วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คู่มือตลาดหุ้นปีกระต่ายตื่นตูม:รวยหุ้นเด่นปีใหม่2554


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
**********
คู่มือรวยหุ้นปี2554(ตอนที่1):กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888


I.กลับไปดูคู่มือตลาดหุ้นปี 2553 การคาดการณ์กับผลงานที่ออกมาจริง


*ในคู่มือตลาดหุ้นปี 2553 นั้น ผมมองว่า จะเป็นปีที่”ต้นร้ายปลายดี” คือช่วงต้นปีน่าจะตก แต่แย่สุดก็จะไม่ลึกกว่าเขต 500 จุด (ความจริงดัชนีSETแย่ที่สุดของปี2553อยู่ที่ 679 จุด) และจะขึ้นไปตอนปลายปีดีที่สุดอาจเป็น 975 จุด (ความจริงปรากฎว่าดีกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้ โดยSETผ่าน1,000ขึ้นไปที่1,055จุด )

*ผมได้คาดการณ์ว่า แต่ปี2554 จะ rally หรือวิ่งครั้งใหญ่เป็นกระทิงของจริงอาจไปถึง 1,200 จุดในราวเดือนกันยายน 2554

*หุ้นเด่นในปี 2553 ผมได้แนะนำซื้อ SVI ในหมวดชิ้นส่วนฯ(ตอนนั้นราคาราวๆ2บาท ปีนี้ขึ้นมาสูงสุดที่3.86บาท ดีกว่าที่ผมคาดไว้แถว3.20บาท) และBCP(ตอนนั้นอยู่แถวๆ14บาท ขึ้นมาสูงสุด18.60บาท แต่ถือว่าขึ้นน้อยกว่าท่าคาดไว้แถว20บาท)
*นอกจากนั้นผมได้แนะนำให้หาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯตัวอื่น หรือหมวด อาหาร-การเกษตร เป็นหลัก (ซึ่งตลอดปี2553ก็ยังเป็นปีที่กลุ่มอาหาร และการเกษตรขึ้นได้ดีกว่าตลาดรวมมาก ตัวอย่างที่เด่นชัดคือSTA CPF หรือหุ้นเด่นอีกตัวที่แนะนำลงทุนคือKCEเขต4บาท ขึ้นมาปีนี้สูงสุด10.60บาท)

II.ตลาดหุ้นไทยขึ้นแรงเป็นอันดับ 2 ของโลกในปีนี้ จับตามองทิศทางตลาดTIPในปี2554 หากแรงต่อก็ยังไปทางเดียวกัน หากเจอขายก็น่าจะลงด้วยกัน เพราะเป็นเงินต่างชาติก้อนเดียวกัน

ที่มา: http://www.fundsupermart.com/main/articleFiles/webarticles/4728/SG/Weekly%20Report%2020101213.pdf
-นับจากตอนต้นปี2553 มาถึงสิ้นปี 2553 นั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาราว 41% เป็นรองเพียงตลาดหุ้นเอเชียที่ขึ้นมาราว 48%
-เทียบกับตลาดหุ้นที่สำคัญอย่างอเมริกาทั้งปี2553ขึ้นมาราว11% ยุโรปเฉลี่ย 9% ตลาดหุ้นย่านเอเชียเฉลี่ย14% ฮ่องกงเพียงราว6%
-ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในปี 2553 คือเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น
-แต่เงินทุนไหลเข้าในปี 2533 พบว่าตลาดหุ้นที่ได้อานิสงส์มากที่สุด คือตลาดหุ้นที่เรียกว่า TIP-Thailand,Indonesia,Philippines โดย 3 ตลาดนี้ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ หากเทียบก่อนเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในอเมริกาในปี 2550-2551


ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย:ก่อนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์อยู่ราวๆ2,800จุด มาปีนี้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่(New high)ที่ระดับ3,800จุด แต่ตอนนี้เริ่มมีการปรับคำแนะนำให้ขายทำกำไรจากกองทุนต่างชาติแล้ว


ตลาดหุ้นไทย:ก่อนวิกฤตแฮมเบอร์อยู่ที่ 925จุด ปี2553ขึ้นทำจุดNew highที่1055จุด กองทุนต่างชาติให้น้ำหนักถือรอขายเขต1,250จุดในปี2554

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์:ขึ้นทำNew highเช่นกัน ข้อพิจารณาที่น่าสนใจคือ เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุน หรือเก็งกำไรตลาดTIPน่าจะเป็นเงินก้อนเดียวกัน หากปี2554นี้อีก2ตลาดคืออินโดนีเซีย กับฟิลิปปินส์ยังขึ้น หุ้นไทยก็น่าจะยังขึ้นต่อไป แต่หากอีก 2 ตลาดลง ก็ควรระวังว่าอาจมีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน (อ่านตอนต่อไป หรือโทรสมัครสมาชิกเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร 02-9275800)
***************


1.แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้(20-24ธ.ค.53)อาทิตย์นี้ผู้จัดการกองทุนน่าจะขายปิดงบกลับบ้านพักร้อนคริสมาสต์หมด ส่วนแนวโน้มข้างหน้ามีเงินใหม่LTFเข้า+ Santa’gift +Year end Rally และพีคในJanuary effect สูตรสำเร็จ3ช่วงกับการลงทุน ตามสูตรแล้วจะมีnew highเกิน1055จุด ไปเป้าหมาย1100-1130

สถานการณ์และทิศทางแนวโน้ม-ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ถือว่าเป็นไปตามคาดการณ์ครับ คือตลาดก็ซึมๆตัว แต่ข้อเสียคือหลุดเขต1025ลงมา อาจมีแรงเฉื่อยมาถึงต้นสัปดาห์ใหม่ ที่อาจลงมาเขต1016-1018 เพื่อลงมาปิดGAPที่เปิดไว้ แล้วค่อยขึ้น

ยังคิดตามที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าก่อนคริสมาสต์น่าจะซึม หรืออ่อนลงมาก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้จัดการกองทุนฝรั่งเขาจะขายปิดงบงวดสิ้นปี ก่อนจะหยุดพักร้อนยาวช่วงเทศกาลคริสมาสต์ที่จะมาถึงในสัปดาห์หน้า

หากคาดไม่ผิด ผมคิดว่าน่าจะขายกันหมดเพื่อพักร้อนในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ หรือช้าหน่อยก็ต้นสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเป็นช่วงที่กองทุนในประเทศนำเม็ดเงินใหม่คนไทยจากกองทุนLTFมาซื้อ

โดยเงินใหม่LTFน่าจะเริ่มเข้าตลาดตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป

ดังนั้นหุ้นตัวใหญ่ในSET50อย่างพวกพลังงาน แบงก์ สื่อสาร วัสดุก่อสร้าง เคมี อะไรพวกนี้ก็จะมีอาการอย่างที่เห็น คือสัปดาห์ก่อนนี้ไม่ลงก็ซึม แต่ว่าอาทิตย์นี้ไปพอเงินLTFมาก็จะเริ่มขึ้นครับ ดังนั้นก็อดเปรื้ยวไว้กินหวานกันหน่อย

ผมยังนำกรอบความคิดเดิมเรื่อง”พลิกวิกฤตเป็นโอกาส”เป็นกรอบความคิดหลักในการมองแนวโน้มตลาดหุ้นในรอบนี้ และเรื่องอื่นๆ ดังนี้

1.1กรอบแนวคิดเรื่องวิกฤตเป็นโอกาสของตลาดหุ้น –กล่าวคือเมื่อเกิดวิกฤตใดๆ ตลาดหุ้นจะมีผลกระทบ 3 ช่วง ช่วงแรกลงแรง ,ช่วงสองซึมรอความชัดเจน ,ช่วงสามขึ้น และมักจะขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่(นิวไฮ)

วิกฤตหนล่าสุดคือวิกฤตคดียุบพรรค ทั้งคดี29ล้านและคดี258ล้านจบไปแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงระยะที่สาม จึงเชื่อได้ว่าน่าจะมีโอกาสทำนิวไฮกว่าพีคเดิม1055จุดที่เคยทำเอาไว้(หลังจากกองทุนฝรั่งขายปิดงบสิ้นปีเพื่อพักผ่อนยาวช่วงคริสมาสต์+ปีใหม่)

1.2กรอบแนวคิดเรื่องเงินLTFเข้าในปลายเดือนธันวาคม-คนไทยชอบทำอะไรนาทีสุดท้าย เงินลงทุนLTFจะมาหนุนตลาดหุ้นในช่วงท้ายๆ(กองทุนนี้มักซื้อหุ้นในSET50ก็ให้ลองดูชื่อหุ้นในSET50นะครับ) และจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นวิ่งในช่วงท้ายปี

เราน่าจะได้เห็นเม็ดเงินใหม่LTFเข้าซื้อหุ้นตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ไปแรงๆก็สัปดาห์สุดท้ายของปี

1.3กรอบแนวคิดเรื่องSanta’gift+Year end rally+Crismast gift และพีคในJanuary effect-ในช่วงท้ายปีต่อเนื่องถึงสัปดาห์แรกของปีใหม่ ตลาดหุ้นไทยมักวิ่งแรง เลยเรียกกันว่าเป็นของขวัญจากซานต้า ช่วงคริสมาสต์ และวิ่งส่งท้ายปี และมักวิ่งแรงในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ที่เรียกกันว่าJanuary effect

ผมคาดว่าปีนี้ก็จะเป็นแบบนี้คือตลาดน่าจะวิ่งขึ้นทำnew highเกินด่าน1055เป้าหมายน่าจะเป็น1100-1130จุด แล้วก็ไปพีคยอดดอยในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2554 เผลอๆจะเป็นวันจันทร์ที่3หรืออังคารที่4มกราคม แล้วก็ลงปรับฐานแรงๆ

Note:อย่างไรก็ตามมักปรากฎว่าก่อนช่วงคริสมาสต์ทุกๆปีต่างชาติมักขายหุ้นไทย เนื่องจากผู้จัดการกองทุนต่างชาติมักขายหุ้นปิดงบสิ้นปี ก่อนกลับบ้านพักร้อนยาวคริสมาสต์ กลับมาซื้ออีกทีตอนต้นปี

ดังนั้นหุ้นช่วงก่อนคริสมาสต์มักซึม หรือซึมลง ซึ่งก็จะมีกรอบฐานรับแรกบริเวณ1025จุด แต่เมื่อหลุดก็อาจลงแถมไปแถวๆ1016-1019จุด เป็นการลงมาปิดGAPก่อนจะขึ้นต่อไปทดสอบด่าน1055จุด

วันนี้กรอบแนวรับอยู่แถวๆ1016-1019(ลงมาปิดGapแถวๆ1016-1019แล้วก็จะขึ้นอยู่ดี) แนวต้านวันนี้แถวๆ1025-1030จุด หากปิดเขตนี้หรือผ่านก็แปลว่าเริ่มตั้งหลักได้ น่าลุ้นขึ้นไปตีด่าน1055แตกแล้วrallyส่งท้ายปี

2.SET50น้ำใหม่ของตลาดหุ้น ใครเข้าใครออกและมีผลอย่างไร

ตลาดหลักทรัพย์ประกาศรายชื่อหุ้นที่จะเข้ามาอยู่ในSET50ใหม่ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2554 มีรายชื่อดังนี้ BTS, DCC, KK, ROBINS, SSI, STA

ส่วนรายที่ให้ออกไปมีรายชื่อดังนี้ BCP, HANA, KSL, PSL, QH, TTA

ทั้งนี้เกณฑ์การให้เข้าออก นอกจากเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่แล้ว ก็คำนึงเรื่องสภาพคล่องและปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดเป็นหลัก

ผลประโยชน์ที่หุ้นเข้าใหม่จะได้รับคือ จะทำให้นักลงทุนสถาบัน และต่างชาติตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น ส่วนรายที่ออกก็อาจทำให้ได้รับความสนใจจากกองทุนและต่างชาติน้อยลง(แต่ก็ไม่จำเป็นนัก เช่นช่วงนี้มีแรงซื้อBCPหนาแน่น ทั้งที่ออกจากSET50 แต่ตอนอยู่SET50มาเป็นปี แทบจะไม่เคลื่อนไหวเลย)

โบรกเกอร์ASPให้BTSเด่นที่สุดในหุ้นเข้าSET50ใหม่ ให้เป้าหมายราคาพื้นฐาน1.26บาท SSI1.76บาท KKให้เป้าหมาย54บาท

เราแนะนำให้ซื้อBTS โดยเฉพาะหากผ่านด่านแนวต้านรูปแบบสามเหลี่ยมชายธง เขต0.83-0.85น่าจะไปได้ไกลในระยะกลาง คือเป้าหมายราวๆ1.20-1.30บาท(รายละเอียด ขอให้ท่านสมาชิกอ่านในกระทิงทองส่องหุ้นที่ลงมาหลายวันแล้ว)

3.SET50 ปรับฐานอาจย่อลึกแถวๆ705-710 เมื่อยืนได้จะเป็นขาขึ้นรอบใหม่ลุ้นnew highเกิน735 เป้า750หรือ780

แนวโน้ม—ขึ้นไปรอบที่ผ่านมายังไม่ทำnew highเกิน735แล้วลง วันศุกร์ปิดที่714จุด แต่เกิดสัญญาณขายในmodified stochastics ก็อาจเกิดแรงขายให้ลงต่อได้

วันนี้หรือช่วงนี้มีแนวรับแรกเขต710-714 หากยืนได้จะขึ้นไปแนวต้านแรก722-725 ถัดไป730และ แนวต้านหลักพีคเดิม735จุด หากผ่าน(น่าจะเป็นWEEKหน้า)ก็จะขึ้นไปนิวไฮเขต750และหรือ780จุด

แต่หากยืนเขต710-714ไม่ได้ ก็อาจลงไปแนวรับถัดไปซึ่งเป็นแนวรับหลักบริเวณ705จุด+/-(701-707จุด) แต่คาดว่าลงไม่เกินด่านนี้ แล้วจะค่อยฟื้นตัว

กลยุทธ์-เข้าซื้อที่เขตแนวรับ และหากไม่หลุดด่าน705+/-น่าถือต่อ วันนี้แนวต้าน714ถัดไป722จุด และไปลุ้นทดสอบแนวต้านพัคเดิม735ก่อนสิ้นปี

*********

9111(9มกราคม2553)อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันที่9111(อาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 15 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง) 02-9275800 โทรมือถือ 087-7174939/087-7174979/087-7178979

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น