วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

"ถ้าเกิดอะไรขึ้น!.." จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร? คุณเตรียมรับมือหรือยัง....


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

มีคำถามตลอดว่า "ถ้าเกิดอะไรขึ้น!.." จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร? คงเพราะคนในวงการหุ้นเห็นผมบรรยายเรื่องการนำโมเดลทำลายเชิงสร้างสรรค์(Creative Destruction Theory Model)มาอธิบายวิกฤตการณ์ต่างๆสารพัด นับตั้งแต่มหาพิบัติภัยต่างๆ การจลาจล ปฏิวัติรัฐประหาร มหาพิบัติภัยเศรษฐกิจล่ม ไปยันสงคราม การก่อการร้าย ฯลฯ

ผมจึงต้องถูกถามเสมอว่า"ถ้าเกิดอะไรขึ้น!.."(ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกครับ ล้วนแล้วแต่เรื่องร้ายๆทั้งสิ้น) จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร และเราต้องเตรียมการรับมืออย่างไร...

 ผมเลยพยายามนำฉากจำลอง(Scenario)มาอธิบายให้ฟังนะครับว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น!(แบบที่เรากลัวๆว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ร้ายแรงนั่นแหละครับ)
1.Base Case Scenario-ก็จะตกเท่ากับที่ตกไปแล้วคือ1400+/-แล้วขึ้น จากนั้นไปผ่าน1600แล้วRallyยาวไกล
แบบแรก-เหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว คือตกมาแค่เขต1400+/-แล้วเด้งขึ้น และไปทำนิวไฮเกิน1600++

2.Worse Case Scenario -ก็จะตกไปที่ฐานที่เป็นฐานมา4ปีมานี้คือ1200แล้วก็เด้งขึ้น จากนั้นไปผ่าน1600แล้วRallyยาวไกล
แบบที่2-ตกลงไปฐานที่เป็นฐานใหญ่รอบ4ปีแถวๆ1200จากนั้นฟื้นขึ้นไปผ่าน1600และRally

3.The Worst Case Scenario-ตกไปหลุด1200ที่เป็นฐานมา4ปีแล้วตกอ้วกลงไป แย่สุดๆแถว700+/- (ภาพแรกที่เป็นขาวดำ เป็นภาพที่ผมเคยจำลองสถานการณ์และเผยแพร่ไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีกลาย) จากนั้นก็ใช้เวลาอีกนานพอสมควร แล้วค่อยขึ้นไปผ่าน1600แล้วRallyยาวไกล
แบบที่3-ตกไปหลุด1200ที่เป็นฐานมา4ปีแล้วตกอ้วกลงไป แย่สุดๆแถว700+/- (ภาพแรกที่เป็นขาวดำ เป็นภาพที่ผมเคยจำลองสถานการณ์และเผยแพร่ไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีกลาย) จากนั้นก็ใช้เวลาอีกนานพอสมควร แล้วค่อยขึ้นไปผ่าน1600แล้วRallyยาวไกล

คำถามปลายเปิดคือ ท่านคิดว่า"ถ้าเกิดอะไรขึ้น!"ตลาดจะเป็นไปแบบไหน...?
คำใบ้"Creative Destruction Model"ครับ คือ
ข้อ ก.หากปุ๊บปั๊บฟ้าผ่าเปรี้ยงจะเจอตั้งแต่ข้อ2 ไปยันข้อ3
ข้อ ข. หากมวลชนในตลาดได้"ซ้อมตกใจ"ไว้ล่วงหน้าจนชินแล้ว คำตอบจะออกที่ 2 หรือ 3 ครับ
ในขณะที่เรื่องทฤษฎีคลื่นก็มีข้ออภิปรายที่ผมอยากฟังต่อไป(เชิญครับ เป็นคำตอบปลายเปิด ไม่มีผิดมีถูก)

กิจกรรมงานอบรมแก้พอร์ตการลงทุน วันอาทิตย์ที่9ตุลาคม "ถ้าเกิดอะไรขึ้น! ตลาดจะตกขนาดไหน และต้องรับมืออย่างไร"Byณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ เพิ่มที่นั่งให้ท่านที่พลาดการจองในช่วงที่ผ่านมา จำนวน10ที่นั่ง

ติดต่อจองที่นั่งทางLINE:tontancorp หรือ 097-0986000 (งานนี้เน้นเรื่องเตรียมรับมือกรณีถ้าเกิดอะไรขึ้น! การแก้พอร์ตปรับพอร์ตลงทุน พอร์ต 5+1 หุ้นเด่นเล่นให้รวยด้วยสูตรความเสี่ยงต่ำ กำไรงาม และสอนใช้งานกราฟFibonacciมหัศจรรย์ อภินันทนาการหนังสือBest Seller อ่านใจหุ้นทำกำไรใน1นาที และความลับที่4จิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้น พร้อมลายเซ็นผู้เขียน)
ยังไม่มีเพิ่มรอบใหม่นะครับ มีรอบเดียว แต่เพิ่มจำนวนที่นั่งให้สำหรับท่านที่จองไม่ทัน เพราะเต็มเร็วเกินไป

อภินันทนาการหนังสือBest Seller อ่านใจหุ้นทำกำไรใน1นาที และความลับที่4จิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้น พร้อมลายเซ็นผู้เขียนทุกที่นั่ง
............

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:คำถาม เรากลับมา1500ได้อย่างไร? คำตอบคือ ความจริงไม่ใช่กลับมา1500นะครับ แต่เป็น1650


โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
เรากลับมาที่1500ได้อย่างไร?
1.เมื่อวันจันทร์ที่12กันยายน59ตอนที่ตลาดหุ้นPanicลงมาอย่างหนัก ผมได้เสนอว่าSETไม่น่าลงเกินเขต1417จุดแล้วก็จะฟื้นขึ้น แต่หากหลุดเขตนั้นเด็ดขาดก็เสี่ยงเป็นขาลงขนาดใหญ่ได้ลึกมากๆ ดังนั้นควร"ลุ้น" ณ บริเวณดังกล่าวว่าจะหยุดไหลลงแล้วฟื้นขึ้น (ความจริงคือSETลงไปลึกสุดในวันที่12กันยายนที่1410จุดแล้วฟื้นขึ้น)

ดูลิ้งค์ที่ผมนำเสนอไว้ในวันนั้น http://thailworld.blogspot.com/2016/09/1259.html

ความตอนหนึ่งที่ผมนำเสนอไว้"ลงมาเขตเป้าหมายที่ควรจะต้องหยุดไหลแล้ว และควรฟื้นขึ้น แต่สภาพจิตวิทยาฝูงนั้นถูกครอบงำด้วยความกลัว(Fear) ที่มีอิทธิพลต่อตลาดมาก...
กรณีนี้คือหลังจากตกจากยอดดอย1558จุด เมื่อลงมาเขต1ใน3Fibonacci บริเวณ1430-1415จุด โดยประมาณ มันหยุดไหลตรงนี้หรือไม่ หากหยุดไหลก็ค่อยได้ลุ้นทางบวก หากทะลุลงไป ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรครับ ก็ห้นไปใช้ยุทธวิธีเทรดหุ้นด้วยการอิงขาลงเป็นหลักในระยะต่อไป"

2.ต่อมาในวันพุธที่14กันยายน59 หลังจากSETยืนเหนือเขตเป้าหมาย1417ได้แล้ว ผมได้นำเสนอว่า ตลาดจะกลับขึ้นไปรอบใหม่ที่เขต1560-1650 โดยจะมีแนวต้านกลางทางคือด่านแรก1460-1467ถัดไป1485ถัดไป1500-1510จุด


3.ล่าสุดผ่านมาถึงวันนี้คือพฤหัสฯที่22กันยา59ดัชนีหุ้นขึ้นมาที่1500จุด
4.ที่ผมทำนายไว้คือรอบนี้จะขึ้นไปราวๆ1เดือนไปถึงราวกลางเดือนตุลาคม(14ตุลาคม)อาจขึ้นไปนิวไฮเกิน1558 ก็ติดตามชมกันตอนต่อไป
ตอนที่เราคิดเรื่องนี้ไว้เมื่อวันที่12-14กันยา เราเรียกมันว่าอดีต หากเรากลับไปอยู่เวลานั้นได้ เราเรียกว่าการพยากรณ์อนาคต แต่ตอนที่มันมาถึงในเวลานี้ เราเรียกว่าปัจจุบัน

อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นเรื่องที่น่าพิศวงเสมอสำหรับผม และมันน่าสนุกท้าทายอยู่ตลอดมา
.................
9ตุลามาพบกันงานสัมมนาแก้พอร์ตการลงทุน


ผมจัดกิจกรรมสัมมนาแก้พอร์ตการลงทุนในวันอาทิตย์ที่9ตุลาคมนี้ เนื้อหา3ส่วนหลักๆคือ

1.การแก้พอร์ตและปรับพอร์ตการลงทุน ด้วยสูตร5+1หุ้นเด่นเน้นLow Risk,High Return
2.สอนเรื่องการเทรดโดยอิงกับข่าวใหญ่ และวิกฤตการณ์ใหญ่ๆโดยใช้สูตรสำเร็จCreative Destruction
3.สอนการวัดเป้าหมายซื้อ-ขาย ขึ้น-ลงด้วยสูตรมหัศจรรย์Fibonacciด้วยโปรแกรมASPENและEfinancethai
โปรโมชั่น
1.ชำระวันนี้ไม่เกินวันอาทิตย์25ก.ย.นี้ในราคาเพียง3000บาท จากราคาเต็ม3500บาท

2.อภินันทนาการหนังสือBest Seller อ่านใจหุ้นทำกำไรใน1นาที+ความลับที่4จิตวิทยาตลาดหุ้น พร้อมลายเซ็นต์
3.เชิญท่านที่จองชำระแล้วเข้าห้องปิดคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิเพื่อรับข้อมูลแบบExclusiveเป็นเวลา1เดือน
วิธิจองและชำระ โทรสอบถามเพื่อจอง และเบอร์บัญชีเพื่อชำระที่ 097-0987000 หรือทางId LINE:tontancorp



ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ -5เรื่องที่ต้องรู้หลังผลประชุมFEDไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อตลาดและเงินของคุณ และข้อเตือนใจหากคุณยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆ ระวังคุณจะพลาดเรื่องสำคัญมาก


ณัฐวุฒิ Live 22กันยายน59 -5เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปิดตลาดวันนี้ และผลประชุมFEDไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อตลาดและเงินของคุณ และข้อเตือนใจหากคุณยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆ
สรุปย่อ
1.หลังFEDประชุมมติไม่ขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลบวกตลาดหุ้นโลก คาดหุ้นไทยขึ้นทดสอบด่าน1502-1509จุด


2.ไม่ควรไปติดใจกับตัวเลข1500กลมๆเพราะจะทำให้ตัดสินใจพลาด เพราะผมได้บอกไว้ล่วงหน้าตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วว่าตลาดตกจบแถวๆ1415จุดแล้วจะฟื้นขึ้น3ด่านคือ 1467 ถัดไป1485 และด่านสาม1500+/- จากนั้นจะผ่านด่านนีั้ไปทำนิวไฮเกิน1558จุด ้เพราะที่Panic sellลงมาเที่ยวนี้เป็นการตกพักฐานเพื่อขึ้นต่อ
โดยเมื่อนำค่าสัญญาณModify stochasticsและBolinger bandมาพิจารณาแล้วพบว่ามีโอกาสสูงที่จะผ่านด่าน1500ขึ้นไป เท่ากับว่าตอนนี้ตลาดขึ้นมาเพียงครึ่งทางเท่านั้น ถ้ามาขายแถวๆนี้อาจขายหมูแล้วขึ้นต่อ
3.SET50FUTURESมีแนวต้านเขต955-960ก็มีโอกาสผ่านด่านนี้ขึ้นไปเขต990ในระยะต่อไป ดังนั้นหุ้นตัวใหญ่ก็น่าจะขึ้นในระยะต่อไป
เพียงแต่ตอนนี้ให้พวกที่ยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆได้ขาย"เพื่อความสบายใจ"ก่อน พอพวกนี้ขายหมดแล้ว จึงจะขึ้นได้โล่งๆต่อไป
4.ผมจัดกิจกรรมสัมมนาแก้พอร์ตการลงทุนในวันอาทิตย์ที่9ตุลาคมนี้ เนื้อหา3ส่วนหลักๆคือ
4.1การแก้พอร์ตและปรับพอร์ตการลงทุน ด้วยสูตร5+1หุ้นเด่นเน้นLow Risk,High Return
4.2สอนเรื่องการเทรดโดยอิงกับข่าวใหญ่ และวิกฤตการณ์ใหญ่ๆโดยใช้สูตรสำเร็จCreative Destruction
4.3สอนการวัดเป้าหมายซื้อ-ขาย ขึ้น-ลงด้วยสูตรมหัศจรรย์Fibonacciด้วยโปรแกรมASPENและEfinancethai
โปรโมชั่น
1.ชำระวันนี้ไม่เกินวันอาทิตย์25ก.ย.นี้ในราคาเพียง3000บาท จากราคาเต็ม3500บาท

2.อภินันทนาการหนังสือBest Seller อ่านใจหุ้นทำกำไรใน1นาที+ความลับที่4จิตวิทยาตลาดหุ้น พร้อมลายเซ็นต์
3.เชิญท่านที่จองชำระแล้วเข้าห้องปิดคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิเพื่อรับข้อมูลแบบExclusiveเป็นเวลา1เดือน
วิธิจองและชำระ โทรสอบถามเพื่อจอง และเบอร์บัญชีเพื่อชำระที่ 097-0986000 หรือทางId LINE:tontancorp

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ -5เรื่องที่ต้องรู้หลังผลประชุมFEDไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อตลาดและเงินของคุณ และข้อเตือนใจหากคุณยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆ ระวังคุณจะพลาดเรื่องสำคัญมาก

ณัฐวุฒิ Live 22กันยายน59 -5เรื่องที่ต้องรู้หลังผลประชุมFEDไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อตลาดและเงินของคุณ และข้อเตือนใจหากคุณยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆ ระวังคุณจะพลาดเรื่องสำคัญมาก
สรุปย่อ

1.หลังFEDประชุมมติไม่ขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลบวกตลาดหุ้นโลก คาดหุ้นไทยขึ้นทดสอบด่าน1502-1509จุด
2.ไม่ควรไปติดใจกับตัวเลข1500กลมๆเพราะจะทำให้ตัดสินใจพลาด เพราะผมได้บอกไว้ล่วงหน้าตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วว่าตลาดตกจบแถวๆ1415จุดแล้วจะฟื้นขึ้น3ด่านคือ 1467 ถัดไป1485 และด่านสาม1500+/- จากนั้นจะผ่านด่านนีั้ไปทำนิวไฮเกิน1558จุด ้เพราะที่Panic sellลงมาเที่ยวนี้เป็นการตกพักฐานเพื่อขึ้นต่อ

โดยเมื่อนำค่าสัญญาณModify stochasticsและBolinger bandมาพิจารณาแล้วพบว่ามีโอกาสสูงที่จะผ่านด่าน1500ขึ้นไป เท่ากับว่าตอนนี้ตลาดขึ้นมาเพียงครึ่งทางเท่านั้น ถ้ามาขายแถวๆนี้อาจขายหมูแล้วขึ้นต่อ

3.SET50FUTURESมีแนวต้านเขต955-960ก็มีโอกาสผ่านด่านนี้ขึ้นไปเขต990ในระยะต่อไป ดังนั้นหุ้นตัวใหญ่ก็น่าจะขึ้นในระยะต่อไป

เพียงแต่ตอนนี้ให้พวกที่ยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆได้ขาย"เพื่อความสบายใจ"ก่อน พอพวกนี้ขายหมดแล้ว จึงจะขึ้นได้โล่งๆต่อไป

4.ผมจัดกิจกรรมสัมมนาแก้พอร์ตการลงทุนในวันอาทิตย์ที่9ตุลาคมนี้ เนื้อหา3ส่วนหลักๆคือ
4.1การแก้พอร์ตและปรับพอร์ตการลงทุน ด้วยสูตร5+1หุ้นเด่นเน้นLow Risk,High Return
4.2สอนเรื่องการเทรดโดยอิงกับข่าวใหญ่ และวิกฤตการณ์ใหญ่ๆโดยใช้สูตรสำเร็จCreative Destruction
4.3สอนการวัดเป้าหมายซื้อ-ขาย ขึ้น-ลงด้วยสูตรมหัศจรรย์Fibonacciด้วยโปรแกรมASPENและEfinancethai

โปรโมชั่น
1.ชำระวันนี้ไม่เกินวันอาทิตย์25ก.ย.นี้ในราคาเพียง3000บาท จากราคาเต็ม3500บาท
2.อภินันทนาการหนังสือBest Seller อ่านใจหุ้นทำกำไรใน1นาที+ความลับที่4จิตวิทยาตลาดหุ้น พร้อมลายเซ็นต์


3.เชิญท่านที่จองชำระแล้วเข้าห้องปิดคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิเพื่อรับข้อมูลแบบExclusiveเป็นเวลา1เดือน

วิธิจองและชำระ โทรสอบถามเพื่อจอง และเบอร์บัญชีเพื่อชำระที่ 097-0986000 หรือทางId LINE:tontancorp

https://www.facebook.com/tontancorp/videos/1288893104488284/

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ -5เรื่องที่ต้องรู้หลังผลประชุมFEDไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อตลาดและเงินของคุณ และข้อเตือนใจหากคุณยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆ ระวังคุณจะพลาดเรื่องสำคัญมาก


ณัฐวุฒิ Live 22กันยายน59 -5เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปิดตลาดวันนี้ และผลประชุมFEDไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อตลาดและเงินของคุณ และข้อเตือนใจหากคุณยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆ
สรุปย่อ
1.หลังFEDประชุมมติไม่ขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลบวกตลาดหุ้นโลก คาดหุ้นไทยขึ้นทดสอบด่าน1502-1509จุด


2.ไม่ควรไปติดใจกับตัวเลข1500กลมๆเพราะจะทำให้ตัดสินใจพลาด เพราะผมได้บอกไว้ล่วงหน้าตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วว่าตลาดตกจบแถวๆ1415จุดแล้วจะฟื้นขึ้น3ด่านคือ 1467 ถัดไป1485 และด่านสาม1500+/- จากนั้นจะผ่านด่านนีั้ไปทำนิวไฮเกิน1558จุด ้เพราะที่Panic sellลงมาเที่ยวนี้เป็นการตกพักฐานเพื่อขึ้นต่อ
โดยเมื่อนำค่าสัญญาณModify stochasticsและBolinger bandมาพิจารณาแล้วพบว่ามีโอกาสสูงที่จะผ่านด่าน1500ขึ้นไป เท่ากับว่าตอนนี้ตลาดขึ้นมาเพียงครึ่งทางเท่านั้น ถ้ามาขายแถวๆนี้อาจขายหมูแล้วขึ้นต่อ
3.SET50FUTURESมีแนวต้านเขต955-960ก็มีโอกาสผ่านด่านนี้ขึ้นไปเขต990ในระยะต่อไป ดังนั้นหุ้นตัวใหญ่ก็น่าจะขึ้นในระยะต่อไป
เพียงแต่ตอนนี้ให้พวกที่ยึดติดกับตัวเลข1500กลมๆได้ขาย"เพื่อความสบายใจ"ก่อน พอพวกนี้ขายหมดแล้ว จึงจะขึ้นได้โล่งๆต่อไป
4.ผมจัดกิจกรรมสัมมนาแก้พอร์ตการลงทุนในวันอาทิตย์ที่9ตุลาคมนี้ เนื้อหา3ส่วนหลักๆคือ
4.1การแก้พอร์ตและปรับพอร์ตการลงทุน ด้วยสูตร5+1หุ้นเด่นเน้นLow Risk,High Return
4.2สอนเรื่องการเทรดโดยอิงกับข่าวใหญ่ และวิกฤตการณ์ใหญ่ๆโดยใช้สูตรสำเร็จCreative Destruction
4.3สอนการวัดเป้าหมายซื้อ-ขาย ขึ้น-ลงด้วยสูตรมหัศจรรย์Fibonacciด้วยโปรแกรมASPENและEfinancethai
โปรโมชั่น
1.ชำระวันนี้ไม่เกินวันอาทิตย์25ก.ย.นี้ในราคาเพียง3000บาท จากราคาเต็ม3500บาท

2.อภินันทนาการหนังสือBest Seller อ่านใจหุ้นทำกำไรใน1นาที+ความลับที่4จิตวิทยาตลาดหุ้น พร้อมลายเซ็นต์
3.เชิญท่านที่จองชำระแล้วเข้าห้องปิดคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิเพื่อรับข้อมูลแบบExclusiveเป็นเวลา1เดือน
วิธิจองและชำระ โทรสอบถามเพื่อจอง และเบอร์บัญชีเพื่อชำระที่ 097-0987000 หรือทางId LINE:tontancorp

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

แอบอ่านหนังสือเล่มใหม่ ความลับที่4จิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้น เขียนโดยณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ แรงตั้งแต่วันแรกที่ลงแผง ติดชาร์ตBEST SELLERทันที...ยังงี้ต้องแอบอ่านซะแล้ว



หนังสือเล่มใหม่ ความลับที่4 จิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้น วางแผงปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2559 แค่วันแรกทางร้านหนังสือSE-EDก็รายงานและจัดอันดับเป็นหนังสือขายดี ติดBEST SELLERครับ



มีอะไรในหนังสือเล่มนี้บ้าง? ผมพาไปแอบอ่านกันเลยนะครับ

คำนำที่ผมย้ำว่า นี่ไม่ใช่เพียงแค่หนังสือหุ้นอีกเล่มหนึ่ง แต่เป็น A must-read ครับ 



ไปแอบอ่านกันครับในหน้าสารบัญ













 หาซื้อได้ที่ร้านซีเอ็ด ร้านนายอินทร์ B2S หรือสั่งซื้อออนไลน์นะครับ https://m.se-ed.com/Product/Detail/9786162756481

ส่วนหนังสือเล่ม อ่านใจหุ้นทำกำไรใน1นาที 10สูตรสำเร็จทีเด็ดรวยหุ้นพันล้าน ได้รับการต้อนรับอย่างดี หลังจากวางแผงปฐมฤกษ์เมื่อ6สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใน1เดือนจัดพิมพ์ครั้งที่2วางจำหน่ายแล้วครับ ท่านใดที่พลาดในการพิมพ์ครั้งแรก หาซื้อได้ที่ร้านซีเอ็ด ร้านรายอินทร์ B2S หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ http://wholesale.se-ed.com/Quotation/Products/Detail.aspx?No=9786162756405


วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ : ทำไมตลาดหุ้นไทยตกหนัก และเราควรทำตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ ปริศนาช้างล่องหนกลางที่ประชุมตลาดหุ้นไทย

อนุสาวรีย์อดัม สมิธ


เขียนโดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ที่มา หนังสือเล่ม ความลับที่4 จิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้น

1.ทำไมตลาดหุ้นไทยตกหนัก?

ตอบ-เป็นเรื่องที่คนถามก็ทราบคำตอบดี แต่ไม่กล้าถามตรงๆ ดังนั้นผมเองก็ไม่กล้าตอบตรงๆ เพราะเป็นประเด็น”ละเอียดอ่อน”ครับ

กรณีนี้เปรียบไปก็เหมือนเรานั่งอยู่ในห้องประชุมหนึ่ง มีคนนับร้อยมาประชุมกันอยู่ แล้วในห้องประชุมนั้นก็มีช้างเชือกใหญ่ยืนอยู่กลางห้องอยู่ด้วย แต่คนนับร้อยในห้องประชุมนั้นก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นช้าง หรือไม่รับรู้ว่ามีช้างอยู่กลางห้องประชุมนั้น

เพราะการพูดถึงช้างนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราก็เลยทำเป็นไม่รับรู้ว่ามีช้างอยู่ในห้องนั้นซะเลย

ช้างนั้นไม่ได้เป็นปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่คนในที่ประชุมนั้นนับร้อย ลงมติกันในใจว่าเราจะไม่พูดถึงช้าง ช้างนั้นเลยอยู่ในสภาพล่องหนได้อย่างน่ามหัศจรรย์

2.แล้วยังจะตกหนักต่อไปหรือไม่
?

ตอบ-ดังที่ผมอธิบายมาบ่อยๆแล้วก็คือ ตลาดหุ้นนั้นไม่ได้ขึ้นหรือตก เพราะกลัวข่าวร้าย หรือเพราะมีข่าวดีนะครับ

ที่ตลาดตกหนักนั้น เพราะกลัวข่าวที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน ไม่กระจ่างว่า อะไรยังไงแน่ พอมีความไม่ชัดเจน คลุมเครือ ตลาดหุ้นก็เลยตก

แต่หากเกิดความชัดเจน ไม่คลุมเครือ ตลาดหุ้นก็จะหยุดตกและขึ้นครับ ซึ่งว่าไปแล้วเรื่องนี้มีความชัดเจนมากแล้วว่า เรื่องจะจบลงอย่างไร และอนาคตจะเป็นเช่นใด ไม่ใช่เรื่องที่ว่า เดาไม่ได้ หรือสับสนคลุมเครือแต่อย่างใด(ซึ่งก็แสดงว่าเมื่อชัดเจนกระจ่างแล้ว ตลาดหุ้นก็ควรขึ้นขานรับครับ)

3.ทำไมกองทุนขายหนักจังเลย?
ตอบ-ผมคิดว่ากองทุนนั้นคงรู้อะไรซักอย่างที่ นักลงทุนประเภทอื่นๆ(เช่น นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนรายย่อย ไม่รู้) เรื่องนี้ผมได้เขียนไว้หนังสือเล่มที่กำลังออกวางแผงในวันที่18เดือนกันยายนนี้ครับ ขอคัดมาบางตอน ดังต่อไปนี้...

ในปี ค.ศ.2001 รางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ตกเป็นของศาสตราจารย์ จอร์จ เอ. อเคอร์ลอฟ (GEORGE A. AKERLOF) ศาสตราจารย์ เอ. ไมเคิล สเปนซ์ (A. MICHAEL SPENCE) และศาสตราจารย์ โจเซฟ อี.สติกลิตซ์ (JOSEPH E. STIGLITZ) ทั้งสามท่านมีผลงานร่วมกัน สรุปความว่า

 “ตลาดสินค้า บริการ ตลาดเงิน และตลาดทุนตลาดหุ้นนั้น เกิดจากผู้ที่มีส่วนร่วมในตลาดมีความรู้และข้อมูลที่แตกต่างกัน พฤติกรรมทางเศรษฐกิจจึงแตกต่างกัน การที่ผู้คนที่มีส่วนร่วมในตลาดไม่เท่ากันนี้ เรียกว่า ASYMMETRIC INFORMATION คือมีข้อมูลข่าวสารที่บางคนรู้ บางคนไม่รู้ หรือบางคนรู้ดีกว่าบางคน บางคนบางกลุ่มมีข้อมูลสมบูรณ์ สรุปคือยังมีข้อมูลในตลาดที่ไม่มีทางรู้เท่าเทียมกันในตลาด”

          ผลงานของโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2001 ของ 3 นักเศรษฐศาสตร์นี้ได้เริ่มค้นคว้าศึกษาในช่วงปลายทศวรรษ 1970 มาจนถึงปัจจุบัน นับว่าปฏิวัติทฤษฎีเก่าแก่อันอุโฆษคือ“WEALTH OF THE NATION”ของ อดัม สมิธ ที่ลงหลักปักฐานมานาน 200 ปีเศษ

   ก็เลยขอพูดเป็นสำนวนซะหน่อยว่า"อดัม สมิธ ตายแล้ว"..ความจริงตัวแกก็ตายมา200กว่าปีแล้วนะครับ แต่ว่าทฤษฎีตำราของแกนั้นถูกท้าทายหนักในระยะหลังมานี้ จนพูดกันเป็นสำนวนว่า(ทฤษฎีของ)อดัม สมิธ ตายแล้ว

          ตำราเศรษฐศาสตร์กระแสหลักที่ร่ำเรียนเขียนอ่านกันสืบเนื่องมาแต่บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์นั้น ให้ขอสมมุติฐานว่ามนุษย์มีพฤติกรรมเป็นไปตามเหตุผลเสมอ (RATIONAL MAN) ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคต่างก็ดำเนินกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำกำไรสูงสุดสำหรับผู้ผลิต หรือการได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการบริโภคสินค้าหรือบริการสำหรับผู้บริโภค
       
   อย่างไรก็ตามมีงานวิจัยล่าสุดด้านเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม  (BEHAVIORAL ECONOMICS)โดยนักจิตวิทยาชาวยิวอิสราเอล 2  คน คือ แดเนียล คาห์เนมัน และ เอมอส เวอร์สกีย์ (อ้างไว้ในหนังสือเล่มชื่อ THE ECONOMIC NATURALIST เขียน
โดย ROBERT H. FRANK ศาสตราจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล) ได้แสดงให้เห็นว่า ทางเลือกที่มีให้เพื่อการตัดสินใจของมนุษย์ บ่อยครั้งถูกสร้างขึ้นจากแรงผลักดันทางจิตวิทยา เพื่อสร้างและดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของปัจเจกบุคคลและกลุ่ม...ความคิดนี้ช่วยอธิบายทางเลือกต่าง ๆ ที่อาจมีตรรกะไม่สอดคล้อง หรือไม่เป็นไปตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ดั้งเดิมที่เคยร่ำเรียนกันมา

          ในตอนที่เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ในสหรัฐฯเมื่อปี พ.ศ.2551 ยังผลให้สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง LEHMAN BROTHERS ต้องล้มลงในเดือนกันยายนปีนั้น ต่อมาในปลายเดือนตุลาคม คณะกรรมาธิการการเงินได้เชิญนาย ALAN GREENSPAN อดีตประธานธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ มาให้การต่อที่ประชุม CAPITOL HILL ซึ่งกรีนสแปนในฐานะผู้ที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดยิ่งผู้หนึ่งในโลกเศรษฐกิจร่วมสมัยได้ให้ปากคำเรื่อง”วิกฤตการเงินและบทบาทของธนาคารกลาง” โดยได้บอกกล่าวว่าเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นบ้าง

หลังกรีนสแปนกล่าวจบลง นาย HENRY WAXMAN ประธานคณะกรรมาธิการได้โพล่งถามขึ้นว่า”กล่าวในทางหนึ่ง...คุณได้พบว่าทัศนะของคุณต่อโลก,โลกทัศน์ของคุณไม่ถูกต้อง มันไม่เวิร์ก?”
          “แน่นอน”กรีนสแปนตอบชนิดที่โลกตะลึง “แน่นอนว่าด้วยเหตุนี้ทำให้ผมช็อก เพราะผมทำงานมา 40 กว่าปีด้วยความสุขุมคัมภีร์ภาพและเป็นที่ประจักษ์ว่ามันทำงานได้ดีโดยไม่เคยมีข้อยกเว้นมาก่อน”
          ครับ...สิ่งที่กรีนสแปนเชื่อมั่นยึดถือมาตลอดนั้นก็คือสิ่งที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องทฤษฏี เศรษฐกิจการตลาดที่มีเหตุผล (RATIONAL MARKET THEORY)ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อสมมุติฐานว่าตลาดมีประสิทธิภาพ (EFFICIENT MARKET HYPOTHESIS) อันว่าตลาดที่มีประสิทธิภาพนั้นคือการกำหนดราคาสินทรัพย์ เช่น ราคาหุ้น ให้ตรงกับปัจจัยพื้นฐานมีความเที่ยงตรงแม่นยำสูง เพราะได้สะท้อนข้อมูลทุกอย่างไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
          JUSTIN FOX บรรณาธิการอำนวยการของ HARVARD BUSINESS REVIEW และอดีตคอลัมนิสต์ด้านเศรษฐกิจของ TIME MAGAZINE ได้ยกเรื่องกรีนสแปนข้างต้นนั้นเขียนลงในบทนำหนังสือของเขาที่ตีพิมพ์ในเดือนกันยายน 2553 ชื่อเรื่อง “THE MYTH OF THE RATIONAL MARKET” (ปรัมปรามายาคติของตลาดที่มีเหตุผล) โดยบอกว่าหนังสือเล่มนี้ว่าด้วยประวัติของการเกิดขึ้น...รุ่งเรือง และโรยราลงของทฤษฎีเก่าแก่ THE RATIONAL MARKET THEORY

          เอาเป็นว่าหนังสือเล่มนี้สนุกมาก ผมแนะนำให้หาอ่านกันครับ...อ้อ PAUL KRUGMAN นักเศรษฐศาสตร์ชื่อก้องโลกแนะนำว่าเป็นหนังสือที่ต้องอ่าน “A MUST-READ”ด้วยครับ
          พูดให้ง่ายเข้าแบบผมก็ต้องว่า เนื่องจากเศรษฐกิจการตลาด และตลาดหุ้นถูกพิสูจน์ว่าเป็นตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นจะใช้ตำราเล่มเก่าว่าด้วย “ตลาดที่มีเหตุผล” (RATIONAL MARKET) โดยอาศัยเพียงว่ามีความรู้ความเข้าใจมีทักษะที่ดีทั้งด้าน FUNDAMENTAL+TECHNICAL+PORTFOLIO MGT. นั้น ไม่เพียงพอเสียแล้ว...เอาให้ครบเครื่องต้องรู้เรื่องความลับที่4ในตลาดหุ้น คือ MASS PSYCHOLOGY ด้วยครับ

           นี่คือที่มาของชื่อหนังสือที่กำลังออกใหม่ วางแผงในวันที่ 18 เดือนนี้ครับ รอติดตามได้ตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

 

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ อัพเดตตลาดหุ้น12กันยา59-ด่านสุดท้าย หากยังทะลุลงไปก็ต้องทำใจว่าตลาดหมีจะอยู่กับเราอีกยาว แต่หากหยุดลงที่เขตนี้ ก็จะได้กลับไปลุ้นในแง่บวก




โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธาน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

มุมมองหนึ่งของFibonacci retracement เป้าหมายการตกในมิตินี้คือเขต1ใน3ของการตกคือ1435-1417จุดครับ

แต่มิตินี้จะถูกก็คือ ต้องกลับตัวขึ้นไปผ่านแนวต้านDowntrendให้ได้ด้วย

ตลาดรวมๆเวลานี้้คือ
1.ตกแบบPanic sellลงมาหนัก
2.ตกมาเป้าหมายเขต1ใน3fibonacci คือ1430+/-(ตั้งแต่1430ถึง1417)
3.ตกมาเขตOversoldมากๆ
4.แต่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวหรือฟื้นตัวขึ้น

สรุปคือลงมาเยอะ ลงมาเขตเป้าหมายที่ควรจะต้องหยุดไหลแล้ว และควรฟื้นขึ้น แต่สภาพจิตวิทยาฝูงนั้นถูกครอบงำด้วยความกลัว(Fear) ที่มีอิทธิพลต่อตลาดมาก ข้อพิจารณามีว่า

1.หากหยุดตกหยุดไหลที่เขต1ใน3fibonacci (คือ1430-1417จุด) ก็จะเกิดการฟื้นกลับไปอย่างน้อยที่เขตแนวต้านDowntrendราวๆ1475

2.แต่หากไหลหลุดจากเขตนี้ลงไป(ด้วยอะไรก็ตาม เช่น ด้วยFearของHerd Instinct)มันก็จะเสี่ยงไหลลงยาวตั้งแต่
1390
1375
1350
1330
1200+/-(ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของSETในรอบ4ปีมานี้)
สรุปว่าหุ้นขึ้นหรือตก องค์ประกอบก็มี
1 ข้อมูลข่าวสารปัจจัยพื้นฐานเนื้อแท้
2 พฤติกรรมของฝูง จิตวิทยาฝูง
3 จังหวะในการขึ้นหรือตก ตามข้อ1และ2ครับ

หากเป็นไปตามข้อ1 เราเรียกว่าเป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพ คือเป็นไปตามเนื้อผ้าเนื้อแท้ เป็นแนวๆVIครับ ก็ไปหามูลค่าหุ้นที่แท้จริง(Instinctive Value)ให้เจอ สมมุติหุ้นตัวนี้มีมูลค่าที่แท้จริงอยู่100บาท ก็ให้ต่อราคาเยอะๆ เช่น เกิดPanic sellแบบตอนนี้ ทำให้ได้ราคาส่วนลดจากมูลค่าที่แท้จริงมากๆระดับ40-50% ก็เป็นโอกาสซื้อ เวลาตลาดอารมณ์ดีมากๆ Panic buyจัดๆ ขึ้นไปเกินมูลค่าที่แท้จริงก็ขายทำกำไร

หากเป็นไปตามข้อ2 ก็รอให้นรกมันเย็นลงก่อนในเวลาPanic sellครับ เพราะจิตวิทยาฝูง หรือพฤติกรรมของมนุษย์ในทางเศรษฐศาสตร์นั้นมันจะขาดความเป็นเหตุเป็นผลไปมาก (Irrational Market) ทำให้ตลาดขาดประสิทธิภาพครับ เนื่องมาจาก

1.ความไม่เท่าเทียมกันในด้านข้อมูลข่าวสาร(Asymetric information) เช่น กองทุนรอบนี้ขายมาก่อนใครและขายต่อเนื่อง อาจมีInside Information ขณะที่ฝรั่งไม่มีข้อมูลวงใน ก็ยังซื้อโดยอิงเนื้อแท้ของหุ้นด้านFundamental ส่วนรายย่อยก็แล้วแต่ราคาหุ้น ตกหนักก็เสียขวัญ ทำท่ากระเตื้องก็มีกำลังใจ ตกมาแรงๆก็ด่ากองทุนว่าทุบหุ้น
2.รอดูเรื่องค่าสัญญาณทางเทคนิคตามตำรา อย่างกรณีนี้คือหลังจากตกจากยอดดอย1558จุด เมื่อลงมาเขต1ใน3Fibonacci บริเวณ1430-1415จุด โดยประมาณ มันหยุดไหลตรงนี้หรือไม่ หากหยุดไหลก็ค่อยได้ลุ้นทางบวก หากทะลุลงไป ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรครับ ก็ห้นไปใช้ยุทธวิธีเทรดหุ้นด้วยการอิงขาลงเป็นหลักในระยะต่อไป
..............
การอัพเดตเพิ่มเติมคู่มือตลาดหุ้นไทย20 ปี

เรียน ท่านผู้มีอุปการคุณ ที่ซื้อหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทย20ปี ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม
เนื่องจากตลาดเที่ยวนี้ได้ตกต่ำลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อประโยชน์แก่ท่านที่ซื้อหนังสืออย่างเต็มที่ จึงทำให้ผมต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในส่วนนี้พอสมควร เพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์แบบถูกต้องครบถ้วนยิ่งขึ้น
และจะนำเนื้อหาเรื่อง"จิตวิทยาการลงทุน:ฉีกกฎลงทุนโลกตะลึง"มาเพิ่มเติมด้วยครับ เพื่อให้ท่านที่ซื้อหนังสือไป สามารถนำไปประยุกต์ใช้รับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆได้ต่อไป เพราะวิกฤตการณ์กับตลาดนั้นเป็นของคู่กันนั่นเองครับ
สำหรับท่านที่ชำระค่าหนังสือมาแล้ว ท่านสามารถเข้าไปติดตามข้อมูลที่อัพโหลดเพิ่มเติมได้ในห้องปิด"คู่มือตลาดหุ้นไทย20ปีByณัฐวุฒิ" และเปิดดูในไฟล์ที่ผมอัพโหลดขึ้นมา อ่านได้เลยครับ มีประโยชน์มากๆ

หากมีปัญหาข้อขัดข้องใด กรุณาแจ้งทีมงานของเราได้ที่ID LINE:tontancorp


วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ Liveภาคเช้า9เดือน9ปี59-เป้าตกของตลาดกรณีthe worst caseเที่ยวนี้อยู่ที่เท่าไหร่? คำตอบ1430-1445 ทำไงดี? ซื้อหรือขาย ติดแล้วถือรอจะฟื้นไวไหม หรือCut lossแล้วกำเงินสดดีกว่า?



ณัฐวุฒิLiveภาคเช้า9เดือน9-เป้าตกของตลาดกรณีthe worst caseเที่ยวนี้อยู่ที่เท่าไหร่ ทำไงดี ติดแล้วถือรอจะฟื้นไวไหม หรือCut lossแล้วกำเงินสด?
สรุปย่อ

1.ตลาดPanic sellลึกกว่าที่ผมคาดการณ์ฺ เป้าหมายตกตามตัวเลขอนุกรมFibonacci มหัศจรรย์ที่สำคัญคือเขต1ใน3retracement คือเขต1445ถึง1430จุด

2.ข้อพิจารณาคือ


ก.หากไม่หลุดด่าน1430-1445 ตลาดเที่ยวนี้จะมีเป้าตกแค่แถวนี้
แล้วจะฟื้นขึ้นไปในระยะต่อไป ตามแนวโน้มขาขึ้นขนาดใหญ่ของปีนี้ ซึ่งยังขึ้นไปไม่จบ


ข.แต่หากหลุดด่าน1430ลงไปเด็ดขาดก็จะเปลี่ยนแนวโน้มไปเป็นขาลงขนาดใหญ่ ที่ยังจะลงไปอีกอย่างน้อย100จุด หรือมากกว่านั้น


ค.สิ่งที่ควรทำ


*ผมว่าไวไปที่จะซื้อหุ้น ให้รอชัดเจนก่อนว่าลงจบแถวๆ1430-1445แล้วเกิดสัญญาณซื้อ หรือสัญญาณกลับตัวขึ้น ค่อยไปFollow Buy


*ผมว่าช้าไปที่จะขายหุ้น หากไม่ได้ขายในช่วงที่ผ่านมา(เช่นตอนหลุด1525ลงมา หรือทะลุ1475ลงมา เพราะหากลงมาแค่1430-1455แสดงว่ามีความเสี่ยงจะตกอีกไม่เท่าไหร่ คือ10ถึง25จุด กลายเป็นว่าเรามาขายในจุดที่ต่ำสุด แล้วเด้งขึ้น กลายเป็นขายหมู

**ความเห็นเพิ่มเติม:ให้นำเรื่องSETมาประกอบการตัดสินใจด้วยครับ เนื่องจากที่ตลาด และราคาหุ้นร่วงลงมารอบนี้ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปในทางลบอย่างมีนัยสำคัญ(ไม่ใช่Negative Fundamental Change) แต่เกิดจากsentiment หรือจิตวิทยาของตลาดเป็นหลัก
*ยกเว้นเสียแต่ว่าเห็นหลุดด่าน1430ลงไปเด็ดขาด ค่อยหันไปใช้กลยุทธ์Bear Market strategy คือกลยุทธ์ขาลง ค่อยไปแกะขายทีละตัว ในช่วงที่มีtechnical rebound แล้วลดพอร์ต หรือล้างพอร์ต หรือหันไปทำกำไรขาลงต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ Liveภาคบ่าย8กันยา59-หลุดด่าน1475มุ่งหน้าลงไป1450 ยกเว้นแต่จะวกกลับไปปิดเหนือ1475+/-ได้ ต้องทำยังไงในสถานการณ์นี้?




ณัฐวุฒิLiveภาคบ่าย8กันยา59-หลุดด่าน1475มุ่งหน้าลงไป1450 ยกเว้นแต่จะวกกลับไปปิดเหนือ1475+/-ได้ ต้องทำยังไงในสถานการณ์นี้?
สรุปประเด็นสำคัญ

1.ตลาดPanic sellต่อ จนหลุดด่านแนวรับ1475+/-

2.หากไม่สามารถฟื้นไปปิดเหนือ1475+/-ได้ ก็มีความเสี่ยงจะตกต่อไป เป้าหมายคือ1450หรือ1445-1430จุด

3.ดังนั้นไม่ควรซื้อหุ้น ให้ตลาดตกสะเด็ดน้ำ และรอเกิดสัญญาณการกลับตัวก่อน

4.สำหรับหุ้นในพอร์ตก็ต้องดูว่า หลุดฐานแนวรับหรือไม่ หากหลุดฐานรับจะเปลี่ยนเป็นทางขาลง ควรขายCut lossเพื่อปกป้องความเสี่ยงของขาลง แต่หากหุ้นรายตัวของท่านเก่งกว่าตลาด ยืนเหนือฐานแนวรับได้ ก็ถือต่อได้

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ Live -ตรวจสนามหลังPanic Sell 5 กันยาทมิฬ / การประยุกต์ใช้โมเดลCreative Destruction Modelมาใช้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นในรอบล่าสุดนี้


คลิปรายการ ณัฐวุฒิ Live ภาคบ่าย 6 กันยายน -การประยุกต์ใช้โมเดลCreative Destruction Modelมาใช้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นในรอบล่าสุดนี้
สรุปย่อ

1.หุ้นตกแบบPanic sellมาตามคาดไว้ล่วงหน้า คือได้แจ้งเตือนไว้อย่างน้อยก็ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ที่4กันยายน

2.ตลาดหุ้นตกมาที่เป้าหมายเขต1476ยืนได้แล้วฟื้นตัว เมื่อดูตามตำราCreative Destruction ก็น่าจะผ่านช่วงแรก(คือการตกPanic sell)ไปแล้ว

*ตอนนี้อยู่ในช่วงระยะที่2ของเหตุการณ์คือ ตลาดแกว่งแคบ,ซึม,วอลุมหดหาย,ความมั่นใจในตลาดไม่มี แสดงว่าเป็นช่วงที่น่าสวนกระแสเริ่มซื้อหุ้นแล้ว

*พ้นช่วงนี้ เช่น ดัชนีSETไปขึ้นผ่านเขต1510จุด ก็จะได้เห็นอะไรชัดเจน ราคาหุ้นจะขึ้นไปทำนิวไฮกว่าที่ตกลงมา น่าจะขึ้นไปเขต1600จุด

*ผมได้ออกคู่มือ5+1หุ้นเด่นเล่นให้รวยให้เข้าซื้อรอบนี้ตั้งแต่เมื่อวาน เน้นความเสี่ยงต่ำ กำไรสูง(Low Risk ,High Return) ท่านที่เป็นสมาชิก หรือซื้อคู่มือนี้ไปแล้วก็แนะนำให้ซื้อลงทุนได้เลยครับ แต่อย่าไปกระจุกที่ตัวใดตัวหนึ่ง ให้กระจายไปยังทุกตัว อาจสัดส่วนตัวละ20%ของพอร์ต สมมุติว่ามีเงินลงทุน1ล้านบาท ก็ซื้อตัวละ200,000บาท เป็นต้น เน้นหวังผลตอบแทนตัวละ30%ไปถึง100% แต่หากผิดทางลงมาหลุดแนวรับสำคัญ ให้ตัดขายขาดทุนไม่น่าเกิน5% บางตัวก็น้อยกว่านี้

สั่งซื้อคู่มือตลาดหุ้นไทย20ปี คัมภีร์พลิกวิกฤตให้มั่งคั่ง ในราคาเพียง2,500บาท ท่านจะได้คู่มือซื้อลงทุน5+1หุ้นเด่นเล่นให้รวยุ ให้ถูกจังหวะเวลาพอดี ง่ายๆแค่add LINEมาที่ tontancorp และชำระผ่านบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุนต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ก็รับคู่มือฉบับนี้ไป ผ่านห้องปิดFacebook "คู่มือตลาดหุ้นไทย20ปีByณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์" และลงทุนได้ตามที่แนะนำครับ
อยากให้ฟรีเหมือนกันครับ แต่มันจะไม่ขลัง ทุกอย่างก็มีมูลค่าในตัวของมันครับ

................



ณัฐวุฒิ Live 6 กันยายน (ฉบับเผยแพร่ทางPublic)-การประยุกต์ใช้โมเดลCreative Destruction Modelมาใช้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นในรอบล่าสุดนี้
สรุปย่อ

1.ตลาดหุ้นไทยตกแบบPanic Sellตามคาดการณ์เมื่อวานนี้ โดยตกมาถึงเป้าหมายUptrendบริเวณ1476+/- แล้วฟื้นขึ้น และซึมออกด้านข้างตามคาดการณ์

2.ส่วนุการที่กองทุนเทขายออกมาเยอะล่วงหน้าตั้งแต่วันศุกร์ก่อนนั้น คงเพราะรู้อินไซด์ข่าวไม่ดีมากๆที่จะนำวิกฤตมาสู่ตลาดหุ้นไทยซักข่าว ซึ่งเราไม่รู้ หรือพูดไม่ได้ แต่กองทุนอาจจะขายจบCompleteไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว(ยกเว้นหากรายงานออกมาหลังปิดตลาดเย็นนี้ว่ายังขายสุทธิต่อ กองทุนยังมียอดจะขายสุทธิอีกราว8พันถึง1หมื่นล้านบาท) แต่ต่างชาติยังจะซื้อสุทธิต่อไปราว2หมื่นล้านบาท

3.เมื่อใช้โมเดลCreative Destruction Theory รับมือวิกฤตเที่ยวนี้เหมือนทุกเที่ยว ก็จะพบว่า

*ขั้นแรกให้ดูก่อนว่าเป้าตกPanic sellจะแค่เขตแนวรับUptrend Line รายสัปดาห์คือ1476+/- แล้วก็ตกมาพอแค่นี้หรือไม่? หากพอก็อาจมีเป้าตกแค่เขตนี้ และตกPanic sellจบไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว

*เฝ้าต่อไปว่าจะเข้าสู่ช่วงที่สองคือฟื้นขึ้นไปแล้วก็ซึมออกด้านข้าง วอลุมหดหายหรือไม่? เป้าฟื้นอาจไปไม่เกิน1503หรือ1525 เป้าตกก็ไม่เกิน1490-1476 แล้วซึมๆตัว วอลุมหาย หรือเงียบ ความเชื่อมั่นในตลาดเปราะบาง

*ถ้าใช่ก็เฝ้าต่อไปจนกว่าข่าวจะชัดเจน(โดยผมยกตัวอย่างว่่าวิกฤตมี2แบบ แบบแรก กลัวกันล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ พอมีเหตุเกิดขึ้นจริง(ไม่ว่าจะทางไหน หรือแบบไหน แต่ชัดเจน)ก็หุ้นขึ้นเลย ส่วนแบบหลังคือฟ้าผ่าเปรี้ยงก็ตกเปรี้ยง จากนั้นขึ้นไปนิวไฮ) ผมเห็นว่าวิกฤตเที่ยวแนี้เป็นแบบแรก ไม่ใช่แบบหลัง

3.อัพเดตเป้าหมายขึ้น และเป้าหมายการCut loss 5+1หุ้นเด่นเล่นให้รวยชุดใหม่ตามที่ส่งไปให้เช้าวานนี้(เฉพาะสมาชิกห้องคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ) หรือสั่งซื้อคู่มือตลาดหุ้นไทย20ปี คัมภีร์พลิกวิกฤตให้มั่งคั่ง ในราคาเพียง2,500บาท ท่านจะได้คู่มือซื้อขายหุ้นให้ถูกจังหวะเวลาพอดี ง่ายๆแค่add LINEมาที่ tontancorp และชำระผ่านบัญชี ก็รับคู่มือฉบับนี้ไป ผ่านห้องปิดFacebook คู่มือตลาดหุ้นไทย20ปีByณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์

ท่านที่Like และแชร์วิดิโอนี้ทางสาธารณะ ลุ้นรับฟรี สิทธิการเป็นสมาชิกห้องคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ ให้รู้ลึกรู้เร็วกว่าใคร และติดตามหุ้นเด่นรายตัว ที่มีเป้าหมายซื้อชัดเจน เป้าหมายกำไรงาม และจุดCut lossตัดขาดทุนเพื่อรักษาเงินต้น(Low Risk , high Return)

ย้อนหลัง เทปวันจันทร์ที่ 5 กันยายน ตอนที่ตลาดร่วงPanic sellอย่างหนัก เชิญชม

ณัฐวุฒิ รุงวงษ์ Live 6 กันยายน 2559(ฉบับเผยแพร่ทางPublic)-การประยุกต์ใช้โมเดลCreative Destruction Modelมาใช้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นในรอบล่าสุดนี้




ณัฐวุฒิ Live 6 กันยายน (ฉบับเผยแพร่ทางPublic)-การประยุกต์ใช้โมเดลCreative Destruction Modelมาใช้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรวยหุ้นในรอบล่าสุดนี้
สรุปย่อ

1.ตลาดหุ้นไทยตกแบบPanic Sellตามคาดการณ์เมื่อวานนี้ โดยตกมาถึงเป้าหมายUptrendบริเวณ1476+/- แล้วฟื้นขึ้น และซึมออกด้านข้างตามคาดการณ์

2.ส่วนุการที่กองทุนเทขายออกมาเยอะล่วงหน้าตั้งแต่วันศุกร์ก่อนนั้น คงเพราะรู้อินไซด์ข่าวไม่ดีมากๆที่จะนำวิกฤตมาสู่ตลาดหุ้นไทยซักข่าว ซึ่งเราไม่รู้ หรือพูดไม่ได้ แต่กองทุนอาจจะขายจบCompleteไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว(ยกเว้นหากรายงานออกมาหลังปิดตลาดเย็นนี้ว่ายังขายสุทธิต่อ กองทุนยังมียอดจะขายสุทธิอีกราว8พันถึง1หมื่นล้านบาท) แต่ต่างชาติยังจะซื้อสุทธิต่อไปราว2หมื่นล้านบาท

3.เมื่อใช้โมเดลCreative Destruction Theory รับมือวิกฤตเที่ยวนี้เหมือนทุกเที่ยว ก็จะพบว่า

*ขั้นแรกให้ดูก่อนว่าเป้าตกPanic sellจะแค่เขตแนวรับUptrend Line รายสัปดาห์คือ1476+/- แล้วก็ตกมาพอแค่นี้หรือไม่? หากพอก็อาจมีเป้าตกแค่เขตนี้ และตกPanic sellจบไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว

*เฝ้าต่อไปว่าจะเข้าสู่ช่วงที่สองคือฟื้นขึ้นไปแล้วก็ซึมออกด้านข้าง วอลุมหดหายหรือไม่? เป้าฟื้นอาจไปไม่เกิน1503หรือ1525 เป้าตกก็ไม่เกิน1490-1476 แล้วซึมๆตัว วอลุมหาย หรือเงียบ ความเชื่อมั่นในตลาดเปราะบาง

*ถ้าใช่ก็เฝ้าต่อไปจนกว่าข่าวจะชัดเจน(โดยผมยกตัวอย่างว่่าวิกฤตมี2แบบ แบบแรก กลัวกันล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ พอมีเหตุเกิดขึ้นจริง(ไม่ว่าจะทางไหน หรือแบบไหน แต่ชัดเจน)ก็หุ้นขึ้นเลย ส่วนแบบหลังคือฟ้าผ่าเปรี้ยงก็ตกเปรี้ยง จากนั้นขึ้นไปนิวไฮ) ผมเห็นว่าวิกฤตเที่ยวแนี้เป็นแบบแรก ไม่ใช่แบบหลัง

3.อัพเดตเป้าหมายขึ้น และเป้าหมายการCut loss 5+1หุ้นเด่นเล่นให้รวยชุดใหม่ตามที่ส่งไปให้เช้าวานนี้(เฉพาะสมาชิกห้องคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ) หรือสั่งซื้อคู่มือตลาดหุ้นไทย20ปี คัมภีร์พลิกวิกฤตให้มั่งคั่ง ในราคาเพียง2,500บาท ท่านจะได้คู่มือซื้อขายหุ้นให้ถูกจังหวะเวลาพอดี ง่ายๆแค่add LINEมาที่ tontancorp และชำระผ่านบัญชี ก็รับคู่มือฉบับนี้ไป ผ่านห้องปิดFacebook คู่มือตลาดหุ้นไทย20ปีByณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์

ท่านที่Like และแชร์วิดิโอนี้ทางสาธารณะ ลุ้นรับฟรี สิทธิการเป็นสมาชิกห้องคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ ให้รู้ลึกรู้เร็วกว่าใคร และติดตามหุ้นเด่นรายตัว ที่มีเป้าหมายซื้อชัดเจน เป้าหมายกำไรงาม และจุดCut lossตัดขาดทุนเพื่อรักษาเงินต้น(Low Risk , high Return)

ย้อนหลัง เทปวันจันทร์ที่ 5 กันยายน ตอนที่ตลาดร่วงPanic sellอย่างหนัก เชิญชม