่ผ่านมาที่เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น BANPU เนื่องจากเป็นการยากที่จะคาดคำตัดสินของศาลและตลาดถ่านหินที่ถูกกดดันจากอุปทานส่วนเกิน 

-CIMB Thaiหดเป้าลงเหลือ422บาท/หุ้น แนะนำขายเมื่อศาลตัดสินให้แพ้คดี

Although Banpu can still appeal the case, this unfavourable outcome will have a significantly negative impact on its share price, given that the market had expected the case to have no effect on the company. We downgrade Banpu from Neutral to Underperform and cut our earnings forecast for 2012 by 31% assuming that Banpu will need to provide only for the first upfront amount of THB5.4bn.  We also lower our SOP target price by 15% to THB422, assuming the damages will be paid in full, and earnings from the Hongsa project will be lost due to a prolonged delay
Sell on this fact given that the market had not expected this outcome. We believe this legal case will be an overhang on its share price as it is likely to drag on for a few more years. Fundamentally, Banpu’s earnings remains weak on lower ASP for coal given that coal prices remain on a downtrend
-ASPให้เป้า507บาท ระยะสั้นให้ขาย ระยะยาวให้ถือ
 
ฝ่ายวิจัยได้ทำการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 สะท้อนกรณีเลวร้ายสุดจาก
การตั้งสำรอง (Provision) เต็มมูลค่าเงินชดใช้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง ถึงแม้ทาง 
BANPU จะมีการใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ต่อไปก็ตาม เป็นจำนวน 3.1 หมื่นล้านบาท (One-time Expense) ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2555 พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 1.92 หมื่นล้านบาท จากเดิมเป็นกำไรสุทธิ 1.17 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามคำพิพากษาดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าหงสาแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท หงสาเพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนแยกต่างหากจาก BANPU โดยโครงการดังกล่าวยังคงดำเนินการก่อสร้างตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าหงสาที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ไว้เช่นเดิม


ภายใต้ประมาณการใหม่ มูลค่าพื้นฐาน สิ้นปี 2555 อิงวิธี DCF เท่ากับ 507.04 บาท
ต่อหุ้น จากเดิม 621 บาทต่อหุ้น และปรับลดคำแนะนำเป็น ถือจากเดิม ซื้อเนื่องจากคาดในระยะสั้นคำพิพากษาของศาลแพ่งที่ให้ BANPU แพ้คดี และต้องชดใช้ต่าเสียหายมูลค่ามีนัยฯดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาหุ้น ดังนั้นนักลงทุนระยะสั้นที่ถือครองหุ้น BANPU อยู่แนะนำให้ขายไปก่อน เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อมูลค่าพื้นฐานถือว่ามีนัยฯ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำถือ เนื่องจากหากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานแล้วพบว่าภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินมี Downside ที่จำกัดแล้ว จากนี้น่าจะเห็นการฟื้นตัวของทั้งราคาถ่านหินได้ตามมาตร
การกระตุ้นเศรษบกิจต่างๆที่เกิดขึ้น อาทิ QE3 

เกียรตินาคิน:ลดเป้าพื้นฐานเหลือ522บาท แนะนำหลีกเลี่ยง

กรณีเลวร้ายที่สุด ราคาหุ้นยังมี Downside อีก 13% กรณีแย่ที่สุด หากท้ายที่สุด BANPU จำเป็นต้องชำระเงินค่าเสียหายทั้งหมด จะกระทบมูลค่าที่เหมาะสม 58 บาท ซึ่งจะทำให้มูลค่าเหมาะสมของ BANPU ลดลงจาก 580 บาท เหลือ 522 บาท เราประเมินว่าระยะสั้นราคาหุ้น BANPU มีโอกาสที่จะลดลงจาก (1) ผลกระทบของคำตัดสินของศาลฯ แต่จะไม่เกิดกรอบกรณีเลวร้ายที่สุดที่เราประเมินไว้ที่ 58 บาท ทำให้ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันยังมี Down Side ประมาณ 13% และ (2) มีความเป็นไปได้ที่ BANPU จะต้องตั้งสำรอง ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการปี 2555 พลิกกลับมาเป็นผลขาดทุน เป็น
ปัจจัยกดดันราคาหุ้น
               
คำแนะนำการลงทุน: ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนผลของคดี แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน 
แม้ BANPU จะยังไม่ได้รับผลกระทบทางด้านกระแสเงินสด เนื่องจากผลของคดียังไม่เป็นที่สิ้นสุด โดย BANPU มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ แต่ประเด็นดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ระยะสั้นเราแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนจนกว่าระดับราคาหุ้นจะตอบสนองเชิงลบต่อประเด็นดังกล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น