ราคาน้ำมันโลก และเงินในกระเป๋าของคุณที่ติดดอยหุ้นคอมมอดิตี้ส์(น้ำมัน ถ่านหิน เคมี เกษตร ขนส่งทางเรือ)เอาไว้ เอาไงกับมันดี?

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์

ประธาน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

..............

เป็นปัจจัยที่2ต่อเนื่องจากเรื่องfund flow (เงินฝรั่งที่เข้ามาซื้อหุ้นไทย ซึ่งผมได้วิเคาะห์ไปก่อนหน้านี้แล้วเป็นปัจจัยแรก)

ก.เรื่องน้ำมันโลกนี่ผมนำเสนอไว้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า มันร่วงโลกาวินาศลงมานี้ ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ และผมตั้งข้อกังขาว่า อาการคล้ายๆปี2008 ที่ก็อาการแบบนี้ ที่สำคัญปี2008กับปีนี้ 2016 มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาเหมือนกัน เชิญอ่านตามลิ้งค์นี้ครับ

http://www.thailworld.blogspot.com/2016/01/blog-post.html

ผมคัดมาให้อ่านสำหรับคนที่เกียจคลิกลิ้งค์ไปอ่าน ด้านล่างนี้

ผมได้นำเสนอไปว่างี้นะครับว่า เรื่องราคาน้ำมันโลกที่ร่วงลงจาก100กว่าเหรียญเมื่อปีกลาย(นี่เอง)ลงมาแถวๆ30เหรียญ+/-นี่ มันธรรมชาติที่ไหน!?...มันบ้าครับ พูดตรงๆ

หมายถึงถ้าเรายังมีสติปัญญาสมประกอบ เป็นRational Manเราต้องรู้ว่ามันบ้า มันอธิบายด้วยหลักเหตุผลยาก แม้จะลากตำราเศรษฐศาสตร์ว่าด้วยอุปสงค์-อุปทานเข้ามาอธิบายเป็นฉากๆ...ประทานโทษ คุณเชื่อเรื่องที่ตัวเองอธิบายเหรอครับ...ถาม?

ผมอธิบายแบบบ้านๆนี่แหละ เหมือนที่ได้อธิบายมาก่อนหน้านี้แล้วคือ

1.น้ำมันลงมาแถว30$นี่ถือว่าเขตBottom Lineแล้วครับ ให้ดูในชาร์ตนี้หละครับ เขตแถวๆนี้มันเป็นฐานของน้ำมันโลกแล้ว และถึงจะลงไปอีกก็คือ25หรือ20$ แล้วยังไง Who care? ก็ในเมื่อมันลงมาจาก110$ แสดงว่าDownSideRiskมากๆแล้วครับ...โธ่จะลงอีก5เหรียญ 10เหรียญก็ลงไปเหอะ...หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว

2.ผมเสนอไปว่าการที่น้ำมันแพงหรือถูกนั้น ไม่ใช่่เรื่องDemand vs Supplyเป็นหลักที่อ้างๆกันหรอกครับ แต่ขึ้นกับเฮดจ์ฟันด์ หรือกองทุนเก็งกำไรในนิวยอร์กที่ลากขึ้น ทุบลงหากำไร เป็นหลักครับ

ไม่งั้้นอย่างรอบก่อนตอนปี2008ต่อช่วงปี2009 ราคาน้ำมันโลกมันจะตกมาจาก147$ลงมา33$ได้ไงภายในแค่6เดือน...บ้าแล้ว หละครับ จู่ๆน้ำมันท่วมโลกขึ้นมา แล้วโรงงานร้านค้าอุตสาหกรรมก็มีปริมาณความต้องการหดวูบลง2-3เท่าตัวงั้นหละสิ...มันไม่ใช่ คุณก็รู้ ผมก็รู้ ใครมันก็รู้

แบบนี้มันคือเก็งกำไรครับ....ดังนั้น เที่ยวนี้ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ..มันไม่ใช่ว่าOPECพากันเพิ่มกำลังผลิตจนล้นโลก แล้วเมืองจีนก็ปิดโรงงานไปซะหมด รถตอนนี้ก็ใช้ไฟฟ้ากันหมดแล้วซะที่ไหน

เอ่อ..ผมหันมาดูปฏิทินก็เจอเรื่องเหมือน"บังเอิญ"อยู่เรื่องนึง คือตอนตกใหญ่ปี2008จาก147ลงมา33$นั้น ปีนั้นมีเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกานะครับ มาปีนี้2016ก็มีเลือกตั้งประธานาธิบดีเมกาเหมือนกัน

ผมก็เลยแค่สงสัยเล่นๆนี่แหละว่า พวกคงจะมาShortน้ำมันหาทุนไปรณรงค์เลือกตั้ง(เหมือนเดิม)นั่นแหละมั้ง เพราะกลุ่มทุนน้ำมัน(ซึ่งเวลานี้ไม่ใช่เจ้าของบ่อน้ำมันTEXASแล้วหละ แต่ใส่สูทผูกไทอิแทเลี่ยนโก้อยู่ในนิวยอร์ก)นี่คือสปอนเซอร์รายใหญ่ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีครับ ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่าแคมเปญเลือกตั้่งนี้ใช้่เงินยังกับกระดาษ

ดังนั้นการที่พี่เทพ โชว์ป๋าควักปันผล โดยเอากำไรสะสมมาจ่าย ทั้งที่เวลานี้ตูดขาดติดลบ3หมื่นล้าน นับว่าได้ใจผมจริงๆ...ผมว่าพี่เทพเขามองออกครับ...

แหม่...พ้นเทศกาลช็อตน้ำมันไปแล้ว เดี๋ยวพวกเฮดจ์ฟันด์มันก็กลับมาCoverShortครับ

ข.แล้วยังไงต่อ?

-ผมคิดว่าน้ำมันโลกอาจbottom outไปแล้วแถวๆ25$ที่ลงไป ตอนนี้ก็รอผ่านแนวต้านDowntrend เขต36$(ล่าสุดเมื่อคืนวันศุกร์ที่3ปิดที่36.29)ก็จะส่งผลให้ยืนยันกลับทางเป็นขึ้น เป้าหมายก็จะขึ้นไปตั้งแต่ 57 หรือ 67 หรือ 77$ในปีนี้ครับ ไกลๆก็กลับไปเหนือ100$อีกที

เรื่องdemand & supplyก็จะเป็นข้ออ้างเหมือนเคยนั่นแหละครับ เรื่องจริงคือเฮดจ์ฟันด์ฝรั่งมันจะซื้อคืนเพื่อไปส่งมอบ(Cover Short) หลังจากที่ทำShort sellทำกำไรขาลงมาเหมาปีแล้ว...เงินไปไหน? ก็ไปเป็นสปอนเซอร์ให้ท่านว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ จะฮิลลารี่ หรือ ทรัมพ์ ก็ตามใจอเมริกันชน(ประชาธิปไตยจงเจริญ ทุนนิยมจงเจริญ เฮดจ์ฟันด์จงเจริญ!!!)

ถ้าเป็นไปดังว่านี้น้ำมันก็จะกลับส่วัฏจักรขาขึ้นอีกรอบ พวกสินค้าโภคภัณฑ์ประดามีที่เกี่ยวเนื่อง(น้ำมัน โรงกลั่น ปิโตรเคมี ถ่านหิน สินค้าการเกษตร ข้าว อ้อย ยาง น้ำตาล และขนส่งทางเรือ)ก็จะพาเหรดขึ้นตามครับ

หุ้นทีเด็ดประเภทชั่ว 7 ทีดีเจ็ดหน ( Cyclical Stock ) หรือหุ้นวัฏจักร นี่เป็นหุ้นทีเด็ดอีกประเภท หากเข้าถูกช่วงถูกจังหวะก็รวยสะดือปลิ้นหละครับ

หุ้นพวกนี้มักจะทำธุรกิจที่เรียกกันว่าสินค้าโภคภัณฑ์ ( Commodity ) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีรอบวัฏจักรของราคาเป็นแนวโน้ม อันขึ้นอยู่กับภาวะอุปสงค์-อุปทาน( Demand – Supply ) ในตลาดโลกประกอบอันได้แก่กิจการอย่างเช่น น้ำมัน ปิโตรเคมี พลาสติก ถ่านหิน สินค้าการเกษตรอย่าง ยางพารา อ้อยและน้ำตาล ถั่วเหลือง ปาล์ม ข้าว การเดินเรือ

เวลาที่มี Demand ในตลาดโลกมาก ๆ แต่การผลิตเป็นไปอย่างจำกัดก็จะส่งผลให้ราคาสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทที่ทำกิจการค้าพวกนี้โกยรายได้ฟันกำไรเพิ่มพรวด ๆ ก็แน่นอนว่าจะส่งผลให้ราคาหุ้นในกระดานทะยานขึ้นแบบหลายช่วงตัว โดยระยะเวลาในช่วงรอบของขาขึ้นนี้ก็กินเวลานานพอสมควร คือเป็นหลายปีครับ เราก็จะได้เห็นราคาหุ้นพวกนี้ขึ้นกันแบบจ้ำพรวด ๆ

ยกตัวอย่างเมื่อก่อนปี พ.ศ. 2550 เศรษฐกิจอเมริกาเริ่มแย่ ทำให้เงินทุนไหลออกทะลักไปเข้าประเทศจีนกับอินเดีย ซึ่งฉวยจังหวะเร่งพัฒนาประเทศทั้งด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม ทำให้มีความต้องการใช้ถ่านหินทะยานสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นถ่านหินเหมือนบ้านปู ( BANPU ) ปรับตัวขึ้นจากราคาไม่ถึง 100 จ้ำพรวดผ่าน 100 ขึ้นไป 2-300 ไปแตะ 500 ก็นึกว่าแพงเต็มที แต่หยุดไม่อยู่ครับ ทะลวงผ่านด่าน 500 ขึ้นไป 700 เกือบ 800 มาได้แรงเชียร์นักวิเคราะห์โบรกเกอร์ฝรั่งอีกว่าจะไป 1,200 บาทต่อหุ้น... ( หยุดไว้แค่นี้ก่อนนะครับ แต่ตอนจบไม่สวยตามแรงเชียร์หรอกครับ )

ช่วงเดียวกันนั้นราคาสินค้าปิโตรเคมีเป็นขาขึ้น จากอิทธิพลของความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีน-อินเดีย ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทที่มีการลงทุนด้านปิโตรเคมีอยู่ทุกทั่วมุมโลกอย่างบริษัท IVL ขึ้นจากราคาไม่ถึง 5 บาท ขึ้นไปเรื่อย ๆ ขึ้นไปสูงสุด 61 บาท ครับ

ในเวลานั้นราคาน้ำมันขึ้นจาก 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลขึ้นไปเฉียดๆ 150 เหรียญฯ ส่งผลให้ยางเทียมทะยานพรวด ๆ มีผลพลอยให้ยางแท้ขึ้นจากโลละ 20 ขึ้นไปเฉียด 200 บาทต่อโล ราคาหุ้นบริษัทยางพาราอย่างศรีตรังอะโกร (STA) ขึ้นจาก 2-3 บาท ไปสูงสุด 41 บาท

หลังจากถ่านหินขึ้น ปิโตรเคมีขึ้น น้ำมันขึ้น สินค้าเกษตรขึ้น พอขึ้นไปสุด ๆ ในรอบวัฏจักรขาขึ้น ในจุด ๆ หนึ่งภาวะอุปทานล้นเกิน ( Over Supply ) ก็จะตามมาหละครับ เพราะชาวสวนเห็นยางพาราขึ้นดีเหลือหลาย ก็โหมขยายพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ จากปักษ์ใต้บ้านเรา ก็ขยายขึ้นเหนือ อีสาน ข้ามฟากไปลาว พม่า เขมร

ในขณะที่เมืองจีน อินเดีย รัฐบาล 2 ประเทศกลับลำนโยบายจำกัดควบคุมการขยายตัวเศรษฐกิจเพราะกลัวฟองสบู่แตก ปริมาณความต้องการนำเข้าถ่านหินไม่ขยาย แต่หยุดนิ่ง และค่อย ๆ ลดลง ตามมาด้วยปิโตรเคมี น้ำมัน สินค้าเกษตร

ในเมื่อ Demand หด แต่ยอดผลิต Over supply ยอดขายก็ต้องลดลง กำไรวูบลง ส่วนต่างของ Margin หดแคบลง คราวนี้ก็เข้าช่วงขาลงของหุ้นถ่านหิน BANPU หุ้นปิโตรเคมี IVL หุ้นยางพารา STA พวกที่เคยขนส่งทางเรืออย่าง PSL TTA พลอยลงตามครับ ขาลงเที่ยวล่าสุดจากปลายปี 2553 มาถึงปี 2558 คือ 5 ปีเข้าไป หุ้น BANPU ร่วงจาก 800 มาถึง 220 บาท หุ้น IVL ร่วงจาก 61 มาแถว ๆ 15 ส่วน STA รูดจาก 41 ลงมาเขต 12 บาท ครับ

แล้วแบบนี้จะถือว่าเป็นหุ้นทีเด็ดได้อย่างไร ?

ได้สิครับ หากคุณจับทิศจับทางรอบวัฏจักรได้ถูก หากคุณจับสัญญาณได้ว่า รอบวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์มาถึงแล้ว และการณ์น่าจะดำเนินไปโน่นแหละ

5 หรือ 10 ปีข้างหน้า คุณก็หาหุ้นพวกนี้เข้าพอร์ตไว้นะครับ แล้วก็ถือไว้ หรือซื้อเพิ่มตราบเท่าที่ยังเป็นรอบวัฏจักรขาขึ้น (หุ้นพวกนี้จึงพึงหลีกเลี่ยง 3 อย่างในรอบขาขึ้น คือ

1. อย่าเล่นสั้นเกินไป เพราะจะเจอปัญหาขายหมู แล้วต้องไปซื้อควายในราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ บางคราวไม่กล้าตาม เพราะแพงจากราคาที่ขายไปมากเกิน ก็เจอปัญหาตกรถอีก

2. อย่าถือยาวเกินไปจนถือลืม เนื่องจากว่าเมื่อสิ้นสุดวัฏจักรขาขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็น ขาลงที่มันไม่ได้ลงทีละขั้นบันไดนะครับ แต่มันลงลิฟต์ครับ ลงพรวด ๆ

3. ห้ามถือและห้ามซื้อสะสม ซื้อเฉลี่ยในช่วงขาลง เพราะมันลงลิฟต์ ยิ่งซื้อเพิ่ม ซื้อเฉลี่ยยิ่งเจอปัญหาติดหุ้นขาดทุนหนักบักโกรก )

เรื่องนี้ผมแนะนำให้ใช้วิชาความรู้ในเรื่องกราฟเทคนิค ( ง่ายนิดเดียว ) ที่จะว่าในบทต่อไปมาประกอบด้วย จะช่วยให้ทำกำไรได้มาก ลดความสูญเสียจากรอบวัฏจักรขาลงได้ครับ

แต่หากทำผิดทิศผิดทาง หุ้นวัฏจักรจะพาจนนะครับ คือช่วง ดี 7 หน ( หรือรอบวัฏจักรขาขึ้น คุณได้ไม่คุ้ม ทั้งตกรถ ขายหมูซื้อควาย ปล่อยแล้ววิ่งขึ้นยาว ) แทนที่คุณจะกำไรก้อนโต เข้าซื้อเต็มพอร์ต ถือไว้ในรอบวัฏจักรขาขึ้น ให้กำไรในพอร์ตงอกงาม และขายเกลี้ยงพอร์ตเมื่อจบวัฏจักรขาขึ้น แต่คุณหลงทิศผิดทางไปซื้อไว้ในรอบวัฏจักรขาลง ที่เป็นยามชั่ว 7 หน แถมพอติดหุ้นแล้วก็ยังไปซื้อเฉลี่ยไว้หลายช่วงราคา หุ้นก็ลงมาเรื่อย ๆ 5-6 ปี จนคุณทนรับภาระขาดทุนไม่ไหว เมื่อพอร์ตติดลบในระดับเกิน 50 % ขายทิ้ง ก็พอดีมันสิ้นสุดรอบวัฏวัจรขาลงพอดี จะเปลี่ยนทางเป็นขาขึ้นอีกรอบ แบบนี้คุณเจ็บหนักมาก ครับ

ผมดู ๆ แล้วนะครับ เศรษฐกิจอเมริกาคงกลับมาฟื้นตัว ยุโรปฝีแตกไปแล้ว จีนก็คงมีเสถียรภาพห่างจากฟองสบู่แล้ว ผมว่าในปี 2559 หุ้นโภคภัณฑ์น่าจะเจอ Bottom Line หรือท้าย ๆ ของรอบวัฏจักรขาลง ตอนนี้ก็รอสัญญาณรอบขาขึ้นจะมา โอกาสกำลังเปิดใหม่ ครับ ! ข่าวดีครับ

ชาร์ตอื่นๆที่เกี่ยวข้องเป็นหุ้นรายตัวของพวกคอมมอดิตี้ส์ ก็ลองส่องดูกันครับ

ผมสรุปสั้นๆว่านี่อาจเป็นโอกาสที่บรรดาชาวดอยจะได้มีโอกาสลงจากดอยนะครับในปีนี้ ด้วยการ1.นั่งอยู่เฉยๆ อย่าผิดทางขายทิ้งตอนมันเริ่มขึ้นก็แล้วกัน 2.ซื้อเฉลี่ยขาขึ้น

ถ้าใครอยากเอาจริงเอาจังกับการแก้พอร์ตยอดดอยหุ้นคอมมอดิตี้ส์ หรืออยากรวยรอบใหญ่ให้สะดือปลิ้น มาคุยกับผมครับ ...............

ช้าไม่ทันการณ์ นานตกรถด่วนขบวนหุ้นเด่น ที่เพิ่งจะเคลื่อนออกจากสถานี ตัดสินใจสมัครสมาชิกเดี๋ยวนี้ ผ่านid LINE : tontancorp หรือโทร 097-098-6000 กับผลงานที่พิสูจน์มาแล้วว่า"เป๊ะ"อย่างแรง

 นี่เป็นหุ้นเด่นที่แนะนำสมาชิกลูกค้าในห้องกรุ๊ปไลน์"คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ"ให้เข้าช้อนซื้อลงทุนเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์24มิถุนายนที่ผ่านมา ตอนที่ตลาดกำลังลงแบบPanic sellอย่างหนัก แลัะทำให้เราไดเ้ช้อนซื้อของถูกมากๆในวันเวลานั้น

หรือแม้แต่นำไปใช้เป็นสูตรทีเด็ดในการแก้ไขพอร์ตที่เสียหายให้กลับมากำไร ด้วยสูตรลับเฉพาะของอาจารย์ณัฐวุฒิ ที่สมาชิกของเราพิสูจน์เห็นผลมาแล้ว(ตามภาพประกอบ)

ช้าไม่ทันการณ์ นานตกรถด่วนขบวนหุ้นเด่น

ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกกรุ๊ปไลน์คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ ตอนนี้ รับทันที 4+2 หุ้นเด่นเล่นให้รวย ด้วยสูตรความเสี่ยงต่ำกำไรงาม เพื่อจะได้เข้าซื้อได้ทันการณ์ ในราคาที่ยังไม่วิ่งไปไกล ได้ลงทุนก่อนตั้งแต่ต้นมือ โอกาสรวยมากกว่าใคร

พิสูจน์ความแม่นยำเฉียบคมตรงเป้าของเราได้ด้วยตัวท่านเอง สมัครสมาชิกรับหุ้นเด่นเล่นให้รวยได้แล้วตอนนี้ เพื่อพิสูจน์ความเพะ และรับทันทีหุ้นเด่นเล่นให้รวยครึ่งปีหลัง ตัดสินใจให้ทัน ก่อนจะตกรถ ไม่ทันขบวน

สมัครสมาชิกง่ายๆผ่านid LINE : tontancorp หรือโทร 097-098-6000

บริการที่ท่านสมาชิกจะได้รับจากอาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ และทีมงานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด มีดังนี้

1.ฟันธงทิศทางตลาดหุ้น ก่อนเปิดตลาดภาคเช้า, ก่อนเปิดตลาดภาคบ่าย, ก่อนปิดตลาด ขึ้น หรือ ลง และกลยุทธ์ชัดๆ ซื้อ, ถือ หรือ ขาย

2.แนะนำ 2+4 หุ้นเด่นเล่นให้รวยในสูตร ความเสี่ยงต่ำ กำไรงาม (Low Risk, High Return)
ที่ชัดเจนทั้งเป้าซื้อ เป้าขาย เป้าหมายกำไรผลตอบแทน เวลาที่เข้าซื้อ-เวลาขายทำกำไร และจุด Cut เพื่อจำกัดผลขาดทุน เลี่ยงการติดหุ้น

3.เกาะติดข่าวเด่นประเด็นร้อน หุ้นฮ็อตให้ท่านรู้ลึกเกินใคร ชี้เป้าให้ท่านตัดสินใจไม่พลาดช่วยบริหารวิกฤตการณ์และความเสี่ยงด้วยสูตร Creative Destruction Model ที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว

4.เสริมทัพติวเข้มวิธีการเทรดแบบ Trend Following System ด้วยการใช้กราฟเข้าออกแม่นเพะ กับบทเรียนออนไลน์ผ่าน Youtube โหลดโปรแกรมกราฟไปให้ทดลองใช้ ฟรี ที่บ้าน ทำให้กำไรดีขึ้น แก้ปัญหาติดหุ้น ขายหมู ตกรถ ติดดอยซ้ำซากได้เด็ดขาด

รับบริการง่ายๆ เพียงท่านมีLINE และFacebook เมื่อท่านสมัครเรียนจะถูกเชิญเข้า “ Group LINE คลุกหุ้นวงใน Byณัฐวุฒิ ” และ กลุ่มปิดทาง Facebook “ คลุกหุ้นวงใน By ณัฐวุฒิ ”

สิทธิพิเศษ : เรียนออนไลน์ ฟรี

1.ได้เรียนออนไลน์ ตามอายุสมาชิก มูลค่า 4,000-12,000.-บาท ทาง Group Line “ บันได 3 ขั้นปั้นเซียนหุ้น By ณัฐวุฒิ ” และ กลุ่มปิดทาง Facebook "

2.ได้ไฟล์เอกสารประกอบการฝึกอบรม และ ไฟล์คู่มือต่างๆ รวม 7 รายการ โดยดาวน์โหลดไฟล์ได้จากกลุ่มปิดทาง Facebook

3.ได้โหลดโปรแกรมกราฟวิเคราะห์หุ้นให้ไปใช้งานที่บ้าน ฟรี 15 วัน

สมัครสมาชิกง่ายๆ และเข้าร่วมเป็นสมาชิกทันทีตั้งแต่ตอนนี้

วิธีการสมัครสมาชิก

1. ชำระเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนรามคำแหง 151 เข้าบัญชี เลขที่ 735-2-38116-5 ชื่อบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

2. แจ้งชื่อ สกุล เบอร์มือถือ ID LINE ชื่อLINE ชื่อFacebook E-Mail พร้อมแนบหลักฐานการชำระเงินของท่านมาที่ LINE ID : tontancorp

PROMOTION : ภายใน 30 มิถุนายน นี้
>> สมาชิก 1 เดือน ราคาเต็ม 4,000.-บาท
>> สมาชิก 2 เดือน หรือ 2 ท่าน รับส่วนลด 800.-บาท เหลือ 7,200.-บาท จากราคาเต็ม 8,000.-บาท
>> สมาชิก 3 เดือน หรือ 3 ท่าน รับส่วนลด 2,040.-บาท เหลือ 9,960.-บาท ราคาเต็ม 12,000.-บาท

บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ก่อตั้งปีพศ.2540 ย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาการลงทุนแบบเป็นการทั่วไป (standard) และ เป็นการเฉพาะเจาะจง (VIP)* ภายใต้ใบอนุญาตของกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับและการส่งเสริมของสำนักงานกลต.

คำเตือน : การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนนำคำแนะนำนี้ไปใช้ ลูกค้าควรพิจารณาความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุน ฐานะการเงิน และระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ ผลงานคำแนะนำการลงทุนในอดีต ไม่อาจเป็นหลักประกันผลงานแนะนำในอนาคตได้

*ลูกค้าVIP หมายถึงบริการรับปรึกษาการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนสำหรับลูกค้าที่มีวงเงินลงทุน 20 ล้านบาทขึ้นไป