วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(27 ต.ค.):แม้หุ้นจะวิ่งขึ้น แต่ปัจจัยเสี่ยงก็สูงเป็นเงาตามตัว ฝรั่งขายลดความเสี่ยง กลัวมาตรการอัดฉีดของFEDเบาไป อาจกดดันให้หุ้นตกปรับฐาน



โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)

****************

1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดวันนี้-ต่างชาติและกองทุนขาย วิตกFEDอัดฉีดมาตรการอาทิตย์หน้าไม่พอฟื้นศก.อเมริกา

-เมื่อวานดัชนีSETขึ้นทดสอบ1000จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี แต่ยืนเหนือเขตนี้ไม่ได้ อ่อนลงมาปิด996.04จุด โดยต่างชาติขายสุทธิ487ล้านบาท กองทุนขายสุทธิ1464ล้านบาท

-หุ้นอเมริกาเมื่อคืนผันผวน ตอนแรกลงแดนลบ11087จุด หลังมีรายงานราคาบ้านในเดือนที่ผ่านมาปรับลดลง เช่นเดียวกับผลกำไรของยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์อย่าง บริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ก็ไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้น แต่ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้นหนุน ทำให้ดัชนีหุ้นขยับขึ้นไปอยู่ในแดนบวกได้ โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 11,169.46 จุด เพิ่มขึ้น 5.41 จุด

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ ไปปิดที่ระดับ 82.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

-เราคาดว่าเหตุที่ฝรั่งขาย อาจมาจากการที่โบรกเกอร์ใหญ่ต่างชาติคือ JP Morgan เป็นรายต่อจาก Nomura, ML(เมอริลลินช์) ที่เตือนลูกค้าให้ขายทำกำไรหุ้น เพราะคาดว่าคาดเฟดเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือชุดที่2( QE2) ในการประชุมสัปดาห์หน้า อาจไม่สูงดังที่ตลาดคาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงจากแรงขายต่างชาติที่อาจปรับเพิ่มขึ้นหากQE2แย่กว่าคาด

-ค่าเงินดอลลาร์ กลับมาแข็งค่าเทียบสกุลหลัก เมื่อวานนี้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ขึ้นมาที่78.04จุด เช้านี้อยู่ที่77.80จุด จากการส่งสัญญาณของเฟดนิวยอร์ค และหลายประเทศในเอเชียเตือนออกมาตรการสกัดการเก็งกำไร การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความไม่ชัดเจนเรื่องเม็ดเงินอัดฉีดQE2ของเฟด ธ.กลางในเอเชีย หลายประเทศ(ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย) เริ่มส่งสัญญาณเตือนการแทรกแซงค่าเงิน รวมถึง คำเตือนของหลายโบรกเกอร์ที่เตือน ตลาดหุ้นอาจมี การตกปรับฐานย่อยๆ จะส่งผลให้ดัชนีฯมีความเสี่ยงขาลง (คาดแรงขายเพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่ดัชนีฯแรลลี่)

- รายงานผลกำไรบจ.ไทยคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าคาด (PTTEP PSL) แต่ หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ที่วิ่งขึ้นมาตอนนี้ โบรกเกอร์ได้ให้คำแนะนำ ขึ้นทยอยขายล็อคกำไร

โดยกลุ่มที่อิงเรื่องผลดำเนินงานจะออกมาดี อาจเจอขายทำกำไรเมื่อมีการรายงานผลดำเนินงานออกมาเป็นไปตามคาด(Sell on Fact) คือ PTTEP BANPU TUF MINT CK SAT DELTA THAI RCL BTS

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากผลกระทบจากน้ำท่วม จะเด่นที่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น DCC TSTH SCC TASCO จะได้ประโยชน์จากการก่อสร้างหลังน้ำลด กลุ่มเกษตร STA KSL อุปทานขาดแคลน กลุ่มค้าปลีก BIGC MAKRO อุปสงค์สินค้าจำเป็นเพิ่ม


*ดาวโจนส์น่าได้ลุ้นขึ้นมาทดสอบพีคเก่า แต่ปัญหาคือหากไม่ผ่านอาจตกปรับฐานแรง ขณะที่ดอลลาร์ใกล้จุดต่ำสุด ยังระวังอาจมีการขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์ –ดัชนีดาวโจนส์ลงไปยืนเหนือแนวรับเขต11080ได้เมื่อวานนี้ และฟื้นมาปิดแดนบวก ภาพชาร์ตแท่งเทียนรายวันเป็นบวก รูปแบบhammer ดังนั้นคืนนี้น่ามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านพีคเดิมบริเวณ11258จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ข้อพิจารณาคือ

ก.หากผ่านด่านนี้ได้ในสัปดาห์นี้ก็จะยังขึ้นต่อไป หนุนหุ้นทั่วโลกขึ้นตาม

ข.หากไม่ผ่าน และหรือลงหลุดแนวรับแถว11080จุด ก็อาจลงแรง และฉุดหุ้นโลก รวมทั้งหุ้ยไทยตกตาม

สรุป-หากให้ปลอดภัย อาจรอดูดาวโจนส์เพิ่มเติมในคืนวันนี้ คือหากผ่านด่านแนวต้านก็น่าไปต่อ หุ้นไทยจะขึ้นตาม ก็รอfollowเล่นทางขึ้น แต่หากไม่ผ่านและหรือหลุดแนวรับลงมาเสี่ยงจะตกแรง ก็ควรfollowเล่นทางลงตาม เพราะประเด็นหลักตอนนี้มีการรอดูผลประชุมFEDอยู่ และนักลงทุนต่างชาตินั้นมองเชิงลบว่าน่าออกมาเป็นผลลบต่อตลาดหุ้นมากกว่าผลบวก จึงยังต้องระวังการตกปรับฐานแรงๆอยู่ต่อไป

ดอลลาร์ถึงจุดต่ำสุดอาจฟื้นแรง ระวังบาทอ่อน ฝรั่งขายหุ้น-ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงมากนะทั่งถึงเขตsupport lineขนาดใหญ่บริเวณ76จุด+/-แล้วฟื้นตัวขึ้น ล่าสุดเช้านี้ขึ้นมาเขต77.80จุด (ส่วนบาทอ่อนลง29.92) ก็อาจเป็นไปได้ว่าดอลลาร์ทำจุดต่ำสุดแล้วอาจฟื้นขึ้นไป ระยะต่อไปมีเป้าหมายฟื้นตัว82จุด+/- (ดูที่ http://www.kitco.com/)

ส่วนค่าเงินบาทล่าสุดทรงตัว ไม่อ่อนแรงต่อแล้ว เช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนลง29.92 /ดอลลาร์ อ่อนลงเล็กน้อย มีเขตแนวรับแถว30บาท/ดอลลาร์ หากอ่อนลงทะลุแนวรับนี้มีโอกาสอ่อนลงไปเป้าหมาย30.80-31.50ในระยะต่อไป(ซึ่งหมายถึงฝรั่งจะขายหุ้นไปช้อนซื้อดอลลาร์ หากเกิดเรื่องนี้ขึ้นในระยะต่อไปนี้)

*ข้อสรุปและสมมุติฐานที่สำคัญ-ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เพราะหากค่าเงินดอลลาร์ทำจุดต่ำสุด(เขต76จุด+/-) และดาวโจนส์กำลังมาทดสอบจุดพีคเดิม(เขต11260จุด+/-)หากไม่ผ่าน ต่อไปอาจได้เห็นกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)ขายทำกำไรในตลาดหุ้นดาวโจนส์ และหุ้นทั่วโลก แล้วหันไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อการเก็งกำไร และอาจมีผลให้ตลาดหุ้นไทยที่กำลังทดสอบแนวต้านด่าน1000จุด+/-ต้องเจอขายทำกำไร ปรับฐานรุนแรงต่อไปได้


(เว้นแต่จะเห็นดาวโจนส์ผ่านด่านแนวต้าน และดอลลาร์ร่วงหลุดแนวรับ ก็จึงจะกลับมาเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย)

2.SETบริเวณ1000+/-ถือเป็นแนวต้านสำคัญด่านหนึ่งของภาพระยะกลาง ระยะสั้นหากขึ้นเขต1005ไม่เกิน1010อาจเจอขายสลับ ดังนั้นควรซื้อขายด้วยความระมัดระวัง อย่าเพลินเกินไปอาจติดดอยได้


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายเดือน ภาพระยะยาวของหุ้นไทย ดัชนีSET กำลังทดสอบแนวต้านทางเทคนิคสำคัญด้านหนึ่งบริเวณ1000จุด+/- หากผ่านจะได้ลุ้นการrallyต่อไปในระยะหลายเดือนแถวๆ1200จุด+/-

แต่หากไม่ผ่านและหรือลงไปหลุดด่าน965จุด+/- จะเสี่ยงตกแรงๆลงไปเขต800จุดต้นๆได้


ชาร์ตSETรายวัน-ช่วงนี้เกิดสัญญาณซื้อหลังผ่านแนวต้านย่อยเขต993เมื่อวานนี้ แต่ชาร์ตรายวันเป็นเชิงลบ เพราะแท่งเทียนเป็นรูปแบบshooting star โดยมีแนวต้าน1001จุด หากไม่ผ่านอาจเสี่ยงตกมาแถว992จุด+/- แต่หากผ่านได้อาจขึ้นไปด่าน1005-1007 กรณีไปดีที่สุดในรอบนี้อาจเป็น1020จุด

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบกับบวกสลับกัน โดยเกิดสัญญาณซื้อในmodified stochatics เมื่อ%kตัดขึ้นสูงกว่า%d และมีค่าเพียง82%แสดงว่ามีroomให้ขึ้นต่อพอสมควร แต่ยังถูกกดดันจากสัญญาณเชิงลบคือมีBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นว่าการตกปรับฐานต่อไปอาจยังกดดันตลาดต่อไป หากขึ้นทดสแนวต้านกรอบบนแล้วไม่ผ่าน

สรุป-ควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน หากวิ่งขึ้นก็น่าขายมากกว่าตามไปไล่ซื้อ และรอตกปรับฐานค่อยช้อนซื้อคืน เพราะหากมาไล่ซื้อตอนนี้ก็เสี่ยงติดหุ้นราคาสูง


3.SET50 ทดสอบแนวต้านพีคเก่า699?


เมื่อวานผ่านแนวต้านเขต688จุด เกิดสัญญาณซื้อ ขึ้นไปสูงสุด696.50ปิดที่693.20 วันนี้มีกรอบแนวรับแรก692-690แนวรับหลัก688 แนวต้านแรก696.50จุด แนวต้านถัดไปบริเวณพีคเก่า699-700จุด+/- หากผ่านจะขึ้นไปแนวต้านถัดไป705จุด+/- กรณีดีที่สุดรอบนี้ไม่น่าไปเกิน720จุด+/-


ชาร์ตที่4:SET50รายสัปดาห์ สัปดาห์นี้มีแนวรับ688-680 แนวต้านหลัก700+/- หากผ่านจะขึ้นด่านถัดไป707ถัดไป720จุด+/-

แนะนำ-:ซื้อที่แนวนรับ และขายที่แนวต้าน

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ให้ดูปัจจัยเรื่องค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินบาท ตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ประกอบเป็นสำคัญ เพราะหากพลาดอาจติดดอยได้ในรอบนี้ครับ ไม่ควรไล่ซื้อเพลินเกินไป ผมคิดว่าอาจใกล้เกิดการตกปรับฐานแรงๆแล้ว



*****************
เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น