โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธาน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
มุมมองหนึ่งของFibonacci retracement เป้าหมายการตกในมิตินี้คือเขต1ใน3ของการตกคือ1435-1417จุดครับ
มุมมองหนึ่งของFibonacci retracement เป้าหมายการตกในมิตินี้คือเขต1ใน3ของการตกคือ1435-1417จุดครับ
แต่มิตินี้จะถูกก็คือ ต้องกลับตัวขึ้นไปผ่านแนวต้านDowntrendให้ได้ด้วย
ตลาดรวมๆเวลานี้้คือ
1.ตกแบบPanic sellลงมาหนัก
2.ตกมาเป้าหมายเขต1ใน3fibonacci คือ1430+/-(ตั้งแต่1430ถึง1417)
3.ตกมาเขตOversoldมากๆ
4.แต่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวหรือฟื้นตัวขึ้น
2.ตกมาเป้าหมายเขต1ใน3fibonacci คือ1430+/-(ตั้งแต่1430ถึง1417)
3.ตกมาเขตOversoldมากๆ
4.แต่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวหรือฟื้นตัวขึ้น
สรุปคือลงมาเยอะ ลงมาเขตเป้าหมายที่ควรจะต้องหยุดไหลแล้ว และควรฟื้นขึ้น แต่สภาพจิตวิทยาฝูงนั้นถูกครอบงำด้วยความกลัว(Fear) ที่มีอิทธิพลต่อตลาดมาก ข้อพิจารณามีว่า
1.หากหยุดตกหยุดไหลที่เขต1ใน3fibonacci (คือ1430-1417จุด) ก็จะเกิดการฟื้นกลับไปอย่างน้อยที่เขตแนวต้านDowntrendราวๆ1475
2.แต่หากไหลหลุดจากเขตนี้ลงไป(ด้วยอะไรก็ตาม เช่น ด้วยFearของHerd Instinct)มันก็จะเสี่ยงไหลลงยาวตั้งแต่
1390
1375
1350
1330
1200+/-(ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของSETในรอบ4ปีมานี้)
1375
1350
1330
1200+/-(ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของSETในรอบ4ปีมานี้)
สรุปว่าหุ้นขึ้นหรือตก องค์ประกอบก็มี
1 ข้อมูลข่าวสารปัจจัยพื้นฐานเนื้อแท้
2 พฤติกรรมของฝูง จิตวิทยาฝูง
3 จังหวะในการขึ้นหรือตก ตามข้อ1และ2ครับ
หากเป็นไปตามข้อ1 เราเรียกว่าเป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพ คือเป็นไปตามเนื้อผ้าเนื้อแท้ เป็นแนวๆVIครับ ก็ไปหามูลค่าหุ้นที่แท้จริง(Instinctive Value)ให้เจอ สมมุติหุ้นตัวนี้มีมูลค่าที่แท้จริงอยู่100บาท ก็ให้ต่อราคาเยอะๆ เช่น เกิดPanic sellแบบตอนนี้ ทำให้ได้ราคาส่วนลดจากมูลค่าที่แท้จริงมากๆระดับ40-50% ก็เป็นโอกาสซื้อ เวลาตลาดอารมณ์ดีมากๆ Panic buyจัดๆ ขึ้นไปเกินมูลค่าที่แท้จริงก็ขายทำกำไร
หากเป็นไปตามข้อ2 ก็รอให้นรกมันเย็นลงก่อนในเวลาPanic sellครับ เพราะจิตวิทยาฝูง หรือพฤติกรรมของมนุษย์ในทางเศรษฐศาสตร์นั้นมันจะขาดความเป็นเหตุเป็นผลไปมาก (Irrational Market) ทำให้ตลาดขาดประสิทธิภาพครับ เนื่องมาจาก
1.ความไม่เท่าเทียมกันในด้านข้อมูลข่าวสาร(Asymetric information) เช่น กองทุนรอบนี้ขายมาก่อนใครและขายต่อเนื่อง อาจมีInside Information ขณะที่ฝรั่งไม่มีข้อมูลวงใน ก็ยังซื้อโดยอิงเนื้อแท้ของหุ้นด้านFundamental ส่วนรายย่อยก็แล้วแต่ราคาหุ้น ตกหนักก็เสียขวัญ ทำท่ากระเตื้องก็มีกำลังใจ ตกมาแรงๆก็ด่ากองทุนว่าทุบหุ้น
1.ความไม่เท่าเทียมกันในด้านข้อมูลข่าวสาร(Asymetric information) เช่น กองทุนรอบนี้ขายมาก่อนใครและขายต่อเนื่อง อาจมีInside Information ขณะที่ฝรั่งไม่มีข้อมูลวงใน ก็ยังซื้อโดยอิงเนื้อแท้ของหุ้นด้านFundamental ส่วนรายย่อยก็แล้วแต่ราคาหุ้น ตกหนักก็เสียขวัญ ทำท่ากระเตื้องก็มีกำลังใจ ตกมาแรงๆก็ด่ากองทุนว่าทุบหุ้น
2.รอดูเรื่องค่าสัญญาณทางเทคนิคตามตำรา อย่างกรณีนี้คือหลังจากตกจากยอดดอย1558จุด เมื่อลงมาเขต1ใน3Fibonacci บริเวณ1430-1415จุด โดยประมาณ มันหยุดไหลตรงนี้หรือไม่ หากหยุดไหลก็ค่อยได้ลุ้นทางบวก หากทะลุลงไป ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรครับ ก็ห้นไปใช้ยุทธวิธีเทรดหุ้นด้วยการอิงขาลงเป็นหลักในระยะต่อไป
..............
การอัพเดตเพิ่มเติมคู่มือตลาดหุ้นไทย20 ปี
เรียน ท่านผู้มีอุปการคุณ ที่ซื้อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทย20ปี ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม
เนื่องจากตลาดเที่ยวนี้ได้ตกต่ำลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อประโยชน์แก่ท่านที่ซื้อหนังสืออย่างเต็มที่ จึงทำให้ผมต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในส่วนนี้พอสมควร เพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์แบบถูกต้องครบถ้วนยิ่งขึ้น
และจะนำเนื้อหาเรื่อง"จิตวิทยาการลงทุน:ฉีกกฎลงทุนโลกตะลึง"มาเพิ่มเติมด้วยครับ เพื่อให้ท่านที่ซื้อหนังสือไป สามารถนำไปประยุกต์ใช้รับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆได้ต่อไป เพราะวิกฤตการณ์กับตลาดนั้นเป็นของคู่กันนั่นเองครับ
สำหรับท่านที่ชำระค่าหนังสือมาแล้ว ท่านสามารถเข้าไปติดตามข้อมูลที่อัพโหลดเพิ่มเติมได้ในห้องปิด"คู่มือตลาดหุ้นไทย20ปีByณัฐวุฒิ" และเปิดดูในไฟล์ที่ผมอัพโหลดขึ้นมา อ่านได้เลยครับ มีประโยชน์มากๆ
หากมีปัญหาข้อขัดข้องใด กรุณาแจ้งทีมงานของเราได้ที่ID LINE:tontancorp
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น