วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

10เดือนแรกปี59กับ5เรื่องฟันธงหุ้นไทยByณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์

 โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
ประธาน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
https://www.facebook.com/tontancorp






10เดือนแรกของปีกำลังผ่านพ้นไป ย้อนกลับไปดูการฟันธงหุ้นไทยครั้งสำคัญของผม และผลที่เกิดขึ้นจริงๆ 5เรื่อง คือ

เรื่องแรก-ผมฟันธงว่าหุ้นตกจบแถว1,200 ปีนี้จะขึ้นไปเขต1,600+/-
 เรื่องที่สอง-ผมฟันธงว่าราคาน้ำมันและโภคภัณฑ์หลายตัวพบจุดต่ำสุดในต้นปีนี้และจะฟื้นขึ้น

เรื่องที่สาม-ผมฟันธงว่าหุ้นน้ำมัน ถ่านหิน ปิโตรเครมี และโภคภัณฑ์จะกลับมาโดดเด่นปีนี้

เรื่องที่สี่-ผมฟันธงว่าถ้าเกิดBREXITจริง ข่าวร้ายจะจางหายไปภายใน24ถึง48ชั่วโมง

เรื่องที่ห้า-ผมฟันธงว่าวิกฤตใหญ่ในประเทศที่คนกลัวกันมากนั้นเมื่อมาถึงเวลาจริงๆหุ้นจะไม่ตกแต่จะขึ้น


1.ฟันธงตอนปีใหม่2559 ตลาดพ้นจุดเลวร้ายไปแล้ว ให้ช้อนซื้อรอบใหม่เขต1200 ไปรอขายเป้า1600ในปีนี้

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559



คัมภีร์หุ้นไทย : อำลาปีหมี ... สวัสดีปีกระทิง ?… เรื่องที่กลัวกันมันจะไม่เกิด ส่วนเรื่องที่จะเกิดคนก็ไม่ได้กลัวกันก่อน (ตอนที่ 1)


อำลาตลาดหมี-ต้นเดือนพฤษภาคม 2558 ผมได้แนะนำให้“ขายและเล่นอิงขาลงในตลาดหมี”(BEAR MARKET STRATEGY) คือไม่ควรซื้อทุกกรณี ให้ขายลดพอร์ตลง โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่อิงกับ SET หรือมีค่า BETA ใกล้กับ SET หรือทำกำไรด้วยการถือครองสถานะ SHORT ในหุ้นที่อยู่ใน SET50

(คลิกดูรายละเอียดในลิ้งค์นี้)

*มาตอนนี้ตอนจะสิ้นปี 2558 ผมบอกว่า ได้เวลาซื้อแล้วครับ (TIME TO BUY) ปีหน้า2559หุ้นจะขึ้นครับ กระทิงจะมา...เวลานี้ลูกค้าและนักลงทุนก็ออกอาการชวนยากชวนเย็นอีกหละครับ..คุณครับ! “WE DRAW THE FUTURE” ตลาดหุ้นเป็นเรื่องอนาคตครับส่องกล้องไปข้างหน้า และ TRADE ให้สอดคล้องกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 6 หรือ 12 เดือนข้างหน้าครับ

(คลิกดูรายละเอียดใน ลิ้งค์นี้)


วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

กรอบล่าง-เขต 1,200 จุด+/-
กรอบบน-เขต1,600จุด+/-
กลยุทธ์-ซื้อหุ้นเมื่อยืนเหนือเขต1,200จุด และรอขายที่เขต1,600จุด
จุดCut Loss-หากเห็นหลุด1,200ลงไป ให้กำหนดCut Lossกรณีหลุดแนวรับสำคัญ1,165จุด

(คลิกดูรายละเอียดใน ลิ้งค์นี้)
............

2.ฟันธงราคาน้ำมันโดนเฮดจ์ฟันด์ช็อตร่วงถึงเป้าไม่ลึกกว่า25$แล้วจะเด้งแรง แนะนำช้อนซื้อPTTได้ราคาถูกสุดๆตอนหลุดลึกกว่า200 และช้อนซื้อPTTคอนร่วงลงใมกล้40บาท



(คลิกดูรายละเอียดใน ลิ้งค์นี้)


........
1.น้ำมันลงมาแถว30$นี่ถือว่าเขตBottom Lineแล้วครับ ให้ดูในชาร์ตนี้หละครับ เขตแถวๆนี้มันเป็นฐานของน้ำมันโลกแล้ว และถึงจะลงไปอีกก็คือ25หรือ20$ แล้วยังไง Who care? ก็ในเมื่อมันลงมาจาก110$ แสดงว่าDownSideRiskมากๆแล้วครับ...โธ่จะลงอีก5เหรียญ 10เหรียญก็ลงไปเหอะ...หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว

2.ผมเสนอไปว่าการที่น้ำมันแพงหรือถูกนั้น ไม่ใช่่เรื่องDemand vs Supplyเป็นหลักที่อ้างๆกันหรอกครับ แต่ขึ้นกับเฮดจ์ฟันด์ หรือกองทุนเก็งกำไรในนิวยอร์กที่ลากขึ้น ทุบลงหากำไร เป็นหลักครับ (ดูรายละเอียด ในลิ้งค์นี้)
.......
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559

Chart of the day 18 มกราคม 2559:ชาวเกาะ

1.ก็น่าตกใจครับ น้ำมันโลกร่วงหลุด30$ ข่าวร้ายสารพัด และแล้วPTTก็หลุดทะลุ206บาทลงมา เป็นการเปิดแก็ปร่วงพลั้วะลงมาเลย...น่ากลัวมิใช่น้อย

2.การเปิดGapร่วงลงมาในตอนตลาดหมีขาลงแบบนี้ หน้าตาทำนองนี้ นักเทคนิคเขาเรียกว่ารูปแบบ"เกาะ"ครับ ในทางร้ายเรียกว่าโดนปล่อยเกาะ(Isolate Island) แต่บางครั้ง หรือหลายคราวกลายเป็นทางดี เรียกว่า Island reversal

คือกลายเป็นจุดต่ำสุดของเที่ยวขาลงเที่ยวนั้นๆ แล้วเกิดการกลับตัวกลับใจ จากที่เคยเป็นขาลงในตลาดหมีมายาวนาน ก็กลับตัวเป็นทิศทางขึ้นซะงั้น

ผมสังหรณ์ใจว่าจะเป็นเรื่องหลังมากกว่าเรื่องแรกนะครับ






วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559


Chart of the day 26 มกราคม2559:ไม่ใช่ลูกเทพ ไม่ใช่ผัวเทพ เมียเทพ แต่มันคือ"พี่เทพ"


1.หน้าตาของภาพระยะยาวครับ หลังจากหลุดแนวรับรูปแบบสามเหลี่ยมแถวๆ160บาท ก็สารพัดข่าวร้ายกระทืบใส่ไม่ยั้งครับ (อยากดูชาร์ตชัดๆขึ้น คลิกที่ชาร์ตเลยครับ ภาพจะขยายเต็มจอพานอราม่าให้)

2.แต่ล่าสุดนั้นได้ตกมาถึงเขตBottom Lineแถวๆ40บาทแล้ว ก็น่าสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นbottom outแถวๆนี้ครับ 

3.น่าจะมีtechnical reboundไปเป้าหมายราวๆ75บาทในระยะต่อไป

แปลเป็นไทยคือหากติดดอยจนอ้วกมาแล้ว ก็ไม่น่าเททิ้งเทขว้างแล้วมังครับ หากอยากเล่นเอาเด้งซักยก ก็นับว่าควรค่าแก่การพิจารณา(โดยกำหนดจุดCut lossหากมาซื้อแถวๆนี้ คือหากหลุดเขตbottom lineที่40บาทลงไป)

ต่อมาต้นเดือนมีนาคมผมได้ตอกย้ำอีกทีว่า นี่เป็นเวลาที่ควรต้องเทรดหุ้นพวกนี้ ดูบทความเรื่อง 
ราคาน้ำมันโลก และเงินในกระเป๋าของคุณที่ติดดอยหุ้นคอมมอดิตี้ส์(น้ำมัน ถ่านหิน เคมี เกษตร ขนส่งทางเรือ)เอาไว้ เอาไงกับมันดี?

3.ฟันธงซื้อIVLได้ราคาต่้ำสุดแถว19-20บาท แนะนำขายทำรอบไปใกล้กับราคาแพงสุดเขต32.50บาท

...........วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

*ตอนแนะนำซื้อ 2 กุมภาพันธ์ 2559-Chart of the week:IVL


How to trade?

-เคาะfollow buy เมื่อไหร่ที่ผ่านเขต21.50แล้วไปลุ้นด่านต่างๆคือ23ถัดไป25 เป้าใหญ่ก็30-32บาทครับ ไวหน่อยก็ราวๆเดือนพฤษภาคมนี้

-แต่ถ้าผิดพลาด แพ้ลงมา หลุด19บาทลงไป แสดงว่าจะโลกาวินาศ ต้องขายstop lossครับ

สรุป

*ทางได้ ก็ราวๆ10บาท(บวกกับปันผลราวๆ3%)
*ทางเสียก็ราวๆ2บาท
(รายละเอียด คลิกลิ้งค์)
..............

ตอนแนะนำขาย-13 พฤษภาคม2559 

ขอบคุณที่มาถึงเป้าหมายปลายทาง โดยสวัสดิภาพ

จากนี้ไป เราอาจจะต้องห่างกันซักพัก รักนะ เป็ดโง่

(เป็น1ใน6หุ้นเด่นที่เคยแนะนำซื้อไว้ตอนต้นปีแถวราคา19-20บาท เป้าหมายทางเทคนิค32.50บาท)

เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกกัน ขยันแต่เชียร์ซื้อ...ก็เลยมาบอกกันครับ

(รายละเอียด คลิ้กลิ้งค์)
.............


4.ฟันธงล่วงหน้าBREXITเขย่าโลก ไม่่ว่าผลประชามติจะออกมาอย่างไรก็จะทำให้หุ้นตก แต่อย่าตกใจไป เพราะข่าวร้ายจะจางหายไปจากตลาดภายในไม่เกิน48ชั่วโมง (ซึ่งสวนกระแสกับที่คนส่วนใหญ่ในตลาดหวาดวิตก เพราะขาดความรู้ขาดประสบการณ์) ฟันธงให้เข้าช้อนซื้อหุ้นเด่นดีราคาโดน สวนควันปืนตอนตลาดตกโลกาวินาศ ด้วยทักษะประสบการณ์ที่อ่านขาดเหนือชั้นกว่า



ผมได้ฟันธงล่วงหน้าไว้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา คือล่วงหน้า1วัน และฟันธงข้ามช็อตไว้ล่วงหน้า 2 เรื่องสำคัญคือ
1.ไม่ว่าผลประชามติเรื่องBREXITจะออกมาแบบไหน ตลาดหุ้นก็จะตกทั้งคู่ คือตกน้อยกับตกหนัก

2.วิกฤตจะไม่ยืดเยื้ออย่างที่กลัวกันหรอก เรื่องนี้จะจางหายไปจากตลาดภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้นผมจึงแนะนำสมาชิกเข้าซื้อหุ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตอนเกิด panic sell


คลิกลิ้งค์นี้เพื่อดูเทปนี้ที่ผมพูดไว้ก่อนตลาดเปิดทำการภาคเช้าวันพฤหัสฯที่ 23 มิถุนายน ผมฟันธงไว้ช่วงนาทีที่ 31 ถึง 33
https://www.facebook.com/tontancorp/videos/1206256666085262/

 นี่เป็นหุ้นเด่นที่แนะนำสมาชิกลูกค้าในห้องกรุ๊ปไลน์"คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ"ให้เข้าช้อนซื้อลงทุนเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์24มิถุนายนที่ผ่านมา ตอนที่ตลาดกำลังลงแบบPanic sellอย่างหนัก แลัะทำให้เราไดเ้ช้อนซื้อของถูกมากๆในวันเวลานั้น

5.วิกฤตการณ์ปัจจัยในประเทศล่าสุด ซึ่งผมฟันธงว่าตลาดได้ตกมาล่วงหน้าไปมากแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง หุ้นจะไม่ตกหนักอย่างที่กังวล อาจจะขึ้นด้วยซ้ำ แบบกลยุทธ์ที่เรียกว่า"ขายตอนมีข่าวลือ,ซื้อตอนมีข่าวจริง" ดูบทความด้านล่าง

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559


ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นขนาดไหน และจะเตรียมรับมืออย่างไร? จึงจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการลงทุน*



เตรียมพบกับการฟันธงครั้งสำคัญ ครั้งถัดไป 19 พฤศจิกายนนี้ "ฟันธงหุ้นไทยปี2560 พร้อมรับคู่มือตลาดหุ้นประจำปี2017 และ5+1หุ้นเด่นเล่นให้รวยชุดใหม่ล่าสุด"ได้ก่อนใคร ในงานเท่านั้น

จองที่นั่ง 097-0986000 LINE:tontancorp

สมาชิกกรุ๊ปไลน์&facebookคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิแจ้งผลการลงทุนมา ซื้อตามคำแนะนำได้จริง ให้ผลตอบแทนการลุงสูงเกินคุ้มค่าจริงๆ



สมาชิกของเราแจ้งบอกข่าวมาช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ขอบพระคุณที่แจ้งผลการลงทุนตามคำแนะนำมาให้ทราบครับ

สมัครสมาชิกคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิตอนนี้เริ่มต้นง่ายๆเบาๆเพียง3,600บาท ได้สิทธิเข้างานอบรมสัมมนาจัดพอร์ต 19 พฤศจิกายนนี้ หัวข้อ"เจาะ5+1หุ้นเด่นเล่นให้รวย ซื้อพฤศจิกา ขายทำกำไรพฤษภา" โทรสมัครเลย 0970986000 ไลน์: tontancorp


คำเตือน:การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนนำคำแนะนำนี้ไปใช้ ลูกค้าควรพิจารณาความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุน ฐานะการเงิน และระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับได้ ผลงานคำแนะนำการลงทุนในอดีต ไม่อาจเป็นหลักประกันผลงานแนะนำในอนาคตได้

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ : ส่งท้ายก่อนหยุดยาวLong weekend มองข้ามช็อตไปสัปดาห์หน้า ขึ้น - ลง กลุ่มไหน? จับตาการทะยานขึ้นของESSOหลังจบขาลงที่ยืดเยื้อมา4ปี



ณัฐวุฒิ Live 21ตุลาคม59 ภาคบ่าย - ส่งท้ายก่อนหยุดยาวLong weekend มองข้ามช็อตไปสัปดาห์หน้า ขึ้น - ลง กลุ่มไหน?
สรุปย่อ
1.มองย้อนตลาดหุ้นรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าตำรา Sell on rumor , Buy on fact จริงๆ และมองข้ามไปข้างหน้ามีโอกาสกลับไปเขต1600-1650จุด
2.มองข้ามไปสัปดาห์หน้า หลังหยุดยาวLong weekend ไม่ได้มีประเด็นอะไรที่น่าวิตกกังวล นอกจากข่าวลือที่ปล่อยกันแบบไม่รับผิดชอบ

3.มองหุ้นกลุ่มแบงก์ผ่านกลยุทธ์ขายตอนมีข่าวลือ ซื้อตอนมีข่าวจริงแบบBBL และเช่นเดียวกับกรณีของDTACในกลุ่มสื่อสาร

จับตาการทะยานขึ้นของESSOอย่างรวดเร็ว และท่านเองก็ควรได้รับสิทธิที่จะรู้มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ด้วยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกคลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิแบบง่ายๆที่ได้ถึง4ต่อ แจ้งความจำนงเ้ป็นสมาชิก โทร 097-0986000 หรือLINE:tontancorp


ความเห็นของผมเมื่อวันอังคารที่18ตุลาคมต่อหุ้นESSOแนะนำสมาชิกไว้ในห้องปิดfacebook คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ

ความเห็นของผมเรื่องESSต่อเนื่องในวันพุธที่19ตุลาคมต่อหุ้นESSOครับ

ราคาหุ้นESSOหลังจากยืนเหนือแนวรับ5.45บาทได้ แล้วผ่านแนวต้าน6.35ขึ้นมาเป้าหมายแรก อาจสิ้นสุดขาลงยืดเยื้อ4ปี ตามที่ผมให้ความเห็นไว้

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ Live Special 13ตุลาคม59 - ทิศทางตลาดหุ้นไทย หลังข่าวสำคัญมีการประกาศอย่างเป็นทางการ




โดย ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด

สรุปย่อ- ตลาดหุ้นหลังข่าวประกาศอย่างเป็นทางการ จะเป็นแบบไหน?

ก.Worst case scenario หรือแย่สุดขีดกว่าคาด ตกหนักหน่วงรุนแรง หลุด1200จุดลงไป ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าใช่ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบปุ๊บปั๊บฉับพลัน

ข.Base case scenario หรือที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น เพราะคนในตลาดได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วมากพอสมควร หุ้นอาจตกมาแถวๆ1300ต้นๆ แย่สุดก็1250หรือ1200+/- แล้วฟื้นกลับไปเขต1600ในระยะต่อไป

ค.Best case scenario แบบเดียวกับข้อข. แต่ตลาดได้ตกมาล่วงหน้าไปมากพอสมควรแล้ว พอข่าวทางราชการประกาศออกมาจริงๆ แทนที่จะหุ้นตกมากก็เลยตกน้อย หรือไม่ตกเลย แล้วขึ้นไปแบบขึ้นแรงรอบใหญ่ไปเลย ซึ่งตำราฝรั่งเรียกว่า "ขายตอนมีข่าวลือ,ซื้อตอนมีข่าวจริง"(Sell on rumours , Buy on fact) ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้ น่าจะออกมาในแบบนี้นะครับ 

เรื่องทำนองนี้ผมได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มชื่อ ความลับที่4จิตวิทยามวลชนในตลาดหุ้น ฉีกกฎลงทุนโลกตะลึง ลองหามาอ่านดูนะครับ

นอกจากนั้นผมได้แนะนำว่าให้ดูค่าเงินบาทประกอบนะครับ ช่วง3-4วันก่อนหน้านี้ ค่าเงินบาทตกไปเยอะ อ่อนลงไปมากเหมือนกัน แต่หลังข่าวทางราชการประกาศออกมาก็แข็งค่าขึ้นครับ ตลาดหุ้นก็คงคล้ายๆกัน คือตกมาก่อนหน้าแล้ว(ตกมาจากแถวๆ1558ลงมาที่1343จุด) พอข่าวทางราชการปรากฎก็อาจจะไม่ตกอะไรมากมายตามที่วิตกกังวลกัน แล้วไปเข้าตำราที่ผมได้อธิบายไปข้างบนนี้ครับ

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:ข่าวลือ หุ้นร่วง และความจริงที่ต้องเผชิญของนักลงทุน



ณัฐวุฒิ Live หลังปิดตลาด12ตุลาคม59 - ข่าวลือ หุ้นร่วง และความจริงที่ต้องเผชิญของนักลงทุน

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
12 ตุลาคม 2559

1.เรื่องหุ้นตกเฉียด100จุดภาคบ่ายวันนี้ เป็นเรื่องTalk of the townนะครับ ไม่ใช่เฉพาะแวดวงหุ้น แต่พูดกันไปทั่ว จากกระแสข่าวลือชิ้นหนึ่งเข้ามากระทบ คือลือว่านายกฯจะมีแถลงข่าวสำคัญบางเรื่องตอนบ่ายสามโมง ซึ่งความจริงก็ดังที่ทราบไปแล้วว่าเป็นเพียงข่าวลือ แต่หุ้นก็ตกหนักไปแล้วหละ
2.เอาความจริงมาพูด แบบที่ไม่ต้องปลอบใจกัน ก็ต้องบอกว่าเรายังจะเผชิญกับข่าวลือทำนองนี้อีกต่อไปในตลาดหุ้น จนกว่าเรื่องจะกระจ่างแจ้งออกมาชัดๆโน่นแหละครับ เพราะฉะนั้นผมก็ขอให้เทรดเดอร์ นักลงทุนหันมาเผชิญหน้าความจริงดีกว่าว่า ท่านต้องเตรียมการและรับมืออย่างไร จึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อของวิกฤตเที่ยวนี้ หรือพลิกสถานการณ์มาเป็นโอกาส โดยให้ดูฉากจำลองที่ผมคาดว่าจะเป็น3แบบคือ
ก.Worst case scenario หรือแย่สุดขีดกว่าคาด ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าใช่ เพราะวิกฤตเที่ยวนี้ไม่ได้ปุ๊บปั๊บช็อกซีเนม่า

ข.Base case scenario หรือที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น เพราะคนในตลาดได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว

ค.Best case scenario แบบเดียวกับข้อข. แต่ได้มีการ"ซ้อมตกใจ"ไปมากแล้ว มีข่าวลือเข้ามากระแทกหุ้นลงไปล่วงหน้ามากพอควรแล้ว พอข่าวจริงออกมาก็เลยแทนที่จะตกมากก็ตกน้อย หรือไม่ตก แล้วขึ้นไปแบบขึ้นแรงรอบใหญ่ไปเลย ซึ่งผมคิดว่าวิกฤตเที่ยวนี้น่าจะออกมาในแบบนี้นะครับ
3.แต่กลยุทธ์การลงทุนนั้่นเอาให้ดีก็รอให้ทุกอย่างเคลียร์ก่อนก็ดี ยกเว้นว่าท่านเป็นSwing trader หรือติดหุ้นไว้อยากขายก็มาดูกันทีละช็อต ผมจะพาเกาะติดให้ต่อเนื่องต่อไป 
เช่นตอนนี้หากไม่ลึกกว่า1330-1370ก็จะเด้งขึ้นด่านแรก1415-1430 หากผ่านก็จะไป1450 ด่านถัดไป1475-1485 อาจไปได้ใกล้ๆ1500 ก็ไปขายกันตามด่านต่างๆ แต่หากจะเทรดแบบนี้ก็ต้องเผื่อใจสำหรับการตัดขาดทุนเวลาผิดพลาดด้วยครับ
......................
รายละเอียดของ3ฉากจำลอง ถ้าเกิดอะไรขึ้น หุ้นจะตกขนาดไหน อย่างไร?

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559
บทเกริ่นนำ-วิกฤตกับตลาดหุ้น โปรดอย่าถามว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! “ เพราะมันเกิดขึ้นอยู่ตลอด
วิกฤตการณ์ต่างๆกับตลาดหุ้นนั้นเป็นของคู่กัน ไม่มีเรื่องนี้ ก็มีอีกเรื่องใหม่ จบเรื่องนี้ ก็ไปเจออีกเรื่องนั้น ประเด็นสำคัญคือเราจะจัดการบริหารวิกฤตอย่างไรต่างหาก จึงจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ปล่อยให้วิกฤตซ้ำเติมจนพอร์ตของเราวิกฤตหนักไปด้วย

ดังนั้นก็ไม่ควรต้องถามหรอกครับว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่วงผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร” เนื่องจากว่ามันก็”เกิดอะไรขึ้น!”ในทางที่เป็นวิกฤตการณ์ต่างๆอยู่เสมอนั่นเอง

ทั้ง”อะไร!”ที่มากันปุ๊บปั๊บฉับพลันไม่ทันให้ตั้งตัว แบบแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิถล่ม เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด ลอบสังหารประธานาธิบดีJFKช็อกโลก
และทั้ง”อะไร”ที่ตั้งเค้าตั้งลำทะมึนมาก่อนจะเกิดเรื่อง อย่าง ม็อบจลาจล ปฏิวัติรัฐประหาร สงคราม พิบัติภัยเศรษฐกิจแบบHAMBURGER CRISIS การถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีFDRหลังจากป่วยรักษาตัวมาระยะหนึ่ง เป็นต้น
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559 ฉบับสมบูรณ์ ประกอบด้วย
1.ฉากจำลอง3แบบคือ Base Case Scenario , Worst Case Scenario , Best Case Scenario ในกรณี"ถ้าเกิดอะไรขึ้น"
2.ตำราพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการลงทุน
3.มุมมองของผู้จัดการกองทุนต่างชาติที่เป็นContrariantอย่างดร.มาร์ค โมเบียส ต่อประเด็นที่ตลาดกังวลไม่ได้น่าห่วงอย่างที่คิด มีบางอย่างน่าสนใจคือโบรกเกอร์ที่มีอิทธิพลต่อฝรั่งมากๆรายหนึ่งแนะนำซื้อSCCให้เป้าหมาย600บาท
4.พอร์ตLow Risk , High Return 5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด
เชิญโหลดเอกสารอ่านเลยครับ(เฉพาะท่านสมาชิก ในห้องปิดคลุกหุ้นวงในครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้เป็นเมมเบอร์ ผมก็ได้คัดตอน 3ฉากจำลองมาให้ดูในท้ายบทความนี้แล้วครับ โปรดคลิกที่ชาร์ตจะมีคำอธิบายประกอบด้วยครับ)
More Information Contact Line ID tontancorp
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp

8.1 Base Case Scenario-กรณีฐานที่คาดว่า มีความน่าจะเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้มาก เป็นฐานสำหรับการพยากรณ์
*ดัชนีหุ้นไทย(SET)แกว่งอยู่ในกรอบหลักระหว่างฐานรับล่างเขต1200จุด+/- กับแนวต้านกรอบบนบริเวณ1600+/-
*โดยเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็เกิดปรากฎการณ์ตื่นตกใจเทขาย(Panic Sell)ออกมาอย่างโกลาหล หลุดฐานLowเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่12กันยายนคือเขต1400จุด+/- แล้วร่วงยาวลงไปเขต1200+/- ซึ่งเคยเป็นฐานรองรับการตกต่ำมาแล้ว2เที่ยว ทำรูปแบบราคาTriple Bottom แล้วฟื้นตัวขึ้น และกลับไปเขต1600+/-อีกที
สมมุติฐาน คือ
*คนในตลาดซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell เมื่อทราบข่าวที่ออกมาอย่างเป็นทางการ
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait & See และจับตามองหากSETทำฐานบริเวณ1200จุดได้ดี เป็นจุดเข้าช้อนซื้อ เน้น หุ้นบลูชิพ หุ้นขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับSET ไปรอขายเมื่อฟื้นกลับไปเขต1600จุด+/-

8.2 Worst Case Scenณ์ario-ฉากจำลองในกรณีที่แย่กว่าคาดการณ์



*เมื่อปรากฎข่าวที่เป็นทางการออกมา ดัชนีSETร่วงลงจากแรงขายแบบPanic sell จนลงไปหลุดฐานสำคัญเขต1200จุด จากนั้นก็ไหลลงอย่างต่อเนื่องไปที่เขต1,000จุด และหลุด1,000จุดลงไปณ ระดับแย่ที่สุดบริเวณ800จุด+/-(800-865จุด) แล้วจึงหยุดร่วงลง แล้วเกิดการฟื้นตัวขึ้นมาเขต1200จุดในระยะต่อไป

สมมุติฐาน คือ

*เป็นเหตุการณ์ปุ๊บปั๊บฉับพลันที่คนในตลาดไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาก่อนเลย คนในตลาดจึงซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
*คนในตลาดไม่สามารถทำนายหรือพยากรณ์ได้ เต็มไปด้วยข่าวลือ ข่าวร้าย และภาวะไร้ระเบียบของรัฐและสังคม
*มีแนวโน้มที่ภาวะไร้ระเบียบจะบานปลายไปเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จลาจล หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait&See แต่หากเห็นตลาดหลุดระดับ1200ลงไปเด็ดขาด ควรใช้กลยุทธ์Bear Market Strategyอย่างสมบูรณ์ คืออย่าซื้อ อย่าช้อน อิงทางขาย หรือหากำไรขาลงจากการShort Against Port หรือ Short Selling หรือเทรดFuture อนุพันธ์ด้วยการอิงขาลง เพราะมีความเสี่ยงลงไปตั้งแต่1,000ไปยันแย่สุดคือราว800จุด+/- และรอให้ตลาดทำจุดต่ำสุดผ่านพ้นไปแล้ว และเกิดสัญญาณการกลับตัวเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาซื้อหุ้น
.
8.3 Best Case Scenario-ฉากจำลอง คาดการณ์กรณีดีกว่าคาด 

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่งซึมตัวออกด้านข้างอยู่ระหว่าง1460+/- ไปแถวๆ1500+/- และเมื่อมีข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็จะไม่ตกลงไปลึกเกินกว่าเขต1400+/-(ซึ่งก็คือเท่ากับLowครั้งก่อนที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน2559)



*จากนั้นเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ตลาดจะฟื้นขึ้นหลังจากนั้น และขึ้นไปทำนิวไฮกว่าที่เคยทำไว้เขต1558จุด อาจเป็นตั้งแต่1600-1650 หรือนิวไฮเกิน1650 ในระยะต่อไปจะขึ้นไปดีที่สุดได้ถึงเขต2100จุด
สมมุติฐาน คือ*ตลาดได้”ซ้อมตกใจ!”มาหลายครั้ง และเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จากข่าวลือข่าวลบต่างๆที่เกิดขึ้นมา จึงทำให้ตลาดเกิดการPanicลงมาล่วงหน้าแล้ว ราคาหุ้นได้ลงมาPrice in หรือ Discount ข่าวร้ายเอาไว้มากพอสมควรแล้ว

*สถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านนั้นมีความชัดเจน ปราศจากความคลุมเครือสับสน อยู่ภายใต้การจัดระเบียบที่มีแบบแผน

*ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่ทำนายหรือพยากรณ์ไม่ได้ หรือเกิดความไร้ระเบียบ หรือถอนรากถอนโคน

*ตลาดหมดแรงกดดันจากปัจจัยลบที่เป็นข่าวคลุมเครือมานาน ทำให้ปลดปล่อยพลังแล้วขึ้นเต็มที่




หมายเหตุ:ผมคัดเรื่องนี้มาจากส่วนหนึ่งของการบรรยายเรื่อง"ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างไร? และจะเตรียมการรับมืออย่างไร?"เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนเอกสารฉบับสมบูรณ์ เพิ่มเติมเรื่องมุมมองของกองทุนฝรั่ง หุ้นที่ฝรั่งชอบ และหุ้นเด่นรายตัว5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด ได้อัพโหลดให้สมาชิกห้องปิด"คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ"อ่านกันแล้ว

ท่านที่สมัครสมาชิกคลุกหุ้นวงในช่วงนี้ได้สิทธิเข้าไปชมฉบับสมบูรณ์เลยครับ พร้อมกับได้สิทธิเข้าร่วมงานอบรมแบบExclusiveปิดห้องคุยกันกับผมอีกรอบในวันอาทิตย์ที่30ตุลาคม2559นี้

More Information Contact Line ID tontancorp โทร 0970986000
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp โทร 0970986000

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์:อย่าซ้ำเติมวิกฤตให้เป็นวิกฤตกว่าเดิม ด้วยการซื้อในจังหวะอ่อนตัว ขายในจังหวะอ่อนใจ และสิ่งที่ควรทำในเวลานี้




ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
ณัฐวุฒิ Live 12ตุลาคม59 - ค่าเงินบาท, ตลาดหุ้น, แนวโน้มและกลยุทธ์เมื่อตลาดอ่อนตัว นักลงทุนก็อ่อนใจ ทำไงดี?
สรุปย่อ
1.ค่าเงินบาทที่อ่อนลงมานั้น ยังมีแนวโน้มอ่อนลงไปที่แนวรับใหญ่เขต35.70บาท/ดอลลาร์ แต่ไม่ได้เกิดจากที่ฝรั่งขายหุ้น มาจากการที่ต่างชาติขายในตลาดตราสารหนี้ อันเนื่องมาจากกังวล"ปัจจัยในประเทศ"
2.ส่วนที่ต่างชาติไม่ได้ขายหุ้นนั้น เนื่องจากซื้อสุทธิมาตั้งแต่ต้นปีถึงเวลานี้ราว1.35แสนล้านบาท แล้วต้นทุนก็แพง ขายไปก็คงไม่คุ้ม ฝรั่งบางเจ้าอย่างกองทุนของดร.มาร์ค โมเบียส ก็เลยบอกว่าลงทุนยาวแล้วกัน เพราะปัจจัยเข้ามากระทบตอนนี้ก็มีผลต่อราคาหุ้นไปมากแล้ว ขณะที่พื้นฐานประเทศไทยยังดีมีอนาคต หรือนักวิเคราะห์ต่างชาติอย่างค่ายCSที่ออกบทวิจัยมาให้ลูกค้า(ฝรั่ง)ช้อนซื้อหุ้นที่ตกลงมาตอนนี้ แล้วบอกว่าจะมีUpside gainตั้งแต่20ถึง50% ในราว3เดือน เพราะหุ้นตกลงมาไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน แต่เป็นเซ็นทิเม้นต์มากกว่า
3.มีลูกค้า2ประเภทมาปรึกษาผมเวลานี้คือ
ก.พวกที่เห็นตลาดอ่อนตัว ก็เลยอ่อนใจตาม น่าแปลกคือกลุ่มนี้มักมีพฤติกรรมไปซื้อตอน"ดอย"คือติดสูงและชอบหุ้นแนวปั่น มาเวลานี้ขาดทุนทางบัญชีเกิน50% อยากขายเพื่อปรับพอร์ต จะได้มีเงินมาช้อนซื้อตอนเรื่องจบ...ผมก็บอกว่าถ้าทำใจได้ก๋เอาเถอะครับ แต่หุ้นของพี่มันก็ไม่เกี่ยวกับตลาดอยู่แล้ว เพราะพื้นฐานมันไม่มีเลย
ส่วนท่านที่ไม่ได้เทรดหุ้นปั่น ผมก็แนะนำว่าให้ไปดูปัจจัยพื้นฐาน ไปดูมูลค่าที่แท้จริงของมัน หากมันลงมามากกว่าพื้นฐานมาก(Under Value)ก็ไม่ต้องไปขายหรอกครับ เพราะพอจบเรื่องนี้ แล้วตลาดกลีับขึ้น(อาจจะแบบBase case หรือ base case แบบที่ผมพูดไว้ช่วง2วันที่ผ่านมา ให้กลับไปดูเทป) ราคาหุ้นมันก็จะกลับฟื้นไปหาราคาพื้นฐานของมัน ยกเว้นแต่ว่าขาดทุนแบบที่ยอมทำใจได้ จะCut lossก็ได้เพื่อเก็บเงินสดไว้ รอช้อนซื้อตอน"มีเรื่อง"

วิธีนี้ให้ดูตลาดประกอบ(ตามที่ผมจะกล่าวในข้อ4)

ข.พวกที่มีเงินสดในมือ หรือขายไปก่อนหน้านี้แล้วก็อยากช้อนซื้อ-กลุ่มนี้ก็มาหาผมเยอะว่าอยากซื้อหุ้น ขอหุ้นเด่น ผมก็ตอบว่า ใจเย็นๆให้กลับไปดูเรื่องฉากจำลองที่ว่าตลาดจะตกแบบไหน3แบบที่ผมเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ เอาให้ดีผมว่า"รอข่าวประกาศ"ที่เป็นทางการแล้วค่อยซื้อก็ดีครับ จะได้ดูในเวลานั้นว่าตลาดเลือกไปทางไหน ระหว่าง Base case , Best case , Worst case ? แต่หากอยากทยอยเริ่มเก็บก่อน ก็ให้ดูตลาดประกอบ(ตามที่ผมจะกล่าวถึงในข้อ4)

4.ในระหว่างนี้ตลาดที่กำลังร่วงลงมาจะมีด่านสำคัญแถวๆ1400มาถึงแถวๆ1430จุด+/- พูดภาษาบ้านๆว่าให้ดูlowเที่ยวก่อนที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายนเป็นเกณฑ์ ตอนนั้นSETมาต่ำสุด1410จุด หากลงมาวันนี้เที่ยวนี้ไม่ลึกกว่านี้ก็อาจเป็นฐานแถวๆนี้ ที่ผมเรียกว่าเป็น Best case scenario คือตกน้อยที่สุด และเมื่อเด้งกลับก็ไปไกลที่สุด เนื่องจากตลาดได้รับรู้ข่าวร้ายนี้ไปมากพอแล้ว

หรืออีกทางหนึ่ง หากซื้อแถวๆนี้แล้วก็ต้องดูว่า ไม่เด้งขึ้นเลย อย่าพูดเรื่องจะกลับไป1500เลย ดันไหลหลุดทำnew lowลึกกว่า1400-1410ลงไปเด็ดขาด ก็ต้องขายหยุดขาดทุน เพื่อปกป้องความเสี่ยงของขาลงที่เสี่ยงจะตกต่อไปเขต 1370 1330-1300 หรือกระทั่ง1200+/-ตามลำดับ เพื่อถือเงินสด และรอซื้อเมื่อข่าวจริงปรากฎ(Buy on the news)

*คนที่อยากซื้อก็ให้ดูแถวๆนี้ หากไม่หลุด ก็เริ่มซื้อได้ซัก20-30% อย่าเกิน50%ของพอร์ต และเมื่อเด้งขึ้นไปก็ไปรอดูว่าผ่านแถวๆ1500-1520ได้ไหม หากไม่ได้ก็ไปขายออก หากผ่านได้ก็ค่อยไปซื้อเพิ่มพอร์ต

*คนที่อยากขาย ก็ให้ดูว่าแถวๆนี้รับอยู่ไหม หากอยู่ก็อาจเห็นการเด้งกลับไปแถวๆ1500+/- ก็ไปขายหุ้นออกแถวนั้น จะทำให้ขาดทุนน้อยลงกว่า หรือหากเห็นหลุดทำnew lowลึกกว่า1400-1410ลงไปเด็ดขาด ก็ขายเพื่อปกป้องความเสี่ยงของขาลงที่เสี่ยงจะตกต่อไปเขต 1370 1330-1300 หรือกระทั่ง1200+/-ตามลำดับ เพื่อถือเงินสด และรอซื้อเมื่อข่าวจริงปรากฎ(Buy on the news)

ผมมีกิจกรรมอัพเดตตลาดให้อีกรอบในวันที่30ตุลาคมนี้ครับ เกินคุ้มค่าแน่นอน และเป็นโอกาสดีของเทรดเดอร์+นักลงทุนแนวๆContrariantทั้งหลาย บรรดาผู้นิยมเสพวิกฤตเป็นมังสาหาร หาโอกาสทำเงินก้อนใหญ่จากวิกฤตการณ์ จองที่นั่งได้แล้วตั้งแต่ตอนนี่้ครับ ทางไลน์ tontancorp
...............................


ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559
บทเกริ่นนำ-วิกฤตกับตลาดหุ้น โปรดอย่าถามว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! “ เพราะมันเกิดขึ้นอยู่ตลอด

วิกฤตการณ์ต่างๆกับตลาดหุ้นนั้นเป็นของคู่กัน ไม่มีเรื่องนี้ ก็มีอีกเรื่องใหม่ จบเรื่องนี้ ก็ไปเจออีกเรื่องนั้น ประเด็นสำคัญคือเราจะจัดการบริหารวิกฤตอย่างไรต่างหาก จึงจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่ปล่อยให้วิกฤตซ้ำเติมจนพอร์ตของเราวิกฤตหนักไปด้วย

ดังนั้นก็ไม่ควรต้องถามหรอกครับว่า”ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่วงผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร” เนื่องจากว่ามันก็”เกิดอะไรขึ้น!”ในทางที่เป็นวิกฤตการณ์ต่างๆอยู่เสมอนั่นเอง

ทั้ง”อะไร!”ที่มากันปุ๊บปั๊บฉับพลันไม่ทันให้ตั้งตัว แบบแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิถล่ม เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด ลอบสังหารประธานาธิบดีJFKช็อกโลก
และทั้ง”อะไร”ที่ตั้งเค้าตั้งลำทะมึนมาก่อนจะเกิดเรื่อง อย่าง ม็อบจลาจล ปฏิวัติรัฐประหาร สงคราม พิบัติภัยเศรษฐกิจแบบHAMBURGER CRISIS การถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดีFDRหลังจากป่วยรักษาตัวมาระยะหนึ่ง เป็นต้น
*เอกสารประกอบคำบรรยายในการอบรมเมื่อวันอาทิตย์ที่9ตุลาคม2559 ฉบับสมบูรณ์ ประกอบด้วย
1.ฉากจำลอง3แบบคือ Base Case Scenario , Worst Case Scenario , Best Case Scenario ในกรณี"ถ้าเกิดอะไรขึ้น"
2.ตำราพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการลงทุน
3.มุมมองของผู้จัดการกองทุนต่างชาติที่เป็นContrariantอย่างดร.มาร์ค โมเบียส ต่อประเด็นที่ตลาดกังวลไม่ได้น่าห่วงอย่างที่คิด มีบางอย่างน่าสนใจคือโบรกเกอร์ที่มีอิทธิพลต่อฝรั่งมากๆรายหนึ่งแนะนำซื้อSCCให้เป้าหมาย600บาท
4.พอร์ตLow Risk , High Return 5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด
เชิญโหลดเอกสารอ่านเลยครับ(เฉพาะท่านสมาชิก ในห้องปิดคลุกหุ้นวงในครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้เป็นเมมเบอร์ ผมก็ได้คัดตอน 3ฉากจำลองมาให้ดูในท้ายบทความนี้แล้วครับ โปรดคลิกที่ชาร์ตจะมีคำอธิบายประกอบด้วยครับ)
More Information Contact Line ID tontancorp
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp

8.1 Base Case Scenario-กรณีฐานที่คาดว่า มีความน่าจะเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้มาก เป็นฐานสำหรับการพยากรณ์
*ดัชนีหุ้นไทย(SET)แกว่งอยู่ในกรอบหลักระหว่างฐานรับล่างเขต1200จุด+/- กับแนวต้านกรอบบนบริเวณ1600+/-
*โดยเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็เกิดปรากฎการณ์ตื่นตกใจเทขาย(Panic Sell)ออกมาอย่างโกลาหล หลุดฐานLowเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่12กันยายนคือเขต1400จุด+/- แล้วร่วงยาวลงไปเขต1200+/- ซึ่งเคยเป็นฐานรองรับการตกต่ำมาแล้ว2เที่ยว ทำรูปแบบราคาTriple Bottom แล้วฟื้นตัวขึ้น และกลับไปเขต1600+/-อีกที
สมมุติฐาน คือ
*คนในตลาดซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell เมื่อทราบข่าวที่ออกมาอย่างเป็นทางการ
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait & See และจับตามองหากSETทำฐานบริเวณ1200จุดได้ดี เป็นจุดเข้าช้อนซื้อ เน้น หุ้นบลูชิพ หุ้นขนาดใหญ่ ที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับSET ไปรอขายเมื่อฟื้นกลับไปเขต1600จุด+/-

8.2 Worst Case Scenณ์ario-ฉากจำลองในกรณีที่แย่กว่าคาดการณ์



*เมื่อปรากฎข่าวที่เป็นทางการออกมา ดัชนีSETร่วงลงจากแรงขายแบบPanic sell จนลงไปหลุดฐานสำคัญเขต1200จุด จากนั้นก็ไหลลงอย่างต่อเนื่องไปที่เขต1,000จุด และหลุด1,000จุดลงไปณ ระดับแย่ที่สุดบริเวณ800จุด+/-(800-865จุด) แล้วจึงหยุดร่วงลง แล้วเกิดการฟื้นตัวขึ้นมาเขต1200จุดในระยะต่อไป

สมมุติฐาน คือ

*เป็นเหตุการณ์ปุ๊บปั๊บฉับพลันที่คนในตลาดไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมาก่อนเลย คนในตลาดจึงซื้อขายด้วยHerd investing คือแห่ขายตามๆกันไปด้วยภาวะpanic sell
*คนในตลาดประเมินสถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านว่า ไม่มีความชัดเจน มีแต่ความคลุมเครือสับสน
*คนในตลาดไม่สามารถทำนายหรือพยากรณ์ได้ เต็มไปด้วยข่าวลือ ข่าวร้าย และภาวะไร้ระเบียบของรัฐและสังคม
*มีแนวโน้มที่ภาวะไร้ระเบียบจะบานปลายไปเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จลาจล หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน
กลยุทธ์การลงทุนสำคัญ-Wait&See แต่หากเห็นตลาดหลุดระดับ1200ลงไปเด็ดขาด ควรใช้กลยุทธ์Bear Market Strategyอย่างสมบูรณ์ คืออย่าซื้อ อย่าช้อน อิงทางขาย หรือหากำไรขาลงจากการShort Against Port หรือ Short Selling หรือเทรดFuture อนุพันธ์ด้วยการอิงขาลง เพราะมีความเสี่ยงลงไปตั้งแต่1,000ไปยันแย่สุดคือราว800จุด+/- และรอให้ตลาดทำจุดต่ำสุดผ่านพ้นไปแล้ว และเกิดสัญญาณการกลับตัวเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาซื้อหุ้น
.
8.3 Best Case Scenario-ฉากจำลอง คาดการณ์กรณีดีกว่าคาด 

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่งซึมตัวออกด้านข้างอยู่ระหว่าง1460+/- ไปแถวๆ1500+/- และเมื่อมีข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการ ก็จะไม่ตกลงไปลึกเกินกว่าเขต1400+/-(ซึ่งก็คือเท่ากับLowครั้งก่อนที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน2559)


*จากนั้นเมื่อข่าวจริงปรากฎออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ตลาดจะฟื้นขึ้นหลังจากนั้น และขึ้นไปทำนิวไฮกว่าที่เคยทำไว้เขต1558จุด อาจเป็นตั้งแต่1600-1650 หรือนิวไฮเกิน1650 ในระยะต่อไปจะขึ้นไปดีที่สุดได้ถึงเขต2100จุด
สมมุติฐาน คือ*ตลาดได้”ซ้อมตกใจ!”มาหลายครั้ง และเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จากข่าวลือข่าวลบต่างๆที่เกิดขึ้นมา จึงทำให้ตลาดเกิดการPanicลงมาล่วงหน้าแล้ว ราคาหุ้นได้ลงมาPrice in หรือ Discount ข่าวร้ายเอาไว้มากพอสมควรแล้ว

*สถานการณ์ในระยะเปลี่ยนผ่านนั้นมีความชัดเจน ปราศจากความคลุมเครือสับสน อยู่ภายใต้การจัดระเบียบที่มีแบบแผน

*ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่ทำนายหรือพยากรณ์ไม่ได้ หรือเกิดความไร้ระเบียบ หรือถอนรากถอนโคน

*ตลาดหมดแรงกดดันจากปัจจัยลบที่เป็นข่าวคลุมเครือมานาน ทำให้ปลดปล่อยพลังแล้วขึ้นเต็มที่




หมายเหตุ:ผมคัดเรื่องนี้มาจากส่วนหนึ่งของการบรรยายเรื่อง"ถ้าเกิดอะไรขึ้น! จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างไร? และจะเตรียมการรับมืออย่างไร?"เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนเอกสารฉบับสมบูรณ์ เพิ่มเติมเรื่องมุมมองของกองทุนฝรั่ง หุ้นที่ฝรั่งชอบ และหุ้นเด่นรายตัว5+1หุ้นเด่นชุดล่าสุด ได้อัพโหลดให้สมาชิกห้องปิด"คลุกหุ้นวงในByณัฐวุฒิ"อ่านกันแล้ว

ท่านที่สมัครสมาชิกคลุกหุ้นวงในช่วงนี้ได้สิทธิเข้าไปชมฉบับสมบูรณ์เลยครับ พร้อมกับได้สิทธิเข้าร่วมงานอบรมแบบExclusiveปิดห้องคุยกันกับผมอีกรอบในวันอาทิตย์ที่30ตุลาคม2559นี้

More Information Contact Line ID tontancorp โทร 0970986000
ข้อมูลเพื่อการติดต่อเพิ่มเติมใดๆติดต่อLine ID:tontancorp โทร 0970986000