สรุปประเด็น 1. แนวโน้มตลาดหุ้น 2020 มีข่าวดีและข่าวร้ายมาบอก
สหรัฐตกลงการค้าเฟส1กับจีนได้อาจจะเดือนนี้หรือสิ้นปีนี้ จะเปลี่ยนเกมในตลาดหุ้น ผมคิดว่ากองทุนต่างชาติที่เป็นเจ้ามือตลาดหุ้นไทยอาจจะหันมาช้อนซื้อหุ้นที่เกี่ยวกับการค้าต่างประเทศ Global playซึ่งครอบคลุมหุ้นส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์+ยานยนต์ อาหาร การเกษตร ถ่านหิน ปิโตรเคมี ประกัน แบงก์(DELTA KCE HANA TU CPF KSL KBS BRR STA BANPU SCC PTTGC IRPC IVL BLA THRE TIP AYUD SCB KBANK BBL)
และอาจเป็นไปได้ที่จะมีการขายทำกำไรพวกDomestic playที่อาศัยการอุปโภคบริโภคในประเทศ ที่เคยเป็นDefensiveตอนกลัวเศรษฐกิจโลกถดถอย อย่างพวกกองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ โรงไฟฟ้า อุปโภคบริโภค หากราคาขึ้นไปOverValueมาก(ADVANC DTAC INTUCH CBG OSP CPALL BGRIM GPSC GULF EGCO RATCH DIF TFFIF)
เป็นไปได้ว่าสถานการณ์อาจดำเนินไปเป็นกระแสหลักตลอดปีหน้า2020ซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า สถิติจากปี1833มาถึง2016พบว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมักเกิดPre-Election Rally หรือขึ้นไปก่อนการเลือกตั้ง และมีPost -Election rally
ล่าสุดดัชนีดาวโจนส์ทำAll time highความเป็นไปได้ที่จะมีPre-election rallyอาจเกิดขึ้นได้(ทรัมพ์พูดว่าหากปราศจากสงครามการค้าดาวโจนส์ยังไปได้อีก10,000จุด) เนื่องจากค่าP/Eเวลานี้อยู่ราว17เท่่า เป็นค่าเฉลี่ยว่าตลาดอยู่ในระดับกลางๆ ชักเริ่มแพง แต่ยังไม่แพงมาก
ตลาดหุ้นไทยซึ่งมีกองทุนต่างประเทศdominateอยู่ เพราะซื้อขายสัดส่วน41% บวกกับกองทุนในประเทศอีก11% หากเทรดตามนี้ พวกที่จะพลิกมาดีคือหุ้นใหญ่ในกลุ่มแบงก์ พลังงานสาธารณูปโภค สื่อสาร ปิโตรเคมี หรือจับตาดูว่าเขาจะไปทางไหน
หลังPost-election rallyผ่านไป คงเป็นครึ่งหลังปี2021หากตลาดขึ้นมากเกินไป ค่าP/Eหุ้นอเมริกาขึ้นไปราว20เท่า ก็อาจจะเกิดฟองสบู่แตกครั้งใหญ่(อ้างอิงสถิติว่าภายหลังเกิดYield curveในUS bond yieldในเดือนตุลาคมปีนี้ นับไปอีก22เดือน ก็ราวๆสิงหาคม2021จะเกิดGlobal recession...ถ้าจะเกิดนะครับ) ค่อยไปใช้แผน2ในการปรับพอร์ตการลงทุน หาหุ้นแนวDefensive(หุ้นกองสาธารณูปโภค บริโภคในประเทศ หุ้นสัมปทาน)เพื่อเป็นแหล้งหลบภัย
2.สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องนี้ผมได้บรรยายไว้ในซีรีส์ชุดนี้ เชิญติดตามครับ
แต่ปล่อยให้ตัวเลขพูดอาจจะดีกว่าครับ เพราะมันไม่มีอคติแบบผม แบบคุณ
-JP MORGANรายงานว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตัวแทนคือดัชนีS&Pทะยานขึ้นมาทำสถิติAll Time Highในเวลานี้ หากพิจารณาก็จะพบว่า"เริ่มจะแพง"แล้ว เพราะค่าP/Eขึ้นมาที่ระดับ17.20เท่า สูงกว่าค่าP/Eเฉลี่ยในรอบ25ปีที16.24 เท่า แต่ก็ไม่ได้แพงมากเกินไป หากเทียบสถิติในอดีตว่าค่าP/Eเคยแพงถึง24เท่า
แล้วเท่าไหร่จึงจะเรียกว่าแพง? ก็ควรมีค่าP/Eเฉลี่ยเกิน19.42เท่าขึ้นไป นั่นก็แปลว่า หุ้นสหรัฐฯทั้งS&P และดาวโจนส์ ยังขึ้นต่อไปได้ ในเวลานี้ยังไม่ได้ถึงขั้นว่า"แพงบ้าเลือด" หรือ"ฟองสบู่เกินไป"
(นี่อาจเป็นเหตุให้โดนัลด์ ทรัมพ์ กล้าพูดว่า หากไม่มีเรื่องสงครามการค้า หรือสงครามการค้าจบ ดาวโจนส์ยังจะไปได้อีก10,000จุด ) แต่หากทะยานขึ้นไปสู่ระดับค่าP/E20เท่า หรือไปอีก10,000จุดแบบเจ้ามือหุ้นโลก โดนัลด์ ทรัมพ์ว่า ก็อย่าลืมขายทำกำไรหละครับ ไม่งั้นได้กลายเป็นชาวดอย จากฟองสบู่ตลาดหุ้น จะหาว่าไม่บอก
ดังนั้นเวลานี้เงินลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกจึงยังคงปักดหลักอยู่ที่ตลาดหุ้นสหรัฐ คือ55%ของเงินทั่วทั้งโลก
ส่วนตลาดหุ้นโลกมีค่าP/Eเพียง13.6เท่า
ข่าวดี ตลาดหุ้นไทยถูกกว่าตลาดหุ้นอเมริกา เรามีค่าP/E=16.5เท่า
ข่าวไม่ดี เรายังแพงกว่าตลาดหุ้นโลก ละตลาดเอเชีย ที่มีค่าP/Eราว14.4เท่า
ที่โดนัลด์ ทรัมพ์เคยพูดไว้ว่า หากไม่มีสงครามการค้า ตลาดยังไปได้อีก10000จุด ชักจะใกล้ความเป็นจริงเข้ามา เพราะ
1.ดาวโจนส์เพิ่งผ่านแนวต้านtriple topเขต27500ขึ้นมาเมื่อคืนนี้ เพื่อจะไปต่ออีก10,000จุด หรือใกล้เคียง ผมวัดเป้าทางเทคนิคได้ราวๆ33,000จุด ก็คือมีโอกาสขึ้นไปอีกราว5,000จุดครับ
2.สหรัฐกำลังข้อตกลงเฟส1กับจีนในเดือนนี้ ยุติสงครามการค้า 3.ทรัมพ์จะลงสมัครปธน.ป้องกันตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า ตามสถิติแล้วตลาดหุ้นสหรัฐมักวิ่งขึ้นก่อนการเลือกตั้งราว1ปี หรือPre-Election rally 4.อ้าวไหนใครๆก็ว่าจะเกิดวิกฤตRecessionในปีหน้าไง?..รอหน่อยครับ ปีโน้น2021ค่อยว่ากันก็ได้ครับ ... คราวนี้มาดูหุ้นไทยกันครับ เมื่อสงบศึกสงครามการค้าสะท้านโลกเดือนนี้ ระวังเจ้ามือเปลี่ยนเกม กลุ่มที่เคยรุ่งมีสิทธิ์ร่วง กลุ่มเคยร่วงลุ้นกลับมารุ่ง /สงครามการค้ายุติ หุ้นกลุ่มส่งออกรอดตาย ...
คลิกชม ณัฐวุฒิ Live :สงบศึกสงครามการค้าสะท้านโลกเดือนนี้ ระวังเจ้ามือเปลี่ยนเกม กลุ่มที่เคยรุ่งมีสิทธิ์ร่วง กลุ่มเคยร่วงลุ้นกลับมารุ่ง
จับตามองครับ หากเจ้ามือเปลี่ยนเกม พวกเราจะได้พลิกตัวทัน
กลุ่มที่เคยได้ประโยชน์จะกลับมาเสียหรือไม่?-หุ้นDomestic Playที่เจ้ามือแห่ซื้อในฐานะเป็นแหล่งหลุมหลบภัยอย่างโทรมือถือ ADVANC DTAC อุปโภคบริโภค CBG OSP AOT CPALL กองทุนอินฟราสตรัคเจอร์ TFFIF BTSGIF JASIF โรงไฟฟ้าที่ทำสัญญากับรัฐบาลรายได้มั่นคงเติบโต GPSC GULF BGRIM RATCH ETGCO จะถูกขายทำกำไรไหม เมื่อสตอรี่กำลังเปลี่ยน
กลุ่มที่เคยรับผลกระทบเต็มๆจะกลับมาฟื้นไข้หรือไม่-หุ้นGlobal Playที่เจ้ามือกองทุนฝรั่งเททิ้งรูดลึก อย่างกลุ่ม
-ส่งออกอาหาร การเกษตร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ถ่านหิน BANPU LANNA TU STA KSL KBS KTIS KCE HANA DELTA SVI CCET
-ขนส่งสินค้าทางทะเล PSL RCL TTA
-ปิโตรเคมีและโรงกลั่น SCC IVL PTTGC IRPC ESSO SPRC TOP
-การเงิน แบงก์ ประกันภัยที่ขาดทุนจากยีลด์พันธบัตรลดฮวบ อย่างBLA AYUD THRE THREL BBL SCB KBANK KTB BAY
เหล่านี้กำลังจะกลับมาถูกเจ้ามือกองทุนต่างชาติช้อนซื้อคืนหรือไม่ เมื่อสตดอรี่กำลังจะพลิกมาเป็นประโยชน์
ลองจับตามองครับ หากเจ้ามือเปลี่ยนเกมพวกเราจะได้ปรับตัวให้ทัน
โปรดคลิกชมสิ่งนี้
...
หนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยปี2563- By ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์
นี่เป็นหนังสือคู่มือที่ท่านควรมีไว้คู่พอร์ตการลงทุน
บอกรับโผ8หุ้นเด่นจากหนังสือคู่มือตลาดหุ้นไทยปีหน้า2563 กับเจ้าหน้าที่ของเรา ตามLine contactครับ https://line.me/R/ti/p/%40pmb1956y บอกรับหนังสือคู่มือเล่มนี้ ให้แจ้งมาทาง Line@ : https://line.me/R/ti/p/%40pmb1956y พร้อมส่งครับ ...หนังสือคู่มือตลาดหุ้นเล่มก่อมหน้านี้แม่นไหม ? ดูตัวอย่าง EGCO แนะนำซื้อไว้ตอน 150 บาท แนะนำขาย 375 บาท ล่าสุดแนะนำซื้อ RATCH ไว้ 60 ขึ้นมาที่ 83 บาทแล้ว คลิกชมผลงานครับ VIDEO