วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กระทิงทองส่องหุ้น(11-12ตุลาคม2555):ดาวโจนส์กับฮ่องกง หุ้นไทยจะตามใคร?/ตลาดหุ้นไทยยังไม่พีคหมดรอบ เป็นการตกปรับฐานเพื่อขึ้นต่อไป หากไม่ลงทำนิวโลว์กว่าฐานก่อน 1270จุด/กลยุทธ์การลงทุนสำคัญช่วงนี้/อัพเดตหุ้นเด่นไตรมาส4ราคาอยู่เขตฐานbottom lineพร้อมจุดที่ต้องบริหารจัดการความเสี่ยง



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 087-7174979 087-7174939 http://www.facebook.com/tontancorp

I.ดาวโจนส์ร่วงแรง ฮ่องกงประกาศเอกราชสวนทางบวก หุ้นไทยจะตามใคร?...

1:ดาวโจนส์-เมื่อคืนวันพุธร่วงแรงปิด-128จุด แต่หากดูชาร์ตจะพบว่าลงมาเขตsupport line บริเวณ13327จุด หากยืนได้ก็อาจได้เห็นการฟื้นตัวตั้งแต่คืนวันนี้(หากหลุดก็แย่ครับ ลงต่อ)

2:ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง-วันนี้ช่วงเช้าเปิดมา-100จุด ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับว่าควรจะpanicตามดาวโจนส์ที่ลงแรงเมื่อคืนนี้ จากนั้นฟื้นบวกไปเกือบ100จุดช่วงเช้านี้

สาเหตุที่ตลาดหุ้นฮ่องกงไม่ลงตามดาวโจนส์นั้น ผมคิดว่ามาจากโครงสร้างใหญ่ในภาพนี้คือ ฮั่งเส็งได้ขึ้นผ่านแนวต้านDowntrend lineและรูปแบบโครงสร้างสามเหลี่ยมบริเวณ20000จุดขึ้นมา ซึ่งการผ่านรูปแบบดังกล่าว อธิบายเป็นภาษาชาวบ้านง่ายๆคือพ้นจากเขตตลาดหมีไปสู่เขตตลาดกระทิงที่สดใส

ซึ่งตลาดกระทิงนั้นมักจะอ่อนไหวกับข่าวเชิงบวกมากกว่าข่าวเชิงลบครับ คือมีข่าวบวกนิดหน่อยก็ขึ้น หากมีข่าวลบก็อาจลงบ้าง เช่น ฮ่องกงวันนี้เปิดมาก็ลงระดับ100จุดตามดาวโจนส์เมื่อคืนนี้แล้วก็ฟื้นกลับแดนบวก

ผลต่อตลาดหุ้นไทย-โดยทั่วไปแล้ว ตลาดหุ้ยไทยจะอ่อนไหวกับด่าวโจนส์กับฮั่งเส็งมากกว่าตาดหุ้นอื่นๆในโลก แต่จะอ่อนไหวมากกว่ากับฮ่องกง อาจเป็นเพราะsentimentสดๆเทรดในเวลากลางวันใกล้เคียงกันกว่าครับ ขณะที่ดาวโจนส์ก็ทราบผลไปตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว

II. ตลาดหุ้นไทยยังไม่หมดรอบขาขึ้น เป็นการตกปรับฐาน โดยควรทำฐานสูงกว่าlowเก่าเขต1270อาจเป็น1280-1290 แล้วขึ้นทำนิวไฮในรอบใหม่



ตลาดหุ้นไทยอยู่งตรงไหน?ชาร์ตที่3-4:ดัชนีตลาดหุ้นไทย เมื่อวิเคราะห์ด้วยทฤษฎีคลื่นElliot wave-ผมประเมินว่ายังไม่จบขาขึ้น ยังอยู่ในคลื่นที่ 5 ขนาดใหญ่ที่มีเป้าหมายขึ้นไปพีคเขต1400+/-(อาจเป็น1350หรือ1450จุด) โดยช่วงนี้อยู่ในคลื่นที่ 3 ย่อยของคลื่นที่5 ปรับฐานลงคลื่น 4 ย่อยแล้วจะขึ้นสู่คลื่นที่ 5 ต่อไป


แค่ปรับฐานไม่ได้หมดรอบพีค-ชาร์ตที่5:ชาร์ตแรกอิงการอธิบายตามทฤษฎีDOWอธิบายได้ว่าเวลานี้เป็นการตกปรับฐานลงมาในระลอกคลื่น4ย่อย(ตามที่กล่าวไปข้างต้น) โดยควรทำฐานหรือจุดโลว์(L)ในภาพยกขึ้นสูงกว่าฐานรอบก่อน โดยรอบก่อนมีจุดLอยู่ที่เขต1270จุดเมื่อวันที่ 26 เดือนกันยายน ดังนั้นหากลงมารอบนี้ หากยังจะบอกว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ต่อไปก็ต้องลงมาไม่ลึกกว่า1270จุด หากลึกกว่านี้ก็มีความเสี่ยงจะจบขาขึ้นและเปลี่ยนเป็นทิศทางขาลง

เป้าการตกปรับฐานอยู่เท่าไหร่? ชาร์ตที่6:เมื่อใช้Fibonacci numberวัดจากฐานเขต1247จุด กับพีครอบล่าสุด1314จุด ก็จะได้ตัวเลขเป้าหมายการตกปรับฐานดังนี้

*ด่านแรก1290+/-(1289-1292จุด)
*ด่านสองเขต50%retracementเขต1280+/-
*ด่านสาม1270-1273จุด
*ด่านสุดท้ายเป็นแนวรับuptrendและgap supportเขต1260+/-

III.กลยุทธ์สำคัญในช่วงนี้ และกลยุทธ์หุ้นเด่นไตรมาส4

ข้อสรุปเพื่อตัดสินใจสำคัญ-1.ผมคิดว่าขาขึ้นเที่ยวนี้ยังไม่น่าจบ ยังคิดว่าเป็นการตกปรับฐาน แต่ก็ไม่ควรปรับฐานลึกกว่าLOWเก่าเขต1270 โดยหากฐานยกมาเป็นไม่เกินเขต1280หรือ1290จะดีมาก แต่หากกรณีแย่ไม่ควรหลุดลึกกว่า1270...ในกรณีนี้ท่านควรถือหุ้นต่อไป หรือเป็นจังหวะช้อนซื้อ เพื่อไปขายเป้าหมายรอบหน้าตั้งแต่1335-1350หรือ1400+/-

2.แต่หากเห็นตลาดลงลึกกว่าเขตlowเก่า1270จุดก็อาจต้องนำหุ้นที่อ่อนไหวไปในทางเดียวกับตลาดขายทำกำไร หรือขายเพื่อลดความเสี่ยงของขาลง(แม้อาจลงไปแค่ปิดGap1260หรือเขต1247-1250ที่เป็นด่านถัดไปแล้วเด้ง แต่ก็ไม่ควรรอจนกลายเป็นติดหุ้น)

3.หุ้นใหญ่SET50 และหุ้นเด่นไตรมาส4/2555(สงวนสิทธิ์เฉพาะท่านสมาชิก ให้อ่านในอีเมล์ที่จัดส่งให้เฉพาะสมาชิก)

***************\

อบรมจัดพอร์ตหุ้นเด่นเล่นให้รวยไตรมาส4จองด่วนก่อนเต็ม

อบรมจัดพอร์ตหุ้นเด่นเล่นให้รวยไตรมาส4จองด่วนก่อนเต็ม
งานอบรมจัดพอร์ตรวยหุ้นเด่นไตรมาส4/2555 วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม ได้หุ้นเด่นไปเล่นให้รวย ได้ความรู้ครบเครื่องทั้งการคัดเลือกหุ้นด้วยตนเอง การประเมิืนมูลค่าหุ้นที่เหมาะสม การหาจังหวะซื้อขายเข้าออกด้วยตนเอง เป็นความรู้ติดตัวไปใช้งานได้ตลอดชีพ เหลือ 10 ที่นั่งสุดท้าย โทรจองก่อนเต็มครับ 087-7174979


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น