อบรมเชิงปฏิบัติการเรียนกราฟเทคนิคขั้นเทพรุ่นที่ 21 วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมนี้ อีกครั้งกับการฟันธงมิติเวลาTIME ZONEมหัศจรรย์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่นี่ที่เดียว พร้อมสูตรลับคัดหุ้นเด่นเล่นให้รวยด้วยชาร์ตเทคนิค+คำนวณหาราคาเป้าหมายทางพื้นฐานอย่างง่าย ได้หุ้นดีในยามตลาดหุ้นตกหนักในราคาถูก และแนะแนวการแก้ไขพอร์ตสำหรับท่านที่ติืดหุ้น พลิกสถานการณ์เอาทุนคืนอย่า่งไร? ด้วยลูกสูตรCreative Destruction ที่ผมพานักลงทุนเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสทองมาหลายครั้งในรอบ15ปีมานี้พิเศษแจ้งรับสมาชิกรับหุ้นเด่นแม่นยำฉับไวก่อนใครวันนี้ ได้สิทธิ์เข้าเรียนฟรี โทรสอบถามที่ โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
บทความนี้จะล่าช้ากว่าที่ส่งให้สมาชิกอ่าน และไม่มีแนะนำหุ้นเด่น สำหรับหุ้นเด่นรายตัว แนะนำท่านสมาชิกอ่านที่www.tintancorp.comครับ
***หมายเหตุ:บทความนี้จะลงช้าไป 1 วัน สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่นรายตัว ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
I.ว่าด้วยโมเดลวิกฤต 3 ช่วงของตลาดหุ้น รอบนี้จะเข้าข่ายนี้หรือไม่? เพื่อตอบโจทก์ที่วิตกกันว่าวิกฤตรอบนี้จะมีอนาคตไปทางใดกันแน่?
ชาร์ตที่1:ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ผมขอนำรูปแบบหรือโมเดลเวลาตลาดหุ้นเจอวิกฤติต่างๆ (วิกฤตเศรษฐกิจ,วิกฤตการเมือง,วิกฤตภัยพิบัติธรรมชาติ,วิกฤตโรคระบาด,วิกฤตสงคราม,วิกฤตการจลาจล เป็นต้น) โดยทั่วไปแล้ว ผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ดังนี้
ช่วงที่1:Panic sell นักลงทุนจะเทขายด้วยความตระหนกตกตื่นเพราะเกรงว่าผลลบจะหนักหน่วง เช่น รอบนี้ก็กลัวว่ากรีซจะล้มละลาย ฉุดยุโรปและทั้งโลกลากยาวดำดิ่งสู่วิกฤตการณ์ ทำให้ต่างเทขายแบบpanic sell ทำให้ตลาดหุ้นร่วงหนัก
ช่วงที่2:Sidewayซึมตัวรอข่าวที่ชัดเจน เป็นช่วงที่คนในตลาดหายตระหนก แต่ก็ไม่มีความหวังในทางที่ดี และยังปริวิตกต่ออนาคต ทำให้ฝ่ายซื้อก็เกร็ง ฝ่ายขายก็ขายจนพอแล้ว มักทำให้ตลาดช่วงนี้ซึมตัวซบเซา วอลุมเทรดเบาบางลง และรอคอยข่าวที่ชัดเจนว่า จะลงเอยอย่างไรแน่
ช่วงที่3: Creation Destructive Marketหรือการสร้างสรรค์เชิงทำลาย หรือการอุบัติใหม่ ช่วงนี้คือสถานการณ์ชัดเจนแล้ว เช่น รอบนี้ก็จะสรุปชัดว่า ยุโรปจะช่วยกอบกู้วิกฤตในกรีซหรือไม่? ซึ่งโดยทั่วไปของโมเดลนี้ก็คือ ไม่ว่าผลสรุปสุดท้ายจะออกมาเช่นไร(ช่วยหรือไม่ช่วย/เกิดหรือไม่เกิดสงคราม,ใครจะแพ้หรือชนะเลือกตั้ง,ผลของการจลาจลทางการเมืองใครแพ้หรือชนะฯลฯ)ถือว่าจบข่าวที่วิตกกัน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ตลาดหุ้นจะขึ้นทุกครั้งและขึ้นแรงและไปทำนิวไฮ สูงกว่ายอดพีครอบก่อนเสมอ
ข้อสรุป-หากพิจารณาจากชาร์ตของตลาดหุ้นโลกก็ต้องคาดว่าตลาดหุ้นโลกเวลานี้ผ่านช่วงที่1ไปแล้ว เวลานี้กำลังอยู่ในช่วงที่2คือซึมตัวรอผลสรุปที่ชัดเจน ส่วนช่วงที่3ก็เมื่อผลออกมาชัดเจนแล้วตลาดหุ้นจะขึ้นแรงและทำนิวไฮเหมือนทุกวิกฤตการณ์ที่เคยเจอมาหรือไม่ ไม่นานคงมีคำตอบ(ตามกำหนดการก็ต้องเป็นกลางเดือนพ.ย.จะเข้าสู่ช่วงที่3 ซึ่งก็นานพอดูสำหรับตลาดหุ้น)
ผมมักโดนถามประจำเวลานำโมเดลCreation Destructive Marketมาให้ดูว่าหากผลสรุปออกมาแย่มากๆมันไม่ฉุดให้หุ้นร่วงลงต่อหรือ คำตอบคือ สถิติที่ผ่านมาไม่ตกต่อครับ เพราะตลาดได้ซึมซับเอาปัจจัยลบไปหมดแล้วตั้งแต่ในช่วงระยะที่1ครับ
กลยุทธ์บันได 3 ขั้น-ข้อแนะนำทางกลยุทธ์ที่ผมแนะนำเสมอในช่วงเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆก็คือว่า ในช่วงที่1อย่าไปฝืนแรงขายและข่าวร้ายให้ขายตามน้ำ
แต่ในช่วงที่2หลังจากซึมมาระยะพอสมควร เป็นช่วงเวลาที่น่าช้อนซื้อหุ้นมาก หรือก็อย่าไปขายหุ้นทิ้ง
แต่หากคุณไม่มั่นใจก็คอยจนกว่าเข้าช่วงที่3คือมีข้อสรุปชัดเจน(ไม่ว่าข้อสรุปนั้นจะดีหรือแย่ขนาดไหน)ตลาดจะเริ่มขึ้น คุณค่อยไปfollow buy หรือถือหุ้นรอเอาทุนคืนจังหวะนั้น
II.เปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จริงไหมที่ว่าเราไปทางเดียวกับฮ่องกง? และโมเดลของตลาดหุ้นยามวิกฤติคราวนี้จะเข้าข่ายบันได 3 ขั้นหรือไม่?
ชาร์ตที่2:หุ้นไทย เทียบไปแล้วคือเราตกเขต1ใน3retracement (เมื่อคำนวณจากยอดพีค1148และจากฐานที่ขึ้นมาจาก380จุดเมื่อปี2551) กล่าวคือเทียบเท่ามาตรฐานโลกคือดัชนีดาวโจนส์ และพอๆกับโซนเดียวกับเราคือTIP
หุ้นไทย เทียบไปแล้วคือเราตกเขต1ใน3retracement (เมื่อคำนวณจากยอดพีค1148และจากฐานที่ขึ้นมาจาก380จุดเมื่อปี2551) กล่าวคือเทียบเท่ามาตรฐานโลกคือดัชนีดาวโจนส์ และพอๆกับโซนเดียวกับเราคือTIP เพียงแต่เราลงมากกว่าอินโดนีเซียกับฟิลิปปินส์
-เขต1ใน3ที่ว่านี้ตัวเลขอนุกรมไฟโบนัชชี่=850จุด+/- เมื่อวานก่อนลงลึกสุด843ปิด ดีที่ว่าฟื้นกลับมาปิดที่38.20%retracement=855จุดได้ เลยฟื้นต่อ เมื่อวานปิดที่862จุด
-ข้อที่ต้องพิจารณาก็คือ หากเราแย่พอๆกับฮ่องกง(ซึ่งคนไทยมักไปคิดว่าเราขึ้นหรือลงตามฮ่องกง) หุ้นไทยเราเวลานี้ก็ต้องลงไปเขต50%retracement=764จุดเป็นอย่างน้อย หรือต้องตกลงไปเขต2ใน3=673หรือ636 เท่ากับตลาดฮ่องกงไปแล้ว แต่ความจริงคือเราลงมาแค่เขต1ใน3เท่านั้น(เทียบเท่าแล้วหุ้นฮ่องกง=19000-20000จุด)
หากจะบอกว่าเราเหมือนหรือคล้ายใครมากกว่า คำตอบคือเหมือนกับดาวโจนส์ และคล้ายกับอีก2ตลาดในโซนTIP
II.เปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จริงไหมที่ว่าเราไปทางเดียวกับฮ่องกง?
2.1ตลาดหุ้นยุโรปซึ่งนำตลาดหุ้นทั่วโลกตกรอบนี้ ตอนนี้ดูเหมือนจะมีสัญญาณฟื้นตัว หรืออาจต่ำสุดไปแล้ว
ชาร์ตที่1:ดัชนีDAXตลาดหุ้นเยอรมัน ซึ่งเป็นภาพตัวแทนของตลาดหุ้นยุโรปที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ นำตลาดหุ้นทั่วโลกลงในรอบนี้ ได้ตกจากพีค7600จุด ลงมาถึงแนวรับสุดท้ายเขต4900จุด แล้วฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับเกิดBullish divergenceในRSIของชาร์ตรายวัน
ประเด็นนี้เป็นการจุดประกายว่า น่าจะมีโอกาสที่ตลาดหุ้นยุโรปอาจจะยืนยันจบขาลง แล้วเปลี่ยนเป็นขาขึ้น หรือไซด์เวย์ จะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ลงหนักตามยุโรป มีโอกาสฟื้นไข้ตามในระยะต่อไป
2.2ตลาดหุ้เนอเมริกาตกน้อยกว่ายุโรป แต่มีด่านสำคัญแถว10500เป็นปราการรับด่านสำคัญ
ชาร์ตที่2:ส่วนตลาดหุ้นอเมริกา ร่วงลงน้อยกว่ายุโรป คือลงมาเขต1ใน3fibonacci retracement(ขณะที่ยุโรปอย่างเยอรมันตกไปถึงเขต2ใน3) ดัชนีดาวโจนส์ทำรูปแบบDouble bottomเขต10600+/-ก็อาจหยุดไหลลงแล้วฟื้นตัวขึ้น หรือแกว่งไซด์ เวย์ซึมตัวออกข้าง(แม้เมื่อคืนวันศุกร์ตกหนักก็ยังอยู่ในกรอบไซด์เวย์อยู่ จะน่าห่วงก็คือหากหลุดเขต10500ลงไปจึงจะเป็นทิศทางขาลงต่อไป)
2.3ฮ่องกงอาจลงมาเขต2ใน3ราวๆ16000-15450แล้วหยุดไหลลง
ชาร์ตที่3:ดัชนีหุ้นฮ่องกงลงมามากกว่าอเมริกา ดัชนีหุ้นฮ่องกงลงมามากกว่าอเมริกา ล่าสุดเมื่อวานก่อนลงมาลึกสุดที่16170จุด ลงมาเท่ากับยุโรป คือเขต2ใน3retracement บริเวณ16140-15450 ก็เป็นไปได้อาจลงมาเท่ายุโรปแล้วฟื้น หรือเข้าสู่ช่วงที่2ของวิกฤต(โดยหากผ่านเขต17800จะเป็นการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง)
2.4ตลาดหุ้นไทยลงมาเขต1ใน3เท่าๆกับอเมริกาและตลาดTIPไม่ได้ร่วงตามฮ่องกง
เวลาที่ฝรั่งต่างชาติมาลงทุนในโซนตลาดหุ้นบ้านเราเขาจะเรียกว่าTIP-Thailand,Indonesia,Philippines ซึ่งจะพบว่าเราจะคล้ายๆกลุ่มนี้มากกว่าฮ่องกง กล่าวคือขณะที่ฮ่องกงลงไปเขต2ใน3แต่ของเราเพิ่งตกลงมาเขต1ใน3(เมื่อคำนวณจากยอดพีค1148และจากฐานที่ขึ้นมาจาก380จุดเมื่อปี2551)
ชาร์ตที่4:ตลาดเอินโดนีเซียล่าสุดลงมาใกล้เขต1ใน3ลงน้อยกว่าหุ้นไทยเล็กน้อย
ชาร์ตที่5:เช่นเดียวกับตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ลงมาใกล้เขต1ใน3ตกน้อยกว่าไทยเล็กน้อยเช่นกัน
ชาร์ตที่6:หุ้นไทย เทียบไปแล้วคือเราตกเขต1ใน3retracement (เมื่อคำนวณจากยอดพีค1148และจากฐานที่ขึ้นมาจาก380จุดเมื่อปี2551) กล่าวคือเทียบเท่ามาตรฐานโลกคือดัชนีดาวโจนส์ และพอๆกับโซนเดียวกับเราคือTIP
-เขต1ใน3ที่ว่านี้ตัวเลขอนุกรมไฟโบนัชชี่=892หรือ855จุด โดยในสัปดาห์ก่อนหุ่นไทยเราตกมาแล้วที่867จุด ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ว่านี้
-หากเราแย่พอๆกับฮ่องกง(ซึ่งคนไทยมักไปคิดว่าเราขึ้นหรือลงตามฮ่องกง)เราต้องลงไปเขต50%retracement=764จุดไปแล้ว หรือลงไปเขต2ใน3=673หรือ636ไปแล้ว
ข้อสรุป-ดังนั้นก็ควรเข้าใจให้ถูกว่าหุ้นไทยไม่ได้ขึ้นหรือลงแบบเดียวกับฮ่องกงนะครับ ของเราตอนนี้จะไปทางเดียวกับดาวโจนส์ หรือTIPเป็นหลัก คือลงมาเขต1ใน3 ก็คือบริเวณ850+/- หากยืนได้มีโอกาสจะเด้งรีบาวนด์ หรือกระทั่งเป็นจุดต่ำสุดก่อนการฟื้นขึ้นรอบใหญ่(ซึ่งต้องดูตลาดยุโรปประกอบเป็นหลักว่าเขตนี้พอหรือยัง?)
เว้นแต่ว่าเราจะหลุดเขต1ใน3 หรือ850+/-ลงไปเด็ดขาด อันนั้นก็น่าหวั่นวิตกว่าจะลงตามฮ่องกงลงไปตั้งแต่50%=765หรือ2ใน3คือตั้งแต่675-635 แต่ผมคิดว่าไม่น่าใช่ เพราะหากของเราจะตามฮ่องกงก็ควรหลุด850ไปแล้ว คือSETตอนนี้ต้องลงไปเล่นแถวเขต635-675ไปแล้วหากเราจะเหมือนฮ่องกงนะครับ
ในตอนนี้ที่ฮ่องกงร่วงลงแรงมาเขต2ใน3คือราวๆ16000-15000จุด ก็ต้องดูว่าหยุดไหลเขตนี้ตามยุโรปที่ลงนำหน้าไปแล้วและหยุดไหลหรือไม่ หากใช่แล้วเด้งได้ ของเราก็น่าหยุดลงไม่เกิน1ใน3คือแย่สุด850+/-
หากพิจารณาจากโมเดล 3 ช่วงวิกฤต ก็ต้องคิดว่าเวลานี้เราอาจอยู่ช่วงที่ 2 คือซึมตัวในกรอบระหว่าง 850-950จุดไปซักระยะ จนกว่าทางยุโรปจะชัดเจนแล้วเข้าสู่ช่วง 3 เราจึงจะขึ้นช่วง 3 ไปด้วย
กลยุทธ์-ก็คงต้องทำให้สอดคล้องกับแนวโน้มที่ว่านี้คือ หากเราไม่ลงลึกกว่าเขต1ใน3 แถวบริเวณ850/- ก็น่าเข้าช้อนซื้อไว้ หากเราคิดว่าเวลานี้วิกฤตหนี้ยุโรปอยู่ช่วงที่2ใกล้เข้าสู่ช่วงที่3แล้ว เพราะมีโอกาสฟื้นไปเขต945หรือ960จุดได้ หรืออยากขายก็ไปรอเขตนั้น หรือแม้กระทั่งเข้าสู่ช่วง3ไปทำนิวไฮรอบใหม่เกิน1148ที่ทำไว้ ทั้งนี้เว้นแต่หลุดเขต850ลงไปเด็ดขาดภายในสัปดาห์นี้ ก็ต้องไปอิงเล่นขาลง เพราะเสี่ยงลงไปตั้งแต่765หรือ675-635จุดได้
*********
อบรมเชิงปฏิบัติการเรียนกราฟขั้นเทพ ได้จังหวะช้อนหุ้นดีราคาถูกช่วงตกกระหน่ำ แนะนำแนวทางแก้ไขพอร์ต
อบรมเชิงปฏิบัติการเรียนกราฟเทคนิคขั้นเทพรุ่นที่ 21 วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมนี้ อีกครั้งกับการฟันธงมิติเวลาTIME ZONEมหัศจรรย์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่นี่ที่เดียว พร้อมสูตรลับคัดหุ้นเด่นเล่นให้รวยด้วยชาร์ตเทคนิค+คำนวณหาราคาเป้าหมายทางพื้นฐานอย่างง่าย ได้หุ้นดีในยามตลาดหุ้นตกหนักในราคาถูก และแนะแนวการแก้ไขพอร์ตสำหรับท่านที่ติืดหุ้น พลิกสถานการณ์เอาทุนคืนอย่า่งไร?
พิเศษแจ้งรับสมาชิกรับหุ้นเด่นแม่นยำฉับไวก่อนใครวันนี้ ได้สิทธิ์เข้าเรียนฟรี โทรสอบถามที่ โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
กำหนดการ หลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการเรียนกราฟเทคนิคชั้นสูง เพื่อการซื้อขายหุ้นอย่างแม่นยำสำหรับมือเซียน(เทคนิคขั้นเทพ)รุนที่ 20 วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายนนี้ รีบจองก่อนที่นั่งเต็ม
สอนแบบจัดเต็มไม่มีกั๊กโดย-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธาน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินรายการเพื่อนนักลงทุน TNN24
สถานที่ –ห้องประชุมฝึกอบรม บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ถนนรามคำแหง 160
วัน/เวลา เวลา-08.30-17.30 น. วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2554
โปรแกรมที่ใช้ฝึกอบรม-โปรแกรมกราฟAPEX-IRS(มีอาจารย์ช.โชติวงศ์ เจ้าของ และefinancethai(หากมีอยู่แล้วก็ลงโปรแกรมมาด้วย หากไม่มีหรือไม่เคยใช้ ที่ห้องฝึกอบรมเตรียมไว้ให้แล้ว)
โปรแกรมมาร่วมสอนด้วย ในหัวข้อคัดหุ้นเด่นด้วยโปรแกรมAPEX-IRS)
กำหนดการฝึกอบรม
08.30-09.00-ลงทะเบียนเรียน
09.00-10.30-ทบทวนและฝึกปฏิบัติการเรื่องแนวโน้ม(แนวโน้มขาขึ้น ,แนวโน้มขาลง,แนวโน้มซึมตัว และการใช้เส้นแนวโน้มTrend line) เพื่อรู้หัวใจหลักของการวิเคราะห์ทางเทคนิค จะได้รู้ว่าหุ้นกำลังจะขึ้นหรือจะตก หรือทรงๆ พร้อมกับกลยุทธ์ลงทุน หรือเก็งกำไรที่สอดคล้องกับแนวโน้ม
-ทบทวนการใช้กราฟแท่งเทียน(Candle stick)ที่บอกสัญญาณว่าหุ้นจะขึ้นหรือตกอย่างแม่นยำ และทบทวนการใช้เครื่องมือเทคนิคอย่างง่ายที่ให้ผลแม่นยำในการลงทุน (อย่างย่อพอสังเขป)
10.30-10.45-พักรับประทานอาหารว่าง
10.45.12.30 น.-ต่อยอดแนวโน้ม ด้วยทฤษฎีคลื่น Elliot Wave และฝึกปฏิบัติการนับคลื่น ทั้งคลื่นของแนวโน้มระยะยาว(Major trend),ระยะสั้น(Minor trend),ระยะสั้นมากระดับนาที(Sub-minor trend) ช่วยให้รู้ว่าตอนนี้หากตลาดเป็นขาขึ้น อยู่ช่วงไหนของขาขึ้น ตีนดอย กลางดอย ปลายดอย หรือยอดดอย (คลื่นขาขึ้น 1-2-3-4-5) และขาลง ตกถึงไหนแล้ว ตอนนี้จบหรือยัง หรือมีลงต่ออีกยาว?(คลื่นa-b-c) พร้อมกับฝึกปฏิบัติการนับคลื่นของหุ้นที่เราลงทุนอยู่ หรือสนใจเข้าลงทุน ให้แม่นยำไม่หลงทาง
12.30-13.15 น.พักรับประทานอาหารเที่ยง
13.15-14.30 น.-การใช้ตัวเลขอนุกรมมหัศจรรย์Fibonacci numberเพื่อหาราคา(Pricing)ที่เป็นจุดซื้อ,จุดขาย,แนวรับ(ราคาที่น่าซื้อ) แนวต้าน(ราคาที่น่าขายทำกำไร)
การใช้Fibonacci numberคำนวณหาจุดซื้อ+จุดขายในแนวโน้มขาขึ้น,แนวโน้มขาลงและแนวโน้มแกว่งออกด้านข้าง(แต่ละแนวโน้มใช้สูตรการคำนวณและตีเส้นแนวรับและแนวต้านแตกต่างกันไป)อย่างแม่นยำราวกับจับวาง โดยลงมือปฏิบัติจริง
14.30-14.45 พักรับประทานอาหารว่าง
14.45-16.00 น. การใช้ตัวเลขอนุกรมมหัศจรรย์Fibonacci number ประกอบกับแนวโน้มและทฤษฎีคลื่นเพื่อหามิติเวลา(Timing หรือ Time Zoneมหัศจรรย์)ว่าเวลาไหนที่น่าเข้าซื้อ ต้องใช้เวลาถือครองไปนานเท่าไหร่ เวลาไหนที่คาดการณ์ว่าจะพีคถึงยอดดอย เพื่อขายทำกำไร และเวลาไหนที่ตลาดหุ้นจะลงไปbpttom outเพื่อควานหาจุดซื้อที่เขตต่ำสุด หรือพ้นจุดต่ำสุด หลักสูตรนี้มีสอนที่นี่ที่เดียว พิสูจน์ความแม่นยำราวกับจับวางโดยอาจารย์ณัฐวุฒิมานานกว่า 15 ปี เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
16.00-17.00น. รูปแบบราคา(Price pattern)ที่บ่งบอกถึงการเตรียมการจะเปลี่ยนแนวโน้ม(กำลังจะเปลี่ยนทางจากขาลงเป็นขาขึ้น หรือเปลี่ยนทางจากขาขึ้นไปเป็นขาลง) เช่น รูปแบบหัวและไหล่ ,รูปแบบ 2ยอดหรือ3ยอดดอย(Double top & triple top) รูปแบบ2ก้น3ก้น(Double top &triple top),รูปแบบที่บ่งบอกถึงการต่อเนื่องของแนวโน้ม คือยังขึ้นหรือตกต่อ และรูปแบบกำลังเลือกทางว่าจะไปทางใดทางหนึ่ง หากดูเป็นมีสิทธิ์รวยไม่รู้เรื่อง หากดูไม่เป็นมีสิทธิ์งานเข้าซวยเสียหายหลายล้าน (เช่น รูปแบบสามเหลี่ยม,สี่เหลี่ยม) เป็นต้น
17.00-17.30 วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของค่าเงินดอลลาร์,ค่าเงินบาท,ตลาดทองคำ,น้ำมัน,ตลาดหุ้นต่างประเทศ และการซื้อขายของนักลงทุนรายใหญ่(ฝรั่งและกองทุน)ที่มีผลต่อการขึ้นหรือตกของตลาดหุ้น และราคาหุ้นที่เราลงทุนไว้ หรือสนใจจะเข้าลงทุน และบรรยายกลยุทธ์ลงทุนเล่นหุ้นให้รวยหลังเลือกตั้ง3ก.ค.รอบนี้ขึ้นไปถึง7ตุลาคม พร้อม 4 หุ้นเด่นเน้นผลตอบแทนงามกำไรก้อนใหญ่
17.30-17.45น.-นำความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาตลอดวัน นำมาบูรณาการ หรือผสมกันเป็นสูตรคัมภีร์เทคนิครวยหุ้นขั้นเทพด้วยตัวคุณเอง โดยสามารถบอกได้ว่า หุ้นที่เราลงทุนไว้ หรือสนใจอยู่น่าซื้อ หรือน่าขาย น่าซื้อราคาไหน น่าขายราคาไหน น่าซื้อหรือขายเมื่อใด น่าถือครองไปนานค่าไหน โดยใช้องค์ความรู้ที่เรียนมาเพื่อนำไปเพิ่มพูนกำไรให้มั่งคั่งกว่าเดิม
*พิเศษแนะนำหุ้นเด่นที่สุดในตลาดเวลานี้ 4 หุ้นที่เด่นทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน ให้ท่านนำไปลงทุนให้รวย และได้วิชาไปประกอบการซื้อขายตลอดชีวิต
พิเศษแจ้งรับสมาชิกรับหุ้นเด่นแม่นยำฉับไวก่อนใครวันนี้ ได้สิทธิ์เข้าเรียนฟรี โทรสอบถามที่ โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น