วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(5 พ.ย.):เป้าหมายrallyรอบใหญ่ และหุ้นเป้าหมายเล่นรอบกระทิง,SET50ควรstop lossหากมีสถานะขาย แล้วมาอยู่สถานะซื้อแทน เป้าอาจไป800-850จุด




โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)

****************


1.ดาวโจนส์ตีด่านพีคเก่าแตก หลังFEDอัดฉีดQE2จำนวน6แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่5แสนล้านดอลลาร์ เป้าต่อไป11,800-12000จุด คาดฉุดกระชากหุ้นทั้งโลกขึ้นตาม

-ดัชนีดาวโจนส์ เมื่อคืนนี้เหวี่ยงขึ้นตีด่านพีคเก่าช่วงเดือนเมษายนที่ทำไว้11,258จุด แตก แล้วrallyขึ้นแรง ปิดที่11,434จุด +219จุด หรือ+1.96% เป็นผลพวงจากFEDอัดฉีดเงินหนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ(QE2)จำนวน 6 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดหมายเอาไว้ที่ 5 แสนล้านดอลลาร์

ชาร์ตที่1ดาวโจนส์:หลังตีแตกด่านพีคเก่า11,258จุด ซึ่งมีรูปแบบราคาหัวและไหล่(head & shoulders) คาดว่าระยะกลาง คือเป็นเดือน หรือหลายเดือนต่อจากนี้น่าจะขึ้นไปต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านเป้าหมายแรก11,800ถัดไป12,000 เป้าหมายใหญ่12,900จุด+/-

ชาร์ตที่2ฮ่องกง:ซึ่งเป็นตลาดที่มีอิทธิพลต่อจิทวิทยาของตลาดหุ้นไทย กำลังมาทดสอบแนวต้านเทคนิคสำคัญบริเวณ24,450-24,750จุด หากผ่านก็จะrallyต่อไปเขต26,000จุด เป้าหมายใหญ่27,000จุด+/- ซึ่งหากตีด่านนี้แตกน่าจะดึงตลาดหุ้นไทยขึ้นได้ต่อไป


ชาร์ตที่3ดัชนีค่าเงินดอลลาร์:ตอนนี้ลงมาใกล้support lineหลักบริเวณ75-76จุด ยังเป็นปัจจัยเฝ้าระวังต่อไป เพราะหากยืนเหนือด่านนี้ได้แล้วเด้งคืน ก็แปลว่าอาจยังเสี่ยงที่ต่างชาติจะขายทำกำไรในตลาดหุ้นแล้วมาช้อนซื้อเก็งกำไรค่าเงืนดอลลาร์(ซึ่งจะเป็นผลให้ต่างชาติขายหุ้นทั่วโลกรวมทั้งหุ้นไทย) แต่หากอ่อนค่าขึ้นต่อเนื่อง หรือซึมอยู่แถวนี้ หุ้นและทองคำขึ้นต่อก็พอสบายใจได้ว่า หุ้นไทยยังจะไปต่อ


ชาร์ตที่4 ดัชนีการซื้อขายหุ้นไทยของต่างชาติ:ต่างชาติซื้อหุ้นไทยมาทดสอบแนวต้านอีกด่าน ทำท่าเหมือนจะชรนะ หากยังซื้อต่อในช่วงนี้แล้วผ่านด่านนี้ แปลว่ายังจะซื้ออีกมาก อย่างน้อยราวๆ10000ล้านบาท อย่างมากอาจเป็น40000ล้านบาท

ปัจจัยหนุนอื่นๆ คือการที่จะมีเม็ดเงินใหม่จากการซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนLTFเข้ามาช่วงปลายปี นอกเหนือจากเม็ดเงินต่างประเทศยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง

-ส่วนปัจจัยลบ อาจจะเกิดความกังวลดังต่อไปนี้ 1.การที่ศาลสั่งให้ส.ส.ที่ซื้อหุ้นต้องห้ามพ้นตำแหน่ง6คน ทำให้เสถียรภาพรัฐบาลอ่อนแอลง เพราะเสียงสนับสนุนหายไป 2.คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ในปลายเดือนนี้ อาจทำให้มีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน หรือช่วงปลายเดือนนี้ 3.ธปท.ทยอยออกมาตรการคุมฟองสบู่ในประเทศ ล่าสุดคุมเข้มการปล่อยกู้ซื้อคอนโดฯ

สรุป-ดาวโจนส์ และฮ่องกงน่าจะrallyไปอีกไกล ดังนั้นควรเน้นการfollowเล่นทางขึ้น หากมีสถานะขายอยู่ ควรเปลี่ยนสถานะมาอยู่ฝั่งซื้อ เพื่ออิงการเล่นขาขึ้น โดยอาจไปขายในช่วงก่อนการรู้ผลคดียุบหรือไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้

2.SETแนวต้านเป้าหมายของsuper bullish


ชาร์ตที่5SETรายสัปดาห์-เราเคยทำนายไว้ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่าหากดัชนีSETขึ้นผ่านแนวต้านพีคเดิม ในรูปหัวและไหล่ขนาดใหญ่บริเวณ925จุด ดัชนีSETจะมีเป้าหมายขึ้นไม่ใช่แค่1,000จุด แต่จะเป็น1,100จุด กรณีดีมากๆในรูปแบบหัวและไหล่(head & sholders bottom)แบบนี้อาจไปได้ถึง1,470จุดในระยะกลาง คือหลายเดือนนับจากนี้


อย่างไรก็ตามช่วงที่SETขึ้นมาในระดับ1,000-1,020จุด ซึ่งเป็นแนวต้านด่านหนึ่งทางเทคนิค เราได้ปรับคำแนะนำให้”ขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง”จากการพิจารณาเรื่องเงินทุนไหลเข้า,ค่าเงินดอลลาร์,ดาวโจนส์ที่เสี่ยงจะเกิดการตกปรับฐาน และนโยบายของFED

แต่ตอนนี้เกิดความชัดเจนดังที่กล่าวไปในข้อ 1 แล้ว และชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อดัชนีSETผ่านด่านแนวต้านบริเวณ1000-1020จุดขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว เราจึงปรับการคาดการณ์แนวโน้มของSETกลับไปสู่แนวโน้มหลักที่ทำนายเอาไว้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือภาพใหญ่ของตลาดหุ้นจะเป็นsuper bullishต่อเนื่องต่อไปในระยะเป็นเดือน หรือหลายเดือนต่อจากนี้

โดยยังคงกรอบประมาณการณ์ตามเดิมดังนี้

*แนวต้านย่อยด่านแรก1050-1055จุด เมื่อชนด่านนี้อาจจะพักฐานลงมา ไม่ลึกกว่า1020-1025แล้วปรับตัวขึ้นผ่านด่าน10506/-

*ด่านถัดไป1100-1130จุด จากนั้นโดนขายทำกำไรสลับ และพักฐานลงมาไม่ลึกกว่า1100หรือ1050แล้วขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านเป้าหมายต่อไป
*ด่านถัดไป1200 แล้วพักยกลงมาไม่ลึกกว่า1150-1130แล้วขึ้นต่อ
*ด่านถัดไป1300จุด+/-แล้วพักฐานลงไม่ลึกกว่า1200
*ด่านเป้าหมายสุดท้าย1470จุด(อาจเห็นในปีหน้า2554)แล้วเกิดการตกปรับฐานครั้งใหญ่


ชาร์ตที่6 ดัชนีหุ้นรายวัน-วันนี้มีกรอบแนวรับ1025-1020 แนวต้านแรก1032-1035 หากผ่านจะขึ้นไปด่านถัดไปคือ1039ถัดไป10145 กรณีดีสุดอาจเป็น1050-1058จุด

กลยุทธ์-หันกลับมาเล่นอิงทางขึ้น โดยอาจเข้าfollowหุ้นในกลุ่มแบงก์ ที่เด่นคือ BBL KBANK SCB KTB นอกจากนั้นยังแนะนำให้ถือหุ้นPTTAR PTT เป็นต้น

3.SET50 เป้าหมายขึ้นต่อไป830-850 ระยะกลาง1100จุด เปลี่ยนสถานะมาอยู่ทางขาขึ้น

ชาร์ตที่7:ดัชนีSET50 ผ่านด่านแนวต้านรูปแบบhead & shoulders bottomบริเวณ688จุดขึ้นมาปิดที่718 จะมีเป้าหมายขึ้นไปในระยะเป็นเดือนเขต800-850จุด ภาพระยะกลางหลายเดือนขึ้นไปมีเป้าหมายเขต1115จุด


ชาร์ตที่8:SET50ล่วงหน้ารายสัปดาห์ จะพบว่า เมื่อวานผ่านแนวต้านด่านแรกคือ706-711แล้ววิ่งขึ้นมาทดสอบแนวจ้านด่านสองบริเวณ723-727 หากไม่ผ่านก็อาจตกปรับฐานลงมาเขต 715-710จุด แล้วฟอร์มตัวขึ้น

*หากผ่านด่าน723-727 จะไปต่อด่านที่สามคือบริเวณ 735-740 หรือ745

*แนวต้านด่านเป้าหมายใหญ่น่าจะเป็น 770-780จุด

คำแนะนำ-ปรับคำแนะนำให้มาอยู่ในสถานะซื้อ หากมีสถานะขาย แนะนำให้หาโอกาสลดความเสี่ยง ด้วยการstop loss ขายตัดขาดทุน เช่น จังหวะปรับฐานลงมาแถว723 หรือ715-710 แล้วเปลี่ยนมาอยู่สถานะซื้อ เมื่อขึ้นไปเขต735-745ก็น่าจะcover lossได้ และหากขึ้นไปเป้าหมายใหญ่770-780จุด ก็จะเป็นกำไรล้างขาดทุนได้หมด
*****
เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า วันนี้เรื่อง "BANPU PTT และหุ้นแบงก์น่าช้อนราคาไหน TCCจะไปยาวเท่าไหร่" ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น