วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(1 พ.ย.):ปรับฐานจบเขต980แล้วฟื้น หากผ่าน993น่าไป1000อีกยก ให้ดูเรื่องQE2 และเลือกตั้งกลางเทอมอเมริกาเป็นปัจจัยสำคัญ



โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)

****************

1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดช่วงนี้-มีความหวังทางบวกขึ้นว่าQE2อาจมากกว่าคาดการณ์,จับตาเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯหนุนดาวโจนส์ขึ้น

-ดัชนีดาวโจนส์อยู่ในช่วงพักตัว เมื่อวันศุกร์ปรับตัวขึ้นปิดบวกเล็กน้อยที่11118 +4.54จุด แต่เช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกไป75จุด

ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากมีข่าวเชิงลบด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เศรษฐกิจไตรมาส3ขยายตัวน้อยเพียง 2% ตัวเลขการจ้างงานยังสูง เลยทำให้มีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมFED(ที่จะเริ่มประชุมคืนนี้)อาจมีการเพิ่มวงเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ(QE2)จากเดิมเคยคาดการณ์ไว้ที่5แสนล้านดอลลาร์

แต่ประเด็นการอัดฉีดเม็ดเงินQE2 นักเศรษฐศาสตร์ยังมีกรอบประมาณการณ์ที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ 5 แสนล้าน ไปถึง 2ล้านล้านดอลล์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ตลาดก็จับตามองดูการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯในเดือนนี้ ซึ่งพบสถิติที่น่าสนใจก็คือ หลังการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ตลาดหุ้นอเมริกาจะrally หรือวิ่งขึ้นทุกครั้ง

ส่วนประเด็นอื่นๆ คือ รายงานเศรษฐกิจจีน-ดัชนีฝ่ายจัดซื้อ

-ตลาดหุ้นย่านเอเชียเช้านี้ ปรับตัวขึ้นในแดนบวก ในทิศทางเดียวกับดาวโจนส์ล่วงหน้า และอิงเรื่องการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนโดยหุ้นฮ่องกงเปิดบวกแรง270จุดหรือ1.17%น่าทำให้ตลาดหุ้นไทยเปิดบวกแรงไปด้วย
-ค่าเงินดอลลาร์แกว่งผันผวน เมื่อสัปดาห์ก่อนตกลงถึงเขตsupport lineสำคัญเขต~76จุด แล้วฟื้นตัวแข็งขึ้นไป 78.905 แต่แล้วก็อ่อนลงมาเขต76.87 เช้านี้แข็งขึ้นมาอยู่บริเวณ77.05จุด
ส่วนค่าเงินบาทเช้านี้แข็งขึ้นเล็กน้อยที่29.885บาท/ดอลลาร์ โดยที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ 279ล้านบาท หลังจากขายสุทธิมา 3 วันติดต่อกันก่อนหน้านั้น

*ดาวโจนส์น่าได้ลุ้นขึ้นมาทดสอบพีคเก่า แต่ขึ้นกับQE2จะชี้ชะตา ปัญหาคือหากไม่ผ่านอาจตกปรับฐานแรง ขณะที่ดอลลาร์ใกล้จุดต่ำสุด ยังระวังอาจมีการขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์ –ดัชนีดาวโจนส์ยังน่ามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านพีคเดิมบริเวณ11258จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ข้อพิจารณาคือ

ก.หากผ่านด่านนี้ได้ในสัปดาห์นี้ก็จะยังขึ้นต่อไป หนุนหุ้นทั่วโลกขึ้นตาม

ข.หากไม่ผ่าน และหรือลงหลุดแนวรับแถว10940จุด ก็อาจลงแรง และฉุดหุ้นโลก รวมทั้งหุ้ยไทยตกตาม

สรุป-หากให้ปลอดภัย อาจรอดูดาวโจนส์เพิ่มเติมในคืนวันนี้ คือหากผ่านด่านแนวต้านก็น่าไปต่อ หุ้นไทยจะขึ้นตาม ก็รอfollowเล่นทางขึ้น แต่หากไม่ผ่านและหรือหลุดแนวรับลงมาเสี่ยงจะตกแรง ก็ควรfollowเล่นทางลงตาม เพราะประเด็นหลักตอนนี้มีการรอดูผลประชุมFEDอยู่

ปัจจัยเสี่ยง-ดอลลาร์ถึงจุดต่ำสุดอาจฟื้นแรง ระวังบาทอ่อน ฝรั่งขายหุ้น-ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงมากระทั่งถึงเขตsupport lineขนาดใหญ่บริเวณ76จุด+/-แล้วฟื้นตัวขึ้น มีโอกาสมากขึ้นในเวลานี้ว่าอาจทำจุดbottom out(ต่ำสุด)ผ่านพ้นไปแล้ว และอาาจฟื้นขึ้นไป ระยะต่อไปมีเป้าหมายฟื้นตัว82จุด+/- (ดูที่ http://www.kitco.com/)

ส่วนปัจจัยหนุน-หากเม็ดเงินQE2มากกว่าคาดไว้ที่5แสนล้านดอลลาร์ อาจหนุนดาวโจนส์ตีด่านพีคเดิมแตกแล้วขึ้นไปอีกไกล(เป้าต่อไปหากผ่านพีคเดิมคือ11800จุด+/- ไปถึง12000จุด+/-)

*ข้อสรุปและสมมุติฐานที่สำคัญ-ควรติดตามผลประชุมFEDว่าจะอัดฉีดเศรษฐกิจอเมริกาเท่าไร หากให้5แสนล้านดอลลาร์ จะเป็นข่าวร้ายฉุดดาวโจนส์ลง หุ้นไทยและหุ้นโลกลงตาม แต่หากให้เกินไปมากๆจะเป็นข่าวดีหนุนดาวโจนส์ขึ้น และหุ้นไทยหุ้นโลกขึ้นตาม แล้วไปลุ้นหลังเลือกตั้งกลางเทอมอเมริกาจะหนุนขึ้นต่อไปอีก

แต่ยังเตือนให้เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เพราะหากค่าเงินดอลลาร์ทำจุดต่ำสุด(เขต76จุด+/-) และดาวโจนส์กำลังมาทดสอบจุดพีคเดิม(เขต11260จุด+/-)หากไม่ผ่าน ต่อไปอาจได้เห็นกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)ขายทำกำไรในตลาดหุ้นดาวโจนส์ และหุ้นทั่วโลก แล้วหันไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อการเก็งกำไร และอาจมีผลให้ตลาดหุ้นไทยที่กำลังทดสอบแนวต้านด่าน1000จุด+/-ต้องเจอขายทำกำไร ปรับฐานรุนแรงต่อไปได้

(เว้นแต่จะเห็นดาวโจนส์ผ่านด่านแนวต้าน และดอลลาร์ร่วงหลุดแนวรับ ก็จึงจะกลับมาเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย)

2.SETบริเวณ1000+/-ถือเป็นแนวต้านสำคัญด่านหนึ่งของภาพระยะกลาง ระยะสั้นหากขึ้นเขต1005ไม่เกิน1010อาจเจอขายสลับ ดังนั้นควรซื้อขายด้วยความระมัดระวัง อย่าเพลินเกินไปอาจติดดอยได้


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายเดือน ภาพระยะยาวของหุ้นไทย ดัชนีSET กำลังทดสอบแนวต้านทางเทคนิคสำคัญด้านหนึ่งบริเวณ996-1000จุด+/- หากผ่านจะได้ลุ้นการrallyต่อไปในระยะหลายเดือนแถวๆ1200จุด+/-(แต่มีเป้าหมายแรกเขต1020จุด+/-ก่อน)

แต่หากไม่ผ่านและหรือลงไปหลุดด่าน965จุด+/- หรือแม้กระทั่งจะเสี่ยงตกแรงๆลงไปเขต800จุดต้นๆได้เช่นกัน


ชาร์ตSETรายวัน-มีสัญญาณบวก เพราะวันศุกร์ลงไปที่979จุด เท่ากับจุดต่ำเก่า ฟอร์มตัวเป็นรูปแบบdouble bottom ประกอบกับชาร์ตแท่งเทียนรายวันมีรูปแบบhammer เตือนว่าแรงขายหมด แรงซื้อเริ่มชนะ น่าหนุนการฟื้นตัวขึ้นในวันนี้

วันนี้แนวรับแรก982-984แนวรับหลัก979แนวต้านแรก987ถัดไป993+/-หากผ่าน993จะขึ้นไปทดสอบเขต1000จุด+/-อีกที

กลยุทธ์-หากวันนี้ยืนเหนือแนวรับ980+/-ได้ น่าช้อนซื้อหุ้นPTT BANPU แบงก์KTB SCB BBL KBANK ที่ลงมาถึงเขตแนวรับซัก30%ของพอร์ต(เพราะหากหลุด980อาจลงไปลึกๆ965-970จุด+/-)

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่า ยังถูกกดดันจากสัญญาณเชิงลบคือมีBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม และเกิดสัญญาณขายในstochastics ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นว่าการตกปรับฐานต่อไปอาจยังกดดันตลาดต่อไป หากขึ้นทดสแนวต้านกรอบบนแล้วไม่ผ่าน


3.SET50 ยืนเหนือแนวรับใหญ่670+/-ได้ น่าเด้งทดสอบเขต685ถัดไป695+/-(กรณีผ่านจะขึ้นไป700-705จุด+/-)




ชาร์ตที่4:SET50รายสัปดาห์ ในสัปดาห์ก่อนลงมาใกล้support lineที่เป็นแนวรับหลัก670+/- (โดยลงมาที่672จุด)ในสัปดาห์นี้ยังคงมีแนวรับหลัก670+/-(670-674จุด) แนวต้านหลักด่านแรก685+/- หากผ่านจะขึ้นด่านถัดไป695+/-(693-695จุด)หากผ่านจะไปต่อด่าน700-707จุด+/-

อย่างไรก็ตามหากสัปดาห์นี้ลงไปปิดต่ำกว่าเขต670จุด+/-เด็ดขาด ก็เสี่ยงลงแรงไปบริเวณ655-645จุดเป็นอย่างน้อย

แนะนำ-:ซื้อที่แนวนรับ และขายที่แนวต้าน คือหากยืนเหนือ670+/-ได้แนะนำซื้อ และไปลุ้นทดสแบแนวต้านต่างๆ(ด่านแรก685ถัดไป695ถัดไป700-705จุด)

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ระยะสั้นอาจเข้าช้อนซื้อหุ้นเมื่อSETลงมาแล้วสามารถยืนเหนือเขต980จุด+/- หรือรอซื้อเพิ่มหากหลุดลงไปไม่ลึกกว่า965-970 หรืออิงSET50ที่ระดับ670+/- ขึ้นไปขายหากSETไม่ผ่าน995หรือ1000จุด

โดยให้ดูปัจจัยเรื่องQE2จากการประชุมFEDสัปดาห์นี้ และการเลือกตั้งกลางเทอมของอเมริกาประกอบ ส่วนระยะกลางให้ดูปัจจัยเรื่องค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินบาท ตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ประกอบเป็นสำคัญ



*****
เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า วันนี้เรื่อง "BANPU PTT และหุ้นแบงก์น่าช้อนราคาไหน TCCจะไปยาวเท่าไหร่" ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(28 ต.ค.):ระยะสั้นฟื้นไข้ปีนกลับฮึ้บๆ ระยะกลางยังถูกกดดันจากปัจจัยลบ และสัญญาณลบ



โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)

****************

1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดวันนี้-ต่างชาติยังและกองทุนขาย วิตกFEDอัดฉีดมาตรการอาทิตย์หน้าไม่พอฟื้นศก.อเมริกา แต่หุ้นโลกรีบาวนด์อาจหนุนการฟื้นตัวระยะสั้น

-เมื่อวานดัชนีSETขึ้นทดสอบ1000จุด เป็นหนที่สอง แต่ยืนเหนือเขตนี้ไม่ได้ และมีปัจจัยลบต่างประเทศทำให้มีแรวขายหนักร่วงลงลึกสุดเขต982จุด ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย 142 ล้านบาท

-หุ้นอเมริกาเมื่อคืนผันผวน แต่มีแรงซื้อท้ายตลาด ระหว่างวันดาวโจนส์ลบไปมากกว่า1% ลงไปลึกสุดที่11020จุด ลบจากวันก่อน-150จุด แต่ช่วงท้ายมีแรงซื้อหนุนคืนมาปิดลบเพียง-43จุด ปิดที่11126จุด

-เราคาดว่าเหตุที่ฝรั่งขาย อาจมาจากการที่โบรกเกอร์ใหญ่ต่างชาติคือ JP Morgan เป็นรายต่อจาก Nomura, ML(เมอริลลินช์) ที่เตือนลูกค้าให้ขายทำกำไรหุ้น เพราะคาดว่าคาดเฟดเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือชุดที่2( QE2) ในการประชุมสัปดาห์หน้า อาจไม่สูงดังที่ตลาดคาดการณ์ ประเด็นปริมาณเงินอัดฉีดของเฟดในการซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ ที่อาจไม่สูงมากตามที่ตลาดคาด(>USD5แสนล้าน) เพื่อลดความเสี่ยงจากแรงขายต่างชาติที่อาจปรับเพิ่มขึ้นหากQE2แย่กว่าคาด

-ค่าเงินดอลลาร์แกว่งผันผวน เมื่อคืนนี้แข็งขึ้นไป 78.90 แต่เช้านี้อ่อนลงมาแถว77.95จุด การกลับมาแข็งค่าเทียบสกุลหลัก มาจากการส่งสัญญาณของเฟดนิวยอร์ค และหลายประเทศในเอเชียเตือนออกมาตรการสกัดการเก็งกำไร การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความไม่ชัดเจนเรื่องเม็ดเงินอัดฉีดQE2ของเฟด ธ.กลางในเอเชีย หลายประเทศ(ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย) เริ่มส่งสัญญาณเตือนการแทรกแซงค่าเงิน รวมถึง คำเตือนของหลายโบรกเกอร์ที่เตือน ตลาดหุ้นอาจมี การตกปรับฐานย่อยๆ จะส่งผลให้ดัชนีฯมีความเสี่ยงขาลง (คาดแรงขายเพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่ดัชนีฯแรลลี่)


*ดาวโจนส์น่าได้ลุ้นขึ้นมาทดสอบพีคเก่า แต่ปัญหาคือหากไม่ผ่านอาจตกปรับฐานแรง ขณะที่ดอลลาร์ใกล้จุดต่ำสุด ยังระวังอาจมีการขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์ (อย่างไรก็ตามระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวไปทดสอบพีคเก่า11258จุด) –ดัชนีดาวโจนส์ลงแรง-150จุดระหว่างวัน แต่ท้ายๆมีแรงซื้อกลับ ภาพชาร์ตแท่งเทียนรายวันเป็นบวก รูปแบบhammer เป็นสัญญาณบวกว่า ในคืนนี้น่ามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านพีคเดิมบริเวณ11258จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ข้อพิจารณาคือ

ก.หากผ่านด่านนี้ได้ในสัปดาห์นี้ก็จะยังขึ้นต่อไป หนุนหุ้นทั่วโลกขึ้นตาม

ข.หากไม่ผ่าน และหรือลงหลุดแนวรับแถว10940จุด ก็อาจลงแรง และฉุดหุ้นโลก รวมทั้งหุ้ยไทยตกตาม

สรุป-หากให้ปลอดภัย อาจรอดูดาวโจนส์เพิ่มเติมในคืนวันนี้ คือหากผ่านด่านแนวต้านก็น่าไปต่อ หุ้นไทยจะขึ้นตาม ก็รอfollowเล่นทางขึ้น แต่หากไม่ผ่านและหรือหลุดแนวรับลงมาเสี่ยงจะตกแรง ก็ควรfollowเล่นทางลงตาม เพราะประเด็นหลักตอนนี้มีการรอดูผลประชุมFEDอยู่ และนักลงทุนต่างชาตินั้นมองเชิงลบว่าน่าออกมาเป็นผลลบต่อตลาดหุ้นมากกว่าผลบวก จึงยังต้องระวังการตกปรับฐานแรงๆอยู่ต่อไป(เว้นแต่คนเล่นสั้น ก็อาจอิงการฟื้นตัวท้ายตลาดวานนี้ และการลุ้นขึ้นไปด่าน11260จุด+/-ในคืนนี้ อาจอิงtrading buyในหุ้นที่ลงมาเขตแนวรับอย่างPTTได้)

ดอลลาร์ถึงจุดต่ำสุดอาจฟื้นแรง ระวังบาทอ่อน ฝรั่งขายหุ้น-ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงมากนะทั่งถึงเขตsupport lineขนาดใหญ่บริเวณ76จุด+/-แล้วฟื้นตัวขึ้น มีโอกาสมากขึ้นในเวลานี้ว่าอาจทำจุดbottom out(ต่ำสุด)ผ่านพ้นไปแล้ว และอาาจฟื้นขึ้นไป ระยะต่อไปมีเป้าหมายฟื้นตัว82จุด+/- (ดูที่ http://www.kitco.com/)

ส่วนค่าเงินบาทล่าสุดทรงตัว ไม่อ่อนแรงต่อแล้ว วานนี้ขึ้นไป30.10บาท /ดอลลาร์เช้านี้29.97บาท/ดอลลาร์ คาดว่าอาจทำจุดสูงสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มจะอ่อนลง หากอ่อนลงทะลุแนวรับ29.80เด็ดขาด มีโอกาสอ่อนลงไปเป้าหมาย30.80-31.50ในระยะต่อไป(ซึ่งหมายถึงฝรั่งจะขายหุ้นไปช้อนซื้อดอลลาร์ หากเกิดเรื่องนี้ขึ้นในระยะต่อไปนี้)

*ข้อสรุปและสมมุติฐานที่สำคัญ-ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เพราะหากค่าเงินดอลลาร์ทำจุดต่ำสุด(เขต76จุด+/-) และดาวโจนส์กำลังมาทดสอบจุดพีคเดิม(เขต11260จุด+/-)หากไม่ผ่าน ต่อไปอาจได้เห็นกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)ขายทำกำไรในตลาดหุ้นดาวโจนส์ และหุ้นทั่วโลก แล้วหันไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อการเก็งกำไร และอาจมีผลให้ตลาดหุ้นไทยที่กำลังทดสอบแนวต้านด่าน1000จุด+/-ต้องเจอขายทำกำไร ปรับฐานรุนแรงต่อไปได้

(เว้นแต่จะเห็นดาวโจนส์ผ่านด่านแนวต้าน และดอลลาร์ร่วงหลุดแนวรับ ก็จึงจะกลับมาเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย)

2.SETบริเวณ1000+/-ถือเป็นแนวต้านสำคัญด่านหนึ่งของภาพระยะกลาง ระยะสั้นหากขึ้นเขต1005ไม่เกิน1010อาจเจอขายสลับ ดังนั้นควรซื้อขายด้วยความระมัดระวัง อย่าเพลินเกินไปอาจติดดอยได้


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายเดือน ภาพระยะยาวของหุ้นไทย ดัชนีSET กำลังทดสอบแนวต้านทางเทคนิคสำคัญด้านหนึ่งบริเวณ1000จุด+/- หากผ่านจะได้ลุ้นการrallyต่อไปในระยะหลายเดือนแถวๆ1200จุด+/-

แต่หากไม่ผ่านและหรือลงไปหลุดด่าน965จุด+/- หรือแม้กระทั่งจะเสี่ยงตกแรงๆลงไปเขต800จุดต้นๆได้


ชาร์ตSETรายวัน-ร่วงลงแรงวานนี้ หลังจากวันก่อนชาร์ตรายวันเป็นเชิงลบ เพราะแท่งเทียนเป็นรูปแบบshooting star แต่ลงมาติดแนวรับด่าน982พอดี

หากวันนี้ยืนเหนือ982+/-ได้น่าฟื้นตัวขึ้น โดยมีแนวต้านแรก988 ถัดไป 992-994จุด แนวรับ982 แต่หากหลุดจะลงไป977,แย่สุดไม่ลึกกว่า970จุด+/-

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่า ยังถูกกดดันจากสัญญาณเชิงลบคือมีBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม และเกิดสัญญาณขายในstochastics ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นว่าการตกปรับฐานต่อไปอาจยังกดดันตลาดต่อไป หากขึ้นทดสแนวต้านกรอบบนแล้วไม่ผ่าน

สรุป-ระยะสั้นอาจเข้าเก็งกำไรที่แนวรับ982 หรือหากหลุด982รอแถว970-975 แต่ระยะกลางควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน หากวิ่งขึ้นก็น่าขายมากกว่าตามไปไล่ซื้อ และรอตกปรับฐานค่อยช้อนซื้อคืน เพราะหากมาไล่ซื้อตอนนี้ก็เสี่ยงติดหุ้นราคาสูง


3.SET50 แนวรับ670-675แนวต้านแรก685ต้านใหญ่695+/-


เมื่อวานร่วงลงตามคาด ลึกสุดเขต675ปิดที่677.70 ระยะสั้นมากระดับนาทีอยู่ในเจตตกมากเกินไป จึงน่าเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิค

วันนี้มีกรอบแนวรับแรก672-675จุด (แนวรับหลัก670+/-) แนวต้านแรก680จุด+/- แนวต้านถัดไป685+/- แนวต้านเป้าหมายกรอบบนบริเวณ695+/-


ชาร์ตที่4:SET50รายสัปดาห์ สัปดาห์นี้มีแนวรับหลัก670+/- แนวต้านหลักด่านแรก695+/- หากผ่านจะขึ้นด่านถัดไป700-707จุด+/-

เว้นแต่ลงไปปิดลึกกว่าเขต670จุด+/-ในสัปดาห์นี้ จะเป็นสัญญาณขาลง ที่มีเป้าหมายลงไปเขต655-645จุดโดยประมาณ

แนะนำ-:ซื้อที่แนวนรับ และขายที่แนวต้าน

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ระยะสั้นอาจเข้าช้อนซื้อหุ้นเมื่อSETลงมาเขต982จุด หรือ970-975จุด หรืออิงSET50ที่ระดับ670-675จุด ขึ้นไปขายหากSETไม่ผ่าน695หรือ1000จุด

ส่วนระยะกลางให้ดูปัจจัยเรื่องค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินบาท ตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ประกอบเป็นสำคัญ เพราะหากพลาดอาจติดดอยได้ในรอบนี้ครับ ไม่ควรไล่ซื้อเพลินเกินไป ผมคิดว่าอาจใกล้เกิดการตกปรับฐานแรงๆแล้ว



*****************
เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า วันนี้เรื่อง "BANPU PTT และหุ้นแบงก์น่าช้อนราคาไหน TCCจะไปยาวเท่าไหร่" ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(27 ต.ค.):แม้หุ้นจะวิ่งขึ้น แต่ปัจจัยเสี่ยงก็สูงเป็นเงาตามตัว ฝรั่งขายลดความเสี่ยง กลัวมาตรการอัดฉีดของFEDเบาไป อาจกดดันให้หุ้นตกปรับฐาน



โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)

****************

1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดวันนี้-ต่างชาติและกองทุนขาย วิตกFEDอัดฉีดมาตรการอาทิตย์หน้าไม่พอฟื้นศก.อเมริกา

-เมื่อวานดัชนีSETขึ้นทดสอบ1000จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี แต่ยืนเหนือเขตนี้ไม่ได้ อ่อนลงมาปิด996.04จุด โดยต่างชาติขายสุทธิ487ล้านบาท กองทุนขายสุทธิ1464ล้านบาท

-หุ้นอเมริกาเมื่อคืนผันผวน ตอนแรกลงแดนลบ11087จุด หลังมีรายงานราคาบ้านในเดือนที่ผ่านมาปรับลดลง เช่นเดียวกับผลกำไรของยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์อย่าง บริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ก็ไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้น แต่ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้นหนุน ทำให้ดัชนีหุ้นขยับขึ้นไปอยู่ในแดนบวกได้ โดยดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 11,169.46 จุด เพิ่มขึ้น 5.41 จุด

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ ไปปิดที่ระดับ 82.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

-เราคาดว่าเหตุที่ฝรั่งขาย อาจมาจากการที่โบรกเกอร์ใหญ่ต่างชาติคือ JP Morgan เป็นรายต่อจาก Nomura, ML(เมอริลลินช์) ที่เตือนลูกค้าให้ขายทำกำไรหุ้น เพราะคาดว่าคาดเฟดเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือชุดที่2( QE2) ในการประชุมสัปดาห์หน้า อาจไม่สูงดังที่ตลาดคาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงจากแรงขายต่างชาติที่อาจปรับเพิ่มขึ้นหากQE2แย่กว่าคาด

-ค่าเงินดอลลาร์ กลับมาแข็งค่าเทียบสกุลหลัก เมื่อวานนี้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ขึ้นมาที่78.04จุด เช้านี้อยู่ที่77.80จุด จากการส่งสัญญาณของเฟดนิวยอร์ค และหลายประเทศในเอเชียเตือนออกมาตรการสกัดการเก็งกำไร การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความไม่ชัดเจนเรื่องเม็ดเงินอัดฉีดQE2ของเฟด ธ.กลางในเอเชีย หลายประเทศ(ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย) เริ่มส่งสัญญาณเตือนการแทรกแซงค่าเงิน รวมถึง คำเตือนของหลายโบรกเกอร์ที่เตือน ตลาดหุ้นอาจมี การตกปรับฐานย่อยๆ จะส่งผลให้ดัชนีฯมีความเสี่ยงขาลง (คาดแรงขายเพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่ดัชนีฯแรลลี่)

- รายงานผลกำไรบจ.ไทยคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าคาด (PTTEP PSL) แต่ หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ที่วิ่งขึ้นมาตอนนี้ โบรกเกอร์ได้ให้คำแนะนำ ขึ้นทยอยขายล็อคกำไร

โดยกลุ่มที่อิงเรื่องผลดำเนินงานจะออกมาดี อาจเจอขายทำกำไรเมื่อมีการรายงานผลดำเนินงานออกมาเป็นไปตามคาด(Sell on Fact) คือ PTTEP BANPU TUF MINT CK SAT DELTA THAI RCL BTS

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากผลกระทบจากน้ำท่วม จะเด่นที่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น DCC TSTH SCC TASCO จะได้ประโยชน์จากการก่อสร้างหลังน้ำลด กลุ่มเกษตร STA KSL อุปทานขาดแคลน กลุ่มค้าปลีก BIGC MAKRO อุปสงค์สินค้าจำเป็นเพิ่ม


*ดาวโจนส์น่าได้ลุ้นขึ้นมาทดสอบพีคเก่า แต่ปัญหาคือหากไม่ผ่านอาจตกปรับฐานแรง ขณะที่ดอลลาร์ใกล้จุดต่ำสุด ยังระวังอาจมีการขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์ –ดัชนีดาวโจนส์ลงไปยืนเหนือแนวรับเขต11080ได้เมื่อวานนี้ และฟื้นมาปิดแดนบวก ภาพชาร์ตแท่งเทียนรายวันเป็นบวก รูปแบบhammer ดังนั้นคืนนี้น่ามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านพีคเดิมบริเวณ11258จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ข้อพิจารณาคือ

ก.หากผ่านด่านนี้ได้ในสัปดาห์นี้ก็จะยังขึ้นต่อไป หนุนหุ้นทั่วโลกขึ้นตาม

ข.หากไม่ผ่าน และหรือลงหลุดแนวรับแถว11080จุด ก็อาจลงแรง และฉุดหุ้นโลก รวมทั้งหุ้ยไทยตกตาม

สรุป-หากให้ปลอดภัย อาจรอดูดาวโจนส์เพิ่มเติมในคืนวันนี้ คือหากผ่านด่านแนวต้านก็น่าไปต่อ หุ้นไทยจะขึ้นตาม ก็รอfollowเล่นทางขึ้น แต่หากไม่ผ่านและหรือหลุดแนวรับลงมาเสี่ยงจะตกแรง ก็ควรfollowเล่นทางลงตาม เพราะประเด็นหลักตอนนี้มีการรอดูผลประชุมFEDอยู่ และนักลงทุนต่างชาตินั้นมองเชิงลบว่าน่าออกมาเป็นผลลบต่อตลาดหุ้นมากกว่าผลบวก จึงยังต้องระวังการตกปรับฐานแรงๆอยู่ต่อไป

ดอลลาร์ถึงจุดต่ำสุดอาจฟื้นแรง ระวังบาทอ่อน ฝรั่งขายหุ้น-ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงมากนะทั่งถึงเขตsupport lineขนาดใหญ่บริเวณ76จุด+/-แล้วฟื้นตัวขึ้น ล่าสุดเช้านี้ขึ้นมาเขต77.80จุด (ส่วนบาทอ่อนลง29.92) ก็อาจเป็นไปได้ว่าดอลลาร์ทำจุดต่ำสุดแล้วอาจฟื้นขึ้นไป ระยะต่อไปมีเป้าหมายฟื้นตัว82จุด+/- (ดูที่ http://www.kitco.com/)

ส่วนค่าเงินบาทล่าสุดทรงตัว ไม่อ่อนแรงต่อแล้ว เช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนลง29.92 /ดอลลาร์ อ่อนลงเล็กน้อย มีเขตแนวรับแถว30บาท/ดอลลาร์ หากอ่อนลงทะลุแนวรับนี้มีโอกาสอ่อนลงไปเป้าหมาย30.80-31.50ในระยะต่อไป(ซึ่งหมายถึงฝรั่งจะขายหุ้นไปช้อนซื้อดอลลาร์ หากเกิดเรื่องนี้ขึ้นในระยะต่อไปนี้)

*ข้อสรุปและสมมุติฐานที่สำคัญ-ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เพราะหากค่าเงินดอลลาร์ทำจุดต่ำสุด(เขต76จุด+/-) และดาวโจนส์กำลังมาทดสอบจุดพีคเดิม(เขต11260จุด+/-)หากไม่ผ่าน ต่อไปอาจได้เห็นกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)ขายทำกำไรในตลาดหุ้นดาวโจนส์ และหุ้นทั่วโลก แล้วหันไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อการเก็งกำไร และอาจมีผลให้ตลาดหุ้นไทยที่กำลังทดสอบแนวต้านด่าน1000จุด+/-ต้องเจอขายทำกำไร ปรับฐานรุนแรงต่อไปได้


(เว้นแต่จะเห็นดาวโจนส์ผ่านด่านแนวต้าน และดอลลาร์ร่วงหลุดแนวรับ ก็จึงจะกลับมาเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย)

2.SETบริเวณ1000+/-ถือเป็นแนวต้านสำคัญด่านหนึ่งของภาพระยะกลาง ระยะสั้นหากขึ้นเขต1005ไม่เกิน1010อาจเจอขายสลับ ดังนั้นควรซื้อขายด้วยความระมัดระวัง อย่าเพลินเกินไปอาจติดดอยได้


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายเดือน ภาพระยะยาวของหุ้นไทย ดัชนีSET กำลังทดสอบแนวต้านทางเทคนิคสำคัญด้านหนึ่งบริเวณ1000จุด+/- หากผ่านจะได้ลุ้นการrallyต่อไปในระยะหลายเดือนแถวๆ1200จุด+/-

แต่หากไม่ผ่านและหรือลงไปหลุดด่าน965จุด+/- จะเสี่ยงตกแรงๆลงไปเขต800จุดต้นๆได้


ชาร์ตSETรายวัน-ช่วงนี้เกิดสัญญาณซื้อหลังผ่านแนวต้านย่อยเขต993เมื่อวานนี้ แต่ชาร์ตรายวันเป็นเชิงลบ เพราะแท่งเทียนเป็นรูปแบบshooting star โดยมีแนวต้าน1001จุด หากไม่ผ่านอาจเสี่ยงตกมาแถว992จุด+/- แต่หากผ่านได้อาจขึ้นไปด่าน1005-1007 กรณีไปดีที่สุดในรอบนี้อาจเป็น1020จุด

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบกับบวกสลับกัน โดยเกิดสัญญาณซื้อในmodified stochatics เมื่อ%kตัดขึ้นสูงกว่า%d และมีค่าเพียง82%แสดงว่ามีroomให้ขึ้นต่อพอสมควร แต่ยังถูกกดดันจากสัญญาณเชิงลบคือมีBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นว่าการตกปรับฐานต่อไปอาจยังกดดันตลาดต่อไป หากขึ้นทดสแนวต้านกรอบบนแล้วไม่ผ่าน

สรุป-ควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน หากวิ่งขึ้นก็น่าขายมากกว่าตามไปไล่ซื้อ และรอตกปรับฐานค่อยช้อนซื้อคืน เพราะหากมาไล่ซื้อตอนนี้ก็เสี่ยงติดหุ้นราคาสูง


3.SET50 ทดสอบแนวต้านพีคเก่า699?


เมื่อวานผ่านแนวต้านเขต688จุด เกิดสัญญาณซื้อ ขึ้นไปสูงสุด696.50ปิดที่693.20 วันนี้มีกรอบแนวรับแรก692-690แนวรับหลัก688 แนวต้านแรก696.50จุด แนวต้านถัดไปบริเวณพีคเก่า699-700จุด+/- หากผ่านจะขึ้นไปแนวต้านถัดไป705จุด+/- กรณีดีที่สุดรอบนี้ไม่น่าไปเกิน720จุด+/-


ชาร์ตที่4:SET50รายสัปดาห์ สัปดาห์นี้มีแนวรับ688-680 แนวต้านหลัก700+/- หากผ่านจะขึ้นด่านถัดไป707ถัดไป720จุด+/-

แนะนำ-:ซื้อที่แนวนรับ และขายที่แนวต้าน

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ให้ดูปัจจัยเรื่องค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินบาท ตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ประกอบเป็นสำคัญ เพราะหากพลาดอาจติดดอยได้ในรอบนี้ครับ ไม่ควรไล่ซื้อเพลินเกินไป ผมคิดว่าอาจใกล้เกิดการตกปรับฐานแรงๆแล้ว



*****************
เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(26 ต.ค.):แตะ 1000จุดในรอบ 15ปี ในสถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์อาจต่ำสุด ฝรั่งอาจเทหุ้นนำกำไรมาช้อนซื้อ อย่าผลีผลามเพราะเสี่ยงติดดอยได้



โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)


1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดวันนี้

*ดาวโจนส์ขึ้นมาทดสอบพีคเก่า ขณะที่ดอลลาร์ใกล้จุดต่ำสุด ยังระวังอาจมีการขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์ –ดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวขึ้นมาที่11247จุดเมื่อคืนนี้ ใกล้กับแนวต้านพีคเดิมบริเวณ11258จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา


ข้อพิจารณาคือ

ก.หากผ่านด่านนี้ได้ในสัปดาห์นี้ก็จะยังขึ้นต่อไป หนุนหุ้นทั่วโลกขึ้นตาม

ข.หากไม่ผ่าน และหรือลงหลุดแนวรับแถว11160จุด ก็อาจลงแรง และฉุดหุ้นโลก รวมทั้งหุ้ยไทยตกตาม

เมื่อพิจารณาจากค่าสัญญาณเทคนิคที่เกิดสัญญาณขายในstochasticsหลังขึ้นมาoverbought และเมื่อคืนลงมาปิดเขตlow ชาร์ตแท่งเทียนเป็นเชิงลบ ก็เสี่ยงมากกว่าว่าจะลงแรงมากกว่าขึ้นแรง

สรุป-หากให้ปลอดภัย อาจรอดูดาวโจนส์เพิ่มเติมในคืนวันนี้ คือหากผ่านด่านแนวต้านก็น่าไปต่อ หุ้นไทยจะขึ้นตาม ก็รอfollowเล่นทางขึ้น แต่หากไม่ผ่านและหรือหลุดแนวรับลงมาเสี่ยงจะตกแรง ก็ควรfollowเล่นทางลงตาม


ตลาดหุ้นฮ่องกงยังรอเลือกทาง-ส่วนภาพนี้เป็นตลาดหุ้นฮ่องกง อยู่ช่วงพักฐาน มีแนวต้านย่อยเขต23710และ23866จุด แนวรับ23500จุด หากผ่านทางใดทางหนึ่งจะบอกทิศทางในระยะต่อไป คือหากผ่านมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านเป้าหมายถัดไป24650จุด แต่หากหลุดแนวรับก็เสี่ยงตกแรง

ดอลลาร์ถึงจุดต่ำสุดอาจฟื้นแรง ระวังบาทอ่อน ฝรั่งขายหุ้น-ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงมากนะทั่งถึงเขตsupport lineขนาดใหญ่บริเวณ76จุด+/-แล้วฟื้นตัวขึ้น ล่าสุดเช้านี้ขึ้นมาเขต77.30จุด ก็อาจเป็นไปได้ว่าดอลลาร์ทำจุดต่ำสุดแล้วอาจฟื้นขึ้นไป ระยะต่อไปมีเป้าหมายฟื้นตัว82จุด+/- (ดูที่ http://www.kitco.com/)

ส่วนค่าเงินบาทล่าสุดทรงตัว ไม่อ่อนแรงต่อแล้ว เช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนลง29.86 /ดอลลาร์ อ่อนลงเล็กน้อย

*ข้อสรุปและสมมุติฐานที่สำคัญ-ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน เพราะหากค่าเงินดอลลาร์ทำจุดต่ำสุด(เขต76จุด+/-) และดาวโจนส์พบจุดพีคที่จุดพีคเดิม(เขต11250-11260จุด+/-)แล้วไม่ผ่าน ต่อไปอาจได้เห็นกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)ขายทำกำไรในตลาดหุ้นดาวโจนส์ และหุ้นทั่วโลก แล้วหันไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อการเก็งกำไร และอาจมีผลให้ตลาดหุ้นไทยที่กำลังทดสอบแนวต้านด่าน1000จุด+/-ต้องเจอขายทำกำไร ปรับฐานรุนแรงต่อไปได้


(เว้นแต่จะเห็นดาวโจนส์ผ่านด่านแนวต้าน และดอลลาร์ร่วงหลุดแนวรับ ก็จึงจะกลับมาเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย)

2.ทาง2แพร่ง ระหว่างทดสอบต้านด่าน993-1000จุด หากไม่ผ่านและหลุด965จุดเด็ดขาดลงไป ยังเสี่ยงลงปรับฐานต่อไป เป้าหมายลงลึกๆ

ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายเดือน ภาพระยะยาวของหุ้นไทย ดัชนีSET กำลังทดสอบแนวต้านทางเทคนิคสำคัญด้านหนึ่งบริเวณ995-1000จุด+/- หากผ่านจะได้ลุ้นการrallyต่อไปในระยะหลายเดือนแถวๆ1200จุด+/-

แต่หากไม่ผ่านและหรือลงไปหลุดด่าน965จุด+/- จะเสี่ยงตกแรงๆลงไปเขต800จุดต้นๆได้


ชาร์ตSETรายวัน-แนวต้านเขต995+/- หากผ่านอาจขึ้นไปทดสอบพีคเดิมบริเวณ999-1000จุด+/- แต่หากไม่ผ่านเสี่ยงลงไปแนวรับแรก984 และหากหลุดจะลงไป975-965จุด+/-

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบ โดยยังมีสัญญาณขายในmodified stochatics เมื่อ%kตัดลงต่ำกว่า%d และเกิดBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นว่าการตกปรับฐานต่อไปอาจยังกดดันตลาดต่อไป หากขึ้นทดสแนวต้านกรอบบนแล้วไม่ผ่าน

สรุป-จับตามองด่านบน 995จุด-1000จุด กับกรอบล่าง 984จุด+/- เป็นสำคัญ กรณีผ่านด่านบนขึ้นไป ก็ไปลุ้นว่าจะผ่านด่าน1000จุด+/-ได้หรือไม่ หากผ่านได้ก็ให้กลับมาเล่นทางขาขึ้น หากหลุดกรอบล่างลงไปให้อิงเล่นขาลงปรับฐานต่อไป หรือรอจนกว่าตลาดจะเลือกทางชัดเจนค่อยfollowแนวโน้มต่อไป ก็ดีไม่ต้องเหนื่อยกับการลุ้น โดยให้จับตามองปัจจัยเรื่องดาวโจนส์ และดัชนีค่าเงินดอลลาร์ประกอบเป็นสำคัญ


3.SET50


มีกรอบแนวต้านแรก689จุด แนวต้านถัดไป693+/- แนวรับ682จุด+/- ถัดไป675จุด+/-

โดยหากผ่านด่าน693จะขึ้นไปทดสอบด่าน700จุด+/-ต่อไป แต่หากไม่ผ่าน693ก็ยังวนอยู่ในกรอบต้าน693กับกรอบรับ675-680จุดต่อไป


ชาร์ตที่4:SET50รายสัปดาห์ สัปดาห์นี้มีแนวต้านหลักเขต693จุด+/- หากผ่านด่าน693มีโอกาสขึ้นไป700+/- และถัดไป705-720จุด

แต่หากไม่ผ่านจะลงมาlowวานนี้680จุด+/- และหากหลุดด่านนี้เสี่ยงลงด่านถัดไปคือ670จุด+/-

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ตลาดยังคงเลือกทางอยู่นะครับ กรอบแนวต้านหลักของSET995-100006f+/- โดยให้ดูปัจจัยเรื่องค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินบาท ตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ประกอบเป็นสำคัญ เพราะหากพลาดอาจติดดอยได้ในรอบนี้ครับ

*****************
เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(22 ต.ค.):ทาง3แพร่งของหุ้นไทย รอความชัดเจนแล้วค่อยว่ากัน



โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)


*****************
1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดวันนี้(ศุกร์22ตค.)

*ดาวโจนส์เหี่ยวปลาย หลังดอลลาร์พุ่ง –ดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวผันผวน ตอนแรกขึ้นไปที่11213จุด หรือบวกจากวันก่อน+106จุด แล้วเจอแรงขายลงไปแดนลบราว-41จุด เพราะค่าเงินดอลลาร์ทะยานขึ้น เนื่องจากจีนขึ้นดอกเบี้ยช็อกตลาดในวันก่อน และนายเบอร์นันเก้ ผู้ว่าการFEDได้กล่าวว่าในเดือนหน้าอาจเพิ่มมาตรการชุด2ในการฟื้นเศรษฐกิจ

สุดท้ายดาวโจนส์มาปิดบวกได้เล็กน้อย 38 จุด ที่ระดับ11146จุด หรือ+0.35%

ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น ล่าสุด77.53 จุด (ดูที่ http://www.kitco.com/)

สำหรับตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ช่วงเปิดตลาดมาบวกเล็กน้อยเหมือนดาวโจนส์ คาดตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในทิศทางเดียวกัน

*กรณ์พูดเห็นด้วยใช้มาตรการ3%ของหม่อมอุ๋ยอาจกดดันตลาดหุ้น- กรณ์ ขานรับข้อเสนอ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ให้เก็บภาษีทุนไหลเข้า 3% ระบุสมเหตุสมผล ทั้งนี้นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง กรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการการดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 3% จากเงินทุนไหล
เข้าว่า เห็นว่าข้อเสนอแนะดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล ซึ่งก็พร้อมที่จะรับเข้าไปพิจารณา 'ข้อเสนอที่หม่อมอุ๋ยได้เสนอมามีความสมเหตุสมผลมากที่สุดตั้งแต่ได้ยินมา ซึ่งก็พร้อมรับไปพิจารณาต่อไป' รมว.คลัง กล่าว

ความเห็น:ข่าวนี้ออกมาท้ายตลาดวานนี้ ทำให้มีแรงขายออกมา ส่งผลให้หุ้นติดลบ ยังต้องดูว่าแรงกดดันจากข่าวนี้ยังต่อเนื่องมาถึงตอนนี้หรือไม่ เนื่องจากคาดการณ์ว่าอาจมีมาตรการชุดใหม่ออกมา หลังจากมาตรการชุดก่อนนี้ไม่มีผลทำให้ค่าเงินบาทหยุดแข็ง


ล่าสุดเช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนลง29.90 ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิ718ล้านบาทเมื่อวานนี้ เป็นการขายต่อเนื่อง2วันติดต่อกัน

*ฝรั่งขายทำกำไร +ลดน้ำหนักลงทุนตลาดเกิดใหม่- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สอง แต่ยังขายไม่มาก ก่อนหน้านี้MS(บริษัทมอร์แกนสแตนเลย์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ใหญ่ของโลก เป็นเจ้าของดัชนีMSCIที่นักลงทุนทั่วโลกนำไปประกอบการตัดสินใจการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศต่างๆ)ได้ออกบทวิจัยแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่(Emerging market-ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ถือเป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่เช่นกัน) จากเดิม 6% เหลือน 3% เพราะขึ้นมาแรง ให้ขายทำกำไรและถือเงินสดเพิ่ม

(ความเห็น:ข่าวนี้ถือเป็นข่าวเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก เพราะนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อถือคำแนะนำของมอร์แกนสแตนเลย์มาก)


2.ทาง2แพร่ง ระหว่างทดสอบต้านด่าน993+/- หากไม่ผ่านและหลุด980เด็ดขาดลงไป ยังเสี่ยงลงปรับฐานต่อไป เป้าหมายลงลึกๆ960-965จุด แต่หากผ่านด่าน993ก็จะจบปรับฐานแล้วขึ้นไปมีโอกาสผ่าน1000จุด


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายวัน ดัชนีSET ยังอยู่ในช่วงของการพักฐาน หลังไปทดสอบแนวต้านด่าน1000จุดไม่ผ่านในสัปดาห์หก่อน โดยลงมาเขต980 แล้วฟื้นขึ้นเมื่อวานไปทดสอบแนวต้านdowntrendบริเวณ993จุดยังไม่ผ่าน และลงมาปิดที่988.80จุดเมื่อวานนี้

รูปแบบราคาของชาร์ตรายวันเป็นการพักตัวในรูปแบบธง(bullish flag)ที่มีกรอบแนวรับล่างบริเวณ980-975จุด แนวต้านบริเวณ993-995จุด โดยประมาณ

ตอนนี้ก็เรียกว่าเป็นทาง2แพร่งของหุ้นไทย ข้อพิจารณาวันนี้เป็นดังนี้

ก.ในทางบวก การลงมาไม่หลุดด่าน980 ก็อาจตีความว่าเป็นการตกปรับฐานลงมาปิดหน้าต่าง(Gap)ที่เคยเปิดเอาไว้ แต่จะยืนยันว่าจบปรับฐานก็ต่อเมื่อ ช่วงระยะนี้ หรือวันนี้สามารถขึ้นด่านแนวต้านdowntrendเขต 993จุด+/-ขึ้นไปเด็ดขาดในวันนี้(วันนี้แนวต้านกินบริเวณตั้งแต่992-995จุดโดยประมาณ)

ซึ่งหากขึ้นวันนี้ หรือระยะนี้ก็แสดงว่าการตกปรับฐานที่ผ่านมาจบแล้ว และจะขึ้นไปทดสอบด่าน1000จุด+/-ต่อไป และอาจได้ลุ้นผ่านขึ้นไปด่าน1020จุด และระยะกลาง1130จุด(ซึ่งอาจได้ลุ้นในสัปดาห์หน้า)

ข.ในทางลบ หากขึ้นวันนี้หรือช่วงนี้ไม่ผ่านด่าน993จุด+/-แล้วโดนขายสลับลงมา และทำท่าลงปิดlowเขต980-975 ให้คาดว่า การตกปรับฐานยังไม่จบ ยังเสี่ยงตกต่อไป970+/- หรือเป้าหมายลึกๆเขต960-965จุด

ค.แกว่งแคบในรูปแบบธง(flag)ก่อนชี้ว่าจะไปทางไหน คือก็จะไม่ไปไหนมาไหน แต่แกว่งระหว่างกรอบล่าง980-975 ส่วนกรอบบนอยู่แถว992-995 ขึ้นบนไม่ผ่านแล้วตก พอลงก็มาก็ไม่หลุด จนกว่าจะผ่านไปด้านใดด้านหนึ่งจึงจะชัดเจนว่าจะเล่นทางขึ้นหรือทางลง

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบ โดยยังมีสัญญาณขายในmodified stochatics เมื่อ%kตัดลงต่ำกว่า%d และเกิดBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นว่าการตกปรับฐานต่อไปอาจยังกดดันตลาดต่อไป หากขึ้นทดสแบด่านต้านกรอบบนแล้วไม่ผ่าน

สรุป-จับตามองด่านบน 993จุด+/- กับกรอบล่าง 980จุด+/- เป็นสำคัญ กรณีผ่านด่านบนขึ้นไป ให้กลับมาเล่นทางขาขึ้น หากหลุดกรอบล่างลงไปให้อิงเล่นขาลงปรับฐานต่อไป หรือรอจนกว่าตลาดจะเลือกทางชัดเจนค่อยfollowแนวโน้มต่อไป ก็ดีไม่ต้องเหนื่อยกับการลุ้น


3.SET50อาจตกปรับฐานลงไปเขต670-680จุด หากไม่ผ่านแนวต้าน693+/- หรือลงหลุด684-680จุด


ชาร์ตที่3:ทาง2แพร่งเช่นกัน

ก.ทางบวก หากผ่านด่าน693จุด+/-ได้ในสัปดาห์นี้ ก็มีโอกาสขึ้นด่านต่อไป700+/- และระยะต่อไปด่าน720ถัดไป740-750 แนวต้านเป้าหมายใหญ่800จุด+/-

ข.ในทางลบ หากไม่ผ่านด่าน693จุด+/- ยังเสี่ยงลงไปแนวรับหลัก670จุด+/- หรือกระทั่ง660-665จุด

ชาร์ตที่4:SET50รายวัน มีแนวต้านหลักเขต693จุด+/- หากผ่านด่าน693มีโอกาสขึ้นไป700+/- และถัดไป705-720จุด

แต่หากไม่ผ่านจะลงมาlowวานนี้684-680จุด และหากหลุดด่านนี้เสี่ยงลงด่านถัดไปคือ673-675 หรือเป้าลึกๆ670จุด+/-

ชาร์ตรายวัน-เคลื่อนไหวรูปแบบธง ที่มีกรอบแนวต้านเขต690-693 แนวรับล่างกรอบ680-675จุด

สำหรับวันนี้มีต้าน690ถัดไป693 แต่หากไม่ผ่านก็จะตกลงด่านแรก685ถัดไป680ลึกๆ670-675จุด

คำแนะนำ-จับตามองว่าวันนี้หากฟื้นจะผ่านด่าน690-693+/-ได้หรือไม่ หากผ่านจะขึ้นไปด่าน700+/-อีกรอบ แต่หากไม่ผ่านอาจเสี่ยง และลงแนวรับแรก684-680 และหากหลุดก็เสี่ยงลงไปเป้าหมายหลัก670-675ได้ต่อไป

ดังนั้นควรรอfollow แนวโน้ม หรือใช้กลยุทธ์ซื้อที่เขตแนวรับ และขายที่เขตแนวต้าน เนื่องจากแกว่งตัวรูปแบบธง หากทะลุผ่านต้านบนก็followเล่นขาขึ้น แต่หากทะลุกรอบรับล่าง675-670ลงไปก็ให้เล่นขาลง

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ตลาดยังเลือกทางอยู่ครับ หากวนในกรอบ680-693ก็แสดงว่าซึมต่อในรูปแบบธง หากผ่านด่าน693จะยืนยันจบปรับฐานแล้วขึ้นไปผ่าน1000จุดรอบต่อไป แต่หากหลงไปหลุดด่าน680แสดงว่ายังตกปรับฐานต่อไปเป้าหมาย965เป็นอย่างน้อย


สำหรับท่านที่ลงทุนรอบใหญ่ผมว่าน่ารอให้ชัดเจนแล้วค่อยfollowตามแนวโน้ม ส่วนท่านที่เล่นรอบสั้นก็ให้เข้าซื้อที่แนวรับ และขายที่เขตแนวต้านครับ จะได้ไม่คร่อมรอบ หรือผิดรอบ



*************

เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(21 ต.ค.):ทาง2แพร่งของหุ้นไทย


โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)


*****************

1.ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดวันนี้

*ดาวโจนส์ฟื้นตัว-ดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัวบวกแรง +129จุด ปิดที่11108จุด หลังจากบริษัทจดทะเบียนโชว์งบการเงินออกมาดีกว่าคาด หลังจากวันก่อนหน้านั้นร่วงแรง เพราะค่าเงินดอลลาร์ทะยานขึ้น เนื่องจากจีนขึ้นดอกเบี้ยช็อกตลาด และนายเบอร์นันเก้ ผู้ว่าการFEDได้กล่าวว่าในเดือนหน้าอาจเพิ่มมาตรการชุด2ในการฟื้นเศรษฐกิจ

*ตลาดหุ้นเอเชียยังถูกกดดันด้วยเรื่องจีนขึ้นดอกเบี้ย-แต่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ไม่ได้บวกแรงตามดาวโจนส์ แถมบางตลาด คือญี่ปุ่น เกาหลีกลับตกแดนลบด้วย ขณะที่ค่าเงินหยวนยังตกต่อ เพราะจีนขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เอเชียกังวลนโยบายการเงินเข้มงวดของจีน จะมีผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย

ความเห็น:หุ้นไทยน่าเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกับเอเชีย โดยเฉพาะฮ่องกง


*ค่าเงินแข็งขึ้น-ภายหลังรู้ผลประชุมกนง.วานนี้ ได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด และภายหลังค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงมา

*ฝรั่งขายทำกำไร +ลดน้ำหนักลงทุนตลาดเกิดใหม่- เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ1056ล้านบาท ก่อนหน้านี้MS(บริษัทมอร์แกนสแตนเลย์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ใหญ่ของโลก เป็นเจ้าของดัชนีMSCIที่นักลงทุนทั่วโลกนำไปประกอบการตัดสินใจการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศต่างๆ)ได้ออกบทวิจัยแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่(Emerging market-ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ถือเป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่เช่นกัน) จากเดิม 6% เหลือน 3% เพราะขึ้นมาแรง ให้ขายทำกำไรและถือเงินสดเพิ่ม

(ความเห็น:ข่าวนี้ถือเป็นข่าวเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก เพราะนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อถือคำแนะนำของมอร์แกนสแตนเลย์มาก)


2.ทาง2แพร่ง ระหว่างทดสอบต้านด่าน992+/- หากไม่ผ่านและหลุด980เด็ดขาดลงไป ยังเสี่ยงลงปรับฐานต่อไป เป้าหมายลงลึกๆ960-965จุด แต่หากผ่านด่าน992ก็จะจบปรับฐานแล้วขึ้นไปมีโอกาสผ่าน1000จุด


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายวัน ดัชนีSET ได้ตกปรับฐานลงมา หลังไปทดสอบแนวต้านด่าน1000จุดไม่ผ่านในสัปดาห์หก่อน โดยลงมาเขต980 แล้วฟื้นขึ้นไปปิดที่988.11จุดเมื่อวานนี้

ตอนนี้ก็เรียกว่าเป็นทาง2แพร่งของหุ้นไทย ข้อพิจารณาวันนี้เป็นดังนี้

ก.ในทางบวก การลงมาไม่หลุดด่าน980 ก็อาจตีความว่าเป็นการตกปรับฐานลงมาปิดหน้าต่าง(Gap)ที่เคยเปิดเอาไว้ แต่จะยืนยันว่าจบปรับฐานก็ต่อเมื่อ วันนี้สามารถขึ้นด่านแนวต้านdowntrendเขต 992จุด+/-ขึ้นไปเด็ดขาดในวันนี้(วันนี้แนวต้านกินบริเวณตั้งแต่989-993จุดโดยประมาณ)

ซึ่งหากขึ้นวันนี้ไปผ่านด่าน992 หรือปิดเหนือ992 แสดงว่าการตกปรับฐานที่ผ่านมาจบแล้ว และจะขึ้นไปทดสอบด่าน1000จุด+/-ต่อไป และอาจได้ลุ้นผ่านขึ้นไปด่าน1020จุด และระยะกลาง1130จุด

ข.ในทางลบ หากขึ้นวันนี้ไม่ผ่านด่าน992จุด+/-แล้วโดนขายสลับลงมา และทำท่าลงปิดlowเขต980หรือลึกกว่า980 ให้คาดว่า การตกปรับฐานยังไม่จบ ยังเสี่ยงตกต่อไป970+/- หรือเป้าหมายลึกๆเขต960-965จุด

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบ โดยเกิดสัญญาณขายในmodified stochatics เมื่อ%kตัดลงต่ำกว่า%d และเกิดBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นว่าการตกปรับฐานต่อไปอาจยังกดดันตลาดต่อไป

สรุป-จับตามองด่านบน 992จุด+/- กับกรอบล่าง 980จุด+/- เป็นสำคัญ กรณีผ่านด่านบนขึ้นไป ให้กลับมาเล่นทางขาขึ้น หากหลุดกรอบล่างลงไปให้อิงเล่นขาลงปรับฐานต่อไป

3.SET50อาจตกปรับฐานลงไปเขต670-680จุด หากไม่ผ่านแนวต้าน693+/- หรือลงหลุด684-680จุด


ชาร์ตที่3:ทาง2แพร่งเช่นกัน

ก.ทางบวก หากผ่านด่าน693จุด+/-ได้ในสัปดาห์นี้ ก็มีโอกาสขึ้นด่านต่อไป700+/- และระยะต่อไปด่าน720ถัดไป740-750 แนวต้านเป้าหมายใหญ่800จุด+/-

ข.ในทางลบ หากไม่ผ่านด่าน693จุด+/- และหรือลงปิดต่ำกว่าเขต680-684 เสี่ยงลงไปแนวรับหลัก670จุด+/- หรือกระทั่ง660-665จุด

ชาร์ตที่4:SET50รายวัน มีแนวต้านหลักเขต693+/-(แนวต้านแรก688,690จุด)หากผ่านด่าน693มีโอกาสขึ้นไป700+/- และถัดไป705-720จุด

แต่หากไม่ผ่านจะลงมาlowวานนี้684-680จุด และหากหลุดด่านนี้เสี่ยงลงด่านถัดไปคือ673-675 หรือเป้าลึกๆ670จุด+/-

คำแนะนำ-จับตามองว่าวันนี้หากฟื้นจะผ่านด่าน693+/-ได้หรือไม่ หากผ่านจะขึ้นไปด่าน700+/-อีกรอบ แต่หากไม่ผ่าน693+/-อาจเสี่ยง และลงแนวรับแรก684-680 และหากหลุดก็เสี่ยงลงไปเป้าหมายหลัก670+/-ได้ต่อไป

ดังนั้นควรรอfollow โดยดูด่าน693เป็นสำคัญ

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ตลาดวันนี้ยังเลือกทางอยู่ครับ หากวนในกรอบ680-692ก็แสดงว่าซึมต่อ หากผ่านด่าน692จะยืนยันจบปรับฐานแล้วขึ้นไปผ่าน1000จุดรอบต่อไป แต่หากหลงไปหลุดด่าน680แสดงว่ายังตกปรับฐานต่อไปเป้าหมาย965

ดังนั้นรอให้ตลาดตัดสินไปทางใดทางหนึ่งชัดเจน แล้วค่อยfollow trendผมว่าดีกว่า


*************

เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(20 ต.ค.):ดอลลาร์เริ่มแข็ง ฝรั่งเริ่มอ่อน ระวังฝรั่งขายหุ้นไปช้อนดอลลาร์ หากSETหลุด980เสี่ยงลงไป960+/-


เรื่องประกอบ/อ่านบทความย่อยให้อ่านง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)

โดย *ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต+อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเปิดทำการภาคเช้า และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)


1.ดาวโจนส์รูด เพราะดอลลาร์แข็ง ค่าบาทอ่อน วิตกธปท.ลดดอกเบี้ย ฝรั่งลดน้ำหนักหุ้นไทย หากไม่ผ่าน992ยังเสี่ยงหลุด980ลงไป965

ตลาดหุ้นเมื่อวานตกปรับฐานลงมาอีกวัน ยืนเหนือ980แล้วฟื้นขึ้น แต่ไปไม่เกินแนวต้าน 992จุด แสดงว่า หากไม่ผ่าน992ในวันนี้ และหรือลงหลุดด่าน980ลงไปเด็ดขาดก็อาจเสี่ยงตกปรับฐานต่อ โดยมีเป้าหมายลงปรับฐานเขต965จุด+/- ตามที่คาดการณ์ไว้เดิม

-ดาวโจนส์รูดแรง หลังดอลลาร์เด้งแรง -165จุด ปิดที่10978จุด หลังจากค่าเนดอลลาร์แข็งขึ้นมาเขต78.21จุด(เรายังมองว่าค่าเงินดอลลาร์น่าจะใกล้จุดต่ำสุด หรืออาจทำจุดต่ำสุดไปแล้ว จะฟื้นขึ้นไปเขต82จุด ซึ่งหมายความว่าอาจมีการขายทำกำไรในตลาดหุ้นอเมริกา และตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเก็งกำไร ซึ่งจะเป็นผลทางลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งไทย)

-ค่าเงินบาทอ่อนลง ก่อนรู้ผลประชุมกนง.วันนี้ ซึ่งมีความกีงวลว่าอาจมีการลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดค่าเงินบาทแข็ง-วันนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(กนง.)จะประชุม ซึ่งคาดว่าน่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ (หากกรณีนี้ถือเป็นไปตามคาด จะมีผลกระทบต่อตลาดไม่มาก) แต่หากเกินคาด คือลดดอกเบี้ยลง (จะเป็นผลลบต่อตลาดหุ้น เพราะเป็นสัญญาณว่านโยบายการเงินของไทยต้องการสกัดเงินทุนไหลเข้าชัดเจนมากขึ้น)

-ฝรั่งลดน้ำหนักลงทุนตลาดเกิดใหม่-MS(บริษัทมอร์แกนสแตนเลย์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ใหญ่ของโลก เป็นเจ้าของดัชนีMSCIที่นักลงทุนทั่วโลกนำไปประกอบการตัดสินใจการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศต่างๆ)ได้ออกบทวิจัยแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่(Emerging market-ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ถือเป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่เช่นกัน) จากเดิม 6% เหลือน 3% เพราะขึ้นมาแรง ให้ขายทำกำไรและถือเงินสดเพิ่ม
(ความเห็น:ข่าวนี้ถือเป็นข่าวเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก เพราะนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อถือคำแนะนำของมอร์แกนสแตนเลย์มาก)

1.1ชนด่านแนวต้าน1000จุด 2 วันยังไม่ผ่าน ตกปรับฐาน เมื่อวานนี้เด้งติดต้านด่าน992+/- หากไม่ผ่านและหลุด980เด็ดขาดลงไป ยังเสี่ยงลงปรับฐานต่อไป เป้าหมายลงลึกๆ960-965จุด


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายวัน ดัชนีSETได้ขึ้นมาทดสอบแนวต้านทางเทคนิคและด่านจิตวิทยาบริเวณ1,000จุดมา2วันติดต่อกันในปลายสัปดาห์ก่อน เมื่อไม่ผ่านก็ตกตามคาด อย่างไรก็ตามวานนี้เกิดการรีบาวนด์ หรือฟื้นตัวทางเทคนิคระยะสั้น โดยที่ไม่ผ่านแนวต้านด่าน992จุด

ข้อพิจารณาวันนี้เป็นดังนี้

ก.ในทางบวก หากขึ้นวันนี้ไปผ่านด่าน992 หรือปิดเหนือ992 แสดงว่าการตกปรับฐานที่ผ่านมาจบแล้ว และจะขึ้นไปทดสอบด่าน1000จุด+/-ต่อไป และอาจได้ลุ้นผ่านขึ้นไปด่าน1020จุด และระยะกลาง1130จุด

ข.ในทางลบ หากขึ้นวันนี้ไม่ผ่านด่าน992จุด+/-แล้วโดนขายสลับลงมา และทำท่าลงปิดlowเขต980หรือลึกกว่า980 ให้คาดว่า การตกปรับฐานยังไม่จบ ยังเสี่ยงตกต่อไป970+/- หรือเป้าหมายลึกๆเขต960-965จุด

เมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบ โดยเกิดสัญญาณขายในmodified stochatics เมื่อ%kตัดลงต่ำกว่า%d และเกิดBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

สรุป-หากSETขึ้นไปไม่ผ่านด่าน992จุด+/-ในวันนี้ และหรือลงไปปิดต่ำกว่า980จุด+/- ยังควรนำหุ้นที่กำไรออกมาขายทำกำไร และรอการตกปรับฐานจบก่อนแล้วค่อยพิจารณาต่อไป (เว้นแต่ทำท่าไปปิดเหนือ992จุดได้ จึงถือว่าจบปรับฐาน)


ชาร์ตที่2:เป็นภาพSETระยะยาว คือนับแต่เคยขึ้นไปทำพีคประวัติศาสตร์ที่1789จุดเมื่อปี2537และลงลึกสุดแถว204จุดเมื่อปี2541 เมื่อนำอนุกรมไฟโบนาชชี่มาวัดจะพบว่าSETกำลังมาทดสอบแนวต้านfibonacciด่าน50%บริเวณ1000จุด+/-

กรณีผ่านด่านนี้ จะขึ้นไป1130หรือ1200จุดในระยะต่อไป

กรณีไม่ผ่าน ก็อาจเกิดการตกปรับฐานรอบใหญ่ลงไปด่าน965-975เป็นอย่างน้อย หรือแย่ๆเขต800ต้นๆ

สรุป-ดูทิศทางตลาดวันนี้ หากผ่านด่าน992จุด+/-ก็น่าพัวพันเล่นขาขึ้นต่อไป หรือถือหุ้นต่อ แต่หากไม่ผ่านและหรือลงปิดต่ำกว่าเขต980จุด+/-จะเป็นสัญญาณการตกปรับฐานรอบใหญ่ น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อน

2.SET50อาจตกปรับฐานลงไปเขต670-680จุด หากไม่ผ่านแนวต้าน693+/- หรือลงหลุด684จุด


ชาร์ตที่3:ดัชนีSET50 ทดสอบแนวต้านเป้าหมายแรกด่าน700จุด+/- ข้อพิจารณาเป็นดังนี้

ก.ทางบวก หากผ่านด่าน700จุด+/-ได้ในสัปดาห์นี้ ก็มีโอกาสขึ้นด่านต่อไป720ถัดไป740-750 แนวต้านเป้าหมายใหญ่800จุด+/-

ข.ในทางลบ หากไม่ผ่านด่าน700+/- และหรือลงปิดต่ำกว่าเขต693+/-ลงไปเด็ดขาด เสี่ยงตกลงไปเขต680-684หรือแนวรับหลัก670จุด+/- หรือกระทั่ง660-665จุด

ชาร์ตที่4:SET50รายวัน มีแนวต้านเขต693+/-(691-694จุด)หากผ่านมีโอกาสขึ้นไป700+/- แต่หากไม่ผ่านจะลงมาlowวานนี้684+/- และหากหลุดด่านนี้เสี่ยงลงด่านถัดไปคือ680,673-675 หรือเป้าลึกๆ670จุด+/-

คำแนะนำ-จับตามองว่าวันนี้หากฟื้นจะผ่านด่าน693+/-ได้หรือไม่ หากผ่านจะขึ้นไปด่าน700+/-อีกรอบ แต่หากไม่ผ่าน693+/-อาจเสี่ยง และลงแนวรับแรก684จุด+/- และหากหลุดก็เสี่ยงลงไปเป้าหมายหลัก670+/-ได้ต่อไป ดังนั้นหากไม่ผ่านด่าน693ก็น่าเล่นทางขาย หรือขายซ้ำหากหากหลุด684ลงไป

3.ปัจจัยที่น่าสนใจและต้องอ่านดีๆในช่วงนี้ หุ้นต่างประเทศ,หุ้นTIPและค่าเงินบาท +ยอดซื้อของfund flow

3.1ดาวโจนส์ ไม่ผ่านแนวต้าน แถมหลุดแนวรับ เสี่ยงลงต่อ




แนวโน้ม-รอบนี้ขึ้นมาใกล้แนวต้านพีคเดิมบริเวณ11260จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ไม่ผ่าน และเมื่อคืนตกหลุดแนวรับuptrend lineบริเวณ11112จุด จึงควรระมัดระวังว่าอาจตามมาด้วยการตกแรงและเป็นทางลง และฉุดหุ้นไทยลงตาม

3.2ฮ่องกง เป้าหมายขึ้นรอบนี้24700จุด+/- แนวรับ23335จุด+/-หากหลุดเสี่ยงลงแรง


แนวโน้ม-ช่วงนี้มีแนวต้านเป้าหมายบริเวณ24700-25000จุด+/-โดยประมาณ แต่หากขึ้นไปด่านนี้ก็อาจพักฐานได้ เพราะเข้าเขตover heatแล้ว ขณะที่มีแนวรับuptrendแถว23335-23555จุด หากหลุดก็เสี่ยงลงแรงต่อไป

3.3 อินโดและฟิลิปปินส์ เพื่อนร่วมย่านTIP(Thailand /Indonesia/Philippines) หลังMSCIลดน้ำหนักลงทุน

3ตลาดนี้ฝรั่งเรียกว่าTIP เป็นที่น่าสังเกตว่าเงินทุนไหลเข้า(fund flow)รอบนี้เข้ามา 3 ตลาดนี้เป็นหลัก แต่การที่MSCIได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดMSCIลงมานั้นก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังว่าอาจมีแรงขายในตลาดหุ้นTIPไว้ด้วยครับ

3.4ค่าเงินบาท และfund flow เป็นไปได้ว่าฝรั่งอาจเริ่มขายหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ที่ใกล้เขตbottom

*ค่าเงินบาท เริ่มอ่อนหลังดอลลาร์แข็งขึ้นตามคาด-ค่าเงินบาทอ่อนลงแตะ30.03บาท/ดอลลาร์ช่วงเช้าวันนี้ หลังจากค่าเงืนดอลลาร์แข็งขึ้น ควรจับตามองว่าหากอ่อนลงเกินระดับ30เด็ดขาด อาจอ่อนลงเป้าหมายต่อไป30.37-30.55บาท/ดอลลาร์

แนวโน้ม-ในทางเทคนิคนั้นค่าเงินบาทแข็งมาใกล้แนวต้านเป้าหมายใหญ่แถวๆ29.20บาท/ดอลลาร์นะครับ เป็นไปได้ว่าหากไม่เกินด่านนี้ก็อาจอ่อนแรงลง โดยหากผ่านแนวรับเขต30บาทโดยประมาณก็อาจเห็นอ่อนลงได้

*ค่าเงินดอลลาร์ใกล้แนวรับแข็งมากเขต76ดอลลาร์ เราอาจได้เห็นเฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ได้ในระยะต่อไป

แนวโน้ม-ปัญหาจริงๆตอนนี้คือเศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วง แต่การร่วงลงมานี้ก็ใกล้แนวรับที่แข็งแกร่งมาก คือแนวรับsupport lineของแนวโน้มระยะกลางบริเวณ76จุด ซึ่งล่าสุดนี้ลงมาที่76.335จุด แต่ล่าสุดแข็งค่าขึ้นผ่านแนวต้านแรก76.53จึงแข็งขึ้นรวดเร็วมาแถว78.57 ล่าสุด78.10(ดูค่าเงินดอลลาร์เรียลไทม์ได้ที่เวบไซต์ http://www.kitco.com/ ดูตรงมุมขวามือกลางๆจอ)

ความเห็นสำคัญ-ผมจึงคิดว่า อาจใกล้เวลาที่กองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)จะเข้ามาช้อนซื้อค่าเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไร ซึ่งก็น่าจะเห็นการขายทำกำไรในตลาดหุ้น(เช่น หุ้นดาวโจนส์อเมริกา หรือฮ่องกงขึ้นไปใกล้แนวต้านเป้าหมายตามที่กล่าวไปในตอนต้น เมื่อไม่ผ่านก็เจอขายทำกำไร แล้วเฮดจ์ฟันด์นำเงินกำไรหุ้นนั้นมาช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูก เพื่อหากำไรทั้ง2ตลาด)


*ดูเหมือนเงินทุนนอกยังจะเดินหน้าซื้อหุ้นไทยต่อไป แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านด่านหนึ่ง หากไม่ผ่านก็อาจเจอขายหุ้น

แนวโน้ม-เมื่อplotเป็นชาร์ตแล้วก็จะเห็นได้ว่า แรงซื้อต่างชาติรอบนี้แรงมากจนผ่านแนวต้านหลักๆขึ้นมาแล้ว แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านอีกด่านหนึ่ง อาจเริ่มเห็นฝรั่งขายหุ้นได้

*ข้อสรุปที่สำคัญ-น่าเพิ่มความระมัดระวังขึ้นเพราะว่าตลาดหุ้นโลกอย่างดาวโจนส์ หรือฮ่องกงขึ้นมาใกล้เป้าหมายที่อาจถูกเฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้น แล้วไปช้อนซื้อดอลลาร์เก็งกำไรสองต่อ (ซึ่งอาจเห็นฝรั่งขายทำกำไรในตลาดหุ้น เพื่อหาเงินไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อเก็งกำไรด้วย) โดยกรอบเวลานั้นอาจเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นในราวสัปดาห์นี้ โดยประมาณ โดยให้ดูดัชนีดาวโจนส์,ฮั่งเส็ง และดัชนีค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญครับ

สรุปก็คือผมว่า ดูด่าน992จุดในวันนี้ หากตีด่านนี้แตกยังน่าถือต่อ แต่หากไม่ชนะและหรือเริ่มลงหลุด980ก็น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อนดีกว่า เพราะอาจเสี่ยงตกลงไปเขต960+/-ได้ครับ



*************
เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เศรษฐศาสตร์ฉบับบ้านๆ:ค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นร้อนๆ(ตอน แมงเม่าเอย...จะบอกให้)


ตอนนี้ก็จับตาค่าเงินบาทกันเป็นหลักหละครับ หากมันยังแข็งอยู่ ก็แปลว่าเงินยังไหลมาปั่นราคาหุ้นให้ขึ้นกันต่อไป แต่หากค่าเงินบาทอ่อนลงเมื่อไร เห็นฝรั่งต่างชาติเทขายหลายวันติดๆกัน พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์แข็งโป๊กขึ้น ก็แสดงว่าเงินร้อนมันทำท่าจะเผ่นไปแล้ว เผ่นไม่เผ่นเปล่า มันไปฟันกำไรสองเด้งจากตลาดเงิน ปล่อยแมงเม่าติดดอยซะด้วย


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)

เหรียญมี2ด้านท่านว่านะครับ

เรื่องค่าเงินบาทที่พูดจาเป็นปัญหาใหญ่ในเวลานี้ เพราะกระทบกับการค้าการส่งออก การเศรษฐกิจ และผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าการเกษตรของพี่น้องเกษตรกร ได้รับผลลบ

ถามว่ามีคนได้ประโยชน์ไหม ก็มีเหมือนกัน

ที่เห็นกันตรงๆก็คือบรรดาห้างร้านอุตสาหกรรมต่างๆที่จัดซื้อเครื่องจักรเครื่องกลเข้ามา ก็ได้จ่ายในราคาที่ถูกลง

หรือเรื่องราคาน้ำมันนี่ก็เหมือนกัน เรานำเข้าน้ำมันมาเยอะมากก็ได้ในราคาที่ถูกลงเช่นกัน แต่ดูเหมือนผลประโยชน์ยังไม่ตกถึงมือคนใช้น้ำมันเติมรถซักเท่าไหร่ เพราะว่าบริษัทปั๊มน้ำมันอ้างว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็สูงขึ้นไปด้วย

อีกวงการที่ได้รับผลประโยชน์เต็มๆก็คงเป็นวงการตลาดหุ้นแหละครับ เพราะเมื่อค่าเงินบาทแข็งโป๊กอย่างนี้ แสดงว่ามีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาเล่นหุ้น รวมทั้งมาฝากดอกเบี้ย และซื้อพวกพันธบัตร หุ้นกู้ในบ้านเรา

เหตุที่เงินนอกประเทศไหลเข้ามาลงทุนในบ้านเรา ก็มีความเป็นไปเป็นมาง่ายๆคือ เศรษฐกิจอเมริกา ยุโรปแย่ ทำให้เขาต้องลงอัตราดอกเบี้ยไปเรี่ยพื้น อย่างอเมริกาก็ใกล้0%เต็มแก่ ตอนนี้0.25% หากเศรษฐกิจยังแย่ไปเรื่อยๆ ก็อาจหั่นลงไปอีก

คล้ายๆกับญี่ปุ่นใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำมานานหลายสิบปี

เมื่อเงินฝากแบงก์ทางนั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ผลตอบแทนน้อยมาก เจ้าของเงินทั้งกองทุนยักษ์ใหญ่ กองทุนเก็งกำไรที่เรียกว่าhedge
fund(หากนึกไม่ออกก็แบบเดียวกับกองทุนนายจอร์จ โซรอสนั่นแหละ)และเศรษฐีมีสตังค์ก็ขนเงินออกไปลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจดี

ทางแถบทวีปเอเชียเราเศรษฐกิจดีครับ เหตุเพราะเมืองจีนเปิดประเทศหลายสิบปีก่อน เลิกระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ เปิดรับเศรษฐกิจทุนนิยมเสรีการตลาด ประเทศอินเดียที่อยู่ใกล้กันก็แข่งกันทำมาหากิน

คนจีนกับคนอินเดียถูกโรคกับระบบทุนนิยม เพราะขยันประหยัดมัธยัสถ์อดออม ชอบค้าขายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยเซ็งลี้ฮ้อกันใหญ่ ประกอบกับคนในจีนก็ปาเข้าไป1,300ล้านคน เมืองอินเดีย900ล้านคน แค่2ประเทศรวมกันก็ปาเข้าไปเกิน2,000ล้านคนแล้ว

แค่ผลิตของออกมาตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบขายกันในประเทศก็ทำไม่พอขายแล้ว เอาตัวอย่างง่ายๆว่าผลิตไม้จิ้มฟันขายคน2,000กว่าล้านคนนี่ก็ไม่ต้องไปพึ่งการส่งออกไปทางอเมริกา ยุโรปเลย ทำให้2ประเทศนี้พึ่งพาเงินจากการส่งออกไปต่างประเทศแค่เพียง20% ที่เหลือทำเองขายเองใช้เอง เฮงลูกเดียว

เมื่อเป็นดังนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจอเมริกา ยุโรปจะเจ๊ง เจอแฮมเบอร์เกอร์ไครซีส ก็เลยแทบไม่มีผลกระทบอะไรนักต่อ2ประเทศนี้

หากดูแผนที่ลกก็จะเห็นว่า ซีกตะวันตกอย่างอเมริกา ยุโรปแย่ แต่ซีกโลกตะวันออกกลับดีใจหาย เมื่อเป็นดังนี้ก็เลยทำให้ฝรั่งขนเงินออกจากอเมริกา ยุโรปมาลงทุน หรือมาฝากเงิน มาซื้อพันธบัตร มาซื้อหุ้นกู้และมาเล่นหุ้นใน2ประเทศนี้

ทำให้เศรษฐกิจ2ประเทศนี้โป่งขึ้นมาวูบวาบในช่วง2-3ปีให้หลังมานี้ ทีนี้รัฐบาล2ประเทศนี้ก็เกิดกลัวว่าฟองสบู่จะแตกโพละเข้าให้
เลยใช้นโยบายการเงินด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และห้ามกู้เงินไปเล่นหุ้นหรือเอาไปปั่นที่

พวกกองทุนเก็งกำไร หรือhedgde fundก็เลยพากันขายทำกำไรใน 2 ประเทศนั้น แต่ไม่เอาเงินกลับบ้าน ก็เล็งหาว่าจะหิ้วเงินกับกำไรไปเล่นที่ไหนต่อ

เล็งไปเล็งมาหันมาเจอ 3 ประเทศในย่านอาเซียนที่เขาเรียกว่าTIP อันเป็นชื่อย่อของThailand/Indonesia/Philipinesเข้าพอดี

อาศัยว่าเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เริ่มฟื้นตัวตามเมืองจีนเมืองอินเดีย ขณะที่ก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม2ประเทศนี้

เงินทุนเหล่านี้ก็ไหลเข้ามาฝากดอกเบี้ยกินส่วนต่าง หรือบางส่วนก็ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน และบางส่วนก็ทะลักเข้ามาในตลาดหุ้น ทำเอาตลาดหุ้นTIPทะยานวิ่งกันตับแล้บ และขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย นับจากจุดต่ำสุดเมื่อปี2551
ขึ้นกันมาบางตลาด 200%แล้ว อย่างเมืองไทยขึ้นมาซัก150%เห็นจะได้

ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาป้วนเปี้ยนแถว1000จุด ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี2539 หรือในรอบ 15 ปี ยังเคราะห์ดีว่าหากพิจารณาราคาต่อกำไร(price per arning-P/E)ยังอยู่แถวระดับ15เท่าตัว หากเทียบตอนฟองสบู่แตกรอบก่อนเคยพุ่งไป31เท่าตัว ก็ยังเรียกว่าไม่แพง

แต่กหากเทียบกับตอนปี51ที่หุ้นไทยเรามีP/Eอยู่5เท่าตัว ก็ไม่นับว่าถูกแล้ว

ฟังมาล่าสุดว่าทางด้านบริษัทMorgan Stanleyเจ้าของดัชนีMSCI ซึ่งเป็นดัชนีที่วงการเล่นหุ้นทั่วโลกนิยมเอามาเป็นข้อมูลประกอบการเล่นหุ้นนั้น เขาได้ออกรายงานว่าน่าจะลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ลงจากเดิมให้น้ำหนัก6% เหลือ3%
เพราะตอนนี้ราคาหุ้นในประเทศเกิดใหม่แพงไปหน่อย

ตลาดประเทศเกิดใหม่ หรือฝรั่งเรียกว่าEmerging Marketนี้ความหมายก็คือตลาดหุ้นที่เปิดกันมาไม่นาน

อย่างตลาดหุ้นเมืองไทยเปิดมาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518 อายุอานามตอนนี้ก็35ปีเต็ม คนอาจคิดว่าเก๋าพอตัว แต่ฝรั่งยังเรียกว่าตลาดเกิดใหม่ เพราะเขานำไปเทียบกับตลาดหุ้นเกิดนานเป็น100-200ปีอย่างตลาดอเมริกา ยุโรป
หรือญี่ปุ่น

หากฝรั่งเชื่อMSCIแล้วขายหุ้นบ้านเราซะ หรือขายหุ้นทั่วโลกก็คิดว่า อาจนำกำไรที่ขายหุ้นได้ไปช้อนซื้อเงินดอลลาร์ที่ลงมาถูกๆเวลานี้
แล้วอาจปั่นเงินดอลลาร์ขึ้นไปแพงๆ เวลาเดียวกันตลาดหุ้นก็อาจร่วงลงมาหนักๆก็เป็นไปได้

เรื่องทำนองนี้ตลาดหุ้นเมืองไทยเราเจอกันมาบ่อยๆครับในรอบ 35 ปีมานี้ จนแมงเม่าตายเกลื่อนตลาดมานักต่อนัก แต่คนก็ไม่เคยเข็ดหลาบกัน หมดแมงเม่ารุ่นนี้เดี๋ยวก็มีรุ่นหน้าเกิดมารองรับอยู่เรื่อยๆ

คนที่กำไรทุกรอบก็คือพวกhedgde fundที่ฟันกำไรทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะเงินเหล่านี้เรียกว่า"เงินร้อน" หรือhot money
มาไวปั่นแรงขายเร็วไปเร็ว เวลาไปมันก็ไม่สั่งไม่ลา

คนไทยแมงเม่าเห็นฝรั่งขายมาก็ไปช้อนกันสนุกสนาน กว่าจะรู้ว่าติดยอดดอยก็สายซะแล้ว เพราะขาดทุรนกันอ่วมอรทัย บางรายก็หมดเนื้อสิ้นตัว

เพราะฉะนั้นแล้วเขาว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผมขอแถมให้ด้วยว่า การลงทุนย่อมมีความเสียว เวลาhot moneyไหลมาอย่างนี้

ผู้ลงทุนคนเล่นหุ้นจึงอย่าคิดแต่ได้ถ่ายเดียว ดูด้วยว่ามีเหตุเภทภัยอะไรรออยู่ไหม

ตอนนี้ก็จับตาค่าเงินบาทกันเป็นหลักหละครับ หากมันยังแข็งอยู่ ก็แปลว่าเงินยังไหลมาปั่นราคาหุ้นให้ขึ้นกันต่อไป แต่หากค่าเงินอ่อนลงเมื่อไร เห็นฝรั่งต่างชาติเทขายหลายวันติดๆกัน พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์แข็งโป๊กขึ้น ก็แสดงว่าเงินร้อนมันทำท่าจะเผ่นไปแล้ว

เตือนกันไว้ซะแต่วันนี้ เพราะผมขี้เกียจมาซับน้ำตาเอาทีหลัง

*****
เกี่ยวกับผู้เขียน
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)

คัมภีร์หุ้นไทย(19 ต.ค.):ฝรั่งลดน้ำหนักการลงทุน หากไม่ผ่านด่าน992ยังเสี่ยงปรับฐานลึกเป้าหมาย965จุด+/-



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC7)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30
(สมัครสมาชิกเพื่อดูชาร์ต และข้อมูลกระทิงทองส่องหุ้นเด่นรายตัว หรือรับข้อมูลหุ้นเด่นฉับไวทันการตัดสินใจทางSMS)
***************

1.ฝรั่งเริ่มขาย โบรกฝรั่งให้ลดน้ำหนักตลาดหุ้นเกิดใหม่(รวมทั้งไทย)

ตลาดหุ้นเมื่อวานตกปรับฐานตามคาดการณ์ โดยที่นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิเป็นครั้งแรกในช่วงหลายวันทำการ โดยขายสุทธิ541ล้านบาท

MS(บริษัทมอร์แกนสแตนเลย์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ใหญ่ของโลก เป็นเจ้าของดัชนีMSCIที่นักลงทุนทั่วโลกนำไปประกอบการตัดสินใจการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศต่างๆ)ได้ออกบทวิจัยแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่(Emerging market-ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ถือเป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่เช่นกัน) จากเดิม 6% เหลือน 3% เพราะขึ้นมาแรง ให้ขายทำกำไรและถือเงินสดเพิ่ม
ความเห็น:ข่าวนี้ถือเป็นข่าวเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก เพราะนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อถือคำแนะนำของมอร์แกนสแตนเลย์มาก
อย่างไรก็ดีการที่ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนปิดบวก +80จุด ปิดที่11143จุด จะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวระยะสั้นได้ในวันนี้

1.1ชนด่านแนวต้าน1000จุด 2 วันยังไม่ผ่าน ตกปรับฐาน วันนี้เด้ง แต่มีต้านด่าน992+/- หากไม่ผ่านยังเสี่ยงลงปรับฐานต่อไป เป้าหมายลงลึกๆ960-965จุด


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายวัน ดัชนีSETได้ขึ้นมาทดสอบแนวต้านทางเทคนิคและด่านจิตวิทยาบริเวณ1,000จุดมา2วันติดต่อกันในปลายสัปดาห์ก่อน เมื่อไม่ผ่านก็ตกตามคาด อย่างไรก็ตามในวันนี้อาจเกิดการรีบาวนด์ หรือฟื้นตัวทางเทคนิคระยะสั้น โดยมีแนวต้านด่าน992จุด เป็นด่านสำคัญของวันนี้

ข้อพิจารณาเป็นดังนี้

ก.ในทางบวก หากขึ้นวันนี้ไปผ่านด่าน992 หรือปิดเหนือ992 แสดงว่าการตกปรับฐานที่ผ่านมาจบแล้ว และจะขึ้นไปทดสอบด่าน1000จุด+/-ต่อไป และอาจได้ลุ้นผ่านขึ้นไปด่าน1020จุด และระยะกลาง1130จุด

ข.ในทางลบ หากขึ้นวันนี้ไม่ผ่านด่าน992จุด+/-แล้วโดนขายสลับลงมา และทำท่าลงปิดlowเขต980หรือลึกกว่า980 ให้คาดว่า การตกปรับฐานยังไม่จบ ยังเสี่ยงตกต่อไป970+/- หรือเป้าหมายลึกๆเขต960-965จุด

เมื่อพิจารณาค่าสัญญาณทางเทคนิคพบว่าเป็นเชิงลบ โดยเกิดสัญญาณขายในmodified stochatics เมื่อ%kตัดลงต่ำกว่า%d ขณะที่ชาร์ตแท่งเทียนเป็นเชิงลบ และเกิดBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

สรุป-หากSETขึ้นไปไม่ผ่านด่าน992จุด+/-ในวันนี้ และหรือลงไปปิดต่ำกว่า980จุด+/- ยังควรนำหุ้นที่กำไรออกมาขายทำกำไร และรอการตกปรับฐานจบก่อนแล้วค่อยพิจารณาต่อไป (เว้นแต่ทำท่าไปปิดเหนือ992จุดได้ จึงถือว่าจบปรับฐาน)


ชาร์ตที่2:เป็นภาพSETระยะยาว คือนับแต่เคยขึ้นไปทำพีคประวัติศาสตร์ที่1789จุดเมื่อปี2537และลงลึกสุดแถว204จุดเมื่อปี2541 เมื่อนำอนุกรมไฟโบนาชชี่มาวัดจะพบว่าSETกำลังมาทดสอบแนวต้านfibonacciด่าน50%บริเวณ1000จุด+/-

กรณีผ่านด่านนี้ จะขึ้นไป1130หรือ1200จุดในระยะต่อไป

กรณีไม่ผ่าน ก็อาจเกิดการตกปรับฐานรอบใหญ่ลงไปด่าน965-975เป็นอย่างน้อย หรือแย่ๆเขต800ต้นๆ

สรุป-ดูทิศทางตลาดวันนี้ หากผ่านด่าน992จุด+/-ก็น่าพัวพันเล่นขาขึ้นต่อไป หรือถือหุ้นต่อ แต่หากไม่ผ่านและหรือลงปิดต่ำกว่าเขต980จุด+/-จะเป็นสัญญาณการตกปรับฐานรอบใหญ่ น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อน

2.SET50อาจตกปรับฐานลงไปเขต670-680จุด หากไม่ผ่านแนวต้าน693+/-


ชาร์ตที่3:ดัชนีSET50 ทดสอบแนวต้านเป้าหมายแรกด่าน700จุด+/- ข้อพิจารณาเป็นดังนี้

ก.ทางบวก หากผ่านด่าน700จุด+/-ได้ในสัปดาห์นี้ ก็มีโอกาสขึ้นด่านต่อไป720ถัดไป740-750 แนวต้านเป้าหมายใหญ่800จุด+/-

ข.ในทางลบ หากไม่ผ่านด่าน700+/- และหรือลงปิดต่ำกว่าเขต693+/-ลงไปเด็ดขาด เสี่ยงตกลงไปเขต680หรือแนวรับหลัก670จุด+/- หรือกระทั่ง660-665จุด

ชาร์ตที่4:SET50รายวัน มีแนวต้านเขต693+/-(691-694จุด)หากผ่านมีโอกาสขึ้นไป700+/- แต่หากไม่ผ่านจะลงมาlowวานนี้684.50 และหากหลุดด่านนี้เสี่ยงลงด่านถัดไปคือ680,673-675 หรือเป้าลึกๆ670จุด+/-

คำแนะนำ-จับตามองว่าวันนี้หากฟื้นจะผ่านด่าน693+/-ได้หรือไม่ หากผ่านจะขึ้นไปด่าน700+/-อีกรอบ แต่หากไม่ผ่าน693+/-อาจเสี่ยง และลงแนวรับแรก684.50 และหากหลุดก็เสี่ยงลงไปเป้าหมายหลัก670+/-ได้ต่อไป

3.ปัจจัยที่น่าสนใจและต้องอ่านดีๆในช่วงนี้ หุ้นต่างประเทศ,หุ้นTIPและค่าเงินบาท +ยอดซื้อของfund flow

3.1ดาวโจนส์




แนวโน้ม-ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีโอกาสขึ้นไปทดสอบพีคเดิมบริเวณ11260จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากนั้นค่อยไปติดตามอีกที (กรณีผ่านก็ยังขึ้นอีกมาก แต่กรณีไม่ผ่านก็อาจเกิดตกปรับฐาน ฉุดตลาดหุ้นโลกขึ้นตามไปด้วย) โดยควรระมัดระวังไว้ก่อนกรณีไม่ผ่านอาจตกแรง และฉุดหุ้นไทยลงตาม

3.2ฮ่องกง เป้าหมายขึ้นรอบนี้24700จุด+/- แนวรับ23470จุด+/-


แนวโน้ม-เมื่อวานร่วงลงยืนแนวรับเขต23470จุดได้ ก็น่าฟื้นขึ้น โดยยังมีแนวต้านเป้าหมายบริเวณ24700-25000จุด+/-โดยประมาณ แต่หากขึ้นไปด่านนี้ก็อาจพักฐานได้ เพราะเข้าเขตover heatแล้ว

3.3 อินโดและฟิลิปปินส์ เพื่อนร่วมย่านTIP(Thailand /Indonesia/Philippines)

3ตลาดนี้ฝรั่งเรียกว่าTIP เป็นที่น่าสังเกตว่าเงินทุนไหลเข้า(fund flow)รอบนี้เข้ามา 3 ตลาดนี้เป็นหลัก แต่การที่MSCIได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดMSCIลงมานั้นก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังว่าอาจมีแรงขายในตลาดหุ้นTIPไว้ด้วยครับ

3.4ค่าเงินบาท และfund flow เป็นไปได้ว่าฝรั่งอาจเริ่มขายหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ที่ใกล้เขตbottom

*ค่าเงินบาท หลังเจอมาตรการขนานเบา-บาทยังแข็งขึ้นต่อ หลังเจอมาตรการขนานเบาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้นักเศรษฐศาสตร์อย่างดร.โกร่ง-วีรพงษ์ รามางกูร ออกโรงวิจารณ์ธปท.และรัฐมนตรีคลัง พร้อมเสนอให้ใช้ยาแรง ด้วยการลดดอกเบี้ยเหลือ0.75%(แต่ผมคิดว่าคุณกรณ์คงไม่เอาด้วย อย่าลืมว่าคุณกรณ์มีที่มาจากพื้นฐานตลาดหุ้น ไม่น่าออกมาตรการแรงๆทำร้ายตลาดหุ้น แต่มาตรการเพิ่มเติมก็อาจมีได้เช่นกัน เพียงแต่คุณกรณ์คงหลีกเลี่ยงยาขนานแรงที่ทำให้ตลาดหุ้นพัง) ขณะที่ล่าสุดผู้ว่าการธปท.แสดงทัศนะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของดร.โกร่งที่ให้fixค่าเงินบาท


แนวโน้ม-ในทางเทคนิคนั้นค่าเงินบาทแข็งมาใกล้แนวต้านเป้าหมายใหญ่แถวๆ29.20บาท/ดอลลาร์นะครับ เป็นไปได้ว่าหากไม่เกินด่านนี้ก็อาจอ่อนแรงลง โดยหากผ่านแนวรับเขต30บาทโดยประมาณก็อาจเห็นอ่อนลงได้

*ค่าเงินดอลลาร์ใกล้แนวรับแข็งมากเขต76ดอลลาร์ เราอาจได้เห็นฌฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ได้ในระยะต่อไป

แนวโน้ม-ปัญหาจริงๆตอนนี้คือเศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วง แต่การร่วงลงมานี้ก็ใกล้แนวรับที่แข็งแกร่งมาก คือแนวรับsupport lineของแนวโน้มระยะกลางบริเวณ76จุด ซึ่งล่าสุดนี้ลงมาที่76.335จุด ช่วงเช้าวันจันทร์(18ต.ค.)แข็งขึ้นมาแถว77.41จุด (ดูค่าเงินดอลลาร์เรียลไทม์ได้ที่เวบไซต์ http://www.kitco.com/ ดูตรงมุมขวามือกลางๆจอ)

ผมจึงคิดว่า อาจใกล้เวลาที่กองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)จะเข้ามาช้อนซื้อค่าเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไร ซึ่งก็น่าจะเห็นการขายทำกำไรในตลาดหุ้น(เช่น หุ้นดาวโจนส์อเมริกา หรือฮ่องกงขึ้นไปใกล้แนวต้านเป้าหมายตามที่กล่าวไปในตอนต้น เมื่อไม่ผ่านก็เจอขายทำกำไร แล้วเฮดจ์ฟันด์นำเงินกำไรหุ้นนั้นมาช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูก เพื่อหากำไรทั้ง2ตลาด)


*ดูเหมือนเงินทุนนอกยังจะเดินหน้าซื้อหุ้นไทยต่อไป แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านด่านหนึ่ง หากไม่ผ่านก็อาจเจอขายหุ้น

แนวโน้ม-เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิเป็นหนแรกในรอบหลายวันทำการ ซึ่งเมื่อplotเป็นชาร์ตแล้วก็จะเห็นได้ว่า แรงซื้อรอบนี้แรงมากจนผ่านแนวต้านหลักๆขึ้นมาแล้ว แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านอีกด่านหนึ่ง เมื่อเห็นฝรั่งเริ่มขายวานนี้ก็จะน่ากังวลว่าฝรั่งจะเริ่มขายทำกำไร

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ที่ว่ามานี้ตลาดหุ้นไทยยังจะได้แรงบวกจากfund flow แต่น่าเพิ่มความระมัดระวังขึ้นเพราะว่าตลาดหุ้นโลกอย่างดาวโจนส์ หรือฮ่องกงขึ้นมาใกล้เป้าหมายที่อาจถูกเฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้น แล้วไปช้อนซื้อดอลลาร์เก็งกำไรสองต่อ (ซึ่งอาจเห็นฝรั่งขายทำกำไรในตลาดหุ้น เพื่อหาเงินไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อเก็งกำไรด้วย) โดยกรอบเวลานั้นอาจเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นในราวสัปดาห์นี้ โดยประมาณ โดยให้ดูดัชนีดาวโจนส์,ฮั่งเส็ง และดัชนีค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญครับ

สรุปก็คือผมว่า ดูด่าน992จุดในวันนี้ หากตีด่านนี้แตกยังน่าถือต่อ แต่หากไม่ชนะและหรือเริ่มลงหลุด980ก็น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อนดีกว่า เพราะอาจเสี่ยงตกลงไปเขต960+/-ได้ครับ

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(18 ต.ค.):หากตีด่าน1พันจุดไม่แตกวันนี้ เสี่ยงตกปรับฐาน น่าขายล็อกกำไร


ผ่านหลักพันมันไม่ง่าย สงสัยจะถอยปรับฐาน หรือไม่งั้นก็วนๆซัก5รอบก่อนมั้ง....

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุน ทางTNN24(UBC07)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30น.

*ชนด่านแนวต้าน1000จุด 2 วันยังไม่ผ่าน ต้องระวังการตกปรับฐานรอบใหญ่ไว้ด้วย


ชาร์ตที่1:เป็นชาร์ตรายวัน ดัชนีSETได้ขึ้นมาทดสอบแนวต้านทางเทคนิคและด่านจิตวิทยาบริเวณ1,000จุดมา2วันติดต่อกัน 2 วันแต่ยังไม่ผ่าน ข้อพิจารณาเป็นดังนี้

ก.ในทางบวก หากผ่านด่านนี้ได้ในวันนี้SETก็จะขึ้นต่อไป โดยขึ้นไปเขต1010-1020ในสัปดาห์นี้แล้วค่อยปรับฐาน เพื่อไปต่อด่านเป้าหมายระยะกลาง1,130จุด

ข.ในทางลบ หากวันนี้ยังไม่ผ่านด่านแนวต้าน1,000จุด และหรือลงมาปิดต่ำกว่าเขต991เด็ดขาด SETจะเริ่มการตกปรับฐานรอบใหญ่ที่มีเป้าหมายลงไปตั้งแต่983หรือ975หรือกระทั่ง950จุด+/-

ข้อพิจารณา-ชาร์ตแท่งเทียนเป็นเชิงลบ และเกิดBearish divergence(คือราคาขึ้นมานิวไฮ แต่เครื่องมือRSI)ไม่ทำนิวไฮตาม ก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น หากSETไม่ผ่านด่าน1000จุด และหรือลงไปปิดต่ำกว่า991จุด ควรนำหุ้นที่กำไรออกมาขายทำกำไร และรอการตกปรับฐานจบก่อนแล้วค่อยพิจารณาต่อไป


ชาร์ตที่2:เป็นภาพSETระยะยาว คือนับแต่เคยขึ้นไปทำพีคประวัติศาสตร์ที่1789จุดเมื่อปี2537และลงลึกสุดแถว204จุดเมื่อปี2541 เมื่อนำอนุกรมไฟโบนาชชี่มาวัดจะพบว่าSETกำลังมาทดสอบแนวต้านfibonacciด่าน50%บริเวณ1000จุด+/-

กรณีผ่านด่านนี้ จะขึ้นไป1130หรือ1200จุดในระยะต่อไป

กรณีไม่ผ่าน ก็อาจเกิดการตกปรับฐานรอบใหญ่ลงไปด่าน965-975เป็นอย่างน้อย หรือแย่ๆเขต800ต้นๆ

สรุป-รอดูทิศทางตลาดวันนี้ หากผ่านด่าน1000จุดก็น่าพัวพันเล่นขาขึ้นต่อไป หรือถือหุ้นต่อ แต่หากไม่ผ่านและหรือลงปิดต่ำกว่าเขต991จุดจะเป็นสัญญาณการตกปรับฐานรอบใหญ่ น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อน



ชาร์ตที่3:ดัชนีSET50 ทดสอบแนวต้านเป้าหมายแรกด่าน700จุด+/- ข้อพิจารณาเป็นดังนี้

ก.ทางบวก หากผ่านด่าน700จุด+/-ได้ในวันนี้ ก็มีโอกาสขึ้นด่านต่อไป720ถัดไป740-750 แนวต้านเป้าหมายใหญ่800จุด+/-

ข.ในทางลบ หากไม่ผ่านด่าน700+/- และหรือลงปิดต่ำกว่าเขต690+/-ลงไปเด็ดขาด เสี่ยงตกลงไปเขต680หรือแนวรับหลัก670จุด+/- หรือกระทั่ง660-665จุด

คำแนะนำ-จับตามองว่าจะผ่านด่าน700ได้หรือไม่ หากผ่านก็เน้นทางขาขึ้น แต่หากไม่ผ่าน และหรือลงต่ำกว่า690จุดเด็ดขาดควรเน้นเล่นทางขาลง เพราะจะเกิดการตกปรับฐานได้

2.ปัจจัยที่น่าสนใจและต้องอ่านดีๆในช่วงนี้ หุ้นต่างประเทศ,หุ้นTIPและค่าเงินบาท +ยอดซื้อของfund flow

2.1ดาวโจนส์


แนวโน้ม-ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้เมื่อคืนพักยกลงมาปิด-1.5จุด ปิดที่11094จุด โดยมีโอกาสขึ้นไปทดสอบพีคเดิมบริเวณ11260จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากนั้นค่อยไปติดตามอีกที (กรณีผ่านก็ยังขึ้นอีกมาก แต่กรณีไม่ผ่านก็อาจเกิดตกปรับฐาน ฉุดตลาดหุ้นโลกขึ้นตามไปด้วย)



2.2ฮ่องกง เป้าหมายขึ้นรอบนี้24700จุด+/- แนวรับ23470จุด+/-


แนวโน้ม-หลังจากขึ้นผ่านแนวต้านรูปแบบbullish flagบริเวณ21450จุด ก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ช่วงนี้มีแนวรับเขต23470จุด+/- ขณะที่มีแนวต้านเป้าหมายบริเวณ24700-25000จุด+/-โดยประมาณ แต่หากขึ้นไปด่านนี้ก็อาจพักฐานได้ เพราะเข้าเขตover heatสังเกตจากตอนนี้%ของmodified stochasticsในชาร์ตรายวันขึ้นมาระดับ95%แล้ว


2.3 อินโดและฟิลิปปินส์ เพื่อนร่วมย่านTIP(Thailand /Indonesia/Philippines)

3ตลาดนี้ฝรั่งเรียกว่าTIP เป็นที่น่าสังเกตว่าเงินทุนไหลเข้า(fund flow)รอบนี้เข้ามา 3 ตลาดนี้เป็นหลัก

*อินโดนีเซีย ยังขึ้นได้ต่อไป

แนวโน้ม-ขึ้นผ่านแนวต้านเป้าหมายแรกเขต3500จุด ล่าสุดอยู่แถว3600จุด มีแนวรับเขต3500-3400 แนวต้านถัดไป3700ถัดไป4000แนวต้านเป้าหมายใหญ่4500จุด+/-

หากอินโดฯยังไปต่อ ก็แปลว่าเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในตลาดTIPก็ยังซื้อต่อ ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยต่อไป

*ฟิลิปปินส์-ยังขึ้นต่อ

แนวโน้ม-ขึ้นผ่านพีคเก่า3900จุด ล่าสุดมาแถว4250จุด มีแนวรับหลัก3900-4000จุด แนวต้านเป้าหมายถัดไป4700จุด

หากอินโดฯและฟิลิปปินส์ยังไปต่อ ก็แปลว่าเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในตลาดTIPก็ยังซื้อต่อ ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยต่อไป

1.4ค่าเงินบาท และfund flow

*ค่าเงินบาท หลังเจอมาตรการขนานเบา-บาทยังแข็งขึ้นต่อ หลังเจอมาตรการขนานเบาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้นักเศรษฐศาสตร์อย่างดร.โกร่ง-วีรพงษ์ รามางกูร ออกโรงวิจารณ์ธปท.และรัฐมนตรีคลัง พร้อมเสนอให้ใช้ยาแรง ด้วยการลดดอกเบี้ยเหลือ0.75%(แต่ผมคิดว่าคุณกรณ์คงไม่เอาด้วย อย่าลืมว่าคุณกรณ์มีที่มาจากพื้นฐานตลาดหุ้น ไม่น่าออกมาตรการแรงๆทำร้ายตลาดหุ้น แต่มาตรการเพิ่มเติมก็อาจมีได้เช่นกัน เพียงแต่คุณกรณ์คงหลีกเลี่ยงยาขนานแรงที่ทำให้ตลาดหุ้นพัง)


แนวโน้ม-ในทางเทคนิคนั้นค่าเงินบาทแข็งมาใกล้แนวต้านเป้าหมายใหญ่แถวๆ29.20บาท/ดอลลาร์นะครับ เป็นไปได้ว่าหากไม่เกินด่านนี้ก็อาจอ่อนแรงลง โดยหากผ่านแนวรับเขต30บาทโดยประมาณก็อาจเห็นอ่อนลงได้

*ค่าเงินดอลลาร์ใกล้แนวรับแข็งมากเขต76ดอลลาร์ เราอาจได้เห็นฌฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ได้ในระยะต่อไป

แนวโน้ม-ปัญหาจริงๆตอนนี้คือเศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วง แต่การร่วงลงมานี้ก็ใกล้แนวรับที่แข็งแกร่งมาก คือแนวรับsupport lineของแนวโน้มระยะกลางบริเวณ76จุด ซึ่งล่าสุดนี้ลงมาที่76.335จุด ช่วงเช้าวันจันทร์(18ต.ค.)แข็งขึ้นมาแถว77.41จุด (ดูค่าเงินดอลลาร์เรียลไทม์ได้ที่เวบไซต์ http://www.kitco.com/ ดูตรงมุมขวามือกลางๆจอ)

ผมจึงคิดว่า อาจใกล้เวลาที่กองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)จะเข้ามาช้อนซื้อค่าเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไร ซึ่งก็น่าจะเห็นการขายทำกำไรในตลาดหุ้น(เช่น หุ้นดาวโจนส์อเมริกา หรือฮ่องกงขึ้นไปใกล้แนวต้านเป้าหมายตามที่กล่าวไปในตอนต้น เมื่อไม่ผ่านก็เจอขายทำกำไร แล้วเฮดจ์ฟันด์นำเงินกำไรหุ้นนั้นมาช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูก เพื่อหากำไรทั้ง2ตลาด)


*ดูเหมือนเงินทุนนอกยังจะเดินหน้าซื้อหุ้นไทยต่อไป แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านด่านหนึ่ง

แนวโน้ม-เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิมากถึง 4,034 ล้านบาท ซึ่งเมื่อplotเป็นชาร์ตแล้วก็จะเห็นได้ว่า แรงซื้อรอบนี้แรงมากจนผ่านแนวต้านหลักๆขึ้นมาแล้ว แต่กำลังมาทดสอบแนวต้านอีกด่านหนึ่ง และตามชาร์ตนี้ก็ควรต้องคาดว่าหากยังซื้อต่ออีกซัก1พันล้านบาทในวันนี้ ก็อาจจะยังซื้อสุทธิต่อไปอีกราวๆ2หมื่นล้านบาท(กรณีดีเกินคาดอาจเป็นราวๆ4หมื่นล้านบาท) แต่หากเริ่มเห็นขายวันนี้ก็จะน่ากังวลว่าฝรั่งจะเริ่มขายทำกำไร

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ที่ว่ามานี้ตลาดหุ้นไทยยังจะได้แรงบวกจากfund flow แต่น่าเพิ่มความระมัดระวังขึ้นเพราะว่าตลาดหุ้นโลกอย่างดาวโจนส์ หรือฮ่องกงขึ้นมาใกล้เป้าหมายที่อาจถูกเฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้น แล้วไปช้อนซื้อดอลลาร์เก็งกำไรสองต่อ (ซึ่งอาจเห็นฝรั่งขายทำกำไรในตลาดหุ้น เพื่อหาเงินไปช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูกเพื่อเก็งกำไรด้วย) โดยกรอบเวลานั้นอาจเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นในราวสัปดาห์นี้ โดยประมาณ โดยให้ดูดัชนีดาวโจนส์,ฮั่งเส็ง และดัชนีค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญครับ

สรุปก็คือผมว่า ดูด่าน1000จุดในวันนี้ หรือต้นสัปดาห์นี้นะครับ หากตีด่านนี้แตกยังน่าถือต่อ แต่หากไม่ชนะและหรือเริ่มลงหลุด990ก็น่าขายล็อกกำไรไว้ก่อนดีกว่า

**********
อบรมมือใหม่หัดเล่นหุ้นให้รวยรุ่นที่ 30 /วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมนี้



*ลงทุนในตลาดหุ้น หรือซื้อกองทุนอย่างไรให้ได้รับผลตอบแทนดี มั่นคงมั่งคั่ง
*แต่นี่เป็นเงินที่หามายากเย็น ทำอย่างไรจะไม่เสี่ยงหมดเนื้อหมดตัว
*ลงทุนในตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากแบงก์ก็จริง แต่!อย่าเสี่ยงเข้ามาลองผิดลองถูกในตลาดหุ้น
*ลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่การปาเป้าไปโดนตัวไหนก็รวย เพราะตลาดเป็นขาขึ้น
*ลงทุน-เล่นหุ้นก็เหมือนทุกอย่างในโลกนี้ต้องเรียนรู้ก่อน
*สอนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ วันเดียบจบ
*สอนตั้งแต่ไม่รู้เรื่องจนลงทุนเป็น
*สอนในห้องค้าจำลอง ใช้ภาษาง่ายๆเข้าใจเร็ว
*สอนคัดหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยด้วยตัวท่านเอง
*สอนจังหวะเข้า-ออกทำกำไรงาม พร้อมตัวอย่างจริง
*เหมาะกับทั้งมือใหม่ หรือผู้ลงทุนมาแล้วแต่ไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง
*หลักสูตรนี้เหมาะกับผู้เริ่มต้นวัยเยาวชน ไปถึงคนเกษียณอายุที่จะลงทุนให้ถูกวิธี
*ด้วยค่าเรียนคุ้มค่าที่สุดเพียงท่านละ2,400บาท หรือครอบครัวละ4,000บาท(ปิดเทอมนี้พาลูกมาเรียนหุ้นให้รวย)
*สอนโดยอ.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ผู้ดำเนินรายการเพื่อนนักลงทุน TRUE VISION 7
*สำรองที่นั่ง จำนวนจำกัด รุ่นละ 10 ครอบครัว ไม่เกิน 20 ท่านเท่านั้น โทร.029275800


หรือ โทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หลักสูตรทำกำไรในTFEXทั้งขาขึ้นและขาลงงานอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรทำกำไรในTFEXทั้งขาขึ้นและขาลง

มีพอร์ตตัวอย่างของผู้เคยผ่านการอบรมมาให้ดูเขาทำได้ไง3เดือนกำไร100%

*การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงผลงานการลงทุนในอดีตไม่อาจรับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้

วัน-อาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2553
เวลา-08.30-17.00 น.
สถานที่-ห้องฝึกอบรมชั้น 2 บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ผู้สอน 1.อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น
2.คุณอุบลรัตน์ นนทสินธ์ เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส บล.กิมเอ็งประเทศไทย จำกัด(มหาชน)

กำหนดการ

08.30-09.00 ลงทะเบียน
09.00-10.00 คุณอุบลรัตน์บรรยายความรู้สำหรับการเริ่มลงทุนในTFEXอิงSET 50 FUTURES และDIRIVATIVE WARRANT,การทำธุรกรรมSBL รวมทั้งGOLD FUTURES

10.00-10.15 พักอาหารว่าง

10.15-12.30 อาจารย์ณัฐวุฒิบรรยายและจัดทำเวิร์คช็อปการวิเคราะห์TFEXด้วยชาร์ตให้แม่นยำ
-อ่านแนวโน้มของตลาดรวมให้ขาด(SET และดัชนีหุ้นโลกที่มีผลกระทบต่อSET เช่น หุ้นอเมริกา,ฮ่องกง)
-อ่านแนวโน้มของSET50ให้ขาด(รวมทั้งดัชนีกลุ่มที่มีผลต่อSET50เช่นกลุ่มพลังงาน,แบงก์,วัสดุฯ,สื่อสาร)
-อ่านแนวโน้มของTFEXแต่ละสัญญาให้ขาดด้วยมุมมองทางเทคนิค
-การใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น MOVING AVERAGE,STOCHASTICS,MACD,PARABOLIC,BOLINGER BANDในการวิเคราะห์TFEX
-การใช้ชาร์ตแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์TFEX
-การใช้GOLDEN RATIOของFIBONNACCI NUMBERหาเป้าหมายในการเข้า และออกให้แม่นยำทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง

12.30-13.30 พักรับประทานอาหารเที่ยง

13.30-15.30น. เวิร์คช็อปการวิเคราะห์แนวโน้ม,การหาจุดเข้าและออกด้วยชาร์ตรายสัปดาห์,รายวันสำหรับผู้ลงทุนที่มีสถานะการลงทุนระยะกลาง หรือลงทุนเป็นรอบใหญ่
15.30-15.45น.พักรับของว่าง
15.45-17.00น. การวิเคราะห์แนวโน้มและหาจุดเข้าออกสำหรับนักลงทุนระยะข้ามวัน(COVER NIGHT TRADERS)หรือDAY TRADERSสำหรับนักเก็งกำไร โดยใช้เทคนิค
17.00-17.30 กฎเหล็กและวินัยสำคัญสำหรับผู้ลงทุนTFEXเพื่อลดความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร

หมายเหตุ:อบรมโดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์หุ้นAPEX-IRS เป็นหลัก และใช้โปรแกรมของEfinancethaiด้วยสำหรับการวิเคราะห์ระดับนาที

เรียนเชิงปฏิบัติการในวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2553 เวลา09.00-17.00น.ที่ห้องอบรมบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่นจำกัด รามคำแหง 160 โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 25 ท่าน 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

คัมภีร์หุ้นไทย(15 ต.ค.):ช่วงนี้ขึ้นมาใกล้พีคของรอบ รอขายช่วงขึ้น1000-1020จุด เฝ้าระวังดอลลาร์ถึงฐาน เฮดจ์ฟันด์อาจขายทำกำไรหุ้นไปช้อนซื้อ$



โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามรายการเพื่อนนักลงทุนทางTNN24(UBC07) จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30

1.ปัจจัยที่น่าสนใจและต้องอ่านดีๆในวันนี้ หุ้นต่างประเทศ,หุ้นTIPและค่าเงินบาท +ยอดซื้อของfund flow

1.1ดาวโจนส์


แนวโน้ม-ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้เมื่อคืนพักยกลงมาปิด-1.5จุด ปิดที่11094จุด โดยมีโอกาสขึ้นไปทดสอบพีคเดิมบริเวณ11260จุดที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากนั้นค่อยไปติดตามอีกที (กรณีผ่านก็ยังขึ้นอีกมาก แต่กรณีไม่ผ่านก็อาจเกิดตกปรับฐาน ฉุดตลาดหุ้นโลกขึ้นตามไปด้วย)

ส่วนระยะนี้คงยังเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นไทย

1.2ฮ่องกง เป้าหมายขึ้นรอบนี้24700จุด+/- แนวรับ23470จุด+/-


แนวโน้ม-หลังจากขึ้นผ่านแนวต้านรูปแบบbullish flagบริเวณ21450จุด ก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ช่วงนี้มีแนวรับเขต23470จุด+/- ขณะที่มีแนวต้านเป้าหมายบริเวณ24700-25000จุด+/-โดยประมาณ แต่หากขึ้นไปด่านนี้ก็อาจพักฐานได้ เพราะเข้าเขตover heatสังเกตจากตอนนี้%ของmodified stochasticsในชาร์ตรายวันขึ้นมาระดับ95%แล้ว

ระยะนี้ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด แต่หากขึ้นไปเขตแนวต้านเป้าหมายแล้วก็อาจตกปรับฐานได้

1.3 อินโดและฟิลิปปินส์ เพื่อนร่วมย่านTIP(Thailand /Indonesia/Philippines)ยังคงขึ้นได้ต่อไป
3ตลาดนี้ฝรั่งเรียกว่าTIP เป็นที่น่าสังเกตว่าเงินทุนไหลเข้า(fund flow)รอบนี้เข้ามา 3 ตลาดนี้เป็นหลัก

*อินโดนีเซีย ยังขึ้นได้ต่อไป

แนวโน้ม-ขึ้นผ่านแนวต้านเป้าหมายแรกเขต3500จุด ล่าสุดอยู่แถว3600จุด มีแนวรับเขต3500-3400 แนวต้านถัดไป3700ถัดไป4000แนวต้านเป้าหมายใหญ่4500จุด+/-

หากอินโดฯยังไปต่อ ก็แปลว่าเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในตลาดTIPก็ยังซื้อต่อ ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยต่อไป

*ฟิลิปปินส์-ยังขึ้นต่อ

แนวโน้ม-ขึ้นผ่านพีคเก่า3900จุด ล่าสุดมาแถว4250จุด มีแนวรับหลัก3900-4000จุด แนวต้านเป้าหมายถัดไป4700จุด

หากอินโดฯและฟิลิปปินส์ยังไปต่อ ก็แปลว่าเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในตลาดTIPก็ยังซื้อต่อ ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยต่อไป

1.4ค่าเงินบาท และfund flow

*ค่าเงินบาท หลังเจอมาตรการขนานเบา-บาทยังแข็งขึ้นต่อ หลังเจอมาตรการขนานเบาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้นักเศรษฐศาสตร์อย่างดร.โกร่ง-วีรพงษ์ รามางกูร ออกโรงวิจารณ์ธปท.และรัฐมนตรีคลัง พร้อมเสนอให้ใช้ยาแรง ด้วยการลดดอกเบี้ยเหลือ0.75%(แต่ผมคิดว่าคุณกรณ์คงไม่เอาด้วย อย่าลืมว่าคุณกรณ์มีที่มาจากพื้นฐานตลาดหุ้น ไม่น่าออกมาตรการแรงๆทำร้ายตลาดหุ้น แต่มาตรการเพิ่มเติมก็อาจมีได้เช่นกัน เพียงแต่คุณกรณ์คงหลีกเลี่ยงยาขนานแรงที่ทำให้ตลาดหุ้นพัง)


แนวโน้ม-ในทางเทคนิคนั้นค่าเงินบาทแข็งมาใกล้แนวต้านเป้าหมายใหญ่แถวๆ29.20บาท/ดอลลาร์นะครับ เป็นไปได้ว่าหากไม่เกินด่านนี้ก็อาจอ่อนแรงลง โดยหากผ่านแนวรับเขต30.25บาทโดยประมาณก็อาจเห็นอ่อนลงได้

*ค่าเงินดอลลาร์ใกล้แนวรับแข็งมากเขต76ดอลลาร์ เราอาจได้เห็นฌฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้นไปช้อนซื้อเก็งกำไรดอลลาร์ได้ในระยะต่อไป

แนวโน้ม-ปัญหาจริงๆตอนนี้คือเศรษฐกิจอเมริกาไม่ดี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ร่วง แต่การร่วงลงมานี้ก็ใกล้แนวรับที่แข็งแกร่งมาก คือแนวรับsupport lineของแนวโน้มระยะกลางบริเวณ76จุด ซึ่งล่าสุดนี้ลงมาที่76.475จุด ช่วงเช้าวันศุกร์(15ต.ค.)แข็งขึ้นเล็กน้อยมาแถว76.70จุด (ดูค่าเงินดอลลาร์เรียลไทม์ได้ที่เวบไซต์ http://www.kitco.com/ ดูตรงมุมขวามือกลางๆจอ)

ผมจึงคิดว่า อาจใกล้เวลาที่กองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)จะเข้ามาช้อนซื้อค่าเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไร ซึ่งก็น่าจะเห็นการขายทำกำไรในตลาดหุ้น(เช่น หุ้นดาวโจนส์อเมริกา หรือฮ่องกงขึ้นไปใกล้แนวต้านเป้าหมายตามที่กล่าวไปในตอนต้น เมื่อไม่ผ่านก็เจอขายทำกำไร แล้วเฮดจ์ฟันด์นำเงินกำไรหุ้นนั้นมาช้อนซื้อดอลลาร์ราคาถูก เพื่อหากำไรทั้ง2ตลาด)


*ดูเหมือนเงินทุนนอกยังจะเดินหน้าซื้อหุ้นไทยต่อไป

แนวโน้ม-เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิมากถึง 4,034 ล้านบาท ซึ่งเมื่อplotเป็นชาร์ตแล้วก็จะเห็นได้ว่า แรงซื้อรอบนี้แรงมากจนผ่านแนวต้านหลักๆขึ้นมาแล้ว และตามชาร์ตนี้ก็ควรต้องคาดว่าอาจจะยังซื้อสุทธิต่อไปอีกราวๆ2หมื่นล้านบาท(กรณีดีเกินคาดอาจเป็นราวๆ4หมื่นล้านบาท)

*ข้อสรุปที่สำคัญ-ที่ว่ามานี้ตลาดหุ้นไทยยังจะได้แรงบวกจากfund flowต่อไปอีกระยะ แต่น่าเพิ่มความระมัดระวังขึ้นเพราะว่าตลาดหุ้นโลกอย่างดาวโจนส์ หรือฮ่องกงขึ้นมาใกล้เป้าหมายที่อาจถูกเฮดจ์ฟันด์ขายทำกำไรหุ้น แล้วไปช้อนซื้อดอลลาร์เก็งกำไรสองต่อ (ซึ่งอาจเห็นฝรั่งขายทำกำไรในตลาดหุ้นด้วย) โดยกรอบเวลานั้นอาจเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นซักราว 1 สัปดาห์ข้างหน้าโดยประมาณ โดยให้ดูดัชนีดาวโจนส์,ฮั่งเส็ง และดัชนีค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญครับ

สรุปก็คือผมว่าถือหุ้นไว้รอขายทำกำไรนะครับ ส่วนจะซื้อหรือเพิ่มพอร์ตตอนนี้ ผมว่ารอไว้ก่อนดีกว่า ให้เกิดการตกปรับฐานในช่วงซักสัปดาห์หน้า คือหุ้นไทยอาจขึ้นไปเขต1000ไม่เกิน1020จุด อาจตกปรับฐานลงมา ค่อยเข้าช้อนซื้อ อาจกินเวลาจากนี้ไปราว1-2สัปดาห์หน้าจะดีกว่าครับ

2.1ภาพSETระยะกลางเป้าหมาย1,130จุด แต่ระยะสั้นไม่น่าเกิน1020จุด อาจเจอขายทำกำไร

2.1ภาพระยะกลางเป้าหมายใหญ่1130จุด

-โบรกเกอร์ต่างชาติJP MORGANประเมินว่าในระยะ 12 เดือน หุ้นไทยมีเป้าหมายขึ้นไป1120จุด


ภาพชาร์ตระยะกลาง-จะมีแนวต้านด่านแรก1000-1020จุด หากผ่านมีโอกาสขึ้นไปเป้าหมายใหญ่ถัดไป1105-1130จุด .ในระยะต่อไป(กรณีไม่ผ่านก็อาจตกปรับฐานลงมาเขต970หรือ925จุด+/-

2.2ภาพแนวโน้มระยะสั้นอาจเจอขายพักฐานไม่เกิน1000 หรือดีสุด1020จุด สัญญาณลบbearish divergence

ภาพแนวโน้มช่วงนี้-SET วันก่อนผ่านด่านแนวต้านรูปแบบสามเหลี่ยมจึงเหวี่ยงขึ้นมา แนวต้านแรก999 ก่อนอ่อนตัวลงวานนี้ปิดที่ 992.60จุด

วันนี้มีกรอบแนวรับ 992-986จุด แนวต้านแรก999จุด หากผ่านจะขึ้นไปด่านถัดไป1004ถัดไป1007-1010จุด กรณีดีสุดไม่น่าเกินบริเวณ1020จุด

อย่างไรก็ตามค่าสัญญาณRSIเป็นเชิงลบ คือเกิดbearish divergence กล่าวคือค่าสัญญาณRSIไม่สูงตามราคาที่ทำนิวไฮ หากวิ่งขึ้นไปก็อาจพบแรงขายทำกำไร และอาจตกปรับฐานลงมาเขต985จุด+/-ได้เช่นกันในวันนี้ ซึ่งหากไม่หลุดด่านนี้อาจน่าซื้อเล่นเก็งกำไรสำหร้บผู้เล่นรอบสั้น

คำแนะนำสำคัญ-นักลงทุนที่เล่นรอบสั้น ควรขายช่วงเหวี่ยงขึ้นแรงๆ(sell on strength) ส่วนนักลงทุนระยะกลางที่ทนกับความผันผวนได้ แนะนำถือหุ้นได้ต่อไป

3.SET50ระยะกลางเป็นขาขึ้น ระยะสั้นระวังแรงขายเขต700จุด+/-


3.1ระยะกลาง-กำลังมาทดสอบแนวต้านเป้าหมายแรกเขต700จุด+/- หากผ่านก็มีโอกาสขึ้นไปด่านถัดไป720ถัดไป740-750 และเป้าหมายใหญ่755-800จุด แต่หากไม่ผ่านด่านแรกเขต700+/- อาจเสี่ยงตกปรับฐานลงไปเขต680-660จุดได้

3.2ระยะสั้นเกิดBearish divergence หากไม่รีบผ่านด่าน700วันนี้อาจตกปรับฐาน

ภาพชาร์ตระยะสั้นกำลังมาทดสอบแนวต้านวันนี้ด่านแรก700จุด+/- ขณะที่ค่าสัญญาณRSIเกิดBearish divergence หากไม่ผ่านก็อาจเสี่ยงตกลงไปเขต688-685จุด และหากหลุดก็เสี่ยงลงลึกๆไปแถว660-670จุดได้ต่อไป

อย่างไรก็ตามหากวันนี้ผ่านด่าน700จุด+/- จะเหวี่ยงขึ้นไปเป้าหมายถ้ดไป710-715จุด

คำแนะนำ-จับตามองหากไม่ผ่านด่าน700จุด+/- น่าขายทำกำไร ยกเว้นมีแรงซื้อผ่านด่านนี้จะน่าถือต่อไป

หมายเหตุ:สมัครสมาชิกเพื่อจะได้ดูชาร์ต และหุ้นเด่นรายตัว โทร 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

strong>อบรมเล่นTFEXให้รวยทั้งขาขึ้นและขาลงต้องหยั่งรู้แนวโน้มให้ได้ระดับขั้นเทพ

-ข้อดีของTFEXคือหากำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น และขาลง
-ข้อเสียคือหากไม่รู้วิธีลงทุนที่ถูกต้องมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียหาย ถ้าได้มาก็คือฟลุค
-เรียนรู้วิธีการลงทุนและเก็งกำไรอย่างถูกต้องทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อพิชิตTFEX
-สอนวิธีเล่นTFEXอิงSET50Futuresตั้งแต่ไม่เป็นไปจนชำนาญ
-สอนวิธีดูกราฟแนวโน้มให้ขาดว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง เพื่อลดความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร
-สอนวิธีวัดเป้าหมายการขึ้นหรือลง ทั้งระยะสั้นสำหรับการเก็งกำไรDay trade,Cover night และระยะกลางสำหรับการลงทุน
-สอนวิธีหาจุดเข้าและจุดออก จุดเปิดและปิดเพื่อทำกำไรอย่างแม่นยำ
-สอนวิธีหาจุดหยุดขาดทุน(stop loss)เมื่อเล่นผิดทาง เพื่อจำกัดความเสี่ยง

สอนโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ผู้มีประสบการณ์สอนดูกราฟและแนวโน้มอย่างแม่นยำที่สุดคนหนึ่งของประเทศ และคุณอุบลรัตน์ นนท์สินธ์ เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)

ค่าอบรมท่านละ3,500บาท มา2ท่านลดเหลือ5,500บาท

เรียนเชิงปฏิบัติการในวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2553 เวลา09.00-17.00น.ที่ห้องอบรมบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่นจำกัด รามคำแหง 160 โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 25 ท่าน 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คัมภีร์หุ้นไทย(14 ต.ค.):ระยะกลางกระทิง1130 ระยะสั้นมีสัญญาณลบ Bearish divergenceน่าขายช่วงเหวี่ยงขึ้น1000-1020จุด


JP MORGANให้เป้าหมายระยะ12เดือน 1120 จุด อย่างไรก็ตามผมเห็นค่าสัญญาณทางเทคนิคเป็นลบ โดยเกิดBearish divergenceในค่าสัญญาณRSI หากขึ้นไปตั้งแต่998-1000 หรือดีสุดไม่เกิน1020ก็อาจพบแรงขาย ตกปรับฐานซักยก

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com ติดตามชมรายการเพื่อนนักลงทุน ทางTNN24(UBC07)จันทร์-ศุกร์ 13.10-13.30

1.ภาพSETระยะกลางเป้าหมาย1,130จุด แต่ระยะสั้นไม่น่าเกิน1020จุด อาจเจอขายทำกำไร

1.1ภาพระยะกลางเป้าหมายใหญ่1130จุด

-โบรกเกอร์ต่างชาติJP MORGANประเมินว่าในระยะ 12 เดือน หุ้นไทยมีเป้าหมายขึ้นไป1120จุด


ภาพชาร์ตระยะกลาง-จะมีแนวต้านด่านแรก1005-1010จุด หากผ่านมีโอกาสขึ้นไปเป้าหมายใหญ่ถัดไป1105-1130จุด

1.2ภาพแนวโน้มระยะสั้นอาจเจอขายพักฐานไม่เกิน1010-1020จุด สัญญาณลบbearish divergence

ภาพแนวโน้มช่วงนี้-SETผ่านด่านแนวต้านรูปแบบสามเหลี่ยมจึงเหวี่ยงขึ้นมา แนวต้านแรก998-1000จุด ถัดไป1007-1010จุด ส่วนแนวต้านเป้าหมายรอบนี้บริเวณ1020จุด

ค่าสัญญาณRSIเป็นเชิงลบ คือเกิดbearish divergence กล่าวคือค่าสัญญาณRSIไม่สูงตามราคาที่ทำนิวไฮ หากวิ่งขึ้นไปก็อาจพบแรงขายทำกำไร และอาจตกปรับฐานลงมาเขต985จุด+/-ได้

คำแนะนำสำคัญ-นักลงทุนที่เล่นรอบสั้น ควรขายช่วงเหวี่ยงขึ้นแรงๆ(sell on strength) ส่วนนักลงทุนระยะกลางที่ทนกับความผันผวนได้ แนะนำถือหุ้นได้ต่อไป

2.SET50ระยะกลางเป็นขาขึ้น ระยะสั้นระวังแรงขายเขต700จุด+/-




ระยะกลาง-กำลังมาทดสอบแนวต้านเป้าหมายแรกเขต700จุด+/- หากผ่านก็มีโอกาสขึ้นไปด่านถัดไป720ถัดไป740-750 และเป้าหมายใหญ่755-800จุด แต่หากไม่ผ่านด่านแรกเขต700+/- อาจเสี่ยงตกปรับฐานลงไปเขต680-660จุดได้

2.2ระยะสั้นเกิดBearish divergence


ภาพชาร์ตระยะสั้นกำลังมาทดสอบแนวต้านวันนี้ด่านแรก695ถัดไป700จุด+/- ขณะที่ค่าสัญญาณRSIเกิดBearish divergence หากไม่ผ่านก็อาจเสี่ยงตกลงไปเขต688จุด และหากหลุดก็เสี่ยงลงลึกๆไปแถว660-670จุดได้ต่อไป

คำแนะนำ-น่าขายทำกำไร หากไม่ผ่านด่าน700จุด+/-

อบรมเล่นTFEXให้รวยทั้งขาขึ้นและขาลงต้องหยั่งรู้แนวโน้มให้ได้ระดับขั้นเทพ

-ข้อดีของTFEXคือหากำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น และขาลง
-ข้อเสียคือหากไม่รู้วิธีลงทุนที่ถูกต้องมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียหาย ถ้าได้มาก็คือฟลุค
-เรียนรู้วิธีการลงทุนและเก็งกำไรอย่างถูกต้องทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อพิชิตTFEX
-สอนวิธีเล่นTFEXอิงSET50Futuresตั้งแต่ไม่เป็นไปจนชำนาญ
-สอนวิธีดูกราฟแนวโน้มให้ขาดว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง เพื่อลดความเสี่ยง เลี่ยงขาดทุน ทวีคูณกำไร
-สอนวิธีวัดเป้าหมายการขึ้นหรือลง ทั้งระยะสั้นสำหรับการเก็งกำไรDay trade,Cover night และระยะกลางสำหรับการลงทุน
-สอนวิธีหาจุดเข้าและจุดออก จุดเปิดและปิดเพื่อทำกำไรอย่างแม่นยำ
-สอนวิธีหาจุดหยุดขาดทุน(stop loss)เมื่อเล่นผิดทาง เพื่อจำกัดความเสี่ยง

สอนโดย อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ผู้มีประสบการณ์สอนดูกราฟและแนวโน้มอย่างแม่นยำที่สุดคนหนึ่งของประเทศ และคุณอุบลรัตน์ นนท์สินธ์ เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)

ค่าอบรมท่านละ3,500บาท มา2ท่านลดเหลือ5,500บาท

เรียนเชิงปฏิบัติการในวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2553 เวลา09.00-17.00น.ที่ห้องอบรมบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่นจำกัด รามคำแหง 160 โทร.สอบถามรายละเอียด สำรองที่นั่งเพียง 25 ท่าน 029275800 หรือโทรมือถือ 087-717-8979 (คุณชัชฎา) 087-717-4979 (คุณสุเมธ), 087-717-4939 (คุณเมทิกา)