วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(28ม.ค.): ทดสอบเป้าแรก985หากอ่อนลงไม่ลึกกว่า975+/-จะมีโอกาสไปเขต1020จุดในสัปดาห์หน้า ดังนั้นกลยุทธ์คือควรถือหุ้นไว้รอขายเอาทุนในจุดที่เส


ทำไงไม่เจ๊งพลิกวิกฤตรวยหุ้น-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54 วันอาทิตย์ 30 มกราคมนี้เต็มแล้วครับ เปิดรอบใหม่วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ "หุ้นตกทำไงไม่เจ๊งหุ้น พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวย"เนื้อหาเหมาะกับมือใหม่ที่หัดรวย มือเก่าที่ยังสะเปะสะปะไม่รู้หลักวิธี ส่วนการอบรมเรียนกราฟขั้นเทพ เหมาะกับท่านที่นิยมเก็งกำไรนะยะสั้น,เก็งกำไรTFEXและทองคำล่วงหน้า กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ มีวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติม 02-9275800...รูปที่มาลงไม่เกี่ยวกับหุ้นครับ เป็นรูปคนเขียนเตรียมออกรายการทางโทรทัศน์TRUE VISION เลยมีผู้ประกาศสาวขอแจม ลำบากครับเกิดมาหน้าตาดี(หมายถึงผู้ประกาศข่าวสาวนะ) แหะๆ

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******

1.เหตุที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก และเป้าหมายการฟื้นตัว มีตั้งแต่980ไปจนถึง1020จุด น่ารอขายเอาทุน อาจได้ลุ้นเขต1020

เมื่อวานต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกวัน เป็นวันที่สาม ขณะที่กองทุนกลับมาซื้อมาก ซึ่งอาจช่วยยืนยันความคิดที่ว่า รอบที่ผ่านมารายที่ขายหนักคือกองทุนเทมาเส็กสิงคโปร์ เพื่อหาเงินราว510ล้านบาทไปจ่ายค่าปรับอินโดนีเซีย ส่วนฝรั่งหัวแดงยังมีมุมมองทางบวกต่อตลาดหุ้นไทย

อย่างไรก็ดีเนื่องจากชาร์ตทางเทคนิคมีแนวโน้มไปในทางลบ จึงควรคาดว่าการฟื้นขึ้นไปรอบนี้อาจไม่มีนิวไฮเกินไฮก่อนคือ1035จุด อาจไปได้แค่ราวๆ1015-1020จุด จึงควรใช้กลยุทธ์”ถือไว้รอขายเอาทุน”สำหรับท่านที่ติดหุ้นไว้ หรือซื้อเล่นรีบาวนด์ไปไม่เกินเขต1020จุด อาจจะขึ้นไปถึงราวสัปดาห์หน้า

1.1ฝ่ายวิจัยโบรกต่างประเทศ CS ยังให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทยสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย - Maintain Overweight -โดยชี้ว่าที่ SET Index ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ 4% และ YTD -7% ใกล้เคียงกับ ฟิลิปินส์ที่ -7% YTD ขณะที่อินโด -10% YTD อย่างไรก็ตาม CS เชื่อว่าตลาดเข้าใจผิดและเหมารวมไทยเข้ากับประเทศในกลุ่ม TIP และอินเดีย ที่มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

ทั้งๆที่ไทยมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ที่ 3.7% (ขณะที่อินเดีย 7.5% อินโด 7% และ ฟิลิปืนส์ 5.3%) นอกจากนั้น ไทยในฐานะผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ ทั้ง ข้าว, ยาง, มันสำปะหลัง และ น้ำตาล ควรจะเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาอาหาร

ขณะที่ในมุมมองด้าน valuation ไทยก็ซื้อขาย PE ต่ำกว่าเพื่อน โดยซื้อขาย PE ที่ 11.7 เท่า (อินเดีย 15.3 เท่า, ฟิลลิปินส์ 14.5 เท่า และ อินเดีย 12.8 เท่า), งบการเงินที่ออกมาดี โดยมีถึง 4 ธนาคารที่ประกาศงบ 4Q ออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าการปรับตัวลงแรง เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เน้นที่กลุ่ม บ้านที่ดิน, ธนาคาร และ ท่องเที่ยว หุ้น Top pick คือ AP, LPN, SCB, KBANK, THAI และ TOP

ความเห็น:สรุปคือมีการขายแบบเหมารวมหุ้นไทยกับอินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ และอินเดียแหละครับ โดยไม่ต้องแยกแยะเรื่องพื้นฐาน เพราะถือว่าขึ้นมาพร้อมกัน ก็คงตกด้วยกัน อย่างไรก็ต่อไปในช่วงต่อไปคงมีการเริ่มแยกแยะ

เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันที่สอง อาจทำให้sentimentของตลาดดีขึ้นในวันนี้(26ม.ค.)น่าเปิดทางให้ตลาดฟื้นไข้ได้

1.2เทมาเส็กขายหาเงินจ่ายค่าปรับ-สัปดาห์ก่อนศาลอินโดนีเซียตัดสินให้ Temasek กองทุนสิงคโปร์มีความผิดฐานละเมิดกม.การผูกขาด Antitrust Law จากการถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัทมือถือในอินโดนีเซียซึ่งเท่ากับเป็นการผูกขาดคือ PT Telkomsel (ผู้ให้บริการมือถือใหญ่สุดในอินโดนีเซีย) กับ PT Indosat

ทั้งนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่าค่าปรับที่ temasek อาจต้องจ่ายมีจำนวน 150 พันล้านรูเปี๊ยะ หรือ US$17 ล้านเหรียญ (510 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลต่อการขายเงินลงทุนในพอร์ตของ Temasek ทั้งนี้ ล่าสุด Temasek เพิ่งรายงานการขายหุ้น Fortescue Metral Group Ltd 129 ล้านหุ้นผ่าน morgan Stanley และคาดว่าอาจมีการขายหุ้นที่ถือในไทยด้วยในช่วงที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะวานนี้

ความเห็น:หากเทมาเส็กจะขายหุ้นเหล่านี้ไปจ่ายค่าปรับ ผมว่าก็น่าจะพอแล้วนะครับ เพราะต้องการเงิน510ล้านบาท เมื่อวันจันทร์หรืออังคารก็จบแล้ว ขณะที่หากฝรั่งหัวแดงยังมองมุมบวกต่อหุ้นไทยอยู่ ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวไปเกินด่านแรก980+/- โดยอาจได้ลุ้นเขต1020จุดในรอบนี้

1.3นักลงทุนขายSTOP LOSSและโดนฟอร์ซเซล-ใครดูทางเทคนิคอยู่อาจขายตอนหลุด980จุดเมื่อวานก่อน อย่างเราก็แนะนำว่าอาจเป็นจุดstop lossนอกนั้นน่าจะเจอซ้ำด้วยการบังคับขายของคนที่เทรดด้วยมาร์จิ้นและหาเงินเติมไม่ทันก็เลยร่วงแรง

1.4 ฝ่ายวิจัยบล.ฟาร์อีสต์เผย ต้นทุนเฉลี่ยของฝรั่ง =964 จุด คิดตั้งแต่เริ่มซื้อจริงจัง ก.ย. 2010 ถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ที่ฝรั่งเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยจริงจังคือหลังจากมาบตาพุดชัดเจน ต้นทุนเฉลี่ยตั้งแต่นั้นจนปัจจุบัน = 964 จุด เทียบกับ index ปัจจุบัน แทบไม่เหลือกำไรแล้ว เหลือเพียงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 4.4%

ดังนั้น จึงมอง downside ที่ต่ำกว่า965จุด ยกเว้นถ้ามองบาทอ่อนได้อีก ก็อาจขายขาดทุนได้อีกหน่อย
ต้นทุนเฉลี่ยของต่างชาติ = 964 จุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2010 + กำไรจาก fx 4.4%

2.แล้วเอาไงดี? คำตอบคือน่าถือรอขายช่วงฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่980ดีสุดอาจได้ลุ้นไปไม่เกิน1020ในสัปดาห์หน้า

ชาร์ตที่1

2.1ตลาดอาจเปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว อย่างดีที่สุดคือแกว่งsidewayกรอบ950-1050จุด

-หากพิจารณาจากการร่วงลงมาจากจุดสูงสุด1056จุด ลงมาที่950จุดเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ข้อพิจารณาในทางเทคนิคสำหรับทิศทางแนวโน้มตลาดจะเป็น 2 สถานดังนี้

ก.เข้าเกณฑ์ว่าระยะกลางจะเปลี่ยนทิศทางแนวโน้มเป็นขาลง-เนื่องจากทำจุดสูงลดลง(ในภาพชาร์ตที่ 1 คือจุดสูงแรก หรือH1=1056จุด ส่วนจุดสูงต่อมา หรือH2=1035จุด) ขณะที่เกิดจุดต่ำใหม่ หรือมีนิวฃโลว์(ในภาพคือจุดต่ำแรก หรือL1=1007จุด ต่อมาเกิดจุดต่ำใหม่เมื่อวานนี้ หรือL2=950จุด)

แนวโน้มดังกล่าวนี้ ก็อาจเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิคขึ้นไป แต่จะไม่ทำจุดสูงใหม่เกิน1035จุดที่เคยเป็นจุดสูง หรือไฮในรอบก่อน โดยจุดสูงของการฟื้นตัวรอบนี้มีโอกาสเป็นดังนี้(ดูชาร์ตที่2ประกอบ)

ชาร์ตที่2 SETทดสอบด่านแรก985+/-โดยเกิดสัญญาณซื้อในเครื่องมือmodified stochastics เป็นไปได้ว่าอาจผ่านขึ้นไปด่านที่สองแถวๆ1000เลยก็ได้ หรือหากลงพักฐานก็อาจไม่แย่กว่า975+/-แล้วฟื้นไปปิดแถว985+/-เพื่อขึ้นต่อ เว้นแต่ลงปิดต่ำกว่าเขต975+/-จะเป็นสัญญาณทางลบ

*เป็นไปได้มากก็คือเขต985-990จุด(เป็นการฟื้นตัวขึ้นไปเขต1ใน3ของตัวเลขอนุกรมFibonacci retracement โดยวัดจากจุดต่ำสุด950ที่ร่วงลงมาต้นสัปดาห์นี้ กับจุดสูงสุด1056ที่เป็นพีครอบล่าสุดนี้)

ซึ่งเมื่อวานนี้SETขึ้นมาที่987จุด ก็อาจเป็นไปได้สองทาง

ก.ผ่านด่าน985-990แล้วขึ้นต่อไปเลย
ข.ชนด่าน985+/-แล้วลงพักฐานเขต975+/-(973-976)ก่อน แล้วค่อยฟอร์มตัวขึ้นไปผ่าน985-990เพื่อไปต่อ


*เป็นไปได้มากรองลงมาคือบริเวณ50%fibonacci retracementคือเขต1000-10005จุด(กรณีนี้คือหากช่วงนี้ไม่พักฐานลึกกว่า975+/-แล้วสามารถขึ้นไปผ่านด่านแรกบริเวณ985+/-สำเร็จ ก็จะขึ้นไปด่านสอง1000-1005จุด)

*เป็นไปได้ และไม่น่าตัดความเป็นไปได้-คือบริเวณ2ใน3ของFibonacci retracement บริเวณ1015-1020จุด และเป็นบริเวณbolingerband average รวมทั้งเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่าหากเป็นการฟื้นตัวก็จะไม่มียอดสูง เท่ากับหรือสูงกว่าไฮรอบก่อน(H2=1035 ดังนั้นการขึ้นไปทำH3=1015,1020จึงมีความเป็นไปได้ และไม่ควรจะตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้งไป)

*สรุป*-แปลเป็นไทยก็คือ หากรอบนี้ทำจุดต่ำ950จุดเมื่อวานก่อนนี้ แสดงว่าตลาดจะฟื้นตัว โดยมีโอกาสน่าขึ้นไปแน่ๆด่านแรกก็คือแถว985+/- จากนั้นลุ้นหน่อย หากวันนี้สามารถผ่านด่านนี้ได้ หรือมาปิดเขตนี้ได้ หรือพักฐานไม่ลึกกว่า975+/- แล้วขึ้นมาปิดเขต985+/-ได้ ก็จะขึ้นไปแตะ1000จุด และกรณีดีที่สุดอาจมีลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด อาจกินเวลาฟื้นตัวราว 1 สัปดาห์นับจากนี้
(ยกเว้นว่าวันนี้ลงไปปิดลึกกว่าเขต975-970ก็แสดงว่ารีบาวนด์ได้แค่แถวๆ985+/-แล้วก็จะลงต่อ)



2.2ความเป็นไปได้ของการฟื้นตัวและแกว่งในกรอบไซด์เวย์ หรือเป็นขาขึ้น กับความเสี่ยงของการร่วงเป็นขาลงแล้วลงยาว อะไรมากกว่ากัน?

ชาร์ตที่3

ในชาร์ตที่ 3 หากเรานำทฤษฎีคลื่นElliot waveมาวินิจจัยก็จะได้ความว่า ตลาดที่ร่วงลงจากยอด1056จุดนี้ ลงขาที่1มีจุดต่ำที่1007จุด จากนั้นฟื้นขึ้นไปขาที่2=1035 จากนั้นร่วงลงขาที่3=950จุด(เมื่อวานนี้) แสดงว่าตอนนี้น่าจะฟื้นขึ้นเป็นขาที่ 4=980-985หรือ1000-1005หรือดีที่สุด1015-1020จุด (ให้น้ำหนักกับบริเวณ1015-1020มากกว่าว่าจะเป็นH4จากนั้นก็จะร่วงลงสู่ขาที่5ซึ่งเป็นคลื่นขาลงสุดท้าย=925หรือแถมป้ายไปแถว900จุด)


ชาร์ตที่4:เป็นแนวโน้มรายสัปดาห์ จะมีกรอบแนวต้านdowntrend lineสำคัญหากมองข้ามช็อตไปสัปดาห์หน้าบริเวณ1015-1020จุด กรอบรับล่างบริเวณ925จุด

ข้อพิจารณาคือหากSETฟื้นจากจุดต่ำสุดบริเวณ950เมื่อวานนี้ขึ้นไป แล้วไปผ่านแนวต้านdowntrendเขต1020+/-ได้ ก็อาจกลับมามีหวังว่าตลาดจะไม่เป็นขาลง จะกลับไปได้ลุ้นแกว่งกรอบไซด์เวย์ระหว่าง950-1055จุด หรือกระทั่งเป็นขาขึ้น ไปทำnew high

ในทิศทางตรงกันข้ามหากขึ้นไปแล้วอาจจะเริ่มตกตั้งแต่980-985 หรือดีที่สุดไม่ผ่าน1015-1020ในระยะเป็นสัปดาห์นับจากนี้แล้วลง และลงหลุด925จุด อาจเกิดการตกยาวและลงยาวในรอบใหม่นี้ลงไปแถวๆ850จุด หรืออีกนับ100จุดจากปัจจุบัน

*****สรุปของสรุป-หากติดหุ้นเอาไว้ ก็แนะนำว่า น่าถือไว้รอขายเอาทุนคืนครับ ด่านแรกลุ้นเขต985+/- หากทำท่าผ่าน วอลุมหนุน ข่าวดีมา จะได้ลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด จังหวะนั้นดูอีกยก หากไม่ผ่านแน่ๆ จะแนะนำขายหุ้นเอาทุนคืน หรือขายให้ขาดทุนเสียหายน้อยที่สุดครับ ส่วนท่านที่พอร์ตว่างก็แนะนำซื้อหุ้นเด่นเล่นรอบที่เราแนะนำไว้ คือ PTT SCB ADVANC LANNA TMB BTS และไปรอขายเขต1020+/-

3.SET50 เป้าหมายการฟื้นตัวอิงกับSET


แนวโน้ม—ราคาร่วงลงมา655จุด เข้าเขตsuper oversold ก็น่าจะฟื้นตัวตามSET เมื่อวานขึ้นมาใกล้ด่านแรกคือ680จุด พิจารณาดังนี้ครับ

*หากSETขึ้นไปแค่985-990จุด ตัวSET50ก็จะขึ้นไปเขต680-685จุด
*หากSETผ่าน680-685ขึ้นไปเขต1000-1005ตัวSET50จะขึ้นไปเขต695-700จุด
*หากSETขึ้นผ่าน1000+/-ไปเขต1020-1025ตัวSET50จะขึ้นไปเขต705-710จุด

ดูแล้วก็คือจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวขึ้นไปคลื่นที่ 4ของขานี้ มีตั้งแต่680-685ดีสุดอาจเป็น705-710จุด

วันนี้มีกรอบแนวรับเขต670-665จุดโดยประมาณ แนวต้าน680-685จุด

กลยุทธ์-ท่านที่ติดไว้อาจรอไปขายที่เป้าหมายการฟื้นตัว โดยผมจะแนะนำให้ว่าน่าจะได้เท่าไหร่ หรืออีกวิธีหากติดสูงมาก อาจซื้อเฉลี่ยต้นทุน เพื่อไปขายออกเอาทุนคืน ให้เสียหายน้อยที่สุด หรืออาจไม่เสียหายเลย หากขึ้นไปเขต705-710จุด


ที่ผมไม่มีชาร์ตให้ดูเพราะยังเอามาลงไม่เป็น แต่หากอยากดูก็ลงทุนสมัครสมาชิกหน่อยครับ แล้วมีให้ดู หากดูไม่รู้เรื่องอีกก็มาเรียนครับ รู้แล้วรวย ถือว่าจ่ายค่าครูหนเดียว เอาไปทำมาหากินในตลาดหุ้นได้ตลอดชาติครับ**********


-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ฟรี ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย 30 มกราคม 2554นี้ รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )


บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************
เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นอย่างไรไม่ให้เจ๊ง พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยปีใหม่2554


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 40 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(27ม.ค.): เป้าหมายการฟื้นไข้ลุ้นผ่านด่านแรก980น่าไปได้ดีสุดไม่เกิน1020 และวิธีแก้ไขหากติดหุ้น เพื่อให้เสียหายน้อยที่สุด หรือแทบจะไม่เสีย



รถด่วนขบวนสุดท้าย-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54 หากท่านใดไม่อยากพลาดเรื่องนี้จริงๆจะมีรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 30 ม.ค.นี้ พลาดหนนี้ก็รออีกปีหน้า สำหรับท่านที่สนใจจริงๆจังๆครับ เหมาะกับมือใหม่ที่หัดรวย มือเก่าที่สะเปะสะปะ กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ)...รูปที่มาลงไม่เกี่ยวกับหุ้นครับ เป็นรูปคนเขียนที่สวนข้างบ้าน แหะๆ

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******
1.เหตุที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก และเป้าหมายการฟื้นตัว มีตั้งแต่980ไปจนถึง1020จุด น่ารอขายเอาทุน อาจได้ลุ้นเขต1020

เมื่อวานต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกวัน ซึ่งอาจช่วยยืนยันความคิดที่ว่า รอบที่ผ่านมารายที่ขายหนักคือกองทุนเทมาเส็กสิงคโปร์ เพื่อหาเงินราว510ล้านบาทไปจ่ายค่าปรับอินโดนีเซีย ส่วนฝรั่งหัวแดงยังมีมุมมองทางบวกต่อตลาดหุ้นไทย

ส่วนFEDคงดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำเท่าเดิมเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้ดาวโจนส์ขึ้นไปแตะเขต12000จุดได้ในรอบหลายปี

อย่างไรก็ดีเนื่องจากชาร์ตทางเทคนิคมีแนวโน้มไปในทางลบ จึงควรคาดว่าการฟื้นขึ้นไปรอบนี้อาจไม่มีนิวไฮเกินไฮก่อนคือ1035จุด อาจไปได้แค่ราวๆ1015-1020จุด จึงควรใช้กลยุทธ์”ถือไว้รอขายเอาทุน”สำหรับท่านที่ติดหุ้นไว้ หรือซื้อเล่นรีบาวนด์ไปไม่เกินเขต1020จุด อาจจะขึ้นไปถึงราวสัปดาห์หน้า


1.1ฝ่ายวิจัยโบรกต่างประเทศ CS ยังให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทยสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย - Maintain Overweight -โดยชี้ว่าที่ SET Index ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ 4% และ YTD -7% ใกล้เคียงกับ ฟิลิปินส์ที่ -7% YTD ขณะที่อินโด -10% YTD อย่างไรก็ตาม CS เชื่อว่าตลาดเข้าใจผิดและเหมารวมไทยเข้ากับประเทศในกลุ่ม TIP และอินเดีย ที่มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

ทั้งๆที่ไทยมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ที่ 3.7% (ขณะที่อินเดีย 7.5% อินโด 7% และ ฟิลิปืนส์ 5.3%) นอกจากนั้น ไทยในฐานะผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ ทั้ง ข้าว, ยาง, มันสำปะหลัง และ น้ำตาล ควรจะเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาอาหาร

ขณะที่ในมุมมองด้าน valuation ไทยก็ซื้อขาย PE ต่ำกว่าเพื่อน โดยซื้อขาย PE ที่ 11.7 เท่า (อินเดีย 15.3 เท่า, ฟิลลิปินส์ 14.5 เท่า และ อินเดีย 12.8 เท่า), งบการเงินที่ออกมาดี โดยมีถึง 4 ธนาคารที่ประกาศงบ 4Q ออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าการปรับตัวลงแรง เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เน้นที่กลุ่ม บ้านที่ดิน, ธนาคาร และ ท่องเที่ยว หุ้น Top pick คือ AP, LPN, SCB, KBANK, THAI และ TOP

ความเห็น:สรุปคือมีการขายแบบเหมารวมหุ้นไทยกับอินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ และอินเดียแหละครับ โดยไม่ต้องแยกแยะเรื่องพื้นฐาน เพราะถือว่าขึ้นมาพร้อมกัน ก็คงตกด้วยกัน อย่างไรก็ต่อไปในช่วงต่อไปคงมีการเริ่มแยกแยะ

เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันที่สอง อาจทำให้sentimentของตลาดดีขึ้นในวันนี้(26ม.ค.)น่าเปิดทางให้ตลาดฟื้นไข้ได้

1.2เทมาเส็กขายหาเงินจ่ายค่าปรับ-สัปดาห์ก่อนศาลอินโดนีเซียตัดสินให้ Temasek กองทุนสิงคโปร์มีความผิดฐานละเมิดกม.การผูกขาด Antitrust Law จากการถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัทมือถือในอินโดนีเซียซึ่งเท่ากับเป็นการผูกขาดคือ PT Telkomsel (ผู้ให้บริการมือถือใหญ่สุดในอินโดนีเซีย) กับ PT Indosat

ทั้งนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่าค่าปรับที่ temasek อาจต้องจ่ายมีจำนวน 150 พันล้านรูเปี๊ยะ หรือ US$17 ล้านเหรียญ (510 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลต่อการขายเงินลงทุนในพอร์ตของ Temasek ทั้งนี้ ล่าสุด Temasek เพิ่งรายงานการขายหุ้น Fortescue Metral Group Ltd 129 ล้านหุ้นผ่าน morgan Stanley และคาดว่าอาจมีการขายหุ้นที่ถือในไทยด้วยในช่วงที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะวานนี้
1.3นักลงทุนขายSTOP LOSSและโดนฟอร์ซเซล-ใครดูทางเทคนิคอยู่อาจขายตอนหลุด980จุดเมื่อวานก่อน อย่างเราก็แนะนำว่าอาจเป็นจุดstop lossนอกนั้นน่าจะเจอซ้ำด้วยการบังคับขายของคนที่เทรดด้วยมาร์จิ้นและหาเงินเติมไม่ทันก็เลยร่วงแรง

1.4 ฝ่ายวิจัยบล.ฟาร์อีสต์เผย ต้นทุนเฉลี่ยของฝรั่ง =964 จุด คิดตั้งแต่เริ่มซื้อจริงจัง ก.ย. 2010 ถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ที่ฝรั่งเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยจริงจังคือหลังจากมาบตาพุดชัดเจน ต้นทุนเฉลี่ยตั้งแต่นั้นจนปัจจุบัน = 964 จุด เทียบกับ index ปัจจุบัน แทบไม่เหลือกำไรแล้ว เหลือเพียงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 4.4%

ดังนั้น จึงมอง downside ที่ต่ำกว่า965จุด ยกเว้นถ้ามองบาทอ่อนได้อีก ก็อาจขายขาดทุนได้อีกหน่อย
ต้นทุนเฉลี่ยของต่างชาติ = 964 จุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2010 + กำไรจาก fx 4.4%

2.แล้วเอาไงดี? คำตอบคือน่าถือรอขายช่วงฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่980ดีสุดอาจได้ลุ้นไปไม่เกิน1020

ชาร์ตที่1

2.1ตลาดอาจเปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว อย่างดีที่สุดคือแกว่งsidewayกรอบ950-1050จุด

-หากพิจารณาจากการร่วงลงมาจากจุดสูงสุด1056จุด ลงมาที่950จุดเมื่อวานนี้ ข้อพิจารณาในทางเทคนิคสำหรับทิศทางแนวโน้มตลาดจะเป็น 2 สถานดังนี้

ก.เข้าเกณฑ์ว่าระยะกลางจะเปลี่ยนทิศทางแนวโน้มเป็นขาลง-เนื่องจากทำจุดสูงลดลง(ในภาพชาร์ตที่ 1 คือจุดสูงแรก หรือH1=1056จุด ส่วนจุดสูงต่อมา หรือH2=1035จุด) ขณะที่เกิดจุดต่ำใหม่ หรือมีนิวฃโลว์(ในภาพคือจุดต่ำแรก หรือL1=1007จุด ต่อมาเกิดจุดต่ำใหม่เมื่อวานนี้ หรือL2=950จุด)

แนวโน้มดังกล่าวนี้ ก็อาจเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิคขึ้นไป แต่จะไม่ทำจุดสูงใหม่เกิน1035จุดที่เคยเป็นจุดสูง หรือไฮในรอบก่อน โดยจุดสูงของการฟื้นตัวรอบนี้มีโอกาสเป็นดังนี้(ดูชาร์ตที่2ประกอบ)

ชาร์ตที่2

*เป็นไปได้มากก็คือเขต 980 หรือ985-990จุด(เป็นการฟื้นตัวขึ้นไปเขต1ใน3ของตัวเลขอนุกรมFibonacci retracement โดยวัดจากจุดต่ำสุด950ที่ร่วงลงมาเมื่อวานนี้ กับจุดสูงสุด1056ที่เป็นพีครอบล่าสุดนี้)

*เป็นไปได้มากรองลงมาคือบริเวณ50%fibonacci retracementคือเขต1000-10005จุด(กรณีนี้คือวันนี้สามารถขึ้นไปผ่านด่านแรกบริเวณ980-985สำเร็จ ก็จะขึ้นไปด่านสอง1000-1005จุด)

*เป็นไปได้ และไม่น่าตัดความเป็นไปได้-คือบริเวณ2ใน3ของFibonacci retracement บริเวณ1015-1020จุด และเป็นบริเวณbolingerband average รวมทั้งเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่าหากเป็นการฟื้นตัวก็จะไม่มียอดสูง เท่ากับหรือสูงกว่าไฮรอบก่อน(H2=1035 ดังนั้นการขึ้นไปทำH3=1015,1020จึงมีความเป็นไปได้ และไม่ควรจะตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้งไป)

*สรุป*-แปลเป็นไทยก็คือ หากรอบนี้ทำจุดต่ำ950จุดเมื่อวานก่อนนี้ แสดงว่าตลาดจะฟื้นตัว โดยมีโอกาสน่าขึ้นไปแน่ๆด่านแรกก็คือแถว980-985 จากนั้นลุ้นหน่อย หากวันนี้สามารถผ่านด่านนี้ได้ หรือมาปิดเขตนี้ได้ จะขึ้นไปแตะ1000จุด และกรณีดีที่สุดอาจมีลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด อาจกินเวลาฟื้นตัวราว 1 สัปดาห์นับจากนี้



2.2ความเป็นไปได้ของการฟื้นตัวและแกว่งในกรอบไซด์เวย์ หรือเป็นขาขึ้น กับความเสี่ยงของการร่วงเป็นขาลงแล้วลงยาว อะไรมากกว่ากัน?

ชาร์ตที่3

ในชาร์ตที่ 3 หากเรานำทฤษฎีคลื่นElliot waveมาวินิจจัยก็จะได้ความว่า ตลาดที่ร่วงลงจากยอด1056จุดนี้ ลงขาที่1มีจุดต่ำที่1007จุด จากนั้นฟื้นขึ้นไปขาที่2=1035 จากนั้นร่วงลงขาที่3=950จุด(เมื่อวานนี้) แสดงว่าตอนนี้น่าจะฟื้นขึ้นเป็นขาที่ 4=980-985หรือ1000-1005หรือดีที่สุด1015-1020จุด (ให้น้ำหนักกับบริเวณ1015-1020มากกว่าว่าจะเป็นH4จากนั้นก็จะร่วงลงสู่ขาที่5ซึ่งเป็นคลื่นขาลงสุดท้าย=925หรือแถมป้ายไปแถว900จุด)


ชาร์ตที่4:เป็นแนวโน้มรายสัปดาห์ จะมีกรอบแนวต้านdowntrend lineสำคัญหากมองข้ามช็อตไปสัปดาห์หน้าบริเวณ1015-1020จุด กรอบรับล่างบริเวณ925จุด

ข้อพิจารณาคือหากSETฟื้นจากจุดต่ำสุดบริเวณ950เมื่อวานนี้ขึ้นไป แล้วไปผ่านแนวต้านdowntrendเขต1020+/-ได้ ก็อาจกลับมามีหวังว่าตลาดจะไม่เป็นขาลง จะกลับไปได้ลุ้นแกว่งกรอบไซด์เวย์ระหว่าง950-1055จุด หรือกระทั่งเป็นขาขึ้น ไปทำnew high

ในทิศทางตรงกันข้ามหากขึ้นไปแล้วอาจจะเริ่มตกตั้งแต่980-985 หรือดีที่สุดไม่ผ่าน1015-1020ในระยะเป็นสัปดาห์นับจากนี้แล้วลง และลงหลุด925จุด อาจเกิดการตกยาวและลงยาวในรอบใหม่นี้ลงไปแถวๆ850จุด หรืออีกนับ100จุดจากปัจจุบัน

*****สรุปของสรุป-หากติดหุ้นเอาไว้ ก็แนะนำว่า น่าถือไว้รอขายเอาทุนคืนครับ ด่านแรกลุ้นเขต980-985 หากทำท่าผ่าน วอลุมหนุน ข่าวดีมา จะได้ลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด จังหวะนั้นดูอีกยก หากไม่ผ่านแน่ๆ จะแนะนำขายหุ้นเอาทุนคืน หรือขายให้ขาดทุนเสียหายน้อยที่สุดครับ ส่วนท่านที่พอร์ตว่างก็แนะนำซื้อหุ้นเด่นเล่นรอบที่เราแนะนำไว้ คือ PTT SCB ADVANC LANNA TMB BTS และไปรอขายเขต1020+/-

3.SET50


แนวโน้ม—ราคาร่วงลงมา655จุด เข้าเขตsuper oversold ก็น่าจะฟื้นตัวตามSET พิจารณาดังนี้ครับ

*หากSETขึ้นไปแค่980-990จุด ตัวSET50ก็จะขึ้นไปเขต680-685จุด
*หากSETผ่าน680-685ขึ้นไปเขต1000-1005ตัวSET50จะขึ้นไปเขต695-700จุด
*หากSETขึ้นผ่าน1000+/-ไปเขต1020-1025ตัวSET50จะขึ้นไปเขต705-710จุด

ดูแล้วก็คือจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวขึ้นไปคลื่นที่ 4ของขานี้ มีตั้งแต่680-685ดีสุดอาจเป็น705-710จุด

กลยุทธ์-ท่านที่ติดไว้อาจรอไปขายที่เป้าหมายการฟื้นตัว โดยผมจะแนะนำให้ว่าน่าจะได้เท่าไหร่ หรืออีกวิธีหากติดสูงมาก อาจซื้อเฉลี่ยต้นทุน เพื่อไปขายออกเอาทุนคืน ให้เสียหายน้อยที่สุด หรืออาจไม่เสียหายเลย หากขึ้นไปเขต705-710จุด


ที่ผมไม่มีชาร์ตให้ดูเพราะยังเอามาลงไม่เป็น แต่หากอยากดูก็ลงทุนสมัครสมาชิกหน่อยครับ แล้วมีให้ดู หากดูไม่รู้เรื่องอีกก็มาเรียนครับ รู้แล้วรวย ถือว่าจ่ายค่าครูหนเดียว เอาไปทำมาหากินในตลาดหุ้นได้ตลอดชาติครับ**********


รอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรอปีหน้า-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย 30 มกราคม 2554นี้ รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )


บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************


******

เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554 รุ่นสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลยต้องรออีกปี


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(26ม.ค.): เป้าหมายการฟื้นไข้ และวิธีแก้ไขหากติดหุ้น เพื่อให้เสียหายน้อยที่สุด หรือแทบจะไม่เสียหายเลย


รถด่วนขบวนสุดท้าย-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54 หากท่านใดไม่อยากพลาดเรื่องนี้จริงๆจะมีรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 30 ม.ค.นี้ พลาดหนนี้ก็รออีกปีหน้า สำหรับท่านที่สนใจจริงๆจังๆครับ กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ)

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******

1.เหตุที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก และเป้าหมายการฟื้นตัว มีตั้งแต่980ไปจนถึง1020จุด น่ารอขายเอาทุน

1.1ฝ่ายวิจัยโบรกต่างประเทศ CS ยังให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทยสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย - Maintain Overweight -โดยชี้ว่าที่ SET Index ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ 4% และ YTD -7% ใกล้เคียงกับ ฟิลิปินส์ที่ -7% YTD ขณะที่อินโด -10% YTD อย่างไรก็ตาม CS เชื่อว่าตลาดเข้าใจผิดและเหมารวมไทยเข้ากับประเทศในกลุ่ม TIP และอินเดีย ที่มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

ทั้งๆที่ไทยมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ที่ 3.7% (ขณะที่อินเดีย 7.5% อินโด 7% และ ฟิลิปืนส์ 5.3%) นอกจากนั้น ไทยในฐานะผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ ทั้ง ข้าว, ยาง, มันสำปะหลัง และ น้ำตาล ควรจะเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาอาหาร

ขณะที่ในมุมมองด้าน valuation ไทยก็ซื้อขาย PE ต่ำกว่าเพื่อน โดยซื้อขาย PE ที่ 11.7 เท่า (อินเดีย 15.3 เท่า, ฟิลลิปินส์ 14.5 เท่า และ อินเดีย 12.8 เท่า), งบการเงินที่ออกมาดี โดยมีถึง 4 ธนาคารที่ประกาศงบ 4Q ออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าการปรับตัวลงแรง เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เน้นที่กลุ่ม บ้านที่ดิน, ธนาคาร และ ท่องเที่ยว หุ้น Top pick คือ AP, LPN, SCB, KBANK, THAI และ TOP

ความเห็น:สรุปคือมีการขายแบบเหมารวมหุ้นไทยกับอินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ และอินเดียแหละครับ โดยไม่ต้องแยกแยะเรื่องพื้นฐาน เพราะถือว่าขึ้นมาพร้อมกัน ก็คงตกด้วยกัน อย่างไรก็ต่อไปในช่วงต่อไปคงมีการเริ่มแยกแยะ

เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ670ล้านบาท อาจทำให้sentimentของตลาดดีขึ้นในวันนี้(26ม.ค.)น่าเปิดทางให้ตลาดฟื้นไข้ได้

1.2เทมาเส็กขายหาเงินจ่ายค่าปรับ-สัปดาห์ก่อนศาลอินโดนีเซียตัดสินให้ Temasek กองทุนสิงคโปร์มีความผิดฐานละเมิดกม.การผูกขาด Antitrust Law จากการถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัทมือถือในอินโดนีเซียซึ่งเท่ากับเป็นการผูกขาดคือ PT Telkomsel (ผู้ให้บริการมือถือใหญ่สุดในอินโดนีเซีย) กับ PT Indosat
ทั้งนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่าค่าปรับที่ temasek อาจต้องจ่ายมีจำนวน 150 พันล้านรูเปี๊ยะ หรือ US$17 ล้านเหรียญ (510 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลต่อการขายเงินลงทุนในพอร์ตของ Temasek ทั้งนี้ ล่าสุด Temasek เพิ่งรายงานการขายหุ้น Fortescue Metral Group Ltd 129 ล้านหุ้นผ่าน morgan Stanley และคาดว่าอาจมีการขายหุ้นที่ถือในไทยด้วยในช่วงที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะวานนี้
หุ้นที่เทมาเส็กถ อในไทยก็เช่น BBL ถืออยู่ในสัดส่วน 0.86% SCB 0.91% KBANK 0.77% TISCO 2.01% ATC 0.55% BANPU 0.88% BEC 0.54% CPALL 1.64% GLOW 0.50% ITD 0.59% LH
13.21% MCOT 1.78% PSL 0.84% QH 10.98% RRC 0.63% THRE 4.54% SPF 2.20%
ความเห็น:หากเทมาเส็กจะขายหุ้นเหล่านี้ไปจ่ายค่าปรับ ผมว่าก็น่าจะพอแล้วนะครับ เพราะต้องการเงิน510ล้านบาท เมื่อวานวันเดียวก็จบแล้ว

1.3นักลงทุนขายSTOP LOSSและโดนฟอร์ซเซล-ใครดูทางเทคนิคอยู่อาจขายตอนหลุด980จุดเมื่อวานนี้ อย่างเราก็แนะนำว่าอาจเป็นจุดstop lossนอกนั้นน่าจะเจอซ้ำด้วยการบังคับขายของคนที่เทรดด้วยมาร์จิ้นและหาเงินเติมไม่ทันก็เลยร่วงแรง
1.4 ฝ่ายวิจัยบล.ฟาร์อีสต์เผย ต้นทุนเฉลี่ยของฝรั่ง =964 จุด คิดตั้งแต่เริ่มซื้อจริงจัง ก.ย. 2010 ถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ที่ฝรั่งเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยจริงจังคือหลังจากมาบตาพุดชัดเจน ต้นทุนเฉลี่ยตั้งแต่นั้นจนปัจจุบัน = 964 จุด เทียบกับ index ปัจจุบัน แทบไม่เหลือกำไรแล้ว เหลือเพียงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 4.4%
ดังนั้น จึงมอง downside ที่ 970 จุด ยกเว้นถ้ามองบาทอ่อนได้อีก ก็อาจขายขาดทุนได้อีกหน่อย

ต้นทุนเฉลี่ยของต่างชาติ = 964 จุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2010 + กำไรจาก fx 4.4%
Net posiiton (Btm) Avg. index cost Bt/USD gain/loss
Sep-10 36,008 854 3.3%
Oct-10 15,477 961 3.5%
Nov-10 -6,274 1,056 1.0%
Dec-10 30,941 1,015 -0.6%
Jan-11 -25,241 709 -2.8%
Sep-10 to date 50,911 964 4.4%
Source: SET, FSS Research



2.แล้วเอาไงดี? คำตอบคือน่าถือรอขายช่วงฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่980ดีสุดอาจไม่เกิน1020

ชาร์ตที่1

2.1ตลาดอาจเปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว อย่างดีที่สุดคือแกว่งsidewayกรอบ950-1050จุด

-หากพิจารณาจากการร่วงลงมาจากจุดสูงสุด1056จุด ลงมาที่950จุดเมื่อวานนี้ ข้อพิจารณาในทางเทคนิคสำหรับทิศทางแนวโน้มตลาดจะเป็น 2 สถานดังนี้

ก.เข้าเกณฑ์ว่าระยะกลางจะเปลี่ยนทิศทางแนวโน้มเป็นขาลง-เนื่องจากทำจุดสูงลดลง(ในภาพชาร์ตที่ 1 คือจุดสูงแรก หรือH1=1056จุด ส่วนจุดสูงต่อมา หรือH2=1035จุด) ขณะที่เกิดจุดต่ำใหม่ หรือมีนิวฃโลว์(ในภาพคือจุดต่ำแรก หรือL1=1007จุด ต่อมาเกิดจุดต่ำใหม่เมื่อวานนี้ หรือL2=950จุด)

แนวโน้มดังกล่าวนี้ ก็อาจเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิคขึ้นไป แต่จะไม่ทำจุดสูงใหม่เกิน1035จุดที่เคยเป็นจุดสูง หรือไฮในรอบก่อน โดยจุดสูงของการฟื้นตัวรอบนี้มีโอกาสเป็นดังนี้(ดูชาร์ตที่2ประกอบ)

ชาร์ตที่2

*เป็นไปได้มากก็คือเขต 980 หรือ985-990จุด(เป็นการฟื้นตัวขึ้นไปเขต1ใน3ของตัวเลขอนุกรมFibonacci retracement โดยวัดจากจุดต่ำสุด950ที่ร่วงลงมาเมื่อวานนี้ กับจุดสูงสุด1056ที่เป็นพีครอบล่าสุดนี้)

*เป็นไปได้มากรองลงมาคือบริเวณ50%fibonacci retracementคือเขต1000-10005จุด(กรณีนี้คือสามารถขึ้นไปผ่านด่านแรกบริเวณ980-985สำเร็จ ก็จะขึ้นไปด่านสอง1000-1005จุด)

*เป็นไปได้ และไม่น่าตัดความเป็นไปได้-คือบริเวณ2ใน3ของFibonacci retracement บริเวณ1015-1020จุด และเป็นบริเวณbolingerband average รวมทั้งเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่าหากเป็นการฟื้นตัวก็จะไม่มียอดสูง เท่ากับหรือสูงกว่าไฮรอบก่อน(H2=1035 ดังนั้นการขึ้นไปทำH3=1015,1020จึงมีความเป็นไปได้ และไม่ควรจะตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้งไป)

*สรุป*-แปลเป็นไทยก็คือ หากรอบนี้ทำจุดต่ำ950จุดเมื่อวานนี้ แสดงว่าตลาดจะฟื้นตัว โดยมีโอกาสน่าขึ้นไปแน่ๆก็แถว980-985 จากนั้นลุ้นหน่อย หากผ่านด่านนี้ได้จะขึ้นไปแตะ1000จุด และกรณีดีที่สุดอาจมีลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด อาจกินเวลาฟื้นตัวราว 1 สัปดาห์นับจากนี้



2.2ความเป็นไปได้ของการฟื้นตัวและแกว่งในกรอบไซด์เวย์ หรือเป็นขาขึ้น กับความเสี่ยงของการร่วงเป็นขาลงแล้วลงยาว อะไรมากกว่ากัน?

ชาร์ตที่3

ในชาร์ตที่ 3 หากเรานำทฤษฎีคลื่นElliot waveมาวินิจจัยก็จะได้ความว่า ตลาดที่ร่วงลงจากยอด1056จุดนี้ ลงขาที่1มีจุดต่ำที่1007จุด จากนั้นฟื้นขึ้นไปขาที่2=1035 จากนั้นร่วงลงขาที่3=950จุด(เมื่อวานนี้) แสดงว่าตอนนี้น่าจะฟื้นขึ้นเป็นขาที่ 4=980-985หรือ1000-1005หรือดีที่สุด1015-1020จุด จากนั้นก็จะร่วงลงสู่ขาที่5ซึ่งเป็นคลื่นขาลงสุดท้าย=925หรือแถมป้ายไปแถว900จุด


ชาร์ตที่4:เป็นแนวโน้มรายสัปดาห์ จะมีกรอบแนวต้านdowntrend lineสำคัญหากมองข้ามช็อตไปสัปดาห์หน้าบริเวณ1015-1020จุด กรอบรับล่างบริเวณ925จุด

ข้อพิจารณาคือหากSETฟื้นจากจุดต่ำสุดบริเวณ950เมื่อวานนี้ขึ้นไป แล้วไปผ่านแนวต้านdowntrendเขต1020+/-ได้ ก็อาจกลับมามีหวังว่าตลาดจะไม่เป็นขาลง จะกลับไปได้ลุ้นแกว่งกรอบไซด์เวย์ระหว่าง950-1055จุด หรือกระทั่งเป็นขาขึ้น ไปทำnew high

ในทิศทางตรงกันข้ามหากขึ้นไปแล้วอาจจะเริ่มตกตั้งแต่980-985 หรือดีที่สุดไม่ผ่าน1015-1020ในระยะเป็นสัปดาห์นับจากนี้แล้วลง และลงหลุด925จุด อาจเกิดการตกยาวและลงยาวในรอบใหม่นี้ลงไปแถวๆ850จุด หรืออีกนับ100จุดจากปัจจุบัน

*****สรุปของสรุป-หากติดหุ้นเอาไว้ ก็แนะนำว่า น่าถือไว้รอขายเอาทุนคืนครับ ด่านแรกลุ้นเขต980-985 หากทำท่าผ่าน วอลุมหนุน ข่าวดีมา จะได้ลุ้นขึ้นไปเขต1015-1020จุด จังหวะนั้นดูอีกยก หากไม่ผ่านแน่ๆ จะแนะนำขายหุ้นเอาทุนคืน หรือขายให้ขาดทุนเสียหายน้อยที่สุดครับ

3.SET50


แนวโน้ม—ราคาร่วงลงมา655จุด เข้าเขตsuper oversold ก็น่าจะฟื้นตัวตามSET พิจารณาดังนี้ครับ

*หากSETขึ้นไปแค่980-990จุด ตัวSET50ก็จะขึ้นไปเขต680-685จุด
*หากSETขึ้นไปเขต1000-1005ตัวSET50จะขึ้นไปเขต695-700จุด
*หากSETขึ้นไปเขต1020-1025ตัวSET50จะขึ้นไปเขต705-710จุด

ดูแล้วก็คือจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวขึ้นไปคลื่นที่ 4ของขานี้ มีตั้งแต่680-685ดีสุดอาจเป็น705-710จุด

กลยุทธ์-อาจรอไปขายที่เป้าหมายการฟื้นตัว โดยผมจะแนะนำให้ว่าน่าจะได้เท่าไหร่ หรืออีกวิธีหากติดสูงมาก อาจซื้อเฉลี่ยต้นทุน เพื่อไปขายออกเอาทุนคืน ให้เสียหายน้อยที่สุด หรืออาจไม่เสียหายเลย หากขึ้นไปเขต705-710จุด


**********


รอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรอปีหน้า-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย 30 มกราคม 2554นี้ รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )


บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************


******

เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554 รุ่นสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลยต้องรออีกปี


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(25ม.ค.): สาเหตุหุ้นตก ต้นทุนฝรั่งอยู่เท่าไหร่ เป้าหมายการฟื้นตัว และกลยุทธ์หยุดความเสียหาย


รถด่วนขบวนสุดท้าย-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54 หากท่านใดไม่อยากพลาดเรื่องนี้จริงๆจะมีรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 30 ม.ค.นี้ พลาดหนนี้ก็รออีกปีหน้า ส่วนท่านที่สนใจเรียนกราฟขั้นเทพเอาไปทำมาหากินได้ตลอดชีวิต ประกอบการซื้อขายหุ้น,TFEX,ทองฟิวเจอร์ สอนแบบไม่มีกั๊ก งานมีวันที่ 23 ม.ค.แต่เหลือไม่เกิน 5 ท่าน(สำหรับท่านที่สนใจจริงๆจังๆเรื่องกราฟนะครับ กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ)

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******

1.เหตุที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก

1.1ฝ่ายวิจัยโบรกต่างประเทศ CS ยังให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทยสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย - Maintain Overweight -โดยชี้ว่าที่ SET Index ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ 4% และ YTD -7% ใกล้เคียงกับ ฟิลิปินส์ที่ -7% YTD ขณะที่อินโด -10% YTD อย่างไรก็ตาม CS เชื่อว่าตลาดเข้าใจผิดและเหมารวมไทยเข้ากับประเทศในกลุ่ม TIP และอินเดีย ที่มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

ทั้งๆที่ไทยมีเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ที่ 3.7% (ขณะที่อินเดีย 7.5% อินโด 7% และ ฟิลิปืนส์ 5.3%) นอกจากนั้น ไทยในฐานะผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ ทั้ง ข้าว, ยาง, มันสำปะหลัง และ น้ำตาล ควรจะเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาอาหาร

ขณะที่ในมุมมองด้าน valuation ไทยก็ซื้อขาย PE ต่ำกว่าเพื่อน โดยซื้อขาย PE ที่ 11.7 เท่า (อินเดีย 15.3 เท่า, ฟิลลิปินส์ 14.5 เท่า และ อินเดีย 12.8 เท่า), งบการเงินที่ออกมาดี โดยมีถึง 4 ธนาคารที่ประกาศงบ 4Q ออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าการปรับตัวลงแรง เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เน้นที่กลุ่ม บ้านที่ดิน, ธนาคาร และ ท่องเที่ยว หุ้น Top pick คือ AP, LPN, SCB, KBANK, THAI และ TOP

ความเห็น:สรุปคือมีการขายแบบเหมารวมหุ้นไทยกับอินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ และอินเดียแหละครับ โดยไม่ต้องแยกแยะเรื่องพื้นฐาน เพราะถือว่าขึ้นมาพร้อมกัน ก็คงตกด้วยกัน อย่างไรก็ต่อไปในช่วงต่อไปคงมีการเริ่มแยกแยะ

1.2เทมาเส็กขายหาเงินจ่ายค่าปรับ-สัปดาห์ก่อนศาลอินโดนีเซียตัดสินให้ Temasek กองทุนสิงคโปร์มีความผิดฐานละเมิดกม.การผูกขาด Antitrust Law จากการถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัทมือถือในอินโดนีเซียซึ่งเท่ากับเป็นการผูกขาดคือ PT Telkomsel (ผู้ให้บริการมือถือใหญ่สุดในอินโดนีเซีย) กับ PT Indosat

ทั้งนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่าค่าปรับที่ temasek อาจต้องจ่ายมีจำนวน 150 พันล้านรูเปี๊ยะ หรือ US$17 ล้านเหรียญ (510 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลต่อการขายเงินลงทุนในพอร์ตของ Temasek ทั้งนี้ ล่าสุด Temasek เพิ่งรายงานการขายหุ้น Fortescue Metral Group Ltd 129 ล้านหุ้นผ่าน morgan Stanley และคาดว่าอาจมีการขายหุ้นที่ถือในไทยด้วยในช่วงที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะวานนี้

หุ้นที่เทมาเส็กถ อในไทยก็เช่น BBL ถืออยู่ในสัดส่วน 0.86% SCB 0.91% KBANK 0.77% TISCO 2.01% ATC 0.55% BANPU 0.88% BEC 0.54% CPALL 1.64% GLOW 0.50% ITD 0.59% LH
13.21% MCOT 1.78% PSL 0.84% QH 10.98% RRC 0.63% THRE 4.54% SPF 2.20%
ความเห็น:หากเทมาเส็กจะขายหุ้นเหล่านี้ไปจ่ายค่าปรับ ผมว่าก็น่าจะพอแล้วนะครับ เพราะต้องการเงิน510ล้านบาท เมื่อวานวันเดียวก็จบแล้ว

1.3นักลงทุนขายSTOP LOSSและโดนฟอร์ซเซล-ใครดูทางเทคนิคอยู่อาจขายตอนหลุด980จุดเมื่อวานนี้ อย่างเราก็แนะนำว่าอาจเป็นจุดstop lossนอกนั้นน่าจะเจอซ้ำด้วยการบังคับขายของคนที่เทรดด้วยมาร์จิ้นและหาเงินเติมไม่ทันก็เลยร่วงแรง

1.4 ฝ่ายวิจัยบล.ฟาร์อีสต์เผย ต้นทุนเฉลี่ยของฝรั่ง =964 จุด คิดตั้งแต่เริ่มซื้อจริงจัง ก.ย. 2010 ถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ที่ฝรั่งเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยจริงจังคือหลังจากมาบตาพุดชัดเจน ต้นทุนเฉลี่ยตั้งแต่นั้นจนปัจจุบัน = 964 จุด เทียบกับ index ปัจจุบัน แทบไม่เหลือกำไรแล้ว เหลือเพียงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 4.4%
ดังนั้น จึงมอง downside ที่ 970 จุด ยกเว้นถ้ามองบาทอ่อนได้อีก ก็อาจขายขาดทุนได้อีกหน่อย

ต้นทุนเฉลี่ยของต่างชาติ = 964 จุดนับตั้งแต่ ก.ย. 2010 + กำไรจาก fx 4.4%
Net posiiton (Btm) Avg. index cost Bt/USD gain/loss
Sep-10 36,008 854 3.3%
Oct-10 15,477 961 3.5%
Nov-10 -6,274 1,056 1.0%
Dec-10 30,941 1,015 -0.6%
Jan-11 -25,241 709 -2.8%
Sep-10 to date 50,911 964 4.4%
Source: SET, FSS Research



2.แล้วเอาไงดี?


แนวโน้ม-ในทฤษฎีทางเทคนิคการร่วงลงและทำnew lowถือว่าเป็นแนวโน้มเชิงลบต่อระยะต่อไปนะครับ จากที่เคยเป็นขาขึ้นก็อาจจบขาขึ้นแล้วเปลี่ยนไปเล่นทางขาลง

อย่างไรก็ตามเนื่องจากร่วงลงมาแรงและเร็วเกินไป จนเข้าเขตsuper oversold ดูจากหลุดbolinger bandล่างแถวๆ980ลงมา ดังนั้นเราก็น่าจะได้เห็นการฟื้นตัวรีบาวนด์ก่อน อาจกลับไปแถวๆ980-990 หรือกระทั่งเขต1000-1020จุด อาจเป็นช่วงปลายๆสัปดาห์นี้

สรุปคือ-เกิดแนวโน้มทางลบในระยะต่อไปว่าอาจเปลี่ยนไปเป็นทางลง แต่ระยะสั้นๆ1-3วันนี้ลงหนักมากไป จะเกิดการฟื้นตัวทางเทคนิค แย่หน่อยแถวๆ980-990 กลางๆแถว1000 ดีที่สุดอาจเป็นแถวๆ1020จุด

*ดังนั้นหากยังติดหุ้นไว้ก็อาจถือไว้รอขายเอาทุน หรือตัดขาดทุนให้น้อยที่สุดช่วงฟื้นตัวขึ้นไปครับ ขี้เหร่หน่อยเขต980-990 กลางๆอาจเป็น1000-1005 ดีที่สุดแถวๆ1020อาจได้ทุนหรือบวกกำไรนิดหน่อย

3.SET50 ลุ้นไปตัดขายขาดทุนเขต680-685หรืออาจได้ลุ้นเขต705หรือ710จุด


แนวโน้ม—ราคาเช้านี้ร่วงลงมาจนเข้าข่ายsuper over soldเมื่อราคาหลุดbolinger band bottom ลงมา ดังนั้นก็อาจเกิดการรีบาวนด์กลับไปเขต680+/- และลุ้นว่าผ่านด่านนี้ไหม หากผ่านจะไป700ดีที่สุดไม่เกิน705-710จุด

กลยุทธ์-รอจังหวะฟื้นตัวรีบาวนด์ในช่วงกลางถีงปลายสัปดาห์นี้ขายstop lossอาจเป็นเขต680 หรือได้ลุ้นแถว700+/- จากนั้นอาจเปลี่ยนมาเล่นขาลง

**********


รอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรอปีหน้า-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย 30 มกราคม 2554นี้ รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )


บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************


******

เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554 รุ่นสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลยต้องรออีกปี


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(24ม.ค.): แนวรับจิตวิทยา1000จุด แนวรับใหญ่ทางเทคนิค980หากยืนได้จะแกว่งในกรอบ980-1055จุด น่าถือหรือซื้อ ยกเว้นปิดหลุดต่ำกว่า980ก็ควรSTOP


รถด่วนขบวนสุดท้าย-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54 หากท่านใดไม่อยากพลาดเรื่องนี้จริงๆจะมีรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 30 ม.ค.นี้ พลาดหนนี้ก็รออีกปีหน้า ส่วนท่านที่สนใจเรียนกราฟขั้นเทพเอาไปทำมาหากินได้ตลอดชีวิต ประกอบการซื้อขายหุ้น,TFEX,ทองฟิวเจอร์ สอนแบบไม่มีกั๊ก งานมีวันที่ 23 ม.ค.แต่เหลือไม่เกิน 5 ท่าน(สำหรับท่านที่สนใจจริงๆจังๆเรื่องกราฟนะครับ กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ)

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******

1.SET ยังไม่น่าหมดขาขึ้น ยังเป็นเพียงการปรับฐานในคลื่นที่3? แต่มีข้อแม้คือห้ามหลุดลงไปปิดต่ำกว่าเขต980จุด

เราอยู่ตรงไหนของแนวโน้มนี้-ในทางทฤษฎีคลื่นนั้น ช่วงของแนวโน้มขาขึ้นประกอบด้วยทั้งหมด 5 คลื่นด้วยกัน ตอนนี้ผมประเมินว่าตลาดอยู่ในคลื่นที่ 3 แสดงว่าหากจะตกตอนนี้ก็เป็นการตกปรับฐานมากกว่าจะหมดรอบขาขึ้นแล้วลงยาว


เราอยู่ตรงไหนของคลื่นที่3-ผมคิดว่าเราอยู่กลางทางของคลื่นที่3 ในระยะนี้อาจเป็นเพียงการปรับฐานในคลื่น4ย่อย ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดนี้ SETไม่ควรทำจุดต่ำใหม่กว่าฐานเดิมที่มีนัยยะสำคัญบริเวณ 980จุด+/-



ท่าไหร่จึงจะยอมstop loss?-ผมประเมินว่าSETยังไม่เข้าข่ายชัดเจนว่าเริ่มเข้าสู่ขาลง เพราะช่วงนี้มีกรอบเคลื่อนไหวแกว่งตัวในแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง ที่มีกรอบแนวต้านบนบริเวณ1055จุด และแนวรับหลักบริเวณ978จุด

ข้อพิจารณาคือเวลานี้ตลาดหุ้นเข้าสู่เขตsuper over soldอย่างมีนัยสำคัญมาก นั่นคือวันนี้เช้า(24ม.ค.)หุ้นตกลงมาแถว992จุด ราคาหุ้นลงมากระทั่งหลุดbolinger band bottom โดยทั่วไปหมายถึงตลาดตกหนักเกินเหตุ จะตามมาด้วยการฟื้นตัวในวันต่อไป โดยอย่างน้อยควรเด้งกลับไปบริเวณbolingerband average~1025หรือbolinger band top~1055จุด

*สรุปก็คือ-ตอนนี้หุ้นตกหนักจนพร้อมจะฟื้นตัว ขณะที่ฐานรับใหญ่ทางเทคนิคอยู่บริเวณ978-980จุด หากยืนได้ น่าจะได้เห็นการแกว่งตัวในกรอบ978-1055จุดต่อไป หากอยากขายก็รอช่วงฟื้นตัว จะได้ทุนคืน หรือบวกกำไร

*กรณีที่จะน่าขายstop lossคือหากวันนี้หรือในสัปดาห์นี้ลงไปปิดต่ำกว่าเขต978-980จุดก็ควรต้องขาย เพราะตลาดจะเปลี่ยนไปเล่นเป็นขาลงต่อไปครับ

2.SET50 กรอบแนวรับสุดท้าย675+/- น่าแกว่งไซด์เวย์ระหว่าง675-635จุด


แนวโน้ม—ราคาเช้านี้ร่วงลงมาจนเข้าข่ายover soldเมื่อราคาหลุดbolinger band bottom โดยมีกรอบแนวรับหลัก675+/-(ตั้งแต่675-680จุดโดยประมาณ) หากยืนได้ก็ยังจะแกว่งในกรอบ675-735จุดแบบไซด์เวย์ออกด้านข้างต่อไป

กลยุทธ์-จับตามองว่ายืนเหนือ675-680จุดได้หรือไม่ หากได้ก็ยังแนะนำถือ หรือเล่นทางซื้อเพราะมีหวังฟื้นขึ้นไป715หรือ735จุด แต่หากหลุดลงต่ำกว่า675-680ลงไปเด็ดขาด ก็อาจต้องทำใจที่จะต้องstop lossเพื่อเปลี่ยนไปเล่นขาลงต่อไป

**********


รอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรอปีหน้า-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย 30 มกราคม 2554นี้ รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )


บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************


******

เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554 รุ่นสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลยต้องรออีกปี


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(17-21ม.ค.): ตลาดยังเป็นแนวโน้มขึ้นหรืออย่างแย่ก็ซึม ตอนนี้แค่ปรับตัว มีหุ้นให้ถือต่อ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ยังไม่มีสัญญาณจะเป็นขาลง


รถด่วนขบวนสุดท้าย-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54 หากท่านใดไม่อยากพลาดเรื่องนี้จริงๆจะมีรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 30 ม.ค.นี้ พลาดหนนี้ก็รออีกปีหน้า ส่วนท่านที่สนใจเรียนกราฟขั้นเทพเอาไปทำมาหากินได้ตลอดชีวิต ประกอบการซื้อขายหุ้น,TFEX,ทองฟิวเจอร์ สอนแบบไม่มีกั๊ก งานมีวันที่ 23 ม.ค.แต่เหลือไม่เกิน 5 ท่าน(สำหรับท่านที่สนใจจริงๆจังๆเรื่องกราฟนะครับ กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ)

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******
คัมภีร์หุ้นไทย(17ม.ค.): เมื่อเกิดโครงสร้างDouble bottomเขต1008จุด จะเป็นภาพเชิงบวกว่าตลาดน่าเจอฐานรับที่แข็งแกร่งแล้ว หากช่วงนี้ขึ้นผ่าน1030ได้มั่นคงจะเป็นการยืนยันจบการตกปรับฐานเพื่อขึ้นรอบใหม่ สัปดาห์นี้ลุ้นทำสอบพีคเก่า~1055 และยังมีลุ้นทำนิวไฮ แต่ระยะสั้นอาจพักฐานก่อนแถว1025-1030จุด+/-
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com

1.SETลงมายังไม่เกิดnew low สะท้อนว่าขาขึ้นรอบนี้ยังไม่ถูกทำลาย และเมื่อเกิดโครงสร้างDouble bottomเขต1008จุด จะเป็นภาพเชิงบวกว่าตลาดน่าเจอฐานรับที่แข็งแกร่งแล้ว หากช่วงนี้ขึ้นผ่าน1030ได้มั่นคงจะเป็นการยืนยันจบการตกปรับฐานเพื่อขึ้นรอบใหม่ สัปดาห์นี้ลุ้นทำสอบพีคเก่า~1055 และยังมีลุ้นทำนิวไฮ แต่ระยะสั้นอาจพักฐานก่อนแถว1025จุด+/-


-เมื่อวันศุกร์ต่างชาติกลับมาขายสุทธิหนักอีก4,322ล้านบาท แม้จะเป็นปัจจัยลบ แต่จุดที่น่าสนใจในทางtechnical analysis สำหรับSET ก็คือ การทำฐานที่1,008จุด ต่อเนื่องสองวันติดต่อกันในสัปดาห์ก่อน เท่ากับว่าก่อรูปแบบโครงสร้างในเชิงบวกคือรูปแบบจุดต่ำซ้ำซ้อน2ครั้ง(Double bottom)โดยทั่วไปมักตามมาด้วยการฟื้นตัว หรือยืนยันว่าตกปรับฐานcomplete

ที่สำคัญเมื่อสัปดาห์ก่อนSETขึ้นมาปิดเหนือด่านแนวต้านเส้นกดหัว(Down trend line)บริเวณ1026-1030จุดได้สำเร็จ โดยมีข่าวเรื่องกนง.ขึ้นดอกเบี้ยวันพุธก่อน เป็นปัจจัยหนุนตลาด และแบงก์ได้ขานรับขึ้นดอกเบี้ยทันที

-ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นTIP หลังเปิดทำการปีใหม่ลงแรง โดยเฉพาะIndonesia Philippines ก็เป็นปัจจัยกดดันให้Thailandลงด้วย เพราะเป็นเม็ดเงินก้อนเดียวกันที่เข้ามาซื้อหุ้น เวลาขายก็ขายพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากอินโดนีเซียร่วงแรงก่อนหน้านี้ ก็เริ่มประคองตัวสร้างฐานเหนือเขต3500จุด(ขณะที่ไทยพยายามสร้างฐานเหนือ1,000จุด)

*ข้อพิจารณาคือปีที่แล้วตลาดหุ้นTIPขึ้นแรง ติดTOP THREEของโลก เพราะเงินเข้า หากเจอขายก็มักเป็นไปในทางเดียวกันครับ

อย่างไรก็ตามมีข้อละเอียดที่ต่างกันอยู่คือ ปี2553ที่ผ่านมาหุ้นอินโดนีเซียติดแชมป์โลกในการขึ้นคือราว50% รวม2ปีขึ้นมา200กว่า% ของไทยปีที่แล้วขึ้น40% รวม2ปีขึ้นมาราว150%

ที่อินโดนีเซียขึ้นเยอะสุดเพราะดอกเบี้ยสูงมาก ก่อนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี2551ดอกเบี้ยอินโดฯอยู่9%กว่า ปีกลายแม้ลดดอกเบี้ยลงก็ยังสูงถึง6% แต่เมืองไทยก่อนวิกฤตอยู่ที่3.75% มาตอนนี้แม้จะขึ้นดอกเบี้ยมาก็อยู่แค่2%

สัปดาห์ก่อนกนง.ขึ้นดอกเบี้ยอีก0.25%มาที่2.25% และคาดการณ์จะขึ้นไปราวๆเป้าหมาย3-3.25%ในสิ้นปีนี้ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดหุ้นไทย

ปีที่แล้วเงินฝรั่งไหลเข้าไปกินส่วนต่างดอกเบี้ยในอินโดฯและพลอยไล่ราคาหุ้นขึ้นแรง มาปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ยก็ยากเพราะสูงตั้ง6% เลยเป็นเหตุให้ไม่มีแรงจูงใจ ราคาหุ้นก็ชักแพง ฝรั่งพากันออกบทวิจัยให้ขายหุ้นอินโดฯ แต่เมืองไทยปีนี้ยังจะขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อไป หุ้นก็ไม่แพง คือค่าP/Eอยู่ราว13เท่า ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของหุ้นเอเชียที่ 15 เท่า ฝรั่งยังออกบทวิจัยให้ซื้อและถือหุ้นไว้อยู่ ยังมองจะไปต่ออีกราวๆ20%(เป้าหมายก็ราว1200จุด+/-) นี่เป็นความต่างกันของเมืองไทยกับอินโดฯ ผมเลยคิดว่าหากฝรั่งทิ้งหุ้นอินโดฯ เราก็มีเรื่องบรรเทาอยู่ คือมีเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นค้ำเอาไว้ ไม่ให้เขาทิ้งหุ้ยนไทยครับ(รายละเอียดอ่านในคู่มือตลาดหุ้นไทยปี54ที่ผมทำแจกจ่ายท่านสมาชิกไปก่อนหน้านี้)

Note:ในทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นหากSETตกลงมาโดยไม่ทำจุดต่ำใหม่(ไม่เกิดnew low)แปลว่าเป็นการตกปรับฐาน(corrective)เพื่อจะขึ้นต่อมีnew highครับ ฐานlowเก่าของตลาดหุ้นรอบที่ผ่านมา และฐานใหญ่ที่มีนัยยะสำคัญคือ1002จุด

ดังนั้นการลงมารอบนี้ก็ต้องลุ้นว่าหากไม่มีลงลึกกว่า1002 หรือกลับไปยืนเหนือ1030จุดได้ แปลว่านี่เป็นการตกปรับฐาน เพราะทำจุดlowยกสูงขึ้น ท่านควรคาดการณ์ว่าจากนั้นจะฟื้นตัว แล้วไปลุ้นหากผ่านแนวต้านdowntrendเขต1030ก็แปลว่าจะดำเนินไปในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นต่อไป ที่ควรจะมีnew higไปเกิน1055 ซึ่งก็คือเป้าหมาย1130ที่ผมเคยคาดการณ์ไว้

เว้นเสียแต่ว่าSETลงมารอบนี้ทำท่าว่าลงหลุด1000จุด อันนี้แสดงว่า ไม่ใช่การลงปรับฐานในแนวโน้มขาขึ้นเพื่อไปทำnew highนะครับ แต่จะเป็นขาลงยาวไปเลย

ดังนั้นหากท่านถามว่าแบบไหนจึงจะน่ากลัวว่าตลาดจะเปลี่ยนเป็นขาลง ก็คือเฝ้าระวังว่าอย่าลงหลุดปิดลึกกว่าเขต1000+/-ก็แล้วกัน หากหลุดด่านนี้น่ากลัวจะต้องขายตัดขาดทุนครับ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง แต่หากขึ้นผ่านเขต1030ได้มั่นคง ต้องกลับมาลุ้นการไปทดสอบพีคเดิม1055หรือได้ลุ้นการทำนิวไฮไปเป้าหมาย1130ที่เคยประเมินไว้ว่าจะเป็นจุดพีคแรกของปีนี้

แต่ผมก็ยังคิดว่าน่าจะเป็นการตกปรับฐานเพื่อขึ้นนิวไฮมากกว่าครับ

แนวโน้มสัปดาห์นี้(17-21ม.ค.54)-มีทิศทางเป็นบวก น่าปรับตัวขึ้นไปทดสอบพีคเก่า1,055จุดได้ และได้ลุ้นการทำนิวไฮขึ้นไปเหนือเขตนี้ อย่างไรก็ตามการประเมินสำหรับต้นสัปดาห์น่าจะตกปรับฐานลงมาเขต1025+/-จุดก่อน และหากยืนเหนือด่านนี้ได้มั่นคง สร้างฐานแน่นแล้วจะขึ้นไปทดสอบด่าน1055ภายในสัปดาห์นี้ได้ต่อไป

*สรุป ผมให้เฝ้าดูว่าหากSETทำโลว์รอบนี้แถว1004-1008แล้วฟื้น และหากสัปดาห์นี้ยืนเหนือด่าน1025-1030ก็แปลว่าที่ร่วงลงมาแรงๆเป็นการตกปรับฐานเพื่อขึ้นทำนิวไฮยังมีเป้าหมาย1130ต่อไป หรือไป1260จุดเป้าใหญ่ของปี(ยกเว้นรอบนี้ลงหลุด1000จุด ควรทำใจขายเอาทุน)

2.SET50 น่าถึงฐานรับใหญ่double bottomมีกาสไปทดสอบไฮเก่า735แต่จะพักตัวเขต705-707ก่อน

แนวโน้ม—หลังปีใหม่ขึ้นมาใกล้เขตพีคเก่า735แล้วลง เกิดรูปแบบdouble top แต่ลงมาเกิดรูปแบบdouble bottomคือทำจุดต่ำซ้ำซ้อนบริเวณ692มา2วันติดต่อกัน

ดูจากFibonacci retracement(วัดจากฐาน671.50ยอด735.30)แสดงว่า2วันที่ผ่านมานี้ร่วงลงมาถึงแนวรับเขต2ใน2คือบริเวณ692-695จุด ดังนั้นหากยืนได้ก็พร้อมฟื้นตัว ทดสอบแนวต้านdowntrend~710-715จุด

เมื่อทดสอบเขต715ไม่ผ่านอาจพักฐานลงมาเขต705-707ก่อนขึ้นทดสอบด่าน715อีกยก และหากผ่านก็จะมีโอกาสผ่านขึ้นไปด้านแรกลุ้นผ่าน715และกลับไปพีคเดิม735 จากนั้นในอาจrallyขึ้นไปเขต750-755 หรือ770 กรณีดีที่สุดไม่เกิน800จุด เหมือนที่เคยคาดไว้ (แต่หากหลุดลึกกว่า690น่าจะเปลี่ยนเป็นขาลง กรณีดังกล่าวให้เปลี่ยนไปเล่นขาลง)

กลยุทธ์-เน้นการเล่นทางซื้อ โดยเข้าซื้อที่เขตแนวรับ705-707 แล้วถือลุ้นว่าจะผ่าน715หรือไม่ หากผ่านก็ถือต่อรอไปขายทำกำไรที่แนวต้านเป้าหมาย ยกเว้นลงไปหลุดต่ำกว่าเขต690ลงไปควรขายstop lossเพื่อลดความเสี่ยง และหันไปเล่นขาลง แต่ผมยังคาดว่าน่าจะเป็นการลงปรับฐานเพื่อขึ้น มากกว่าเป็นการหมดรอบขาขึ้นเพื่อเป็นขาลงใหญ่

**********


รอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรอปีหน้า-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย 30 มกราคม 2554นี้ รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )


บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************


******

เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554 รุ่นสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลยต้องรออีกปี


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

คัมภีร์หุ้นไทย(14ม.ค.): ชีวิตที่Doubleของหุ้นไทย ลุ้นให้ผ่านด่าน1026-1030ได้ แสดงว่ารอบที่ผ่านมาเป็นการตกปรับฐานเพื่อทำนิวไฮรอบใหม่


รอบนี้เต็มแล้วเชิญรอบสุดท้าย-งานอบรมเล่นหุ้นให้รวยปี54วันอาทิตย์16ม.ค.เต็มจนล้นแล้วนะครับ หากท่านใดไม่อยากพลาดเรื่องนี้จริงๆจะมีรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 30 ม.ค.นี้ พลาดหนนี้ก็รออีกปีหน้า ส่วนท่านที่สนใจเรียนกราฟขั้นเทพเอาไปทำมาหากินได้ตลอดชีวิต สอนแบบไม่มีกั๊ก งานมีวันที่ 23 ม.ค.แต่เหลือไม่เกิน 5 ท่าน(สำหรับท่านที่สนใจจริงๆจังๆเรื่องกราฟนะครับ กะเรียนเสร็จเอาไปใช้งาน ไม่งั้นเสียดายตังค์กับเสียเวลาเปล่าๆ)

**********
โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
******

1.SETลงมายังไม่เกิดnew low สะท้อนว่าขาขึ้นรอบนี้ยังไม่ถูกทำลาย และเมื่อเกิดโครงสร้างDouble bottomเขต1008จุด จะเป็นภาพเชิงบวกว่าตลาดน่าเจอฐานรับที่แข็งแกร่งแล้ว หากช่วงนี้ขึ้นผ่าน1030ได้มั่นคงจะเป็นการยืนยันจบการตกปรับฐานเพื่อขึ้นรอบใหม่ ทำนิวไฮเกิน1055 โดยได้ข่าวขึ้นดอกเบี้ยหนุน


-เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิแค่เพียง55ล้านบาท หลังจาก3วันก่อนนี้เทขายหนัก แต่จุดที่น่าสนใจสำหรับSETคือทำฐานที่1,008จุด ต่อเนื่องสองวันติดต่อกัน เท่ากับว่าก่อรูปแบบโครงสร้างในเชิงบวกคือรูปแบบจุดต่ำซ้ำซ้อน2ครั้ง(Double bottom)โดยทั่วไปมักตามมาด้วยการฟื้นตัว หรือยืนยันว่าตกปรับฐานcomplete

ที่สำคัญเมื่อวานSETขึ้นมาปิดเหนือด่านแนวต้านเส้นกดหัว(Down trend line)บริเวณ1026-1030จุดในวันนี้ โดยมีข่าวเรื่องกนง.ขึ้นดอกเบี้ยวันพุธ เป็นปัจจัยหนุนตลาด และแบงก์ได้ขานรับขึ้นดอกเบี้ยทันที

-สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ดัชนีSETขึ้นไปเขต1055จุด ซึ่งเป็นพีคเก่าแล้วตีไม่ผ่าน จากนั้นตก แรง3วันติดต่อกัน เมื่อวานเป็นวันที่สี่ แต่SETทำจุดต่ำซ้ำซ้อนเขต1008จุดติดต่อกันสองวัน (โดยทั่วไปหากเป็นการตกปรับฐานจากโครงสร้างเชิงลบ double topจะลงมา 3 วัน หากครบ3วันจะเป็นวันสุดท้ายของการลง และหากลงมาก่อรูปแบบdouble bottomก็มักเป็นฐานรับที่แข็งแกร่ง และยืนยันการฟื้นตัวรอบใหม่ )

-ปัจจัยลบคือการที่ฝรั่งขายแรง (วานก่อนขายสุทธิหนัก3897ล้านบาท และวันก่อนนี้ก็ขายสุทธิ5พันล้านบาทเศษ) แต่ล่าสุดวานนี้ขายสุทธิเพียง300ล้านบาทเศษ ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงมาเขต80จุด(แต่ภาพรวมๆน่าจะแข็งค่าต่อเนื่อง เพราะค่าเงินยูโรร่วง เพราะเศรษฐกิจยุโรปอ่อนแอ) ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนลงมาเขต30.73บาท แต่วันนี้แข็งมาเขต30.34(แต่มีโอกาสอ่อนไปแตะ31บาท/ดอลลาร์)

ตามสถิติแล้วหากฝรั่งขาย ค่าบาทอ่อนลง ดอลลาร์แข็งขึ้น จะเป็นปัจจัยลบกดดันให้หุ้นตก เพราะแปลว่าต่างชาติขายหุ้น และอาจนำกำไรออกไป

-ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นTIPลงแรง โดยเฉพาะIndonesia Philippines ก็เป็นปัจจัยกดดันให้Thailandลงด้วย เพราะเป็นเม็ดเงินก้อนเดียวกันที่เข้ามาซื้อหุ้น เวลาขายก็ขายพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากอินโดนีเซียร่วงแรงเกือบ5%เมื่อวานก่อนหน้านี้ ล่าสุดวานนี้ฟื้นตัวแล้ว และมาเช้านี้มีแรงซื้อกลับฟื้นตัวมายืนเหนือเขต3500จุดขึ้นมาแถวๆ3600จุด หรือ+1% ก็อาจกระตุ้นให้หุ้นไทยฟื้นตาม

*ข้อพิจารณาคือปีที่แล้วตลาดหุ้นTIPขึ้นแรง ติดTOP THREEของโลก เพราะเงินเข้า หากเจอขายก็มักเป็นไปในทางเดียวกันครับ

อย่างไรก็ตามมีข้อละเอียดที่ต่างกันอยู่คือ ปี2553ที่ผ่านมาหุ้นอินโดนีเซียติดแชมป์โลกในการขึ้นคือราว50% รวม2ปีขึ้นมา200กว่า% ของไทยปีที่แล้วขึ้น40% รวม2ปีขึ้นมาราว150%

ที่อินโดนีเซียขึ้นเยอะสุดเพราะดอกเบี้ยสูงมาก ก่อนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี2551ดอกเบี้ยอินโดฯอยู่9%กว่า ปีกลายแม้ลดดอกเบี้ยลงก็ยังสูงถึง6% แต่เมืองไทยก่อนวิกฤตอยู่ที่3.75% มาตอนนี้แม้จะขึ้นดอกเบี้ยมาก็อยู่แค่2%

เมื่อวานนี้กนง.ขึ้นดอกเบี้ยอีก0.25%มาที่2.25% และคาดการณ์จะขึ้นไปราวๆเป้าหมาย3-3.25%ในสิ้นปีนี้ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดหุ้นไทย

ปีที่แล้วเงินฝรั่งไหลเข้าไปกินส่วนต่างดอกเบี้ยในอินโดฯและพลอยไล่ราคาหุ้นขึ้นแรง มาปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ยก็ยากเพราะสูงตั้ง6% เลยเป็นเหตุให้ไม่มีแรงจูงใจ ราคาหุ้นก็ชักแพง ฝรั่งพากันออกบทวิจัยให้ขายหุ้นอินโดฯ แต่เมืองไทยปีนี้ยังจะขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อไป หุ้นก็ไม่แพง คือค่าP/Eอยู่ราว13เท่า ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของหุ้นเอเชียที่ 15 เท่า ฝรั่งยังออกบทวิจัยให้ซื้อและถือหุ้นไว้อยู่ ยังมองจะไปต่ออีกราวๆ20%(เป้าหมายก็ราว1200จุด+/-) นี่เป็นความต่างกันของเมืองไทยกับอินโดฯ ผมเลยคิดว่าหากฝรั่งทิ้งหุ้นอินโดฯ เราก็มีเรื่องบรรเทาอยู่ คือมีเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นค้ำเอาไว้ ไม่ให้เขาทิ้งหุ้ยนไทยครับ(รายละเอียดอ่านในคู่มือตลาดหุ้นไทยปี54ที่ผมทำแจกจ่ายท่านสมาชิกไปก่อนหน้านี้)

Note:ในทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นหากSETตกลงมาโดยไม่ทำจุดต่ำใหม่(ไม่เกิดnew low)แปลว่าเป็นการตกปรับฐาน(corrective)เพื่อจะขึ้นต่อมีnew highครับ ฐานlowเก่าของตลาดหุ้นรอบที่ผ่านมา และฐานใหญ่ที่มีนัยยะสำคัญคือ1002จุด

ดังนั้นการลงมารอบนี้ก็ต้องลุ้นว่าหากไม่มีลงลึกกว่า1002 หรือกลับไปยืนเหนือ1030จุดได้ แปลว่านี่เป็นการตกปรับฐาน เพราะทำจุดlowยกสูงขึ้น ท่านควรคาดการณ์ว่าจากนั้นจะฟื้นตัว แล้วไปลุ้นหากผ่านแนวต้านdowntrendเขต1030ก็แปลว่าจะดำเนินไปในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นต่อไป ที่ควรจะมีnew higไปเกิน1055 ซึ่งก็คือเป้าหมาย1130ที่ผมเคยคาดการณ์ไว้

เว้นเสียแต่ว่าSETลงมารอบนี้ทำท่าว่าลงหลุด1000จุด อันนี้แสดงว่า ไม่ใช่การลงปรับฐานในแนวโน้มขาขึ้นเพื่อไปทำnew highนะครับ แต่จะเป็นขาลงยาวไปเลย

ดังนั้นหากท่านถามว่าแบบไหนจึงจะน่ากลัวว่าตลาดจะเปลี่ยนเป็นขาลง ก็คือเฝ้าระวังว่าอย่าลงหลุดปิดลึกกว่าเขต1000+/-ก็แล้วกัน หากหลุดด่านนี้น่ากลัวจะต้องขายตัดขาดทุนครับ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง แต่หากขึ้นผ่านเขต1030ได้มั่นคง ต้องกลับมาลุ้นการไปทดสอบพีคเดิม1055หรือได้ลุ้นการทำนิวไฮไปเป้าหมาย1130ที่เคยประเมินไว้ว่าจะเป็นจุดพีคแรกของปีนี้

แต่ผมก็ยังคิดว่าน่าจะเป็นการตกปรับฐานเพื่อขึ้นนิวไฮมากกว่าครับ

*สรุป ผมให้เฝ้าดูว่าหากSETทำโลว์รอบนี้แถว1004-1008แล้วฟื้น และชนะด่าน1030ก็แปลว่าที่ร่วงลงมาแรงๆเป็นการตกปรับฐานเพื่อขึ้นทำนิวไฮยังมีเป้าหมาย1130ต่อไป หรือไป1260จุดเป้าใหญ่ของปี(ยกเว้นรอบนี้ลงหลุด1000จุด ควรทำใจขายเอาทุน)


2.SET50 น่าถึงฐานรับใหญ่double bottomพร้อมจะฟื้นไข้ ลุ้นผ่าน710-715จะไป735หรือนิวไฮเขต760-800ในรอบใหม่

แนวโน้ม—หลังปีใหม่ขึ้นมาใกล้เขตพีคเก่า735แล้วลง เกิดรูปแบบdouble top แต่2วันที่ผ่านมาก็เกิดรูปแบบdouble bottomคือทำจุดต่ำซ้ำซ้อนบริเวณ692มา2วันติดต่อกัน

ดูจากFibonacci retracement(วัดจากฐาน671.50ยอด735.30)แสดงว่า2วันที่ผ่านมานี้ร่วงลงมาถึงแนวรับเขต2ใน2คือบริเวณ692-695จุด ดังนั้นหากยืนได้ก็พร้อมฟื้นตัว ทดสอบแนวต้านdowntrend~710-715จุด

จับตาหากลงไม่หลุดลึกกว่าเขต692-695 แสดงว่าเป็นการตกปรับฐาน ก็น่าพักฐานจบเขตนี้ และมีโอกาสผ่านขึ้นไปด้านแรกลุ้นผ่าน710-715และกลับไปพีคเดิม735 จากนั้นในอาจrallyขึ้นไปเขต750-755 หรือ770 กรณีดีที่สุดไม่เกิน800จุด เหมือนที่เคยคาดไว้ แต่หากหลุดลึกกว่า690น่าจะเปลี่ยนเป็นขาลง กรณีดังกล่าวให้เปลี่ยนไปเล่นขาลง

กลยุทธ์-เน้นการเล่นทางซื้อ โดยเข้าซื้อที่เขตแนวรับ692-695 แล้วถือลุ้นว่าจะผ่าน710-715หรือไม่ หากผ่านก็ถือต่อรอไปขายทำกำไรที่แนวต้านเป้าหมาย ยกเว้นลงไปหลุดต่ำกว่าเขต690ลงไปควรขายstop lossเพื่อลดความเสี่ยง และหันไปเล่นขาลง แต่ผมยังคาดว่าน่าจะเป็นการลงปรับฐานเพื่อขึ้น มากกว่าเป็นการหมดรอบขาขึ้นเพื่อเป็นขาลงใหญ่
**********


รอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรอปีหน้า-หนังสือคู่มือรวยหุ้นปี 54 พร้อมเปิดโผ 4 หุ้นเด่น,หุ้นปันผลงาม,หุ้นม้ามืดปี54 เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเล่มแล้ว จัดทำจำกัดแค่ 100 เล่ม หากประสงค์อยากได้อ่านไว้เป็นคู่มือการลงทุนตลอดปี 2554 โทรสั่งซื้อ หรือโทรสมัครสมาชิกรับคำปรึกษาการลงทุนเพื่อรับหนังสือคู่มือหุ้นปี54ฉบับสมบูรณ์ก่อนใคร โทรมือถือ087-7174939/087-7174979/087-7178979 หรือเข้าอบรมมือใหม่เล่นหุ้นให้รวยปี54:รหัสลับ3011รวยหุ้นปีกระต่าย รับฟรีคู่มือตลาดหุ้นปี54 (ด่วนก่อนเต็ม เป็นรอบสุดท้ายแล้ว พลาดคราวนี้ต้องรออีกทีหน้าอย่างเดียว )


บทคัดย่อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นปีใหม่2554

คู่มือรวยหุ้นปี2554:กระทิงตัวใหญ่ในปีกระต่ายตื่นตูม

โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธานบริษัท หลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาการลงทุน ใบอนุญาตเลขที่ 12888

***สรุปประเด็นสำคัญ-EXECUTIVE SUMMARY

-ในปี2554นี้มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะดึงดูดเงินทุนต่างประเทศให้ยังเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งใหญ่อาจทำให้หุ้นขึ้นขานรับการเลือกตั้ง ที่เรียกว่าElection rally ซึ่งหากเป็นเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นขานรับเลือกตั้งใหญ่แต่ละหนถึง 2 ปี แต่ปัจจัยกดดันคือการควบคุมภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงของจีน จะกดดันตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ

-เรามองหุ้นไทยยังไม่แพง ค่าP/Eยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยตลาดเอเชียที่อยู่ราว15เท่า ไทยอยู่ราว12-13เท่า แต่หากขึ้นอีกซักราว20%คือเป้าหมายใหญ่ที่เราประเมินปีนี้1,260จุดก็จะเริ่มแพงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมีElection rallyในปีนี้ก็อาจไปได้ราวๆ1,500จุด+/- ในราวเดือน9ปีนี้ หรือเดือนมกราคม 2555

-เรามองว่ากลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำหุ้นเด่นXXX รองลงมาคือ XXX,มองว่าน้ำมันจะแพงเกิน100$แนะนำเก็บXXX,มองว่าหุ้นม้ามืดที่จะมาดีคือXXXจากการเข้าSET50จะทำให้สถาบันและต่างประเทศเข้ามาลงทุน และอาจล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วจ่ายปันผลช่วงตรุษจีน และให้XXXXเป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ที่ชอบซื้อไว้กินปันผล


**********************


******

เกี่ยวกับผู้เขียน

-ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 www.tontancorp.com
-ประธานกรรมการ บริษัทหลักรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
-ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อนนักลงทุน TNN24
-มหาบัณฑิตด้านการจัดการบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชน NIDA
-ประกาศนียบัตรสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร ปปร.รุ่น10,ปรม.รุ่น3และปศส.รุ่น1
-ผู้เขียนหนังสือทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน(พิมพ์10ครั้งในปี2546)


*******************
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามบทความนี้ อ่านชาร์ตประกอบ และรับหุ้นเด่น ก่อนเปิดตลาดทุกเช้า ที่ http://www.tontancorp.com/ สอบถามสมัครสมาชิก โทร.02-9275800

*********

อบรมเล่นหุ้นให้รวยอย่างไรปีใหม่2554 รุ่นสุดท้าย พลาดแล้วพลาดเลยต้องรออีกปี


-อาจารย์ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ฟันธงแนวโน้มตลาดหุ้นปี54จากมกราคม-ธันวาคม2554เป็นรายเดือนว่าจะไปทางไหน ขึ้นเท่าไหร่ ตกเท่าไหร่
-ฟันธงกลุ่มเด่น หุ้นพื้นฐานดีมีปันผลงาม หุ้นร้อนมาแรง หุ้นตัวไหนม้ามืดเข้าแล้วรวย
-ฟันธงแนวโน้มทิศทางSET50 FUTURESจะเล่นขาขึ้นหรือขาลง ได้กำไรทั้งสองทาง
-เปิดกลเม็ดอภิมหาเศรษฐีหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์ที่คุณก็เลียนแบบความสำเร็จระดับโลกได้ด้วยสูตรเฉพาะตัว ง่ายแต่รวย ไม่ยากอย่างที่คิด
-สอนดูกราฟตั้งแต่ไม่เป็น ไปจนขั้นเทพให้คุณเข้าออกได้แม่นเหมือนจับวาง หมดปัญหาขายหมู ติดดอย เข้าผิดตัว ได้ความรู้ไปใช้ตลอดชีวิตได้เปรียบกว่าใคร
-เป็นการบรรยายแบบฟันธง และพาทำเวิร์คช็อป คือหัดสอนอบรมลงมือทำจนนำไปใช้งานได้จริงๆ รับประกันผลงานโดยลูกศิษย์ที่เรียนมาแล้วใช้ได้ผลดีเยี่ยม 36 รุ่นมาแล้ว

-แถมหนังสือคู่มือรวยหุ้นเด่นเล่นแล้วรวยอย่างไรในปี2554เฉพาะผู้มางานนี้
-วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554/09.00-17.00น. ที่ห้องอบรมเชิงปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

-โทรสำรองที่นั่งจำกัดเพียง 30 ท่าน(มีคนจองก่อนประชาสัมพันธ์แล้วครึ่งห้อง รีบจองก่อนเต็ม) 02-9275800 โทรมือถือ