วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(14ก.พ.): กูรูจิม วอล์กเกอร์ปลุกความเชื่อมั่นต่อหุ้นไทย เทคนิคเกิดBULLISH DIVERGENCEเป็นสัญญาณเตือนแม่นยำว่าอาจเปลี่ยนทางจากลงเป็นขึ้น


ดร.จิม วอล์กเกอร์ นักเศรษฐศาสตร์ระดับกูรูที่เคยฟันธงล่วงหน้าเป็นปีให้เทขายหุ้นไทยทิ้ง โดยฟันธงว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกในปี2540 ได้กลับมากระชากใจแฟนๆอีกหน โดยออกบทวิจัยในhttp://www.asianom.com/ ฉบับเผยแพร่25มกราคม (แต่จริงๆเพิ่งเผยแพร่ช่วงบ่ายวันที่ 11 กุมภาพันธ์ครับ) ว่า เป็นหนแรกในรอบ 17ปี ที่เขากลับมาซื้อหุ้นไทย แม้จะไม่ใช่เงินก้อนใหญ่แต่ก็เป็นการแทนคำพูดว่า เศรษฐกิจเมืองไทยกำลังจะkick back และหากการเมืองกลับมามีเสถียรภาพก็จะใส่เงินเพิ่ม

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******
คัมภีร์หุ้นไทย(14ก.พ.): กูรูจิม วอล์กเกอร์ปลุกความเชื่อมั่นต่อหุ้นไทย ทางเทคนิคเกิดBULLISH DIVERGENCEเป็นสัญญาณเตือนที่แม่นยำว่าอาจเปลี่ยนทางจากลงไปเป็นทางขึ้นในระยะใกล้นี้
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

1.ข่าวกระทบหุ้นวันนี้ ข่าวบวกเพียบ อาจกระตุ้นการรีบาวนด์

*กูรูจิม วอล์กเกอร์ ที่เคยฟันธงล่วงหน้าเป็นปีว่าไทยจะฟองสบู่แตกเมื่อปี40 บอกว่าเขาได้เข้าซื้อหุ้นไทยเป็นหนแรกในรอบ17ปี ว๊าว!!

ดร.จิม วอล์กเกอร์ นักเศรษฐศาสตร์ระดับกูรูที่เคยฟันธงล่วงหน้าเป็นปีให้เทขายหุ้นไทยทิ้ง โดยฟันธงว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่แตกในปี2540 ได้กลับมากระชากใจแฟนๆอีกหน โดยออกบทวิจัยในhttp://www.asianom.com/ ฉบับเผยแพร่25มกราคม (แต่จริงๆเพิ่งเผยแพร่ช่วงบ่ายวันที่ 11 กุมภาพันธ์ครับ) ว่า เป็นหนแรกในรอบ 17ปี ที่เขากลับมาซื้อหุ้นไทย แม้จะไม่ใช่เงินก้อนใหญ่แต่ก็เป็นการแทนคำพูดว่า เศรษฐกิจเมืองไทยกำลังจะkick back และหากการเมืองกลับมามีเสถียรภาพก็จะใส่เงินเพิ่ม

อย่างไรก็ตามสไตล์แบบดร.จิม วอล์กเกอร์ จะเน้นทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระยะยาวนะครับ

สำหรับผมเองแล้ว นี่เป็นข่าวน่าตื่นเต้นมาก ผมจำได้เหตุการณ์ตอนปี 2539 มีวันหนึ่งผมได้อ่านรายงานของดร.จิม วอล์กเกอร์ ได้ออกบทวิจัยชิ้นหนึ่งว่า ไทยจะฟองสบู่แตกเป็นรายต่อไปต่อจากเม็กซิโก (เวลานั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเม็กซิโก และทั้วโลกกำลังควานหาว่าใครจะเป็นรายต่อไป?) ให้ขายหุ้นให้หมด

ปรากฎว่าเวลานั้นรัฐบาลไทยของเรา ปรามาสดร.จิมแบบเสียๆหายๆ ปรากฎว่าผ่านไป 1 ปี ในปีรุ่งขึ้นคือปี 2540 แกแม่นเหมือนตาเห็น ฟองสบู่แตก หุ้นตกจาก1789จุดลงมาลึกสุดๆ204จุด มีปิดแบงก์ ปิดไฟแนนซ์ระนาว

นี่พอแกบอกกลับมาซื้อหุ้นไทยในรอบ 17 ปี นับจากเคยฟันธงไว้ว่าเจ๊งแน่ๆ จะไม่ให้ผมตื่นเต้นได้อย่างไร?

หุ้นที่เขาCoverอยู่ตามรายงานวิจัยครับ TTW AH GLOW BAY ADVANC BEC MINT BIGC CPF TRUE CPALL LH SCC
*ม็อบเหลืองแดงไม่แรงอย่างที่วิตกกัน,ธน.ผ่านเตรียมเลือกตั้ง,เรื่องเขมรเข้าสู่เวทีโลก,1MSCIไม่ได้ลดน้ำหนักหุ้นไทยดังคาด แถมยังเพิ่มน้ำหนักหุ้นIVL

-ก่อนหน้านี้มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่มา 4 วันต่อเนื่อง เพราะมีการคาดการณ์ว่า MSCI จะประกาศน้ำหนักการลงทุนในวันที่ 10กพ.นี้ น่าจะลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ลงมา ทำให้มีการขายล่วงหน้า

อย่างไรก็ตามจากการประกาศของ MSCI global standard index มีหุ้น 10 บจ.เข้าคำนวณ และ 2 บจ.ถอดออก โดยมีหุ้นในตลาด EM (Emerging Market-ตลาดเกิดใหม่) ขนาดใหญ่ที่ถูกเพิ่มเข้าใน Standard index ส่วนใหญ่อยู่ในตลาด บราซิล ไต้หวัน อินเดีย อาทิ HRT Participacoes em Petroleo (BR), MStar Semiconductor (TW) and Power Grid Corporation of India (IN)

สำหรับ ตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ASIA EM มี 6 บจ.ที่ถูกเพิ่ม และไม่มี บจ.ที่ถูกถอดออก ส่วนน้ำหนักการลงทุน (FIF) ที่เพิ่มขึ้น มี 5 บจ. และ ลดลง มี4 บจ. สำหรับตลาดหุ้นไทย มีเพียง IVL ที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก ใน MSCI Thailand จาก 2.6129% เป็น 3.1174% และ น้ำหนักใน EMF เพิ่มจาก 0.0414% เป็น 0.0493% / เบื้องต้น เราคาดว่าน้ำหนักตลาดหุ้นไทย ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ

ความเห็น:การที่มีแรงขายล่วงหน้าออกมาก่อนมีการประกาศผลของMSCIว่าจะมีการลดน้ำหนักการลงทุน ดังนั้นเมื่อมีข่าวจริงออกมาในวันนี้ว่า ไม่ได้มีการลดน้ำหนักการลงทุนตามที่คาดการณ์ ก็อาจมีการซื้อคืน(ฝรั่งเรียกว่า กลยุทธ์”ขายตอนมีข่าวลือ ซื้อตอนมีข่าวจริง”(Sell on rumour ,buy on fact)

-ผลโหวตแก้ไขรธน.วาระ3 วันศุกร์ตามคาด และนายกฯยุบสภาใน 2Q11 จากนั้นจัดการเลือกตั้งซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาด เกิดElection rallyรอบใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หากซ้ำรอยกับ2ครั้งที่ผ่านมา ในยุคชวน1กับทักษิณ1ก็จะขึ้นแรงๆอยู่2ปี และตลาดขึ้น2เท่าตัว ให้ไปอ่านในคู่มือตลาดหุ้นปี2554ที่ผมส่งให้ท่านสมาชิกพิจารณาเมื่อตอนปลายปีที่แล้ว)

-ข่าวเรื่องพิพาทไทยVSกัมพูชาสู่เวทีโลก ที่ทำให้มีการเปิดการสู้รบตามแนวชายแดน ส่งผลให้ตลาดศุกร์ร่วงลง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงแล้ว แต่การสู้รบยังมีต่อเนื่องตามมา ล่าสุดไทยกับกัมพูชาต้องไปชี้แจงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(USC)

-ม็อบเสื้อแดงกับพันธมิตรฯเมื่อสุดสัปดาห์ ไม่เกิดการเผชิญหน้า ทำให้คลายความกังวลลง แต่รัฐบาลเผยว่าได้ขีดเส้นตายให้ม็อบพันธมิตรออกจากบริเวณทำเนียบรัฐบาลภายใน 15 ก.พ.นี้(หากไม่ยอมก็อาจนำไปสู่ความตึงเครียด และมีผลลบต่อตลาดหุ้นได้)

-หลายฝ่ายออกมาปฏิเสธข่าวทำรัฐประหาร และชี้ว่าเป็นการปล่อยข่าวของนายจตุพร แกนนำเสื้อแดง เพื่อเรียกระดมม็อบเสื้อแดงมากกว่าอย่างอื่น

โดยทั่วไปข่าวร้ายทำนองนี้จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ

ชาร์ตที่1:โดยทั่วไปเมื่อเกิดข่าวร้ายมากๆจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นเป็น3ช่วง

1.ตกหนักในช่วงแรก-เนื่องจากความวิตกของนักลงทุนต่อข่าวร้าย จากการคาดการณ์ผลในทางร้ายแรงที่สุด จึงเกิดpanic sell(ในช่วงนี้นักลงทุนไม่ควรสวนกระแสเข้าซื้อหุ้น หากมีกำไรก็ขายตามน้ำได้เลย)

2.ซึมตัวระหว่างรอข่าวที่ชัดเจน-ระหว่างรอข่าวที่ชัดเจน เช่น ทหารไทยกับเขมรจะยิงกันต่อ หรือหยุดยิง หรือจะมีฝ่ายที่สามเข้ามาเจรจาหรือไม่? ตลาดหุ้นจะซึมตัว วอลุมจะหดหายบางตา เพราะนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น (หากนักลงทุนเห็นซึมตัวไประยะ เป็นสัปดาห์ก็ยังซึมๆ น่าสนใจเริ่มเข้าช้อนซื้อหุ้น) โดยคาดการณ์กรอบการแกว่งตัวระหว่างกรอบรับล่าง950+/-กับกรอบแนวต้านบน1000จุด+/-

3.ปรับตัวขึ้นและมักขึ้นไปทำนิวไฮเสมอ-ช่วงที่สามเมื่อเกิดความชัดเจนแล้ว เช่น หยุดยิงแล้ว หรืออะไรที่ชัดเจน หรือพันธมิตรม็อบแล้วชัดเจนว่าจะล้มรัฐบาลได้หรือไม่ได้ ทหารจะรัฐประหารหรือไม่ ช่วงนี้หุ้นก็จะขึ้น และมักขึ้นไปทำนิวไฮเสมอ(หากชัดเจนและหุ้นเริ่มวิ่งขึ้น น่าซื้อหุ้นตาม เพราะหุ้นมักขึ้นแรง และจะกลับไปทำนิวไฮเสมอ เช่นรอบก่อนมีพีคที่1056 รอบใหม่ก็จะไปเกินด้านนี้เมื่อจบข่าวร้ายแล้ว)

สรุปความเห็น:กรณีล่าสุดนี้น่าจะพิจารณาว่าเวลานี้อยู่ในช่วงที่สองคือการซึมๆตัวในกรอบใหญ่950-1000จุด แต่สถานการณ์น่าจะจบทางดี หากพธม.ไปชายแดนเขมร แทนที่จะบุกสภาฯ หรือสถานทูตเขมร โอกาสที่จะเกิดความรุนแรงน่าจะน้อยลง ดังนั้นช่วงนี้อาจเริ่มซื้อหุ้นได้ หรือถือหุ้นต่อ หรือเหตุการณ์ชัดเจนแล้วเข้าซื้อตามน้ำครับ

อย่างไรก็ตามหากSETวันนี้ลงไปปิดหลุดต่ำกว่าเขต950+/- ให้ยกเลิกความเห็นนี้ เพราะSETเสี่ยงลงไปลึกๆอีกคลื่นบริเวณ925-910จุด

2.สรุป-ภาพระยะกลาง เราไม่ได้อยู่ในตลาดขาลง น่าจะเป็นปรับฐานระลอกคลื่นที่ 4 ย่อยของคลื่น 3ใหญ่ เป้าหมายอาจลงจบไปแล้วที่950จุด หรือหากมีอีกคลื่นก็อาจเต็มที่บริเวณ925-910จุด

ชาร์ตที่2:ชาร์ตทฤษฎีคลื่นน่าจะยังอยู่ในช่วงกลางทางของขาขึ้นรอบใหญ่ ตอนนี้เป็นเพียงการพักฐานย่อยเท่านั้นในคลื่นที่4ย่อย

ชาร์ตที่3:โดยการตกปรับฐานในคลื่นนี้ หากยืนเหนือ950ไม่ได้ก็มีเป้าตกลงไปตั้งแต่น้อยสุดคือ940 กลางๆแถว925-930หนักสุดไม่น่าเกิน900-915จุด(มีความเป็นไปได้มากว่าอาจเป็น925แล้วลงจบ และซึมออกด้านข้าง)

เราอยู่ตรงไหน และควรเล่นอย่างไร?-เมื่อพิจารณาจากทฤษฎีคลื่น ผมนับคลื่นขาขึ้นรอบนี้นับแต่สิ้นสุดการตกต่ำเมื่อปลายปี2551และเป็นขาขึ้นระยะกลาง ตอนนี้อยู่ขาขึ้นคลื่นที่3ใหญ่ และที่เห็นตกลงมาเวลานี้จาก1056ลงมา950จุด เป็นคลื่นที่4ย่อยของคลื่น3ใหญ่ เป้าหมายก็มีตั้งแต่950จุด หรือลงจบไปแล้วใน2สัปดาห์ก่อน หรือหากหลุดด่าน950ลงไปเด็ดขาด จะมีอีกขาก็จะมีเป้าหมายลึกๆแถว925จุด

โดยทั่วไปหากติดหุ้นในระลอกคลื่นนี้ก็จะไม่สาหัสครับ หากรอก็มีโอกาสได้ทุนคืน หากถือนานหลายเดือนเป็นปีก็จะมีกำไร เพราะการขาขึ้นรอบใหญ่ๆยังไม่จบ ที่ผมเคยทำนายไว้ว่าจะไป1,260จุดในเดือนกันยายน หรือราวๆ1500จุดในเดือนมกราคมปีหน้าก็ยังมีโอกาสอยู่

แต่หากท่านเป็นเทรดเดอร์ก็อาจจะดีกว่าว่า หากเด้งขึ้นมา(อาจเป็นแค่987 หรือ1000 หรือไม่เกิน1020จุด แล้วขายทำกำไร หรือขายเอาทุนคืน แล้วรอลงไปลึกๆไปช้อนซื้ออีกยก)

3.ค่าสัญญาณเทคนิคเกิดRSI BULLISH DIVERGENCEอาจชี้ว่าตลาดbottom outแล้วเกิดการฟื้นตัวรอบใหญ่ อาจไม่ลงไป925ก็ได้

ชาร์ตที่4:แนวโน้มดัชนีSETวันนี้ แนวรับแรก950+/-ถัดไป940+/- แนวต้านแรก955+/-หากผ่านจะขึ้นไป963-968จุด แนวต้านdowntrend980-990จุด

***แนวโน้ม-เมื่อวันศุกร์(11กพ.)SET ลงทำจุดต่ำใหม่ของรอบ คือลึกกว่า950 โดยลงไปลึกสุดที่937จุด แล้วมีแรงช้อนซื้อขึ้นมาปิดที่เขตไฮของวัน 949.57จุด

ข้อพิจารณาสำคัญคือ

-ชาร์ตแท่งเทียนรายวันมีรูปแบบhammer ซึ่งเป็นภาพเชิงบวก น่าหนุนการฟื้นตัวในวันจันทร์
โดยมีเป้าหมายฟื้นตัวเขต956-960จุด ข้อพิจารณาคือหากปิดเขต960หรือเกินนี้ได้ จะหนุนขึ้นไปต่อด่าน965-968 ถัดไป975 และแนวต้านdowntrendสัปดาห์นี้980-990

อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่านด่านแรก960+/-และโดนขายลงมาก็จะลงไปสู่ขาสุดท้าย เป้าหมายลงรอบนนี้อาจเป็น925หรือแย่สุด900-915จุด

-อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณRSIพบว่าได้เกิดBULLISH DIVERGENCEกล่าวคือเมื่อวันศุกร์ราคาดัชนีSETลงทำนิวโลว์ แต่RSIกลับยกสูงขึ้น(เมื่อวันที่25มกราคมที่ผ่านมาSETทำจุดต่ำอยู่ที่950จุด RSI=29% แต่เมื่อวันศุกร์ที่11กพ.SETลงนิวโลว์ที่937แต่RSI=33%) โดยปกติแล้วเมื่อเกิดRSI BULLISH DIVERGENCEในช่วงของขาลง มักเป็นสัญญาณแม่นยำมากตัวหนึ่งว่าSETอาจจะเปลี่ยนทาง คือจากที่เคยลงมาก็จะกลับเป็นขาขึ้นรอบใหญ่

กลยุทธ์-จับตามองว่าวันนี้SETจะปิดเหนือ955-960ได้หรือไม่ หากได้ก็อาจเป็นไปได้ที่จะกลับตัวขึ้น โดยมีแนวต้านแรกเขต965+/- แนวต้านเป้าหมายสัปดาห์นี้980-990หากภายในวันศุกร์ไปปิดแถว980หรือเกินกว่านี้ได้ ก็อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดจะเกิดการกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่

อย่างไรก็ตามหากวันนี้ชน960ไม่รอดแล้วลง หรือภายในสัปดาห์ไปชน980-990แล้วลง ก็มีความเสี่ยงว่าอาจตกไปที่เป้าหมายสุดท้ายบริเวณ925หรือ900-915จุด

สำหรับผู้เล่นรอบใหญ่หรือลงทุนระยะกลาง(6เดือน-1ปี)ให้ถือหุ้นต่อไป หรือช้อนซื้อเมื่อลงมา เพราะภาพใหญ่ยังเป็นขาขึ้นขนาดใหญ่ที่หวังขึ้นไป1260จุดในปีนี้ หรือ1500จุดในต้นปีหน้า

สำหรับผู้เล่นเก็งกำไรระยะสั้น(ต่ำกว่า1เดือนลงมา)หากขึ้นมาเขต960ดูว่าผ่านไหม หากไม่ผ่านน่าขาย หากผ่านไปรอดูเขต980-990หากไม่ผ่านก็ขาย แล้วรอลงไปเขต925เพื่อช้อนซื้อเก็งกำไรรอบใหม่


4.SET50 เกิดสัญญาณบวกBULLISH DIVERGENCE


แนวโน้ม—เกิดค่าสัญญาณBULLISH DIVERGENCEในRSIเช่นเดียวกันกับSET โดยเมื่อพิจารณาจากลงทำโลว์หนก่อนเมื่อ25มกราคมลงมาที่655ตอนนั้นRSI=30% แต่เมื่อวันศุกร์ที่11กพ.ลงมานิวโลว์ที่640ปิดที่650มีค่าRSI=33%

โดยทั่วไปถือว่ามีนัยสำคัญทางสถถิติหากเกิดRSI BULLISH DIVERGENCE มักเกิดการเปลี่ยนทาง คือหากเป็นขาขึ้นอยู่มีกเปลี่ยนไปเป็นขาลง เวลาเป็นขาลงอยู่ก็มักลงจบแล้วเปลี่ยนทางเป็นขาขึ้น

ประกอบกับชาร์ตรายสันเป็นรูปแบบhammerก็เป็นสัญญาณบวกว่าจะเกิดการฟื้นตัวในวันจันทร์(14กพ.) โดยวันนี้มีแนวรับ645-640แนวต้านแรก652หากผ่านจะขึ้นไปเขต660+/- และไปลุ้นผ่านนี้จะกลับขึ้นไปแนวต้านdowntrendใหญ่บริเวณ680+/- และหากผ่านด่านนั้นก็จะกลับเป็นขาขึ้น(เทียบกับSETคือต้องผ่าน980จะยืนยันกลับเป็ขขาขึ้น)

ให้ดูSETประกอบ หากSETยืนเหนือ950ไม่ได้ ปิดต่ำกว่านี้จะมีเป้าหมายตกไปแถว925 ตัวSET50จะมีเป้าหมายตกลงไปแถว625-630จุด(อย่างไรก็ตามหากSETฟื้นไปปิดเหนือเขต950-955ตัวSET50ยืนเหนือแนวรับของวันนี้642-646ได้จะฟื้นขึ้นไป652-655 หรือ660ได้)

กลยุทธ์-อาจเป็นไปได้ว่าจะไม่ลงไปลึกๆบริเวณ625ก็ได้ หลังเกิดBULLISH DIVERGENCE แต่กว่าจะยืนยันการกลับเป็นขาขึ้นก็ต่อเมื่อSETผ่าน980และSET50ผ่าน680ให้ได้ก่อน ระยะสั้นก็อาจช้อนซื้อแนวรับ640-645จากนั้นดูแนวต้านแรก652-655ผ่านหรือไม่ หากไม่ผ่านก็น่าขาย แต่หากผ่านก็ลุ้นด่านต่อไป660ถัดไป670(แต่ผมอยากให้น้ำหนักกับการเกิดBULLISH DIVERGENCEมากกว่านะครับ)



ที่ผมไม่มีชาร์ตให้ดูเพราะยังเอามาลงไม่เป็น แต่หากอยากดูก็ลงทุนสมัครสมาชิกหน่อยครับ แล้วมีให้ดู ให้อ่านก่อนเปิดตลาดทุกวันทำการ หากดูไม่รู้เรื่องอีกก็มาเรียนครับ รู้แล้วรวย ถือว่าจ่ายค่าครูหนเดียว เอาไปทำมาหากินในตลาดหุ้นได้ตลอดชาติครับ**********

**********************
เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


อบรมเล่นหุ้นอย่างไรไม่ให้เจ๊ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยปีใหม่2554


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 40 รุ่นมาแล้ว

-ฟังบรรยายพิเศษ"พลิกวิกฤตการณ์สารพัดข่าวร้ายในตลาดหุ้นอย่างไรไม่ให้เจ๊ง กลายเป็นโอกาสทองรวยหุ้น"

-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น