วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คัมภีร์หุ้น (29-30พฤศจิกายน2555):เข้าช่วง3หลังม็อบเสธ.อ้ายลุ้นนิวไฮเกินด่าน1315เพื่อวิ่งไป1400ในสิ้นปี คาดคองเกรสต่ออายุfiscall cliffทันเส้นตายหนุน พร้อมกลยุทธ์ลงทุนหุ้นใหญ่ในSET50และอัพเดตหุ้นเด่นไตรมาส4




โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น สอบถามสมัครสมาชิกเพื่อรับคำแนะนำการลงทุนแบบมืออาชีพ อัพเดตหุ้นเด่น จุดซื้อ จุดขาย เป้าหมายการทำกำไร หรือการจัดการความเสี่ยงเลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


จบ4/3/5จะขึ้น5/3/5เมื่อbreak out up1311-1315target1400+/- year end-Jan effect.

*ชาร์ตที่1:คาดว่าสัปดาห์นี้ หรือเที่ยวนี้มีโอกาสมากที่ตลาดจะเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มซึมไซด์เวย์พักฐานไปเป็นขาขึ้น (uptrend)เมื่อผ่านด่าน1315จุด โดยมีเป้าหมายใหญ่ในการวิ่งขึ้นไปเขต1400ในสิ้นปีนี้(หรืออีกราว1เดือนจากนี้) แต่จะมีเป้าหมายแรกเมื่อผ่าน1315บริเวณ1330-1360จุด+/-

*การที่ม็อบเสธ.อ้ายสลายตัวลงเร็วกว่าคาด เป็นปัจจัย
บวก ลดปัจจัยเสี่ยงการเมืองลงมาก โดยช่วงมีม็อบนั้น ตลาดจะมีผลกระทบ3ช่วง คือ
-ช่วงแรกกังวลตกใจ ลงมาจาก1315ต่ำสุด1262จุด
-ช่วง2กังวลคลุมเครือ ซึมในกรอบแคบระหว่าง1260-1290
-ช่วง3สถานการณ์ชัดเจนเรื่องจบ (ตั้งแต่วันจันทร์26เป็นต้นไป) โดยปกติมักขึ้นนิวไฮสูงกว่าพีคเก่าที่เคยทำไว้ กรณีนี้คือควรไปเกินพีคเก่า1315จุด หรือจบแนวโน้มไซด์เวย์ไปเป็นขาขึ้น
• -วันนี้มีปัจจัยบวก เรื่องfiscal cliff เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะรอดพ้นจากปัญหาดังกล่าว

เหตุที่คาดว่าจะผ่านด่าน1315เพื่อวิ่งไป1400ในสิ้นปีเนื่องจาก

1.เมื่อพิจารณาด้วยทฤษฎีคลื่นelliot wave ตลาดภาพระยะกลางเป็นแนวโน้มขาขึ้น และขึ้นยังไม่จบ โดย อยู่ในคลื่น4ย่อย(เลข4ในชาร์ต) ของคลื่นที่ 3 ใหญ่(IIIในชาร์ต) โดยคาดว่าการลงพักฐานในคลื่น4ย่อยนี้จะมีฐานไม่ลึกกว่าgap supportบริเวณ 1260จุด+/- จากนั้นจะแกว่งขึ้นไปผ่าน1315วิ่งไปคลื่นที่5ย้อยของ3ใหญ่ ซึ่งมีtarget1400+/-

2.เกิดสัญญาณซื้อในmodify stochasticsล่าสุด%k=72% หากไปเขต1315ไม่เกิน95%จะมีโอกาสผ่าน

ดังนั้นข้อสรุปในทางกลยุทธ์ จึงคงเดิมดังนี้

1.กรอบใหญ่-ซื้อที่เขตแนวรับ1260หรือยืนเหนือ1260 ไปขายที่แนวต้าน1315จุด หากทำท่าไม่ผ่านด่านนี้ โดยดู%kประกอบ (หรือเล่นสั้นๆก็ซื้อเขตแนวรับย่อย1295+/- ขายเขต1315+/-

2.หากช่วงสัปดาห์นี้ไปผ่านด่าน1315จุดก็ไปรอfollow buyหรือซื้อหุ้นเพิ่ม สิ้นปีหรือปีใหม่(อีกราว1เดือนเศษ)จะขึ้นไป1400จุด+/-(แต่หากลงลึกกว่า1290จะตกไป1280+/-)

3.หากพลิกผันหลุด1260+/-ก็ให้เล่นทางขาลง หรือยืมหุ้นมาขาย หรือขายหุ้นในพอร์ตลดความเสี่ยง เพราะเสี่ยงตกไป1200-1170จุด(ซึ่งตอนนี้มีโอกาสน้อย)

5.หุ้นที่มีในพอร์ต หรือซื้อตามคำแนะนำ ช่วงนี้อิงตลาดไปก่อนครับ คือหากหลุด1260ก็ควรขายตัดขาดทุน(โดยดูจุดstop lossรายตัวประกอบตามที่แจ้งไปก่อนหน้านี้..ซึ่งตอนนี้มีโอกาสน้อย ) หรือหากตลาดSETขึ้นไปไม่เกิน1315ก็ให้ขายเอากำไร เพื่อจะได้ไม่เสียเที่ยว แต่หากผ่าน1315ก็ถือต่อ หรือfollow buyซื้อเพิ่ม (หุ้นเด่นรายตัวอ่านทั้งหุ้นเด่นไตรมาส4และหุ้นชุดKCE ROJNA BTS TISCO IRPC PTTGC และเป้าหมายหุ้นSET50 ให้ท่านที่บอกรับเป็นสมาชิกอ่านในเมล์ที่ส่งไปครับ)

*************

คำถามที่มักถามบ่อยช่วงนี้

Q:ตอนนี้ตลาดอยู่ตรงไหนและผมต้องทำไง?
A:ตอนนี้ตลาดอยู่คลื่น4ย่อยของ3เล็กของ5ใหญ่ครับ และกำลังจะขึ้นคลื่น5ย่อยของ3เล็กของ5ใหญ่ครับ

Q:พูดแบบภาษาคนไม่เป็นรึไงครับ
A:ผมเป็นนักวิเคราะห์ก็ต้องพูดอะไรให้มันฟังดูยากๆหน่อยครับ

Q:เอาแบบบ้านๆที่เคยพูดให้ฟังทางทีวีหนะ...ไม่กวนได้มั้ย?
A:คือผมว่ามันจะขึ้นแหละครับ หากมันมีนิวไฮเกิน1314ก็จะขึ้นไปอีกคลื่นที่เรียกว่าคลื่น5ของคลื่นคลื่น3ครับ เป้าหมายคงไปซัก1400จุด

Q:เมื่อไหร่ครับ
A:ผมว่าคงซักหลังคริสมาสต์หรือปีใหม่ครับ แต่ขั้นแรกต้องผ่านด่าน1314ให้ได้ก่อน แล้วก็จะขึ้นไป1335-1350/1360ครับ

Q:นอกจากทางเทคนิคแล้วมันมีข่าวอะไรมั่งที่จะหนุนครับ
A:คงข่าวเดิมๆหนะครับก็พลิกไปพลิกมาจากร้ายเป็นดี จากดีเป็นร้าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายครับ อย่างfiscal cliff/EU/การเมืองเรื่องม็อบ/ผลดำเนินงานของบจ. สิ้นปีก็มีLTFมาหนุนครับ

Q:สรุปว่าทำไงครับ
A:ก็ดูภายในWEEKนี้ครับหากSETผ่าน1314ก็คงขึ้นไปแบบที่ว่าครับ หากพลิกผันไม่ผ่านก็อีกเรื่องครับ ไม่ผ่านจริงๆก็ค่อยขายครับ

Q:แล้วดูไงว่ามันจะผ่านไม่ผ่าน ฟันธงเลยไม่ได้เหรอ
A:คือมีโอกาสแหละครับ เพราะ1.เป็นWAVE5ของ3อย่างที่ว่ามันก็ควรมีนิวไฮเกิน1314 และ2.เกิดBUY SIGNALในmodify stochasticsเพราะ%kตัดผ่าน%dขึ้นมา ตอนนี้80%ก็ยังไม่overheatด้วยครับ 3.price patternเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ หากbreakout upก็น่าจะrallyแรงๆ

Q:พูดง่ายๆไม่เป็นแฮะ
A:ก็...ครับพี่ พี่ว่างๆก็มาเรียนครับ จะได้พูดภาษาเดียวกัน หรืออ่านที่ผมเขียนไว้เรื่อง กราฟเทคนิคง่ายนิดเดียว เสิร์ซอ่านในgoogle บางทีก็หนีศัพท์แสงที่เป็นtechnical termไม่พ้น

Q:แต่หุ้นที่อาจารย์ให้ไว้ผมยังติดบาน ไม่เห็นขึ้นเลยครับ
A:เมื่อวานบ่นไปทีแล้ว ผมก็ตอบไปทีแล้ว ให้กลับไปอ่านของเมื่อวานครับ

Q:กลุ่มไหนจะมาครับอาจารย์ว่า
A:เหมือนจะเป็นเคมีอะไรงี้นะครับ น้ำมันก็อาจตัวตาม พวกสินค้าการเกษตร พวกคอมมอดิตี้ส์ควรจะมานะ หากเคมีมาก็คงไล่เป็นลูกระนาดครับ

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คัมภีร์หุ้น :เข้าช่วง3หลังม็อบเสธ.อ้ายลุ้นนิวไฮเกินด่าน1315เพื่อวิ่งไป1400ในสิ้นปี และกลยุทธ์ที่ควรทำกับไม่ควรทำ 1.ตลาดหุ้นหลังม็อบเสธ.อ้ายยุติ ลุ้นผ่านกรอบ1315เพื่อทำนิวไฮเป้าหมาย1400ในสิ้นปี หรือปีใหม่



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น สอบถามสมัครสมาชิกเพื่อรับคำแนะนำการลงทุนแบบมืออาชีพ อัพเดตหุ้นเด่น จุดซื้อ จุดขาย เป้าหมายการทำกำไร หรือการจัดการความเสี่ยงเลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

*การที่ม็อบเสธ.อ้ายสลายตัวลงเร็วกว่าคาด เป็นปัจจัยบวก ลดปัจจัยเสี่ยงการเมืองลงมาก โดยช่วงมีม็อบนั้น ตลาดจะมีผลกระทบ3ช่วง คือ

-ช่วงแรกกังวลตกใจ ลงมาจาก1315ต่ำสุด1262จุด
-ช่วง2กังวลคลุมเครือ ซึมในกรอบแคบระหว่าง1260-1290
-ช่วง3สถานการณ์ชัดเจนเรื่องจบ (ตั้งแต่วันจันทร์26เป็นต้นไป) โดยปกติมักขึ้นนิวไฮสูงกว่าพีคเก่าที่เคยทำไว้ กรณีนี้คือควรไปเกินพีคเก่า1315จุด หรือจบแนวโน้มไซด์เวย์ไปเป็นขาขึ้น
-วันนี้มีกรอบแนวรับ1288 แนวต้านถัดไป1294-1297และไปทดสอบพีคเก่า1315ในระยะต่อไป และคาดว่ามีโอกาสเปลี่ยนแนวโน้มจากซึมไซด์เวย์พักฐานไปเป็นขาขึ้น เมื่อผ่านด่าน1315จุด โดยมีเป้าหมายใหญ่ในการวิ่งขึ้นไปเขต1400ในสิ้นปีนี้(หรืออีกราว1เดือนจากนี้) 

:เหตุที่คาดว่าจะผ่านด่าน1315เพื่อวิ่งไป1400ในสิ้นปีเนื่องจาก

1.เมื่อพิจารณาด้วยทฤษฎีคลื่นelliot wave ตลาดภาพระยะกลางเป็นแนวโน้มขาขึ้น และขึ้นยังไม่จบ โดย อยู่ในคลื่น4ย่อย(เลข4ในชาร์ต) ของคลื่นที่ 3 ใหญ่(IIIในชาร์ต) โดยคาดว่าการลงพักฐานในคลื่น4ย่อยนี้จะมีฐานไม่ลึกกว่าgap supportบริเวณ 1260จุด+/- จากนั้นจะแกว่งขึ้นไปผ่าน1315วิ่งไปคลื่นที่5ย้อยของ3ใหญ่ ซึ่งมีtarget1400+/-

ดังนั้นข้อสรุปในทางกลยุทธ์ จึงคงเดิมดังนี้

1.ซื้อที่เขตแนวรับ1260หรือยืนเหนือ1260 ไปขายที่แนวต้าน1315จุด หากทำท่าไม่ผ่านด่านนี้(หรือเล่นสั้นๆก็ซื้อเขตแนวรับย่อย1290 ขายเขต1295-1300

2.หากช่วงสัปดาห์นิ้ไปผ่านด่าน1315จุดก็ไปรอfollow buyหรือซื้อหุ้นเพิ่ม สิ้นปีหรือปีใหม่(อีกราว1เดือนเศษ)จะขึ้นไป1400จุด+/-

3.หากพลิกผันหลุด1260+/-ก็ให้เล่นทางขาลง หรือยืมหุ้นมาขาย หรือขายหุ้นในพอร์ตลดความเสี่ยง เพราะเสี่ยงตกไป1200-1170จุด(ซึ่งตอนนี้มีโอกาสน้อย)

5.หุ้นที่มีในพอร์ต หรือซื้อตามคำแนะนำ ช่วงนี้อิงตลาดไปก่อนครับ คือหากหลุด1260ก็ควรขายตัดขาดทุน(โดยดูจุดstop lossรายตัวประกอบตามที่แจ้งไปก่อนหน้านี้..ซึ่งตอนนี้มีโอกาสน้อย ) หรือหากตลาดSETขึ้นไปไม่เกิน1315ก็ให้ขายเอากำไร เพื่อจะได้ไม่เสียเที่ยว แต่หากผ่าน1315ก็ถือต่อ หรือfollow buyซื้อเพิ่ม (หุ้นเด่นรายตัวอ่านที่อัพเดตไว้ล่าสุดเมื่อวันศุกร์23พฤศจิกายนครับ)

5.หลีกเลี่ยงการตัดสินใจซื้อขายด้วยอารมณ์กลัว หรือโลภ ให้ทำตามแนวโน้มอย่างเคร่งครัด เพราะแนวโน้ม เป็นเพื่อนที่ท่านไว้วางใจได้เสมอครับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ม็อบเสธ.อ้าย24-25พฤศจิกายน กับผลกระทบต่อตลาดหุ้น


รายการเจาะข่าวเล่าความว่าด้วยม็อบกับตลาดหุ้น 25พ.ย.(อัดเทปล่้วงหน้า1สัปดาห์)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น สอบถามสมัครสมาชิกเพื่อรับคำแนะนำการลงทุนแบบมืออาชีพ อัพเดตหุ้นเด่น จุดซื้อ จุดขาย เป้าหมายการทำกำไร หรือการจัดการความเสี่ยงเลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

ตามสถิติม็อบกับตลาดหุ้นที่ผ่านมา จากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ2535,พันธมิตร(2548-2551) นปช.(2551-2553)มีผลต่อตลาดหุ้นเป็นดังนี้

*ระยะแรก เนื่องจากคนในตลาดหุ้นกังวลปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง วิตกว่าจะเกิดความไม่แน่นอน มักเทขายหุ้นกันออกมาก่อน ทำให้ตลาดตกหนัก(ช่วงม็อบเสธ.อ้ายนี้อาจผ่านช่วงนี้ไปแล้ว..?คือตอนตกจาก1315ลงมา1262จุด)

*ระยะที่สอง เนื่องจากคนในตลาดเกิดความกังวลและสถานการณ์คลุมเครือไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย จึงมักหยุดการซื้อขาย วอลุมในตลาดจะหดตัว กรอบเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจะซึมแคบๆ(ซึ่งผมได้พยากรณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเกิดขึ้นตลอดสัปดาห์นี้ ก่อนการชุมนุมจะเริามต้นขึ้น)

*ระยะัที่3 เมื่อเกิดความชัดเจนแล้ว ไม่ว่าผลจะออกทางใด แต่มีบทสรุปคือการชุมนุมยุติ(จะเพราะได้รับชัยชนะ หรือแพ้ หรือการเจรจาก็ตาม ขอให้จบซักทาง)ตลาดหุ้นจะrallyขึ้น และจะไปทำจุดสูงใหม่กว่าจุดพีคเดิมเสมอ(อย่างพีคเดิม1315ก็จะไปทำนิวไฮแบบวิ่งยาว)

อย่างไรก็ตามในการชุมนุมคราวนี้มีข้อพิจารณาดังนี้

*ผู้นำการชุมนุมคือเสธ.อ้ายประกาศว่าจะชุมนุมเพียง2วันคือเสาร์-อาทิตย์ที่24-25พ.ย.และจะโค่นล้มรัฐบาลได้ ซึ่งหากเป็นตามนี้(คือจบภายใน2วัน)ตลาดหุ้นสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ช่วงระยะที่3

*อย่างไรก็ดีตามสถิติไม่เคยมีการชุมนุมไหนที่ล้มรัฐบาล หรือยุิติได้ใน2วัน(พฤษภาทมิฬกินเวลาราว2เดือน/พันธมิตรกินเวลาทั้งหมด3ปี/นปช.กินเวลาทั้่งหมด3ปี)จึงเป็นข้อกังขาอยู่ และต้องติดตามใกล้ชิดต่อไป


คัมภีร์หุ้นไทย(20-23พฤศจิกายน2555):ยามเบื่อ ยามเซ้งเซ็งเพราะตลาดซึมๆทรงๆอ่านบทความนี้ อย่าตัดสิืนใจด้วยอารมณ์



                                                   ยามเบื่อ ยามเซ้งเซ็ง ให้อ่านบทความนี้ อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์

ดัชนีSETพักตัวแบบsidewayในกรอบใหญ่1260-1315จุด เพราะฉะนั้นการซึมๆทรงๆทรุดๆสลับเด้ง แต่แทบไม่ไปไหนมาไหนจะเป็นเรื่องหลัก หากคุณไม่รู้ทันก็จะเบื่อ และอาจตัดสินใจซื้อขายด้วยอารมณ์เบื่อ(ซึ่งผิดมาก)

ชาร์ตที่2:ตลาดภาพระยะกลางเป็นแนวโน้มขาขึ้น และขึ้นยังไม่จบ โดยหากพิจารณาจากทฤษฎีElliot wave อยู่ในคลื่น4ย่อย(เลข4ในชาร์ต) ของคลื่นที่ 3 ใหญ่(IIIในชาร์ต) โดยคาดว่าการลงพักฐานในคลื่น4ย่อยนี้จะมีฐานไม่ลึกกว่าgap supportบริเวณ 1260จุด+/-

ดังนั้นข้อสรุปในทางกลยุทธ์ จึงคงเดิมดังนี้
1.ซื้อที่เขตแนวรับ1260หรือยืนเหนือ1260 ไปขายที่แนวต้าน1315จุด(หรือเล่นสั้นๆก็ซื้อเขตแนวรับย่อย1270 ขายเขต1295-1297

2.หรือหากเบื่อ เพราะหุ้นไม่ไปไหนมาไหน เนื่องจากแกว่งแคบในกรอบ1260-1315ก็หยุดพักการซื้อขายไปก่อน รอความชัดเจนค่อยเทรดใหม่

3.หากไปผ่านด่าน1315จุดก็ไปรอfollow buyหรือซื้อหุ้นเพิ่ม สิ้นปีหรือปีใหม่(อีกราว1เดือนเศษ)จะขึ้นไป1400จุด+/-

4.หากหลุด1260+/-ก็ให้เล่นทางขาลง หรือยืมหุ้นมาขาย หรือขายหุ้นในพอร์ตลดความเสี่ยง เพราะเสี่ยงตกไป1200-1170จุด

5.หุ้นที่มีในพอร์ต หรือซื้อตามคำแนะนำ ช่วงนี้อิงตลาดไปก่อนครับ คือหากหลุด1260ก็ควรขายตัดขาดทุน(โดยดูจุดstop lossรายตัวประกอบตามที่แจ้งไปก่อนหน้านี้) หรือหากตลาดSETขึ้นไปไม่เกิน1315ก็ให้ขายเอากำไร เพื่อจะได้ไม่เสียเที่ยว แต่หากผ่าน1315ก็ถือต่อ หรือfollow buyซื้อเพิ่ม

6.หลีกเลี่ยงการตัดสินใจซื้อขายด้วยอารมณ์กลัว หรือโลภ ให้ทำตามแนวโน้มอย่างเคร่งครัด เพราะแนวโน้ม เป็นเพื่อนที่ท่านไว้วางใจได้เสมอครับ

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ผ่าเส้นยาแดงผ่านfiscal cliff -รับมือม็อบเสธ.อ้ายกับปัจจัยเสี่ยงหุ้นไทย


รายการเพื่อนนักลงทุน 19/11/55 ทางTNN24 ประเด็นเด่น

*คาดตลาดหุ้นไทยซึมแกว่งกรอบแคบรอปัจจัยกระทบชัดเจน
*โอบาม่าถกfiscal cliffทันเส้นตายสิ้่ีนปีนี้ กรีซพ้นขีดอันตราย
*ม็อบเสธ.อ้ายกับปัจจัยเสี่ยงการเมืองต่อตลาด

*ฟันธงทิศทางหุ้นจะถือ ซื้อหรือขาย



รายการเจาะข่าวเล่าความ อาทิตย์ 18 พฤศจิกายน ทางTNN24 ประเด็นเด่น
-การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนต่อเศรษฐกิจและัตลาดหุ้นไทย


คัมภีร์หุ้นไทย(16พฤศจิกายน2555):ทาง3แพร่งของตลาดหุ้นไทย โหด-เลว-ดี และกลยุทธ์สำคัญมากที่ท่านควรอ่าน และทำตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อบริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไรให้กับพอร์ตลงทุนของท่าน


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


ปรับปรุงจุดชี้ขาดมาเป็นเขต1260+/-หากหลุดก็ควรขายstop loss แต่หากยันไหวแบละมีสัญญาณกลับตัวก็ควรถือต่อ หรือซื้อคืนที่ขายออกไปแล้ว

ชาร์ตที่6ดัชนีSETตลาดหุ้นไทย-ช่วงเดียวกันกับตลาดหุ้นโลกคือช่วงเดือนมิถุนายนขึ้นมาจากฐาน1099จุด มาสูงสุดที่1315จุดในเดือนตุลาคม(ซึ่งหากตกพอๆกับดาวโจนส์เวลานี้ต้องลงมาแถวๆ1170จุด แต่หากขึ้นพอๆกับTIPเวลานี้เราควรไปเขต1400จุดไปแล้ว แต่เราตกมาพอๆกับฮ่องกง คือลง แต่ยังไม่ถึงด่านแรกเขต1ใน3

ดังนั้นช่วงนี้ผมคิดว่าอาจต้องดูดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงประกอบเป็นหลักนะครับ เพราะดูแล้ว ไทยเราลงมารอบนี้ดูคล้ายกับฮ่องกงมากกว่าดาวโจนส์ และไม่เหมือนTIP)

ผมได้ปรับปรุงจุดstop lossจากเดิม1270มาเป็นgap supportล่าง1260จุด+/-เมื่อวานนี้ และคิดว่าเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลกว่าในรูปแบบgap supportครับ

คาดการณ์แนวโน้มเป็นดังนี้ครับ

ก.แบบBASE CASE scenerio หรือกรณีฐานที่น่าจะเป็นมากกว่ากรณีอื่นๆ คือแกว่งตัวแบบSidewayระหว่าง1260-1315จุด-คือลงมาปิดGapที่เคยเปิดไว้1262จุด แล้วฟื้นปิดgapบน1270จุด จากนั้นฟื้นตัวขึ้นไปผ่านแนวต้านDowntrendเขต1285+/-(1284-1287จุด)แล้วขึ้นไปกรอบต้าน1315+/- แล้วแกว่งซึมไซด์เวย์ในกรอบ1260-1315 จนกว่าจะเลือกทางชัดเจน

-กรณีนี้เป็นไปได้มาก เพราะเมื่อวานลงมาปิดGAP1262แล้วยืนได้และฟื้นตัวขึ้น ชาร์ตแท่งเทียนรายวันมีรูปแบบhammerซึ่งเป็นภาพทางบวก น่าได้เห็นการฟื้นไปทดสอบด่าน1285+/-ในช่วงวันนี้หรือใกล้ๆนี้ หากทำท่าผ่านก็อาจแกว่งไป1315ได้ต่อไป

ข.Best case scenario กรณีดีคือเป็นไปตามคาดเดิม ลงปรับฐานจบยเขต1260แล้วขึ้นไปผ่าน1315ขึ้นไป1350-1400ในสิ้นปีนี้-กรณีนี้คือยืนเหนือ1260แล้วแกว่งขึ้น เที่ยวต่อไปผ่านด่าน1315แล้วrallyขึ้นไป1350-1400ช่วงก่อนสิ้นปีต่อต้นไปใหม่2556แบบที่ผมเคยคาดการณ์ไว้เดิม

-กรณีนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ หากพิจารณาว่าขาขึ้นรอบนี้ยังไม่complete คือยังไม่จบคลื่นที่ 5 แสดงว่าช่วงนี้เป็นการตกปรับฐานแบบซิกแซ็กไซย์เวย์ในกรอบ1260-1315จุดเท่านั้น

ค.Worse case scenerio กรณีหลุด1260แล้วเปลี่ยนทางเป็นขาลง-กรณีนี้คือที่ผมแสดงความกังวลในระยะนี้ว่า ตลาดจะเปลื่ยนแนวโน้มจากที่เคยsidewayในกรอบ1260-1315 โดยหลุดเขต1260แล้วจะเกิดการเปลี่ยนทางเป็นขาลง ซึ่งจะลงน้อยที่สุดเขต1230-1240 ลงลึกๆ1205 ลงลึกมากๆ1170-1180 หรือเลวร้ายกว่านั้นคือลงยาวไป1100หรือกว่านั้น

-กรณีนี้ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นและควรคิดแผนจัดการความเสี่ยง(risk management)หรือBear market strategyไว้ ด้วยการคิดแผนขายcut loss หรือขายล็อกกำไรเพื่อปกป้องพอร์ตการลงทุน

*สรุปกลยุทธ์การลงทุน และข้อแนะนำเพื่อการตัดสินใจของท่านสมาชิก

1.หากเป็นไปตามข้อก.ให้ถือหุ้น หรือซื้อหุ้นคืนเพื่อไปรอขายตอนขึ้นไป1315+/-
2.หากเป็นไปตามข้อข.ให้ถือหุ้น แล้วไปรอซื้อเพิ่มตคอนผ่านด่าน1315+/-เพื่อไปรอขายสิ้นปีหริอปีใหม่2556บริเวณ1350-1400+/- หรือกระทั่ง1450+/-

3.หากเป็นไปตามข้อค.ให้นำหุ้นที่กำไร หรือใกล้ทุน หรือขาดทุนไม่มากเกินกว่าระดับ10%หรืออยู่ในเกณฑ์ที่ท่านยอมรับได้ ขายออกเพื่อหยุดขาดทุน หรือล็อกกำไร หรือปกป้องพอร์ตการลงทุนจากความเสี่ยงขาลง เพราะเสี่ยงตกไปตั้งแต่1240-1170จุด

4.ไตรมาส4ที่แนะนำไว้และจุดcut loss หากSETทำท่าลงไปลึกกว่าเขต1260ควรคิดเรื่องcut lossดีกว่าจะติดหุ้นครับ

จุดตัดสินใจสำหรับการcut lossรายตัว หากราคาลงมาลึกกว่าระดับราคานี้นะครับ
*AAVหากลงไปปิดลึกกว่า4.20
*TOPหากลงไปปิดลึกกว่า60
*ESSOหากลงไปปิดลึกกว่า9.80
*STAหากลงไปปิดลึกกว่า่14
*KSLหากลงไปปิดลึกกว่า12.50
*THREหากลงไปปิดลึกกว่า3.78
 

จุดcut lossหรือขายล็อกกำไรสำหรับหุ้นเด่นชุดเดิม

*BTSหากลงปิดลึกกว่า6บาท
*PTTGCหากลงปิดลึกกว่า57.75
*IRPCหากลงปิดลึกกว่า3.86
*KCEหากลงปิดลึกกว่า8.75หรือ9
*ROJNAหากลงปิดลึกกว่า9-8.75
*TISCOหากลงปิดลึกกว่า47


ในทางกลับกันหากSETทำท่าไม่ลึกเกิน1260 และหรือราคาหุ้่นเหล่านี้ยืนเหนือระดับราคาที่กำหนด ก็อาจจะเป็นโอกาสซื้อ หรือซื้อคืน(สำหรับคนที่ขายออกไปแล้ว) เพราะตลาดจะกลับไปได้ลุ้นทางกลางๆ         แบบข้อก.หรือทางบวกแบบข้อ ข. ทั้งนี้พื้นฐานของหุ้นเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางลบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ลงมาตามสภาพของตลาด

*ท่านสมาชิกที่บอกรับข้อมูลและคำแนะนำจากผมให้เปิดเมล์อ่านรา่ยลบะเอียดที่้ส่งไปในช่วงก่อนเปิดตลาดเช้านี้ครับ

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คัมภีร์หุ้นไทย(16พฤศจิกายน2555):ทาง3แพร่งของตลาดหุ้นไทย โหด-เลว-ดี และกลยุทธ์สำคัญมากที่ท่านควรอ่าน และทำตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อบริหารความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไรให้กับพอร์ตลงทุนของท่าน


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp


ปรับปรุงจุดชี้ขาดมาเป็นเขต1260+/-หากหลุดก็ควรขายstop loss แต่หากยันไหวแบละมีสัญญาณกลับตัวก็ควรถือต่อ หรือซื้อคืนที่ขายออกไปแล้ว

ชาร์ตที่6ดัชนีSETตลาดหุ้นไทย-ช่วงเดียวกันกับตลาดหุ้นโลกคือช่วงเดือนมิถุนายนขึ้นมาจากฐาน1099จุด มาสูงสุดที่1315จุดในเดือนตุลาคม(ซึ่งหากตกพอๆกับดาวโจนส์เวลานี้ต้องลงมาแถวๆ1170จุด แต่หากขึ้นพอๆกับTIPเวลานี้เราควรไปเขต1400จุดไปแล้ว แต่เราตกมาพอๆกับฮ่องกง คือลง แต่ยังไม่ถึงด่านแรกเขต1ใน3

ดังนั้นช่วงนี้ผมคิดว่าอาจต้องดูดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงประกอบเป็นหลักนะครับ เพราะดูแล้ว ไทยเราลงมารอบนี้ดูคล้ายกับฮ่องกงมากกว่าดาวโจนส์ และไม่เหมือนTIP)

ผมได้ปรับปรุงจุดstop lossจากเดิม1270มาเป็นgap supportล่าง1260จุด+/-เมื่อวานนี้ และคิดว่าเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลกว่าในรูปแบบgap supportครับ

คาดการณ์แนวโน้มเป็นดังนี้ครับ

ก.แบบBASE CASE scenerio หรือกรณีฐานที่น่าจะเป็นมากกว่ากรณีอื่นๆ คือแกว่งตัวแบบSidewayระหว่าง1260-1315จุด-คือลงมาปิดGapที่เคยเปิดไว้1262จุด แล้วฟื้นปิดgapบน1270จุด จากนั้นฟื้นตัวขึ้นไปผ่านแนวต้านDowntrendเขต1285+/-(1284-1287จุด)แล้วขึ้นไปกรอบต้าน1315+/- แล้วแกว่งซึมไซด์เวย์ในกรอบ1260-1315 จนกว่าจะเลือกทางชัดเจน

-กรณีนี้เป็นไปได้มาก เพราะเมื่อวานลงมาปิดGAP1262แล้วยืนได้และฟื้นตัวขึ้น ชาร์ตแท่งเทียนรายวันมีรูปแบบhammerซึ่งเป็นภาพทางบวก น่าได้เห็นการฟื้นไปทดสอบด่าน1285+/-ในช่วงวันนี้หรือใกล้ๆนี้ หากทำท่าผ่านก็อาจแกว่งไป1315ได้ต่อไป

ข.Best case scenario กรณีดีคือเป็นไปตามคาดเดิม ลงปรับฐานจบยเขต1260แล้วขึ้นไปผ่าน1315ขึ้นไป1350-1400ในสิ้นปีนี้-กรณีนี้คือยืนเหนือ1260แล้วแกว่งขึ้น เที่ยวต่อไปผ่านด่าน1315แล้วrallyขึ้นไป1350-1400ช่วงก่อนสิ้นปีต่อต้นไปใหม่2556แบบที่ผมเคยคาดการณ์ไว้เดิม

-กรณีนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ หากพิจารณาว่าขาขึ้นรอบนี้ยังไม่complete คือยังไม่จบคลื่นที่ 5 แสดงว่าช่วงนี้เป็นการตกปรับฐานแบบซิกแซ็กไซย์เวย์ในกรอบ1260-1315จุดเท่านั้น

ค.Worse case scenerio กรณีหลุด1260แล้วเปลี่ยนทางเป็นขาลง-กรณีนี้คือที่ผมแสดงความกังวลในระยะนี้ว่า ตลาดจะเปลื่ยนแนวโน้มจากที่เคยsidewayในกรอบ1260-1315 โดยหลุดเขต1260แล้วจะเกิดการเปลี่ยนทางเป็นขาลง ซึ่งจะลงน้อยที่สุดเขต1230-1240 ลงลึกๆ1205 ลงลึกมากๆ1170-1180 หรือเลวร้ายกว่านั้นคือลงยาวไป1100หรือกว่านั้น

-กรณีนี้ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นและควรคิดแผนจัดการความเสี่ยง(risk management)หรือBear market strategyไว้ ด้วยการคิดแผนขายcut loss หรือขายล็อกกำไรเพื่อปกป้องพอร์ตการลงทุน

*สรุปกลยุทธ์การลงทุน และข้อแนะนำเพื่อการตัดสินใจของท่านสมาชิก

1.หากเป็นไปตามข้อก.ให้ถือหุ้น หรือซื้อหุ้นคืนเพื่อไปรอขายตอนขึ้นไป1315+/-
2.หากเป็นไปตามข้อข.ให้ถือหุ้น แล้วไปรอซื้อเพิ่มตคอนผ่านด่าน1315+/-เพื่อไปรอขายสิ้นปีหริอปีใหม่2556บริเวณ1350-1400+/- หรือกระทั่ง1450+/-

3.หากเป็นไปตามข้อค.ให้นำหุ้นที่กำไร หรือใกล้ทุน หรือขาดทุนไม่มากเกินกว่าระดับ10%หรืออยู่ในเกณฑ์ที่ท่านยอมรับได้ ขายออกเพื่อหยุดขาดทุน หรือล็อกกำไร หรือปกป้องพอร์ตการลงทุนจากความเสี่ยงขาลง เพราะเสี่ยงตกไปตั้งแต่1240-1170จุด

4.ไตรมาส4ที่แนะนำไว้และจุดcut loss หากSETทำท่าลงไปลึกกว่าเขต1260ควรคิดเรื่องcut lossดีกว่าจะติดหุ้นครับ

จุดตัดสินใจสำหรับการcut lossรายตัว หากราคาลงมาลึกกว่าระดับราคานี้นะครับ

*AAVหากลงไปปิดลึกกว่า4.20
*TOPหากลงไปปิดลึกกว่า60
*ESSOหากลงไปปิดลึกกว่า9.80
*STAหากลงไปปิดลึกกว่า่14
*KSLหากลงไปปิดลึกกว่า12.50
*THREหากลงไปปิดลึกกว่า3.78
 

จุดcut lossหรือขายล็อกกำไรสำหรับหุ้นเด่นชุดเดิม

*BTSหากลงปิดลึกกว่า6บาท
*PTTGCหากลงปิดลึกกว่า57.75
*IRPCหากลงปิดลึกกว่า3.86
*KCEหากลงปิดลึกกว่า8.75หรือ9
*ROJNAหากลงปิดลึกกว่า9-8.75
*TISCOหากลงปิดลึกกว่า47


ในทางกลับกันหากSETทำท่าไม่ลึกเกิน1260 และหรือราคาหุ้่นเหล่านี้ยืนเหนือระดับราคาที่กำหนด ก็อาจจะเป็นโอกาสซื้อ หรือซื้อคืน(สำหรับคนที่ขายออกไปแล้ว) เพราะตลาดจะกลับไปได้ลุ้นทางกลางๆ         แบบข้อก.หรือทางบวกแบบข้อ ข. ทั้งนี้พื้นฐานของหุ้นเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางลบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ลงมาตามสภาพของตลาด

*ท่านสมาชิกที่บอกรับข้อมูลและคำแนะนำจากผมให้เปิดเมล์อ่านรา่ยลบะเอียดที่้ส่งไปในช่วงก่อนเปิดตลาดเช้านี้ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มุมอินไซด์(15พฤศจิกายน2555):ข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำคัญว่าเราควรขายหุ้นเพื่อรักษาทุน และลดความเสี่ยงของขาลงหรือยัง?



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp 

สถานการณ์และแนวโน้ม-เช้านี้SETร่วงลงมาหลุดด่านฐานเก่า1270เป็นทิศทางลบต่อแนวโน้ม โดยมีด่านสุดท้ายเหลือให้ลุ้นคือGap supportล่างเขต1262จุด ข้อพิจารณาเป็นดังนี้ 

1.กรณีแรกหากทะลุลงลึกกว่า1260ลงไปเด็ดขาด ก็คงไม่มีเหลือให้ลุ้น จะตกลงไปเป่าหมายต่อไป1240-1230 มากกว่านั้นคือ1205 หรือ1180-1170จุด-กรณีนี้ควรนำหุ้นในพอร์ตที่กำไร ใกล้ทุน ขาดทุนไม่มาก ขายเพื่อรักษาทุนดีกว่า 

2.กรณีหลัง ลงมาไม่ทะลุลึกกว่าเขต1260ลงไป อาจพอมีเหลือให้ลุ้นว่าเป็นการพักฐานในกรอบsidewayระหว่าง1260 กับต้านบน1315(ต้านแรก1290 ด่านย่อย1270+/-) กรณีนี้อาจลุ้นถือหุ้นในพอร์ตที่เริ่มติดลบ ขาดทุนบ้างแล้ว จากราคาที่แนะนำซื้อมา เพื่อไปรอขายช่วงขึ้นไป1290-1315 หรือกลับไปลุ้นทางขึ้นตอนสิ้นปีตามที่ผมเคยคาดการณ์ไว้ 

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นนั้น เราควรทำอยู่ 2 อย่างที่เป็นวินัยเหล็กคือ

1.เทรดตามแนวโน้มของตลาด หากมันเป็นขาขึ้น หรือพักฐานsidewayก็ถือ แต่หากเปลี่ยนทางเป็นขาลงแน่ก็ควรขายรักษาทุน หลีกเลี่ยงความเสียหายจากการติดหุ้น 

2.อย่างไรก็ดี หากท่านจำเป็นต้องขายหุ้นเพื่อรักษาทุน หรือstop lossเกิดผลเสียหายตามมา ผมเองย่อมหนีความรับผิดชอบไม่พ้น ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาการลงทุนของทุกท่าน ผมต้องกราบขอโทษทุกท่านที่ทำให้ผิดหวังกัน

นั่นแปลว่าผมได้ประเมินประมาณการณ์ สถานการณ์ผิดพลาดบกพร่อง และให้คำแนะนำการลงทุนที่ผิดพลาด

ซึ่งเวลานี้ผมต้องยอมรับอยู่ 3เรื่องเป็นอย่างน้อยที่ผมผิดพลาดแน่ คือ 

1.ผมประเมินว่าตลาดหลังเลือกตั้งอเมริกา 6 พฤศจิกายนจะเกิดElection rallyซ้ำรอยประวัติศาสตร์(ที่ว่าหุ้นอเมริกามักขึ้นไปราว6เดือนหลังเลือกตั้ง)ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่เลย กลับร่วงลง และฉุดให้ตลาดหุ้นไทยเราลงตาม

2.ผมประเมินไว้ว่าจะเกิดYear end rally หรือหุ้นวิ่งส่งท้ายปีตอนสิ้นปีไปต้นปีใหม่(ซึ่งผมยังหวังว่าอาจจะยังมีYear end rally)

3.ผมประเมินว่าราคาน้ำมันดิบโลกจะเป็นขาขึ้นในไตรมาส4 ซึ่งผิดไปจากประเมิน เพราะราคาน้ำมันดิบโลกลง 

*การตัดสินใจลงทุนหุ้นเด่นที่ผมเคยแนะนำไว้

หุ้นไตรมาส4ที่แนะนำไว้และจุดcut lossสำหรับท่านที่ซื้อหนังสือไปครับ

1.หากSETทำท่าลงไปลึกกว่าเขต1260ควรคิดเรื่องcut lossดีกว่าจะติดหุ้นครับ

2.จุดตัดสินใจสำหรับการcut lossรายตัว หากราคาลงมาลึกกว่าระดับราคานี้นะครับ

*AAVหากลงไปปิดลึกกว่า4.20
*TOPหากลงไปปิดลึกกว่า60
*ESSOหากลงไปปิดลึกกว่า9.80
*STAหากลงไปปิดลึกกว่า่14
*KSLหากลงไปปิดลึกกว่า12.50
*THREหากลงไปปิดลึกกว่า3.78


จุดcut lossหรือขายล็อกกำไรสำหรับหุ้นเด่นชุดเดิม

*BTSหากลงปิดลึกกว่า6บาท
*PTTGCหากลงปิดลึกกว่า57.75
*IRPCหากลงปิดลึกกว่า3.86
*KCEหากลงปืดลึกกว่า8.75หรือ9
*ROJNAหากลงปิดลึกกว่า9-8.75
*TISCOหากลงปิดลึกกว่า47

ในทางกลับกันหากSETทำท่าไม่ลึกเกิน1260 และหรือราคาหุ้่นเหล่านี้ยืนเหนือระดับราคาที่กำหนด ก็อาจจะเป็นโอกาสซื้อ หรือซื้อคืน(สำหรับคนที่ขายออกไปแล้ว) ทั้งนี้พื้นฐานของหุ้นเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางลบอย่างมีนัยสำคัญ แต่ลงมาตามสภาพของตลาด


Note:ไม่ว่าอย่างไรก็ตามท่านควรเอาเขตสุดท้ายที่พอเหลือให้ลุ้นคือ1260+/-เป็นจุดตัดสินใจชี้ขาดที่สำคัญ และผมหวังว่า ท่านอาจได้ข้อสรุปขึ้นมาอย่างหนึ่งว่า ไม่มีใครที่ชนะตลาดเสมอไป ตัวท่านเองหรือตัวผม มีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น แต่เราควรรักษาวินัยในการลงทุนไว้ในที่สุดครับ เพื่อรักษาเงินลงทุนของท่านไว้ กรณีที่เราผิดพลาด

Q&A คำถามที่มักถามบ่อยในเวลานี้


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 087-7174979 081-8311611 http://www.facebook.com/tontancorp (บทความนี้เผยแพร่กับสมาชิกก่อนเปิดทำการทุกเช้า สามารถโทรสอบถามเพื่อสมัครสมาชิกเพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำหุ้นเด่น จังหวะเ้ข้าออกแม่นยำ ไม่ขายหมู ไม่ตกรถ )

Q:ควรขายล้างพอร์ตไหมครับ/คะ?
A:ยังครับ กรณีที่ต้องขายล้างพอร์ต คุณต้องแน่ใจว่าตลาดจะเป็นขาลงครับ

Q:นี่ยังไม่ขาลงอีกเหรอ เห็นตกได้ทุกวัน วันนี้ตลาดอื่นขึ้น ของเรายังตกเฉยเลย
A:ยังครับ ยังไม่เป็นขาลง เวลานี้เรียกว่าเป็นการพักฐานมากกว่าครับ ส่วนว่าทำไมเราลงสวนทางเขา ความจริงเที่ยวนี้นับว่าเราลงน้อยกว่าเขาแล้วนะครับ

Q:แล้วยังไงถึงจะบอกเป็นขาลง หุ้นก็ติดไว้บานแล้ว กินทุนลึกเข้าทุกวัน จะล้างพอร์ตก็มาห้ามไว้อีก



A:คือตามชาร์ตนี้นะครับตลาดภาพใหญ่ๆนับจากกลางปีที่ผ่านมาถึงตอนนี้เป็นขาขึ้นครับ ขึ้นมาที่ลูกคลื่นที่3ย่อยของ3ใหญ่ครับ แล้วเกิดการพักฐานในคลื่นที่4แบบซิกแซ็กไซย์เวย์ หรือซึมๆนั่นแหละครับ ในกรอบใหญ่ๆก็1270กรอบล่าง กรอบบนก็1315จุดครับ

Q:คือเอาแบบฟันธงเลยดีกว่าว่าเอาไง?
A:โดยหลักการเป็นเทรดเดอร์ที่ดี เราต้องเทรดตามแนวโน้มของตลาดครับ หากเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่ก็ถือหุ้นครับ มันลงบ้างก็ถือว่าปรับฐาน หรือช่วงนี้แกว่งกรอบไซดฺ์เวย์1270-1315ก็รอไปพลางๆครับ ให้มันผ่านกรอบบน1315ถึงจะวิ่งไปอีกเที่ยวครับ อาจจะไป1350-1400ครับ

Q:คือเรื่องขึ้นหนะไม่ห่วงหรอก ห่วงมันตกมากกว่า กลุ้มนะเนี่ย ถามแล้วก็ตอบวนไปวนมา
A:คืองี้ครับก็ให้ดูกรอบล่างเขต1270+/-ครับ หากว่าหลุดลงไปตรงนี้ก็เสี่ยงว่าจะตกปรับฐานลงไปลึกหน่อย แถวๆGAPล่าง1260 หรือลงไปเขต1ใน3fibonacci retracement ก็ราวๆ1240-1230ครับ

Q:ลงยาวๆไปกว่านี้มีสิทธิมั้ย?
A:ก็มีนะครับ หากไปหลุด1230อีกก็จะเป็นขาลงไป1200หรือ1180ครับ แต่ผมว่าไม่น่าแย่อย่างนั้น เพราะหากจะลงไปอย่างนั้นคือลงแบบเดียวกับดาวโจนส์ เอาแบบเทียบเท่ากัน เวลานี้ดาวโจนส์ลงมาเขต12745จุดนี่ หุ้นไทยต้องลงมาแถวๆ1200หรือลึกกว่านั้นหน่อยแล้ว ผมถึงบอกว่าหุ้นไทยเราแข็งกว่าหุ้นโลกนะครับ
ดาวโจนส์วัดจากพีค13661และฐาน12000ล่าสุดเมื่้อคืนตกมาที่เขตแนวรับ2ใน3ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายบริเวณ12545จุด
ดัชนีSETของไทยหากของเราลงพอๆกับดาวโจนส์ คือวัดจากพีค1315และฐาน1099เวลานี้หุ้นไทยต้องตกมาอยู่แถวเขต1170-1180จุดแล้ว หากตกลงมาพอๆกันในช่วงระยะเวลาเดียวกัน แต่ความจริงคือหุ้นไทยอยู่ที่เขต1270จุด คืออยู่ข้างบนอยู่

ว่าไปแล้วหุ้นไทยจะเหมือนพวกTIPมากกว่าครับ

Q:อะไรอีกหละTIP พูดให้ฟังง่ายๆไม่เป็นรึไง
A:ครับตลาดTIPคือThailand,Indonesia,Philippinesครับ เดิมเวลาฝรั่งมาลงทุนเขาจะจัดโซนให้เราเป็นตลาดTIP คือเป็นประเทศกำลังพัฒนาทางเศรษฐกิจ การเมืองลุ่มๆดอนๆมีเลือกตั้งมั่งสลับปฏิวัติรัฐประหารมั่งอะไรมั่ง จลาจลมั่ง
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซึ่งไม่ตกตามหุ้นโลกเลย

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซึ่งไม่ตกตามหุ้นโลก

แต่หลังๆIหลังยุคซูฮาร์โต้ การเมืองชักมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจก็ไปได้ ประชากรก็มาก600กว่าล้านคนก็เลยขึ้นดี๊ดี เป็นตลาดหุ้นระดับแชมป์โลกมา3ปีซ้อนแล้ว ตามมาด้วยPยุคหลังมาร์กอส แม้จะมีจลาจลประท้วงวุ่นวายขายปลาช่อนมั่ง แต่รัฐประหารมีมั่งก็ไม่สำเร็จ บ้านเมืองชักเข้าที่ก็เลยปีนี้แซงขึ้นมาเป็นแชมป์แทนP ส่วนเราก็มารั้งท้ายกลุ่ม เพราะบ้านเมืองเรายังไม่ลงตัว ยุ่งยากมา5-6ปี และคงยุ่งมันเข้าไว้ต่อไป

Q:ถามเรื่องหุ้นดันมาตอบการเมือง ฝักใฝ่นะนี่เราหนะ
A:คือเรื่องPolitical riskนี่เป็นปัจจัยสำคัญของทุกประเทศหละครับ พี่ไม่สนใจมัน มันก็มาเกี่ยวกับพี่จนได้ ไม่เห็นเหรอIกับPเขาตกที่ไหน Tตกที่เดียว เพราะปัจจัยเสี่ยงทางการเ้มืองเราสูงขึ้นไงครับ

Q:มาร์กอส กับซูฮาร์โต้ก็ตายไปแล้วIกับPเขาเ้ลยเจริญ หุ้นก็ขึ้น ของเราเมื่อไหร่มันจะตายๆไปซะที จะได้จบๆเรื่อง หุ้นจะได้ขึ้นกับเขามั่ง

A:พี่อยากให้ใครตายครับพี่...

Q:อ้าว ก็ไอ้คนเดียวกับที่คุณคิดนั่นแหละ จะใครซะิอีก

A:เอางั้นเหรอครับพี่...จะดีเหรอครับ?

*******
อัพเดตล่าสุด:มุมอินไซด์(15พฤศจิกายน2555):ข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำคัญว่าเราควรขายหุ้นเพื่อรักษาทุน และลดความเสี่ยงของขาลงหรือยัง?



เรื่องที่สอนในหลักสูตรนี้

*ดูแนวโน้มให้เป็นอ่านเทร็นด์ให้ขาดด้วยตัวคุณเอง
*จับทางให้ขาดว่าอยู่ช่วงไหนของขาขึ้นหรือขาลง(ด้่วยElliot waveง่ายนิดเดียว)
*หาเป้าหมายเข้าซื้อ หาเป้าหมายขายทำกำไร หาเป้าหมายตก อย่างแม่นยำจับวา่งด้วยตัวเลขมหัศจรรย์ไฟโบนาชชี่

*ดูสัญญาณขาขึ้นหรือขาลงด้วยกราฟแท่งเทียนอย่างง่าย
*เครื่องมือสัญญาณอย่างง่ายได้ผลแม่นยำในการหาจุดซื้อ จุดขาย จุดกลับตัว
*จับทางเจ้ามือหุ้นว่าจะลากไปเชือด หรือทุบเอาของด้วยตัวคุณเอง

เรียนไม่รู้เรื่อง เอาไปใช้งานไม่ได้ผล ยินดีคืนเงินค่าเรียน พร้อมเลี้ยงข้าวฟรี1มื้อ(สอนมาแล้ว75รุ่น มีผู้เรียนจบไปแล้วมากกว่า3,000ท่านทั่วประเทศ)

เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าอบรม ควรทำดังนี้

*หากใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นจะดีกว่า(หากไม่เป็นก็หัดมาให้คุ้นมือก่อนมาเรียน)
*หากท่านมีโปรแกรมกราฟอยู่แล้ว เช่น efinancethau/biznews/aspen/apex/m4ก็ให้เตรียมมาด้วย(กรณียังไม่มี แนะนำให้แจ้งกับมาร์เก็ตติ้งของท่านลงโปรแกรมพวกนี้ให้ฟรีๆ ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ หรือมาร์เก็ตติ้งเขาจะมีแถมให้ลูกค้าฟรีอยู่แล้ว)
*แจ้งเบอร์อีเมล์ท่านไว้ในกรณีจองแล้ว เพื่อจะได้ส่งเอกสารประกอบการอบรมไปให้ท่านศึกษาทำความเข้าใจล่วงหน้าก่อน

สิทธิพิเศษ

ท่านที่จองงานอบรมวันนี้ ได้รับหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยไตรมาส4/2555 ฟรี จากปกติมูลค่า1,300บาท

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มุมอินไซด์(13พ.ย.):THRE ข่าวร้ายที่ตลาดชินชา4หนติดกันโดนแขวนSPเพราะผู้ตรวจสอบบัญชีไม่รับรองงบ กับข่าวดีที่ซ่อนอยู่เพียบ



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 087-7174979 081-8311611 http://www.facebook.com/tontancorp (บทความนี้เผยแพร่กับสมาชิกก่อนเปิดทำการทุกเช้า สามารถโทรสอบถามเพื่อสมัครสมาชิกเพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำหุ้นเด่น จังหวะเ้ข้าออกแม่นยำ ไม่ขายหมู ไม่ตกรถ )


มีกำไรจากการดำเนินงาน แต่ขาดทุนทางบัญชี-บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน)-THRE ประกาศงบไตรมาส3/2555 มีผลขาดทุนสุทธิ-114ล้านบาท งวด9เดือนขาดทุนสุทธิ-4507ล้านบาท บริษัทชี้แจงว่ามีผลกำไรจากการดำเนินงาน57ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน1.8เท่า หากไม่รวมการปรับค่าด้อยของสินทรัพย์ จะมีกำไร166ล้านบาท เพิ่มขึ้น 166 ล้านบาท แต่เนื่องจากการรับรู้การด้อยค่าของสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี281ล้านบาท ทำให้แสดงบขาดทุนสุทธิ114ล้านบาท

เจอตลาดฯขึ้นป้ายSPหลังจากผู้ตรวจสอบบัญชีไม่เซ็นรับรองงบฯ4ไตรมาสติดกัน-ตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งขึ้นเครื่องหมายSPห้ามซื้อขายหุ้นTHREในวันที่ 13 พ.ย. และจะปลดเครื่องหมายในวันที่ 14 พ.ย.จากนั้นจะขึ้นเครื่องหมายNPเตือนในวันที่ 14 พ.ย. เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัท งวดไตรมาสที่ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้
 
THREชี้แจงสูตรเดิมคาดสุดท้ายแล้วความเสียหายที่ต้องจ่ายชดเชยจะลดลงจากประเมินครั้งแรก และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนใหม่-THREได้แจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์ เนื้อความเหมือนกันกับ 3 ไตรมาสก่อนหน้านี้ที่โดนผู้ตรวจสอบบัญชีไม่รับรองงบการเงินคือความเสียหายสุดท้ายจะลดลงจากการประเมินครั้งแรก โดยข้อมูลที่ได้ในช่วงไหตรมาส2/2555ได้รับข้อมูลเพิ่มขึ้นมากเพียงพอ แต่ก็ต้องใช้เวลานานในการปแระเมินความเสียหายทั้งหมดเพื่อตีราคาความเสียหายที่แท้จริง ซึ่งผลลัพธ์นั้นมีผลต่อสาระสำคัญของงบการเงิน แต่ยืนยันว่าการเพิ่มทุนในไตรมาส1/2555นั้น ส่วนผู้ถือหุ้นเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ (อ่านรายละเอียดำชี้แจง)
 
มุมมองแนวโน้มและคำแนะนำ-ถือและเป็นโอกาสซื้อลงทุนระยะกลางถึงยาว
 

 
มุมมอง-นับแต่ผมแนะนำให้ใช้ช่วงที่วิกฤตที่สุดเข้าลงทุนหุ้นตัวนี้มาจากเขต3บาท ก็ต้องเผชิญข่าวร้ายซ้ำๆนี้มา 3 ครั้งแล้ว และนี่เป็นข่าวร้ายเดิมๆเป็นหนที่4 ทุกครั้งก็คือเป็นสเต็ปดังนี้
 
-บริษัทรายงานผลขาดทุน(งวดนี้น้อยหน่อย หากเทียบกับ3งวดก่อน)
-ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่รับรองงบ เหตุก็เพราะว่ายังสรุปความเสียหายสุดท้ายไม่ได้ เกรงว่ามีผลต่อกำไรหรือขาดทุนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็เลยไม่เซ็นรับรองงบฯ
-ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นSP 1 วัน จากนั้นปลดป้ายและขึ้นSPแล้วราคาหุ้นก็สะดุ้งลงมาหน่อยจากคนที่ตกใจกลัว แล้วภายในวันนั้นก็ขึ้น
-บริษัทก็ชี้แจงสูตรเดิมว่าเพราะยังไม่สรุปความเสียหายสุดท้าย(แต่หนนี้ดีหน่อยว่าได้ข้อมูลพอเพียงแล้ว และบอกเป็นนัยๆว่าความเสียหายสุดท้ายจะน้อยกว่าที่ประเมินตอนแรก ซึ่งเป็นข่าวทางบวก)
-ราคาหุ้นเปิดมาพรุ่งนี้ผมว่าก็คงออกมาสูตรเดิมคือคนที่ตกใจก็ขายออกมาตอนเปิด ซักพักก็ขึ้น
-ดูจากชาร์ตแล้วหากจะตกลงมาก็คงเป็นเขต3.88-3.78แล้วเด้งกลับ แนวต้านด้านบนก็4.10บาท หากผ่านก็ไปพีคเก่า4.42บาท ระยะต่อไปยังประเมินว่าจะไปเขต5บาท
-ผมมีความเห็นตามเดิมคือหากมีหุ้นก็ถือไประยะกลางควรกลับไปเขต6-7บาท ซึ่งเป็นราคาก่อนเจอน้ำท่วมใหญ่ เพียงแต่รอหน่อยอาจเป็นปีหน้า(สำหรับท่านที่หาหุ้นที่ได้ซื้อตอนมีข่าวแย่ๆในราคาดีๆต่ำๆและอิย่างไรเสียระยะกลางก็จะกลับไปที่พื้นฐานเดิม ราคาหุ้นกลับไปก่อนเจอวิกฤต นี่คือหุ้นที่ท่านควรลงทุน แต่สำหรับนักเก็งกำไรหวังผลสั้น ก็คงรู้สึกเบื่อๆเซ็งๆกับข่าวร้ายที่มากระทบเป็นระยะๆ รอบหน้าหากมันไปซัก4.50-5บาท ให้ท่านขายออกแล้วเลิกเล่น....แต่ว่าก็ว่า หุ้นตัวไหนมั่งที่ไม่เจอข่าวแย่ๆวนมาใส่?)
 
-ข่าวอื่นๆ THREจะนำหุ้นลูกที่ทำธุรกิจประกันชีวิตคือไทยรีประกันชีวิตเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น 
-หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นลงข่าวว่า กองทุนวายุภักษ์2เล็งลงหุ้นSET50เป้าหมายAAV THRE ROJNA(ซึ่งก็เป็นหุ้นที่ผมCoverอยู่ในเวลานี้) 

สอบถา่มเพื่อสมัครสมาชิก หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.029275800 087-7174979 081-8311611

*************


เรื่องที่สอนในหลักสูตรนี้

*ดูแนวโน้มให้เป็นอ่านเทร็นด์ให้ขาดด้วยตัวคุณเอง
*จับทางให้ขาดว่าอยู่ช่วงไหนของขาขึ้นหรือขาลง(ด้่วยElliot waveง่ายนิดเดียว)
*หาเป้าหมายเข้าซื้อ หาเป้าหมายขายทำกำไร หาเป้าหมายตก อย่างแม่นยำจับวา่งด้วยตัวเลขมหัศจรรย์ไฟโบนาชชี่

*ดูสัญญาณขาขึ้นหรือขาลงด้วยกราฟแท่งเทียนอย่างง่าย
*เครื่องมือสัญญาณอย่างง่ายได้ผลแม่นยำในการหาจุดซื้อ จุดขาย จุดกลับตัว
*จับทางเจ้ามือหุ้นว่าจะลากไปเชือด หรือทุบเอาของด้วยตัวคุณเอง

เรียนไม่รู้เรื่อง เอาไปใช้งานไม่ได้ผล ยินดีคืนเงินค่าเรียน พร้อมเลี้ยงข้าวฟรี1มื้อ(สอนมาแล้ว75รุ่น มีผู้เรียนจบไปแล้วมากกว่า3,000ท่านทั่วประเทศ)

เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าอบรม ควรทำดังนี้

*หากใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นจะดีกว่า(หากไม่เป็นก็หัดมาให้คุ้นมือก่อนมาเรียน)
*หากท่านมีโปรแกรมกราฟอยู่แล้ว เช่น efinancethau/biznews/aspen/apex/m4ก็ให้เตรียมมาด้วย(กรณียังไม่มี แนะนำให้แจ้งกับมาร์เก็ตติ้งของท่านลงโปรแกรมพวกนี้ให้ฟรีๆ ส่วนใหญ่โบรกเกอร์ หรือมาร์เก็ตติ้งเขาจะมีแถมให้ลูกค้าฟรีอยู่แล้ว)
*แจ้งเบอร์อีเมล์ท่านไว้ในกรณีจองแล้ว เพื่อจะได้ส่งเอกสารประกอบการอบรมไปให้ท่านศึกษาทำความเข้าใจล่วงหน้าก่อน

สิทธิพิเศษ

ท่านที่จองงานอบรมวันนี้ ได้รับหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยไตรมาส4/2555 ฟรี จากปกติมูลค่า1,300บาท