วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(11 ต.ค.):มาตรการค่าบาทไม่ใช่ยาแรงอย่างที่กลัวกัน อาจพักยกก่อนไปต่อ



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC07)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30น.
*******

1.โบรกเกอร์ประเมินมาตรการยกเลิกข้อยกเว้นเก็บภาษีตราสารหนี้15% ณ ที่จ่ายเป็นมาตรการเบา จะกระทบต่อตลาดหุ้นจำกัด

ความวิตกว่ารัฐบาลจะใช้ยาแรงในการสกัดค่าเงินบาทแข็ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสัปดาห์ก่อนร่วงลง ก่อนจะรู้ผลอย่างเป็นทางการในที่ประชุมครม.วันที่12ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อวันศุกร์ต่างชาติยังซื้อสุทธิมากถึง2872ล้านบาท

ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนลงกว่าระดับ30บาท/ดอลลาร์ มาที่บริเวณ30.07บาท ภายหลังจากเกิดความไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะนำมาตรการสกัดค่าเงินบาทแข็งเข้าที่ประชุมครม.วันอังคารที่12ตุลาคมนี้ ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีคลังยอมรับว่า อาจจะเสนอให้ยกเลิกการยกเว้นภาษีกำไรจากการขายตราสารหนี้15% แต่ได้ปฏิเสธว่า ไม่มีแผนจะจัดเก็บภาษี3%เลียนแบบบราซิล

ฝ่ายวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือCNS ให้ความเห็นว่า การที่สื่อคาดว่า คลังอาจยกเลิก การยกเว้นการกการจัดเก็บภาษีหักณที่จ่ายจากเงินได้ จากดอกเบี้ยและกำไรจากการขายตราสารหนี้ อัตรา15% เราเชื่อว่าผลกระทบจะมีจำกัดและดีกว่าการออกมาตรการ 30% URR เหมือนปี 2549 เพราะ

1.พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ผลและมีกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ
2. สถานะ Short ค่าเงินดอลล์กำลังจะผ่านจุดสูงสุดระยะสั้น ส่งผลให้ค่าเงินภูมิภาคอ่อนลงอัตโนมัติ)

ส่วนปัจจัยหนุนตลาดหุ้นฯจะมาจาก

1.Wealth effect จากนักลงทุนในประเทศ และ LTF-RMF จากกองทุนในประเทศ
2. ผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่เริ่มต้นสัปดาห์นี้
3. ความชัดเจนเรื่องมาตรการดูแลบาทที่ไม่รุนแรง คาดส่งผลให้ต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม

*กรณ์ยอมรับ เตรียมชง ครม. 12 ต.ค.นี้ ยกเลิกข้อยกเว้นภาษีกำไรนักลงทุนต่างชาติที่นำเงินซื้อพันธบัตร 15% แต่ปฏิเสธจัดเก็บภาษีเลียนแบบบราซิล

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยระหว่างการร่วมประชุมประจำปีธนาคารโลก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ว่า ในการประชุมครม. วันที่ 12 ต.ค.นี้ อาจจะเสนอมาตรการแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งด้วยการเก็บ
ภาษีดอกเบี้ยหัก ณ ที่จ่าย 15% จากนักลงทุนต่างชาติที่นำเงินเข้ามาซื้อพันธบัตรของรัฐบาล
“ผมได้หารือกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เห็นชอบแล้ว และ ธปท.จะชี้แจงกับนักลงทุนต่อไป” นายกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ธปท.เคยยกเว้นภาษีดอกเบี้ย เนื่องจากต้องการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ แต่ขณะ
นี้สถานการณ์เปลี่ยนไป โดยการเก็บภาษีจะมีผลทันทีกับนักลงทุนที่เข้ามาหลังจากมาตรการมีผล
บังคับใช้ ส่วนต่างชาติที่เข้ามาก่อนยังได้รับสิทธิยกเว้นภาษีต่อไป

นายกรณ์ มองว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยที่อยู่ในระดับสูง เป็นผลให้นักลงทุน
ต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุนพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมาก เฉพาะเดือนที่ผ่านมามีเงินไหลเข้ามาลง
ทุนในพันธบัตรรัฐบาลถึง 7 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดรวมต่างชาติที่เข้ามาลงทุนพันธบัตรทั้งหมด
1.4 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบสัดส่วนที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอยู่ที่ระดับ
4% ของพันธบัตรที่ออกมาทั้งหมดเท่านั้น

นายกรณ์ ยืนยันว่ามาตรการเก็บภาษีเงินทุนที่เข้ามาในประเทศนั้นคงยังไม่นำมาใช้
เพราะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ซึ่งต้องใช้เวลานาน แต่การเก็บภาษีดอกเบี้ย
พันธบัตรนั้นกระทรวงการคลังดำเนินการได้ทันที “หากจะนำมาตรการภาษีมาใช้ จะไม่ใช่ลักษณะเดียวกับการสกัดกั้นเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาเหมือนประเทศบราซิลที่ออกกฎหมายเก็บเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ ในอัตรา 4% จากเดิมที่จัดเก็บ 2% เพราะเป็นภาษีใหม่ที่ต้องออกกฎหมายมารองรับ แต่การนำมาใช้ในช่วงนี้ต้องระมัดระวังสำหรับเงินที่เข้ามาลงทุนก่อนหน้านี้ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบไปด้วย”

กระทรวงการคลังยังจะเสนอ ครม.ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ไม่สามารถซื้อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้ และมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการใช้โอกาสที่ค่าเงินบาทแข็งค่าลงทุนเพิ่มขีดความสามารถด้วยการลงทุนใหม่ให้เร็วขึ้นกว่าเดิมที่วางแผนไว้

*กรณ์ยืนยันไม่นำมาตรการ30%มาใช้แน่นอน แถมยังเคยคัดค้านด้วย เน้นช่วยSMEsเป็นหลัก

รัฐมนตรีคลังออกมายืนยันจะไม่ใช้มาตรการ30% หลังจากช่วงเที่ยงวันศุกร์(8ต.ค.)นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าวันอังคารหน้า(12ต.ค.)กระทรวงคลังจะนำมาตรการเข้าสู่ที่ประชุมครม.หลังค่าเงินบาทแข็ง จนส่งผลให้ตลาดหุ้นภาคบ่ายวานนี้ร่วงหนัก โดยรัฐมนตรีคลังส่งสัญญาณให้ธปท.หยุดขึ้นดอกเบี้ย แบงก์ชาติแอ่นรับแล้ว ทำให้ค่าบาทดีดกลับ

ตลาดหุ้นร่วงหนักเมื่อบ่ายวันศุกร์ ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนลงเกิน30บาท/ดอลลาร์ เพราะวิตกว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการแรงในการสกัดค่าเงินบาทแข็ง ภายหลังนายกฯอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ช่วงเที่ยงวันศุกร์ว่ากระทรวงคลังจะนำเสนอมาตรการเข้าที่ประชุมครม.วันอังคารที่12ตุลาคมนี้ ทำให้รัฐมนตรีคลังต้องออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีแผนออกมาตรการ30%

หลังการให้สัมภาษณ์ของนายกรณ์ ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง จนมาปิดตลาดที่29.93บาท/ดอลลาร์

สำนักข่าวอินโฟเควสต์รายงานว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CNBC ถึงมาตรการที่จะนำมาแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่าว่า เป็นเรื่องยากที่ประเทศไทยจะกลับไปซ้ำรอยการใช้มาตรการสกัดกั้นเงินทุนนำเข้าระยะสั้นเหมือนในปี 49 เพราะในขณะนั้นตนเป็นผู้หนึ่งที่คัดค้านการใช้มาตรการสำรองเงินทุนระยะสั้น 30%(URR) เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการเหวี่ยงแห ซึ่งไม่เหมาะสมและใช้เวลาระยะยาวมากเกินไป

สำหรับมาตรการที่จะนำเสนอต่อ ครม.ในสัปดาห์หน้า จะเน้นการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออก รวมทั้งการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ ขณะที่รัฐบาลจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาทในการนำเข้าสินค้าทุน ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าได้ด้วย

นายกรณ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมประจำปีของธนาคารโลก(World Bank) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวอีกว่า จากการติดตามภาวะเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)พบว่ามีเงินทุนบางส่วนที่ไหลเข้ามาเก็งกำไร แต่มีจำนวนไม่มากนัก ดังนั้น ธปท.จึงไม่ได้ดำเนินการใด ๆ โดยนายกรณ์ มองว่าหากเงินทุนจากต่างประเทศไม่ได้ไหลเข้ามาเก็งกำไรมากก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ธปท.ส่งสัญณาณอาจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในประชุม "กนง." วันที่ 20 ตุลาคมนี้ หลังพบเงินเฟ้ออาจไม่เพิ่มสูงขึ้น ด้าน "สภาอุตฯ" คัดค้านปรับขึ้น ส่วน "ไตรรงค์" ห่วงทุนนอกทะลักเข้า

นาง อัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า หากมีเงินทุนไหลเข้าไทยปริมาณมากจนส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ก็มีส่วนช่วยให้เงินเฟ้อไม่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อเงินเฟ้อไม่เพิ่มขึ้นก็มีโอกาสให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กน ง.) ที่จะมีการประชุมในวันที่ 20 ตุลาคานี้ ไม่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ได้

2.แนวโน้มSET กรอบแกว่ง947-1005จุดในสัปดาห์นี้

แนวโน้มรายสัปดาห์-ทางเทคนิคเมื่อสัปดาห์ก่อนโดนแรงขายลงมาปิดแถวโลว์ ก็อาจเป็นไปได้ที่ตลาดจะพักฐานต่อไป โดยมีกรอบเคลื่อนไหวแนวรับบริเวณ945-950จุด+/- แนวต้านแรก980+/- แนวต้านใหญ่สัปดาห์นี้1005จุด+/-

สำหรับวันนี้-มีแนวรับแรก960+/- หากยืนได้ก็อาจฟื้นขึ้นไป970+/- ถัดไป975+/-

แต่หากหลุด960จะตกลงไป950-945จุด+/-โดยประมาณ

กลยุทธ์สำคัญ-หากSETอ่อนตัวลง(อาจเป็นไปได้ระหว่างที่คนกังวลมาตรการค่าเงินบาทเข้าครม.พรุ่งนี้ แม้โบรกเกอร์ประเมินว่าไม่ใช่ยาแรง แต่ความกลัวของนักลงทุนที่เกินเหตุก็อาจส่งผลให้ตกได้) และยืนเหนือเขต945-950จุดได้ ก็แนะนำให้ถือครองหุ้นต่อไป หรือเป็นจังหวะซื้อเพิ่มหุ้นเด่นที่เราแนะนำไว้ เช่น BBL SCB KBANK KTB PTTAR QH เป็นต้น

3.SET50 เส้นแบ่งหมีกับกระทิงบริเวณ660จุด+/- หากหลุดก็ระวังการปรับฐานลงไป650+/- หากยืนได้มีลุ้นเด้นขึ้นไป688-695จุด+/-


แนวโน้ม-สัปดาห์ก่อนตกหนักหลังไปชนแนวต้านด่านบริเวณ688จุด ส่วนสัปดาห์นี้มีจุดสำคัญคือจะมีกรอบแนวรับแถวๆ660จุด+/- จะเป็นแนวโน้ม2กรณี

กรณีดี-หากยืนเหนิอ660 คือไม่หลุดลงต่ำกว่านี้ หรือหลุดลงไปแล้วเกิดการฟื้นตัวมาปิดเหนือ660จุดได้สำเร็จภายในสัปดาห์นี้ ก็จะจบการพักฐานเพื่อขึ้นต่อไป โดยกรอบบนมีแนวต้านแรก670-680 ถัดไป688-695จุดในสัปดาห์นี้ ส่วนเป้าหมายระยะกลางจะขึ้นไป720หรือ755จุด

กรณีไม่ดี-หากหลุดด่าน660จุดลงไปเด็ดขาด หรือหลุดลงไปแล้วไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาปิดเขตนี้ได้ในสัปดาห์นี้ก็จะเสี่ยงตกลงไปด่านถัดไป650จุด+/- หรือ630จุด+/-ได้

คำแนะนำ-การที่จะเล่นทางขาขึ้น หรือเล่นขาลง ให้ดูด่าน660จุดประกอบเป็นหลัก

สอนลูกเรียนเล่นหุ้นให้รวย

-มหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟเฟตเริ่มลงทุนหุ้นตั้งแต่ 11 ขวบ
-ปิดเทอมนี้...พาลูกหัดเล่นหุ้นอย่างถูกวิธี
ทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
-สอนด้วยภาษาง่ายๆเหมาะกับมือใหม่ที่คิดจะเริ่มต้น
-ทดลองเล่นหุ้น-TFEXสนุกๆด้วยเงินจำลอง 1 ล้านบาท
-เรียนวันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค.นี้วันเดียวจบ

โทร.สำรองที่นั่ง02-9275800 รับเพียง 10 ครอบครัวเท่านั้น

หรือ โทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)


ขั้นตอนการสมัคร กรอกใบสมัครพร้อมส่งแฟกซ์หลักฐานการชำระเงิน มาที่หมายเลข : 02-927-5880
หรือ02-9275807 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ชำระเงินผ่านธนาคารในนามบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ประเภท ออมทรัพย์

1. ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 056-0-25774-3
2. ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 735-2-38116-5
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุขาภิบาล3 เลขที่บัญชี 136-2-18236-6

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น