วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(20 ต.ค.):ดอลลาร์เริ่มแข็ง ฝรั่งเริ่มอ่อน ระวังฝรั่งขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์ หากSETหลุด980เสี่ยงลงไป960+/-


เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)


1.ดาวโจนส์รูด เพราะดอลลาร์แข็ง ค่าบาทอ่อน วิตกธปท.ลดดอกเบี้ย ฝรั่งลดน้ำหนักหุ้นไทย หากไม่ผ่าน992ยังเสี่ยงหลุด980ลงไป965

ตลาดหุ้นเมื่อวานตกปรับฐานลงมาอีกวัน ยืนเหนือ980แล้วฟื้นขึ้น แต่ไปไม่เกินแนวต้าน 992จุด แสดงว่า หากไม่ผ่าน992ในวันนี้ และหรือลงหลุดด่าน980ลงไปเด็ดขาดก็อาจเสี่ยงตกปรับฐานต่อ โดยมีเป้าหมายลงปรับฐานเขต965จุด+/- ตามที่คาดการณ์ไว้เดิม

-ดาวโจนส์รูดแรง หลังดอลลาร์เด้งแรง -165จุด ปิดที่10978จุด หลังจากค่าเนดอลลาร์แข็งขึ้นมาเขต78.21จุด(เรายังมองว่าค่าเงินดอลลาร์น่าจะใกล้จุดต่ำสุด หรืออาจทำจุดต่ำสุดไปแล้ว จะฟื้นขึ้นไปเขต82จุด ซึ่งหมายความว่าอาจมีการขายทำกำไรในตลาดหุ้นอเมริกา และตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเก็งกำไร ซึ่งจะเป็นผลทางลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งไทย)

-ค่าเงินบาทอ่อนลง ก่อนรู้ผลประชุมกนง.วันนี้ ซึ่งมีความกีงวลว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดค่าเงินบาทแข็ง-วันนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(กนง.)จะประชุม ซึ่งคาดว่าน่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ (หากกรณีนี้ถือเป็นไปตามคาด จะมีผลกระทบต่อตลาดไม่มาก) แต่หากเกินคาด คือลดดอกเบี้ยลง (จะเป็นผลลบต่อตลาดหุ้น เพราะเป็นสัญญาณว่านโยบายการเงินของไทยต้องการสกัดเงินทุนไหลเข้าชัดเจนมากขึ้น)

-ฝรั่งลดน้ำหนักลงทุนตลาดเกิดใหม่-MS(บริษัทมอร์แกนสแตนเลย์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ใหญ่ของโลก เป็นเจ้าของดัชนีMSCIที่นักลงทุนทั่วโลกนำไปประกอบการตัดสินใจการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศต่างๆ)ได้ออกบทวิจัยแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่(Emerging market-ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ถือเป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่เช่นกัน) จากเดิม 6% เหลือน 3% เพราะขึ้นมาแรง ให้ขายทำกำไรและถือเงินสดเพิ่ม
(ความเห็น:ข่าวนี้ถือเป็นข่าวเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก เพราะนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อถือคำแนะนำของมอร์แกนสแตนเลย์มาก)

1.1ชนด่านแนวต้าน1000จุด 2 วันยังไม่ผ่าน ตกปรับฐาน เมื่อวานนี้เด้งติดต้านด่าน992+/- หากไม่ผ่านและหลุด980เด็ดขาดลงไป ยังเสี่ยงลงปรับฐานต่อไป เป้าหมายลงลึกๆ960-965จุด


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายวัน ดัชนีSETได้ขึ้นมาทดสอบแนวต้านทางเทคนิคและด่านจิตวิทยาบริเวณ1,000จุดมา2วันติดต่อกันในปลายสัปดาห์ก่อน เมื่อไม่ผ่านก็ตกตามคาด อย่างไรก็ตามวานนี้เกิดการรีบาวนด์ หรือฟื้นตัวทางเทคนิคระยะสั้น โดยที่ไม่ผ่านแนวต้านด่าน992จุด

ข้อพิจารณาวันนี้เป็นดังนี้

ก.ในทางบวก หากขึ้นวันนี้ไปผ่านด่าน992 หรือปิดเหนือ992 แสดงว่าการตกปรับฐานที่ผ่านมาจบแล้ว และจะขึ้นไปทดสอบด่าน1000จุด+/-ต่อไป และอาจได้ลุ้นผ่านขึ้นไปด่าน1020จุด และระยะกลาง1130จุด

ข.ในทางลบ หากขึ้นวันนี้ไม่ผ่านด่าน992จุด+/-แล้วโดนขายสลับลงมา และทำท่าลงปิดlowเขต980หรือลึกกว่า980 ให้คาดว่า การตกปรับฐานยังไม่จบ ยังเสี่ยงตกต่อไป970+/- หรือเป้าหมายลึกๆเขต960-965จุด

เมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบ โดยเกิดสัญญาณขายในmodified stochatics เมื่อ%kตัดลงต่ำกว่า%d และเกิดBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

สรุป-หากSETขึ้นไปไม่ผ่านด่าน992จุด+/-ในวันนี้ และหรือลงไปปิดต่ำกว่า980จุด+/- ยังควรนำหุ้นที่กำไรออกมาขายทำกำไร และรอการตกปรับฐานจบก่อนแล้วค่อยพิจารณาต่อไป (เว้นแต่ทำท่าไปปิดเหนือ992จุดได้ จึงถือว่าจบปรับฐาน)


ชาร์ตที่2:เป็นภาพSETระยะยาว คือนับแต่เคยขึ้นไปทำพีคประวัติศาสตร์ที่1789จุดเมื่อปี2537และลงลึกสุดแถว204จุดเมื่อปี2541 เมื่อนำอนุกรมไฟโบนาชชี่มาวัดจะพบว่าSETกำลังมาทดสอบแนวต้านfibonacciด่าน50%บริเวณ1000จุด+/-

กรณีผ่านด่านนี้ จะขึ้นไป1130หรือ1200จุดในระยะต่อไป

กรณีไม่ผ่าน ก็อาจเกิดการตกปรับฐานรอบใหญ่ลงไปด่าน965-975เป็นอย่างน้อย หรือแย่ๆเขต800ต้นๆ

สรุป-ดูทิศทางตลาดวันนี้ หากผ่านด่าน992จุด+/-ก็น่าพัวพันเล่นขาขึ้นต่อไป หรือถือหุ้นต่อ แต่หากไม่ผ่านและหรือลงปิดต่ำกว่าเขต980จุด+/-จะเป็นสัญญาณการตกปรับฐานรอบใหญ่ น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อน

2.SET50อาจตกปรับฐานลงไปเขต670-680จุด หากไม่ผ่านแนวต้าน693+/- หรือลงหลุด684จุด


ชาร์ตที่3:ดัชนีSET50 ทดสอบแนวต้านเป้าหมายแรกด่าน700จุด+/- ข้อพิจารณาเป็นดังนี้

ก.ทางบวก หากผ่านด่าน700จุด+/-ได้ในสัปดาห์นี้ ก็มีโอกาสขึ้นด่านต่อไป720ถัดไป740-750 แนวต้านเป้าหมายใหญ่800จุด+/-

ข.ในทางลบ หากไม่ผ่านด่าน700+/- และหรือลงปิดต่ำกว่าเขต693+/-ลงไปเด็ดขาด เสี่ยงตกลงไปเขต680-684หรือแนวรับหลัก670จุด+/- หรือกระทั่ง660-665จุด

ชาร์ตที่4:SET50รายวัน มีแนวต้านเขต693+/-(691-694จุด)หากผ่านมีโอกาสขึ้นไป700+/- แต่หากไม่ผ่านจะลงมาlowวานนี้684+/- และหากหลุดด่านนี้เสี่ยงลงด่านถัดไปคือ680,673-675 หรือเป้าลึกๆ670จุด+/-

คำแนะนำ-จับตามองว่าวันนี้หากฟื้นจะผ่านด่าน693+/-ได้หรือไม่ หากผ่านจะขึ้นไปด่าน700+/-อีกรอบ แต่หากไม่ผ่าน693+/-อาจเสี่ยง และลงแนวรับแรก684จุด+/- และหากหลุดก็เสี่ยงลงไปเป้าหมายหลัก670+/-ได้ต่อไป ดังนั้นหากไม่ผ่านด่าน693ก็น่าเล่นทางขาย หรือขายซ้ำหากหากหลุด684ลงไป

3.ปัจจัยที่น่าสนใจและต้องอ่านดีๆในช่วงนี้ หุ้นต่างประเทศ,หุ้นTIPและค่าเงินบาท +ยอดซื้อของfund flow

3.1ดาวโจนส์ ไม่ผ่านแนวต้าน แถมหลุดแนวรับ เสี่ยงลงต่อ




แนวโน้ม-รอบนี้ขึ้นมาใกล้แนวต้านพีคเดิมบริเวณ11260จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ไม่ผ่าน และเมื่อคืนตกหลุดแนวรับuptrend lineบริเวณ11112จุด จึงควรระมัดระวังว่าอาจตามมาด้วยการตกแรงและเป็นทางลง และฉุดหุ้นไทยลงตาม

3.2ฮ่องกง เป้าหมายขึ้นรอบนี้24700จุด+/- แนวรับ23335จุด+/-หากหลุดเสี่ยงลงแรง


แนวโน้ม-ช่วงนี้มีแนวต้านเป้าหมายบริเวณ24700-25000จุด+/-โดยประมาณ แต่หากขึ้นไปด่านนี้ก็อาจพักฐานได้ เพราะเข้าเขตover heatแล้ว ขณะที่มีแนวรับuptrendแถว23335-23555จุด หากหลุดก็เสี่ยงลงแรงต่อไป

3.3 อินโดและฟิลิปปินส์ เพื่อนร่วมย่านTIP(Thailand /Indonesia/Philippines) หลังMSCIลดน้ำหนักลงทุน

3ตลาดนี้ฝรั่งเรียกว่าTIP เป็นที่น่าสังเกตว่าเงินทุนไหลเข้า(fund flow)รอบนี้เข้ามา 3 ตลาดนี้เป็นหลัก แต่การที่MSCIได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดMSCIลงมานั้นก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังว่าอาจมีแรงขายในตลาดหุ้นTIPไว้ด้วยครับ

3.4ค่าเงินบาท และfund flow เป็นไปได้ว่าฝรั่งอาจเริ่มขายหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ที่ใกล้เขตbottom

*ค่าเงินบาท เริ่มอ่อนหลังดอลลาร์แข็งขึ้นตามคาด-ค่าเงินบาทอ่อนลงแตะ30.03บาท/ดอลลาร์ช่วงเช้าวันนี้ หลังจากค่าเงืนดอลลาร์แข็งขึ้น ควรจับตามองว่าหากอ่อนลงเกินระดับ30เด็ดขาด อาจอ่อนลงเป้าหมายต่อไป30.37-30.55บาท/ดอลลาร์

แนวโน้ม-ในทางเทคนิคนั้นค่าเงินบาทแข็งมาใกล้แนวต้านเป้าหมายใหญ่แถวๆ29.20บาท/ดอลลาร์นะครับ เป็นไปได้ว่าหากไม่เกินด่านนี้ก็อาจอ่อนแรงลง โดยหากผ่านแนวรับเขต30บาทโดยประมาณก็อาจเห็นอ่อนลงได้

*ค่าเงินดอลลาร์ใกล้แนวรับแข็งมากเขต76ดอลลาร์ เราอาจได้เห็นเฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ได้ในระยะต่อไป

แนวโน้ม-ปัญหาจริงๆตอนนี้คือเศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วง แต่การร่วงลงมานี้ก็ใกล้แนวรับที่แข็งแกร่งมาก คือแนวรับsupport lineของแนวโน้มระยะกลางบริเวณ76จุด ซึ่งล่าสุดนี้ลงมาที่76.335จุด แต่ล่าสุดแข็งค่าขึ้นผ่านแนวต้านแรก76.53จึงแข็งขึ้นรวดเร็วมาแถว78.57 ล่าสุด78.10(ดูค่าเงินดอลลาร์เรียลไทม์ได้ที่เวบไซต์ http://www.kitco.com/ ดูตรงมุมขวามือกลางๆจอ)

ความเห็นสำคัญ-ผมจึงคิดว่า อาจใกล้เวลาที่กองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)จะเข้ามาช้อนซื้อค่าเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไร ซึ่งก็น่าจะเห็นการขายทำกำไรในตลาดหุ้น(เช่น หุ้นดาวโจนส์อเมริกา หรือฮ่องกงขึ้นไปใกล้แนวต้านเป้าหมายตามที่กล่าวไปในตอนต้น เมื่อไม่ผ่านก็เจอขายทำกำไร แล้วเฮดจ์ฟันด์นำเงินกำไรหุ้นนั้นมาช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูก เพื่อหากำไรทั้ง2ตลาด)


*ดูเหมือนเงินทุนนอกยังจะเดินหน้าซื้อหุ้นไทยต่อไป แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านด่านหนึ่ง หากไม่ผ่านก็อาจเจอขายหุ้น

แนวโน้ม-เมื่อplotเป็นชาร์ตแล้วก็จะเห็นได้ว่า แรงซื้อต่างชาติรอบนี้แรงมากจนผ่านแนวต้านหลักๆขึ้นมาแล้ว แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านอีกด่านหนึ่ง อาจเริ่มเห็นฝรั่งขายหุ้นได้

*ข้อสรุปที่สำคัญ-น่าเพิ่มความระมัดระวังขึ้นเพราะว่าตลาดหุ้นโลกอย่างดาวโจนส์ หรือฮ่องกงขึ้นมาใกล้เป้าหมายที่อาจถูกเฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้น แล้วไปช้อนซื้อดอลลาร์เก็งกำไรสองต่อ (ซึ่งอาจเห็นฝรั่งขายทำกำไรในตลาดหุ้น เพื่อหาเงินไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อเก็งกำไรด้วย) โดยกรอบเวลานั้นอาจเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นในราวสัปดาห์นี้ โดยประมาณ โดยให้ดูดัชนีดาวโจนส์,ฮั่งเส็ง และดัชนีค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญครับ

สรุปก็คือผมว่า ดูด่าน992จุดในวันนี้ หากตีด่านนี้แตกยังน่าถือต่อ แต่หากไม่ชนะและหรือเริ่มลงหลุด980ก็น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อนดีกว่า เพราะอาจเสี่ยงตกลงไปเขต960+/-ได้ครับ



*************
เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น