โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888 บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
1.ดัชนีSETยังเป็นการตกปรับฐาน
ยกเว้นหลุดด่านแนวรับ1373 หรือให้ยืนยันคือหลุดด่าน1350จุดลงไป
สถานการณ์-เมื่อวันอังคาร5เมษายน ตลาดหุ้นร่วงแรง หลังจากลงหลุดแนวรับUptrendย่อยๆเขต1394จุด โดยแรงขายมาจากหุ้นขนาดใหญ่3กลุ่มหลักๆคือ
1.1กลุ่มพลังงานและเกี่ยวข้อง
จากการที่ราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลงมาแรง
1.2กลุ่มสื่อสาร หลังจากADVANCยื่นขอเสนอซื้อใบสัมปทาน4Gที่JASทิ้งไป
1.3กลุ่มแบงก์ใหญ่ หลังจากที่แบงก์ใหญ่BBL
SCBลดดอกเบี้ย
ส่งผลให้SETลงมาปิดที่1373จุด
แนวโน้ม-หลังจากSETขึ้นผ่านแนวต้านด่านแรก เขต1ใน3คือ1353และ1373ขึ้นไปด่านสองเขต50%(1420จุด) แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ เกิดสัญญาณเชิงลบคือBearish
Divergence จึงร่วงลงมาแรง ซึ่งเป้าหมายการตกนั้นก็จะลงมาเขต1373
หรือ1353จุด ซึ่งเป็นไปตามตำราว่า บริเวณที่เคยเป็นแนวต้าน
ก็จะกลับมาทำหน้าที่เป็นแนวรับ
ทั้งนี้เป้าหมายการตกนั้นก็อาจเป็นไปได้ที่
เป้าแรก-จะลงจบที่เขต1373ก็ได้ แล้วหากวกขึ้นไปผ่านแนวต้านด่าน1386ได้ ก็จะยืนยันว่าลงมาปรับฐานแค่เขต1373 จากนั้นก็จะวกกลับไป1400และ1420 และระยะต่อไปก็ไปผ่าน1420เพื่อไป1450-1465ตามทิศทางแนวโน้มขาขึ้น
เป้าสอง-ตกหลุดด่าน1373(หรือมีเด้งรีบาวนด์ขึ้นไปแล้ว แต่ไม่ผ่านด่าน1386 และวกลงมากระทั่งไปหลุด1373)จากนั้นก็จะตกไปเขต1350จุด+/-(ตั้งแต่1353 ไปถึงGap supportที่เคยเปิดไว้แถวๆ1347จุด) แล้วค่อยฟื้นขึ้นมา แล้วไปผ่าน1373 แล้วขึ้นไป1420 และไปทำนิวไฮ ตามแนวโน้มขาขึ้น
ข้อยกเว้น-การหลุดเขต1350ลงไปอย่างเด็ดขาด ก็แสดงว่า ไม่ใช่การตกปรับฐานในแนวโน้มขาขึ้นแล้วครับ เป็นการพังฐาน แล้วก็จะเปลี่ยนเข้าสู่แนวโน้มขาลง ซึ่งก็ให้มองร้ายๆไว้ก่อนว่าลงหนักมาก ไปเขตlowเก่า1200+/-เป็นอย่างน้อย
ฝรั่งจะหันมาขายหุ้นไทยแล้วหรือยัง?- เพิ่มเติมเกี่ยวกับFundflow เมื่อวันก่อนฝรั่งขายสุทธิและขายในTFEXมากก็ทำให้วิตกว่าฝรั่งจะหันมาขายยาวไหม จะพบว่า เมื่อวันอังคารนั้นค่าเงินบาทอ่อนลงไปแตะแนวรับ35.37บาท/ดอลลาร์ ไม่ผ่าน ต่่อมาถ้ามาดูค่าเงินบาท(Offshore )เมื่อวานนี้แข็งขึ้น และวันนี้แข็งขึ้นต่อ ทำท่าจะแข็งผ่านแนวต้าน35.19บาท/ดอลลาร์
ภาพตอนนี้เป็น3เหลี่ยมอยู่ระหว่างแนวรับ35.37 กับแนวต้าน35.19 โดยมีสัญญาณชี้ไปทางว่าอาจแข็งขึ้นต่อ
แปลเป็นไทยคือยังไม่มีสัญญาณว่าฝรั่งจะขายแล้วขนเงินออก หรือขายแรงๆนะครับ พูดได้แค่ว่า"รอดูท่าทีว่าจะไปทางไหนกันแน่ ระหว่างเดินหน้าซื้อต่อไป กับหันมาขาย" แต่หากดูนาทีนี้น่าจะหยุดขาย หันมาซื้อมากกว่า
ความเห็น-เนื่องจากประเมินว่ายังเป็นการตกพักฐานในแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้นก็ให้พิจารณาว่าเป้าการตกจะเป็นเท่าไร กรณีดีก็แถวๆราคาปิดเมื่อวันอังคารคือ1373จุด แล้วฟื้นขึ้นไปผ่าน1386อันนี้ก็กลับสู่เกมไวหน่อย คือเป็นไปในแนวโน้มขาขึ้น ก็ถือเป็นการตกปรับฐาน
แต่หากไม่ผ่าน1386หรือหลุด1373(หรือ1370)ก็น่าจะตกต่อ และหากหลุดฐานlowเก่า1366ก็จะตกไป1350+/-) ก็แสดงว่าจะตกปรับฐานลึกหน่อย ก็จะทำลายความเชื่อมั่น กัดกร่อนจิตวิทยาของผู้ที่เคยOptimismไปมาก เพราะเวลานี้ก็เปลี่ยนมาทางPessimismกันมากแล้ว
เมื่อพิจารณาว่าเป็นการตกปรับฐานในแนวโน้มขาขึ้น ก็ควรใช้กลยุทธ์อิงกับตลาดขาขึ้นคือ
1.ถือหุ้นที่มีอยู่ หรือติดไว้อยู่ต่อไป เพราะเป็นเพียงการตกปรับฐาน หรือหากจะลงอีกหน่อยก็มีความเสี่ยงของขาลงจำกัด(คือสมมุติจะลงจาก1373ไป1370-1366ก็คือลงไปอักนิดหน่อยราวๆ3หรือ10จุด หรือหากลงไป1350ก็คือลงไปอีกแค่20จุด ในทางตรีงกันข้ามหากขึ้นไป1386 หรือ1420ก็จะขึ้นไปราวๆ10ถึง35จุด) เรียกว่ามีความเสี่ยงขาลงจำกัด(Downside risk)
2.ถ้ามีเงินสด ก็น่าซื้อหุ้นเป้าหมายที่สนใจ ซึ่งก็จะเป็นพวกบลูชิพ(เพราะตลาดขึ้น พวกนี้ขึ้นด้วย ก็อาจโฟกัสพวกตัวใหญ่ที่ลงมาเยอะๆแบบสื่อสาร/พลังงาน/แบงก์ ซึ่งจะกล่าวถึงข้างหน้า หรือหุ้นที่OutperformแบบSCC)
3.โดยเผื่อใจสำหรับจุดที่จะต้องStop loss คือหากไวหน่อยก็คือหลุด1373-1370ก็Cutเลยสำหรับคนทำไว แต่หากคนที่คิดแบบละเอียด สู้ถึงที่สุดตราบที่ยังไม่พังด่านหลุดตรงนี้ ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายคือ1350(1353ถึง1347)ก็ต้องCut loss ณ บริเวณที่หลุดลงไป เพราะหากไม่ยอมก็จะเจอหนัก
ข้อสังเกต:อย่างไรก็ตามเท่าที่ผมดูแล้ว น่าจะพอแถวๆ1373นะครับ เมื่อไปดูว่าพวกที่ลงมาหนักทั้งพลังงาน แบงก์ สื้อสารนั้นลงมากันในจุดที่พร้อมจะฟื้นกันหมดแล้ว และดูเหมือนจะมีข่าวจิตวิทยาเชิงบวกมาหนุน(น้ำมันโลกฟื้นแรงล่าสุดเหนือ38$) แบงก์ตกมาขานรับข่าวลดดอกเบี้ยไปเยอะแล้ว, สื่อสารลงมาOverreactedจากข่าวADVANCขอคสช.ออกม.44ยกสัมปทานให้
ซึ่งผมจะไปเจาะ3เรื่องนี้ ข้างหน้า
ทั้งนี้เป้าหมายการตกนั้นก็อาจเป็นไปได้ที่
เป้าแรก-จะลงจบที่เขต1373ก็ได้ แล้วหากวกขึ้นไปผ่านแนวต้านด่าน1386ได้ ก็จะยืนยันว่าลงมาปรับฐานแค่เขต1373 จากนั้นก็จะวกกลับไป1400และ1420 และระยะต่อไปก็ไปผ่าน1420เพื่อไป1450-1465ตามทิศทางแนวโน้มขาขึ้น
เป้าสอง-ตกหลุดด่าน1373(หรือมีเด้งรีบาวนด์ขึ้นไปแล้ว แต่ไม่ผ่านด่าน1386 และวกลงมากระทั่งไปหลุด1373)จากนั้นก็จะตกไปเขต1350จุด+/-(ตั้งแต่1353 ไปถึงGap supportที่เคยเปิดไว้แถวๆ1347จุด) แล้วค่อยฟื้นขึ้นมา แล้วไปผ่าน1373 แล้วขึ้นไป1420 และไปทำนิวไฮ ตามแนวโน้มขาขึ้น
ข้อยกเว้น-การหลุดเขต1350ลงไปอย่างเด็ดขาด ก็แสดงว่า ไม่ใช่การตกปรับฐานในแนวโน้มขาขึ้นแล้วครับ เป็นการพังฐาน แล้วก็จะเปลี่ยนเข้าสู่แนวโน้มขาลง ซึ่งก็ให้มองร้ายๆไว้ก่อนว่าลงหนักมาก ไปเขตlowเก่า1200+/-เป็นอย่างน้อย
ฝรั่งจะหันมาขายหุ้นไทยแล้วหรือยัง?- เพิ่มเติมเกี่ยวกับFundflow เมื่อวันก่อนฝรั่งขายสุทธิและขายในTFEXมากก็ทำให้วิตกว่าฝรั่งจะหันมาขายยาวไหม จะพบว่า เมื่อวันอังคารนั้นค่าเงินบาทอ่อนลงไปแตะแนวรับ35.37บาท/ดอลลาร์ ไม่ผ่าน ต่่อมาถ้ามาดูค่าเงินบาท(Offshore )เมื่อวานนี้แข็งขึ้น และวันนี้แข็งขึ้นต่อ ทำท่าจะแข็งผ่านแนวต้าน35.19บาท/ดอลลาร์
ภาพตอนนี้เป็น3เหลี่ยมอยู่ระหว่างแนวรับ35.37 กับแนวต้าน35.19 โดยมีสัญญาณชี้ไปทางว่าอาจแข็งขึ้นต่อ
แปลเป็นไทยคือยังไม่มีสัญญาณว่าฝรั่งจะขายแล้วขนเงินออก หรือขายแรงๆนะครับ พูดได้แค่ว่า"รอดูท่าทีว่าจะไปทางไหนกันแน่ ระหว่างเดินหน้าซื้อต่อไป กับหันมาขาย" แต่หากดูนาทีนี้น่าจะหยุดขาย หันมาซื้อมากกว่า
ความเห็น-เนื่องจากประเมินว่ายังเป็นการตกพักฐานในแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้นก็ให้พิจารณาว่าเป้าการตกจะเป็นเท่าไร กรณีดีก็แถวๆราคาปิดเมื่อวันอังคารคือ1373จุด แล้วฟื้นขึ้นไปผ่าน1386อันนี้ก็กลับสู่เกมไวหน่อย คือเป็นไปในแนวโน้มขาขึ้น ก็ถือเป็นการตกปรับฐาน
แต่หากไม่ผ่าน1386หรือหลุด1373(หรือ1370)ก็น่าจะตกต่อ และหากหลุดฐานlowเก่า1366ก็จะตกไป1350+/-) ก็แสดงว่าจะตกปรับฐานลึกหน่อย ก็จะทำลายความเชื่อมั่น กัดกร่อนจิตวิทยาของผู้ที่เคยOptimismไปมาก เพราะเวลานี้ก็เปลี่ยนมาทางPessimismกันมากแล้ว
เมื่อพิจารณาว่าเป็นการตกปรับฐานในแนวโน้มขาขึ้น ก็ควรใช้กลยุทธ์อิงกับตลาดขาขึ้นคือ
1.ถือหุ้นที่มีอยู่ หรือติดไว้อยู่ต่อไป เพราะเป็นเพียงการตกปรับฐาน หรือหากจะลงอีกหน่อยก็มีความเสี่ยงของขาลงจำกัด(คือสมมุติจะลงจาก1373ไป1370-1366ก็คือลงไปอักนิดหน่อยราวๆ3หรือ10จุด หรือหากลงไป1350ก็คือลงไปอีกแค่20จุด ในทางตรีงกันข้ามหากขึ้นไป1386 หรือ1420ก็จะขึ้นไปราวๆ10ถึง35จุด) เรียกว่ามีความเสี่ยงขาลงจำกัด(Downside risk)
2.ถ้ามีเงินสด ก็น่าซื้อหุ้นเป้าหมายที่สนใจ ซึ่งก็จะเป็นพวกบลูชิพ(เพราะตลาดขึ้น พวกนี้ขึ้นด้วย ก็อาจโฟกัสพวกตัวใหญ่ที่ลงมาเยอะๆแบบสื่อสาร/พลังงาน/แบงก์ ซึ่งจะกล่าวถึงข้างหน้า หรือหุ้นที่OutperformแบบSCC)
3.โดยเผื่อใจสำหรับจุดที่จะต้องStop loss คือหากไวหน่อยก็คือหลุด1373-1370ก็Cutเลยสำหรับคนทำไว แต่หากคนที่คิดแบบละเอียด สู้ถึงที่สุดตราบที่ยังไม่พังด่านหลุดตรงนี้ ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายคือ1350(1353ถึง1347)ก็ต้องCut loss ณ บริเวณที่หลุดลงไป เพราะหากไม่ยอมก็จะเจอหนัก
ข้อสังเกต:อย่างไรก็ตามเท่าที่ผมดูแล้ว น่าจะพอแถวๆ1373นะครับ เมื่อไปดูว่าพวกที่ลงมาหนักทั้งพลังงาน แบงก์ สื้อสารนั้นลงมากันในจุดที่พร้อมจะฟื้นกันหมดแล้ว และดูเหมือนจะมีข่าวจิตวิทยาเชิงบวกมาหนุน(น้ำมันโลกฟื้นแรงล่าสุดเหนือ38$) แบงก์ตกมาขานรับข่าวลดดอกเบี้ยไปเยอะแล้ว, สื่อสารลงมาOverreactedจากข่าวADVANCขอคสช.ออกม.44ยกสัมปทานให้
ซึ่งผมจะไปเจาะ3เรื่องนี้ ข้างหน้า
เพิ่มเติม:ส่วนSET50นั้นมีกรอบเคลื่อนไหวดังนี้
แนวรับ-861 เท่าราคาปิดวันก่อน (ตั้งแต่861มาเขต858)
แนวต้าน-880+/-(878-881) ถัดไป890+/-
ความเห็น-ถ้ายืนเหนือ860+/-ก็น่ามีโอกาสฟื้นขึ้นไปเขต880ถัดไป890 จากนั้นค่อยพิจารณาต่อ แต่หากหลุด860+/- จะเสี่ยงลงต่อไปเขต847-838จุดได้
2.ราคาน้ำมันและหุ้นโภคภัณฑ์
แนวรับ-861 เท่าราคาปิดวันก่อน (ตั้งแต่861มาเขต858)
แนวต้าน-880+/-(878-881) ถัดไป890+/-
ความเห็น-ถ้ายืนเหนือ860+/-ก็น่ามีโอกาสฟื้นขึ้นไปเขต880ถัดไป890 จากนั้นค่อยพิจารณาต่อ แต่หากหลุด860+/- จะเสี่ยงลงต่อไปเขต847-838จุดได้
2.ราคาน้ำมันและหุ้นโภคภัณฑ์
2.1ราคาน้ำมันดิบโลกWTI ลงปรับฐานมาลึกถึง35.22$(มากกว่าคาดไว้เขต35.94$) แล้วฟื้นขึ้น ล่าสุดวันนี้เช้าขึ้นผ่านแนวต้านDowntrendเขต37.50-37.80$
ก็แปลว่าที่ลงมาเที่ยวนี้จบการพักฐาน จากนั้นจะขึ้นต่อ
เป้าหมายแนวต้านย่อยช่วงนี้คือขึ้นไปไฮเก่าเขต41.82 โดยมีแนวต้านย่อยกลางทางคือ38.50 ถัดไป39.50 และหากทำนิวไฮรอบหน้าจะขึ้นไปเขต44ไม่เกิน48$
ข่าวที่จะเอามาอ้างกันคือการประชุมOPECวันที่17เมษายน ก็จะมีดราม่ามาเป็นระยะ คือเวลาน้ำมันขึ้น ข่าวก็จะอ้างว่าท่าทางจะตกลงกันได้ว่าตรึงกำลังผลิต หรือลดผลิต แต่พอน้ำมันร่วงก็จะอ้างไปอีกทางว่า ตกลงกันไม่ได้ หรือเบี้ยวกัน แต่คนชักขึ้นลงจริงๆคือพวกเฮดจ์ฟันด์ที่นิวยอร์คครับ
เป้าหมายแนวต้านย่อยช่วงนี้คือขึ้นไปไฮเก่าเขต41.82 โดยมีแนวต้านย่อยกลางทางคือ38.50 ถัดไป39.50 และหากทำนิวไฮรอบหน้าจะขึ้นไปเขต44ไม่เกิน48$
ข่าวที่จะเอามาอ้างกันคือการประชุมOPECวันที่17เมษายน ก็จะมีดราม่ามาเป็นระยะ คือเวลาน้ำมันขึ้น ข่าวก็จะอ้างว่าท่าทางจะตกลงกันได้ว่าตรึงกำลังผลิต หรือลดผลิต แต่พอน้ำมันร่วงก็จะอ้างไปอีกทางว่า ตกลงกันไม่ได้ หรือเบี้ยวกัน แต่คนชักขึ้นลงจริงๆคือพวกเฮดจ์ฟันด์ที่นิวยอร์คครับ
อิมแพ็คต์-เป็นผลบวกต่อหุ้นพลังงาน
*PTT ลงมาเขตแนวรับ273 (ถัดไปแนวรับ268-264) คาดว่ายืนเหนือ273ได้ จะฟื้นไป280-284 และพีคเก่า293 ก็ไปลุ้นว่าจะมีนิวไฮเกินพีคเก่าได้ไหม
*PTTEP ย่ำฐานเหนือ65-66บาท หากไม่ต่ำกว่าเขตนี้ก็มีโอกาสฟื้นไป69,70.50ถัดไป71.50 อาจฟอร์มตัวอยู่เหนือ65ไปเขต71.50-75ซักระยะ
*IRPC พักยกในกรอบแนวรับ5.00-4.90บาท แนวต้านเขต5.30บาท
*PTT ลงมาเขตแนวรับ273 (ถัดไปแนวรับ268-264) คาดว่ายืนเหนือ273ได้ จะฟื้นไป280-284 และพีคเก่า293 ก็ไปลุ้นว่าจะมีนิวไฮเกินพีคเก่าได้ไหม
*PTTEP ย่ำฐานเหนือ65-66บาท หากไม่ต่ำกว่าเขตนี้ก็มีโอกาสฟื้นไป69,70.50ถัดไป71.50 อาจฟอร์มตัวอยู่เหนือ65ไปเขต71.50-75ซักระยะ
*IRPC พักยกในกรอบแนวรับ5.00-4.90บาท แนวต้านเขต5.30บาท
*IVL
พักฐานในกรอบแนวรับ22.90-22.40 แนวต้าน23.70หากผ่านจะไปด่านถัดไป23.80-24.50
เป็นหุ้นที่กำไรGrowthสูง ยังมองเป้าหมายหลัก27-28บาท
2.2ยางพารา-ล่าสุดราคายางตลาดTOCOMขึ้นมาเกินเขต181เป็นการทำนิวไฮ ซึ่งราคายางพารานั้นอิงราคาน้ำมัน
หากน้ำมันขึ้นก็ขึ้นด้วย หากน้ำมันตกก็ตกตาม ดูโอกาสน่าจะขึ้นไป190หรือ200ได้ต่อไป
อิมแพ็คต์ต่อหุ้นSTA-เป็นผลบวกช่วงนี้มีแนวรับฐานยกมาเป็นเขต12.00-12.40
แนวต้านDowntrend13.30 หากผ่านได้จะเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงไปเป็นขาขึ้น ด่านต่อไป14.00
หรือระยะต่อไป16บาท
2.3ดัชนีค่าขนส่งระวางเรือBDIล่าสุดมาแตะแนวต้านจิตวิทยา500จุด
ปกติคนก็มักกลัวตัวเลขกลมๆ แต่ถ้าดูจากpurely technicalแล้วก็คิดว่าจะผ่านเพื่อขึ้นไปเขตเป้าหมายต่อไป800 หรือ1000จุด
อิมแพ็คต์ต่อหุ้น PSL
RCL
*PSL แนวรับ6.50+/-
แนวต้านไฮวันก่อนคือ7.30 หากผ่านได้จึงจะขึ้นไป8.30บาท
*RCL
แนวรับ6.15-5.95 แนวต้านเขตไฮเก่า6.60 หากผ่านจึงจะขึ้นด่านถัดไป7.30และเป้าใหญ่ถัดไป8.30บาท
2.4ดัชนีราคาน้ำตาลโลก ลงมาเขต14.60เซ็นต์/ปอนด์ เป็นอิมแพ็คต์ต่อหุ้นน้ำตาล ดังนั้นควรขายKSLและเปลี่ยนตัวเทรด
2.4ดัชนีราคาน้ำตาลโลก ลงมาเขต14.60เซ็นต์/ปอนด์ เป็นอิมแพ็คต์ต่อหุ้นน้ำตาล ดังนั้นควรขายKSLและเปลี่ยนตัวเทรด
3.อัพเดตกลุ่มสื่อสารกับข้อเสนอของADVANC ให้คสช.ใช้ม.44ยกสัมปทานที่JASทิ้งไปมาให้แทน และผลต่อราคาหุ้นADVANC
DTAC JAS TRUE
-ADVANCเสนอเมื่อ4เม.ย.ที่ผ่านมา เรื่องถึงนายกฯประยุทธ์แล้ว
ส่งเรื่องให้รองนายกฯวิษณุ เครืองาม ไปพิจารณา จะประชุมชี้ขาด8เม.ย.นี้
-DTACที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ออกแถลงการณ์ว่า คนเข้าใจผิดว่าเมื่อไม่ได้4Gในคราวนี้จะส่งผลลบต่อบริษัท ความจริงยังเหลือคลื่นในมือไว้บริการไปอีก20ปี และพัฒนา4Gแล้ว และจะไปประมูล4Gอีกทีในปี2561 ส่วนใบนี้DTACแสดงท่าทีว่า จะไม่เข้าสู้ราคา
มุมมองทางเทคนิค
*ADVANC แนวรับเขต163 หากยืนได้จะฟื้นไป170-172ถัดไป175 แต่หากหลุด163จะลง161.50-159บาท ถัดไป150+/- เท่าที่ฟังแล้วนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองในทางบวกเรื่องจะได้สัมปทานนี้นะครับ หรือรายที่ดาวน์เกรดลงมาอย่างโบรกฝรั่งก็ยังให้เป้า202บาท
*DTAC แนวรับสุดท้ายของโครงสร้างนี้คือ33.50-34.50หากยืนได้ก็ดีไปจะฟื้นไป37.25-38.25 หรือกลับขึ้นไป40 แต่หากหลุด33.50ลงไปนี่ก็ทำยนายยาก คือจะเสี่ยงลงไปตั้งแต่เขต30ไปยันlowเก่า27บาท ก็เป็นตัวที่นักวิเคราะห์มองแย่สุดหละครับ จะมีดีข้อเดียวคือไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินไม่ต้องลงทุนมาก แล้วไปลุ้น4Gเอาข้างหน้าตอนหมดสัมปทานในปี2561
ก็จะเป็นหุ้นที่ใครชอบเสพวิกฤตนะครับ และคิดว่าในที่สุดDTACมันก็จะรอดไปได้ อะไรดีๆจะรออยู่ข้างหน้า ก็ต้องรอให้มันตกซะให้สุด แล้วสร้างฐานชัดๆ เอาไว้ในบัญชีจับตามอง
-DTACที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ออกแถลงการณ์ว่า คนเข้าใจผิดว่าเมื่อไม่ได้4Gในคราวนี้จะส่งผลลบต่อบริษัท ความจริงยังเหลือคลื่นในมือไว้บริการไปอีก20ปี และพัฒนา4Gแล้ว และจะไปประมูล4Gอีกทีในปี2561 ส่วนใบนี้DTACแสดงท่าทีว่า จะไม่เข้าสู้ราคา
มุมมองทางเทคนิค
*ADVANC แนวรับเขต163 หากยืนได้จะฟื้นไป170-172ถัดไป175 แต่หากหลุด163จะลง161.50-159บาท ถัดไป150+/- เท่าที่ฟังแล้วนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองในทางบวกเรื่องจะได้สัมปทานนี้นะครับ หรือรายที่ดาวน์เกรดลงมาอย่างโบรกฝรั่งก็ยังให้เป้า202บาท
*DTAC แนวรับสุดท้ายของโครงสร้างนี้คือ33.50-34.50หากยืนได้ก็ดีไปจะฟื้นไป37.25-38.25 หรือกลับขึ้นไป40 แต่หากหลุด33.50ลงไปนี่ก็ทำยนายยาก คือจะเสี่ยงลงไปตั้งแต่เขต30ไปยันlowเก่า27บาท ก็เป็นตัวที่นักวิเคราะห์มองแย่สุดหละครับ จะมีดีข้อเดียวคือไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินไม่ต้องลงทุนมาก แล้วไปลุ้น4Gเอาข้างหน้าตอนหมดสัมปทานในปี2561
ก็จะเป็นหุ้นที่ใครชอบเสพวิกฤตนะครับ และคิดว่าในที่สุดDTACมันก็จะรอดไปได้ อะไรดีๆจะรออยู่ข้างหน้า ก็ต้องรอให้มันตกซะให้สุด แล้วสร้างฐานชัดๆ เอาไว้ในบัญชีจับตามอง
สำหรับคนที่ติดไว้ก็ต้องดูครับว่า ด่าน33.50-34.50นี่พอหรือยัง ถ้าลงพอก็แสดงว่าDownside riskแล้ว ก็คงไม่น่าขายแล้ว แต่หากคิดว่าถ้ามันหลุดด่านนี้ยังจะตกไป27-30บาท ยังเสี่ยงอีกเยอะก็ต้องกัดฟันยอมSAP แล้วไปรอให้มันทำฐานชัดๆค่อยไปแก้ไขพอร์ตเอาข้างหน้า ตอนมันสร้างฐานชัดเจน และมีสัญญาณฟื้นไข้แล้ว
*TRUE แนวรับ7บาท ต้าน7.40-7.55 หากผ่านก็กลับขึ้นไป หากหลุดยังจะลงไป6.70-6.50
*JAS กลายเป็นไอ้ตัวร้ายสบายไปคนเดียว แนวรับ3.40 แนวต้าน3.74หากผ่านก็ขึ้นกันต่อไป
4.อัพเดตหุ้นแบงก์ใหญ่
4.1BBL จับตามองเมื่อวานก่อนตกมาที่แนวรับเขต1ใน3คือ166.50-167หากยืนได้จะฟื้นไป170 ถัดไป172.50 176.50
สรุปคือดูว่าหากยืนเหนือ166.50ได้จะฟื้น
แต่หากหลุดจะตกไป160-157
ข้อพิจารณาคือการตกมาเขต1ใน3(166.50ที่เป็นราคาปิดวันก่อน)น่าจะเอาอยู่แล้วฟื้น
4.2KBANK ลงมาถึงแนวรับโครงสร้างด่านสุดท่้ายคือ159-157 ถ้ายันได้จะเด้งกลับไป165-170บาท แต่หากหลุดนี่ก็จะลงไปแบบฝรั่งเคยออกบทวิจัยไว้คือ14
4.3SCBตกมาใกล้ด่านกลางทางคือ130+/- ถ้ายืนได้จะฟื้นกลับไป133-135 หรือ138-140 แต่หากหลุดด่าน129-130ก็จะลงไปเป้าหมายฝรั่งวิจัยขายไว้คือ125-120บาท
4.4 KTB แนวรับ1ใน3=17.60-17.80ครับ ถ้าไม่ลึกกว่านี้ก็จะเด้งกลับไป18-18.50 ถ้าหลุดจะตกไป17-16.50
ก็ดูที่ด่าน1ใน3เป็นหลักครับ
**อัพเดตเพิ่มเติมหลังปิดตลาดเย็นวันที่7เมษายน2559
อัพเดตตลาดหุ้นวันนี้(SET) สุดท้ายก็หลุดด่าน1370+/-ลงมาครับในช่วงท้ายตอน4โมงเย็น จะบอกว่าเจอพวกเดย์เทรดขายอย่างเดียวก็กระไร เพราะมีแต่หุ้นใหญ่ขวัญใจกองทุน+สถาบันต่างชาติทั้งนั้น ขนาดปูนใหญ่ยังปิดแดงกับเขา ภาพที่นำมาให้ดูนี้ก็คือมาจากสมมุติฐานว่ารอบล่าสุดSETทำพีคในสัปดาห์ก่อนเมื่อ30มีนาคม ที่1,419.72 จากนั้นเกิดการตกลงมาต่อเนื่อง และเมื่อคำนวณจากฐานต่ำสุด1,220.96เมื่อวันที่11มกราคม จะได้ความว่าอย่างนี้(ว่ากันตามเนื้อผ้าแบบตัดอคติต่างๆออกไปหมดแล้ว)
คือSETก็จะมีเป้าหมายตกลงมาเขต1ใน3ของโครงสร้างนี้(ที่คำนวณจากพีค1419.72กับbottomที่1220.96)บริเวณ33.33%=1353จุด หรือ38.20%=1343 จุด หรือหากเอาอีกอันคือเส้นUptrend line พรุ่งนี้จะ=1346จุด หรือเอาGap supportด้วยก็=1347ถึง1353จุด
พูดง่ายๆว่าเขต1350จุด+/- คือกินบริเวณตั้งแต่1353ไปถึง1345จุดโดยประมาณ จะเป็นด่านที่สำคัญ มีนัยสำคัญทางสถิติ และจะชี้ชะตาตลาดในระยะต่อไป เพราะหากลงต่อในวันพรุ่งนี้แล้วไม่หลุดเขตนี้ก็จะค่อยๆฟอร์มตัวสร้างฐาน เพื่อขึ้นไป1373 และกลับไป1420อีกที(เหมือนที่เขียนให้อ่านตอนเช้า) แต่หากหลุดก็เอวังเลย จะตกต่อไปเรื่อยๆตั้งแต่1320 ถัดไป1300-1285 ถัดไปlowเก่า1200 และทำnew lowกว่า1200
Negative Outlook หรือปัจจัยนเชิงลบทางเทคนิคคือตามตำราทฤษฎีDowนั้นตัวSETเที่ยวนี้ทำnew lowลงมา ชนิดที่ว่าพังลงมาถึง4low ด้วยกันคือตั้งแต่1395 1386 1370 และล่าสุดหมาดๆคือ1366
เพราะงั้นการตัดสินใจเรื่องว่า ควรจะถือหุ้นที่ติดไว้ต่อไปหรือไม่ หรือควรจะซื้ออีกหรือไม่ ก็จึงขึ้นกับว่าพรุ่งนี้(8เมษายน)ไปยันช่วงใกล้ๆนี้ SETลงมาเขต1350+/-(คือตั้งแต่1353 หรืออีก3จุดจากราคาปิดวันนี้ หรือ1344จุด หรืออีก12จุดจากราคาปิดวันนี้ หรือsupport lineเขต1346จุด หรืออีก10จุดจากราคาปิดวันนี้) SETนั้นยืนเหนือเขตนี้ได้หรือไม่ได้เป็นสำคัญ หากได้ก็ควรต้องถือ หรือเป็นโอกาสซื้อ(หากมีเงินเหลือ ยังไม่ติดหุ้นหมด) แต่หากหลุดลงไปก็ต้องเผื่อใจไว้สำหรับการต้องรักษาเงินทุนเอาไว้ ด้วยการขายเอาทุน หรือรักษาทุน
ทั้งนี้ควรไปดูหุ้นรายตัวประกอบอีกทีว่า
1.เป็นหุ้นที่เคลื่อนไหวสัมพันธ์กับSETใช่หรือไม่ ถ้าไปทางเดียวกับSET ก็ให้ดูประกอบเป็นหลักตามที่กล่าวมานี้
2.แต่หากมันแข็งกว่าตลาด(Outperform) หรือแย่กว่าตลาด(Underperform) ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ(เช่น SETขึ้น มันก็ไม่เคยขึ้นกับเขา หรือขึ้นดีกว่าSET หรือไม่เกี่ยวกับSETเลย ห่วยกว่า Underperformมากๆ) ก็ต้องไปพิจารณาเป็นรายตัวไป
หรือ3.มันมีความสัมพันธ์กัยบSETไม่เท่าไหร่ แต่ไปไปrelativeไปสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น เช่น ราคาน้ำมัน ราคาถ่านหิน ราคายางพารา ค่าระวางเรือ อะไรแบบนั้นมากกว่า ก็ให้ไปอิงพวกนั้นมากกว่าอิงกับSET ครับ
ก็ปราการด่านสุดท้ายของตลาดหละครับ เขตที่ว่านั้น ก็ไปตามดูกันอีกในวันพรุ่งนี้ครับ
อ่านเรื่องเกี่ยวเนื่องเพิ่มเติม:อัพเดตตลาดหุ้นไทย ณ ปราการด่านสุดท้ายของการตกปรับฐาน 1350+/-(1343ถึง1353) ต้องทำอย่างไร? ติดหุ้นเอาไว้เยอะมาก ขายCut Lossเลยดีมั็ย?
...............
**อัพเดตเพิ่มเติมหลังปิดตลาดเย็นวันที่7เมษายน2559
อัพเดตตลาดหุ้นวันนี้(SET) สุดท้ายก็หลุดด่าน1370+/-ลงมาครับในช่วงท้ายตอน4โมงเย็น จะบอกว่าเจอพวกเดย์เทรดขายอย่างเดียวก็กระไร เพราะมีแต่หุ้นใหญ่ขวัญใจกองทุน+สถาบันต่างชาติทั้งนั้น ขนาดปูนใหญ่ยังปิดแดงกับเขา ภาพที่นำมาให้ดูนี้ก็คือมาจากสมมุติฐานว่ารอบล่าสุดSETทำพีคในสัปดาห์ก่อนเมื่อ30มีนาคม ที่1,419.72 จากนั้นเกิดการตกลงมาต่อเนื่อง และเมื่อคำนวณจากฐานต่ำสุด1,220.96เมื่อวันที่11มกราคม จะได้ความว่าอย่างนี้(ว่ากันตามเนื้อผ้าแบบตัดอคติต่างๆออกไปหมดแล้ว)
คือSETก็จะมีเป้าหมายตกลงมาเขต1ใน3ของโครงสร้างนี้(ที่คำนวณจากพีค1419.72กับbottomที่1220.96)บริเวณ33.33%=1353จุด หรือ38.20%=1343 จุด หรือหากเอาอีกอันคือเส้นUptrend line พรุ่งนี้จะ=1346จุด หรือเอาGap supportด้วยก็=1347ถึง1353จุด
พูดง่ายๆว่าเขต1350จุด+/- คือกินบริเวณตั้งแต่1353ไปถึง1345จุดโดยประมาณ จะเป็นด่านที่สำคัญ มีนัยสำคัญทางสถิติ และจะชี้ชะตาตลาดในระยะต่อไป เพราะหากลงต่อในวันพรุ่งนี้แล้วไม่หลุดเขตนี้ก็จะค่อยๆฟอร์มตัวสร้างฐาน เพื่อขึ้นไป1373 และกลับไป1420อีกที(เหมือนที่เขียนให้อ่านตอนเช้า) แต่หากหลุดก็เอวังเลย จะตกต่อไปเรื่อยๆตั้งแต่1320 ถัดไป1300-1285 ถัดไปlowเก่า1200 และทำnew lowกว่า1200
Negative Outlook หรือปัจจัยนเชิงลบทางเทคนิคคือตามตำราทฤษฎีDowนั้นตัวSETเที่ยวนี้ทำnew lowลงมา ชนิดที่ว่าพังลงมาถึง4low ด้วยกันคือตั้งแต่1395 1386 1370 และล่าสุดหมาดๆคือ1366
เพราะงั้นการตัดสินใจเรื่องว่า ควรจะถือหุ้นที่ติดไว้ต่อไปหรือไม่ หรือควรจะซื้ออีกหรือไม่ ก็จึงขึ้นกับว่าพรุ่งนี้(8เมษายน)ไปยันช่วงใกล้ๆนี้ SETลงมาเขต1350+/-(คือตั้งแต่1353 หรืออีก3จุดจากราคาปิดวันนี้ หรือ1344จุด หรืออีก12จุดจากราคาปิดวันนี้ หรือsupport lineเขต1346จุด หรืออีก10จุดจากราคาปิดวันนี้) SETนั้นยืนเหนือเขตนี้ได้หรือไม่ได้เป็นสำคัญ หากได้ก็ควรต้องถือ หรือเป็นโอกาสซื้อ(หากมีเงินเหลือ ยังไม่ติดหุ้นหมด) แต่หากหลุดลงไปก็ต้องเผื่อใจไว้สำหรับการต้องรักษาเงินทุนเอาไว้ ด้วยการขายเอาทุน หรือรักษาทุน
ทั้งนี้ควรไปดูหุ้นรายตัวประกอบอีกทีว่า
1.เป็นหุ้นที่เคลื่อนไหวสัมพันธ์กับSETใช่หรือไม่ ถ้าไปทางเดียวกับSET ก็ให้ดูประกอบเป็นหลักตามที่กล่าวมานี้
2.แต่หากมันแข็งกว่าตลาด(Outperform) หรือแย่กว่าตลาด(Underperform) ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ(เช่น SETขึ้น มันก็ไม่เคยขึ้นกับเขา หรือขึ้นดีกว่าSET หรือไม่เกี่ยวกับSETเลย ห่วยกว่า Underperformมากๆ) ก็ต้องไปพิจารณาเป็นรายตัวไป
หรือ3.มันมีความสัมพันธ์กัยบSETไม่เท่าไหร่ แต่ไปไปrelativeไปสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น เช่น ราคาน้ำมัน ราคาถ่านหิน ราคายางพารา ค่าระวางเรือ อะไรแบบนั้นมากกว่า ก็ให้ไปอิงพวกนั้นมากกว่าอิงกับSET ครับ
ก็ปราการด่านสุดท้ายของตลาดหละครับ เขตที่ว่านั้น ก็ไปตามดูกันอีกในวันพรุ่งนี้ครับ
อ่านเรื่องเกี่ยวเนื่องเพิ่มเติม:อัพเดตตลาดหุ้นไทย ณ ปราการด่านสุดท้ายของการตกปรับฐาน 1350+/-(1343ถึง1353) ต้องทำอย่างไร? ติดหุ้นเอาไว้เยอะมาก ขายCut Lossเลยดีมั็ย?
...............
ขบวนสุดท้ายอย่าได้พลาด-งานอบรม”ลงทุนหุ้นให้มั่งคั่งทั้งสั้น+ยาว กับณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์” รอบที่4ในวันอาทิตย์ที่10เมษา59
เต็มแล้ว เต็มอีก ต้องเพิ่มให้อีกรอบ เป็นรอบที่ 4 ใน วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนนี้งานอบรม “ลงทุนหุ้นให้มั่งคั่งทั้งสั้น+ยาว กับณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์”
สิ้นสุดการรอคอย 2 ปีที่ผมงดจัดกิจกรรมงานฝึกอ
* คนที่เน้นลงทุนยาวเป็นปีไปถ
* คนเล่นสั้นเพียงเดือนเดียวไ
* ฟันธงตลาดหุ้นขึ้นรอบใหม่ ทั้งรอบเดือนพฤษภาคม และ
รอบ Election Rally ปลายปีนี้
* ลงทุนหุ้นกลุ่มไหน ประเภทไหน ? รวย !
* สอนวิธีสแกนหาหุ้นเด่นด้วยต
* ฝึกวิธีใช้กราฟเทคนิคให้แม่
* ปรับพอร์ตสำหรับหุ้นติดดอย
* เปิดเผยเคล็ดลับโมเดลDestru
พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้น
กำหนดการงานฝึกอบรม-วันที่ 10 เมษายน 2559 เวลา 08.30-17.00 น.
ลงทะเบียน 08.30 น.-สถานที่ ห้องฝึกอบรม บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาก
ช่วงที่ 1 ฟันธงหุ้นไทย และการปรับพอร์ตลงทุนปี 2559
* ฟันธงตลาดหุ้นไทยในระยะยาว 20 ปี (2015-2035)
พร้อมคู่มือการลงทุนสำหรับน
* ฟันธงตลาดหุ้นไทยตลอดปี 2559 แกว่งกรอบ 1200-1600 จุด
* ปัจจัยลบ, ปัจจัยบวก, ปัจจัย Election Rally
* เป้าหมายการขึ้นของปีนี้เท่
หรือ New High?
* จะขึ้นถึงเป้าหมายเมื่อไหร่
* กลยุทธ์การลงทุนที่สำคัญ เต็มพอร์ต หรือครึ่งพอร์ต หรือปรับพอร์ต ?
วิธีการ : อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บรรยาย เวลา 09.00-10.00 น.
ช่วงที่ 2 สแกนหา 5 หุ้นเด่นเล่นให้รวย ลงทุนให้มั่งคั่ง
ทั้งพอร์ตเล่นสั้นและนักลงท
* รู้จัก 5 ประเภทหุ้นเด่นเล่นให้รวย อย่าสะเปะสะปะปนกัน ไม่งั้นซวย
* อบรมวิธีคัดสรร Scan หุ้นเด่น 5 ประเภท คือ หุ้นบลูชิพ , หุ้นGrowth,
หุ้นตามรอบวัฏจักร, หุ้นTurnaround , หุ้นปันผลดีและปลอดภัย
แถมด้วย SET 50 FUTURES ภาคปฏิบัติ
* จัดพอร์ตหุ้นเด่นเล่นให้รวย
ด้วย 2 ประเภทหุ้นเด่นที่สุด
* จัดพอร์ตการลงทุน สำหรับผู้ลงทุนระยะยาวด้วย 5 หุ้นเด่น
* ปรับพอร์ตการลงทุน สำหรับพอร์ตหุ้นติดดอย
วิธีการ : อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บรรยาย และ ฝึกอบรมภาคปฏิบัติแก่ผู้เข้
เวลา 10.00-12.00 น.
เรียนจบแล้ว สามารถนำความรู้เรื่องการคั
สไตล์อาจารย์ณัฐวุฒิ ไปประกอบการซื้อขายลงทุนแบบ
ช่วงที่ 3 ฟันธงหุ้นไทยสไตล์ณัฐวุฒิ ด้วยกราฟเทคนิค
ให้แม่นยำขั้นเทพราวจับวาง
* วิธีเรียนลัดให้เข้าถึงหัวใ
ได้ว่า หุ้นจะขึ้นหรือตก
* การใช้สูตรมหัศจรรย์ Fibonacci คำนวณหาเป้าหมายขึ้น เป้าหมายตก
เป้าหมายซื้อ เป้าหมายขายได้แม่นยำ ไม่พลาดเป้า
แก้อาการ ขายหมู , ตกรถ , ผิดทาง , ติดหุ้น ได้ชงัด
* วิธีดูยอดดอยในช่วงตลาดขาขึ
ให้แม่นเพะ และซื้อขายได้อย่างเฉียบขาด
* วิธีใช้กราฟทางเทคนิคจับทาง
ไม่ให้หลอกกินตับเราได้ เขาจะหลอกไปเชือดเราก็รู้
หลอกทุบเอาของถูก เราก็ทันเกม
(มีสอนที่นี่ที่เดียว กล้ารับประกันครับ ตัวอย่างของจริงมีให้ดูชัดๆ
วิธีการ : อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บรรยาย และ นำพาผู้เข้าเรียนทำเวิร์คช็
ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์1เคร
กราฟ ASPEN และ Efinancethai
เวลา 13.00-16.00 น.
เรียนจบแล้ว สามารถนำความรู้เรื่องกราฟเ
ไปประกอบการซื้อขายลงทุนแม่
ช่วงที่ 4 จิตวิทยาตลาดหุ้น ฉีกกฎการลงทุนโลกตะลึง
* อารมณ์จิตวิทยาของฝูงชน กับ วงจรอุบาทว์ตลาดหุ้น
* วิกฤตการณ์และมหาอุบัติภัยช
และพลิกให้รวยทันใจด้วยสูตร
3 ขั้นตอน
* อารมณ์จิตวิทยาของมวลชนกับท
* กรณีศึกษา สูตรสำเร็จพลิกวิกฤตเป็นโอก
รวยหุ้นด้วย Creative Destruction Model 3 ขั้นตอน
วิธีการ : อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บรรยาย เวลา 16.00-17.00 น.
รับอภิสิทธิ์ อภินันทนาการ ฟรี ! ทันที ... เมื่อสำรองที่นั่ง
1. หนังสือ 10 สูตรสำเร็จทีเด็ดรวยหุ้น 1,000 ล้าน
2. หนังสือ จิตวิทยาตลาดหุ้น ฉีกกฎการลงทุนโลกตะลึง
3. หนังสือ คู่มือลงทุนตลาดหุ้นไทย 20 ปี (2015-2035)
4. คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ (ผ่านห้องLINE)
5. คัมภีร์หุ้นไทยรายสัปดาห์ฉบ
*** สำรองที่นั่งก่อน รับสิทธิ์ก่อน ไม่ต้องรอถึงวันงาน ***
วิธีการสำรองที่นั่ง
1. ชำระเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย
2. แจ้ง ชื่อ สกุล เบอร์โทร ID LINE พร้อมแนบหลักฐานการชำระเงิน
PROMOTION
รับส่วนลด 300.-บาท เหลือ 3,400.-บาท เมื่อชำระภายในวันที่ 29 มี.ค.นี้
จากราคาเต็ม 3,700.-บาท / 1 ที่นั่ง / คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง / อาหารเที่ยง 1 มื้อ เบรก 2 เบรก
`..........`
คอมพิวเตอร์ :1 ท่าน ต่อ 1 เครื่อง ที่ห้องฝึกอบรมมีไว้ให้แล้ว
ยกเว้นกรณีท่านจะนำมาลงโปรแ
โปรแกรมที่ใช้ฝึกอบรม :โปรแกรมกราฟ ASPEN ( APEX-IRS) เป็นหลัก และใช้ eFinancethai สำหรับการเทรดในระยะสั้นมาก
เอกสารประกอบการฝึกอบรม :มีเอกสารประกอบการฝึกอบรม พร้อมกับกระดาษและปากกาสำหร
อาหารและเบรก :มีอาหารเที่ยง 1 มื้อ และ เบรก 2 เบรก รับประทานที่ห้องจัดเลี้ยงข
สถานที่จอดรถ :จอดบริเวณด้านหน้าบริษัทฯ และบริเวณสโมสรหมู่บ้านฯ
สถานที่ฝึกอบรม :ห้องฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ
แนะนำการเดินทาง : ให้ท่านSearch ใน Google Maps คำว่า “ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาก
ในกรุงเทพฯ :เมื่อท่านอยู่บน ถนนรามคำแหง มุ่งหน้าไปมีนบุรี ให้ท่านมองฝั่งซ้ายมือ พอผ่านธนาคารกสิกร สาขาถนนรามคำแหง 151 เลขซอยเป็นเลขคี่ เมื่อเห็นป้าย ซอยรามคำแหง 155 ให้เข้าเลนกลาง ผ่านHonda สุขาภิบาล 3 นับไป 3 สะพานลอย พอผ่านสะพานข้ามคลองให้เข้า
จากต่างจังหวัด:-กรณี ไม่พักค้าง ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ บอกแท็กซี่ให้มาส่งกลางซอยม
-กรณี พักค้าง มีที่พักใกล้สถานที่ฝึกอบรม
รายเดือน อยู่ห่างจากสถานที่ฝึกอบรมเ
* ขอให้ท่าน มีความสุข มั่งคั่ง โชคดี มีกำไร ปลอดภัยในการลงทุน ทุกท่านครับ *
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น