วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(3 พ.ย.):ไม่น่าไปเกิน1020จุด ยังอยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ หากรอดูผลFEDเรื่องQE2คืนนี้จะปลอดภัยกว่า


โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)

****************

1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดช่วงนี้-ตลาดยังรอข่าวสำคัญเรื่องQE2ในคืนนี้ ดังนั้นอย่าผลีผลาม เพราะข่าวดีกับข่าวร้ายมาเจอกัน อาทิตย์นี้ข่าวดี ต่อไปกังวลคดียุบพรรค กับฝรั่งขาย

-ดัชนีดาวโจนส์ เมื่อคืนปรับตัวเพิ่มขึ้น64จุด ปิดที่11188จุด ทั้งนี้มาจากคาดหมายของนักลงทุนต่อผลเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าพรรครีพับลิกันจะยึดเสียงข้างมากในสภาล่างมาจากเดโมแครต ของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่มีผลงานทางเศรษฐกิจอันไม่เป็นที่พึงพอใจ ส่งผลให้วอลล์สตรีท ปิดตัวในแดนบวก และจากความเชื่อว่าหลังเลือกตั้งเสร็จ ตลาดหุ้นจะrallyเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เลยชิงดักซื้อหุ้นไว้ก่อนล่วงหน้า

อย่างไรก็ดีประเด็นสำคัญที่สุดต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดทั่วโลกยังเป็นการเฝ้าคอยผลประชุมFEDคืนนี้ว่าจะใส่เงิรอัดฉีดชุดที่2( QE2)ดีกว่าหรือเป็นไปตามคาดการณ์ โดยผลสำรวจผจก.กองทุนเดือนพย.คาดเฟดจะประกาศอัดฉีด 4-6 แสนล้านดอลล์สหรัฐฯ โดยมีความเสี่ยงเท่ากันระหว่าง ผิดคาด กับ เป็นไปตามคาด(คือหากให้เท่านี้ก็อาจผิดหวังว่าให้น้อยแล้วหุ้นตก หรือถือว่าเป็นไปตาม ไม่มีอะไรตื่นเต้น แล้วก็หันไปอิงข่าวใหม่ๆ หรือผิดหวังที่ให้น้อยไปเลยตก)
-ตลาดหุ้นย่านเอเชียปรับตัวทรงๆเป็นส่วนใหญ่ในเช้านี้ เพื่อรอผลประชุมFEDคืนนี้

-ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นปิดเหนือ1000จุดได้ต่อเนื่องเป็นวันที่สองในวานนี้ แต่ต่างชาติขายออกมาอีกวัน566ล้านบาท เพราะยังรอดูปัจจัยต่างๆ รวมทั้งการทยอยขายทำกำไรก่อนสิ้นงวดบัญชีของต่างชาติ ซึ่งมักจะทำในช่วงเดือนพย.เนื่องจากไม่มีข่าวบวกใหม่ๆหนุนดัชนีฯปรับขึ้น เหมือน2เดือนที่ผ่านมา

-ส่วนปัจจัยลบ อาจจะเกิดความกังวลดังต่อไปนี้ 1.คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ในปลายเดือนนี้ อาจทำให้มีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน 2.ธปท.เตรียมออกมาตรการคุมฟองสบู่ในประเทศ

*ดาวโจนส์น่าได้ลุ้นขึ้นมาทดสอบพีคเก่า แต่ขึ้นกับQE2จะชี้ชะตา ปัญหาคือหากไม่ผ่านอาจตกปรับฐานแรง ขณะที่ดอลลาร์ใกล้จุดต่ำสุด ยังระวังอาจมีการขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์


ก.หากผ่านด่านนี้ได้ในสัปดาห์นี้ก็จะยังขึ้นต่อไป หนุนหุ้นทั่วโลกขึ้นตาม

ข.หากไม่ผ่าน และหรือลงหลุดแนวรับแถว11050 หรือ10940จุด ก็อาจลงแรง และฉุดหุ้นโลก รวมทั้งหุ้นไทยตกตาม (ดูสัญญาณmodified stochasticมีสัญญาณเชิงลบ หรือสัญญาณขายครับ เพราะ%kอยู่ต่ำกว่า%d)

สรุป-หากให้ปลอดภัย อาจรอดูดาวโจนส์เพิ่มเติมในคืนวันนี้ หลังทราบผลประชุมFEDแล้ว คือหากผ่านด่านแนวต้าน11260+/-ก็น่าไปต่อ หุ้นไทยจะขึ้นตาม ก็รอfollowเล่นทางขึ้น แต่หากไม่ผ่านและหรือหลุดแนวรับลงมาเสี่ยงจะตกแรง ก็ควรfollowเล่นทางลงตาม เพราะประเด็นหลักตอนนี้มีการรอดูผลประชุมFEDอยู่


ชาร์ตการซื้อขายของต่างชาติ-ตอนนี้ต่างชาติซื้อมาติดแนวต้านสำคัญด่านหนึ่ง ก็อาจเสี่ยงที่จะเปลี่ยนมาเล่นทางขายในระยะต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นผลทางลบต่อหุ้นไทย เพราะการเล่นทางซื้อหรือขายของนักลงทุนต่างชาติมักเป็นตัวชี้ทิศทางตลาดที่สำคัญมาตลอด

*ข้อสรุปและสมมุติฐานที่สำคัญ-ควรติดตามผลประชุมFEDว่าจะอัดฉีดเศรษฐกิจอเมริกาเท่าไร หากให้5แสนล้านดอลลาร์ จะเป็นข่าวร้ายฉุดดาวโจนส์ลง หุ้นไทยและหุ้นโลกลงตาม แต่หากให้เกินไปมากๆจะเป็นข่าวดีหนุนดาวโจนส์ขึ้น และหุ้นไทยหุ้นโลกขึ้นตาม

โดยยังเตือนให้เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เพราะหากค่าเงินดอลลาร์ทำจุดต่ำสุด(เขต76จุด+/-) และดาวโจนส์กำลังมาทดสอบจุดพีคเดิม(เขต11260จุด+/-)หากไม่ผ่าน ต่อไปอาจได้เห็นกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)ขายทำกำไรในตลาดหุ้นดาวโจนส์ และหุ้นทั่วโลก แล้วหันไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อการเก็งกำไร และอาจมีผลให้ตลาดหุ้นไทยตกพักฐานได้ จึงแนะนำว่าหากขึ้นมาบริเวณ1010-1013หรือไม่เกิน1020อาจต้องเจอขายทำกำไร ปรับฐานรุนแรงต่อไปได้

หากขึ้นไปไม่เกินด่านนี้น่าขายทำกำไรมากกว่าไล่ซื้อหุ้น

(เว้นแต่จะเห็นดาวโจนส์ผ่านด่านแนวต้าน และดอลลาร์ร่วงหลุดแนวรับ ก็จึงจะกลับมาเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย)

2.SETแนวต้าน1013-1020ควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง น่าขายช่วงวิ่งขึ้นแนวต้าน และรอดูความชัดเจน


ชาร์ตSETรายวัน-เด้งตัวขึ้นเมื่อวานนี้ตาม

-กรอบแนวรับ 1000-995จุด
-กรอบแนวต้าน ด่านแรก1008จุด ถัดไป1013 และหากดีเกินคาดจะไป1020จุด(แต่คาดว่าไม่น่าเกิน1013แล้วปรับฐานลงมากรอบ1010-1005จุด+/-) คาดว่าน่าจะพร้อมจะโดนขายสลับ เพื่อปรับลดภาวะover boughtที่ขึ้นมาแรงวานนี้ (กรณีที่สุดในรอบนี้ยังมองไปไม่เกิน1020จุด)

กลยุทธ์-เนื่องจากยังไม่ชัดเจนเรื่องQE2 ต้องรอผลประชุมFEDต่อในคืนนี้ชี้ขาดก่อน ขณะที่ปัจจัยลบการเมืองเรื่องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์อาจเข้ามากวน และเป็นไปได้มากขึ้นว่าฝรั่งน่าจะหันมาเล่นทางขาย ดังนั้นจึงแนะนำให้”ขายทำกำไรช่วงที่rallyขึ้น”มากกว่าที่จะตามแห่ไล่ราคา หากจะช้อนซื้อ ก็รอช่วงตกปรับฐาน จะปลอดภัยกว่า



3.SET50 ทดสอบแนวต้าน695-699 หากผ่านจะขึ้นไป705-710 แต่หากไม่ผ่านเสี่ยงลงไป675-680 หรือลึกๆ673จุด




ชาร์ตที่4:SET50รายสัปดาห์ จะพบว่า หลังจากสัปดาห์ก่อนลงมาใกล้support lineที่เป็นแนวรับหลัก670+/- (โดยลงมาที่672จุด) ก็ฟื้นตัวขึ้นแรง และเมื่อวานมาปิดที่กรอบแนวต้านบน หรือdowntrend lineบริเวณ695จุด+/-พอดี

ข้อพิจารณาคือหากในสัปดาห์นี้หากสามารถตีด่านแนวต้านบนเขต695 หรือพีคเก่า699.60แตก ก็จะมีโอกาสขึ้นไปด่านถัดไป707-710จุด

แต่หากไม่ผ่านด่าน695 หรือพีคเก่า699.60ก็เสี่ยงตกปรับฐานลงไป690ต้นๆหรือ ลึกๆ680 หรือต่ำกว่า(เช่น675จุด+/-ได้)

คำแนะนำ-ขายที่แนวต้าน700ไม่เกิน707 และรอช้อนซื้อแนวรับ690-695(แต่ให้ชัวร์ก็ต้องรอดูผลประชุมQE2คืนนี้ก่อน)


*****
เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า วันนี้เรื่อง "BANPU PTT และหุ้นแบงก์น่าช้อนราคาไหน TCCจะไปยาวเท่าไหร่" ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น