วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:อย่าซ้ำเติมวิกฤตให้เป็นวิกฤตกว่าเดิม ด้วยการซื้อในจังหวะอ่อนตัว ขายในจังหวะอ่อนใจ และสิ่งที่ควรทำในเวลานี้




ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ณัฐวุฒิ Live 12ตุลาคม59 - ค่าเงินบาท, ตลาดหุ้น, แนวโน้มและกลยุทธ์เมื่อตลาดอ่อนตัว นักลงทุนก็อ่อนใจ ทำไงดี?
สรุปย่อ
1.ค่าเงินบาทที่อ่อนลงมานั้น ยังมีแนวโน้มอ่อนลงไปที่แนวรับใหญ่เขต35.70บาท/ดอลลาร์ แต่ไม่ได้เกิดจากที่ฝรั่งขายหุ้น มาจากการที่ต่างชาติขายในตลาดตราสารหนี้ อันเนื่องมาจากกังวล"ปัจจัยในประเทศ"
2.ส่วนที่ต่างชาติไม่ได้ขายหุ้นนั้น เนื่องจากซื้อสุทธิมาตั้งแต่ต้นปีถึงเวลานี้ราว1.35แสนล้านบาท แล้วต้นทุนก็แพง ขายไปก็คงไม่คุ้ม ฝรั่งบางเจ้าอย่างกองทุนของดร.มาร์ค โมเบียส ก็เลยบอกว่าลงทุนยาวแล้วกัน เพราะปัจจัยเข้ามากระทบตอนนี้ก็มีผลต่อราคาหุ้นไปมากแล้ว ขณะที่พื้นฐานประเทศไทยยังดีมีอนาคต หรือนักวิเคราะห์ต่างชาติอย่างค่ายCSที่ออกบทวิจัยมาให้ลูกค้า(ฝรั่ง)ช้อนซื้อหุ้นที่ตกลงมาตอนนี้ แล้วบอกว่าจะมีUpside gainตั้งแต่20ถึง50% ในราว3เดือน เพราะหุ้นตกลงมาไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน แต่เป็นเซ็นทิเม้นต์มากกว่า
3.มีลูกค้า2ประเภทมาปรึกษาผมเวลานี้คือ
ก.พวกที่เห็นตลาดอ่อนตัว ก็เลยอ่อนใจตาม น่าแปลกคือกลุ่มนี้มักมีพฤติกรรมไปซื้อตอน"ดอย"คือติดสูงและชอบหุ้นแนวปั่น มาเวลานี้ขาดทุนทางบัญชีเกิน50% อยากขายเพื่อปรับพอร์ต จะได้มีเงินมาช้อนซื้อตอนเรื่องจบ...ผมก็บอกว่าถ้าทำใจได้ก๋เอาเถอะครับ แต่หุ้นของพี่มันก็ไม่เกี่ยวกับตลาดอยู่แล้ว เพราะพื้นฐานมันไม่มีเลย
ส่วนท่านที่ไม่ได้เทรดหุ้นปั่น ผมก็แนะนำว่าให้ไปดูปัจจัยพื้นฐาน ไปดูมูลค่าที่แท้จริงของมัน หากมันลงมามากกว่าพื้นฐานมาก(Under Value)ก็ไม่ต้องไปขายหรอกครับ เพราะพอจบเรื่องนี้ แล้วตลาดกลีับขึ้น(อาจจะแบบBase case หรือ base case แบบที่ผมพูดไว้ช่วง2วันที่ผ่านมา ให้กลับไปดูเทป) ราคาหุ้นมันก็จะกลับฟื้นไปหาราคาพื้นฐานของมัน ยกเว้นแต่ว่าขาดทุนแบบที่ยอมทำใจได้ จะCut lossก็ได้เพื่อเก็บเงินสดไว้ รอช้อนซื้อตอน"มีเรื่อง"

วิธีนี้ให้ดูตลาดประกอบ(ตามที่ผมจะกล่าวในข้อ4)

ข.พวกที่มีเงินสดในมือ หรือขายไปก่อนหน้านี้แล้วก็อยากช้อนซื้อ-กลุ่มนี้ก็มาหาผมเยอะว่าอยากซื้อหุ้น ขอหุ้นเด่น ผมก็ตอบว่า ใจเย็นๆให้กลับไปดูเรื่องฉากจำลองที่ว่าตลาดจะตกแบบไหน3แบบที่ผมเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ เอาให้ดีผมว่า"รอข่าวประกาศ"ที่เป็นทางการแล้วค่อยซื้อก็ดีครับ จะได้ดูในเวลานั้นว่าตลาดเลือกไปทางไหน ระหว่าง Base case , Best case , Worst case ? แต่หากอยากทยอยเริ่มเก็บก่อน ก็ให้ดูตลาดประกอบ(ตามที่ผมจะกล่าวถึงในข้อ4)

4.ในระหว่างนี้ตลาดที่กำลังร่วงลงมาจะมีด่านสำคัญแถวๆ1400มาถึงแถวๆ1430จุด+/- พูดภาษาบ้านๆว่าให้ดูlowเที่ยวก่อนที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายนเป็นเกณฑ์ ตอนนั้นSETมาต่ำสุด1410จุด หากลงมาวันนี้เที่ยวนี้ไม่ลึกกว่านี้ก็อาจเป็นฐานแถวๆนี้ ที่ผมเรียกว่าเป็น Best case scenario คือตกน้อยที่สุด และเมื่อเด้งกลับก็ไปไกลที่สุด เนื่องจากตลาดได้รับรู้ข่าวร้ายนี้ไปมากพอแล้ว

หรืออีกทางหนึ่ง หากซื้อแถวๆนี้แล้วก็ต้องดูว่า ไม่เด้งขึ้นเลย อย่าพูดเรื่องจะกลับไป1500เลย ดันไหลหลุดทำnew lowลึกกว่า1400-1410ลงไปเด็ดขาด ก็ต้องขายหยุดขาดทุน เพื่อปกป้องความเสี่ยงของขาลงที่เสี่ยงจะตกต่อไปเขต 1370 1330-1300 หรือกระทั่ง1200+/-ตามลำดับ เพื่อถือเงินสด และรอซื้อเมื่อข่าวจริงปรากฎ(Buy on the news)

*คนที่อยากซื้อก็ให้ดูแถวๆนี้ หากไม่หลุด ก็เริ่มซื้อได้ซัก20-30% อย่าเกิน50%ของพอร์ต และเมื่อเด้งขึ้นไปก็ไปรอดูว่าผ่านแถวๆ1500-1520ได้ไหม หากไม่ได้ก็ไปขายออก หากผ่านได้ก็ค่อยไปซื้อเพิ่มพอร์ต

*คนที่อยากขาย ก็ให้ดูว่าแถวๆนี้รับอยู่ไหม หากอยู่ก็อาจเห็นการเด้งกลับไปแถวๆ1500+/- ก็ไปขายหุ้นออกแถวนั้น จะทำให้ขาดทุนน้อยลงกว่า หรือหากเห็นหลุดทำnew lowลึกกว่า1400-1410ลงไปเด็ดขาด ก็ขายเพื่อปกป้องความเสี่ยงของขาลงที่เสี่ยงจะตกต่อไปเขต 1370 1330-1300 หรือกระทั่ง1200+/-ตามลำดับ เพื่อถือเงินสด และรอซื้อเมื่อข่าวจริงปรากฎ(Buy on the news)

ผมมีกิจกรรมอัพเดตตลาดให้อีกรอบในวันที่30ตุลาคมนี้ครับ เกินคุ้มค่าแน่นอน และเป็นโอกาสดีของเทรดเดอร์+นักลงทุนแนวๆContrariantทั้งหลาย บรรดาผู้นิยมเสพวิกฤตเป็นมังสาหาร หาโอกาสทำเงินก้อนใหญ่จากวิกฤตการณ์ จองที่นั่งได้แล้วตั้งแต่ตอนนี่้ครับ ทางไลน์ tontancorp
...............................


ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559
บทเกริ่นนำ-วิกฤตกับตลาดหุ้น โปรดอย่าถามว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! “ เพราะมันเกิดขึ้นอยู่ตลอด

วิกฤตการณ์ต่างๆกับตลาดหุ้นนั้นเป็นของคู่กัน ไม่มีเรื่องนี้ ก็มีอีกเรื่องใหม่ จบเรื่องนี้ ก็ไปเจออีกเรื่องนั้น ประเด็นสำคัญคือเราจะจัดการบริหารวิกฤตอย่างไรต่างหาก จึงจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ปล่อยให้วิกฤตซ้ำเติมจนพอร์ตของเราวิกฤตหนักไปด้วย

ดังนั้นก็ไม่ควรต้องถามหรอกครับว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่วงผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร” เนื่องจากว่ามันก็”เกิดอะไรขึ้น!”ในทางที่เป็นวิกฤตการณ์ต่างๆอยู่เสมอนั่นเอง

ทั้ง”อะไร!”ที่มากันปุ๊บปั๊บฉับพลันไม่ทันให้ตั้งตัว แบบแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิถล่ม เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด ลอบสังหารประธานาธิบดีJFKช็อกโลก
และทั้ง”อะไร”ที่ตั้งเค้าตั้งลำทะมึนมาก่อนจะเกิดเรื่อง อย่าง ม็อบจลาจล ปฏิวัติรัฐประหาร สงคราม พิบัติภัยเศรษฐกิจแบบHAMBURGER CRISIS การถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีFDRหลังจากป่วยรักษาตัวมาระยะหนึ่ง เป็นต้น
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559 ฉบับสมบูรณ์ ประกอบด้วย
1.ฉากจำลอง3แบบคือ Base Case Scenario , Worst Case Scenario , Best Case Scenario ในกรณี"ถ้าเกิดอะไรขึ้น"
2.ตำราพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการลงทุน
3.มุมมองของผู้จัดการกองทุนต่างชาติที่เป็นContrariantอย่างดร.มาร์ค โมเบียส ต่อประเด็นที่ตลาดกังวลไม่ได้น่าห่วงอย่างที่คิด มีบางอย่างน่าสนใจคือโบรกเกอร์ที่มีอิทธิพลต่อฝรั่งมากๆรายหนึ่งแนะนำซื้อSCCให้เป้าหมาย600บาท
4.พอร์ตLow Risk , High Return 5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด
เชิญโหลดเอกสารอ่านเลยครับ(เฉพาะท่านสมาชิก ในห้องปิดคลุกหุ้นวงในครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้เป็นเมมเบอร์ ผมก็ได้คัดตอน 3ฉากจำลองมาให้ดูในท้ายบทความนี้แล้วครับ โปรดคลิกที่ชาร์ตจะมีคำอธิบายประกอบด้วยครับ)
More Information Contact Line ID tontancorp
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp

8.1 Base Case Scenario-กรณีฐานที่คาดว่า มีความน่าจะเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้มาก เป็นฐานสำหรับการพยากรณ์
*ดัชนีหุ้นไทย(SET)แกว่งอยู่ในกรอบหลักระหว่างฐานรับล่างเขต1200จุด+/- กับแนวต้านกรอบบนบริเวณ1600+/-
*โดยเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็เกิดปรากฎการณ์ตื่นตกใจเทขาย(Panic Sell)ออกมาอย่างโกลาหล หลุดฐานLowเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่12กันยายนคือเขต1400จุด+/- แล้วร่วงยาวลงไปเขต1200+/- ซึ่งเคยเป็นฐานรองรับการตกต่ำมาแล้ว2เที่ยว ทำรูปแบบราคาTriple Bottom แล้วฟื้นตัวขึ้น และกลับไปเขต1600+/-อีกที
สมมุติฐาน คือ
*คนในตลาดซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell เมื่อทราบข่าวที่ออกมาอย่างเป็นทางการ
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait & See และจับตามองหากSETทำฐานบริเวณ1200จุดได้ดี เป็นจุดเข้าช้อนซื้อ เน้น หุ้นบลูชิพ หุ้นขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับSET ไปรอขายเมื่อฟื้นกลับไปเขต1600จุด+/-

8.2 Worst Case Scenณ์ario-ฉากจำลองในกรณีที่แย่กว่าคาดการณ์



*เมื่อปรากฎข่าวที่เป็นทางการออกมา ดัชนีSETร่วงลงจากแรงขายแบบPanic sell จนลงไปหลุดฐานสำคัญเขต1200จุด จากนั้นก็ไหลลงอย่างต่อเนื่องไปที่เขต1,000จุด และหลุด1,000จุดลงไปณ ระดับแย่ที่สุดบริเวณ800จุด+/-(800-865จุด) แล้วจึงหยุดร่วงลง แล้วเกิดการฟื้นตัวขึ้นมาเขต1200จุดในระยะต่อไป

สมมุติฐาน คือ

*เป็นเหตุการณ์ปุ๊บปั๊บฉับพลันที่คนในตลาดไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาก่อนเลย คนในตลาดจึงซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
*คนในตลาดไม่สามารถทำนายหรือพยากรณ์ได้ เต็มไปด้วยข่าวลือ ข่าวร้าย และภาวะไร้ระเบียบของรัฐและสังคม
*มีแนวโน้มที่ภาวะไร้ระเบียบจะบานปลายไปเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จลาจล หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait&See แต่หากเห็นตลาดหลุดระดับ1200ลงไปเด็ดขาด ควรใช้กลยุทธ์Bear Market Strategyอย่างสมบูรณ์ คืออย่าซื้อ อย่าช้อน อิงทางขาย หรือหากำไรขาลงจากการShort Against Port หรือ Short Selling หรือเทรดFuture อนุพันธ์ด้วยการอิงขาลง เพราะมีความเสี่ยงลงไปตั้งแต่1,000ไปยันแย่สุดคือราว800จุด+/- และรอให้ตลาดทำจุดต่ำสุดผ่านพ้นไปแล้ว และเกิดสัญญาณการกลับตัวเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาซื้อหุ้น
.
8.3 Best Case Scenario-ฉากจำลอง คาดการณ์กรณีดีกว่าคาด 

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่งซึมตัวออกด้านข้างอยู่ระหว่าง1460+/- ไปแถวๆ1500+/- และเมื่อมีข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็จะไม่ตกลงไปลึกเกินกว่าเขต1400+/-(ซึ่งก็คือเท่ากับLowครั้งก่อนที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน2559)


*จากนั้นเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ตลาดจะฟื้นขึ้นหลังจากนั้น และขึ้นไปทำนิวไฮกว่าที่เคยทำไว้เขต1558จุด อาจเป็นตั้งแต่1600-1650 หรือนิวไฮเกิน1650 ในระยะต่อไปจะขึ้นไปดีที่สุดได้ถึงเขต2100จุด
สมมุติฐาน คือ*ตลาดได้”ซ้อมตกใจ!”มาหลายครั้ง และเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จากข่าวลือข่าวลบต่างๆที่เกิดขึ้นมา จึงทำให้ตลาดเกิดการPanicลงมาล่วงหน้าแล้ว ราคาหุ้นได้ลงมาPrice in หรือ Discount ข่าวร้ายเอาไว้มากพอสมควรแล้ว

*สถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านนั้นมีความชัดเจน ปราศจากความคลุมเครือสับสน อยู่ภายใต้การจัดระเบียบที่มีแบบแผน

*ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่ทำนายหรือพยากรณ์ไม่ได้ หรือเกิดความไร้ระเบียบ หรือถอนรากถอนโคน

*ตลาดหมดแรงกดดันจากปัจจัยลบที่เป็นข่าวคลุมเครือมานาน ทำให้ปลดปล่อยพลังแล้วขึ้นเต็มที่




หมายเหตุ:ผมคัดเรื่องนี้มาจากส่วนหนึ่งของการบรรยายเรื่อง"ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างไร? และจะเตรียมการรับมืออย่างไร?"เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนเอกสารฉบับสมบูรณ์ เพิ่มเติมเรื่องมุมมองของกองทุนฝรั่ง หุ้นที่ฝรั่งชอบ และหุ้นเด่นรายตัว5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด ได้อัพโหลดให้สมาชิกห้องปิด"คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ"อ่านกันแล้ว

ท่านที่สมัครสมาชิกคลุกหุ้นวงในช่วงนี้ได้สิทธิเข้าไปชมฉบับสมบูรณ์เลยครับ พร้อมกับได้สิทธิเข้าร่วมงานอบรมแบบExclusiveปิดห้องคุยกันกับผมอีกรอบในวันอาทิตย์ที่30ตุลาคม2559นี้

More Information Contact Line ID tontancorp โทร 0970986000
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp โทร 0970986000

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น