ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:วิกฤตTrade Warมีผลลบต่อตลาดหุ้นไทยขนาดไหน และต้องรับมืออย่างไรในเวลานี้?
By ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ใบอนุญาตเลขที่ 012888 บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น ( ก่อตั้ง พศ.2540 ใบอนุญาตกระทรวงการคลัง ) 8 เมษายน 2568 เวลา11.45 1.ตลาดหุ้นไทยตกมาก่อนตลาดหุ้นอื่นๆในโลกแล้ว โดยลงมาต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว หากนับจากจุดสูงสุด1718จุด มาถึงเวลานี้ที่ดัชนีตกมาเขต1055จุด ก็เท่ากับลงมามากกว่า38% นับแต่ก่อตั้งมา 50 ปี ตลาดหุ้นไทยเคยเผชิญวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญมารวม 12 ครั้ง ภาวะตลาดหมีจากวิกฤตนั้นหุ้นตกระหว่าง25%ถึง92% เฉลี่ยแล้วภาวะตลาดหมีจะอยู่ที่-46% โดยมีข้อสังเกตว่า หากเป็นภาวะตลาดหมีหนักในระดับกลางๆก็มักจะลงมาราวๆ30ถึง35% แต่หากเจอวิกฤตช็อกโลกก็มักจะลงมาราวๆ60ถึง65% (ดูบทวิจัยของดร.มาร์ค โมเบียส https://www.markmobius.com/news-events/this-time-its-different-bear-markets-and-what-we-can-learn-from-history ) 2.หากนำโมเดลตลาดหุ้นยามวิกฤตมาประเมินการตกของตลาดรอบนี้ ก็จะพบว่า *ตลาดหุ้นโลกอาจจะผ่านช่วงระยะแรก คือภาวะPanic Sell *และตอนนี้อาจจะเข้าสู่ระยะช่วงที่ 2 คือซึมๆรอดูพัฒนาการของเหตุการณ์(ในช่วงนี้คือรอดูว่าในวันที่9นี้สหรัฐฯขึ้นกำแพงภาษีสงครามการค้าเลย และจีนก็ตอบโต้กันดุเดือดขึ้น หรือว่าจะมีการเจรจาหาทางรอมชอมกัน) *ต้องรอวิกฤตคลี่คลายก่อน หากเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ จึงจะเข้าสู่ช่วงระยะที่ 3 ฟื้นตัวกลับไปrecoverได้ แต่หากยังตอบโต้กันดุเดือดก็อาจวนลูปกลับไประยะที่1 (อ้างอิงจาก Creative Destruction Model และการนำไปประยุกต์ใช้กับวิกฤตการณ์ต่างๆที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้น https://thailworld.blogspot.com/2016/02/creative-destruction-model.html ) 3.เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเมื่อวาน(7เมษายน) หยุดชดเชย ทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตกPanic sellแรงถึงระดับ10%จนต้องหยุดซื้อขาย(เซอร์กิต เบรกเกอร์)แบบหลายตลาดในย่านเอเชีย ทางบอร์ดตลาดฯก็มีมาตรการห้ามขายชอร์ตชั่วคราว1สัปดาห์ กำหนดเพดานขาลงไม่เกิน15%(จากปกติ30%) ประกอบกับตลาดหุ้นอื่นๆก็เกิดการฟื้นตัวพอดีในวันนี้ ตลาดหุ้นไทยก็อาจจะตกไม่หนักมากเท่าตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ ข้อสรุปและข้อเสนอ-ดัชนีตลาดหุ้นไทยตกมามากกว่า38% และตกมาก่อนหน้าวิกฤตการณ์Trade War พอเกิดPanic sellเรื่องนี้ก็ตกซ้ำผสมโรง ซึ่งตอนนี้ตลาดทั่วโลกผาจผ่านพ้นช่วงPanic และกำลังติดตามประเมินข้อมูลข่าวสารและพัฒนาการสำคัญของเหตุการณ์ ซึ่งก็คงรู้ชัดเจนในวันสองวันนี้ว่า สงครามการค้าจะดุเดือดต่อไป หรือมีแนวทางเจรจารอมชอม ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นโลก และตลาดหุ้นไทยต่อไป จึงไม่ควรผลีผลามตัดสินใจในเวลานี้ครับ Source:ผมให้สัมภาษณ์รายการวิทยุเจาะหุ้น10โมงเช้า FM90.5MHz นาทีที่10เป็นต้นไปในคลิปนี้ https://www.facebook.com/SmartNewsFM90.5/videos/1396058148415515