วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Butterfly Effect ติดหล่มการเมือง สะเทือนเศรษฐกิจ ติดกับตลาดหมี



ณัฐวุฒิ Live 25พ.ค.60 - เป้าฟื้น1585ในสถานการณ์underdogของเศรษฐกิจไทย

สรุปย่อ

1.ภาพใหญ่ของตลาดช่วงนี้คือซึมไซด์เวย์ในกรอบล่าง 1520-1530 กับกรอบบน1585-1600จุด เหตุก็เพราะตั้งแต่ต้นปีมานี้เงินทุนต่างประเทศไม่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย เหมือนตลาดอื่นในเพื่อนบ้านอาเซียน(อย่างอินโดนีเซียที่ขึ้นไปทำAll time high หรือปินส์ที่ขึ้นมาเกือบไฮเก่า)

2.เหตุก็เนื่องจากว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดีเท่ากับเพื่อนบ้านอาเซียน เป็นมวยรองบ่อนเขา(Under dog)

-GDPของไทยโตเพียง3% เทียบกับประเทศอื่นโต5-6%
-เหตุเพราะการลงทุนภาคเอกชนหดตัวลง โตเพียง2% จากที่เคยโต9%
-ทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนลดลงทุกปีๆละ6%
-ปรากฎการณ์ล่าสุดคือไม่มีFund in flowเข้ามาแบบที่เคยเป็นมา ตั้งแต่ต้นปีนี้

ทั้งหมดนี้ที่ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไม่ดี มีผลสืบเนื่องมาจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองของระยะ10ปีที่ผ่านมา เราขัดแย้งแตกแยกกันรุนแรง เต็มไปด้วยจลาจลประท้วง ปิดฉากด้วยรัฐประหารยึดอำนาจ2หน และหนทางข้างหน้าก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีเสถียรภาพทางการเมือง

3.แต่ข้อดีก็พอมีคือ เดือนหน้าวันที่14คาดว่าFEDจะขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้ยอื่นที่มีfund in flowอย่างอินโดฯ ปินส์ตอนนี้เริ่มตก เพราะกังวลเงินทุนไหลออก ตลาดหุ้นไทยเราเลยไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีเงินทุนไหลออก(เนื่องจากว่ามันก็ไม่ได้ไหลเข้ามานั่นเอง)

4.หุ้นไทยก็เลยแกว่งซึมๆกันไป รอบนี้ก็ไปมีเป้าเด้งไป1585-1600 หากไม่ผ่านแถวนั้นก็ไปขายออก รอลงมา1530-1520ก็ซื้อใหม่ ก็ต้องรอไปจนกว่าปัจจัยพื้นฐานจะเปลี่ยนไปทางบวก ตลาดถึงจะขึ้นเป็นกับเขาครับ ระหว่างที่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนก็เทรดในกรอบนี้ไปพลางก่อน




วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เคล็ดไม่ลับของบัฟเฟตต์:กลัวตอนคนส่วนใหญ่บ้า,กล้าในตอนที่คนส่วนใหญ่กลัว



ณัฐวุฒิ Live 19พ.ค.60 - Contrarian investment strategies กับตลาดหุ้นกลยุทธ์ลงทุนสวนทางกับคนส่วนใหญ่ กล้าในตอนคนอื่นกลัว/กลัวในตอนคนอื่นกล้า

สรุปย่อ
1.ตลาดหุ้นหลังซึมมานาน5้เดือน กดดันจิตวิทยามวชนในตลาดให้สลดหดหู่สิ้นหวัง เพราะโดนเขย่าแรงๆก็มักตัดสินใจขายด้วยอารมณ์กลัว โดยละเลยเรื่องปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากตัดสินใจด้วยจิตวิทยาของฝูง(Herd Instinct) นี่เป็นที่มาของคำว่า"คนส่วนใหญ่ในตลาดไม่เคยถูก"

2.แต่นักลงทุนที่ชาญฉลาด และประสบความสำเร็จแบบวอร?เรน บัฟเฟตต์ หรือเจ้าของพอร์ตใหญ่พันล้านหมื่นล้านทั้งหลาย จะมีวิธีลงทุนที่สวนทางกับคนส่วนใหญ่ในตลาด(Contrarian Investment Strategies) คือในตอนตลาดลงมาหนัก และซึมโซเซหมดหวัง เขาจะดูว่าหุ้นตัวไหนราคาลงมาถูกกว่าราคาปัจจัยพื้นฐานมากๆ มีส่วนลดมากๆแล้วเก็บหุ้น จากนั้นก็เอาไปขายในตอนที่ตลาดกระทิงรอบใหม่สดใสซาบซ่าน คนส่วนใหญ่มาไล่ราคาซื้อบ้าเลือดด้วยความโลภ บรรดานักลงทุนที่ชาญฉลาดเหล่านี้ก็ได้ฤกษ์ยามขายทำกำไร

บัฟเฟตต์เลยมีประโยคทองอันหนึ่งของเขาว่า"จงกลัวในเวลาที่คนส่วนใหญ่ในตลาดโลภ,จงโลภในเวลาที่คนส่วนใหญ่ในตลาดกลัวจนสิ้นหวัง"