วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ม็อบเสธ.อ้าย24-25พฤศจิกายน กับผลกระทบต่อตลาดหุ้น


รายการเจาะข่าวเล่าความว่าด้วยม็อบกับตลาดหุ้น 25พ.ย.(อัดเทปล่้วงหน้า1สัปดาห์)

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น สอบถามสมัครสมาชิกเพื่อรับคำแนะนำการลงทุนแบบมืออาชีพ อัพเดตหุ้นเด่น จุดซื้อ จุดขาย เป้าหมายการทำกำไร หรือการจัดการความเสี่ยงเลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

ตามสถิติม็อบกับตลาดหุ้นที่ผ่านมา จากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ2535,พันธมิตร(2548-2551) นปช.(2551-2553)มีผลต่อตลาดหุ้นเป็นดังนี้

*ระยะแรก เนื่องจากคนในตลาดหุ้นกังวลปัจจัยเสี่ยงทางการเมือง วิตกว่าจะเกิดความไม่แน่นอน มักเทขายหุ้นกันออกมาก่อน ทำให้ตลาดตกหนัก(ช่วงม็อบเสธ.อ้ายนี้อาจผ่านช่วงนี้ไปแล้ว..?คือตอนตกจาก1315ลงมา1262จุด)

*ระยะที่สอง เนื่องจากคนในตลาดเกิดความกังวลและสถานการณ์คลุมเครือไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย จึงมักหยุดการซื้อขาย วอลุมในตลาดจะหดตัว กรอบเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจะซึมแคบๆ(ซึ่งผมได้พยากรณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเกิดขึ้นตลอดสัปดาห์นี้ ก่อนการชุมนุมจะเริามต้นขึ้น)

*ระยะัที่3 เมื่อเกิดความชัดเจนแล้ว ไม่ว่าผลจะออกทางใด แต่มีบทสรุปคือการชุมนุมยุติ(จะเพราะได้รับชัยชนะ หรือแพ้ หรือการเจรจาก็ตาม ขอให้จบซักทาง)ตลาดหุ้นจะrallyขึ้น และจะไปทำจุดสูงใหม่กว่าจุดพีคเดิมเสมอ(อย่างพีคเดิม1315ก็จะไปทำนิวไฮแบบวิ่งยาว)

อย่างไรก็ตามในการชุมนุมคราวนี้มีข้อพิจารณาดังนี้

*ผู้นำการชุมนุมคือเสธ.อ้ายประกาศว่าจะชุมนุมเพียง2วันคือเสาร์-อาทิตย์ที่24-25พ.ย.และจะโค่นล้มรัฐบาลได้ ซึ่งหากเป็นตามนี้(คือจบภายใน2วัน)ตลาดหุ้นสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ช่วงระยะที่3

*อย่างไรก็ดีตามสถิติไม่เคยมีการชุมนุมไหนที่ล้มรัฐบาล หรือยุิติได้ใน2วัน(พฤษภาทมิฬกินเวลาราว2เดือน/พันธมิตรกินเวลาทั้งหมด3ปี/นปช.กินเวลาทั้่งหมด3ปี)จึงเป็นข้อกังขาอยู่ และต้องติดตามใกล้ชิดต่อไป


คัมภีร์หุ้นไทย(20-23พฤศจิกายน2555):ยามเบื่อ ยามเซ้งเซ็งเพราะตลาดซึมๆทรงๆอ่านบทความนี้ อย่าตัดสิืนใจด้วยอารมณ์



                                                   ยามเบื่อ ยามเซ้งเซ็ง ให้อ่านบทความนี้ อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์

ดัชนีSETพักตัวแบบsidewayในกรอบใหญ่1260-1315จุด เพราะฉะนั้นการซึมๆทรงๆทรุดๆสลับเด้ง แต่แทบไม่ไปไหนมาไหนจะเป็นเรื่องหลัก หากคุณไม่รู้ทันก็จะเบื่อ และอาจตัดสินใจซื้อขายด้วยอารมณ์เบื่อ(ซึ่งผิดมาก)

ชาร์ตที่2:ตลาดภาพระยะกลางเป็นแนวโน้มขาขึ้น และขึ้นยังไม่จบ โดยหากพิจารณาจากทฤษฎีElliot wave อยู่ในคลื่น4ย่อย(เลข4ในชาร์ต) ของคลื่นที่ 3 ใหญ่(IIIในชาร์ต) โดยคาดว่าการลงพักฐานในคลื่น4ย่อยนี้จะมีฐานไม่ลึกกว่าgap supportบริเวณ 1260จุด+/-

ดังนั้นข้อสรุปในทางกลยุทธ์ จึงคงเดิมดังนี้
1.ซื้อที่เขตแนวรับ1260หรือยืนเหนือ1260 ไปขายที่แนวต้าน1315จุด(หรือเล่นสั้นๆก็ซื้อเขตแนวรับย่อย1270 ขายเขต1295-1297

2.หรือหากเบื่อ เพราะหุ้นไม่ไปไหนมาไหน เนื่องจากแกว่งแคบในกรอบ1260-1315ก็หยุดพักการซื้อขายไปก่อน รอความชัดเจนค่อยเทรดใหม่

3.หากไปผ่านด่าน1315จุดก็ไปรอfollow buyหรือซื้อหุ้นเพิ่ม สิ้นปีหรือปีใหม่(อีกราว1เดือนเศษ)จะขึ้นไป1400จุด+/-

4.หากหลุด1260+/-ก็ให้เล่นทางขาลง หรือยืมหุ้นมาขาย หรือขายหุ้นในพอร์ตลดความเสี่ยง เพราะเสี่ยงตกไป1200-1170จุด

5.หุ้นที่มีในพอร์ต หรือซื้อตามคำแนะนำ ช่วงนี้อิงตลาดไปก่อนครับ คือหากหลุด1260ก็ควรขายตัดขาดทุน(โดยดูจุดstop lossรายตัวประกอบตามที่แจ้งไปก่อนหน้านี้) หรือหากตลาดSETขึ้นไปไม่เกิน1315ก็ให้ขายเอากำไร เพื่อจะได้ไม่เสียเที่ยว แต่หากผ่าน1315ก็ถือต่อ หรือfollow buyซื้อเพิ่ม

6.หลีกเลี่ยงการตัดสินใจซื้อขายด้วยอารมณ์กลัว หรือโลภ ให้ทำตามแนวโน้มอย่างเคร่งครัด เพราะแนวโน้ม เป็นเพื่อนที่ท่านไว้วางใจได้เสมอครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น