วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การเมืองทุบหุ้นส่งตลาดวันส่งท้ายปี ไม่มีYear End rally แลไปข้างหน้า2557 กลุ่มไหนมีอนาคต?


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp

แนวโน้ม-แกว่งตัวในแนวโน้มขาลงที่มีกรอบแนวรับเขต1300-1308จุด เมื่อวานเกิดpanic sellลงมาที่เขตดังกล่าวนี้ ข้อพิจารณาคือ

ก.หากยืนเหนือเขต1300(เผื่อให้ถึง1295)จะฟื้นขึ้นไปเขต1320-1325จุด และกรอบบน1355จุด

ข.กรณีหลุดด่าน1300(เผื่อให้ถึง1295)จะตกลงไปเขตกรอบ
downtrend supportล่างเขต1280จุด+/-

ข้อพิจารณาคือความเสี่ยงขาลงมีจำกัด คืออาจลงเขต1300แล้วฟื้น หรือหากลงอีกก็1280คือราวๆ20จุดแล้วฟื้น ขณะที่หากฟื้นขึ้นไปจะไปเขต1350-1450จุดในระยะกลาง จึงแนะนำถือ หรือรอสัญญาณซื้อเมื่อเกิดการกลับตัวขึ้นชัดเจนแล้ว


มองข้ามไปปีหน้า2557-ความยุ่งยากทางการเมืองไม่ได้เป็นfactorหลักทำให้หุ้นตกนะครับ เพราะตลาดหุ้นโซนTIPที่ก็ตกลงมาพอๆกับหุ้นไทย ทั้งที่ไม่ได้มีความวุ่นวายทางการเมืองเลย ความจริงคือเป็นเรื่องของFund Flowของเม็ดเงินทุนสากล ระยะ5ปีเศษที่ผ่านมา โซนTIPรวมทั้งไทยเราได้อานิสงส์จากเงิืนทุนไหลออกจากอเมริกา และยุโรปและเข้ามาเก็งกำไรในบ้านเรา(หุ้น,ตราสาร)เราเลยสูงขึ้นมาก แต่เวลานี้เงินทุนไหลกลับ ดังจะเห็นได้ว่าหุ้นเมกานิวไฮ ยุโรปนิวไฮจากความคาดหวังเรื่องเศรษฐกิจฝั่งนั่นจะฟื้นตัว ทำให้เราแย่ลง

อย่างไรก็ดีก็มีทั้งดีและร้ายในเรื่องราวเดียวกันนั้น ล่าสุดFEDได้ลดQEลงเป็นหนแรก1หมื่นล้านดอลลาร์ หุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และค่าเงินบาทอ่อนค่าลง เวลาเศรษฐกิจโลกดีมักเป็นพวกที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก และเราส่งไปป้อนตลาดโลก ก็อย่างพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี สินค้าเกษตร อาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นอาทิ


*ดังนั้นหากมองไปในปีหน้า 2557 หุ้นที่จะได้อานิสงส์ก็จะเป็นหุ้นพวกส่งออกแบบกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาหารการเกษตร กลุ่มปิโตรเคมี  พลังงาน รวมทั้งกลุ่มขนส่งทางเรือ จะเป็นกลุ่มที่เด่นในปีหน้า2557(ท่านรออ่านเพิ่มเติมในคู่มือตลาดหุ้นไทยปี2557)


วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มองไปนอกหน้าต่าง ประเทศกรุงเทพฯและความแปลกแยก

รูปภาพ : ประเทศกรุงเทพฯ- ผมอยู่กับมันมา20กว่าปี แต่ก็ยังแปลกแยกเสมอกับประเทศกรุงเทพฯ คนในประเทศนี้"ส่วนหนึ่ง"โหวตให้เจ้าของซ่องใหญ่ที่สุดรายหนึ่ง แต่ก็ยังทะลึ่งบอกว่า คนนอกประเทศกรุงเทพฯยังมีวิจารณญาณไม่ดีพอในการเลือกผู้แทนของพวกเขา..

เท่าที่ผมจำความได้ในการเลือกตั้งหนแรกๆที่ผมโตจำความทัน แถวบ้านผมมีลุงคนหนึ่งมาแจกใบปลิวแล้วเขียนคำอะไรยากๆมากเช่น ฟาสซิสม์ ศักดินา ขุนศึก คนบ้านผมเลือกแกไปเป็นส.ส.ครับ เราเด็กๆช่วยนำไปปลิวไปติดตามที่ต่างๆ ในเวลาต่อมาลุงคนนี้หนีเข้าป่าไปจับปืนสู้กับรัฐบาล

ในพ.ศ.นั้นมีคนพูดกันว่าคนบ้านผมพากันเลือกคอมมิวนิสต์ไปเป็นผู้แทน ต่ีอมาคนบ้านผมเลยเลือกเศรษฐีแบบคุณพงศ์ สารสิน แล้วก็คุณสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์(ไม่รู้เป็นญาติคุณเพชรไหม) คุณอำนวย วีรวรรณ คนบ้านผมก็โดนว่าอีกว่า ทำไมเลือกนายทุนเป็นผู้แทนฯ..

คือไม่ว่าเราจะเลือกคอมมิวนิสต์ หรือเลือกนายทุน เราก็มีสิทธิที่จะถูกบอกว่าไม่มีวิจารณญาณที่ดีพอทั้งนั้น

แน่นอนว่าเราไม่เคยถามว่าทำไมคนกรุงเทพฯเลือกคุณสมัคร เฉลิม คุณจำลอง คุณชูวิทย์ เพราะคนกรุงเทพฯฉลาด เขาคงเลือกอะไรที่ฉลาดๆแล้ว
......

เปล่าครับ ผมไม่ได้เล่าเรื่องคนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพฯไล่รัฐบาล

ผมเล่าให้ฟังว่า ความจริงแล้วคนบ้านผมนั้นเขาเลือกผู้แทนตามสถานการณ์ากล(Community World) ตามกระแสเศรษฐกิจการเมือง ณ เวลานั้นๆ

ในยุคสงครามเย็น กระแสสากลเป็นเรื่องของทุนนิยมVSสังคมนิยม..คนบ้านผมเลือกผู้แทนพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย,พรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทย หรือซ้ายอ่อนๆแบบพลังใหม่ของหมอกระแส

ในยุคปลายประชาธิปไตยครึ่งใบ เกิดความขัดแย้งระหว่างป๋าเปรมVSพลเอกอาทิตย์ ..คนบ้านผมเลือกโหวตให้พรรคพลเอกอาทิตย์ เราไม่เอาป๋าเปรม เราอยากเป็นประชาธิปไตย

ในยุคNICs..เราเลือกคุณพงศ์ คุณสุรัตน์ คุณอำนวย เศรษฐีจากกรุงเทพฯ เพื่อหวังจะพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพราะคนบ้านผมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจการตลาดเต็มรูปแบบแล้ว

.........

แต่ผมสังเกตว่าการเลือกของคนกรุงเทพฯนั้นแปลกๆสวิงไปมา และเลือกตามภาพลักษณ์ว่า"ดูดี"หรือเปล่า?

คนประเทศกรุงเทพฯ เคยคลั่งไคล้ไหลหลงมหาจำลอง เพราะแบกะดิน(และมีศีลธรรม)ก็แห่เลือกถล่มทลาย 

ในเวลาต่อมาคนๆเดียวกันนี้ก็ไม่เอามหาจำลอง หันไปโหวตให้คุณสมัคร(ซึ่งเป็นคู่แข่งคุณจำลองนั่นแหละ)ชนะเกินล้าน หันไปเลือกชูวิทย์(ที่มีภาพลักษณ์ตรงข้ามกับมหาจำลอง)

.......
ความจริงคนบ้านนอก(ยกตัวอย่างบ้านผมแล้วกัน) เขามีเหตุผลของเขาเหมือนกัน แต่เหตุผลนั้นต่างจากคนกรุงเทพฯ เรายึดโยงกับสถานการณ์สากลและสถานการณ์บ้านเมืองในเรื่องการเมือง&เศรษฐกิจ และวิถีการผลิต

ไม่ใช่้เรื่องภา่พลักษณ์ที่"ดูดี"(หรือไม่ดี)แบบที่เป็นค่านิยมและวิถีแบบคนในประเทศกรุงเทพฯ

ข้อสังเกตของผมคือคนกรุงเทพฯนั้นทางรัฐจัดให้เหลือเฟือแล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องว่าเลือกผู้แทนไปแล้วจะไปมีผลได้ผลเสียอย่างไรกับวิถีชีวิตของตัวเอง จึงมักเน้นไปที่ภาพลักษณ์(ดีหรือเลว) ขณะที่คนบ้านผมนั้นการเลือกผู้แทนฯนั้น มันหมายถึงวิถีการผลิต วิถีเศรษฐกิจปากท้องและความเป็นอยู่ของเรา

ก็เป็นแง่มุมหนึ่งที่ผมเล่าให้ฟัง แน่นอนว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้มีน้ำหนักมากเท่าที่ผมให้ข้อสังเกตมานี้
ประเทศกรุงเทพฯ- ผมอยู่กับมันมา20กว่าปี แต่ก็ยังแปลกแยกเสมอกับประเทศกรุงเทพฯ คนในประเทศนี้"ส่วนหนึ่ง"โหวตให้เจ้าของซ่องใหญ่ที่สุดรายหนึ่ง แต่ก็ยังทะลึ่งบอกว่า คนนอกประเทศกรุงเทพฯยังมีวิจารณญาณไม่ดีพอในการเลือกผู้แทนของพวกเขา..

เท่าที่ผมจำความได้ในการเลือกตั้งหนแรกๆที่ผมโตจำความทัน แถวบ้านผมมีลุงคนหนึ่งมาแจกใบปลิวแล้วเขียนคำอะไรยากๆมากเช่น ฟาสซิสม์ ศักดินา ขุนศึก คนบ้านผมเลือกแกไปเป็นส.ส.ครับ เราเด็กๆช่วยนำไปปลิวไปติดตามที่ต่างๆ ในเวลาต่อมาลุงคนนี้หนีเข้าป่าไปจับปืนสู้กับรัฐบาล

ในพ.ศ.นั้นมีคนพูดกันว่าคนบ้านผมพากันเลือกคอมมิวนิสต์ไปเป็นผู้แทน ต่ีอมาคนบ้านผมเลยเลือกเศรษฐีแบบคุณพงศ์ สารสิน แล้วก็คุณสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์(ไม่รู้เป็นญาติคุณเพชรไหม) คุณอำนวย วีรวรรณ คนบ้านผมก็โดนว่าอีกว่า ทำไมเลือกนายทุนเป็นผู้แทนฯ..

คือไม่ว่าเราจะเลือกคอมมิวนิสต์ หรือเลือกนายทุน เราก็มีสิทธิที่จะถูกบอกว่าไม่มีวิจารณญาณที่ดีพอทั้งนั้น

แน่นอนว่าเราไม่เคยถามว่าทำไมคนกรุงเทพฯเลือกคุณสมัคร เฉลิม คุณจำลอง คุณชูวิทย์ เพราะคนกรุงเทพฯฉลาด เขาคงเลือกอะไรที่ฉลาดๆแล้ว
......

เปล่าครับ ผมไม่ได้เล่าเรื่องคนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพฯไล่รัฐบาล

ผมเล่าให้ฟังว่า ความจริงแล้วคนบ้านผมนั้นเขาเลือกผู้แทนตามสถานการณ์ากล(Community World) ตามกระแสเศรษฐกิจการเมือง ณ เวลานั้นๆ

ในยุคสงครามเย็น กระแสสากลเป็นเรื่องของทุนนิยมVSสังคมนิยม..คนบ้านผมเลือกผู้แทนพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย,พรรคแนวร่วมสังคมนิยมแห่งประเทศไทย หรือซ้ายอ่อนๆแบบพลังใหม่ของหมอกระแส

ในยุคปลายประชาธิปไตยครึ่งใบ เกิดความขัดแย้งระหว่างป๋าเปรมVSพลเอกอาทิตย์ ..คนบ้านผมเลือกโหวตให้พรรคพลเอกอาทิตย์ เราไม่เอาป๋าเปรม เราอยากเป็นประชาธิปไตย

ในยุคNICs..เราเลือกคุณพงศ์ คุณสุรัตน์ คุณอำนวย เศรษฐีจากกรุงเทพฯ เพื่อหวังจะพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพราะคนบ้านผมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจการตลาดเต็มรูปแบบแล้ว

.........

แต่ผมสังเกตว่าการเลือกของคนกรุงเทพฯนั้นแปลกๆสวิงไปมา และเลือกตามภาพลักษณ์ว่า"ดูดี"หรือเปล่า?

คนประเทศกรุงเทพฯ เคยคลั่งไคล้ไหลหลงมหาจำลอง เพราะแบกะดิน(และมีศีลธรรม)ก็แห่เลือกถล่มทลาย

ในเวลาต่อมาคนๆเดียวกันนี้ก็ไม่เอามหาจำลอง หันไปโหวตให้คุณสมัคร(ซึ่งเป็นคู่แข่งคุณจำลองนั่นแหละ)ชนะเกินล้าน หันไปเลือกชูวิทย์(ที่มีภาพลักษณ์ตรงข้ามกับมหาจำลอง)

.......
ความจริงคนบ้านนอก(ยกตัวอย่างบ้านผมแล้วกัน) เขามีเหตุผลของเขาเหมือนกัน แต่เหตุผลนั้นต่างจากคนกรุงเทพฯ เรายึดโยงกับสถานการณ์สากลและสถานการณ์บ้านเมืองในเรื่องการเมือง&เศรษฐกิจ และวิถีการผลิต

ไม่ใช่้เรื่องภา่พลักษณ์ที่"ดูดี"(หรือไม่ดี)แบบที่เป็นค่านิยมและวิถีแบบคนในประเทศกรุงเทพฯ

ข้อสังเกตของผมคือคนกรุงเทพฯนั้นทางรัฐจัดให้เหลือเฟือแล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องว่าเลือกผู้แทนไปแล้วจะไปมีผลได้ผลเสียอย่างไรกับวิถีชีวิตของตัวเอง จึงมักเน้นไปที่ภาพลักษณ์(ดีหรือเลว) ขณะที่คนบ้านผมนั้นการเลือกผู้แทนฯนั้น มันหมายถึงวิถีการผลิต วิถีเศรษฐกิจปากท้องและความเป็นอยู่ของเรา

ก็เป็นแง่มุมหนึ่งที่ผมเล่าให้ฟัง แน่นอนว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้มีน้ำหนักมากเท่าที่ผมให้ข้อสังเกตมานี้

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

CFOเผยกองทุนTRUEGIFเสนอผลตอบแทนขั้นต่ำปีละ8.8%ยาว12ปี จ่ายทุกไตรมาส



รายการรู้ก่อนรวยกว่า16ธันวาคม-สัมภาษณ์คุณนพปฎล เดชอุดม CFO ของTrue เสนอขายกองทุนTRUEGIF ถึง19ธค. ขั้นต่ำ5หมื่น฿ ผลตอบแทนทุกไตรมาส ขั้นต่ำปีละ 8.8% ต่อเนื่องนาน12ปี เสนอขายตามแบงก์ใหญ่ทุกสาขาทั่วประเทศ เผยความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนยาว12ปี

สรุปประเด็นสัมภาษณ์

1.เสนอขายกองทุนTRUEGIF หน่วยละ10บาท ขั้นต่ำ5,000หน่วย หรือ ขั้นต่ำ50,000บาท ตามธนาคารขนาดใหญ่สาขาทั่วประเทศในวันนี้ ถึง 19 ธันวาคม(แต่วันที่19ธันวาคมที่เป็นวันสุดท้ายรับเฉพาะเงินสด) ไม่จำกัดเพดานการลงทุน
2.ให้อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำปีละ 8.8% ต่อเนื่องระยะยาวเป็นเวลา 12 ปี จ่ายทุกไตรมาส
3.ความเสี่ยงที่จะไม่ได้จ่ายคือลูกค้ารายสำคัญคือกสท.(CAT)เจ๊ง หรือ TRUEเจ๊ง ซึ่งคุณนพปฎลชี้ว่าCATเป็นบริษัทวิสาหกิจของรัฐมีความมั่นคง ส่วนTRUEก็หมดอายุที่ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐ ตั้งแต่ปีหน้าจะฟื้นมามีกำไร และwrite offยอดขาดทุน ก็จะเข้มแข็ง และกองทุนTRUEGIFเป็นเจ้าของเสาสัญญาณโทรคมนาคม ไม่ได้เช่ามา หากอนาคตกิจการดีเติบโต ก็มีความสามารถจ่ายผลตอบแทนสูงกว่า8.8%

ข้อสังเกตเรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนของผม:TRUEGIFมีอัตราผลตอบแทนที่จูงใจครับขั้นต่ำปีละ8.8%(หา่กคิดที่ราคาIPO หน่วยละ 10 บาท) แต่จะนำหน่้วยลงทุนเข้าตลาดรอง คือเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นในวันที่ 27 ธันวาคม ผลตอบแทนก็จะผันแปรตามราคาหน่วยลงทุนในตลาดเช่นกันนะครับ คือก็เหมือนหุ้นทั่วไปที่มีขึ้นมีลง แต่การเข้ามาซื้อขายในวันที่ 27 ซึ่งเป็นปลายเดือนธันวาคมนั้นเป็นช่วงที่ดีครับ เพราะเงินLTFเข้าตลาดมาแล้ว อย่างไรก็ตามราคาหน่วยลงทุนก็ย่อมผันผวนขึ้น-ลงตามสภาวะตลาดเช่นกันในระยะหลังจากนั้น

ผลตอบแทนจึงไม่ใช่fixที่ขั้นต่ำ8.8% ก็ย่อมขึ้นกับความผันผวนของสภาวะตลาด และสภา่วะธุรกิจอุตสาหกรรม รวมทั้งผลดำเนินงานของTRUEและกองทุนTRUEGIFด้วย

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โมเบียส เจ้าพ่อตลาดหุ้นเกิดใหม่สวนทางปืน จบวิกฤตการเมืองหุ้นไทยกระเตื้องเร็ว มองระยะยาวยังคงเป็นบวก



มาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุึนTempleton เจ้าพ่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ และผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เผยว่าวิกฤตการณ์การเมืองไทยเวลานี้เป็นปัจจัยเสี่ยงระยะสั้น แต่มุมมองของเราในระยะยาวคงยังเป็นบวก

เจ้าพ่อตลาดหุ้นเกิดใหม่กล่าวว่าจากวิกฤตการณ์หลายครั้งคราวในหลายทศวรรษในอดีตของไทย ทุกครั้งตลาดจะกลับฟื้นขึ้นและปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก๋จะหาหนทางออกจากสภาวะวิกฤตการเมืองได้

โมเบียสแสดงทัศนะทำนองเดียวกันนี้ในเดือนพฤษภาคม 2553 ในตอนนี้กลุ่มเสื้อแดงที่ออกมาสนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณประท้วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ และยุติลงด้วยเหตุการณ์รุนแรงทางการเมือง เวลานั้นหุ้นไทยอยู่ราว 700 จุด

ทั้งนี้โมเบียส ซึ่งมีชื่อเสียงในทางเป็นนักกลยุทธ์แบบสวนทางปืน(Contrariants)ได้โพสต์ผ่านtwitter Mark Mobius @MarkMobius ในช่วงวันที่ 9 ธันวาคม ซึ่งอุณหภูมิการเมืองไทยทวีความตึงเครียดสูงสุดขึ้นครั้งหนึ่ง ระหว่างฝ่ายต่อต้านจำนวนมาก ซึ่งBBCและCNN ระบุยอดผู้ออกมาประท้วงราว150,000คน ขณะที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ได้ตัดสินใจยุบสภาในวันดังกล่าว

Mark Mobius @MarkMobius 9 Dec
#Thailand has undergone a number of political incidents over the past decade. Every time it managed to recoup and bounce back rapidly.

Current turmoil in #Thailand presents near-term risk to the Thai market, but our long term view on the country remains positive.

Mark Mobius @MarkMobius 21h
From our experience, the Thai market has proven incredibly resilient. We think #Thailand will eventually find a way out of turmoil.













วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คัมภีร์หุ้นไทย(9ธันวาคม):ตลาดหุ้นไทยหลังนายกฯชิงยุบสภา

นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา และจัดเลือกตั้งใหม่ โดยรัฐบาลอยู่รักษาการ ส่วนฝ่ายต่อต้านเดินหน้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลต่อไป และกดดันให้นายกฯลาออกไม่ต้องรักษาการ คาดกันว่าการเลือกตั้งใหม่จะมีขึ้นก่อนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ที่ปรึกษาการลงทุนใบอนุญาตเลขที่12888 บลป.ต้นธารคอร์ปอเรชั่น โทร.029275800 081-8311611 087-7174979 http://www.facebook.com/tontancorp



มุมมองทางเทคนิคของตลาดหุ้นไทยหลังนายกฯชิงยุบสภา
 
วิเคราะห์ทางเทคนิค แกว่งตัวในช่วงขาลงที่มีกรอบเคลื่อนไหวระหว่าง1300กับ1400จุด โดยมีบริเวณเขต1345จุดเป็นจุดกึ่งกลางชี้ขาด กล่าวคือ ก.หากยืนเหนือ1345จุดได้ก็จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปเขต1390-1400จุด(แนวต้านแรก1372ถัดไป1385และหากผ่านจะขึ้นไป1390-1400) ข.หากยืนเหนือ1345ไม่ได้และหลุดลงไป จะตกไปที่เป้าหมายเขต1315-1300จุด ดังนั้นก็จึงแนะนำให้followในทิศทางที่กำลังจะเกิดขึ้น กล่าวคือยืนได้ให้ซื้อ แต่หากหลุดให้ขาย

ปัจจัยบวก นายกฯประกาศยุบสภาช่วงก่อน09.00วันนี้ และเป็นรัฐบาลรักษาการ และก่อนนี้เสนอให้จัดทำประชามติ

ปัจจัยลบ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลประกาศจะเดินหน้าบุกปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยยืนยันไม่ให้รัฐบาลรักษาการ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม หลังนายกฯยุบสภา สถานการณ์น่าจะคลี่คลายลง ดูว่าการชุมนุมลดความร้อนแรงลงหรือไม่


*********
คำแนะนำจากม็อบรุ่นพี่

 
รูปภาพ : อันนี้ไม่ได้ยุให้ไปม้อบนะครับ สำหรับท่านที่ตัดสินใจแล้วว่าไปแน่ๆ จากม้อบรุ่นพี่ครับ
 
1.อย่าขับรถไป มันไม่มีที่จอดครับ กรณีเหตุการณ์บานปลายกลายเป็นจลาจลก็โดนเผาด้วย(หากจำเป็นต้องขับไปแนะนำไปจอดที่สนามม้านางเลิ้ง,สวนสัตว์เขาดิน,ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ แล้วนั่งมอไซค์รับจ้างเข้าที่ชุมนุมมีเพียบ)

2.รองเท้าผ้าใบและร่มกันแดดกันฝนซักคัน หนังสือพิมพ์สักฉบับ (อ่านก็ได้ปูนั่งก็ดี) ถุงพลาสติกกันแก๊สน้ำตา

3.เบอร์โทรเผื่อพบเหตุฉุกเฉิน(อย่าโทรเล่นๆเขามีไว้ช่วยชีวิตคนครับ)

 *Call Center เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉิน สพฉ 1669
* War Room การแพทย์ฉุกเฉินส่วนหน้า081-801-0444, 02-354-5238,02-590-1994

4.หากมีเหตุทำท่าจะจลาจลบานปลายรุนแรง หรือการปราบปราม อย่าเอาตัวเข้าแลก เก็บชีวิตดีๆของคุณไว้สู้ใหม่ และเก็บไว้ให้ครอบครัวซึ่งรักคุณกว่าใครๆ

หวังว่าทุกท่านจะโชคดีปลอดภัยสมหวังครับ

อันนี้ไม่ได้ยุให้ไปม้อบนะครับ สำหรับท่านที่ตัดสินใจแล้วว่าไปแน่ๆ จากม้อบรุ่นพี่ครับ

1.อย่าขับรถไป มันไม่มีที่จอดครับ กรณีเหตุการณ์บานปลายกลายเป็นจลาจลก็โดนเผาด้วย(หากจำเป็นต้องขับไปแนะนำไปจอดที่สนามม้านางเลิ้ง,สวนสัตว์เขาดิน,ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ แล้วนั่งมอไซค์รับจ้างเข้าที่ชุมนุมมีเพียบ)

2.รองเท้าผ้าใบและร่มกันแดดกันฝนซักคัน หนังสือพิมพ์สักฉบับ (อ่านก็ได้ปูนั่งก็ดี) ถุงพลาสติกกันแก๊สน้ำตา

3.เบอร์โทรเผื่อพบเหตุฉุกเฉิน(อย่าโทรเล่นๆเขามีไว้ช่วยชีวิตคนครับ)

*Call Center เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉิน สพฉ 1669
* War Room การแพทย์ฉุกเฉินส่วนหน้า081-801-0444, 02-354-5238,02-590-1994

4.หากมีเหตุทำท่าจะจลาจลบานปลายรุนแรง หรือการปราบปราม อย่าเอาตัวเข้าแลก เก็บชีวิตดีๆของคุณไว้สู้ใหม่ และเก็บไว้ให้ครอบครัวซึ่งรักคุณกว่าใครๆ

หวังว่าทุกท่านจะโชคดีปลอดภัยสมหวังครับ

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Nelson Mandela สันติภาพVSความชิงชัง



Nelson Mandela-Invictus

"I thank whatever gods may be
For my unconquerable soul.
I am the master of my fate:
I am the captain of my soul."

เนลสัน แมนเดล่า ถึงแก่อสัญกรรม และมีหลายเรื่องที่อยู่ในความจดจำของโลก

ผมชอบที่จะจดจำบทกวี และหนัง Invictus และอยากแนะนำให้คนไทยได้ดูกันทุกๆคน บางทีอาจได้บทเรียนร่วมสมัยในยามนี้ ที่เราเกลียดชังกันเหลือเกินในระยะ7-8 ปีมานี้

เป็นหนังดราม่าชีวประวัติที่นำแสดงโดย แม็ตต์ เดม่อน และ มอร์แกน ฟรีแมนฝีมือการกำกับของ คลิ้นต์ อีสต์วู้ด เล่าเรื่องประวัติของ เนลสันแมนเดล่า ในปีแรกที่ได้เป็นประธานาธิบดีของประเทศแอฟริกาใต้..หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองยาวนานของชนผิวขาวส่วนน้อยผู้ปกครอง กับคนผิวดำส่วนใหญ่ที่อยู่ใต้การปกครองกดขี่มายาวนาน

แมนเดล่า พยายามผลักดันทีมรักบี้ของประเทศแอฟริกาใต้ให้ได้แชมป์ Rugby World Cup ในปี 1995 แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเกมกีฬานัดนั้นได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของอาฟริกาใต้ไปอย่างสิ้นเชิง

ในปีค.ศ. 1990 แมนเดลาออกมาจากคุกที่คุมขังที่ยาวนาน 27 ปี การเจรจาเริ่มขึ้นแม้ว่าจะล้มเหลวหลายครั้งเพราะความโกรธแค้นของคนผิวดำที่สะสมมาตลอดและอยากแก้แค้นเอาคืนพวกผิวขาว"ที่กดขี่มานาน"

และความกลัวของคนผิวขาวที่กังวลว่าวิถีชีวิตความสะดวกสบายของพวกตนที่ดำเนินมายาวนาน จะถูกคนผิวสีมาแย่งชิงมันไป นับแต่"ผู้ก่อการร้ายเนลสัน แมนเดล่า"ได้รับอิสรภาพ

แต่สุดท้ายแล้วชาวแอฟริกาใต้ก็ร่วมกันประคับประคองประเทศให้รอดพ้นสถานะรัฐล้มเหลวมาได้

การเลือกตั้งครั้งแรกที่ประชากรทุกคนมีสิทธิ์ลงคะแนนเกิดขึ้นในปี1994 โดยเนลสัน แมนเดลา ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เขากล่าวปราศรัยว่าจะไม่มีอีกแล้วสำหรับประเทศที่"น่าชิงชัง"แห่งนี้ในโลกใบนี้

แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น แม้ว่าแมนเดลาจะสามารถชนะการเลือกตั้งกลายเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรก เขากลับมีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่รออยู่นั่นคือประสานรอยร้าวของคนในชาติ ลดความโกรธแค้นและเกลียดชังของคนผิวสีในขณะเดียวกันก็ต้องให้ความเชื่อมั่นต่อคนผิวขาวซึ่งกุมอำนาจทางเศรษฐกิจและการปกครองประเทศ

แมนเดลาทำงานนี้ได้สำเร็จ ด้วยการทำให้เห็นว่าเขาไว้วางใจให้หลักประกันแก่คนขาวว่าจะไม่ถูก"เอาคืน"นับแต่ให้เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาลที่ตกค้างมาจากยุครัฐบาลคนขาวได้ทำงานต่อไปไม่ต้องออกไป ให้ตำรวจผิวขาวมาเป็นองครักษ์โดยไม่หวาดหวั่นว่าจะโดนลอบสังหารซะเอง

ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือกุศโลบายที่ใช้ เขาใช้กีฬารักบี้กีฬายอดนิยมของคนขาว และโอกาสที่แอฟริกาใต้ได้จัดรักบี้ชิงแชมป์โลกปี1995 เป็นเครื่องมืออันหนึ่งในการสร้างความปรองดองของคนในชาติ

หนังเรื่อง Invictus เปิดฉากเริ่มต้นในปี 1994 หนึ่งปีเต็มก่อนรักบี้ชิงแชมป์โลกทีมชาติแอฟริกาใต้ฉายา "Springboks" ซึ่งใช้ผู้เล่นผิวขาวแทบทั้งทีมและได้สิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติ เพราะเป็นเจ้าภาพกลับเป็นทีมไร้ฝีมือที่ล้มเหลวในสนามแข่ง

และที่น่าเศร้าคือเวลาทีมชาติผิวขาวนี้ลงแข่งขันกับทีมชาติไหน คนผิวดำที่เป็นชนส่วนใหญ่ในประเทศจะพากันเชียร์ทีมตรงกันข้ามกับทีมชาติของตนเองด้วยความชิงชัง

ในขณะเดียวกันก็เผชิญกับการคุกคามของคนผิวสีที่เพิ่งได้สิทธิ์ปกครองประเทศที่ต้องการเปลี่ยนชื่อและอัตลักษณ์ Springboksซึ่งเป็นตัวแทนของคนผิวขาวที่พวกเขาเกลียดชังให้เป็นอัตลักษณ์ใหม่ที่คนผิวสีเป็นผู้กำหนดเอง ไม่ว่าจะเป็นธงของทีมเสื้อทีม สีเสื้อของทีม

เรื่องนี้อาจเป็นแค่ประเด็นเล็กๆ ในสายตาของใคร แต่เนลสัน แมนเดลา(แสดงโดย มอร์แกน ฟรีแมน ) กลับเห็นเป็นโอกาสสำคัญมากเพราะเขามองว่ารักบี้เป็นกีฬาที่คนผิวขาวรักมาก และการเปลี่ยนชื่อSpringboks ถือเป็นการคุกคามคนผิวขาวในเชิงสัญลักษณ์ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาเคยมีกำลังจะหายไป

แมนเดลาใช้สิทธิ์ประธานาธิบดีและผู้นำพรรคการเมืองคนผิวดำยับยั้งการเปลี่ยนชื่อทีม Springboksได้สำเร็จ ในอีกด้าน เขาเข้าหาและซื้อใจ ฟรังซัวร์ ปีนาร์ (FrancoisPienaar) กัปตันรักบี้ทีมชาติ (นำแสดงโดยแมตต์ เดมอน)ให้รับรู้ถึงความสำคัญของตัวเองว่าไม่ใช่แค่นักกีฬารักบี้กีฬายอดนิยมของคนขาว แต่เป็นตัวแทนความหวังของคนแอฟริกาใต้ทั้งชาติ

ซึ่งเขาซื้อใจกัปตันทีมผิวขาวสำเร็จ

พร้อมกันนั้นเขาก็ขอให้ทีมชาติอันน่ารังเกียจลงไปสัมผัสคนดำด้วยการเปิดสอนรักบี้ให้เด็กๆผิวดำ ตามโครงการ One team,Onecountry-ทีมเดียวกัน ประเทศเดียวกัน

แมนเดลาเองนั้นเคยเป็นผู้นำกองกำลังติดอาวุธของขบวนการผิวสีมาก่อนแต่ประสบการณ์อันเลวร้ายในห้องขังอันคับแคบ 27 ปี สอนให้เขาเรียนรู้ว่ามีเพียงการรับฟังความต้องการของทุกฝ่าย ที่จะนำพาประเทศเดินหน้าต่อไปได้และเขาได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคนขาว เพื่อเอาชนะคนขาว

ทว่าเป็นการชนะใจ ไม่ใช่ด้วยการแก้แค้น

ทีมรักบี้แอฟริกาใต้ที่เคยถูกชนผิวดำร้องยี้ ใครๆก็ว่าอยู่นอกสายตาได้เข้ารอบก็เพราะเป็นเจ้าภาพสามารถเอาชนะคู่แข่งที่แสนแข็งแกร่งอย่างนิวซีแลนด์ก้าวเป็นแชมป์รักบี้โลกในบ้านตัวเองยามที่ต้องการชัยชนะอย่างยิ่งยวดได้สำเร็จ

จอห์น คาลิน ผู้ประพันธ์ Invictus ฉบับนิยายถึงกับเรียกการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนี้ว่าเป็น"การแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอนาคตของชาติ" (Game That Changed a Nation)

ถือเป็นการยุติความขัดแย้งอันยาวนานกว่า 50 ปีของแอฟริกาใต้

ฟรังซัวร์ ปีนาร์ ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศว่ากำลังใจของพวกเขาไม่ได้มาจากผู้ชมจำนวน 62,000 คนในสนาม Ellis ParkStadium ที่โจฮันเนสเบิร์ก แต่เป็นกำลังใจจากประชากรทั้งหมดของแอฟริกาใต้43 ล้านคนต่างหาก

ประสบการณ์ของแมนเดลาและแอฟริกาใต้ อาจสอนบทเรียนบางอย่างให้กับประเทศไทยที่กำลังอยู่ในภาวะ "โกรธแค้นชิงชังและหวาดกลัว" ได้ไม่มากก็น้อย

บางทีInvictus อาจเป็นภาพยนตร์ที่ควรหามารับชมมากที่สุดในเวลานี้

และใครที่โปรรัฐบาลเครือข่ายทักษิณ หรือกำลังเคลื่อนไหวขจัดระบอบทักษิณอยู่ในเวลานี้ ก็น่าจะลองหยิบแผ่นขึ้นมาเปิดดูเป็นกลุ่มแรก

( ในความรำลึกเนลสัน แมนเดล่า รัฐบุรุษของโลก ที่ถึงแก่อสัญกรรมในวันนี้ 6 ธันวาคม 2556 )