อบรมสอนคนให้เป็นเซียน ด้วยกราฟฟันธงด้านมิติเวลา(TIME ZONEมหัศจรรย์)รุ่นที่14 วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการนับคลื่นและทดลองลงทุนด้วย Elliot wave + Fibonacci + indicators + trend ฝึกปฏิบัติการเรื่องTime Zoneสอนที่นี่ที่เดียว เมื่อใดควรซื้อ เมื่อใดควรถือ การคำนวณหาจุดพีคและจุดbottomในเรื่องเวลา เหมาะกับท่านที่สนใจว่าซื้อหุ้นแล้วควรถือนานเท่าใด กี่วัน กี่สัปดาห์ กี่เดือน กี่ปี มีสอนเฉพาะที่นี่ที่เดียว ผ่านการพิสูจน์มานานกว่า 10ปีว่าแม่นยำราวจับวาง
โทร 02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
***สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้แบบupdateก่อนใคร ในช่วงก่อนเปิดทำการภาคเช้า อ่านชาร์ตประกอบ และฟันธงหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ หรือรับหุ้นเด่น และSET50 พร้อมจุดซื้อจุดขาย ข่าวด่วนข่าวร้อนก่อนใครผ่านทางSMS แม่นยำ กำไร สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800 โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 **
I.ความน่าสงสัยว่าตลาดฟื้นมาเพื่อตกต่อ หรือกลับตัวขึ้นเป็นแนวโน้มทางขึ้น น่าจะเลือกทางหากผ่านด่าน1096-1100จะเป็นทางขึ้น หากหลุดGAP1085จะเป็นทางลง
ชาร์ตที่1:ในรอบที่ผ่านมาผมประเมินเป้าลงไว้แถว1045-1050แล้วหุ้นจะฟื้นตัว(ปรากฎว่าตกไปที่1048แล้วฟื้น) ผมได้ประเมินว่ากรณีขึ้นดีที่สุดไม่น่าเกินเขต1096จุด ซึ่งเป็นแนวต้านdowntrend ซึ่งพิจารณาเป็นดังนี้
ก.กรณีไม่ผ่านแนวต้านdowntrend1096แสดงว่าขึ้นมาแค่นี้แล้วจะตกต่อ เป็นขาลง มีความเสี่ยงลงไปทำนิวโลว์ลึกกว่า 1048ที่ทำเอาไว้ ดังนั้นจึงให้กลยุทธ์ว่า หากเข้าช้อนซื้อหุ้นไว้ก็น่าเน้นนำออกมาขายกรณีไม่ผ่านdowntrendนี้
ข.กรณีผ่านด่าน1096ขึ้นไปได้ แสดงว่าผมน่าจะผิด เพราะมีโอกาสจะเปลี่ยนtrendเป็นขาขึ้น ซึ่งก็จะขึ้นไปทดสอบpeakเก่า1113จุด และน่าผ่านขึ้นไปเขต1132จุดได้ต่อไป
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วSETผ่านด่าน1096ขึ้นมาปิดที่1100 จุดเมื่อวันก่อน จากนั้นเมื่อวานนี้ลงมาปิดที่GAPที่เปิดไว้เขต1085จุดครับ
วันนี้จะมีกรอบเคลื่อนไหวระหว่างแนวรับGAP SUPPORT1085 แนวต้านdowntrend1096-1100จุด
ข้อพิจารณาสำคัญคือ
1.หากไม่ปิดต่ำกว่าGAP SUPPORT1085 แล้วฟื้นขึ้นไปปิดเขต1096-1100จุด แสดงว่า ตลาดน่าจะเลือกเป็นทางขาขึ้น ก็อาจน่าสนใจกลับเข้าช้อนซื้อใหม่ซัก30-50%ของพอร์ตครับ
2.แต่หากทะลุGAP1085ลงไป แสดงว่าที่ผมคิดไว้ตอนแรกถูกแล้ว คือเป็นการเด้งสั้นๆรอบนี้จากนั้นจะลงไปตามข้อ ก. และเป็นทิศทางขาลง
ชาร์ตที่2:สำหรับSET50รอบที่ผ่านมาผมประเมินไว้ว่าจะลงไปลึกสุดรอบที่ผ่านมาเขต732-739(ของจริงลงไปลึกสุด735)แล้วจะฟื้น ผมประเมินไว้ว่ากรณีดีที่สุดไม่เกินแนวต้านdowntrend780จุด ซึ่งปรากฎว่าเมื่อวานก่อนขึ้นมาปิดที่777จุด เมื่อวานลงมาลึกสุดที่763 ปิดที่765จุด
วันนี้มีกรอบแนวรับเขต762จุด แนวต้าน772-775จุด
ข้อพิจารณาก็คล้ายกับSETคือ
ก.หากขึ้นไม่ผ่านแนวต้านแรก772-775 หรือแนวต้านdowntrend778-780 และหรือทะลุลงปิดต่ำกว่าเขต762จุด แสดงว่ามาแค่นี้แล้วก็จะตก และมีความเสี่ยงจะทำนิวโลว์ลึกกว่า735ที่เคยทำไว้
ข.หากผ่านแนวต้านย่อย772-778หรือผ่านdowntrend line~780แสดงว่าตลาดไม่ใช่แค่รีบาวนด์ แต่จะเป็นการกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่
ดังนั้นในทางกลยุทธ์-เรื่องจริงก็ต้องดูว่าช่วงนี้จะผ่านด่านแรก772หรือด่านสำคัญ780ได้หรือไม่ หากไม่ได้จะเข้าข่ายข้อก. หากได้จะเข้าข่ายข้อข. โดยต้องดูSETประกอบเป็นหลัก
สรุปของสรุป-ตลาดกำลังเลือกทางครับ หากผ่านด่าน1096-1100วันนี้จะเป็นขาขึ้น แต่หากชนแล้วไม่รอด หรือทำท่าหลุด1085จะเลือกเล่นขาลง ส่วนSET50หากผ่าน772หรือ775-778ได้จะเป็นขาขึ้น แต่หากมาชนไม่ผ่านแล้วลงหลุด762จะเป็นขาลง ดังนั้นก็รอfollowแนวโน้มก็อาจดีกว่า ยกเว้นคนที่เล่นสั้นหากไปชนแนวต้านไม่ผ่านก็ขาย(หากทำท่าปิดผ่านต้านก็ถือต่อ )และลงไปแนวรับไม่หลุดก็ช้อนซื้อ(หากทำท่าหลุดก็ขายหรือขายซ้ำ)
II.หรือว่าผมจะนับคลื่นผิด?
ชาร์ตที่3: สาเหตุที่ผมประเมินว่าSETขึ้นมารอบนี้จะไม่มีนิวไฮเกิน1113 และSET50จะไม่มีนิวไฮเกินพีคเก่า790ก็เนื่องจากผมประเมินว่าในทฤษฎีคลื่นของCycleล่าสุดนี้ตัวSETในแนวโน้มใหญ่(major trend)อยู่ในคลื่น3 แต่หากดูที่แนวโน้มย่อย(minor trend)แล้วเป็นคลื่นที่5หรือคลื่นสุดท้ายของคลื่นที่ 3
ดังนั้นตอนที่ขึ้นไป1113 เมื่อ21เมษายนนั้นเป็นคลื่นที่5ของminor trendแล้ว และต่อมาการตกลงไปที่1048เมื่อ6พฤษภาคม เป็นการตกลงมาคลื่นaของminor trend
**ดังนั้นการฟื้นขึ้นของรอบล่าสุดนี้จึงเป็นคลื่นbของminor trend(โดยปกติแล้วคลื่นbจะไม่ทำจุดสูงกว่ายอดของคลื่นที่5 ดังนั้นโดยสรุปแล้วSETก็ไม่ควรมีนิวไฮเกิน1113/set50ก็ไม่ควรมีnew highเกิน790จุด)
ดังนั้นที่ผ่านมาผมจึงออกกลยุทธ์ให้นำหุ้นออกมาขายเมื่อขึ้นมาไม่มีนิวไฮ(โดยที่ผมเอาเส้นdowntrend1096-1100จุด มาเป็นเกณฑ์พิจารณา ก็เลยคิดว่าไม่ควรเกิน1096-1100 แต่เรื่องจริงมันเกินขึ้นไปเมื่อวานนี้ เลยทำให้อาจต้องทบทวนกรอบคิดใหม่)
ชาร์ตที่4:โดยหากคิดทวนใหม่นี้ ก็ต้องอยู่บนรากฐานที่ว่าคลื่น3ใหญ่major trendยังขึ้นไม่จบ และคลื่นย่อยminor trendนั้นผม”นับคลื่นผิด” กล่าวคือการขึ้นไปเขต1113นั่นยังไม่ใช่คลื่นที่5แต่เป็นแค่คลื่นที่3 และการตกลงมา1048ก็ไม่ใช่aแต่เป็นคลื่นที่4 และการขึ้นมารอบนี้จะเป็นคลื่นที่5ของคลื่นที่5ย่อยของminor trend
อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ยังเป็นสมมุติฐานของผม มันจะถูกพิสูจน์ว่าเป็นคลื่นไหนแน่ ให้ท่านสมาชิกดูดังนี้ครับ(อันนี้สำคัญ)
1.หากSETอ่อนลงมา กระทั่งลงมาปิดGAPบริเวณที่เปิดไว้แถว1091-1085แล้วฟื้นขึ้นไปเหนือเขต1096-1100ได้ ก็อาจเข้าข่ายว่าผมนับคลื่นผิด ต้องมา”นับใหม่”ว่าจะชึ้นไป5ย่อยๆของ5ย่อย
2.หากSETในระยะนี้ลงมาแล้วลงไปทำท่าปิดลึกกว่าเขตGap support~1085 หรือฟื้นขึ้นไปปิดเหนือ1096-1100ไม่ได้ในสัปดาห์นี้ แสดงว่าไม่ต้องประเมินใหม่ นับแบบเดิมนั้นถูกแล้ว ก็หันมาอิงทางลงต่อไป
ในทางกลยุทธ์-บุรพาจารย์สอนไว้ว่า หากท่านไม่แน่ใจสงสัย ก็ออกมาดูก่อน(When you doubt , You go out) รอให้เห็นแนวโน้มชัดๆ ไม่50:50 คาบลูกคาบดอกแบบนี้ค่อยfollowตามแนวโน้มจะดีกว่า ยกเว้นคนเล่นสั้นก็เทรดในกรอบแนวรับ-แนวต้านไปพลางๆ
แต่หากเป็นผม ผมก็คงขอออกมานั่งดูเหตุการณ์ก่อนครับ เอาว่าตลาดเลือกทางไปทางไหนแน่ๆค่อยfollowครับ คงไม่เกินวันสองวันก็น่าจะรู้เรื่อง เผลอๆวันนี้ก็รู้เรื่องแล้ว
III.จับตาค่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจชี้ว่าฝรั่งจะขายหุ้น(รวมทั้งสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ น้ำมัน) จะเป็นปัจจัยให้หุ้นตกรอบหน้า
ชาร์ตที่5:Fund flow chart มีความเป็นไปได้ว่านักลงทุนต่างชาติอาจซื้อใกล้completeหรือcompleteไปแล้วในรอบนี้ เมื่อเจอแนวต้านด่านนี้มีความเป็นไปได้ว่า ต่างชาติอาจหันมาเล่นในทางขายหุ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นตกรอบใหญ่ในรอบต่อไป
ชาร์ตที่6:US DOLLAR INDEX CHART เป็นไปได้ว่าอาจจะทำจุดต่ำสุดเมื่อลงมาถึงเส้นแนวรับใหญ่เขต72จุด แล้วยืนได้ และฟื้นตัวขึ้นผ่านแนวต้านdowntrendบริเวณ74.60จุดขึ้นมา(เช้านี้อยู่ที่75.38จุด) และหากสัปดาห์นี้ผ่านแนวต้านเขต74.60จุดจะเป็นสัญญาณฟื้นตัวขึ้น
แปลเป็นไทยคือ ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งรายที่จะได้รับผลทางลบคือ ทองคำ น้ำมัน และตลาดหุ้นจะตก(เพราะนักลงทุนต่างชาติมีการขายทำกำไรในสินทรัพย์เหล่านี้ที่ขึ้นมาแพงแล้ว และนำเงินกำไรเปลี่ยนไปช้อนซื้อเงินดอลลาร์ที่ลงมาถึงจุดต่ำ เป็นการหากำไรของเฮดจ์ฟันด์)
ชาร์ตทึ่7:Thai Baht index ดัชนีค่าเงินบาท ซึ่งจะพบว่าขึ้นมารอบล่าสุดไม่ทำนิวไฮ ก็เป็นไปได้ว่าค่าเงินบาทน่าจะพีคไปแล้ว มีแนวโน้มว่าจะอ่อนลงในระยะต่อไป โดยปกติหากเงินบาทอ่อนลง จะหมายถึงการที่นักลงทุนต่างชาติเทขายกำไรในตลาดหุ้น
ชาร์ตที่8:น้ำมันโลก หลังจากไปเขตแนวต้าน114ดอลลาร์ก็ตกลงแรงมาเขตแนวรับ95$แล้วฟื้น ไปเขต103$ เมื่อคืนร่วงลงมาเขต96$ คาดว่าหากขึ้นไปไม่เกินแนวต้าน109หรือไม่มีนิวไฮเกิน114อาจตกได้ต่อ และหากหลุด95จะลงลึกไปเขต75-80$เป็นปัจจัยกดดันไปราคาหุ้นกลุ่มน้ำมัน
ชาร์ตที่9:เป็นคลื่นของทองคำโลก( COMEX GOLD)ซึ่งคาดว่าน่าจะพีคในยอดคลื่นที่5ไปแล้วบริเวณ1575$จากนั้นกำลังฟอร์มตัวในคลื่นa-b(aคือการร่วงลงมา1462ฟื้นไปbแถวๆ1520$)ล่าสุดเช่านี้1500$
โดยที่พบว่ากองทุนSPIDERที่เคยbullishซื้อทองไปมหาศาลถึง1231ตันเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เริ่มระขายขายทำกำไรลงมาต่อเนื่อง ล่าสุดวานนี้(12พ.ค.)เหลือถือครองอยู่1193ตัน แสดงว่าในระยะไม่ถึงเดือนมีการระบายขายทกำไรไปแล้วเกือบ 40 ตัน( ดูเพิ่มที่ลิ้งค์ http://www.spdrgoldshares.com/sites/us/value/historical_archive/ )
สรุปของสรุป-ผมคิดว่ามีเหตุปัจจัยทางลบกดดันมากกว่านะครับ กล่าวคือกองทุนต่างชาติ พวกเฮดจ์ฟันด์น่าจะเริ่มระบายขายสินค้าโภถคภัณฑ์อย่างทองคำ น้ำมัน และรวมทั้งหุ้นที่ขึ้นมาค่อนข้างแพง แล้วนำเงินกำไรจะไปช้อนซื้อค่าเงินดอลลาร์ อันจะเป็นผลให้หุ้น,ทองคำ,น้ำมันในรอบนี้กำลังทำpeakและเราอาจได้เห็นทิศทางขาลงขนาดใหญ่ในระยะต่อไปมากกว่าจะเห็นทางขึ้น ดังนั้นการเน้นกลยุทธ์ขายทำกำไร และอย่าเพิ่งช้อนซื้อหุ้น(และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน),ทองคำ,น้ำมัน น่าจะเป็นทางที่ควรทำมากกว่าการซื้อ และจะเสี่ยงติดราคาสูงครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น