โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp
ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดพุ่ง 2.17% คาดจีนออกมาตรการหนุนศก.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 56)--ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ หลังจากที่ยอดส่งออกอ่อนตัวลงกว่าที่คาดการณ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตพุ่ง 42.68 จุด หรือ 2.17% ปิดที่ 2,008.13 จุด
หุ้นผิง อัน แบงก์ และอินดัสเตรียล แบงก์ ดีดตัวขึ้นกว่า 2% ส่วนหุ้นหยานโจว โคล นำขบวนหุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้น
สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกในเดือนมิ.ย.หดตัวลง 3.1% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การนำเข้าเดือนมิ.ย.ลดลง 0.7% เทียบรายปี เมื่อเทียบกับที่ขยับลง 0.3% ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 2.713 หมื่นล้านดอลลาร์จาก 2.043 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th
IQ> * กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด เล็งลดประมาณการ GDP ปีนี้เหลือโตไม่ถึง 5%
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 56)--คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมวันที่ 10 ก.ค.56 มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% โดยมองอัตราดอกเบี้ยยังเหมาะสม แต่พร้อมปรับเปลี่ยนสอดคล้องตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะชะลอลงในทิศทางเดียวกับสำนักอื่นๆ โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะโตไม่ถึง 5% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 5.1%
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาร เลขานุการ กนง.แถลงว่า กนง.เห็นว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อนจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของเศรษฐกิจเอเชีย ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับดีขึ้นบ้าง จากภาคที่อยู่อาศัยและการจ้างงานที่มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ เศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรเริ่มทรงตัว ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวดีขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
เศรษฐกิจไทยขยายตัวชะลอลงจากทั้งอุปสงค์ในประเทศและการส่งออก ส่วนหนึ่งเพราะครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นและนโยบายกระตุ้นภาครัฐที่ทยอยหมดลง การส่งออกชะลอลงจากทั้งปัญหาด้านอุปทานภายในประเทศและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวลงส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนบางส่วนล่าช้าออกไป สำหรับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่ำลงจากอุปสงค์ภายในประเทศและต้นทุนการผลิตที่ลดลง
กนง.ประเมินว่าอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการพักฐานหลังจากที่เร่งตัวมากในช่วงก่อนหน้าจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ จึงน่าจะกลับมาขยายตัวในระดับปกติในระยะต่อไป เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในประเทศ เช่น การจ้างงาน และรายได้ของประชาชนยังอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับนโยบายการเงินการคลังที่ยังผ่อนคลาย สะท้อนจากการขยายตัวของสินเชื่อและการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจและการเงินโลกกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวและความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม คณะกรรมการฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี
นายไพบูลย์ กล่าวว่า หากประเมินเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ ถือว่าอยู่ในช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนและทรงตัว สอดคล้องกับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ประเมินเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเหลือโต 3.1% แต่ในปีหน้าไอเอ็มเอฟประเมินเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจไทยก็น่าจะดีขึ้นในช่วงหลังจากปีนี้เช่นกันตามการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ กนง.ก็ยังมีความระมัดระวังและติดตามระดับหนี้ครัวเรือนที่เร่งตัวขึ้นมาสูง แต่ยังเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อลดภาระหนี้ของประชาชน เพราะสินเชื่อยังขยายตัวได้ แม้ขณะนี้จะไม่ได้เร่งตัวมากเหมือนในช่วงที่ผ่านมา โดย กนง.มองว่ามาตรการกระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่ายจากภาครัฐส่วนหนึ่งมีผลทำให้ภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เห็นได้จากสินเชื่อเช่าซื้อรถพุ่งสูงถึง 30-40% ในช่วงที่ผ่านมา ย่อมมีผลทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพราะต้องเจียดรายได้มาชำระหนี้ ซึ่งถือเป็นปกติ ดังนั้น เมื่อภาระหนี้ของประชาชนคลี่คลายลงก็เชื่อว่าการใช้จ่ายในประเทศจะกลับมาสู่ระดับปกติในระยะต่อไป และยืนยันว่ายังไม่เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้จนผิดปกติ
นอกจากนี้ กนง.ยังได้นำผลของการชะลอการลงทุนภายใต้โครงการบริหารจัดการน้ำภาครัฐมาประกอบการพิจารณา เพื่อปรับลดประมาณการเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันที่ 19 ก.ค.นี้
"จริง ๆ แล้ว กนง.มองเห็นการชะลอตัวเศรษฐกิจตั้งแต่การประชุมครั้งก่อน จึงได้ลดดอกเบี้ยลงไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% ก็เป็นระดับที่ผ่อนคลายอยู่แล้ว หนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ค่อนข้างดี และเชื่อว่าเป็นระดับที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง และมองแนวโน้มข้างหน้ายังเป็นระดับที่เหมาะสม" นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป ขึ้นกับข้อมูลและสถานการณ์ที่ต้องพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หากเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ในประเทศเปลี่ยนแปลง การลงทุนต่าง ๆ ชะลอลงกว่าคาด ก็ต้องพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม รวมทั้งต้องสอดคล้องกับเสถียรภาพทางการเงินและอัตราเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะมีออกมาอีกนั้น กนง.ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจรอบด้านในระยะข้างหน้าจะมองเพียงอุปสงค์อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งหัวใจสำคัญก็ต้องดู supplied side โครงสร้างการผลิตที่อาจทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไม่มากพอ ต้องดูรวมไปถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ผลิตภาพการผลิต และคุณภาพแรงงาน ซึ่งทั้งหมดต้องมองในระยะยาว
"การกระตุ้นด้วยดีมานด์ต้องมีเหตุมีผลในบางช่วงบางจังหวะ โดยเฉพาะในยามที่เกิดความไม่เชื่อมั่นก็ถือว่ามีเหตุผลในการกระตุ้น แต่จะได้ผลในระยะสั้น ขณะเดียวก็จะเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้ภาคเอกชนและรัฐบาลที่จะต้องจัดการในระยะต่อไป"นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สินเชื่อที่ขยายตัวในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้เห็นว่าเริ่มทรงตัว โดยสถาบันการเงินเริ่มมีความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ และเพิ่มความเข้มงวดต่อมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก็ยังคงติดตามหนี้สินภาคครัวเรือน ซึ่งประเมินว่าในระยะข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากผลกระทบสถานการณ์การเมืองในอิยิปต์นั้น มองว่าเป็นภาวะชั่วคราว แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะไม่สูงมากนัก เพราะเศรษฐกิตจโลกไม่ได้เติบโตมาก จึงเชื่อว่าไม่น่าจะสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้สูงขึ้นมากในระยะต่อไป แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องติดตาม
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การส่งผ่านนโยบายการเงินต้องใช้เวลา และยังต้องขึ้นกับกลไกตลาด เบื้องต้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นก็ปรับลดลงไปแล้ว ส่วนดอกเบี้ยของสถาบันการเงินก็ต้องเป็นไปตามกลไกของธุรกิจ กนง.ไม่ได้ออกคำสั่งให้ต้องปฏิบัติตาม แต่หากสถาบันการเงินเห็นว่ามีความต้องการสินเชื่อมาก และมีข้อกังวลจากสภาพคล่องที่อาจตึงตัวเนื่องจากการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมทั้งการแข่งขันจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ระดมเงินฝากมาก ก็ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจปรับดอกเบี้ยในตลาด อย่าหวังพึ่งนโยบายการเงินมากเกินไป
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 56)--ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ หลังจากที่ยอดส่งออกอ่อนตัวลงกว่าที่คาดการณ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตพุ่ง 42.68 จุด หรือ 2.17% ปิดที่ 2,008.13 จุด
หุ้นผิง อัน แบงก์ และอินดัสเตรียล แบงก์ ดีดตัวขึ้นกว่า 2% ส่วนหุ้นหยานโจว โคล นำขบวนหุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้น
สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกในเดือนมิ.ย.หดตัวลง 3.1% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การนำเข้าเดือนมิ.ย.ลดลง 0.7% เทียบรายปี เมื่อเทียบกับที่ขยับลง 0.3% ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 2.713 หมื่นล้านดอลลาร์จาก 2.043 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th
IQ> * กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด เล็งลดประมาณการ GDP ปีนี้เหลือโตไม่ถึง 5%
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 56)--คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในการประชุมวันที่ 10 ก.ค.56 มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% โดยมองอัตราดอกเบี้ยยังเหมาะสม แต่พร้อมปรับเปลี่ยนสอดคล้องตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะชะลอลงในทิศทางเดียวกับสำนักอื่นๆ โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะโตไม่ถึง 5% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 5.1%
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาร เลขานุการ กนง.แถลงว่า กนง.เห็นว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อนจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของเศรษฐกิจเอเชีย ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับดีขึ้นบ้าง จากภาคที่อยู่อาศัยและการจ้างงานที่มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ เศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรเริ่มทรงตัว ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวดีขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
เศรษฐกิจไทยขยายตัวชะลอลงจากทั้งอุปสงค์ในประเทศและการส่งออก ส่วนหนึ่งเพราะครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นและนโยบายกระตุ้นภาครัฐที่ทยอยหมดลง การส่งออกชะลอลงจากทั้งปัญหาด้านอุปทานภายในประเทศและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวลงส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนบางส่วนล่าช้าออกไป สำหรับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่ำลงจากอุปสงค์ภายในประเทศและต้นทุนการผลิตที่ลดลง
กนง.ประเมินว่าอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการพักฐานหลังจากที่เร่งตัวมากในช่วงก่อนหน้าจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ จึงน่าจะกลับมาขยายตัวในระดับปกติในระยะต่อไป เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในประเทศ เช่น การจ้างงาน และรายได้ของประชาชนยังอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับนโยบายการเงินการคลังที่ยังผ่อนคลาย สะท้อนจากการขยายตัวของสินเชื่อและการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจและการเงินโลกกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวและความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม คณะกรรมการฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี
นายไพบูลย์ กล่าวว่า หากประเมินเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ ถือว่าอยู่ในช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนและทรงตัว สอดคล้องกับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ประเมินเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเหลือโต 3.1% แต่ในปีหน้าไอเอ็มเอฟประเมินเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจไทยก็น่าจะดีขึ้นในช่วงหลังจากปีนี้เช่นกันตามการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ กนง.ก็ยังมีความระมัดระวังและติดตามระดับหนี้ครัวเรือนที่เร่งตัวขึ้นมาสูง แต่ยังเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อลดภาระหนี้ของประชาชน เพราะสินเชื่อยังขยายตัวได้ แม้ขณะนี้จะไม่ได้เร่งตัวมากเหมือนในช่วงที่ผ่านมา โดย กนง.มองว่ามาตรการกระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่ายจากภาครัฐส่วนหนึ่งมีผลทำให้ภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เห็นได้จากสินเชื่อเช่าซื้อรถพุ่งสูงถึง 30-40% ในช่วงที่ผ่านมา ย่อมมีผลทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพราะต้องเจียดรายได้มาชำระหนี้ ซึ่งถือเป็นปกติ ดังนั้น เมื่อภาระหนี้ของประชาชนคลี่คลายลงก็เชื่อว่าการใช้จ่ายในประเทศจะกลับมาสู่ระดับปกติในระยะต่อไป และยืนยันว่ายังไม่เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้จนผิดปกติ
นอกจากนี้ กนง.ยังได้นำผลของการชะลอการลงทุนภายใต้โครงการบริหารจัดการน้ำภาครัฐมาประกอบการพิจารณา เพื่อปรับลดประมาณการเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันที่ 19 ก.ค.นี้
"จริง ๆ แล้ว กนง.มองเห็นการชะลอตัวเศรษฐกิจตั้งแต่การประชุมครั้งก่อน จึงได้ลดดอกเบี้ยลงไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% ก็เป็นระดับที่ผ่อนคลายอยู่แล้ว หนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ค่อนข้างดี และเชื่อว่าเป็นระดับที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง และมองแนวโน้มข้างหน้ายังเป็นระดับที่เหมาะสม" นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป ขึ้นกับข้อมูลและสถานการณ์ที่ต้องพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หากเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ในประเทศเปลี่ยนแปลง การลงทุนต่าง ๆ ชะลอลงกว่าคาด ก็ต้องพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม รวมทั้งต้องสอดคล้องกับเสถียรภาพทางการเงินและอัตราเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะมีออกมาอีกนั้น กนง.ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจรอบด้านในระยะข้างหน้าจะมองเพียงอุปสงค์อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งหัวใจสำคัญก็ต้องดู supplied side โครงสร้างการผลิตที่อาจทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไม่มากพอ ต้องดูรวมไปถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ผลิตภาพการผลิต และคุณภาพแรงงาน ซึ่งทั้งหมดต้องมองในระยะยาว
"การกระตุ้นด้วยดีมานด์ต้องมีเหตุมีผลในบางช่วงบางจังหวะ โดยเฉพาะในยามที่เกิดความไม่เชื่อมั่นก็ถือว่ามีเหตุผลในการกระตุ้น แต่จะได้ผลในระยะสั้น ขณะเดียวก็จะเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้ภาคเอกชนและรัฐบาลที่จะต้องจัดการในระยะต่อไป"นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สินเชื่อที่ขยายตัวในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้เห็นว่าเริ่มทรงตัว โดยสถาบันการเงินเริ่มมีความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ และเพิ่มความเข้มงวดต่อมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก็ยังคงติดตามหนี้สินภาคครัวเรือน ซึ่งประเมินว่าในระยะข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากผลกระทบสถานการณ์การเมืองในอิยิปต์นั้น มองว่าเป็นภาวะชั่วคราว แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะไม่สูงมากนัก เพราะเศรษฐกิตจโลกไม่ได้เติบโตมาก จึงเชื่อว่าไม่น่าจะสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้สูงขึ้นมากในระยะต่อไป แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องติดตาม
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การส่งผ่านนโยบายการเงินต้องใช้เวลา และยังต้องขึ้นกับกลไกตลาด เบื้องต้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นก็ปรับลดลงไปแล้ว ส่วนดอกเบี้ยของสถาบันการเงินก็ต้องเป็นไปตามกลไกของธุรกิจ กนง.ไม่ได้ออกคำสั่งให้ต้องปฏิบัติตาม แต่หากสถาบันการเงินเห็นว่ามีความต้องการสินเชื่อมาก และมีข้อกังวลจากสภาพคล่องที่อาจตึงตัวเนื่องจากการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมทั้งการแข่งขันจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ระดมเงินฝากมาก ก็ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจปรับดอกเบี้ยในตลาด อย่าหวังพึ่งนโยบายการเงินมากเกินไป
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--
ความเห็น:1.ตลาดรวม ดัชนีSETหุ้นไทยตกมาถึงแนวรับด่านสุดท้ายเขต1385-1390
หากหลุดก็เสี่ยงลงต่อไปเขต1338ที่เป็นlowเก่า
แต่หากยืนได้แล้วฟื้นไปเหนือเขต1405หรือ1410ก็จะจบการลงเที่ยวนี้พร้อมขึ้นรอบใหม่
กลับไป1420-1430,1475 หรือ1492-1500
2.ดัชนีSET50 หากยืนเหนือ930+/-(933-828)จะฟื้นไป940-945ถัดไป950-953และหากผ่านก็จะฟื้นกลับไป960-975
3.หุ้นที่จะได้ประโยชน์หากจีนออกมาตรการคือกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี น้ำมัน
สินค้าการเกษตรที่ตกต่ำซบเซามาเกือบ 3 ปี เช่น BANPU IVL STA AJ PTL IRPC PTTGC ESSO PTT PTTEP TOP เป็นต้น
ROBERT การเงิน หน้าแรก ,
ตอบลบเรามี เงินให้สินเชื่อ ภาคเอกชน ในเชิงพาณิชย์และ ส่วนบุคคลที่มี ต่ำมาก อัตราดอกเบี้ย รายปี ที่ต่ำเป็น 3% ในหนึ่งปี กับระยะเวลา การชำระหนี้ 50 ปี ที่ใดก็ได้ใน โลก เรามี การให้กู้ยืมเงิน ตั้งแต่ $ 5000 ถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การให้กู้ยืมเงิน ของเรา เป็นผู้ประกันตน ได้ดีสำหรับ การรักษาความปลอดภัย สูงสุด เป็นลำดับความสำคัญ ของพวกเขา คุณ สูญเสียการ นอนในเวลากลางคืน กังวล ว่าจะได้รับ ผู้ให้กู้ เงินให้กู้ยืมที่ถูกต้อง
ติดต่อ ROBERT การเงิน HOME ( บริการด้านสินเชื่อ ) ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถ ช่วยให้ได้รับ เงินให้กู้ยืม เพื่อหยุด ประวัติเครดิต ที่ดีที่จะ หาทางแก้ปัญหา ที่ชนะ
ฉันจะ ใช้ ? E -mail: robert_financial_home@hotmail.com
กรุณากรอก แบบฟอร์ม ใบสมัคร ด้านล่างนี้ :
เงินกู้ การใช้งาน รูปแบบ
ชื่อเต็ม ของคุณ *
* อีเมล์ของคุณ
* โทรศัพท์ แบบเต็ม ของคุณ
ที่อยู่ ของคุณ *
เมือง ของคุณ *
รัฐ / จังหวัด *
ประเทศ ของคุณ *
แฟกซ์ *
วันเกิด *
คุณมี บัญชี? *
คุณมี ก่อนที่จะ นำมาใช้ ? *
รายได้ต่อปี *
จำนวน เงินกู้ ที่จำเป็น *
เงินกู้ ระยะเวลา *
วัตถุประสงค์ของ สินเชื่อ *
ส่งสแกนสำเนา บัตรประจำตัว ของคุณ : *
เจ้าหนี้ : Mr.Robert MELODY
ผู้ให้กู้E -mail: robert_financial_home@hotmail.com
ขอแสดงความนับถือ
MELODY เจ้าหนี้ Mr.Robert