วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นขนาดไหน และจะเตรียมรับมืออย่างไร? จึงจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการลงทุน*


ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559
บทเกริ่นนำ-วิกฤตกับตลาดหุ้น โปรดอย่าถามว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! “ เพราะมันเกิดขึ้นอยู่ตลอด

วิกฤตการณ์ต่างๆกับตลาดหุ้นนั้นเป็นของคู่กัน ไม่มีเรื่องนี้ ก็มีอีกเรื่องใหม่ จบเรื่องนี้ ก็ไปเจออีกเรื่องนั้น ประเด็นสำคัญคือเราจะจัดการบริหารวิกฤตอย่างไรต่างหาก จึงจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ปล่อยให้วิกฤตซ้ำเติมจนพอร์ตของเราวิกฤตหนักไปด้วย

ดังนั้นก็ไม่ควรต้องถามหรอกครับว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่วงผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร” เนื่องจากว่ามันก็”เกิดอะไรขึ้น!”ในทางที่เป็นวิกฤตการณ์ต่างๆอยู่เสมอนั่นเอง

ทั้ง”อะไร!”ที่มากันปุ๊บปั๊บฉับพลันไม่ทันให้ตั้งตัว แบบแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิถล่ม เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด ลอบสังหารประธานาธิบดีJFKช็อกโลก
และทั้ง”อะไร”ที่ตั้งเค้าตั้งลำทะมึนมาก่อนจะเกิดเรื่อง อย่าง ม็อบจลาจล ปฏิวัติรัฐประหาร สงคราม พิบัติภัยเศรษฐกิจแบบHAMBURGER CRISIS การถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีFDRหลังจากป่วยรักษาตัวมาระยะหนึ่ง เป็นต้น
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559 ฉบับสมบูรณ์ ประกอบด้วย
1.ฉากจำลอง3แบบคือ Base Case Scenario , Worst Case Scenario , Best Case Scenario ในกรณี"ถ้าเกิดอะไรขึ้น"
2.ตำราพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการลงทุน
3.มุมมองของผู้จัดการกองทุนต่างชาติที่เป็นContrariantอย่างดร.มาร์ค โมเบียส ต่อประเด็นที่ตลาดกังวลไม่ได้น่าห่วงอย่างที่คิด มีบางอย่างน่าสนใจคือโบรกเกอร์ที่มีอิทธิพลต่อฝรั่งมากๆรายหนึ่งแนะนำซื้อSCCให้เป้าหมาย600บาท
4.พอร์ตLow Risk , High Return 5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด
เชิญโหลดเอกสารอ่านเลยครับ(เฉพาะท่านสมาชิก ในห้องปิดคลุกหุ้นวงในครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้เป็นเมมเบอร์ ผมก็ได้คัดตอน 3ฉากจำลองมาให้ดูในท้ายบทความนี้แล้วครับ โปรดคลิกที่ชาร์ตจะมีคำอธิบายประกอบด้วยครับ)
More Information Contact Line ID tontancorp
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp

8.1 Base Case Scenario-กรณีฐานที่คาดว่า มีความน่าจะเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้มาก เป็นฐานสำหรับการพยากรณ์
*ดัชนีหุ้นไทย(SET)แกว่งอยู่ในกรอบหลักระหว่างฐานรับล่างเขต1200จุด+/- กับแนวต้านกรอบบนบริเวณ1600+/-
*โดยเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็เกิดปรากฎการณ์ตื่นตกใจเทขาย(Panic Sell)ออกมาอย่างโกลาหล หลุดฐานLowเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่12กันยายนคือเขต1400จุด+/- แล้วร่วงยาวลงไปเขต1200+/- ซึ่งเคยเป็นฐานรองรับการตกต่ำมาแล้ว2เที่ยว ทำรูปแบบราคาTriple Bottom แล้วฟื้นตัวขึ้น และกลับไปเขต1600+/-อีกที
สมมุติฐาน คือ
*คนในตลาดซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell เมื่อทราบข่าวที่ออกมาอย่างเป็นทางการ
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait & See และจับตามองหากSETทำฐานบริเวณ1200จุดได้ดี เป็นจุดเข้าช้อนซื้อ เน้น หุ้นบลูชิพ หุ้นขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับSET ไปรอขายเมื่อฟื้นกลับไปเขต1600จุด+/-

8.2 Worst Case Scenณ์ario-ฉากจำลองในกรณีที่แย่กว่าคาดการณ์




*เมื่อปรากฎข่าวที่เป็นทางการออกมา ดัชนีSETร่วงลงจากแรงขายแบบPanic sell จนลงไปหลุดฐานสำคัญเขต1200จุด จากนั้นก็ไหลลงอย่างต่อเนื่องไปที่เขต1,000จุด และหลุด1,000จุดลงไปณ ระดับแย่ที่สุดบริเวณ800จุด+/-(800-865จุด) แล้วจึงหยุดร่วงลง แล้วเกิดการฟื้นตัวขึ้นมาเขต1200จุดในระยะต่อไป

สมมุติฐาน คือ

*เป็นเหตุการณ์ปุ๊บปั๊บฉับพลันที่คนในตลาดไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาก่อนเลย คนในตลาดจึงซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
*คนในตลาดไม่สามารถทำนายหรือพยากรณ์ได้ เต็มไปด้วยข่าวลือ ข่าวร้าย และภาวะไร้ระเบียบของรัฐและสังคม
*มีแนวโน้มที่ภาวะไร้ระเบียบจะบานปลายไปเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จลาจล หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait&See แต่หากเห็นตลาดหลุดระดับ1200ลงไปเด็ดขาด ควรใช้กลยุทธ์Bear Market Strategyอย่างสมบูรณ์ คืออย่าซื้อ อย่าช้อน อิงทางขาย หรือหากำไรขาลงจากการShort Against Port หรือ Short Selling หรือเทรดFuture อนุพันธ์ด้วยการอิงขาลง เพราะมีความเสี่ยงลงไปตั้งแต่1,000ไปยันแย่สุดคือราว800จุด+/- และรอให้ตลาดทำจุดต่ำสุดผ่านพ้นไปแล้ว และเกิดสัญญาณการกลับตัวเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาซื้อหุ้น
.
8.3 Best Case Scenario-ฉากจำลอง คาดการณ์กรณีดีกว่าคาด 
*ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่งซึมตัวออกด้านข้างอยู่ระหว่าง1460+/- ไปแถวๆ1500+/- และเมื่อมีข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็จะไม่ตกลงไปลึกเกินกว่าเขต1400+/-(ซึ่งก็คือเท่ากับLowครั้งก่อนที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน2559)

*จากนั้นเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ตลาดจะฟื้นขึ้นหลังจากนั้น และขึ้นไปทำนิวไฮกว่าที่เคยทำไว้เขต1558จุด อาจเป็นตั้งแต่1600-1650 หรือนิวไฮเกิน1650 ในระยะต่อไปจะขึ้นไปดีที่สุดได้ถึงเขต2100จุด
สมมุติฐาน คือ*ตลาดได้”ซ้อมตกใจ!”มาหลายครั้ง และเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จากข่าวลือข่าวลบต่างๆที่เกิดขึ้นมา จึงทำให้ตลาดเกิดการPanicลงมาล่วงหน้าแล้ว ราคาหุ้นได้ลงมาPrice in หรือ Discount ข่าวร้ายเอาไว้มากพอสมควรแล้ว

*สถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านนั้นมีความชัดเจน ปราศจากความคลุมเครือสับสน อยู่ภายใต้การจัดระเบียบที่มีแบบแผน

*ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่ทำนายหรือพยากรณ์ไม่ได้ หรือเกิดความไร้ระเบียบ หรือถอนรากถอนโคน

*ตลาดหมดแรงกดดันจากปัจจัยลบที่เป็นข่าวคลุมเครือมานาน ทำให้ปลดปล่อยพลังแล้วขึ้นเต็มที่




หมายเหตุ:ผมคัดเรื่องนี้มาจากส่วนหนึ่งของการบรรยายเรื่อง"ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างไร? และจะเตรียมการรับมืออย่างไร?"เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนเอกสารฉบับสมบูรณ์ เพิ่มเติมเรื่องมุมมองของกองทุนฝรั่ง หุ้นที่ฝรั่งชอบ และหุ้นเด่นรายตัว5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด ได้อัพโหลดให้สมาชิกห้องปิด"คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ"อ่านกันแล้ว

ท่านที่สมัครสมาชิกคลุกหุ้นวงในช่วงนี้ได้สิทธิเข้าไปชมฉบับสมบูรณ์เลยครับ พร้อมกับได้สิทธิเข้าร่วมงานอบรมแบบExclusiveปิดห้องคุยกันกับผมอีกรอบในวันอาทิตย์ที่30ตุลาคม2559นี้

More Information Contact Line ID tontancorp โทร 0970986000
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp โทร 0970986000

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น